ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #84 : เล่ม 3 - ตอนที่ 36 - ไม่คาดฝัน (1)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 930
      1
      18 ธ.ค. 50

    ภาคเหยียบย่างนครหลวง
    ตอนที่ 36 ไม่คาดฝัน
    10 กุมภาพันธ์ อศ. 226
     
    ลูทก้าวออกมาจากที่พักในยามสนธยา
                    โรงแรมที่พักเป็นตึกสองชั้นมีห้องอยู่เพียงสิบกว่าห้องตั้งอยู่ริมทะเลสาบนอร์ซาน เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีสามีภรรยาคู่หนึ่งกับลูกจ้างไม่กี่คนก็สามารถจัดการบริหารได้ เหมาะสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาขึ้นเรือชมทะเลสาบหรือรอเรือโดยสารมุ่งหน้าไปยังนครหลวง
                    ข้างโรงแรมมีสวนดอกไม้แห่งหนึ่งจัดเอาไว้สวยงาม ต้นไม้ที่ปลูกไว้หลายสิบต้นล้วนเป็นต้นซากุระทั้งสิ้น ช่วงเวลานี้เป็นปลายฤดูหนาวดอกซากุระจึงไม่บานสะพรั่งเหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อครู่ลูทเห็นรูปวาดหลายรูปที่แขวนอยู่ตามผนังห้องแสดงถึงทัศนียภาพในช่วงดอกซากุระบาน จึงเกิดความตื่นตาตื่นใจอยากจะมาเยี่ยมชมให้ได้ แค่เพียงเห็นรูปวาดอารมสุนทรีย์ก็ถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้ง
                    ลูทเดินชมสวนข้างทะเลสาบปลดปล่อยจิตใจให้อยู่กับสภาพแวดล้อมฮัมเพลงขึ้นเบาๆ ลืมเลือนเรื่องราวภารกิจที่ต้องกระทำชั่วคราวนั่งลงบนม้านั่งยาวใต้ต้นซากุระต้นหนึ่ง หันหน้าเข้าหาทะเลสาบชมดูดวงอาทิตย์ในยามสายันห์ แสงตะวันส่องออกมาสวยงามอร่ามตาเปลี่ยนสีของต้นไม้ใบหญ้าข้างเคียงเป็นสีแดงไปสิ้น
                    ขณะที่เคลิบเคล้มกับบรรยากาศก็หยิบพิณหยกอ่อนขึ้นมามองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน พิณตัวนี้เป็นฮาร์ปขนาดเล็กสูงไม่ถึงศอกหนึ่ง มีสายทั้งหมดยี่สิบสี่สาย วิธีดีดจะใช้พาดบ่าหนีบกับซอกคอแล้วใช้สองมือช่วยกันบรรเลง ตัวพิณทำจากหยกแท้ๆเป็นสีขาวอ่อนอมเขียวเล็กน้อยจึงเรียกว่าพิณหยกอ่อน ที่จริงแล้วตั้งแต่ได้รับพิณตัวนี้มาก็เกิดเรื่องขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เคยทดลองดีดดูเลยสักครั้ง จนถึงบัดนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มผมน้ำตาลแดงกำลังจะดีดมัน
                    เสียงพิณที่ดังขึ้นจากนิ้วล้วนเป็นเสียงที่ใช้การไม่ได้ ลูทไม่ละความพยายามทดลองบรรเลงอยู่สองสามรอบก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม พลันหัวเราะขึ้นมานึกขึ้นในใจว่า เครื่องดนตรีชนิดนี้ดูท่าจะต้องฝึกไปอีกปีสองปีเป็นอย่างน้อยนึกย้อนกลับไปในอดีตถึงคราวที่ได้ฟังเสียงพิณตัวนี้ เขาไม่รู้ว่าเจ้าของพิณมีใบหน้าหรือรูปร่างเป็นอย่างไร แต่รู้ดีว่าเจ้าของพิณจะต้องเป็นเอกในบรรดานักดนตรีทั้งหลาย จนถึงขนาดกล่าวออกมากับตนเองว่า “บทเพลงอันไพเราะยิ่ง”
                    ลูทเก็บพิณหยกอ่อนคืนสู่สัมภาระใบเดิม สิ่งที่หยิบขึ้นมาอีกรอบหนึ่งกลับเป็นสมุดไร้เส้นเล่มหนึ่งพร้อมกับดินสอแท่งหนึ่ง ทั้งสองสิ่งเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้จำต้องพกติดตัวตลอดเวลา หากเกิดความคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆจะได้ร่างต้นแบบทันทีเพื่อมิให้ความคิดเหล่านี้สูญหายไปภายหลัง
                    จดทันทีดีกว่าลืมภายหลังอันเป็นคติประจำใจ
                    การต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดในหลายวันที่ผ่านมาทำให้ลูทเกิดความคิดที่จะพัฒนาหน้าไม้อัตโนมัติไปอีกขั้นหนึ่ง “ไฮดรา” ที่ถูกทำลายไปเมื่อศึกกลางแม่น้ำนอร์ริชนับเป็นต้นแบบชั้นเลิศ ขาดเพียงประสิทธิภาพยังไม่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความแข็งแรง หน้าไม้ไฮดราถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากความคิดที่แล่นเข้ามาในสมองชั่ววูบ หลังจากการพักผ่อนที่ทะเลสาบโอดิน สิ่งที่ลูทพยายามจะทำให้สำเร็จในไฮดรารุ่นแรกคือการพิสูจน์ว่ากลไกที่คิดขึ้นนั้นใช้งานได้จริง แต่สิ่งที่กำลังจะทำต่อไปนี้คือการปรับปรุงไฮดราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยยึดของเดิมเป็นต้นแบบ ปัญหาเรื่องกลไกการยิงเป็นชุด การนำลูกดอกจากกล่องกระสุนเข้าบรรจุในเบ้ายิงอัติโนมัติ แรงดีดสะท้อนที่เกิดจากการยิงลูกดอกติดต่อกันพวกนี้จึงมิใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป
                    ลูทเริ่มงานของเขาจากการคำนวณเบื้องต้น ชิ้นส่วนกลไกทุกชิ้นล้วนปรากฏขึ้นมาเป็นภาพคร่าวๆในสมอง ดินสอกับกระดาษเพียงสองสิ่งก็สามารถเป็นเครื่องมือในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ทรงประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นขนาด น้ำหนักหรือคุณสมบัติของวัสดุที่ต้องการล้วนผุดขึ้นมาจากความทรงจำที่แม่นยำ จากนั้นจึงทำการจดบันทึกเอาไว้ เวลาผ่านไปครู่หนึ่งกระดาษหลายแผ่นพลันมีตัวเลขอยู่เต็มหน้า จนในที่สุดการคำนวณก็เสร็จสิ้นลง
                    หลังจากการคำนวณขั้นต่อไปคือการร่างภาพ มือของลูทบรรจงร่างชิ้นส่วนของหน้าไม้ไฮดราตัวใหม่ขึ้นมาทีละชิ้น เขาเขียนลูกศรพร้อมคำอธิบายและตัวเลขกำกับภาพร่างทุกจุด ระบุว่าชิ้นส่วนไหนควรจะหมุนได้และหมุนในแกนใด ขนาดของชิ้นส่วนนั้นทั้งกว้างยาวและสูงสมควรเป็นเท่าไร น้ำหนักของแต่ละชิ้นควรจะอยู่ในช่วงไหน วัสดุของชิ้นนั้นควรจะทำมาจากสิ่งใด
                    พอร่างแบบคร่าวๆเสร็จจึงเริ่มการออกแบบกลไกเอลเทค กลไกพวกนี้ต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำ แร่เอลไลท์แต่ละชิ้นมิใช่ว่าจะมีคุณสมบัติเหมือนกันทุกประการ จริงอยู่ที่มันปลดปล่อยพลังงานออกมาได้เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่เขาต้องคำนึงถึงก็คือพลังงานเหล่านั้นสมควรถูกปลดปล่อยออกมาเป็นปริมาณเท่าใดและเมื่อใด ทันใดที่เหนี่ยวไกที่ด้ามจับกลไกเอลเทคจะเป็นตัวขับเคลื่อนเชื่อมโยงส่วนประกอบของหน้าไม้ไฮดรารุ่นที่สองทุกชิ้นให้ทำงานร่วมกัน นี่จึงเป็นสิ่งที่ลูทต้องใช้ความรอบคอบเรื่องการคำนวณเป็นพิเศษ หาไม่แล้วหน้าไม้ไฮดราจะใช้การได้เพียงในระยะเวลาสั้นๆ หลักจากยิงออกไปร้อยสองร้อยลูกก็จะเกิดอาการเบี่ยงเบน
                    เรื่องที่ลูทต้องนำบทเรียนในอดีตมาแก้ไขปรับปรุงคือเรื่องของความแข็งแกร่ง หน้าไม้ไฮดราอันแรกถูกกระแทกครั้งเดียวก็กระเด็นหักเป็นสองท่อน หากเป็นนักออกแบบผู้อื่นอาจจะโทษว่านั่นเป็นแรงของมังกรมิใช่แรงของมนุษย์ แต่ลูทรู้ดีว่าขอเพียงทำตกแค่ครั้งสองครั้งความแม่นยำของไฮดรารุ่นแรกก็จะลดน้อยไปกว่าครึ่ง ศูนย์การเล็งที่เปราะบางจะเบี่ยงเบนไป กลไกการบรรจุกระสุนโดยอัตโนมัติก็ไม่แน่ว่าจะใช้การต่อได้หรือไม่ เมื่อทำใจยอมรับข้อผิดพลาดของไฮดราในรุ่นแรก เขาจึงออกแบบใหม่โดยเพิ่มความแข็งแรงให้หน้าไม้ไฮดรารุ่นที่สอง จนสามารถรับแรงกระแทกได้ส่วนหนึ่ง มิใช่ว่าชนเพียงครั้งสองครั้งหรือทำตกเล็กน้อยก็เสียหายจนใช้การไม่ได้
                    ใครจะไปรู้ว่าหน้าไม้อัติโนมัติอันสมบูรณ์แบบที่จะถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต ถูกร่างขึ้นด้วยชายหนุ่มอายุยี่สิบปีคนหนึ่ง ในสถานที่ซึ่งไม่มีแม้แต่โต๊ะเขียนหนังสือเช่นนี้
                    เวลาที่คนเราพุ่งสมาธิไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างใจจดใจจ่อมักจะผ่านไปเร็วราวกับติดปีกบิน ดวงตะวันที่ลอยอยู่เหนือน้ำพลันจมลงไปส่วนหนึ่ง มีคนกล่าวกันว่าแสงอาทิตย์ในยามนี้เป็นแสงที่บรรเจิดกว่ายามใด ในที่สุดลูทก็ระบายลมหายใจออกมาจากอก มือที่จับดินสอวางลงด้วยความเมื่อยล้า แท่งดินสอทับกระดาษสี่ห้าแผ่นที่นับเป็นต้นแบบแห่งศัสตราวุธชนิดใหม่ในโลก เขารู้สึกว่าสิ้นเปลืองแรงไปมากหลาย ช่วงเวลาราวหนึ่งชั่วโมงที่นั่งขีดๆเขียนๆบังเกิดความเหนื่อยล้าไม่ต่างจากคนปกติที่วิ่งติดต่อกันเป็นระยะทางหลายพันวา งานที่ต้องบีบคั้นรอยหยักทุกรอยในสมองออกมาใช้อย่างเต็มกำลังมิใช่งานที่สบายแม้แต่น้อย เขารู้ดีแต่เขาก็ยังรักที่จะทำมัน กล่าวออกมาเบาๆกับตนเองว่า “เสร็จเสียที”
                    ไฮดรารุ่นแรกเกิดขึ้นเพราะริมทะเลสาบมรกต
                    ไฮดรารุ่นที่สองเกิดขึ้นเพราะริมทะเลสาบนอร์ซาน ...
                    พลันมีสายลมพัดจากฝั่งเข้าสู่ทะเลสาบอย่างแรงวูบหนึ่ง ดินสอที่ทับกระดาษพวกนั้นไว้กลิ้งตกลงไปเบื้องล่างกระดาษสามสี่แผ่นถูกพัดปลิวไปตามกระแสลมลอยละลิ่วไปยังทะเลสาบนอร์ซานเบื้องหน้า
    “ให้ตายเถอะ” ลูทอุทานขึ้นมาอย่างตกใจพลันลุกจากม้านั่งยาวตามไปเก็บกระดาษเหล่านั้นรีบคว้ากระดาษแผ่นแรกเอาไว้ได้ก่อนมันตกถึงพื้น แผ่นที่สองปลิวไปราวสองวาเศษก็ยังคว้าเอาไว้ได้ ส่วนแผ่นที่สามปลิวไปเกือบถึงริมทะเลสาบก็ยังพุ่งไปรับทัน แต่เห็นได้ชัดว่าแผ่นสุดท้ายกำลังจะปลิวตกไปบนผิวทะเลสาบโดยที่ไม่มีความหวังจะได้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ สวรรค์ไม่กลั่นแกล้งเขาเกินไปหน่อย หากกระดาษแผ่นนี้ถูกกระแสน้ำพัดพาไปตามทะเลสาบ การคำนวณทั้งหมดที่ผ่านมาก็ต้องกระทำใหม่อีกครั้ง
                    มืออันเรียวงามขึ้นหนึ่งถลันวูบมาจับกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ สายตาอันสวยซึ้งทั้งสองจ้องมองมาที่ลูทยิ้มให้ครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “ยังดีที่ไม่ตกลงน้ำ”
                    ลูทกลับมิได้ยินคำกล่าวของหญิงสาวคนนั้น ผมอันดำขลับและใบหน้าที่สวยประดุจเทพธิดามาจุติได้สะกดความรู้สึกนึกคิดไปชั่วคราว
    ในโลกใบนี้จะมีผู้หญิงคนไหนงดงามเท่านี้อีกไหม? เขามั่นใจได้ว่าไม่มี
     
    เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง โรซาไลน์ที่นั่งติดประตูมากที่สุดจึงลุกขึ้นไปเปิด
                    เด็กหญิงชาวบ้านคนหนึ่งที่เป็นลูกมือของเมลยกข้าวปลาอาหารมื้อเย็นมาให้พวกโรสทั้งสาม นางกล่าวขอบคุณครั้งหนึ่งแล้วมอบเหรียญเงินให้เด็กหญิงคนนั้นไปเหรียญหนึ่งเป็นค่าขนม เด็กหญิงยิ้มหน้าบานด้วยความปิติกล่าวขอบคุณพี่สาวแสนน่ารัก รีบวิ่งออกไปด้วยความดีใจ
                    บางครั้งเศษเงินที่ไม่มีค่าเท่าใดสำหรับผู้หนึ่งอาจเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับอีกคนหนึ่งก็ได้
                    บลูเห็นอาหารมื้อเย็นเป็นข้าวผัดคะน้ากับปลาทอดจึงกล่าวว่า “โชคดีนะนี่ที่พวกเรามีพ่อครัวแม่ครัวชั้นดีทำอาหารให้ ไม่อย่างนั้นพี่ไกคงจะต้องทนกับรสชาติอาหารของพ่อครัวแม่ครัวชั้นเลวอย่างข้ากับโรสเสียแล้ว”
                    โรสหันหน้าไปค้อนบลูทีหนึ่ง ถลึงตาใส่กล่าวว่า “จะกินหรือไม่กิน ถ้าเจ้าไม่อยากกินก็บอกได้นะข้าจะได้เอาข้าวพวกนี้ไปคืนพี่เมล”
                    บลูยกมือสองข้างขึ้นทำท่ายอมศิโรราบกล่าวว่า “กินขอรับกิน”
                    ไกเห็นน้องสองคนหยอกล้อกันจึงอดหัวเราะขึ้นมามิได้ กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เป็นไรหรอก หากเสร็จเรื่องเหล่านี้แล้วไว้ข้าจะสอนเคล็ดลับการทำอาหารให้กับเจ้า ต่อไปจะได้ไม่ถูกจัดเป็นพ่อครัวแม่ครัวชั้นเดียวกับบลู”
                    โรสยิ้มออกจนได้ กล่าวว่า “จริงหรือพี่ไก? มือปราบพูดแล้วห้ามคืนคำ”
                    ไกพยักหน้ากล่าวว่า “ข้าให้สัญญา”
                    พ่อครัวชั้นเลวบังเกิดความหิวสุดทนทาน กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกินกันเสียทีเถอะ หลายวันมานี้ข้าได้กินแต่อาหารลิงไม่ได้กินอาหารมนุษย์ พอได้กลิ่นข้าวปลาอาหารจึงหิวโหยจะแย่อยู่แล้ว” พอกล่าวจบคนทั้งสามก็พากันรับประทานอาหารเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย นับเป็นอาหารมื้อแรกในรอบสามวันที่มิใช่ผลไม้ป่า
                    ขณะที่รับประทานกันอยู่สตรีเพียงหนึ่งเดียวพลันนึกถึงช่วงเวลาในเมืองโอดิน อาหารมื้อที่ไกทำพาสต้าคาร์โบนาร่า ครั้งนั้นพวกเขามีด้วยกันทั้งหมดห้าคนรับประทานอาหารอย่างมีความสุข แต่บัดนี้เหลืออยู่เพียงสามคนโดยไม่ทราบว่าลูทกับพริมหายไปไหน ถึงกับวางช้อนส้อมความรู้สึกอยากอาหารลดลงไปเกินกว่าครึ่ง
                    ไกนั่งอยู่ด้านขวาของโรสพลันสังเกตสีหน้าของนางออก กล่าวว่า “เจ้ามีความในใจอันใดอย่างนั้นหรือ?
                    โรสส่ายศีรษะกล่าวว่า “ข้าคิดถึงลูทกับพริม”
                    บลูที่กินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยกลับต้องวางอาวุธเช่นเดียวกัน กล่าวปรับขวัญปลอบใจโรสว่า “ข้ามีความมั่นใจอยู่ลึกๆว่าลูทจะต้องเอาตัวรอดไปได้ ลูทที่ข้ารู้จักเป็นพรานป่าที่แข็งแรงทรหดกว่าใครเพื่อน มีวิชาทางน้ำดีพอสมควรและความสามารถในการเอาตัวรอดอันดีเยี่ยม ในตอนนี้เขาอาจจะไปนอนรอพวกเราอยู่ที่นครหลวงแล้วก็ได้ เจ้าอย่าเก็บมาเป็นกังวลจะดีกว่า”
                    ไกกล่าวเสริมเรื่องพริมว่า “ส่วนพริมเองก็มีนกปีกเงินที่ช่วยสอดส่องดูลาดเลาบนฟ้าราวกับเป็นดวงตากลางเวหาคู่หนึ่ง รับรองว่าไม่มีผู้ใดทำอันตรายนางได้แน่”
                    บลูกล่าวต่อไปว่า “พวกเราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันอีกดีกว่า วันพรุ่งนี้พวกเราจะอยู่หรือไปก็ยังไม่ทราบได้ หากพวกเราเก็บเรื่องของลูทและพริมมาเป็นกังวลคงจะทำให้สมาธิโยกคลอนสูญเสียจิตใจการมุ่งหน้าสืบไป ตอนนี้พวกเราต้องตั้งสติให้มั่นฟันฝ่าอุปสรรคใกล้ตัวเบื้องหน้าให้ได้เสียก่อน หากรอดชีวิตถึงนครหลวงแล้วค่อยกังวลเรื่องลูทกับพริมอีกครั้งก็ยังไม่สายจนเกินไป”
                    โรสพยักหน้าครั้งหนึ่ง สลัดความกลัดกลุ้มออกไปชั่วคราว กล่าวตอบว่า “ขอบใจมากบลู ขอบคุณมากพี่ไก”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×