ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Prince of Tennis :: Amazing Grace

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 Exchange Student นักเรียนแลกเปลี่ยน 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 235
      1
      26 ต.ค. 52

    The Prince of Tennis :: Amazing Grace

    Chapter 2 Exchange Student

     

                พวกนายมาทำอะไรแถวนี้

     

                    เสียงนุ่มถามขึ้น เรียกให้พวกตัวจริงสะดุ้งเฮือกกันเป็นแถวจนเกือบพุ่งออกไปจากพุ่มไม้ที่ซ่อนอยู่ ตัวจริงทั้งหกหันมาทางต้นเสียงที่ทำเอาพวกเขาเกือบถูกจับได้ แต่ก็ผิดคาด!!!

     

    พวกนายมาทำอะไรตรงนี้

     

    เสียงนุ่มถามย้ำอีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลจ้องมองไปยังกลุ่มคนที่มาแอบดูเธออย่างคาดคั้น พวกตัวจริงพอรู้ว่าถูกจับได้ก็เริ่มนั่งไม่อยู่ขึ้นมา จะบอกไปว่าอะไรดี? ยิ่งไม่ตอบแววตาคาดคั้นของสึราระยิ่งเพิ่มขึ้นมากยิ่งขึ้น แต่ก็เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน

     

    โดนจับได้จนได้แฮะ เรียวมะตอบเรียบๆพลางขยับปีกหมวก

     

    แสดงว่าพวกนายมาแอบดูการซ้อมของฉันสินะ สึราระตอบเรียบๆพลางมองหน้าทั้งหกคนเรียงกันไป

     

    ต้องขอโทษจริงๆนะที่มาแอบดูแบบนี้น่ะ โออิชิเดินมาหาสึราระพร้อมกับขอโทษ

     

    รอยยิ้มหวานๆปรากฏขึ้นบนใบหน้า เปลี่ยนให้จากท่าทางดุๆกลายเป็นนางฟ้าขึ้นมาทันที แววตาคาดคั้นเปลี่ยนเป็นสดใสอ่อนโยนขึ้นมาทันที

     

    ถึงจะเสียมารยาทนิดหน่อยก็เอาเถอะ แต่เป็นใครๆก็อยากรู้กันทั้งนั้นแหละ พูดพลางยิ้มออกมาน้อยจนเป็นนิสัยส่วนตัวของสึราระ เป็นเหมือนให้อภัยพวกตัวจริงที่มาทำเสียมารยาทกับเธอ

     

    ว่าแต่เถอะ... รู้ทั้งรู้ว่าต้องทิ้งชมรมไปแต่ทำไมถึงยังยิ้มอยู่ได่ล่ะครับ โมโมะถามขึ้น เรียกให้สึราระหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มเลกน้อยแล้วเดินผ่านโมโมะแล้วพูดขึ้นว่า

     

    เวลาน่ะ... ยังมีอีกเยอะที่จะให้รู้อนาคต 

    คำพูดทิ้งท้ายที่เรียกให้เหล่าตัวจริงมองมาอย่างงงๆ ซึ่งพวกเค้าเองก็เข้าใจที่สึราระพูดมันหมายความว่าอย่างไร ยิ่งคิดก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงปริศนาบางอย่างของกัปตันทีมเทนนิสหญิงที่ได้ชื่อว่าอ่อนโยนและใจดีกับทุกคน

     

    มันหมายความว่ายังไงน่ะ เอจิถามขึ้นอย่างสงสัยในคำพูดของสึราระ

     

    รอดูต่อไปล่ะมั้งนะ ฟูจิพูดพลางมองดูหญิงสาวที่กำลังเดินจากพวกเขาไป

     

    น่าสนใจจริงๆ อินูอิพูดพลางจรดปลายปากกาเขียนรายละเอียดลงไปในสมุด

     

    เอาเถอะ ถึงจะน่าสนใจแต่วันนี้พวกเรากลับบ้านกันก่อนดีกว่านะ โออิชิพูดขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้าทาสีแดงสดเกือบทั่วทั้งฟ้า ใกล้จะค่ำแล้ว

     

    ทุกคนเห็นด้วยกับโออิชิ พากันเดินออกจากคอร์ทเทนนิสหญิง แต่ทว่า...

     

    เจ้าเอจิเซ็นหายไปไหนน่ะ

     

     

     

    มีอะไรหรือเปล่า ถึงได้เดินตามมาตั้งนาน สึราระหยุดเดินพร้อมกับถามคนที่เอาแต่เดินตามมา

     

    รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เรียวมะพูดขึ้นพลางเดินออกมาจากหลังต้นไม้ข้างทาง พร้อมกับขยับปีกหมวกเล็กน้อย

     

    มีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอ สึราระหันมาถาม

     

    เรียวมะยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากพลางเดินเข้ามาใกล้กับสึราระ เทียบให้เห็นระดับความสูงเหมือนพี่สาวกับน้องชายอย่างชัดเจน

     

     ก็นิดหน่อยน่ะ เรียวมะพูดพลางมองหน้าสึราระ นัยน์ตาสีฮาเซลฉายแววท้าทายที่ชวนให้สึราระรู้สึกประหลาดใจ แต่มันก็อวดดีเกินไป!

     

    ถ้าหมายถึงท้าแข่งล่ะก็... ไปเปลี่ยนพฤติกรรมให้ความเคารพกันหน่อยแล้วฉันถึงจะแข่งด้วย

     

    ไม่มั่นใจงั้นเหรอ คำพูดท้าคนอายุมากกว่า2ปี จนคนแก่กว่าเริ่มรู้สึกยั้วกับคำพูดที่ไม่ให้ความเคารพกัน

     

    นัยน์ตาสีฮาเซลมองสึราระด้วยแววตาที่แสดงความเหนือกว่าเป็นการท้าทาย นัยน์ตาสีนิลของสึราระสั่นระริกเล็กน้อยก่อนเจ้าของจะปรับให้มันเป็นปกติ เธอไม่ชอบคนที่ไม่ให้ความเคารพกัน! แล้วก็อย่าหวังเลยว่าเธอจะแสดงกิริยาเหลือทนให้ใครเห็น

     

    เมื่อไหร่ก็ตามที่นายแก้ไขสายตาหยิ่งๆนั่นได้ฉันก็จะแข่ง สึราระพูดด้วยเสียงเรียบพร้อมกับเดินต่อไปโดยไม่สนใจเรียวมะที่ยืนมองตนอยู่

     

    นัยน์ตาสีฮาเซลมองสึราระที่กำลังเดินไปด้วยแววตานิ่งเฉย แต่ทว่ากลับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างพอใจ ในหัวก้องไปด้วยคำพูดทิ้งท้ายของสึราระ แต่อย่างเรียวไม่มีทางจะยอมใครง่ายๆเพื่อเรื่องแค่นี้ ในใจกลับคิดที่จะหาทางแข่งกับเธอคนนี้ให้ได้

     

     

     

    ไปเจอคนท่าทางแบบนั้นคงเจ็บใจไม่น้อยเลยสินะ เสียงๆหนึ่งกล่าวอย่างเรียบๆแต่มีพลัง

     

    ถึงจะเจ็บใจก็เถอะ แต่ข่าวลือของเจ้านั่นน่ะ! เธอคงเคยได้ยินมมาบ้างสินะ

     

    ก็พอรู้ แต่ฉันไม่ค่อยเชื่อข่าวนักหรอกนะ เสียงๆแรกตอบอย่างหนักแน่น จนอีกคนเงยหน้าหันมามอง แสงไฟในสวนสาธารณะสะท้อนเรือนผมสีดำขลับและนัยน์ตาสีนิลที่ฉายแววสดใส

     

    คนอย่างเธอต้องพิสูจน์สินะ สึราระถามเพื่อนสาวที่ยืนหันหลังให้ตนอยู่ พร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ

     

    ตัดสินใจยังไงก็บอกก็แล้วกัน สึราระพูดแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าแรกเก็ตเดินออกจากสวนสาธารณะไป

     

    ถึงไม่ต้องบอกเธอก็น่าจะรู้...

     

     

     

    ที่คอร์ทเทนนิสชาย

     

    พวกตัวจริงต่างซ้อมกันอย่างหนักเพื่อการแข่งที่จะมาถึงในไม่นานนี้ พวกเลือดร้อนอย่างพวกเขาไม่มีทางปล่อยเวลาไว้เปล่าแน่นอน เพราะการแข่งครั้งนี้มีความหมายมาก และมันจะมีความหมายมากกว่านี้ถ้าพวกเขาได้รู้ว่าตัวสำคัญอีกคนตอนนี้คือใคร

     

    เมื่อวานนี้น่ากลัวชะมักเลยแฮะ แววตาของรุ่นพี่สึราระน่ะ โมโมะพูดพร้อมกับตีลูกท็อปสปินส่งให้เรียวมะ

     

    เรียวมะตีลูกท็อปสปินกลับมาได้อย่างง่ายดายและตีครอสไปยังอีกฝั่งของโมโมะ และดูเหมือนจะไม่สนใจที่โมโมะพูดเลยสักนิดเดียว

     

    นี่เจ้าเอจิเซ็น! นายฟังที่ฉันพูดบ้างมั้ยเนี่ยฮะ

     

    เอ๋... อะไรเหรอฮะ

     

    อย่างที่โมโมะคิด เรียวมะไม่ได้ฟังที่เขาพูดสักนิด แถมตีไปในทางที่เขาตีไม่ได้อีก! ยิ่งยั้ว!เข้าไปใหญ่ แสดงว่าในหัวของเรียวมะคงไม่ได้คิดถึงเรื่องเมื่อวานเลยสินะ

     

    นายเนี่ยนะ! ว่าแต่เมื่อวานนายหายไปไหนมา ตามหาซะทั่วเลย

     

    เรียวมะสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ไม่เสียสมาธิวิ่งไปรับลูกที่โมโมะส่งมาให้ได้ทันเวลาพอดี เรียวมะก้มหน้าลงเล็กน้อยให้ปีกหมวกลงมาปิดหน้าตนเอง พร้อมกับนึกคำพูดแก้ตัวที่ให้พอฟังขึ้น

     

    มีธุระนิดหน่อยน่ะครับ

     

    ดูเหมือนจะฟังไม่ค่อยขึ้น ใครจะมีธุระไอตอนที่ฟ้ามันจะปิดกัน แล้วหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอีก ไอ้ธุระที่ว่าคงไม่ใช่ไปกวนสติใครหรอกนะ

     

    ธุระอะไรของนายกัน โมโมะถามพร้อมกับตีลูกกลับไปให้เรียวมะ

     

    ธุระก็ธุระสิฮะ เรียวมะพูดพร้อมกับตีพาสซิ่งชอตผ่านโมโมะที่กำลังจะขึ้นมาหน้าเน็ตเป็นการปิดเกมและตัดบทโดยไม่ให้เรื่องยาวไปกว่านี้

     

    เรียวมะเดินออกไปนั่งพักข้างสนามโดยมีโมโมะยืนมองอย่างสงสัย เขารู้ดีว่าคนอย่าง

    เรียวมะน่ะต้องไปท้าแข่งแน่นอน แต่ดูจากอาการแล้วเหมือนกับมีอะไรมาขัดใจเรียวมะอยู่อย่างไงยังงั้น

     

                    วันนี้เอจิซ็นดูแปลกๆไปนะ  โออิชิพูดพลางมองดูเรียวมะที่กำลังกินน้ำอยู่

     

    โออิชิก็คิดเหมือนกันสินะ ฟูจิพูดพร้อมกับเดินมาข้างๆโออิชิ

     

    โมโมะหันไปมองรุ่นพี่ทั้งสองที่คิดตรงกับเขาเหมือนกัน วันนี้เจ้าเอจิเซ็นเหมือนขัดใจอะไรบางอย่างอย่างเห็นได้ชัด

     

    คงจะเป็นเรื่องเมื่อวานล่ะมั้ง โมโมะนายรู้รายละเอียดบ้างมั๊ย อินูอิหันมาถามโมโมะที่ดูสนิทสนมกับเรียวมะมากกว่าใคร

     

    ผมก็ไม่แน่ใจนะนะครับ แต่คิดว่าเจ้านั่นน่าจะมีอะไรขัดใจอยู่ โมโมะพูดตามที่ตัวเองสงสัย แต่บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้

     

    มีอะไรขัดใจงั้นเหรอ? คุณทากะที่ยืนข้างๆฟูจิพูดขึ้นอย่างสงสัย

     

    ถ้าไม่ทำอะไรที่มันเป็นเรื่องล่ะก็คงไม่ต้องห่วงล่ะมั้ง ฟูจิพูดเพื่อไม่ให้คนอื่นวิตกไปมากกว่านี้ บางทีมันอาจจะไม่ร้ายแรงมากก็ได้

     

    พวกรุ่นพี่มายืนมองผมทำไมกันล่ะครับ เรียวมะหันมามองเหล่ารุ่นพี่ที่กำลังคุยเรื่องเขาอย่างเป็นห่วง

     

    เปล่าน่ะ! งั้นซ้อมตอนเช้าเอาแค่นี้พอก่อนละกันโออิชิพูดขึ้นเพื่อตัดบทไม่ให้เรียวมะถามต่อ

     

    แต่เทะสึกะยังไม่มามันจะดีเหรอโออิชิ คุณทากะหันมาถามโออิชิอย่างเป็นกังวล

     

    ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เทะสึกะมีเรื่องต้องคุยกับอาจารย์ริวซากิน่ะเลยไม่ลงมาซ้อม งั้นซ้อมกันแค่นี้ก็แล้วกัน โออิชิบอกกับทุกคนแล้วพากันออกจากคอร์ทไป

     

    เรียวมะได้แต่มองพวกรุ่นพี่อย่างงงๆ พร้อมกับคิดในใจว่า พวกรุ่นพี่เป็นอะไรของเค้าแต่ก็คงไม่มีอะไรต้องสนใจล่ะมั้ง ไม่รู้ไม่ชี้ดีกว่า

     

     

     

    นี่เอจิเซ็น นายรู้มั๊ยว่าโรงเรียนเราจะมีเด็กแลกเปลี่ยนมาน่ะ โฮริโอะถามเพื่อนที่นั่งข้างๆตนทันทีที่เข้ามาในห้อง

     

    แล้วไงล่ะ เรียวมะถามเรียบๆอย่างไม่สนใจ

     

    แล้วไงน่ะหรอ ก็อาจจะได้เจอนักเรียนแลกเปลี่ยนน่ารักๆก็ได้นี่นา แล้วก็ปีนี้น่ะรู้สึกว่าจะยกเอานักเรียนแลกเปลี่ยนของเกาหลีมาหมดเลยน่ะ นายไม่สนใจหรอเอจิเซ็น

     

    ...ไร้คำตอบจากคนข้างๆ

     

    นายเนี่ยนะหัดสนใจอะไรกับเค้ามั่งเซ่! ไม่ใช่มัวมาสนใจเทนนิสอย่างเดียว โฮริโอะต่อว่าเพื่อนข้างๆที่ยังคงนิ่งเป็นหินอยู่

     

    ได้ยินว่าเด็กแลกเปลี่ยนเนี่ยมาเฉพาะปีสองกับปีสามเที่นั้นนี่ เรียวมะพูดขึ้นเพราะเค้าได้ยินพวกรุ่นพี่โมโมะกับเอจิคุยกัน ทำเอาโฮริโอะเฉาไปถนัดตา

     

    ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ล่ะ โฮริโอะคร่ำครวญใหญ่ เพราะเขาอยากมีเพื่อนเป็นเด็กนอกกะจะเอาไปอวดพวกคาจิโร่และคนในชมรมซะหน่อย แต่พอได้ฟังเรียวมะพูดแล้ว ...หมดกันความฝันของฉัน~

     

    เรียวมะมองโฮริโอะอย่างงงๆแล้วเดินออกไปข้างนอกห้องเพราะรำคาญเสียงคร่ำครวญของโฮริโอะ และคนในห้องต่างหันมามองทางเขาอย่างสนใจ เพราะไม่อยากจะตกเป็นเป้าสายตาหลบไปข้างนอกสักพักก่อนดีกว่า

     

     

     

    เรียวมะเดินไปตามระเบียงทางเดินอย่างช้าๆ ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนจึงไม่ต้องรีบร้อน เขากะจะไปเดินเล่นให้หายคิดมากเรื่องเมื่อวานด้วย แต่ยิ่งคิดมันก็ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้อยากแข่งกับสึราระขึ้นมา แต่พอลองนึกถึงคำพูดของสึราระนั่นแล้ว...

     

     เวลาน่ะ... ยังมีอีกเยอะที่จะให้รู้อนาคต

     

    ...ราวกับว่าอยากจะบอกอะไรอย่างนั้นแหละ

     

    เดินมองทางบ้างก็ดีนะ สำเสียงญี่ปุ่นที่ฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูเรียกให้คนที่ เดินไม่มองทางหันมามองอย่างสงสัย

     

    เด็กสาวผมสีเทาเข้มมองมายังเขาด้วยแววตานิ่งๆและเด็กผู้หญิงอีกคนที่ตัวสูงกว่าผมน้ำตาล เรียวมะจ้องมองทั้งสองคนนี้อย่างพิจารณา เขาไม่เคยเห็นหน้าสองคนนี้มาก่อนเลย คนผมน้ำตาลนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ดูสดใสพร้อมกับสะพายกล่องใส่ไวโอลิน อีกคนที่ดูอายุน้อยกว่าคนแรกมองมาทางเขาอย่างเรียบๆแต่ดูเหมือนจะเอาเรื่องจากเขา ดูๆไปแล้วทั้งสองคนนี้น่าจะอายุมากกว่าเขาสักปีสองปีได้ล่ะมั้ง แต่เขาไม่สนใจหรอก

     

    ขอโทษทีที่เดินไม่ดูทาง เรียวมะหลับตาพร้อมกับเดินผ่ากลางเด็กสาวทั้งสองคนไป

     

    ท่าทางนายจะเป็นเด็กปี1สินะ สำเนียงญี่ปุ่นที่ฟังดูชัดกว่าครั้งแรกเรียกให้เรียวมะหันไปมอง

     

    แล้วไง!” คำพูดสั้นๆง่ายๆประจำตัวหลุดออกมา ทำให้คนที่ดูท่าทางเป็นรุ่นพี่มองอย่างสงสัยและดูเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อย

     

    ความเคารพน่ะมีกันมั่งก็ดีนะ น้ำเสียงที่แปล่งน้อยๆและกระทบกระทั่งเรียวมะถูกเอ่ยขึ้นจากเด็กหญิงผมสีเทาเข้ม นัยน์ตาสีเทามองเรียวมะนิดนึงก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินนำหน้าเด็กหญิงผมน้ำตาลที่หันมาก้มหัวให้เรียวมะน้อยๆและยิ้มบางๆ จนคนถูกก้มหัวให้มองอย่างงงๆ

     

    ใครกันน่ะ

     

    เรียวมะคิดในใจอย่างสงสัยพร้อมกับมองคนทั้งสองที่เดินไปเข้าห้องเรียนใกล้ๆนี้ ดูท่าทางกับสำเนียงแล้วไม่ค่อยเหมือนคนญี่ปุ่นเท่าไหร่ คงจะเป็นเด็กแลกเปลี่ยนล่ะมั้ง แต่ยังไงซะคนอย่างเอจิเซ็น เรียวมะไม่ค่อยจะสนใจอะไรอยู่แล้ว เรียวมะหันไปทางเดิมแล้วเดินเล่นต่อไป

     

     

     

    เอาล่ะนักเรียนวันนนี้จะมีเด็กแลกเปลี่ยนมาเรียนด้วยกันนะจ๊ะ เชิญจ้ะ เสียงอาจารย์ประจำชั้นกล่าวขึ้นพร้อมกับหันไปมองประตูที่

     

    หญิงสาวผมสีเทาเข้มเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างช้าๆ ใบหน้านวลเงยขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับยิ้มให้ทุกคนในห้อง แทบจะทำให้นักเรียนชายพากันหลงใหลกันเกือบหมด

     

    แนะนำตัวเลยจ้ะ ครูสาวพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

     

    อันยอ... เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันชื่อควอนพารัม เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากเกาหลีค่ะ เด็กสาวเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับโค้งเก้าสิบองศาเป็นการทำความเคารพตามปกติที่ตัวเองทำ

     

    ใบหน้าที่อ่อนหวาน นัยน์ตาสีเดียวกับกับเส้นผมที่ดูเป็นมิตรและอ่อนโยน รอยยิ้มบางๆที่ดูน่ารักและดูจริงใจจนเด็กผู้ชายในห้องพากันหลงใหลกับรอยยิ้มอ่อนหวานของพารัม

     

    ...ใช้ได้นี่หว่า

     

    โมโมชิโระ!”

     

    ครับ!”

     

    เจ้าของชื่อลุกขึ้นมาอย่างตกใจพร้อมกับกุ้งเทมปุระที่ยังคาบอยู่ในปากเรียกให้คนอื่นในห้องหัวเราะกันลั่น ซึ่งคนโดนเรียกมองไปยังอาจารย์สาวอย่างงงๆว่าเรียกเขาทำไม

     

    แอบกินตั้งแต่คาบแรกเลยเหรอโมโมชิโระ ทำตัวให้มันสมกับเป็นเจาบ้านหน่อยสิ!” อาจารย์สาวต่อว่าโมโมะที่แอบกินอาหารในห้องเรียน นับว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่โมดมะแอบเอาของเข้ามากินในห้อง

     

    อะไรกันครับอาจารย์ แค่นี้เอง คำแก้ตัวที่เรียกให้คนเป็นอาจารย์ฮึดขึ้นมาทันที เอาเป็นว่าวันนี้นายต้องพานักเรียนแลกเปลี่ยนไปชมโรงเรียนเรานะ! คุณควอนคะตั้งแต่วันนี้โมโมชิโระจะเป็นคนคอยดูแลคุณนะคะ

     

    นักเรียนแลกเปลี่ยนก้มหัวเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งที่นั่งข้างๆโมโมะที่อาจารย์ชี้ไปให้ ซึ่งคนนั่งข้างๆมองอาจารย์อย่างอึ้งๆเล็กน้อย ...อาจารย์คิดว่าเขาเก่งนักหรือไงถึงให้เอายัยเด็กนอกมาให้เขาดูแล ทำไมไม่ให้หัวหน้าห้องดูแลล่ะ!

     

    แต่ดูเหมือนเด็กนอกจะไม่สนใจหรือไม่รู้อะไรเลย เดินมานั่งข้างๆโมโมะพร้อมกับก้มหัวและยิ้มให้เล็กน้อย คนถูกทำความเคารพก้มหัวให้เล็กน้อยเช่นกันพร้อมกับมองพารัมที่กำลังหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาวางบนโต๊ะรอวิชาต่อไป ซึ่งมองท่าทางโมโมะก็รุ้ดีแล้วว่าเขาคงเข้ากับเด็กเรียนแบบนี้ได้ไม่นานแหงๆ

     

    ...จะมีใครรับกรรมเหมือนโมโมะมั๊ยนะ

     

     

     

    เพราะอย่างงี้ตอนพักกลางวันนายก็เลยต้องพาเด็กน้อย พาลมนั่นไปเดินชมโรงเรียนสินะเนี้ยว~” เอจิแซวโมโมะอย่างสนุกสนานหลักจากฟังเรื่องที่โมโมะเล่าให้ฟัง

     

    ยังดีหน่อยที่ยัยนั่นน่ะเรียบร้อย แล้วก็นะฮะรุ่นพี่เอจิเขาชื่อ พารัมไม่ใช่ พาลมนะครับ โมโมะรีบแก้ชื่อให้เอจิ

     

    ก็ พารัมมันแปลว่า สายลมไม่ใช่หรอ ชื่อ พารัมรวมกับ สายลมก็แปลว่า พาลมน่ะสิ เอจิที่ยังคงสนุกสนานกับชื่อภาษาเกาหลีที่ดูตลก แล้วพูด พารัม พาลมซ้ำไปซ้ำมาจนคนข้างๆทั้งหมดเริ่มรำคาญ

     

    ว่าแต่รุ่นพี่เถอะ ไม่มีเด็กแลกเปลี่ยนมามั่งหรือไง โมโมะหันไปถามรุ่นพี่คนอื่น เผื่อว่าจะมีคนตกที่นั่งเดียวกับเขา

     

    ห้องฉันก็มีนะ แต่รู้สึกว่าจะติดงานเลยยังไม่มาน่ะ ฟูจิพูดพร้อมกับปิดตู้ล็อกเกอร์

     

    ใช่ๆ เห็นว่าคนนึงเป็นอัจฉริยะด้านไวโอลินวันนี้เลยไปแสดงโชว์น่ะ ส่วนอีกคนเห็นว่าร้องเพลงเพราะมาก แต่ติดแสดงเลยไม่ได้มาน่ะ เอจิพูดเสริมต่อจากฟูจิ เรียวมะร้องโฮ่ขึ้นมาทันทีที่ได้เอจิเล่าจบ

     

    ห้องฉันก็มีนะ รู้สึกจะชื่อซอ อินฮยอง แต่ไม่ค่อยพูดหรือสนใจโลกภายนอกสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่มีข้อมูลน่ะ เจ้าของดาต้าเทนนิสตอบพาให้ทุกคนอึ้งที่หาข้อมูลไม่ได้

     

    ห้องฉันน่ะไม่มีหรอก แล้วนายล่ะโออิชิ คุณทากะหันไปถามโออิชิ

     

    ก็มีนะ ชื่อชอง แชวอน โออิชิตอบ

     

    รู้สึกว่าจะเก่งเปียโนสินะ อินูอิตอบพร้อมกับเปิดสมุดบันทึกดู เสียงเพลงเมื่อตอนคาบพักกลางวันน่ะเป็นเสียงที่คนๆนี้เล่นล่ะ พูดพร้อมกับปิดสมุดบันทึกลง

     

    ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ เมื่อตอนพักกลางวันที่ห้องดนตรีเธอคนนี้เล่นได้อย่างไพเราะ เป็นแรงดึงดูดให้คนที่ผ่านไปมาได้ยลเพลงอันไพเราะเพราะพริ้ง ที่เล่นเอาอาจารย์วิชาดนตรีอึ้งไปกับบทเพลงที่เธอเล่นได้อย่างนุ่มนวลและระทึกใจด้วยจังหวะดนตรีที่เข้มราวกับจะดึงหัวใจออกมาแล้วค่อยๆเรียกให้ทุกคนกลับมาอยู่ในสภาพปกติด้วยเสียงเพลงที่นุ่มนวล

     

    ใช่ เก่งมากขนาดสอนแทนอาจารย์ได้เลย แต่ฉันคิดว่าเธอคนนั้นหน้าตาคุ้นๆอยู่นะ คำพูดของโออิชิเรียกให้ทุกคนหันมาสนใจ

     

    รู้สึกว่าเมื่อสองปีก่อนเคยมาที่นี่น่ะ อินูอิพูดพลงดูข้อมูลในสมุดบันทึก เอจิที่หันมามองสมุดบันทึกหน้าหง่อยทันที เพราะพอหันมามองเจ้าของสมุดก็ปิดโป๊ะทันที

     

    ส่วนของห้องเทะสึกะน่ะ รู้สึกว่าจะเป็น...

     เทะจังอา...





    คุยเล่นเพลินใจกับคนแต่ง

    อันยองฮาเซโย ผู้อ่านทุกท่าค่ะ
    มาถึงตอนที่สองแล้วก็ขอแนะนำตัวกันหน่อย คนแต่งมีชื่อว่า เฟิร์นค่ะ
    ก็ไม่ใช่หน้าใหม่อะไร เคยแต่งฟิคปริ๊นซ์ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนนู่น สมัยยังเป็นเด็กผูกคอซอง ปัจจุบัน(วันนี้)กลายเป็นเด็กม.ปลายเต็มตัว
    แล้วก็เบนเข็มหนีไปหาที่รักทั้งสิบสามคนแทน เลยออกจากฟิคปริ๊นซ์ไป ตอนนี้ก็กลับมาแล้วนะคะ
    กะแต่งให้สำเร็จเสร็จไปเลยแบบไม่ดองเพราะตัน รอบนี้วางพลอตไว้อย่างดี แต่อาจเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเล็กน้อยตามสภาพอารมณ์
     

    พอๆพล่ามมามากแล้ว เอาเป็นว่าขอคุณทุกท่าที่เข้ามาอ่านนะคะ
    ยอดเข้าดู89คน เม้น5เม้น เช็คแล้วการให้กำลังใจของผู้อ่านที่กระทำต่อคนเขียนเนี่ยไม่คิดว่าน้อยไปเหรอคะ
    กำลังใจโพสสักแอะนึงก็ยังดี คนแต่งจะได้ใจชื้นหน่อย

    แล้วก็ขอตอบอัสนิดนึงที่บอกว่ามันน้อยไป ตอนนี้ข้าพเจ้าอัพให้เท่านี้พอใจหรือยัง?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×