ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #46 : เล่ม 2 - ตอนที่ 16 - เขี้ยวราชสีห์ (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 975
      2
      10 ต.ค. 50

    ลูทพยักหน้าเห็นด้วยแต่ก่อนที่จะตอบอะไร ไกก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า พวกเจ้ามีธุระอะไรที่ต้องทำในโรงเรียนเซนต์เอลลิสอย่างนั้นหรือ ข้าว่าพวกเราควรจะรีบออกเดินทางไปเมืองแองเจลโดยเร็ว ในตอนนี้ข้าสามารถยืนยันได้ว่าข่าวที่พวกเจ้าให้มาคงจะเป็นเรื่องจริงโดยแท้แน่นอน ถ้าหากพวกเราไม่รีบไปแจ้งผู้ตรวจการมิดาสเรื่องราวอาจจะไม่ทันการณ์
    บลูกล่าวตอบไกว่า ลูทฝึกเอลได้ถึงขั้นที่สี่แล้วแต่เขายังไม่สามารถประสานเอลเข้ากับธาตุใดๆได้ พวกเราช่วยกันให้ลูทลองประสานเอลมาห้าธาตุแล้วเหลือแต่ธาตุความมืดกับมิติ พอดีข้ารู้จักครูที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสจึงอยากให้เขาช่วยทดสอบลูท ถ้าลูทใช้เอลได้จะเป็นประโยชน์กับการเดินทางของเราอย่างมาก
    โรสถามไกว่า ทำไมพวกเราถึงต้องไปเมืองแองเจลโดยเร็ว พี่ไกมีแผนการอะไร
    ไกอธิบายแผนการที่เขาคิดขึ้นให้กับทุกคนฟังว่า ในตอนนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเวอร์น่อนจะก่อการกบฏ และเป็นที่แน่นอนว่าอัศวินดำก็มีส่วนร่วมด้วย ผู้หญิงผมม่วงที่พวกเราสู้ด้วยเมื่อคืนมีชื่อว่าคอร์เนเลียซึ่งดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยอัศวินดำ จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ข้าคิดว่าพวกอัศวินดำต้องการจะกำจัดพวกเจ้ารวมไปถึงข้าด้วยไม่ให้ไปส่งข่าวถึงผู้ตรวจการหรือผู้ปกครองอาณาจักรใดๆ หากแผนการรั่วไหลออกไปเป็นวงกว้างจะส่งผลกระทบต่อแผนการของเวอร์น่อนเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้คอร์เนเลียถึงได้ลงมือด้วยตนเอง ข้าคิดว่าทางด้านกองกำลังประสานเจนีสของผู้นำการาดอสก็คงจะถูกกองกำลังของพวกอัศวินดำคุมเข้มมิให้กระดิกตัวใดๆได้ คงเหลือแต่พวกเราเพียงหน่วยเดียวที่สามารถแจ้งข่าวให้ผู้ตรวจการได้รับรู้ สิ่งที่ข้าคิดออกในตอนนี้คือไปหาผู้ตรวจการภาคตะวันตกมิดาสผู้เป็นหัวหน้าข้าอีกทีหนึ่ง ข้าต้องขอให้เขาช่วยส่งข่าวนี้ไปถึงให้ผู้ปกครองอาณาจักรอีกสองท่าน แล้วชิงลงมือจัดการกับเวอร์น่อนก่อนที่จะสายเกินไป
    โรสถามต่อไปว่า ผู้ตรวจการมิดาสอยู่ที่เมืองแองเจลอย่างนั้นหรือ
    ไกตอบว่า ใช่ ถ้าหากพวกเราเดินทางด้วยรถม้าเดินทางขึ้นเหนือไปอาจจะต้องใช้เวลาเกือบสองวันกว่าจะเดินทางถึงเมืองแองเจล แต่ถ้าพวกเราใช้วิธีเปลี่ยนม้าเปลี่ยนคนขับสลับกันเดินทางทั้งวันทั้งคืนแล้วล่ะก็คงจะย่นระยะเวลาเหลือเพียงวันเดียวได้
    บลูกล่าวว่า เรื่องนั้นก็จริงอยู่พี่ไก แต่พวกเรายังพอมีเวลาเหลืออีกสิบสี่วันกว่าถึงจะถึงวันประชุมสภาปกครองประจำปีและเป็นที่แน่นอนว่าเราจะต้องเจออุปสรรคที่ยากกว่านี้ ด้วยเหตุผลที่พี่กล่าวมากองกำลังอัศวินดำจะคอยขัดขวางพวกเราไม่ให้ไปส่งข่าวได้ ประเมินจากกำลังของพวกเราในตอนนี้ข้าว่าโอกาสที่จะรอดชีวิตจากอัศวินดำระดับสูงๆมีไม่มากนัก ขนาดเมื่อคืนที่เราสี่คนช่วยกันปราบคิเมร่าถ้าหากพริมไม่ได้ผ่านเข้ามาช่วยโดยบังเอิญตัวข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย ดังนั้นข้าจึงคิดว่าสมควรใช้เวลาช่วงกลางวันไปที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสให้ลูทฝึกฝนเอลเพิ่มเติม ถ้าหากพวกเราสามารถพัฒนาขอบเขตของวิชาฝีมือได้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป หลังจากนั้นเราค่อยออกเดินทางตอนกลางคืนก็ยังไม่สายเกินไป
    ไกถามว่า เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในวันประชุมสภาปกครองประจำปี
    บลูส่งสมุดบันทึกหลักฐานให้ไกพลิกดูพร้อมกับตอบว่า ไม่มีเหตุการณ์ใดที่จะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว ในหนังสือระบุถึงกำลังทางทหารและอาวุธที่โอนย้ายเข้าสังกัดของอัศวินดำในละแวกเมืองนอร์โปลิส ถ้าหากพวกมันจะทำการที่เมืองนอร์โปลิสก็สมควรเป็นช่วงที่ผู้ปกครองอาณาจักรอีกสองท่านและสมาชิกสภาการปกครองทั้งหมดเดินทางเข้าไปประชุมกันที่เมืองนอร์โปลิส จากนั้นเวอร์น่อนจึงลงมือกำจัดให้หมดเสียในคราเดียว ด้วยเหตุนี้ข้าและกุนซือราเมสแห่งกองกำลังปกครองเจนีสต่างก็คิดว่าวันลงมือของพวกเวอร์น่อนจะต้องเป็นวันเปิดประชุมประจำปี
    ไกพยักหน้าเริ่มจะเห็นด้วยกับสิ่งที่บลูกล่าว เขาจึงกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นเป็นอันตกลง พวกเราจะรั้งอยู่ที่เมืองโอดินอีกวันหนึ่ง พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพวกเราจะออกเดินทางไปเมืองแอลเจลภายในคืนนี้ การเดินทางในตอนกลางคืนมีส่วนช่วยปกปิดร่องรอยของเราได้มากกว่าตอนกลางวัน เพราะในตอนนี้ถึงพวกเราจะไม่ถูกคำสั่งของทางการให้ตามจับอย่างเปิดเผย แต่ข้ามั่นใจถึงสิบส่วนว่ามีคำสั่งลับจากคอร์เนเลียให้พวกอัศวินดำไล่ล่าพวกเรา
    ลูทหัวเราะฮาๆกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นพวกมันคงจะคว้าน้ำเหลวคิดว่าพวกเราหลบหนีออกไปนอกเมืองกันหมด แต่ที่ไหนได้พวกเรากลับเดินส่ายอาดๆเข้ามากบดานอยู่ในเมืองโอดินเหมือนเดิม เช่นนี้เรียกว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดกลับเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
    ไกกล่าวว่า นับว่าเจ้ากล่าวได้ถูกต้องครึ่งหนึ่ง ด้วยประสบการณ์และไหวพริบคอร์เนเลียคงจะไหวตัวทันในไม่ช้า รับรองไม่เกินวันพรุ่งนี้นางต้องส่งคนมาตรวจสอบเมืองโดยละเอียด บังเอิญที่วันนี้เกิดมีงานแสดงดนตรีชั้นสูงเหล่าผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ต่างเดินทางเข้ามาพำนักในเมืองโอดิน ทำให้พวกอัศวินดำส่งกำลังทหารเข้ามาอย่างเอิกเกริกมิได้ ไม่สามารถบุกเข้าไปตามถนนหนทางอาคารบ้านเรือนตรวจค้นโดยอิสระ นี่เป็นอีกครึ่งหนึ่งของเหตุผลที่คอร์เนเลียไม่สามารถดำเนินการพลิกเมืองค้นหาพวกเราได้
    เรียกว่าไกอ่านสถานการณ์ได้เฉียบขาด ตามเหตุผลและประสบการณ์ทำให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับความเป็นจริงยิ่ง
    โรสกล่าวว่า กล่าวโดยสรุปคือพวกเราเดินทางไปที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสก่อน พอค่ำมืดค่อยออกเดินทางขึ้นเหนือสู่เมืองแองเจล ถ้าอย่างนั้นวันนี้ข้าก็ไม่มีอะไรทำขอตามพวกเจ้าไปที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสด้วยก็แล้วกัน
    พริมกล่าวว่า ข้าเองขอตามพี่โรสไปด้วย ข้าไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว
    ไกนึกอะไรขึ้นได้จึงกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปด้วยกันทั้งหมดนี่แล้วกัน ส่วนเรื่องอาวุธของเจ้าน่ะลูท เจ้าไม่จำเป็นต้องไปซื้อจากร้านอาวุธแล้ว
    ลูทขมวดคิ้วถามว่า เพราะเหตุใดหรือพี่ไก ถึงข้าสามารถใช้เอลได้ภายในวันนี้ข้าก็ยังไม่เก่งถึงขนาดที่จะสามารถต่อสู้ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาอาวุธเหมือนอย่างบลูหรอกนะ
    ไกกล่าวตอบว่าไม่ใช่อย่างนั้น เขาเดินไปเปิดตู้ของเขาหยิบอาวุธขึ้นมาชิ้นหนึ่งโยนให้ลูทแล้วกล่าวว่า ใครว่าข้าจะให้เจ้าต่อสู้ด้วยเอลอย่างเดียว ถึงเจ้ายืนยันจะทำเช่นนั้นข้าก็คงจะหาอาวุธคู่มือให้เจ้าอยู่ดี แม้เป็นกระบี่เหล็กธรรมดาอย่างน้อยเจ้าก็สามารถใช้กระบี่ประสานกับเอลของบลูช่วยในการสู้รบได้ครั้งหนึ่ง
    ลูทรับอาวุธที่ไกโยนมาถามว่า นี่กระบี่อะไรหรือพี่
    ไกกล่าวตอบว่า เพื่อนของข้ามอบกระบี่เล่มนี้ให้มาในสมัยที่ข้ายังเรียนอยู่ที่เอลเซลเลียร์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตั้งแต่ข้าใช้กระบี่เกล็ดน้ำค้างข้าก็ไม่คุ้นมือกับการใช้กระบี่ขนาดธรรมดาเท่าใดนักข้าจึงไม่ได้ใช้กระบี่เล่มนี้อีก ระหว่างที่เอลของเจ้ายังพึ่งพาไม่ได้เต็มที่ ข้าขอมอบกระบี่เล่มนี้ไว้ให้เจ้าใช้แล้วกัน เจ้าลองชักมันออกจากฝักดูสิว่าเจ้าชอบมันไหม
    ลูทหยิบกระบี่ที่ไกมอบให้ขึ้นมาพิจารณาดูพบว่าฝักกระบี่ประดับด้วยตราสัญลักษณ์รูปราชสีห์อ้าปาก เขาบรรจงดึงกระบี่ออกจากฝักอย่างแช่มช้า เห็นว่าเป็นกระบี่เล่มนี้มิใช่กระบี่ธรรมดามีเนื้อดีมีสีทองอร่าม ลูทพิจารณาเนื้อโลหะของมันด้วยความชำนาญสังเกตออกว่ามันถูกหลอมขึ้นด้วยโลหะผสมที่มีส่วนประกอบของโลหะมิทราลและเหล็กเย็น โลหะผสมนี้มีคุณสมบัติแข็งแกร่งเทียบเท่าเหล็กกล้า และด้วยส่วนประกอบของโลหะมิทราลทำให้ตัวกระบี่สามารถทนทานพลังงานจากเอลได้มากกว่ากระบี่ธรรมดาถึงสามเท่า เขาจึงไม่ต้องกลัวว่าตัวกระบี่จะทนทานเอลไม่ได้อีกต่อไป ลูทตรวจสอบดูลวดลายและรูปแบบของมันก็พบว่าไม่เหมือนกับกระบี่ใดๆที่สร้างในอาณาจักรลาเวนดิสหรือนอร์
    ลูทกล่าวขอบคุณไกที่มอบกระบี่เนื้อดีนี้ให้ ด้วยความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องสิ่งประดิษฐ์เขาก็อดถามไม่ได้ กล่าวว่า กระบี่เล่มนี้เป็นกระบี่เนื้อดีที่ทนทานเอลได้อย่างไม่มีปัญหา มันไม่เหมือนกับกระบี่ที่ตีด้วยช่างในลาเวนดิสหรือช่างในประเทศนอร์ใดๆ พี่ไกได้มาจากไหนหรือ
    ไกตอบว่า เจ้าสายตาแหลมคมยิ่งนัก เพื่อนของข้าเป็นที่เป็นชาวเอนเซลมอบให้มาตั้งแต่สมัยที่ข้าอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด
    สายตาของลูทยังไม่ละจากตัวกระบี่ กล่าวถามไกว่า กระบี่นี้มีชื่อเรียกว่าอะไรหรือ ลักษณะของมันไม่ค่อยจะเหมือนกระบี่ทั่วไปสักเท่าใดนัก คมของมันเหมาะสำหรับการฟันมากกว่าการแทง
    ไกกล่าวตอบว่า อาวุธเล่มนี้มีนามว่าเขี้ยวราชสีห์ เจ้าจะเรียกมันว่ากระบี่หรือดาบก็แล้วแต่เจ้า ข้าใช้มันต่างกระบี่จึงเรียกมันว่ากระบี่เขี้ยวราชสีห์
    ตัวกระบี่เป็นสีทองเหมาะสมกับคำว่าราชสีห์โดยแท้ จากปลายคมจรดด้ามมีความยาวหนึ่งเมตรพอดิบพอดี ตัวด้ามกระบี่มีความยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตรส่วนที่เหลือเป็นส่วนของคมกระบี่ประมาณแปดสิบเซนติเมตร เทียบกับกระบี่ทั่วไปแล้วเขี้ยวราชสีห์มีความยาวมากกว่าอยู่ประมาณสิบเซนติเมตร ที่ใจกลางคมกระบี่มีลวดลายเป็นเส้นตรงสีแดงบางๆลากลงมาจากปลายคมจนถึงตัวโกร่งกระบี่ ที่โกร่งกระบี่มีแผ่นโลหะโค้งเชื่อมกับปลายสุดของด้ามกระบี่สามารถใช้ป้องกันข้อมือได้ ส่วนประกอบของโลหะมิทราลส่งผลให้น้ำหนักของมันเบากว่ากระบี่ปกติเกือบสองเท่า ตัวฝักและตัวด้ามของเขี้ยวราชสีห์เป็นสีดำเมื่อสอดกระบี่เข้าฝักจะไม่เห็นส่วนที่เป็นสีทอง เพียงแต่เห็นฝักกระบี่สีดำที่สลักรูปราชสีห์เอาไว้ทำให้ไม่เป็นเป้าสายตาของคนทั่วไป ลูทยิ่งพิจารณาดูก็ยิ่งชอบเขาทดลองสะบัดดูสักสองสามครั้งก็รู้สึกว่าคล่องมือกว่ากระบี่เหล็กกล้าเล่มก่อนมากโข หากเขาจำต้องเสียเงินซื้อกระบี่เช่นนี้สักเล่มหนึ่งคงจะต้องใช้เงินอย่างน้อยสามสิบเหรียญทอง ลูทจึงปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อไกกำนัลกระบี่เล่มนี้ให้เปล่า
    ไกกล่าวต่อไปว่า อาวุธชนิดนี้เป็นเรียกว่าเซเบอร์เป็นที่นิยมในหมู่นักรบชาวเอนเซล หากเจ้าลองดูตรงส่วนปลายจะสังเกตได้ว่าที่ปลายคมของมันโค้งเล็กน้อยดุจดั่งคมเขี้ยวและสีของมันเป็นสีทองคำ ผู้สร้างกระบี่เล่มนี้จึงให้ชื่อว่าเขี้ยวราชสีห์ เซเบอร์เก้าในสิบเล่มจะมีคมเพียงด้านเดียวดั่งดาบหากแต่ผู้สร้างเซเบอร์เล่มนี้ต้องการให้มันใช้แทนกระบี่ได้ด้วยจึงสร้างเป็นชนิดคมสองด้าน ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นอย่างที่เจ้าเห็น ตัวเซเบอร์สามารถใช้ฟันได้รุนแรงเทียบเท่ากับดาบและยังคงปมเด่นในการแทงของกระบี่เอาไว้ หากเจ้าฝึกปรือกระบี่เขี้ยวราชสีห์ได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าเจ้าจับดาบหรือกระบี่ก็จะใช้ออกได้คล่องแคล่วไม่ต่างกัน
    โดยปกติแล้วดาบจะมีคมเพียงด้านเดียวเน้นการฟันมากกว่าการแทง คมดาบส่วนมากจะมีความโค้งเพื่อให้เหมาะสมกับการฟาดฟัน เชือดเฉือนเป้าหมายให้ขาดเป็นสองท่อน ส่วนกระบี่จะต่างออกไป กระบี่มีคมสองด้านเหมาะสำหรับการแทงมากกว่าการฟัน ปลายกระบี่จะแหลมคมเป็นพิเศษ ถูกออกแบบมาให้เป็นเส้นตรงเพื่อลดพื้นที่สัมผัสในการเสียบทะลวง ดังนั้นผู้ใช้ดาบกับผู้ใช้กระบี่จะมีทวงท่าในการต่อสู้ต่างกันโดยสิ้นเชิง
    ลูทกล่าวชมเชยว่าเป็นชื่อที่ดีเหมาะกับรูปลักษณ์ของศัสตราวุธอย่างไม่มีที่ติ เขากล่าวขอบคุณไกที่มอบเขี้ยวราชสีห์ให้เป็นครั้งที่สองจากนั้นก็สอดมันเข้าฝักพกพาติดตัวเอาไว้อย่างดี
    สตรีทั้งสองต่างไม่ค่อยสนใจกับเรื่องราวของอาวุธเท่าใดจึงเร่งรัดให้พวกชายหนุ่มทั้งสามออกเดินทางเสียที ชายหนุ่มทั้งสามได้แต่คล้อยตาม หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งห้าคนจึงมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนเซนต์เอลลิสที่อยู่ใจกลางเมืองโอดิน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×