ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #129 : Ep.47 - Ajin

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 493
      57
      2 ก.ค. 61

    UN.47 - Ajin

    เอาล่ะ ทีนี้เจ้าจะทำยังไงล่ะ?”

    เพอร์แกร์เอ่ยอย่างใจเย็น เกลก็ฝืนครองสติถ่มน้ำลายตอบกัลบไป หึ! วิธีเอาชนะแกน่ะมีเยอะถมไป เขายันตัวขึ้นแล้วหยิบลิ่มดำออกมา

    โดยไม่รู้สึกตัว ตอนที่สู้มาตลอดทางพวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่ใจกลางเมืองแล้ว

    ———ใบหน้าเจ้านรกบิดเบี้ยว

    ลิ่มนั่น...ดูท่าเจ้าคงคิดจะเปิดประตูภพจริงๆสินะ?”

    ต้องสงสัยอีกเหรอ?”

    เช่นนั้นก็ทำสิ ไม่รู้ว่าเจ้าทราบรึไม่ แต่ประตูภพจะทำการดูดกลืนวิญญาณของมนุษย์เท่านั้น ในเมืองนี้น่ะมีแต่นิรยบาลกับเทพอย่างพวกข้า ดังนั้นต่อให้กระทำไปยังไงก็ไร้—”

    ฉึก!

    โดยไม่สนใจต่อคำพูดทันใดนั้นเกลก็แทงลิ่มดำลงไปทันที

    ———เขาแทงมันลงไปยังกลางอกตนจนมิดด้าม

    ภาพเบื้องหน้านี้ส่งผลให้ทุกคนตะลึง เจ้านรกแห่งเฮลเองก็ฉงนต่อการกระทำของเกลไม่น้อย ความจริงการทำพิธีกรรมสังเวยจะต้องปักลิ่มลงดินเพื่อสร้างข่ายอาคม เช่นนั้นแล้วการที่เขาเอามันมาแทงตนเองเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?

    หรือคิดยอมแพ้แล้วก็เลยหวังจะฆ่าตัวตาย?

    ———แน่นอนว่าไม่ใช่

    ซีหลง!”

    รับทราบ!”

    เกลคำราม ซึ่งคู่หูของเขาก็ตอบรับ เธอทะยานร่างห่างออกไป ไม่ใช่การตั้งหลัก แต่เป็นการวิ่งหนีออกไปอย่างไร้จุดหมาย ครืนนน! ราวกับตอบรับความคาดหมาย

    พื้นดินปรากฏไฟฟ้าสถิตแล่นแปลบไปทั่ว ผิวฝุ่นธุลีลอยคว้างกลางอากาศขัดกับหลักการฟิสิกซ์ เพอร์แกร์เองก็เริ่มจับเค้ารางไม่ชอบมาพากลได้เช่นกัน ซึ่งเท่าที่เห็นแน่ๆส่วนหนึ่งต้องเป็นเพราะลิ่มนั่น.....ลิ่มนั่นไม่ใช่อุปกรณ์อาคมที่เอาไว้ใช้สังเวยเรียกประตูภพหรอกเหรอ? มันคิด

    ———ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีเวลามาดูผลลัพธ์แล้ว!

    ตาย!”

    เปรี้ยง!

    ทว่าขณะจะทันได้ลงมือร่างของเกลกลับถูกฟ้าผ่าลงกลางใจอย่างกะทันหัน เจ้านรกแห่งเฮลเห็นก็พลันชะงักรั้งกระบวนท่าไว้เพื่อไม่ให้ตนโดนลูกหลง ไม่ใช่แค่หนเดียว ฟ้าผ่าสีแดงโลหิตฟาดซ้ำลงมาเรื่อยๆจนผืนดินแตกร้าวเป็นวงกว้าง ทำให้เขาไม่อาจยืนประชิดเกลได้อีก

    ———เพอร์แกร์กลับมาสมทบกับบุร็อก

    มันทำบ้าอะไร!?”

    ข้าไม่รู้ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่—” แล้วก็ไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้นเหนือศีรษะของทุกคนก็พลันปรากฏห้วงหลุมดำขึ้นกลางอากาศ มันลอยสูงอยู่เหนือเมืองแห่งจูฮัลนัม ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้ทุกคนตาค้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น

    แกร๊ก!

    -อะไร—” ทหารนิรยบาลตนหนึ่งอุทาน จากนั้นร่างกายของมันก็พลันสลายเป็นฝุ่นทรายพร้อมกับถูกดูดกลืนเข้าสู่หลุมดำไปทั้งอย่างนั้น ภาพที่เห็นนี้ส่งผลให้ทุกผู้คนถึงกับหนาวสั่น

    ———ราวกับวันโลกาวินาศ

    -เหวอออออ! ช่วยข้าด้ว—”

    ม่าย! ข้ายังไม่อยากตา—”

    แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก!

    เสียงหวีดร้องดังระงมไปทั่ว เหล่านิรยบาลตนแล้วตนเล่าเริ่มถูกดูดกลืนเข้าสู่หลุมดำอย่างคลุ้มคลั่ง

    เป็นไปไม่ได้! การสังเวยประตูภพไม่ควรมีผลกับนิรยบาลนี่..!?” บุร็อกไม่เข้าใจ จากนั้นจึงหันมองไปทางเพอร์แกร์ราวกับต้องการคลายความสงสัย ทว่าคำตอบที่ได้รับนั้น

    แกร๊ก!

    คือเจ้านรกแห่งเฮลกำลังแข็งค้าง กลายเป็นตุ๊กตาทราย

    อะ...อะ...” มันฝืนเปล่งคำพูด ทว่าตอนนั้นเสียงร่วนของทรายหยาบก็พลันแตกละเอียดลง ซู่ววว! รูปปั้นทรายพลันกลายเป็นผงธุลีร่วงหล่นลงสู่พื้น

    ———เพอร์แกร์ตายแล้ว

    -เฮ้ย? โกหกน่า? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?” บุร็อกมองอย่างเหม่อลอยราวกับว่าตนกำลังฝันอยู่ เจ้านรกที่แข็งแกร่งเท่าตนถึงกับตกตายโดยง่ายแบบนี้น่ะเหรอ?

    ไม่ใช่แค่นิรยบาล กระทั่งเทพมารเองก็ถูกดูดกลืนเข้าไปด้วยเหรอ!?

    ———นี่ต้องเป็นเรื่องล้อเล่นที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตแน่!

    กรอดดด! บัดซบ! บัดซบ! เจ้า...เจ้าาาา!” บุร็อกแผดร้องอย่างเคียดแค้น กระนั้นมันก็รู้ตัวว่าตนไม่อาจทำอะไรได้ ศักศรีดิ์ของมันในวันนี้ถึงกับป่นปี้เละไม่เป็นท่า

    ———ทำไมกัน!?

    ทำไมทุกอย่างถึงได้เป็นเช่นนี้..!!

    ว๊ากกกกกกกกกกก..!”

    ซู่ววววว!

    จากนั้นร่างของบุร็อกก็พลันเลือนหายไปอีกคน

    ระยะห่างในรัศมี 500 เมตรนี้ล้วนกลายเป็นสูญสิ้นจนหมด

    ใจกลางหลุมดำนั้นมีเกลซึ่งตาเหลือกขาวอย่างไร้สติกำลังชักเกร็งเข่าแตะพื้นอยู่

    .

    .

    วิญญาณเพียงพอแล้ว เขาตระหนักเช่นนั้น

    ทว่าการจะปิดการใช้งานของลิ่มดำนั้นเขาไม่อาจควบคุมได้ ใช่ แต่เดิมการใช้งานก็มีเพียงแค่การใช้จิตสำนึกเหมือนกับท่าพลังจิต

    ———ทว่านี่คืออุปกรณ์ข่ายอาคมซึ่งแตกต่างจากต้นฉบับ

    ตามคำแนะนำของอาชูร่า แต่เดิมมันก็นับเป็นมารที่อยู่มานานจนถึงขั้นปฐมกาลอยู่แล้ว นานเสียยิ่งกว่าพวกเจ้านรกทั้งสี่เสียอีก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่ทราบถึงวิธีการใช้งานอีกรูปแบบที่ผิดแผกออกไป

    .....การแทงตน

    เดิมมีวิธีอันง่ายดายกว่านั่นคือการแทงดิน ดังที่ฮิราเคยทำ ทว่านั่นจะส่งผลแต่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้น ลิ่มนี้เปรียบเสมือนออโต้บอทไร้ซึ่งสติปัญญา การแทงดินนั้นหมายถึงเถ้าธุลีของมนุษย์อันเป็นกระดูก จุลทรีย์ เลือดเนื้อ จุดเริ่มต้นและจุดจบ

    พอดูดซับจนอิ่มตัวลิ่มก็จะสร้างประตูภพขึ้นเอง

    ———วิธีนี้ไม่มีความเสี่ยงนัก

    ทว่าอีกวิธีที่เกลใช้นั้นกลับแตกต่าง หากแทงดินคือการมองภาพรวมของธรรมชาติและสัจธรรม ถ้าเช่นนั้นการแทงตน ก็ย่อมหมายถึงการมองภาพเฉพาะเจาะจงในสายตามุมกลับของบุคคลๆนั้น

    ในมุมมองของเกล เขาต้องการให้ทุกคนในที่นี้กลายเป็นผง!

    ———เพราะแบบนั้นทุกคนก็เลยตกตายกันสิ้น..!

    ทว่าวิธีที่สะดวกสบาย มีหรือจะไร้ซึ่งค่าตอบแทน การใช้สายตาหนึ่งมองร้อยนั้นย่อมขาดความละเอียดและความน่าเชื่อถือ ผิดกับการให้ร้อยมองหนึ่งแล้ววิจารณ์โดยได้รับความยินยอมออกมาโดยพร้อมกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นปัญหาที่เกลกำลังเผชิญอยู่

    เกลกำลังแบกรับจิตสำนึกของวิญญาณที่ได้ดูดกลืนเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

    ความคิด ความโศกเศร้า ความโกรธแค้น อารมณ์ความรู้สึกต่างๆกำลังไหลรินเข้าสู่สมองของชายหนุ่ม ซ้ำแล้วเจตจำนงอันแรงกล้าของเทพสองตนอย่างบุร็อกและเพอร์แกร์ยังถูกเพิ่มเติมเข้าไปอีก

    ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!

    ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!

    ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!

    ข้ากลัวแล้ววววววววววว! ปล่อยข้าไป! ปล่อยข้าไปปปปปป! ฮรือออออออ!

    อ๊ากกกกก! ทรมารเหลือเกิน! ใครก็ได้! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย..!

    ———เกลกำลังตกอยู่ในห้วงของจิตสำนึก

    ทั่วร่างปรากฏเลือดไหลซึม หูตาจมูกปากเริ่มหลั่งโลหิตออกมาช้าๆอีกครั้ง กะ...กะ...กะ เกลปากสั่นฟันกระทบ เปรี้ยง! จากนั้นฟ้าผ่าสีแดงก็ฟาดเข้าใส่อีกครั้ง เขาแทบสิ้นสติ

    หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาต้องตายจริงๆแน่!

    ———ต้องรีบ.....ต้องรีบหาวิธีปิดมัน!

    ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่สมองก็ยังเต็มไปด้วยความคิดอันบ้าคลั่งสุมหัวเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง

    ———ทำยังไงดี!? จะต้องทำยังไงดี!

    เกลในตอนนี้ไม่แรงเหลือแม้แต่จะพูด เรื่องขยับกายไม่ต้องพูดถึง เขาตระหนักว่าหากปิดข่ายอาคมได้สายฟ้าก็จะหยุดลงเช่นกัน ซึ่งหากครั้งถัดไปมันฟาดลงมาอีกบางทีเขาคงสิ้นใจตาย

    เราจะต้องมาจบลงแบบนี้งั้นเหรอ?

    .

    .

    .


    เฮือก!

    ตอนที่คิดแบบนั้นจิตสำนึกของเขาสัมผัสได้ถึงบางอย่าง เขาเชื่อมประสาทกับหลุมดำ ดังนั้นจึงสามารถรับรู้ได้

    ภาพอันห่างไกลออกไปก็คือซีหลงกำลังยืนยิ้มอยู่

    ลำบากซะแล้วสินะ?”

    เธอเอ่ยเสียงเรียบแล้วก้าวเท้าเข้ามา

    ———จะทำอะไรน่ะ?

    หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว สิบก้าว ยี่สิบก้าว สามสิบก้าว สี่สิบก้าว จากระยะทางที่ตอนแรกมองไม่เห็น ตอนนี้เธอกลับปรากฏขึ้นระยะสายตาของเกล

    ———นี่เธอจะทำบ้าอะไรกัน!?

    หญิงสาวไม่อาจรับรู้ความคิดของชายหนุ่ม ทว่าต่อให้รับรู้เธอก็คงไม่หยุดฝีเท้าอยู่ดี เธอยิ้ม

    ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! สภาพดูไม่จืดเลยน้าาา ทีแรกก็หวังว่านายจะรอดอยู่หรอก แต่ขืนเป็นงี้มีหวังได้ซี้แหงแน่ ขณะพูดซีหลงก็ยังคงก้าวต่อไป

    ———ไม่ได้นะ.....จะเข้ามาใกล้กว่านี้ไม่ได้

    เกลร่ำร้องในใจ กระนั้นร่างกายก็ไม่อาจขยับหนีไปไหนได้ เขาทำได้เพียงแค่ตั้งจิตสำนึกไม่ให้ตนดูดกลืนหญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น ทว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในเมื่อเขาเองก็ยังคุมสติตัวเองไม่อยู่

    ตอนนั้นก้าวของซีหลงก็กลายเป็นทื่อลง

    อ๊ะ เหมือนจะได้ผลแล้วสินะ? เอาเถอะ รีบๆดูดกลืนชั้นไปซะ มันจะได้จบๆ เธอชี้ไปที่ขมับตน เดี๋ยวชั้นช่วยเอง ไอ้เรื่องในหัวนั่นน่ะ

    ผิวหนังของเธอกลายเป็นหยาบ กระนั้นท่าทีเดินกระเพลกกระเพลกก็ยังปรากฏ

    ———ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้กัน?

    คิดซะว่าชดใช้เรื่องที่ชั้นหลอกนายมาตลอดละกันนะ ฮะฮะ.....เอาเถอะ ส่วนหนึ่งเพราะชั้นเองก็ชอบนายเหมือนกัน

    เป๊าะ!

    ทันใดนั้นขาของเธอก็หักออกกลายเป็นเศษทรายป่น

    อึก! เจ็บแฮะ หัดนุ่มนวลกับสุภาพสตรีหน่อยสิ

    เธอแหงนหน้ามองเกลซึ่งอยู่ห่างออกไปราวสิบเมตร ซีหลงยิ้มแล้วยื่นมือไปข้างหน้าราวกับต้องการไขว่คว้าบางอย่าง ดวงตานั้นเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำใส

    ตัวเธอถูกขนานนามว่าเด็กเลี้ยงแกะ

    คำพูดก็เหมือนคำโกหก ทรยศหักหลังผู้คนมามากนับไม่ถ้วนแม้กระทั่งในยามที่ยังมีชีวิตอยู่ ในตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กสลัมหัวขโมยน้อยไปวันๆ ทว่าพอโตขึ้นรูปแบบของมันก็ย่อมเปลี่ยนไป

    ใช้ทุกวิธีการ ไม่ว่าจะเซ็กซ์ คำพูด การกระทำ หรือแม้กระทั่งฆ่าคน

    ———ทุกอย่างก็เพื่อการโกหก

    ———และที่โกหกก็เพราะต้องการได้รับคำชม

    ———และที่ต้องการคำชมก็เพราะต้องการถูกยอมรับ

    .

    .

    .

    ก็แค่ต้องการจุดยืน

    ไม่อยากจะถูกลืมเลือนก็เท่านั้น

    .

    .

    .

    ถ้างั้นก็ติดตามชั้นซะสิ

    ชายโพกผ้าพันแผลพูด ในห้วงความทรงจำของเธอนั่นเป็นภาพที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต

    เธอหลอกใช้เขา เคยแม้กระทั่งจะฆ่าเลยเสียด้วยซ้ำ

    แล้วทำไมถึงยังพูดแบบนั้นออกมาได้หน้าตาเฉยล่ะ?

    ———ทำไมกันนะ?

    พอคิดแบบนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมา

    ฮึก,,,ฮือ...โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ! อาาาาาาาาาาา!!!”

    นางมารร้ายกลับกลายเป็นหญิงสาว เหมือนดรุณีน้อยซึ่งกำลังเข้าสู่วัยขบเผาะ

    เกล!”

    ผิวหนังและลำคอเริ่มกลายเป็นผงแกะเซาะ

    ชั้นรักนายนะ..! ชั้นน่ะมีความสุขสุดๆเลยล่ะ! ฮึก! เพราะแบบนั้นจงมีชีวิตอยู่ต่อไป!”

    “................”

    เกลไม่อาจพูดอันใดออกมาได้

    ในใจของเขากำลังแผดร้องอย่างทรมานเหนือนับคะนา

    ซีหลงพริ้มตาลงแล้วยิ้ม พลางหวนคืนย้อนภาพนึกถึงวันเก่าๆ

    ขอบคุณที่มอบความรักให้กับชั้นนะ

    .

    .

    .

    ———อยู่กับนายเนี่ยไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ

    ซู่ววววว!

    ตอนนั้นซีหลงก็สูญสลายไปกลายเป็นเถ้าธุลี

    ———เกลได้แต่จ้องมองอยู่อย่างนั้น

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×