ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #62 : เล่ม 2 - ตอนที่ 20 - มุ่งหน้าสู่แองเจล (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 892
      0
      8 พ.ย. 50

    ไกตาเป็นประกายกล่าวว่า “ศาสตราคู่กู้แผ่นดินเล่มหนึ่งอยู่ที่นครมิสต์ อีกเล่มหนึ่งสูญหายไปเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ใช่แล้ว! จุดที่กุญแจแห่งพิภพสูญหายไปเป็นตำแหน่งของเมืองเจนีสเหนือ พวกมันคงได้รับคำสั่งปฏิบัติการลับให้มาค้นหากุญแจแห่งพิภพพร้อมกับลอบสังหารข้าที่นั่น”
                    ชานอนมั่นใจว่าพวกมันเล็งเป้าหมายที่กุญแจแห่งพิภพเสียสิบส่วน นางกล่าวว่า “หากเวอร์น่อนครอบครองกุญแจแห่งพิภพไว้ในมือจะมีสภาพเหมือนพยัคฆ์ติดปีก เพียงอัศวินดำเก้าคนก็นับว่าตึกมือพวกเราอยู่มากแล้ว หากจะพูดกันตามตรงเรื่องฝีมือเวอร์น่อนโดดเด่นจนแทบไม่เป็นสองรองใคร ถึงแม้เอลมาสเตอร์คาเทจลงมือด้วยตนเองก็ไม่มีความมั่นใจที่จะสยบเวอร์น่อนลงได้ ครั้งที่เขานำกองทัพอัศวินดำถล่มเมืองเจนีสเหนือก็เป็นที่กล่าวขานในหมู่คนยุคก่อน ข้าเกรงว่าแม้แต่เจ้าและข้าร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่มือของเวอร์น่อน”
                    ไกนิ่งรับฟังถ้อยคำวิเคราะห์ของชานอนผู้เป็นเพื่อนสนิทของเขามากกว่าแปดปี เขาเชื่อใจชานอนตลอดจนฝีมือความสามารถของนาง เรื่องราวในสมัยก่อนเขาก็ได้ยินได้ฟังมาบ้าง หากแต่เขายังไม่เคยเผชิญหน้ากับเวอร์น่อนอย่างจริงจัง เมื่อเขาได้ยินชานอนกล่าวเช่นนี้ก็ทราบว่าปัญหายากแก้ไขด้วยกำลัง
    ชานอนใช้ความคิดหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องการที่อัศวินดำจะยึดเมืองโอดินกล่าวว่า หากมองในแง่ดีพวกเรายังเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์กว่าจะถึงวันที่สิบเก้า ในระหว่างนี้ถ้าหากขอความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการให้ช่วยเปิดจุดเคลื่อนย้ายไปยังเอนเซลเลียร์ พวกเราก็สามารถใช้เอลแห่งมิติเคลื่อนย้ายหลบหนีไปได้ทันเวลา แต่...
                    ไกถามว่า แต่อันใด
                    ชานอนกล่าวต่อไปว่า แต่ในตอนนี้ผู้อำนวยการยังไม่กลับมาเขาติดภารกิจสำคัญประการหนึ่ง จนกว่าจะถึงสามวันข้างหน้าข้าไม่สามารถเข้าพบเขาได้
                    ไกถามต่อไปว่า เจ้ามีความมั่นใจกี่ส่วนที่จะเกลี้ยกล่อมให้ผู้อำนวยการช่วยเปิดจุดเคลื่อนย้ายหลบหนี
                    ชานอนกล่าวตอบว่า อย่างน้อยแปดส่วน ผู้อำนวยการเป็นหนึ่งในเอลลิสที่ผ่านเหตุการณ์สงครามเจนีสเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ข้าเชื่อมั่นว่าเขาคงจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ท่านเป็นชาวเอนเซลคงจะไม่ยอมเอาโรงเรียนเซนต์เอลลิสที่มีประวัติมายาวนานเข้ามาเสี่ยงภัยกับเรื่องการเมืองภายในของอาณาจักรนอร์
                    ไกกล่าวต่อไปว่า ถ้าอย่างนั้นก็ดี ตัวข้าเองในคืนนี้จะเดินทางขึ้นเหนือไปพบผู้ตรวจการมิดาส เขาเป็นเจ้านายโดยตรงของข้าสามารถช่วยติดต่อกับผู้ปกครองอาณาจักรอีกสองท่านให้ข้าได้ หากข้าสามารถติดต่อท่านจอห์นหรือท่านคาร์ลคนใดคนหนึ่ง พวกเราก็ยังพอมีหวังที่จะยับยั้งกองกำลังของเวอร์น่อน
                    ชานอนกล่าวว่า ในตอนนี้มีบุคคลเพียงสองคนในอาณาจักรนอร์ที่มีอำนาจยับยั้งเวอร์น่อนได้ นั่นก็คือผู้ปกครองอาณาจักรจอห์นและคาร์ล ถึงแม้ว่าท่านทั้งสองอาจจะไม่เก่งกล้าสามารถเทียบเท่าเวอร์น่อน แต่กองกำลังทหารส่วนบุคคลและอำนาจที่กุมเอาไว้ก็สมควรที่จะสูสีพอฟัดพอเหวี่ยงกันสักครั้งหนึ่ง
                    ไกถอนหายใจครั้งหนึ่งกล่าวว่า “ข้ากลัวแต่เพียงพวกเขาทั้งสองจะไหวตัวไม่ทัน ถึงแม้ว่าผู้ปกครองอาณาจักรมีอำนาจล้นฟ้าเมื่อไม่สามารถใช้ออกได้แล้วยังมีประโยชน์อันใด” พอกล่าวถึงตอนนี้ดวงตาของไกก็ทอแววสับสนขึ้นครั้งหนึ่ง
                    ชานอนสังเกตแววตาอันสับสนนั้นออกรู้ว่าไกซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทของไกจึงไม่กล่าวออกมา เพราะว่านางรู้ดีว่าแววตาอันสับสนนั้นหมายความว่าอย่างไร หากเป็นนางเองเมื่อตกอยู่ในสภาพเดียวกับไกก็คงจะต้องสับสนไม่แพ้กัน
                    แววตาที่สับสนของไกทอขึ้นมาเพียงวูบหนึ่งก็ดับไป แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นอันแรงกล้าของมือปราบชั้นหนึ่งกลับมาอีกครั้ง เขากล่าวว่า หลังจากข้าออกเดินทางไปแล้วข้าอยากจะขอความร่วมมือกับเจ้าเรื่องหนึ่ง
                    ชานอนระบายลมหายใจโดยแรงกล่าวว่า มีเรื่องอะไรก็ขอให้เจ้ากล่าวโดยไม่ต้องอ้อมค้อมหรือปิดบัง เมื่อสถานการณ์ย่ำแย่เพียงนี้ หากข้าสามารถกระทำสิ่งใดได้ข้ารับรองว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
                    ไกกล่าวว่า ข้ามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นมือปราบชั้นหนึ่งเช่นเดียวกับข้า ข้าอยากจะให้เจ้าไปหาเขาเพื่อบอกเรื่องราวเหล่านี้ให้เขาได้รับรู้ ด้วยความสามารถและไหวพริบของเขาจะช่วยพวกเราได้เป็นอย่างดี
                    ชานอนกล่าวว่า เจ้าหมายถึงมือปราบชั้นหนึ่งปิแอร์อย่างนั้นหรือ
                    ไกหยิบซองจดหมายขึ้นมายื่นให้ชานอน กล่าวว่า เป็นเขานั่นเอง ถ้าหากเจ้าแสดงจดหมายนี้ต่อเขา เขาจะรู้ว่าเป็นสารที่ส่งจากข้าโดยตรงไม่แปลกปลอม เจ้าเองก็มีศักดิ์เป็นถึงครูประจำโรงเรียนเซนต์เอลลิส เขาสมควรจะเชื่อถือได้โดยสนิทใจ
                    ชานอนพลิกซองจดหมายดูทั้งด้านหน้าและหลังไม่พบตัวหนังสือใดๆ กล่าวว่า ในสารนี้ระบุเนื้อความอะไรเอาไว้ ข้าสามารถเปิดอ่านดูได้หรือไม่
                    ไกตอบว่า ซองนี้ปิดผนึกเอาไว้ด้วยเอลที่รู้กันในหมู่มือปราบชั้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากคนอื่นเปิดออกข้อความในจดหมายจะถูกทำลายไปสิ้น นี่เป็นการป้องกันข้อมูลรั่วไหลอย่างหนึ่ง ส่วนเนื้อหาในจดหมายนั้นระบุถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดซึ่งข้าได้เล่าให้เจ้าฟังไปแล้ว เพียงแต่เพิ่มเติมข้อความขอความช่วยเหลือจากปิแอร์ให้เขาดำเนินการผ่านผู้ตรวจการภาคกลางให้ส่งข่าวนี้ถึงผู้ปกครองจอห์นให้ได้
                    ชานอนกล่าวว่า ไม่มีปัญหาพรุ่งนี้เช้าข้าจะออกเดินทางในทันที เรื่องนี้ขอให้เจ้าวางใจได้ ว่าแต่ข้าจะไปเสาะหามือปราบปิแอร์ได้จากสถานที่ใด
                    ไกกล่าวว่า จากนี้ไปยังเมืองออรอนอันเป็นเมืองที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างนครมิสต์กับอาณาจักรนอร์ เจ้าจะพบบ้านพักหลังหนึ่งตั้งอยู่ปลายช่องเขาอาเรสก่อนที่จะเข้าเขตของเมืองออรอน โดยส่วนใหญ่แล้วปิแอร์จะพักอาศัยอยู่ที่นั่น ถ้าหากโชคเข้าข้างพวกเรา เจ้าสมควรจะพบเขาที่นั่น
                    ชานอนพยักหน้ารับปากไก กล่าวว่า ขอให้อลิซซ่าอำนวยพรต่อเจ้า
                    ไกกล่าวตอบว่า เจ้าก็เช่นกัน
                    พระแม่อลิซซ่าเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนจำนวนมากนับถือ ท่านเป็นตัวแทนของความสงบสุข ความอุดมสมบูรณ์และความปลอดภัย วิหารที่ใหญ่ที่สุดของอลิซซ่าอยู่ที่เมืองเอนเซลเลียร์ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของโรงเรียนเซนต์เอลลิส ประชาชนในอาณาจักรเอนเซลเกือบทุกคนนับถืออลิซซ่าเป็นเทพพิทักษ์ ทั้งชานอนและไกต่างก็นับถืออลิซซ่าเนื่องจากไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเอนเซลเลียร์มานาน หากนับเพียงเวลาที่เรียนที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสก็เป็นเวลากว่าแปดปี ประโยคที่ผู้คนที่นับถืออลิซซ่านิยมกล่าวกันเมื่อจะต้องออกเดินทางก็คือ ขอให้อลิซซ่าอำนวยพรต่อเจ้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×