คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #282 : สุริยันตัดจันทรา องก์ที่ 1 - บทนำ
เมื่อบทพิสูจน์ของ ‘ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน’ ไม่เป็นความจริง
คำกล่าวที่ว่า ‘หากผู้ใดครองสองศาสตราผู้นั้นจะมีอำนาจครองแผ่นดิน’ จึงไม่มีผู้ใดเชื่อถืออีก
ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นกระแสข่าวโคมลอยที่มีคนตั้งใจปั้นน้ำเป็นตัวหวังจะให้แผ่นดินแตกแยก
คำกล่าวประโยคนี้จึงมีคุณค่าเพียงเป็นเกร็ดหนึ่งในตำนานของบุรพกษัตริย์เท่านั้น
จนกระทั่งชนวนที่จะพิสูจน์คำกล่าวนั้นได้เผยขึ้น
18 เมษายน อ.ศ. 198
เสาไม้ง่อนแง่นที่ตั้งอยู่กลางทะเลแทบจะรองรับน้ำหนักบ้านพักเอาไว้ไม่อยู่
ดินแดนที่พิศวงและน่าอัศจรรย์ที่สุดของอาณาจักรเอนเซล (Enxel) คงจะหนีไม่พ้นแคว้นอิซซ์ (Izz) ประวัติอันยาวนานและความเก่าแก่โบราณบางครั้งอาจถูกมองว่าเป็นสิ่งคร่ำครึ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเจริญที่เหนือกว่าชาติใดของเอนเซลทะลักเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้ แต่ทว่าน้ำทะเลของแคว้นอิซซ์จะอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยนแปร น้ำสีครามที่มีรสทั้งแปร่งทั้งเค็มอยู่คู่กับแผ่นดินแห่งนี้ตั้งแต่ที่ยังไม่มีมนุษย์สักคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าความเจริญจะซัดสาดเข้ามาเพียงใดทะเลแห่งนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม ต่างจากบ้านพักริมทะเลหลังนั้น ที่ทรุดโทรมลงกว่าเมื่อห้าสิบปีก่อนมากนัก
“ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน” วาจาอันหนักแน่นมั่นคงเป็นของหญิงชราที่ผ่านฤดูหนาวมากว่าเก้าสิบครั้ง ผมสีเงินปกคลุมศีรษะของนางชนิดที่มิอาจทราบได้ว่าสีผมเดิมเคยเป็นสีอะไร มือเหี่ยวย่นสองข้างถูกวางซ้อนกันอยู่บนหน้าตักในท่าขัดสมาธิเหยียดหลังตรง เปลือกตาที่เต็มไปด้วยริ้วรอยค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นดวงตาสุกใสสีน้ำตาลเข้มมันระยับภายใน ดวงตาคู่ที่เอ่อไปด้วยพลังอันเปี่ยมล้นของวัยเยาว์ แตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกราวฟ้ากับดิน
“ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน?” ประโยคเดิมถูกกล่าวขึ้นอีกครั้ง แต่มาจากปากของหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีที่นั่งบนส้นเท้าเฝ้าอยู่เคียงข้างหญิงชรา หางเสียงของประโยคเมื่อครู่ถูกยกขึ้นสูงเล็กน้อย ผู้ฟังสามารถรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสงสัย
เบื้องหน้าสตรีทั้งสองเป็นสระน้ำจืดแห่งหนึ่ง สระน้ำทรงกลมลึกครึ่งวาที่ถูกสร้างด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าอ่อน ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าในบ้านพักซอมซ่อที่แทบจะเรียกได้ว่านำไม้ผุมาตอกเป็นฝา จะมีสระน้ำที่ทั้งใหม่ทั้งงดงามอยู่กลางบ้าน ในขณะที่เครื่องเรือนชิ้นอื่นไม่ว่าจะเป็นโต๊ะตั่งเตียงหรือแม้กระทั่งเก้าอี้สักตัวหนึ่งก็ยังไม่มี
กล่าวกันว่าสระน้ำแห่งนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่ง เนื่องเพราะตลอดห้าสิบปีที่ผ่านมานี้ น้ำใสในสระไม่เคยกระเพื่อมแม้แต่ครั้งเดียว
จนกระทั่งในวันนี้ ... น้ำใสกระจ่างกระเพื่อมเป็นระลอกแรก
แสงสว่างสีฟ้าสดใสเรืองระเรื่อออกมาจากผิวน้ำ ตามด้วยเสียงอุทานดังอาของหญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนหน้าตาหมดจดงดงาม พร้อมกับความคิดที่ว่า ‘หรือคำทำนายนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนานศาสตราคู่กู้แผ่นดิน … จะเป็นไปได้อย่างไร? ประโยค ‘หากผู้ใดครองสองศาสตราผู้นั้นจะมีอำนาจครองแผ่นดิน’ ที่ตกทอดกันมาเกือบสองร้อยปี จะสร้างความปั่นป่วนให้กับแผ่นดินอีกครั้งหนึ่งอย่างนั้นหรือ?’
หญิงสาวกลั้นใจรอพิธีกรรมเบื้องหน้าสิ้นสุด พิธีกรรมที่อาจารย์ของนางใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตในการเตรียมพร้อม การทำนายครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องหลอมรวมร่างกายและจิตวิญญาณเข้าด้วยกันจนกลายเป็นหนึ่ง ผนึกฌานอันแก่กล้าไขกุญแจเข้าสู่ความลับของสวรรค์ อันเป็นจุดสูงสุดที่นักทำนายทั้งปวงใฝ่ฝันต้องการจะหยั่งรู้ และในบัดนี้ ‘เทพพยากรณ์มิราอิ’ (Oracle, Mirai) กำลังยืนอยู่ที่ปลายสุดของเส้นทางสายนั้น ฝ่ามือทั้งสองถูกยกขึ้นมาตั้งฉากกับสระ ขั้นตอนสุดท้ายของพิธีที่มีความยาวห้าสิบปีกำลังจะเริ่มขึ้น
คลื่นที่ไม่มีใครคาดคิดกำลังปั่นป่วนน้ำในสระจนกลายเป็นวังน้ำวนขนาดย่อม ละอองน้ำบ้าคลั่งซัดสาดขึ้นสู่อากาศอย่างที่ทะเลด้านล่างต้องอับอาย แต่ด้วยความพิศวงอย่างยิ่งยวด ไม่มีน้ำแม้สักหยดหนึ่งกระเซ็นออกจากพื้นที่วงกลมของสระกระเบื้อง ผมเผ้าสีขาวโพลนของหญิงชราค่อยๆปลิวลอยขึ้นทั้งที่ไม่มีลมพัดผ่าน ดวงตาที่เปี่ยมด้วยพลังจับจ้องสายน้ำกลางเวหา เสมือนกำลังไขว่คว้าหา ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ภายใน
หญิงสาวที่พึ่งจะเริ่มเดินทางสายนี้นั่งอ้าปากตาค้างอยู่ด้านข้าง ไม่เคยนึกฝันว่าจะได้เห็นพิธีกรรม ‘ไขความลับฟ้า’ ที่หลายร้อยปีจะมีสักครั้งด้วยสองตาของตน
อีกครู่หนึ่งต่อมา ความปั่นป่วนของน้ำในสระได้ถูกแทนที่ด้วยความสงบ ราวกับว่าเป็นกระจกใสที่เผยให้เห็นก้นสระกระจ่างสายตา เสียงผ่อนลมหายใจของหญิงชราเชื่องช้าและยาวนาน มือทั้งสองที่เคยยกนิ่งอยู่กลางอากาศสั่นสะท้านไม่หยุดยั้ง พิธีกรรมที่นางทุ่มเททั้งชีวิตเตรียมพร้อมสิ้นสุดลงด้วยผลสำเร็จ ความลับของสวรรค์ที่ถูกเก็บซ่อนเร้นถูกเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนอย่างใหญ่หลวง
นั่นก็คือชีวิตของนาง
“ราเชล” เสียงของแม่เฒ่าแหบพร่าไร้ชีวิตชีวา นางพยายามจะถ่ายทอดสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ให้กับศิษย์สตรีเพียงคนเดียวได้รับฟัง
นักทำนายสาวทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคืออะไร ตลอดจนเหตุผลว่าเพราะเหตุใดอาจารย์ของตนจึงกระทำเช่นนั้น นางรุดเข้าประคองร่างของอาจารย์ชราเอาไว้อย่างใกล้ชิด แนบใบหูไปใกล้ปากของท่านอย่างใกล้ที่สุด ตอบว่า “ศิษย์อยู่นี่แล้วท่านอาจารย์”
ดวงตาของเทพพยากรณ์กะพริบครั้งหนึ่งแทนการชมเชยในการกระทำของศิษย์รัก ก่อนที่จะดึงเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่าง ฝืนใจกล่าววาจาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความกังวลว่า “หายนะ ... หายนะกำลังจะมาเยือนเมื่อครบกำหนดสองร้อยปี ... มีเพียง ... มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะกอบกู้วิกฤตในครั้งนี้ได้ ... ศาสตราคู่ ... ศาสตราคู่กู้แผ่นดินจะต้องคืนกลับอีกครั้ง”
หญิงสาวผมน้ำตาลอ่อนตอบว่า “ศิษย์รับทราบ ... ท่านอาจารย์ต้องการให้ศิษย์ทำอย่างไร?”
ราเชล อาเชเวลล์ (Rachel Ashevelle) ทราบได้ว่าอาการของอาจารย์ย่ำแย่ลงไปกว่าเมื่อครู่นี้มาก ในวินาทีนี้ช่องว่างระหว่างความเป็นและความตายได้เลือนหาย สตรีชราสามารถลาจากโลกใบนี้ไปได้ทุกขณะ แต่ด้วยจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของผู้ที่ได้ชื่อว่าสามารถไขความลับสวรรค์สำเร็จ ซุ่มเสียงอันแหบพร่ายังคงดังต่อเนื่องว่า “... บุรุษ ... มีเพียงบุรุษสองคนเท่านั้นที่จะยับยั้งหายนะได้ ... สัญลักษณ์ของทั้งสองก็คือ ... สุริยันกับจันทรา”
“สุริยันกับจันทรา?”
เสียงของหญิงชราสิ้นสุดลงกับคำพูดประโยคเมื่อครู่ การกะพริบตาครั้งสุดท้ายนี้เป็นกิริยาแสดงความขอบคุณทั้งหมดเท่าที่นางสามารถกระทำได้ ทันใดที่ฝากฝังเรื่องราวทุกสิ่งให้กับศิษย์ที่รักไม่ต่างจากบุตรในอุทรเสร็จสิ้น เปลือกตาเหี่ยวย่นพลันปิดลง เทพพยากรณ์จากไปอย่างสงบหลังจากบรรลุความฝันสูงสุด กระทำสิ่งที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดกระทำมาก่อนได้สำเร็จในรอบหลายร้อยปี
“ท่านอาจารย์!” เสียงร้องหลงของหญิงสาวดังขึ้น อาจารย์ที่นางรักลาจากโลกนี้ไปเสียแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงปริศนาของบุรุษทั้งสองและสัญลักษณ์สุริยันกับจันทราเท่านั้น
ตำนานของเทพพยากรณ์ผู้รอบรู้ทั่วแผ่นฟ้าห้าอาณาจักรได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ ในขณะที่ตำนานอีกบทหนึ่งกำลังจะเริ่มขึ้น
สิบเอ็ดเดือนถัดมา …
ความคิดเห็น