ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่มือปีศาจและศาสตร์มืด

    ลำดับตอนที่ #39 : กลาเซีย ลาโบลัส-Glasya-Labolas

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.85K
      4
      13 มิ.ย. 61





    กลาเซีย ลาโบลัส ประมุขแห่งนรก ปีศาจตนที่ 25 ผู้รับใช้ราชาโซโลมอน

    ลำดับ: 25


    ผู้ปกครอง: กาป

     

    ตำแหน่ง : ประมุข,เคาท์

     

    ธาตุ :  ไฟ

     

    สถานที่ : ทิศใต้ของนรก

     

    โลหะประจำ : เงิน,ทองแดง,ปรอท

     

    สีประจำ : สีส้ม,สีแดง

     

    ดวงดาว : ดาวพุธ,ดาวอังคาร

     

    พืชประจำ : โรสแมรี่   


    ไพ่ทาโรต์:  5 ไม้เท้า


    ตำแหน่งราศี: 0-4 องศาของราศีสิงห์

     

    ช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุด:  23-27 กรกฎาคม  

     

    ของเซ่นไหว้(เครื่องหอม) :  -       Storax (กำยาน จากต้นไม้จำพวก styrax)

          -          เทียนสีเหลือง

          -          เลือดมังกร


    กลาเซีย ลาโบลัส  ในเกม The Last Remnant


    ปีศาจตนนี้มีหลายชื่อ ทั้ง กลาเซีย ลาโบลัส- Glasya-Labolas,คลาคริโนลาอัส- Caacrinolaas และ คาอัสซิโมลาร์- Caassimola เป็นปิศาจตนที่ 25 ในแดนนรกโกเอทีย ครองตำแหน่งประมุขผู้ทรงอำนาจ คุมแดนใต้มี 36 กองทัพภายใต้การควบคุม เป็นปีศาจแห่งกลางวัน

     

    กลาเซีย ลาโบลัส มักปรากฏตัวในรูปร่างของสุนัขที่มีปีกของกริฟฟิน มีพลังในการสอนทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาสั้นๆได้ และยังสามารถนำการฆาตกรรมและการนองเลือดมาสู่สถานทีที่ตนปรากฏกายได้ด้วย (แต่หากขอให้มีความรักเกิดขึ้นเขาก็สามารถให้ได้ หากนั่นเป็นคำสั่งของเจ้านายผู้เรียก)




    ตราผนึกที่ใช้ควบคุม กลาเซีย ลาโบลัส 


    เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

    โรสแมรี่-Rosemary




    มีคำบอกเล่าสืบทอดหลายชั่วอายุคน เกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่เรียกว่า “โรสแมรี่” ที่ คนโบราณแถบยุโรปและอเมริกาคุ้นเคยเป็น อย่างดี นอกเหนือจากการนำมาแต่งรสชาติ อาหารเพื่อให้รสสัมผัสที่ดีแล้ว ยังเชื่อกันว่า โรสแมรี่มีสรรพคุณช่วยให้ความจำดีขึ้น

    สมัยโบราณผู้รอบรู้ชาวกรีกมักจะสวมพวงโรสแมรี่ไว้บน ศีรษะเพื่อช่วยให้คงความรู้ และสัญลักษณ์นี้ได้เชื่อมโยงกับความ ทรงจำมาจนถึงปัจจุบัน ในวรรณกรรมต่างๆ ภาพวาดก็มีให้ พบเห็น ตรงนี้เองที่ทำให้ “โรสแมรี่” กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ความจำ” อีกหนึ่งความชัดเจนในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับโรสแมรี่ พืชสมุนไพรชนิดนี้ ทานได้และมีสรรพคุณมากมายตั้งแต่ลำต้นจรดยอดใบ

    โรสแมรี่มาใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นลำต้น น้ำมัน น้ำและใบอ่อน ทำเป็นยาเพื่อบำบัดอาการต่างๆ สำหรับต้นโรสแมรี่นั้นประกอบ ด้วยกรดแทนนิน พร้อมเรซิ่น ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหย ที่มีรสขม ส่วนประกอบต่างๆ ในโรสแมรี่ ไม่มีสี แต่มีกลิ่นของโรสแมรี่ ส่วนผสมที่เจือปนอยู่ในน้ำมันโรสแมรี่ คือ น้ำมัน turpentine และ petroleum โรสแมรี่เข้ากันได้กับน้ำบางส่วน และสามารถเข้ากันได้ดีกับเหล้ากลั่นชนิดต่างๆ เช่น เบียร์ ไวน์ เป็นต้น
    ใบของโรสแมรี่มีกลิ่นหอมแรง ในต่างประเทศนิยมนำไปใช้แต่งกลิ่นอาหารหลายอย่าง คล้ายๆกับใบสะระแหน่ของไทย โดยใช้ใบแห้งหรือสดก็ได้ โรยหรือคลุกกับอาหารจำพวกปลาและเนื้อเพื่อดับกลิ่นคาว ทำให้มีกลิ่นหอมชวนรับประทานดีมาก หรือเด็ดใบสดเคี้ยวทำให้ปากมีกลิ่นหอมได้ด้วย นอกจากนั้น ใบยังถูกนำไปสกัดเป็นน้ำหอม ครีมอาบน้ำ และเป็นส่วนประกอบของยาดมหลายยี่ห้อได้รับความนิยมแพร่หลาย

    วิธีการทำน้ำฮังการี น้ำมันสำหรับทาแก้ปวดเมื่อย

    ให้นำเอายอดโรสแมรี่พร้อมดอกประมาณ 1 ปอนด์ครึ่ง มาใส่ในเหล้าไวน์ 1 แกลลอน ตั้งทิ้งไว้ 4 วันแล้วนำมากลั่น น้ำฮังการีได้รับการยอมรับว่าสามารถรักษาอาการโรคเก๊าต์ที่มือ และเท้าได้ โดยนำมาถูทาบริเวณฝ่ามือและเท้าบ่อยๆ

    วิธีการทำน้ำโรสแมรี่ไวน์

    ให้ตัดกิ่ง โรสแมรี่ที่ยังสดอยู่ รินไวน์ขาวใส่เข้าไป แช่ไว้ 2-3 วัน นำมา กรองเอาเศษไม้ออก น้ำไวน์โรสแมรี่ที่ได้จะช่วยกระตุ้นสมอง และบำรุงประสาท ใช้รักษาอาการปวดหัว อันมีสาเหตุมาจาก ร่างกายอ่อนเพลียได้ รับประทานแต่เพียงน้อย จะช่วยกระตุ้น หลอดเลือด รักษาอาการหัวใจอ่อนเพลีย ใจสั่น บรรเทาอาการ ท้องมาน โดยกระตุ้นไตให้ทำงาน

    วิธีการทำชาโรสแมรี่ (Rosemary Tea)

    ยอด อ่อนใบ และดอกสามารถนำมาผสมรวมกันใช้ดื่มเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น ใช้รักษาอาการปวดศีรษะ อาการจุกเสียด เป็นไข้ และโรค ประสาท ส่วนน้ำเชื่อมโรสแมรี่มีบันทึกว่าให้สรรพคุณเช่นเดียว กัน โดยนำเอายอดสดๆ มากวนกับน้ำตาลหนัก 3 เท่าของ โรสแมรี่ ใช้ดื่มกิน

    เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสรรพคุณที่มากเกินตัวของพืชสมุนไพรใบเล็กๆ อย่างโรสแมรี่ที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในทางศาสตร์การบำบัด และตัวยาใช้สำหรับรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ แต่สำหรับทางด้านการอาหารแล้วนั้น โรสแมรี่ก็จัดได้ว่าเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยมที่นิยมนำมาปรุงอาหาร ถ้าให้ดีควรเป็นประเภทเนื้อแกะ ปลา ไก่หอย บาร์บีคิว เป็นต้น ใช้ในรูปของการหมักเนื้อสเต๊กทำซอส และแต่งกลิ่นซุป บางครั้งยังใช้เป็นส่วนผสมในขนมอบ เพื่อเพิ่มรสชาติและอรรถรสของอาหารแต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี


    อ้างอิงเกร็ดข้อมูลเพิ่มเติ


    https://m.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1455147511363916&id=1420468844831783



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×