ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

ลำดับตอนที่ #39 : สัตว์มายา (3)

กระบี่ของลูทไม่สามารถสะกิดผิวที่เศียรแพะของคิเมร่าได้เลย ผิวหนังของมันแข็งราวกับหินผา เขาแทงกระบี่โดนเศียรแพะเข้าอย่างจังถึงสามสี่หนแต่กลับไม่มีรอยแม้แต่น้อย ดูท่าลูทจะต้องหาวิธีอื่นในการทำร้ายเศียรแพะอันแข็งแกร่งนี้

ลูทเลียนเยี่ยงไกเปลี่ยนมาเป็นจับกระบี่ด้วยสองมือ ถึงจะเป็นกระบี่ที่ออกแบบมาให้ใช้มือเดียวจับแต่ถ้าใช้สองมือช่วยกันคงจะสามารถออกแรงได้มากขึ้น ลูทไม่ถนัดในการใช้สองมือจับกระบี่สักเท่าใดก็ต้องขอลองทดสอบดูสักครั้ง เขาวิ่งออกไปเบื้องหน้ากระโดดฟันกระบี่ด้วยสองมือเข้าใส่เศียรแพะอีกเที่ยวหนึ่ง

เสียงหวืดหวือของเอลดาบสุญญากาศที่ลอยออกจากมือของบลูดังขึ้นเป็นระยะ เศียรอสรพิษมีจุดเด่นที่ความคล่องแคล่วว่องไว ไม่แข็งแกร่งเหมือนเศียรแพะจึงไม่กล้ารับดาบสุญญากาศโดยตรงดั่งเช่นเศียรแพะที่ใช้เขารับกระบี่ เนื่องด้วยมันถือกำเนิดมาจากส่วนหางเศียรอสรพิษมีความรวดเร็วที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด คอของเศียรอสรพิษยาวกว่าหัวอื่นถึงสามเท่า มันโยกหัวซ้ายขวาหลบดาบสุญญากาศและคมหอกด้วยความว่องไว การจู่โจมของบลูจึงไม่เข้าเป้าแม้แต่น้อย

                บลูใช้หอกสั้นควบคู่กับเอลดาบสุญญากาศในการต่อสู้ ที่ใช้หอกสั้นก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอันใดเพียงแต่ปุ่มกดให้หอกยืดออกใช้การไม่ได้เสียแล้ว เขาจึงจำใจต้องใช้หอกสั้นแทนที่จะใช้หอกยาว อีกทั้งยังหัวเสียกับความเร็วที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันของเศียรอสรพิษอยู่ไม่น้อย รวมด้วยกันสองเรื่องจึงตกอยู่ในสภาพหงุดหงิดจู่โจมพลาดผิด

สภาพของไกก็มิได้ดีกว่าทั้งสองไปเท่าใดนัก ในบรรดาศีรษะทั้งสามเศียรราชสีห์เป็นเศียรที่เก่งกาจที่สุด มันส่งเสียงคำรามดังสนั่นใช้กงเล็บข้างหนึ่งตะกุยเข้าใส่ไก พละกำลังของมนุษย์แม้จะมากมายเพียงใดก็มิอาจต้านแรงของสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้ หากจะใช้กระบี่เกล็ดน้ำค้างตั้งรับโดยตรงก็กระไรอยู่ ไกจึงต้องคอยหลบหลีกอุ้งเท้าของมันให้ดีเพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

ยังไม่ทันสิ้นความคิดสักเท่าใดก็มีเสียงโครมดังขึ้นครั้งหนึ่ง กระบี่เกล็ดน้ำค้างถูกอุ้งเท้าราชสีห์กระแทกเข้าใส่ ร่างของไกถึงกับซวนเซก้าวถอยหลังไปสองก้าว คำนึงขึ้นในใจว่า ‘พลังของมันมากเสียเหลือเกิน’

โรซาไลน์เป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้ลงมือต่อสู้กับคิเมร่า เธอยืนอยู่ที่วงนอกคอยจับตาดูสถานการณ์ แต่ภายในระยะเวลาอันสั้นเธอก็ยังไม่สามารถหาจุดอ่อนของมันได้ ถ้าปล่อยเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พวกเธอทั้งสี่จะต้องเป็นอาหารหวานมื้อดึกของมันต่อจากวัวตัวนั้น

เศียรราชสีห์ที่มีเปลวเพลิงอันน่ากลัว เศียรแพะที่มีเขาอันแข็งแกร่งและเศียรอสรพิษที่มีพิษอันร้ายแรง โรสจะช่วยประสานเสริมในจุดใดดี

มีเสียงโครมดังขึ้นมาจากฝั่งของลูท กระบี่สองมือของลูทฟันถูกเศียรแพะทำให้เกิดรอยบาดแผลเป็นขีดของคมกระบี่ เศียรแพะบันดาลโทสะข้างเขาสองข้างขวิดเข้าใส่ลูทเต็มอัตรา หลังจากลูทโจมตีด้วยกระบี่สองมือที่ไม่ถนัดพละกำลังก็ไม่ต่อเนื่องเกิดเป็นช่องว่างขึ้น ลูทถูกเขาแพะกระแทกเข้าที่ร่างด้วยประสบการณ์ในการล่าสัตว์ประเภทแพะภูเขา ลูทเกิดปฏิกิริยาตอบสนองใช้กระบี่ต้านรับเอาไว้ได้ในพริบตาสลายแรงจู่โจมไปครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นลูทที่รับแรงกระแทกผ่านกระบี่เข้าไปถึงกับมึนงงอยู่พักหนึ่ง

โรสตัดสินใจเข้าไปช่วยลูทก่อน เธอเคลื่อนเข้าไปหาลูทช่วยใช้เอลแห่งแสงคลายความเจ็บปวดพร้อมกับปามีดออกสกัดกั้นเศียรแพะ แสงแห่งชีวิตช่วยฟื้นอาการมึนงงและบอบช้ำของลูทให้กลับมาเป็นปกติ เพียงพักเดียวลูทก็ฟื้นตัวสามารถเข้าร่วมวงต่อสู้ใหม่อีกครั้ง

บลูเปลี่ยนจากการร่ายดาบสุญญากาศมาเป็นประกายเพลิงแทน ประกายเพลิงมีขนาดใหญ่กว่าดาบสุญญากาศทำให้หลบได้ยากกว่า ถึงแม้ว่าประกายเพลิงจะมีอำนาจการทำลายล้างที่สูงกว่าแต่ว่าสัตว์มายาที่สามารถพ่นไฟได้แรงขนาดนั้นจะกลัวลูกไฟของเขาหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่เขาต้องทดลอง

                บลูพลิกข้อมือวาดประกายเพลิงสายหนึ่งใส่เศียรอสรพิษ มันคาดไม่ถึงว่าบลูจะใช้ประกายเพลิงที่มีรัศมีการทำลายกว้างกว่าแทนดาบสุญญากาศจึงไม่สามารถหลบได้พ้น เศียรอสรพิษโยกหลบไม่พ้นถูกไฟเผาเข้าเฉียดๆทำให้ผิวหนังเป็นรอยไหม้ดำ บลูยิ้มที่มุมปากด้วยความสมใจเมื่อเอลประกายเพลิงของเขาใช้ได้ผล

เศียรอสรพิษขู่ฟ่อด้วยความเจ็บปวด มันพุ่งด้วยความเร็วสูงอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวพิษทั้งสี่เข้ามาฉกกัดบลู บลูที่รอพลังเอลฟื้นคืนยังไม่สามารถใช้ประกายเพลิงเห็นได้ชัดว่าหลบไม่พ้นแน่ เขาพลิกแพลงหยิบยืมพลังจากประตูบานที่สองร่ายดาบสุญญากาศด้วยมือซ้ายยิงสวนในระยะประชิด ดั่งคราวที่ใช้กระแทกหอกทมิฬของโทมัส

แต่ครั้งนี้บลูกลับผิดพลาด เศียรอสรพิษอาศัยความเร็วอันล้ำเลิศฉากหลบดาบสุญญากาศทันควัน แว้งเศียรเข้ามาฉกกัดฝากคมเขี้ยวไว้ที่แขนซ้ายของบลูคู่หนึ่ง เมื่อบลูถูกพิษบาดเจ็บล้มลงการจัดขบวนรูปสามเหลี่ยมก็พังทลายตามไปด้วย

“บลู!” ลูทเห็นเช่นนั้นก็ร้องตะโกนเสียงหลงวิ่งตรงเข้าใส่เศียรอสรพิษหมายจะทำร้ายมันด้วยกระบี่

โรซาไลน์เห็นว่าเศียรแพะจะฉวยโอกาสที่ลูทเข้าไปช่วยบลูทำร้ายลูทจากด้านหลัง เธอจึงปามีดออกช่วยสกัดเศียรแพะให้กับลูท ความจริงแล้วเศียรแพะเองไม่เกรงกลัวมีดบินอันใด เพราะความรุนแรงของมีดบินยังน้อยกว่ากระบี่ที่ถือด้วยมือเดียวเสียอีก แต่สาเหตุที่มีดบินคุกคามทำให้มันต้องชะงักก็คือเป้าหมายนั่นเอง มันดูออกว่ามีดบินคู่นี้ซัดเข้าใส่เปลือกตาด้านบนซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดของมัน ถึงแม้ผิวหนังมันจะแข็งแกร่งราวเหล็กไหล แต่เปลือกตาก็ยังคงเป็นส่วนที่บอบบางอยู่ โรสใช้โอกาสที่เศียรแพะชะงักถลันเข้าแทนที่ลูทสร้างรูปขบวนสามเหลี่ยมขึ้นมาใหม่ โดยที่ลูทหันหน้าเข้าหาเศียรอสรพิษ โรสเผชิญกับเศียรแพะส่วนไกยังคงเดิมต่อสู้กับเศียรราชสีห์

กระบี่ของลูทฟันไม่ถูกเศียรอสรพิษแถมยังเกือบโดนเขี้ยวพิษฝังเข้าเหมือนกัน เขาเหลือบตาไปมองบลูเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขากำลังหยิบยาของหมอวีมากินเพื่อถอนพิษ ลูทเห็นดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าบลูคงจะไม่เป็นอันตรายเท่าใด เขารวบรวมสติขึ้นใหม่ตัดสินใจทดลองเปลี่ยนไปถือกระบี่ด้วยมือซ้ายหวังจะใช้กระบี่แสงที่คมกริบอีกครา ลูทไม่มีความแน่ใจว่าจะสำเร็จสักนิด เขาพยายามดูก่อนหน้านี้หลายรอบแต่ก็ไม่เกิดผลที่น่าพอใจสักนิด แต่ในวินาทีนี้เขาจำเป็นที่จะต้องเสี่ยงดูอีกครั้ง

เมื่อมีเสียงคำรามของคิเมร่า เศียรราชสีห์ก็พ่นเปลวเพลิงอันร้อนแรงออกมา กระบี่เกล็ดน้ำค้างของไกยังคงกางม่านน้ำแข็งปกคลุมตั้งรับคิเมร่าอย่างเหนียวแน่น ในเมื่อม่านน้ำแข็งปกคลุมของเขายังใช้การได้ เขาก็ไม่เกรงกลัวเปลวเพลิงของคิเมร่า

ไกไม่เล็งผลเลิศกับการทำร้ายที่ศีรษะ เขาเห็นว่าการกระทำเช่นนั้นอันตรายเกินไป ถ้าหากเศียรราชสีห์พ่นไฟในระยะประชิด เอลม่านน้ำแข็งปกคลุมอาจจะกางไม่ทัน ทำให้เขาต้องทอดร่างกลายเป็นเถ้าถ่าน ไกจึงดำเนินแผนตัดกำลังโดยการฟาดฟันกระบี่ยักษ์เข้าที่ขาหน้าของมันทั้งสอง เขามุ่งทำร้ายให้มันเกิดบาดแผลอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถทนทานได้ แต่บาดแผลที่ไกฟันใส่ยังตื้นไป แทนที่มันจะบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่สะดวกกลับเป็นการกระตุ้นความดุร้ายของเศียรราชสีห์ในทางอ้อม

                กงเล็บที่แหลมคมจากขาหน้าสองข้างของมันตะปบลงมาพร้อมกัน เป้าหมายของราชสีห์คือลำคอของมือปราบไก มือปราบชั้นหนึ่งใช้เขตแดนความเย็นอีกครั้ง อาศัยเสี้ยวเวลาที่กงเล็บของมันถูกเขตแดนความเย็นก้มตัวหลบได้ทัน ไกรู้สึกเย็นสันหลังวาบเมื่อเขาหลบรอดกงเล็บทั้งสองได้อย่างฉิวเฉียด หากเขาทำพลาดแม้แต่ครั้งเดียวอาจจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่

โรสใช้วิธีต่อสู้แบบฉวัดเฉวียนล่อลวงเศียรแพะให้หันไปมาไม่สามารถทำอย่างไรได้ เธอดูสถานการณ์อยู่ที่วงนอกเห็นว่าเศียรแพะมีวงการเคลื่อนไหวจำกัดกว่าเศียรราชสีห์และเศียรอสรพิษ แต่เนื่องจากลูทต้องต่อสู้ระยะประชิดทำให้ถูกโจมตีสวนกลับได้ง่าย โรสใช้ข้อได้เปรียบของมีดบินมุ่งจู่โจมจากระยะไกลนับว่าเป็นหนทางที่ประเสริฐ เรียกได้ว่าใช้ยาได้ถูกที่

ดาบลายเมฆที่จัดสร้างจากวัสดุชั้นยอดเป็นดาวข่มของเศียรแพะ เมื่อโรสได้จังหวะเธอก็จะพลิ้วกายเข้าไปใช้ดาบลายเมฆโจมตี คมดาบลายเมฆจู่โจมสำเร็จสะกิดเข้าที่หัวมันสองสามครากลับปรากฏเป็นรอยแผลจางๆมีโลหิตไหลออกมา หากเปรียบกับกระบี่ที่ลูทใช้ เขาต้องใช้สองมือจับกระบี่ฟันเต็มแรงถึงจะทำให้เกิดบาดแผลเช่นเดียวกันนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าวัสดุที่จัดสร้างดาบลายเมฆแข็งแกร่งกว่าผิวหนังของเศียรแพะ ปัญหาอยู่ที่ว่าโรสไม่สามารถหาโอกาสโจมตีเศียรแพะได้อย่างจัง การล่อหลอกมันส่งผลให้เธอปาดดาบไปมาเท่านั้น ถ้าคิดจะทำร้ายมันให้ได้ผลจะต้องแทงดาบลายเมฆลึกเข้าไปในหัวของมันอย่างน้อยสามนิ้ว