ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #80 : เล่ม 3 - ตอนที่ 34 - ปฏิบัติการระทึกขวัญ (3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 816
      0
      10 ธ.ค. 50

    เวลาเที่ยงตรง ณ ริมฝั่งของแม่น้ำนอร์ริชน้อย
                    จระเข้ตัวเขื่องถูกสะพานเรือกั้นเอาไว้ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ มันโผล่จมูกปากอันใหญ่มโหฬารเหนือน้ำเล็กน้อยมุ่งหวังรอคอยสัตว์เคราะห์ร้ายที่ต้องสังเวยชีวิตเป็นอาหารเที่ยงอันโอชา
                    ลูทกับแจ๊คดำน้ำจากฝั่งขวาของแม่น้ำไปซ่อนตัวอยู่ประชิดสะพานเรือ ด้วยความที่พวกเขาอยู่อีกฝั่งหนึ่งจึงไม่เกรงกลัวจระเข้ยักษ์ตัวนั้น อย่างน้อยถ้ามันเล็งเป้ามาที่พวกเขาจริงก็ต้องขย้ำเรือไม้พวกนี้ให้แตกเป็นเสี่ยงๆก่อน อาศัยจังหวะเวลาช่วงนั้นฉวยโอกาสหลบหนีไป
                    เรือแต่ละลำมีความยาวประมาณสี่ห้าวาลำไม่ใหญ่นัก มีเสากระโดงกลางลำเพียงหนึ่งเดียว สามารถแล่นได้คล่องตัวและบังคับได้สะดวกด้วยคนเพียงสองคน นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งแจ๊คมิอาจล้างบางโจรพวกนี้ด้วยตัวคนเดียวได้
                    บรรดาโจรที่อยู่บนเรือเมื่อเห็นจระเข้ยักษ์จึงพากันทอดแหป้องกันแนวแม่น้ำฝั่งซ้ายเอาไว้ตามเคย จระเข้ยักษ์เหมือนจะรับรู้ความสามารถของมันเป็นอย่างดีไม่พาตัวเข้าไปเสี่ยงกับกองโจรเหล่านั้น ถึงแม้มันจะมีพลังมหาศาลแต่เมื่อเผชิญกับโจรอาวุธครบมือจำนวนสองสามร้อยคนก็ยากที่จะมีชีวิตรอดกลับไป
                    แจ๊คหันมามองลูทชี้นิ้วขึ้นไปด้านบนส่งสัญญาณเริ่มปฏิบัติการ เขาปีนขึ้นท้ายเรืออย่างไร้เสียงลอบเดินเข้าไปหาโจรบนเรือจากด้านหลัง เอามือปิดปากโจรผู้นั้นค่อยๆเก็บทีละคนด้วยชิมิทท่าร์โดยไม่เปิดโอกาสให้พวกมันส่งเสียงใดๆ ลูทที่เดินตามแจ๊คสับเปลี่ยนเป็นสวมชุดโจรแทน
                    เหตุไม่คาดฝันพลันเกิดขึ้น โจรคนหนึ่งที่กำลังปล่อยแหหันกลับมาเห็นแจ๊คพอดี จึงตะโกนร้องโวยวายแจ้งสัญญาณเตือนภัยแก่พวกพ้อง โชคดีที่ลูทผลัดเปลี่ยนเป็นชุดโจรเรียบร้อยจึงอาศัยความชุลมุนวุ่นวายปะปนเข้าไปในฝูงพวกมัน เหลือเพียงแจ๊คที่ถูกเปิดโปงอยู่หนึ่งเดียว
                    แจ๊คเห็นสถานการณ์ผิดพลาดจึงปล่อยตามน้ำ ถาโถมเข้าไปเข่นฆ่าพวกโจร สะบัดปลายเท้าเตะสองสามครั้งเห็นเป้าหมายกระเด็นลอยไปไกล จนได้ยินเสียงตูมๆที่เกิดจากร่างกระทบผิวน้ำ ดาบโค้งยาวเป็นพิเศษหมุนฉวัดเฉวียนอยู่ท่ามกลางฝูงโจรสิบกว่าคน ทุกสองหรือสามวินาทีก็ยังเกิดเสียงสมุนโจรแผดร้องโดนทำร้ายขึ้นคนหนึ่ง ลูทชมดูทั้งตะลึงตะลานและสะพรึงกลัว ไม่เคยเห็นผู้ใดใช้เพลงดาบได้ดีขนาดนี้มาก่อน
                    ลูทจัดการโยนร่างโจรสองคนที่ถูกแจ๊คเก็บไปก่อนหน้าลงแม่น้ำเพื่อเป็นการลดน้ำหนักเรือ วิ่งไปหาทางไขโซ่เหล็กที่ผูกเรือไว้
                    เนื่องจากโจรส่วนใหญ่ปลีกตัวไปพักผ่อนในเวลาอาหารกลางวัน สมุนที่เหลืออยู่ตามแนวสะพานเรือจึงมีเพียงยี่สิบกว่าคน เมื่อแจ๊คจัดการไปกึ่งหนึ่งพวกมันเห็นท่าไม่ดีจึงชิงหนีเตลิดเปิดเปิงขึ้นไปบนฝั่ง แจ้งสัญญาณเตือนภัยต่อพรรคพวก คาดว่าอีกไม่ถึงสองนาทีพวกมันนับร้อยจะยกกำลังแห่กันมาจัดการกับพวกเขา
                    แจ๊คตะโกนว่า “รีบไขโซ่เหล็กเร็วไอ้น้องชาย!
                    ลูทตะโกนตอบไปว่า “กำลังทำอยู่ อย่าพึ่งรบกวนสมาธิได้หรือไม่”
                    พวกเขาทั้งสองกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ลูทต้องหลับตาสงบใจที่เต้นเป็นรัวกลองมิให้ร่างกายตื่นเต้นจนเกินไป หากเป็นเช่นนั้นนิ้วมือจะสั่นจนมิอาจใช้ลวดไขแม่กุญแจสำเร็จ น่าเสียดายที่กุญแจผีที่เคยใช้ไขประตูบ้านพักไกกลับจมหายไปใต้แม่น้ำนอร์ริช
                    เวลาผ่านไปไม่ถึงนาที พวกโจรสามสิบกว่าคนที่อยู่ตามริมฝั่งก็ฮือกันเข้ามา ทั้งหมดถืออาวุธระยะประชิดทั้งสิ้น เป็นโชคดีของพวกเขาที่มือธนูส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนกะต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าโจรลาดตระเวนเหล่านี้
                     “เร่งด่วนด้วย พวกมันมากันแล้ว!” แจ๊คกล่าวพร้อมถือชิมิทท่าร์คู่ใจ กู่ร้องเสียงดังวิ่งเข้าไปโรมรันพันตูกับสมุนโจรระลอกสอง
                    แกร๊ก! ด้วยความยินดีชายหนุ่มผมน้ำตาลแดงจึงบิดแม่กุญแจออกสุดแรงแต่กลับมิอาจเปิดได้ พอดึงลวดออกมาดูก็พบว่าปลายหักไปหน่อยหนึ่ง เสียงเมื่อครู่เป็นเสียงที่ลวดหักมิใช่แม่กุญแจถูกถอดสลัก ลูทปาดเหงื่อคำรบหนึ่งสงบจิตใจลงให้มากกว่าเดิม มิอาจจะผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองไม่เช่นนั้นจะต้องเสียเวลาตั้งต้นใหม่อีกครั้ง
                    แจ๊คที่พัวพันกับเหล่าโจรระลองสองกวาดสายตามองไปเบื้องหน้าเห็นพวกโจรระลอกสามเกือบร้อยคนถือคันธนู หน้าไม้ ลูกศรมากันถ้วนหน้า หากปล่อยให้พวกมันมาถึงระยะร้อยก้าวปล่อยธนูออกมานับร้อยดอก เขาสองคนต้องไม่พ้นชะตากรรมกลายเป็นเม่นทะเลอยู่ตรงนี้
                    แกร๊ก! เหงื่อของลูทท่วมกายไปด้วยความตื่นเต้นจากแรงกดดันรอบข้าง บิดมือสุดแรงถอดแม่กุญแจออกจากโซ่ที่ล่ามเรือ ในที่สุดก็ไขแม่กุญแจสำเร็จ จนตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “สำเร็จแล้ว!
                    ทันใดนั้นเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น จระเข้ยักษ์ตัวเขื่องลอยมาจากแม่น้ำทางด้านซ้ายอ้าปากประกบเข้าไปที่สมรภูมิรบระหว่างแจ๊คกับพวกโจรด้วยความดุดัน บังเกิดเสียงแผดร้องของโจรดังลั่นด้วยความเจ็บปวดและสะพรึงกลัว กลิ่นคาวของโลหิตผู้เคราะห์ร้ายได้ชักนำพญาจระเข้ตัวนี้มาถึง
                    ความสนุกของจริงกำลังจะเริ่มต้นเท่านั้นพรานใหญ่คำนึงในใจ
     
    สมุนโจรคนหนึ่งทำหน้าที่ส่งข่าวเตือนภัยโดยเฉพาะ มันหนีรอดจากแจ๊คไปได้ในการต่อสู้รอบแรกวิ่งเข้าไปรายงานข่าวต่อขุนโจรเดรคบริเวณที่พักใจกลางเกาะ
                    “แย่แล้วหัวหน้าศัตรูบุก!
                    หัวหน้าโจรและบรรดาแกนผู้นำอีกสามสี่คนลุกขึ้น ขุนโจรเดรคในชุดกัปตันเรือสวมหมวกปีกสีแดงไขว้กระโหลกที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของอำนาจ มันเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีประสบการณ์ไม่ด้อยไปกว่าขุนโจรราเกซแห่งภาคตะวันตก มิฉะนั้นคงมิอาจสร้างอาณาจักรโจรได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พอได้ยินลูกน้องส่งข่าวเตือนภัย จึงแค่นเสียงครั้งหนึ่ง เอ่ยปากถามด้วยความสุขุมเยือกเย็นว่า “ผู้มาเป็นใครไม่เห็นข้าขุนโจรเดรคในสายตา?
                    สมุนโจรลุกลี้ลุกลนกล่าวว่า “เป็นบุรุษสองคนหัวหน้า คนหนึ่งเป็นยอดฝีมือใช้ดาบทิ่มแทงพี่น้องเราตายไปสิบกว่าคนแล้ว ระหว่างที่ข้ารุดมารายงานพี่น้องที่เฝ้าระวังชายฝั่งอีกสามสิบคนกำลังเข้ารับมืออยู่ เห็นท่าจะไม่ไหวแล้วท่านหัวหน้า”
                    หัวหน้าโจรได้ยินเช่นนั้นก็บันดาลโทสะกล่าวว่า “แค่คนสองคนเจ้ายังรับมือกันไม่อยู่อย่างนี้ ปล่อยให้มันฆ่าตายทั้งหมดเลยดีไหม?!” แต่พอทบทวนประโยคเมื่อครู่อยู่พักหนึ่งจึงกล่าวว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไร? มันใช้ดาบทิ่มแทงพี่น้องของเราอย่างนั้นหรือ?
                    สมุนโจรหน้าหดเหลือสองนิ้วกล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า “ช ... ใช่ ท่านหัวหน้า”
                    ขุนโจรเดรคสงบสติอารมณ์บังเกิดความเยือกเย็นขึ้นอีกครั้ง กล่าวว่า “ผู้มามีฝีมือสุดที่พวกเจ้าจะรับมือได้ ต่อให้กรูกันเข้าไปร้อยสองร้อยคนก็ไร้ประโยชน์ ดาบมิได้เอาไว้ใช้ทิ่มแทง จุดเด่นของดาบคือเอาไว้ฟาดฟันเบิกทางไปเบื้องหน้า ตอนนี้ศัตรูยังอ่อนข้อให้เจ้าอยู่อย่างน้อยกึ่งหนึ่ง”
                    สมุนโจรรับฟังดังนั้นก็ต้องกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่งอย่างเสียมิได้
                    ทันใดนั้นบังเกิดเสียงร้องของผู้คนดังขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ นอกเสียจากคำว่า “ไอ้เข้” เพียงคำเดียว ตามมาด้วยเสียงโครมครามจากการที่จระเข้ถล่มสะพานเรือผูกพังไปแถบหนึ่ง
                    หัวหน้าโจรผุดลุกขึ้นยืนสั่งการด้วยความคล่องแคล่วว่า “เจ้าไปตีระฆังบอกมือธนูทั้งหมดให้ออกศึก เป้าหมายอยู่ที่ไอ้เข้ยักษ์และผู้บุกรุกทั้งสองคน ยิงธนูไม่ต้องยั้งจับตายไม่ต้องจับเป็น จากนั้นส่งพิราบสื่อสารไปยัง ท่านผู้นำ รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น”
    สมุนโจรรีบพยักหน้าวิ่งออกไปสุดฝีเท้า
                    ขุนโจรเดรคหยิบศัสตราวุธเป็นดาบคู่มือร้องตะโกนว่า “พวกเราไป!” พอกล่าวจบเขากับแกนนำฝูงโจรก็พากันถืออาวุธวิ่งออกไปที่สะพานเรือเบื้องหน้า ในใจได้แต่คำนึงถึงเรื่องการรับมือของจระเข้กับผู้มาก่อนกวนสองคนนั่น
    พวกมันเป็นใครไฉนถึงกล้ามากระตุกหนวดขุนโจรถึงถิ่นแล้วผู้ใดกันที่อยู่เบื้องหลังกองโจรเหล่านี้?
                   
    จระเข้ยักษ์เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดของมนุษย์ที่ถูกแจ๊คเข่นฆ่าตกน้ำไปจึงโผล่ขึ้นมาอาละวาด กวางสามตัวที่จัดเตรียมไว้ก่อนหน้าจึงเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ตายโดยเปล่าประโยชน์อย่างแท้จริง
                    ลูกศรนับร้อยยิงจู่โจมจากบนฝั่งเข้าใส่จระเข้ยักษ์ หัวลูกศรไม่ระคายผิวที่มีเกล็ดอันแข็งแกร่งปกป้องแม้แต่น้อย ทุกหัวศรที่กระทบเกล็ดรังแต่จะเป็นการสะกิดต่อมโทสะให้มันบ้าคลั่งขึ้นอีก เป้าหมายของจระเข้ยักษ์ตัวนี้มิใช่การหาอาหารตามธรรมชาติอีกต่อไป ความรู้สึกโกรธแค้นที่มีผู้มาทำร้ายกระตุ้นให้มันล้างแค้นให้หมดถึงจะสาสมใจ ฟาดหางอันแข็งแกร่งทำลายเรือเป็นการใหญ่
                    ท่ามกลางสถานการณ์อันโกลาหลชุลมุนวุ่นวาย ร่างของแจ๊คอยู่ดีๆก็หายไปพร้อมกับเรือที่กำลังอัปปางลงอีกสองลำ ผู้คนจำนวนมากพยายามต่อสู้กับจระเข้ยักษ์ยับยั้งสัตว์ร้ายชนิดนี้จากการสังหารหมู่ แผนการก่อความวุ่นวายชักนำศัตรูจากสองทิศทางให้มาสู้รบปรบมือกันเองก็ประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย
                    ขณะนั้นลูทได้ยินเสียงตวาดอันทรงพลังของขุนโจรเดรคและบรรดาแกนนำ ร้องเรียกระดมกำลังหลายสาย เข้ามาบังคับบัญชากองโจรที่ไร้ระเบียบแบบแผนให้ต่อสู้อย่างเป็นระบบอีกครั้ง พลันนึกขึ้นในใจว่าแย่แล้ว สถานการณ์กลับมาเป็นเลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อได้ยินเสียงร่ำร้องจากโจรผู้หนึ่งทางด้านข้างว่า “เจ้ารีบไปรวมพลได้ยินไหมที่หัวหน้าสั่ง”
                    ลูทตัดใจชักกระบี่เขี้ยวราชสีห์ขึ้นต่อสู้ขัดขืน เสี้ยววินาทีคับขันเป็นตายทำให้ลืมเรื่องราวอื่นไปโดยสิ้นเชิง ใช้กระบี่ต่างดาบฟาดฟันออกไปเบื้องหน้า สมุนโจรคนนั้นถูกเขี้ยวราชสีห์ปาดเข้าดาบหนึ่งจนก้าวผิดพลาดตกแม่น้ำไป ร่องรอยของลูทที่ปลอมเป็นโจรก็เปิดเผยขึ้น ศัตรูอีกสามสี่คนที่เห็นเหตุการณ์จึงพากันวิ่งเข้ามาดักหน้าเขาไว้
                    เสียงโครมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อจระเข้ยักษ์พุ่งเข้าชนแนวสะพานจนแตกออก แหทั้งหลายที่ทอดเอาไว้ขาดกระจุยกระจายจมลงสู่ก้นแม่น้ำ เกิดแรงสั่นสะเทือนกระแทกมาถึงเรือลำที่ลูทยืนอยู่ จึงฉวยโอกาสนี้เปิดฉากรุกใส่โจรทั้งสี่คน ปลายกระบี่สีทองคุกคามให้สองในสี่ตกน้ำไปสำเร็จ
                    แต่ด้วยสถานการณ์เยี่ยงนี้ ลูทไม่มีเวลายินดีปรีดาอันใด หันคมกระบี่วกกลับเข้าต้านรับคมดาบโจรสลัดสองเล่มที่ฟันเข้ามา คลื่นบนแม่น้ำพุ่งขึ้นสูงเมื่อจระเข้ยักษ์กระแทกเรือจมไปอีกสองลำ แต่คราวนี้แรงสั่นสะเทือนจากเรือเป็นผลร้ายต่อเขา ถูกกระแทกจนหัวคะมำเกือบเป็นเหยื่อของคมดาบ ขนาดใช้กระบี่รั้งร่างเอาไว้ก็ต้านความแรงไม่อยู่จนร่วงหล่นลงน้ำไปพร้อมกับโจรทั้งสอง
                    พรานหนุ่มผมน้ำตาลแดงรับรู้รสของแม่น้ำนอร์ริชคาดเดาทางหนีทีไล่ได้ล่วงหน้า เมื่อครู่ก่อนตกน้ำได้กวาดสายตามองทิศทางการไหลของแม่น้ำวูบหนึ่ง ใช้แรงจากข้อเท้าดีดตัวไปยังด้านข้าง พุ่งตัวไปยังทิศที่กระแสน้ำพัดร่างเข้าหาเรือข้างเคียง เมื่อตกน้ำไปไม่นานก็ใช้มือตะกายน้ำจนคว้าจับขอบเรือด้านข้างปีนขึ้นมาได้สำเร็จ ลูทสำลักน้ำสองสามครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมาใหม่ก็พบเห็นร่างของโจรวัยกลางคนสองคนกระโดดขึ้นลงมาตามสะพานเรือที่ขาดห้วงมาทางด้านนี้
                    ลูทรีบหาที่พิงด้านหลังยึดร่างมิให้ซวนเซ เรียกสติจากอาการตกน้ำคืนกลับมาให้เร็วที่สุด มือหนึ่งถือกระบี่เขี้ยวราชสีห์ให้มั่น มองดูแกนนำโจรสองคนกระโดดมาจากฝั่งโน้นพุ่งมาหา ขณะยังมีเวลาสายตาก็สำรวจไปโดยรอบ เห็นโจรคนหนึ่งใส่หมวกกัปตันเรือตะโกนชี้มือชี้ไม้บงการลูกน้องสู้กับจระเข้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการสั่งการของขุนโจรเดรคที่ดูออกว่าเขาเป็นหนึ่งในตัวการ ต่อจากนั้นจึงกวาดสายตาไปเรื่อยๆพยายามหาร่างของแจ๊คแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา ดูท่าจะต้องเป็นห่วงตนเองก่อนผู้อื่น ใช้เวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดคิดหาหนทางรอดที่มีโอกาสมากที่สุด
                    ตำแหน่งที่ลูทยืนอยู่คือบริเวณช่วงกลางสะพานเรือ สองฟ้าซ้ายขวาเป็นแม่น้ำนอร์ริชที่เชี่ยวกราก หากตกลงไปที่ฝั่งขวาแล้วมิอาจว่ายขึ้นฝั่งได้ภายในสิบนาทีคงจะถูกกระแสน้ำพัดไปดั่งเช่นสองวันก่อน ส่วนฝั่งซ้ายมีความเป็นไปได้สูงว่าจะตกเป็นอาหารกลางวันของจระเข้ยักษ์อีกราย การหนีลงน้ำทั้งสองทางจึงเป็นเรื่องที่ไม่ชาญฉลาดทั้งสิ้น
    เบื้องหน้าลูทเป็นที่มั่นของพวกโจรแต่สะพานเรือบางส่วนขาดลง เว้นระยะห่างระหว่างช่วงลำเรืออยู่หลายวาไม่แน่ว่าจะกระโดดผ่านไปได้หรือไม่ อีกทั้งตอนปลายของสะพานเป็นสมรภูมิรบระหว่างโจรกลุ่มหนึ่งกับจระเข้ยักษ์ไม่อาจผ่านไปได้ด้วยดี แต่ถ้าเลือกที่จะรั้งอยู่ต่อไปก็คงจะต้องเผชิญกับแกนนำของโจรสองคนที่ไม่รู้ว่าจะสู้ได้หรือไม่
                    ขณะที่ลูทกำลังตัดสินใจถอยหลังเข้าฝั่งพลันเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงกะทันหัน แจ๊คกระโจนขึ้นมาจากผิวน้ำลงบนเรือที่ลูทยืนอยู่พอดีตะโกนบอกว่า “ตามมาไอ้น้องชาย!
                    ลูทเห็นแจ๊คกล่าวจบก็พุ่งนำหน้าเข้าใส่แกนนำฝูงโจรทั้งสอง จึงเปลี่ยนใจจากการหลบหนี กระโดดตามแจ๊คไปในทันที
                    แจ๊คพุ่งเข้าใส่แกนนำโจรสองคนอย่างไม่กลัวเกรง ตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมาร่างกายของพรานใหญ่ผู้นี้ยังไม่ปรากฏบาดแผลสักขีดหนึ่ง เมื่อชิมิทท่าร์กระทบกับดาบของแกนนำโจรวัยกลางคน แจ๊คพลันหยิบยืมพลังด้วยเพลงดาบอันล้ำลึก ชักนำให้ทั้งสองเสียหลักล้มไปด้านหน้าอย่างง่ายดาย เปิดทางให้ลูทสำเร็จแล้วตะโกนย้ำว่า “เร็ว! รีบวิ่ง!
                    เมื่อมีแจ๊คเป็นหัวหอกเบิกทางลูทจึงไม่จำเป็นต้องสนใจศัตรูเบื้องหน้าอันใด พยายามวิ่งให้เร็วที่สุดตามที่แจ๊คบอก โดยที่ไม่รู้หรอกว่าในน้ำเต้าของแจ๊คขายยาอันใด ... จนอีกประมาณห้าวินาทีให้หลัง
                    แกนนำของโจรสองคนเมื่อครู่ที่ถูกแจ๊คปัดจนถลันล้มเสียหลักลุกยืนขึ้นมาได้ พวกมันหันหลังกลับมาเตรียมจะไล่ตามพวกลูทอีกครั้ง ทันใดนั้นจระเข้ยักษ์ก็พุ่งเข้าใส่อ้าปากขย้ำเข้าที่เรือลำเมื่อครู่ ลำตัวสัตว์ร้ายโผล่พ้นน้ำกระแทกเรือสองสามลำล้มระเนระนาด
                    ที่แจ๊คหายไปครู่หนึ่งเนื่องจากเขาดำน้ำลงไปล่อจระเข้ยักษ์มาจากทางตอนปลายของสะพานเรือ ชักนำมันมาช่วยเหลือลูททางอ้อม และเป็นการทำลายเรือของกองโจรไปในตัวด้วย แต่ขณะนี้ทั้งสองกำลังวิ่งเข้าไปหาฝูงโจรจำนวนร้อยกว่าคนบนเกาะ แจ๊คนำหน้าโดยมีลูทตามหลัง อีกไม่กี่อึดใจก็จะเข้าไปในระยะสองร้อยก้าวอันเป็นรัศมีธนู
    ลูทลอบหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ สำหรับแจ๊คอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กในการหลบรอดห่าฝนธนูไป แต่สำหรับนับว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แว่วเสียงแจ๊คดังขึ้นที่ด้านข้างว่า “ถังน้ำมัน! รีบด่วนด้วย!
    ลูทเข้าใจในทันใดมองไปทางฝั่งเห็นถังน้ำมันตั้งเรียงรายอยู่ห่างไปสองร้อยก้าวเศษ พลางคว้าธนูขึ้นมาล้วงชุดไฟจุดใส่ปลายศร พันผ้าชุบน้ำมันที่แจ๊คเตรียมไว้ เมื่อผ้าชุบน้ำมันติดไฟลุกโชนขึ้นพลันเหนี่ยวคันธนูทำมุมสี่สิบห้าองศากับท้องฟ้า ปล่อยศรออกไปเป็นแนววิถีโค้งตกลงเบื้องหน้าถังน้ำมันประมาณสามสิบกว่าก้าว
    พลาด!
    ลูทหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาจากกลางหลังเมื่อเห็นมือธนูของพวกโจรตระเตรียมปล่อยธนูมาที่พวกเขา ร่ำร้องในใจว่า แย่แล้ว!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×