ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #48 : เล่ม 2 - ตอนที่ 16 - เขี้ยวราชสีห์ (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 884
      0
      17 ต.ค. 50

    ชานอน ลาเมเรียเดินออกมานอกห้อง นางเป็นสตรีที่มีอายุไม่ถึงสามสิบปียังครองตัวเป็นโสด สวมชุดสีฟ้ามีปกแขนยาวจรดข้อมือที่หน้าอกปักเป็นลายอาคมสีขาวรูปสัญลักษณ์แห่งเอลเช่นเดียวกับครูมอริส เพียงแต่ชุดของครูสตรีจะถูกออกแบบมาให้สวมกระโปรงยาวสีฟ้าขลิบขาวอีกชั้นหนึ่งทับกางเกงขายาว สวมใส่รองเท้าเป็นรองเท้ามีส้นสีขาวรับกับสีของเครื่องแบบ
    ชานอนรูปร่างสูงกว่าโรสเล็กน้อย นางไว้ผมสีทองประบ่าและมีนัยน์ตาสีเดียวกับน้ำทะเลแสดงให้เห็นว่านางเป็นชาวลาเวนดิสเช่นเดียวกับโรซาไลน์ รูปร่างของนางสมส่วนหน้าตาก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สวยกว่าสตรีทั่วไปจึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงยังไม่แต่งงาน
    บลูเคยเห็นครูชานอนมาก่อนแล้วก็เคยคาดเดาเปะปะว่าเหตุผลหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นเพราะว่านางมีความสามารถมากกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปจึงไม่สามารถหาสามีที่คู่ควรได้ ซึ่งความจริงแล้วเหตุผลนี้ก็เป็นเหตุผลที่มีส่วนอยู่มากเหตุผลหนึ่ง
    ชานอนเป็นเอลลิสระดับจอมปราชญ์ชั้นกลางอีกเพียงขึ้นเดียวนางก็จะได้เลื่อนเป็นจอมปราชญ์ชั้นสูง คำนำหน้าชื่อก็จะเปลี่ยนจากคำว่าครูมาเป็นอาจารย์ การที่ได้เป็นอาจารย์ก่อนอายุสามสิบถือว่าเร็วมาก แม้แต่มอริสเองอายุสามสิบกว่าแล้วยังมิได้เป็นอาจารย์เลย
    ลูท โรสและพริมต่างก็กล่าวแนะนำตัวกับชานอน ส่วนบลูกล่าวทักทายครูชานอนที่เคยสอนวิชาให้เขาคำหนึ่ง
    ไกกลับมิได้กล่าววาจาแนะนำตัวอันใดหากแต่กล่าวว่า นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอเจ้าที่นี่ ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันคงจะเกือบสิบปีแล้วกระมัง ยินดีที่ได้เจอกับเจ้าอีกครั้ง
    ชานอนยิ้มมุมปากกล่าวว่า เป็นแปดปีต่างหาก ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้รับรู้ว่าข้าไปทำอะไรที่ไหนอย่างไรแต่ข้าได้ยินข่าวของเจ้าอยู่ตลอดเวลา มือปราบไกผู้มีนามกระเดื่องสามารถปราบโจรผู้ร้ายไปทั่วเขตตะวันตก
    ไกส่ายศีรษะกล่าวว่า เจ้าไม่ต้องกล่าวชมข้าหรอก เพื่อนทั้งรุ่นต่างก็รู้ว่าเจ้าใช้เอลเก่งกว่าข้ามากนัก
    ชานอนยิ้มคราหนึ่งกล่าวตอบว่า แน่ล่ะ ถ้าไม่มีการสอบวิชาต่อสู้ล่ะก็ข้าคงเป็นที่หนึ่งของรุ่นแต่เพียงผู้เดียว
    ไกถามต่อไปว่า เจ้าเป็นอย่างไรมาอย่างไรถึงได้มาเป็นครูอยู่ที่นี่
    ชานอนตอบว่า หลังจากที่ข้าเรียนจบก็ทำงานวิจัยอยู่กับอาจารย์ที่เอนเซลเลียร์จนได้รับว่าจ้างให้เป็นครู จากนั้นข้าก็ถูกย้ายมาสอนที่โอดิน
    ครูมอริสกล่าวขัดจังหวะถามขึ้นมาว่า นี่พวกเจ้ารู้จักกันอยู่ก่อนแล้วหรือ
    ไกตอบว่า ใช่ เราเป็นเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันเมื่อสมัยยังเรียนอยู่ที่เซนต์เอลลิสสาขาสำนักงานใหญ่ในเมืองเอนเซลเลียร์
    ชานอนกล่าวว่า ทั้งเพื่อนและคู่แข่งต่างหาก
    ความจริงแล้วสมัยก่อนทั้งไกและชานอนต่างก็แข่งขันกันเป็นที่หนึ่งของรุ่น ชานอนถนัดวิชาเอลมากกว่าไก แต่ไกเก่งวิชาการต่อสู้มากกว่าชานอนทำให้ชดเชยข้อได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งกันและกัน ทั้งสองต่างก็ขับเคี่ยวกันในเรื่องของผลการเรียนแต่ในที่สุดก็ทำคะแนนได้เท่ากัน ไกขาดไปหนึ่งคะแนนในวิชาการใช้เอลทำให้ไม่ได้ร้อยคะแนนเต็ม ส่วนชานอนขาดไปหนึ่งคะแนนในวิชาการต่อสู้ ด้วยเหตุบังเอิญสองประการนี้ทำให้ทั้งสองได้รับรางวัลที่หนึ่งของรุ่นพร้อมกัน นับเป็นรุ่นเดียวในรอบสิบปีที่มีที่หนึ่งของรุ่นพร้อมกันถึงสองคนด้วยคะแนนเกือบเต็ม
    บลูยังห่างไกลจากตำแหน่งที่หนึ่งของรุ่นมากนัก เขาได้เต็มในวิชาเอลส่วนวิชาการต่อสู้เขาทำคะแนนผ่านมาอย่างฉิวเฉียด เขากล่าวขึ้นมาว่า จริงหรือพี่ไก ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์เอลลิสด้วย แล้วพี่จบมาเมื่อปีไหนล่ะ
    ไกกล่าวตอบว่า ข้าจบเมื่อปีสองหนึ่งแปด ประมาณแปดปีก่อนได้ ข้าคงเป็นรุ่นพี่เจ้าอยู่หลายปีสินะ
                    ชานอนกล่าวตัดบทว่า เอาล่ะ พอแค่นี้แล้วกันสำหรับอรัมภบทและการแนะนำตัวทั้งหลาย พวกเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ข้าได้ยินจากมอริสว่ามีคนหนึ่งในพวกเจ้าต้องการให้ข้าช่วยประสานเอลธาตุแห่งมิติให้ใช่หรือไม่
                    บลูกล่าวตอบว่า ใช่แล้วครูชานอน ลูทเพื่อนของข้ากำลังฝึกพื้นฐานเอลแต่ไม่สามารถใช้ประสานเอลได้
                    ลูทกล่าวเสริมขึ้นว่า บลูช่วยสอนเอลสามขั้นตอนแรกให้กับข้าได้สำเร็จ แต่ข้านั้นติดเพียงขั้นตอนประสานเพียงขั้นตอนเดียว หากข้าผ่านขั้นตอนนี้ไปก็จะนับว่าผ่านการทดสอบเอลลิสชั้นต้น
                    ชานอนหันไปหาบลูกล่าวว่า เจ้าเป็นนักเรียนโรงเรียนเซนต์เอลลิสก็สมควรจะรู้กฎเป็นอย่างดีว่าครูของโรงเรียนเราไม่สามารถสอนเอลให้กับคนที่ไม่ใช่นักเรียนได้ ใช่ไหมบลู
                    บลูกล่าวตอบว่า ข้าก็รู้อยู่ครูชานอนแต่ในหมู่พวกเราไม่มีผู้ใดสามารถใช้เอลแห่งมิติได้ และถ้าจะไปหาผู้ที่ใช้เอลแห่งมิติได้ก็นับว่ามีน้อยกว่าน้อย ถ้าหาก ...
                    ชานอนกล่าวตัดบทว่า เอาเถอะๆ พอแล้วไม่ต้องกล่าวอีก นางมองไปยังบลูที่โค้งศีรษะขอร้องแล้วก็มองไปยังไก ไกลอบพยักหน้าให้กับชานอนครั้งหนึ่ง นางจึงกล่าวว่า เห็นแก่บลูและไกข้าจะสอนการประสานเอลธาตุแห่งมิติให้กับลูทเอง โดยมีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง
                    ลูทกล่าวขึ้นว่า เงื่อนไขอะไรครูชานอน ถ้าข้าทำได้จะไม่บ่ายเบี่ยง
                    ชานอนกล่าวว่า อย่าพึ่งรับปากเร็วเกินไป เงื่อนไขนี้เจ้าคงจะต้องลองทำอยู่แล้ว แต่จะทำได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
                    ลูทกล่าวอย่างตั้งใจว่า ตกลงครูชานอน
                    ชานอนกล่าวต่อไปว่า เงื่อนไขนี้มีผลทั้งกับเจ้าและก็บลูสองคน ก่อนอื่นข้าอยากจะรู้ว่าเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอให้ข้าสอนหรือไม่ และอีกอย่างหนึ่งข้าก็อยากจะรู้ว่าสองปีมานี้ลูกศิษย์ของข้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องเอาชนะครูมอริสให้ได้เสียก่อน ข้าถึงจะยอมสอนวิธีใช้เอลให้กับเจ้า
                    มอริสที่อยู่เฉยๆมิได้รู้เรื่องรู้ราวอันใดหันขวับมามองหน้าชานอนทันที กล่าวว่า แล้วนี่ข้าเกี่ยวอะไรด้วยชานอน
                    ชานอนหันกลับไปทำตาดุใส่มอริส กล่าวว่าเกี่ยวสิ ก็เจ้าเป็นคนแนะนำลูทมานี่ มอริสได้ยินเข้าไปก็ทำหน้าเจื่อนนึกในใจว่าหรือนี่นับเป็นเหตุผลด้วย
    จากนั้นชานอนก็หันไปมองลูทอีกครั้งกล่าวว่า เอาเป็นว่าถ้าหากเจ้าทั้งสองคนรับมือครูมอริสได้ครบสามนาทีตามกฎกติกาการประลอง ข้าจะช่วยสอนเอลให้เจ้าแล้วกัน
                    บลู ลูทและมอริสต่างก็ไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่พยักหน้าตกลงรับเงื่อนไขของชานอน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×