ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #28 : รังลับในโอดิน (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 942
      1
      14 ก.ค. 50

    ลูทวิ่งตามทิศที่หินสีแดงในลูกแก้วชี้นำมาเรื่อยๆ ระหว่างทางที่วิ่งมาเขาเองยังคงงุนงงกับกระบี่เมื่อครู่ที่ใช้ออกอยางพิสดาร

    เขาพยายามนึกความรู้สึกในตอนที่เขาใช้กระบี่ตัดคมกระบี่ฝั่งตรงข้าม เท่าที่เขาจำความรู้สึกได้ เขารู้สึกเหมือนว่าเอลกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่พยายามเท่าไรเขาก็ไม่สามารถใช้มันออกได้อีกครั้ง แสงของเอลบริสุทธิ์ในกายเขาแผ่ออกมาแค่ที่มือซ้าย มิได้แผ่รวมไปถึงกระบี่เหมือนครั้งก่อน มือของเขาเปล่งแสงก็จริง แต่ตัวกระบี่กลับเป็นกระบี่เหล็กธรรมดา มิได้แปรเปลี่ยนเป็นยอดศาสตราวุธ

    ลูททดลองดูอีกสองสามคราก็ไม่สำเร็จ เขาจึงสลัดความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้ทิ้งไปก่อน รีบมุ่งหน้าตามรอยโรสที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ

    ตำแหน่งที่เขาอยู่ไม่ไกลจากโรสเท่าใดนักถ้าเทียบกับตำแหน่งของบลู ลูทจึงมาถึงที่ตึกที่ว่าการเมืองได้ก่อนบลูพักหนึ่ง

    ตึกที่ว่าการเมืองโอดินมียามเพียงสองคนเฝ้าอยู่หน้าประตูเท่านั้น ความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยต่างกับหอประชุมที่เตรียมจัดงานแสดงของยอดหญิงยูกิอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าลูทจะไม่มีความสามารถในการเร้นกายอันสูงส่งดั่งเช่นโรส แต่ยามเพียงสองคนไม่อาจไม่ส่งผลคุกคามต่อลูทแต่อย่างใด เขาสามารถหลบเข้าไปในตัวตึกได้ภายในเวลาชั่วลัดนิ้วมือ

    ลูทค่อยๆเดินไปตามทางในสวน อัญมณีสีแดงในลูกแก้วสามสหายชี้ไปทางสวนด้านหลังตึก ตรงจุดนั้นเป็นโกดังเก็บของขนาดใหญ่หลังอาคารหลักอีกทีหนึ่ง โกดังแห่งนี้น่าสงสัยยิ่งนัก

    พอลูทเข้าใกล้โกดังเก็บของเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ด้านข้างและเกิดความรู้สึกจากสัญชาติญาณนายพรานขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

    ผู้คน! มือขวาของเขาเลื่อนไปแตะกระบี่เตรียมพร้อมที่จะชักออกทุกเมื่อหากมีสัญญาณอันตราย

    เงาคนกระโดดวูบหนึ่งลงมาจากบนหลังคาโกดังให้เสียงเบาๆว่า ลูท

    ท่าร่างของลูทต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ที่แท้คนที่กระโดดลงมากลับเป็นหญิงสาวผมทองโรซาไลน์ผู้สอดแนมมาได้ถึงจุดนี้

    พอลูทจะถามอะไรโรสโบกมือทำเครื่องหมายว่าอย่าพึ่งกล่าว จากนั้นโรสก็โบกมือนำทางลูทไปยังมุมที่ปลอดภัย นี่เป็นข้อดีของโรส ไม่ว่ากระทำการอะไรก็ต้องรอบคอบอยู่เสมอ

    เมื่อมาถึงจุดปลอดภัยโรสจึงกล่าวว่า ตรงนี้ปลอดภัยแล้ว ... ในโกดังมีคนของพวกมันอยู่สองคน

    ลูทถามว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นถึงได้ส่งสัญญาณมา

    โรสมองดูที่แขนขวาของลูทเห็นรอยโลหิตที่พึ่งจะแข็งตัว พอดูดีๆก็พบว่าเป็นแผลกระบี่ยาวเหยียดจึงกล่าวว่า เจ้าบาดเจ็บหรือ มีคนลอบจู่โจมเจ้าใช่หรือไม่

    ลูทถามว่า ใช่ เจ้ารู้ได้อย่างไร หรือว่ามีคนลอบจู่โจมเจ้าเช่นกัน

    โรสตอบว่า ใช่ มีคนสะกดรอยตามข้าเหมือนกัน แต่พอข้าซ่อนตัวในเงามืดร่องรอยก็ไม่ปรากฏให้มันพบเห็น คนชุดดำนั่นคว้าน้ำเหลว ข้าเลยใช้แผนซ้อนแผนสะกดรอยตามมันมาถึงที่แห่งนี้

    ลูทถามอย่างสงสัยว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วเจ้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาเพื่ออะไร หรือว่าที่นี่มีสิ่งใดน่าสนใจ

    โรสตอบว่า พอข้าเดินทางมาถึงที่นี่ก็พบเห็นคนชุดดำนั่นเดินเข้าไปยังโกดัง ข้าเลยปีนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อส่องดู ข้าเห็นคนอยู่ในนั้นสองคนจึงรั้งอยู่บนหลังคาพักหนึ่งเพื่อดักฟัง ได้ยินมันสองคนกล่าวถึงแผนการช่วงชิงเมืองโอดิน

    ลูทถามด้วยความสงสัยว่า ในเมื่อพวกมันยึดเอาที่ว่าการเมืองเป็นสถานที่ของมันได้ ทำไมต้องวางแผนการด้วยเล่า เช่นนี้ก็เปรียบเสมือนว่าผู้ว่าการเมืองโอดินเข้าร่วมกับฝ่ายเวอร์น่อน เมืองโอดินก็เปรียบเสมือนส้มในลังของพวกมัน

    โรสส่ายหน้ากล่าวว่า มันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เจ้าก็รู้อยู่ว่าเมืองโอดินเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเซนต์เอลลิส พวกครูบาอาจารย์ที่นั่นต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้เอล จำนวนคนก็มีมิใช่น้อย อิทธิพลก็มีอยู่มากโข ถ้าหากบรรดาครูอาจารย์รวมกับนักเรียนที่สามารถต่อสู้ได้ และกองปราบท้องถิ่นเข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ ต่อให้อัศวินดำนำทหารมาหนึ่งกองพันก็ยังยึดเมืองได้ลำบาก

    ลูทพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจจากนั้นถามว่า แล้วพวกมันมีแผนการอย่างไร เจ้าพอจะได้ยินพวกมันกล่าวถึงรายละเอียดบ้างหรือไม่

    โรสกล่าวว่า ก็ข้ากำลังจะเล่าให้เจ้าฟังเจ้ากลับขัดเสียก่อน

    ลูทได้ยินโรสต่อว่าจึงสงบปากสงบคำ ให้โรสเล่ารายละเอียดต่อไป

    โรสหันหน้าไปพลางชี้มือไปยังด้านหลังกล่าวว่า เจ้าเห็นโกดังนั่นใช่ไหม ด้านหลังของโกดังมีอุโมงค์ใต้ดินทอดลงไป คนชุดดำที่รับหน้าที่ลอบทำร้ายข้านั้นทำหน้าที่ควบคุมปากทางเข้าอยู่ ข้าได้ยินมันบอกกับเจ้านายของมันว่าข้าสามารถหลบการติดตามได้ ... ถ้าให้ข้าเดาเจ้านายของมันก็ต้องเป็นหนึ่งในอัศวินดำ จากที่กุนซือราเมสบรรยายเอาไว้ ข้าคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นอัศวินดำหมายเลขหก ฉายากระบี่ดำทานากะเพราะข้าเห็นกระบี่สีดำคาดอยู่กลางหลังของมัน

    ลูทขมวดคิ้วกล่าวว่า อัศวินดำอีกแล้วหรือ

    โรสตอบว่า ใช่ หลังจากนั้นอัศวินดำคนนั้นก็ทำท่าไม่พอใจที่คนชุดดำลงมือประสบกับความล้มเหลว จึงสั่งการให้ชายชุดดำคนนั้นเฝ้าปากทางลงอุโมงค์นี้เอาไว้ อย่าให้มีคนเข้าไปทำลายอาวุธจู่โจมเมืองโอดินเด็ดขาด พอข้าฟังถึงตรงนี้ก็ไม่กล้าดักฟังอีกต่อไป เกรงว่าจะเปิดเผยร่องรอยเลยซ่อนตัวไว้ที่มุมมืดบนหลังคาแล้วก็เปิดสัญญาณติดต่อเรียกพวกเจ้ามา

    ลูทกล่าวว่า ทำลายอาวุธพวกนั้นสินะ

    โรสพยักหน้าคราหนึ่งตอบว่า ถูกต้อง อุโมงค์นั่นจะต้องซ่อนอาวุธร้ายแรงเอาไว้อย่างแน่นอน มันอาจจะเป็นอาวุธอัคคีหรือวัตถุระเบิดที่ใช้คร่าชีวิตผู้คนก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงพวกเราต้องชิงทำลายอาวุธเหล่านั้นทิ้งไปเสียก่อน ข้าเองจึงเรียกพวกเจ้ามาช่วยกันคิดอ่าน...

    ขณะที่โรสยังกล่าวไม่จบ ลูทพลันยกมือเป็นเครื่องหมายเชิงว่าอย่าได้กล่าวต่อ เขากระซิบเบาๆตัดบทขึ้นว่า ระวัง มีคนมา

     

    สัญชาติญาณของลูทเชื่อถือได้เสมอ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไม่ผิดพลาด

    อีกครู่หนึ่งผ่านไปร่างของผู้ชายสองคนเดินมาถึงตำแหน่งใกล้เคียงที่ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ มือของลูทเลื่อนไปแตะด้ามกระบี่อีกคราจากนั้นก็ปล่อยออกเมื่อเงาทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ขึ้น

    ลูทส่งเสียงเรียกออกไปเบาๆว่า บลู

    ผู้มามิใช่ใครอื่นแต่เป็นบลูและมือปราบไกอันเลื่องชื่อ เมื่อบลูพบเห็นลูทและโรสล้วนปลอดภัยจึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

    บลูเป็นคนกลางแนะนำโรส ลูทและมือปราบไกให้รู้จักกัน เขายังบอกต่อมือปราบไกว่าคนทั้งสองนี้ล้วนเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ดาธ พอบลูถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ โรสกับลูทจึงผลัดกันเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้กับบลูและไกได้รับฟัง

    มือปราบไกได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวว่า พวกเราต้องทำลายอาวุธพวกนี้โดยด่วน แต่ถ้าหากมันไม่ใช่อาวุธอัคคีหรือวัตถุระเบิดแต่กลับเป็นพิษที่แพร่ไปได้ในอากาศ หรือยาสลบที่แพร่กระจายออกเป็นวงกว้างพวกเราจะจบสิ้นในทันที

    ทั้งลูทและโรสสีหน้าแปรเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำวินิจฉัยของไก ถ้าหากเป็นพิษจริงผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะทำความเสียหายร้ายแรงมากกว่าอาวุธอัคคีที่พวกเขาทั้งสองประเมินเอาไว้ก่อนหน้านี้

    ลูทกล่าวว่า บลู เจ้าโดนลอบทำร้ายหรือไม่

    บลูพยักหน้ากล่าวตอบลูทว่า ใช่ข้าก็ถูกลอบทำร้าย เช่นเดียวกับเจ้าและโรส

    เขาเล่าเรื่องที่ตนเองต่อสู้กับคนชุดดำและโดมจนมือปราบไกมาช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันท่วงทีให้ทั้งลูทและโรสฟังจนหมดสิ้น

    โรสกล่าวขอบคุณไกครั้งหนึ่งที่ช่วยเหลือบลูไว้จากนั้นจึงกล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนี้การาดอสอาจจะตกอยู่ในอันตรายจากแม่ทัพมอริแกน

    บลูที่ผ่านการขบคิดถึงเรื่องนี้มาหลายรอบกลับส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า แต่เดิมนั้นข้างก็คิดว่าแม่ทัพมอริแกนอาจเป็นไส้ศึกได้ แต่พอมาคิดดูอีกทีแล้วแม่ทัพมอริแกนคงไม่มีปัญหา แผนที่ที่แม่ทัพมอริแกนส่งมาเป็นแผนที่ของบ้านพักไกไม่แปลกปลอม ถ้าแม่ทัพมอริแกนมีปัญหาจริงเธอคงส่งพวกเราเข้าปากเสือไปเสียแล้ว ข้าไม่สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีไส้ศึกคนอื่นอีกนอกจากโดมเพียงแต่การสนทนาในครั้งนั้นมีแค่พวกเรา การาดอส แม่ทัพมอริแกนแล้วก็กุนซือราเมส

    ไกกล่าวว่า ราเมสย่อมไม่มีปัญหา เจ้ารู้หรือไม่ว่าครั้งก่อนที่เกิดสงครามเจนีสคนในครอบครัวของราเมสต่างล้มตายไปจนเกือบหมดสิ้น

    ลูทถามว่า แล้วพี่ไกรู้ได้อย่างไรกัน

    ไกตอบว่า เกือบสิบปีก่อนเขาเป็นมือปราบรุ่นพี่ข้าอีกทีหนึ่งเป็นมือปราบชั้นหนึ่งมาก่อนข้าอีก ก่อนที่จะแยกตัวออกไปตามทางเดินชีวิตของเขา ข้าคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาเป็นกุนซือให้กับหน่วยงานใต้ดินอย่างกองกำลังปลดปล่อยเจนีส แต่นั่นก็เหมาะสมอยู่ ทั้งบิดาและมารดาของเขาต่างสังเวยชีวิตในศึกครั้งนั้น

    ทั้งสามคนประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่รู้ว่ากุนซือราเมสเคยเป็นมือปราบชั้นหนึ่งมาก่อน เช่นนี้ฝีมือของเขาสมควรจะอยู่ในระดับเดียวกับไก ไม่มากน้อยกว่ากันเท่าใด

    บลูกล่าวสรุปว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น โดมคงจะคำนวณเหตุการณ์ล่วงหน้า จากนั้นติดต่อกับอัศวินดำให้ส่งนักฆ่ามากำจัดพวกเราเป็นรายคน ส่วนตัวมันเองมาดักรอที่เมืองโอดิน อาศัยจังหวะที่พี่ไกยังไม่กลับถึงบ้าน เข้าไปทำทีเป็นมือปราบไก วางแผนทำร้ายข้าอีกต่อหนึ่ง

    ลูทกล่าวว่า จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ถ้าพวกเราจับตัวคนชุดดำที่เหลืออีกคนมาถามก็มิใช่หมดปัญหาหรอกหรือ

    ไกกล่าวว่า เป็นความคิดที่ดี ถ้าหากจะบุกเขาไปยังโกดังเพื่อกระทำเช่นนั้น ต้องกระทำด้วยความรอบคอบและกำหนดแผนเป็นมั่นเหมาะ

    บลูถามว่า พี่ไกมีแผนอันใดในจิตใจหรือไม่

    ไกพยักหน้าด้วยความมั่นใจครั้งหนึ่ง กล่าวบอกแผนการกับรุ่นน้องทั้งสามเตรียมพร้อมที่จะบุกเข้าไปในโกดัง กวาดล้างไม่ให้มันรู้ตัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×