ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่มือปีศาจและศาสตร์มืด

    ลำดับตอนที่ #110 : อากุส-แบท-มาห์ล่าท์ -Agrat-bat-mahlaht

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 920
      5
      21 มิ.ย. 61





    อากุส-แบท-มาห์ล่าท์ เป็นหนึ่งในสามราชินีแห่งปีศาจ และหนึ่งในสี่นางฟ้าผู้อุปถัมภ์โสเภณีศักดิ์สิทธิ์(หญิงโสเภณีที่คอยบำเรอเหล่านักบวช) ปรากฏในตำนานของชาวยิว เป็นหนึ่งในชายาของซาตาน โดยมาห์ล่าท์เป็นปีศาจเผ่าซัคคิวบัส(นางปีศาจแฝงฝัน) นางทำงานร่วมกับซามาเอล และเป็นสหายคนสนิทของลิลิธ นามาห์ และไอเชธ ซึ่งทั้งสามนางที่กล่าวมา ก็ถือเป็นซัคคิวบัสเช่นเดียวกับมาห์ล่าท์ด้วย 

    ในด้านของพลัง มาห์ล่าท์มีพลังสามารถปลุกอารมณ์ทางเพศได้ พร้อมๆกันก็สามารถสอนแม่มดในในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะพิธีกรรมที่ต้องมีเรื่องของเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือสอนให้แม่มดเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองก็ได้อีกด้วย




    ตราปีศาจของอากุส-แบท-มาห์ล่าท์ โดย VK Jehannum



    เกร็ดความรู้เพิ้มเคิม

    โสเภณีศักดิ์สิทธิ์-Sacred prostitution




    เทวทาสี ถ้าจะเรียกในภาษาทั่วไปในปัจจุบันก็อาจเรียกว่า โสเภณีทางศาสนา (religious prostitute) หรือบางทีก็เรียกโสเภณีศักดิ์สิทธิ์ (sacred prostitute)  

    พระคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิมกล่าวถึง "เทวทาส" และ "เทวทาสี" ไว้อย่างนี้ว่า

    "..ผู้หญิงชาวอิสราเอลนั้น อย่าให้คนหนึ่งคนใดเป็นเทวทาสี  อย่าให้บุตรชายอิสราเอลคนหนึ่งคนใดเป็นเทวทาส  ท่านอย่านำค่าจ้างของเทวทาสี หรือค่าจ้างจากหมา มาในวิหารของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เป็นเงินแก้บนอย่างหนึ่งอย่างใด   เพราะสิ่งทั้งสองนี้ เป็นสิ่งพึงรังเกียจแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน"  
    (เฉลยธรรมบัญญัติ 23:17-18) 

    คำว่า เทวทาส และ เทวทาสี หรือจะเรียกว่า ทาสของเทพเจ้าที่่มีทั้งชายหรือหญิง ก็ได้ หมายถึง ชายหรือหญิงผู้ให้การร่วมประเวณีในพิธีศาสนาแก่ผู้มาทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้า   แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นหญิงจะมีมากกว่า 

    ธรรมเนียมในเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ในความเชื่อโบราณนั้น เชื่อว่า การที่คนจะมาบวงสรวงบูชาเทพเจ้า  หรือจะขออะไรจากเทพเจ้านั้น ต้องทำให้เทพเจ้าพอใจ  หรือสนใจมาดู จึงจะสัมฤทธิ์ผล  ซึ่งวิธีการก็มีหลายแบบ  

    อันปกติทั่วไป คือใช้การเซ่นไหว้ด้วยอาหาร  หรือเผาสิ่งต่างๆรวมทั้งเครื่องหอมให้เป็นควันลอยขึ้นไปให้เทพเจ้าได้รับหรือได้รู้   ที่ควบคู่กันไปก็คือ ใช้การร่ายรำโดยอิสตรีที่สวยงาม  และมักต้องใช้หญิงสาวพรหมจารีย์ด้วย   เพราะมักจะเชื่อกันว่าเทพเจ้าก็คงชอบอะไรแบบนั้น         

    แต่ถ้าอยากให้ขลังขึ้นต่อมาคือ ใช้การร่วมเพศกับเทวทาสหรือเทวทาสีนี่เอง   เชื่อว่าอันนี้จะเรียกร้องความสนใจจากเทพเจ้าให้อยากก้มลงมาดูมากขึ้น   ทีนี้จะขออะไรก็จะได้ดังประสงค์  นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นอีก เช่น อาจใช้ความรุนแรง อย่างการเชือดเนื้อกรีดเลือด   มีทั้งการใช้สัตว์บูชายัญ แต่ถ้าจะให้ขลังขึ้นก็ต้องเป็นเชือดเนื้อกรีดเลือดมนุษย์          

    พระคัมภีร์ตอนที่ว่านี้เขียนขึ้นมานมนานหลายพันปีแล้ว   ระบุให้ชัดก็คือเขียนในวัฒนธรรมเมโสโปเตเมียโบราณ  ย้อนไปไกลถึงสามพันปีก่อนคริสตศักราช  แสดงว่าธรรมเนียมปฏิบัติอันนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในวัฒนธรรมมนุษย์มาตั้งแต่โบราณกาล  และค้นพบว่ามีในหลายวัฒนธรรมหลายศาสนาในหลายดินแดนของโลกด้วย  ตั้งแต่ศาสนาเทพเจ้าโบราณทางเมโสเปเตเมีย  ศาสนาเทพเจ้ากรีก-โรมัน  มาจนถึงศาสนาฮินดู   ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตายไปหรือสูญหายไปหมดแล้ว  อิทธิพลของศาสนายิวและคริสต์ มีผลต่อการดับสูญของวัฒนธรรมประเพณีอย่างมาก  

    แต่เหลือเชื่อว่า ธรรมเนียมอันนี้ยังมีคนเชื่อและปฏิบัติอยู่ในศาสนาฮินดูบางกลุ่มในประเทศอินเดีย  แม้จนทุกวันนี้

    ที่มาข้อมูลเพิ่มเติม: - http://sinchaichao.blogspot.com/2012/10/blog-post_121.html
                                   - https://en.wikipedia.org/wiki/Sacred_prostitution

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×