คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Ep.13 - Seraph
UNagain.13 – Seraph
“ความลับค่ะ”
เธอว่า พลางประสานนิ้วทั้งห้าขึ้นราวกับขอโทษ
เกลได้แต่นิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ถ้ามีเจ้านั่น..ทั้งความหิวและอาการบาดเจ็บก็จะหมดไปทันที
ทั้งอย่างนั้น,เธอก็คิดจะเก็บงำความลับนี้ไว้เพียงคนเดียวรึไง?”
“ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจแหละค่ะ
อีกอย่างเรื่อง <อาคม> ก็ไม่ได้มีแค่ชั้นคนเดียวที่รู้ซักหน่อยนี่คะ”
“ไม่ได้มีแค่คนเดียว?”
เกลกระตุกคิ้ว
จากนั้นจึงครุ่นคิดถึงเรื่องหนึ่งได้ว่าการที่เอแคร์มาช่วยตนนั้นก็แสดงว่าอีกฝ่ายย่อมเห็น【นารากะ•พาราห์】แล้วแน่ๆ ทว่าพอกวาดมองกลับพบว่าหอกนั้นไม่ได้อยู่ที่ตนหรือบริเวณโดยรอบ
เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงไขข้อข้องใจ
“ดูเหมือนคุณเกลจะเพิ่งใช้ <อาคม> เป็นครั้งแรกสินะคะ? โดยปกติ <อาคม> จะสามารถคงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ยังมีสติ
และเนื่องจากว่าคุณเผลอหลับไปมันก็เลยหายตามไปด้วยยังไงล่ะค่ะ”
“...ทำไมเธอถึงรู้เรื่องพวกนี้ได้”
“มีคนสอนชั้นมาค่ะ
แต่ว่าเรื่องนี้คงยังบอกไม่ได้หรอกนะคะว่าเป็นใคร
อย่างน้อยก็จนกว่าชั้นจะเชื่อใจคุณได้มากนี้ซะก่อนล่ะนะ” เธอว่าพลางลุกเดินหมายออกจากห้อง————เกลโพล่งขึ้น “จะไปไหนน่ะ?”
เอแคร์ชะงักฝีเท้าแล้ววกกายกลับมาตอบ “ไปล่าสัตว์ค่ะ
คุณเกลสนใจไหมล่ะคะ?”
“ล่า..สัตว์?”
เกลทวนคำอย่างุนงง————ในนรกแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าท่ไหนให้ล่าอีกงั้นเหรอ? แม้ยังข้องใจ,ทว่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ชายจึงผงกศีรษะรับแล้วลุกขึ้นตามหลังเธอไป พอออกมาจากห้องนอนจึงกลายเป็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นรวมกับห้องอาหาร
ขนาดของห้องนับว่าเล็กพอๆกับคอนโดซักห้อง
“ชั้นสงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้แรก
ทำไมที่นี่..ในนรกแบบนี้ถึงได้มีทั้งบ้านไม้หรือเตียงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้กัน?”
“เป็นเพราะ <อาคม> ค่ะ แต่ถ้าถามว่าเป็น <อาคม> แบบไหนหรือทำได้ยังไง
ทางนี้ก็คงต้องขอเก็บเงียบไว้ก่อนล่ะนะคะ” เธอว่า
ขณะเดียวกันก็ก้าวอาดผ่านห้องนั่งเล่นจนเลยไปประตูไม้หน้าบ้าน
เมื่อเปิดออกจึงพบว่าภายนอกยังคงเป็นฟ้าสีแดงฉานดั่งนรกแตกต่างกับภายในบ้านไม้ซึ่งดูสงบร่มเย็น
ขณะทั้งสองเงียบงันเกลจึงเอ่ยคำถามขึ้นอีกหนึ่ง
“ทำไมเธอถึงไม่มีปลอกคอ..?”
เด็กสาวชะงักกึก
ในหัวของเกลนั้นค่อนข้างแน่ชัดว่าทุกคนที่ลงนรกจะต้องถูกโซ่ปลอกคอล่ามเอาไว้
กระนั้นตรงหน้านี้ ณ ลำคอขาวของเอแคร์กลับว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งผูกมัด
ตั้งแต่ที่ลงนรกมานี้กลุ่มคนที่เขาเห็นว่าไม่มีโซ่สวมอยู่ก็มีเพียงแค่ <หญิงสาวบนบัลลังก์> กับ <นิรยบาล> และ <อสุรกาย> ก็เท่านั้น
พูดตามตรงถึงเธอจะช่วยชีวิตเขาไว้
แต่ส่วนหนึ่งก็คือเธอดูน่าสงสัยจนเกินไป————เธอดูไม่น่าไว้ใจซักเท่าไหร่นัก
สำหรับคนที่เพิ่งพบเจอกันได้ไม่ถึง 10 นาทีก็คงต้องว่าเช่นนั้น
เอแคร์ลูบต้นคอตนพลางครุ่นคิดบางอย่างยากคาดเดา,แล้วว่า “ชั้นทำลายมันแล้วน่ะ” ว่าอย่างนั้นแล้วจึงก้าวเดินออกไปได้แต่ปล่อยให้เกลขบคิดอยู่เพียงลำพัง
ทำลายเนี่ยนะ?————กระทั่งหอกยังสร้างรอยข่วนไม่ได้ด้วยซ้ำ
แล้วเธอใช้วิธีไหนกันถึงแยกมันออกมาได้ ชายหนุ่มคิด,แล้วปิดประตูบ้านไว้ก่อนจะตามหลังเอแคร์ไปติดๆ
พื้นที่โดยรอบนี้มีป่าไม้ขึ้นหนาแน่นกว่าบริเวณก่อนหน้า
กระนั้นโดยรวมก็นับว่าน้อยนิดเห็นเพียงบางตาเท่านั้น ทั้งสองก้าวเดินออกไปร่วม 300
เมตร ตอนนั้นเอแคร์จึงหยุดเท้าลงแล้วว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ” จนเกลขมวดคิ้วแน่น “มีอะไรเหรอ?”
เอแคร์ทำนิ้วจุ๊ปากส่งสัญญาณพลางชี้ไปยังเบื้องหน้าซึ่งเผยให้เห็นร่างของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง
ทันทีที่สิ่งนั้นประจักษ์แก่สายตา เกลก็ถึงกับเบิกตากว้าง
ที่เห็นอยู่นั้นก็คือ <อสุรกาย> สูงร่วม 4 เมตร————
รูปร่างชวนสะอิดสะเอียนคล้ายกับเนื้อบดนั้นกำลังง่วนเดินวนไปเวียนมาอยู่กับที่อย่างไร้แก่นสาร
แล้วเกลจึงเอ่ยทัก “...อย่าบอกนะว่า <ล่าสัตว์> นั่นหมายถึง––” ยังไม่จบคำ,เอแคร์กลับวาดมือซ้ายออกตั้งนิ้วชี้และก้อยขึ้นราวกับท่าร็อคเมทัลของ【นารากะ•พาราห์】 จากนั้นเธอจึงพึมพำออกปากแล้วเน้นเสียงสุดท้าย
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【พานี•ทัลวาล】”
ทันใดนั้นตรงหน้าเธอจึงปรากฏผืนน้ำขึ้นก่อตัวเป็นทรงเรียวยาวเกือบ
1 เมตร พอเอแคร์เอื้อมสัมผัส,ผืนน้ำจึงแตกโพลงกลายเป็นดาบเรียวเล่มหนึ่ง
ตัวดาบนั้นเป็นแบบ <สคิมิต้าร์> ซึ่งมีคมด้านเดียวดูแวบวับ เกลตะลึงอีกครั้งพลางตระหนักว่านี่คือ <อาคม> ประเภทเดียวกับหอกสามง่าม
เอแคร์เหลือบมองเล็กน้อยแล้วว่า “ไปล่ะนะ” เธอพุ่งออกไปดั่งสายลมโดยไม่ทันให้เกลได้ตั้งตัว ระยะห่างเกือบ 6
เมตรพลันถูกเอแคร์ย่นระยะเหลือเพียงแค่ไม่กี่ก้าว จังหวะนั้นเหมือน <อสุรกาย> รับรู้ได้
มันหันขวับจ้องเธออย่างถมึงทึงพร้อมเพรียงกันก็ซัดหมัดหนักออกหมายอัดกระแทกร่างให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
————กระนั้นเอแคร์กลับทะยานออกไม่ชะลอแม้แต่เสี้ยว
ขณะที่กำปั้นเกือบจรดปลายจมูก,เด็กสาวก็พลันพลิกตัวหลบด้วยท่วงท่าชวนตะลึง
ปลายเท้าหนึ่งตบลงเป็นจุดศูนย์เฉกเดียวกับทั่วสรรพางค์ก็หมุนวนแบบ <โพสมูฟ> ออกเป็นวงดั่งเสี้ยวพระจันทร์
ฉัวะ!
เอแคร์สะบั้นดาบลงหนักแน่น
ส่งให้ปลายคมตัดผ่านแขนมันอย่างแม่นยำ
ไม่ใช่แค่หลบแต่เธอยังโต้ตอบกลับได้ในเวลาเดียวกัน
เคาท์เตอร์แอคแทคอันสมบูรณ์แบบ————บางทีตอนมีชีวิตเธออาจเป็นนักกีฬาฟันดาบมาก่อน
อย่างน้อยเกลก็เผลอนึกเช่นนั้น แขนใหญ่ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยกำลัง
ยามเมื่อถูกแยกออกไปจากร่าง <อสุรกาย> จึงแผดร้องอย่างโกรธแค้นแล้วซัดหมัดอีกข้างหนึ่งไร้ซึ่งความปราณี
ทว่ากำปั้นนี้กลับพลาดเป้าปะทะต่อผืนดินที่เธออยู่เมื่อครู่แทน
รู้ตัวอีกทีเอแคร์จึงปรากฏตัวอยู่ข้าง <อสุรกาย> ในมุมอับ แล้ววาดดาบออกเป็นวงเข้ากลางคอของอีกฝ่ายเผยโลหิตหลากพวยพุ่งอย่างคับคั่ง
มันกรีดร้องในลำคอพลางดิ้นพล่านทรมาน————จากนั้นพอเวลาผ่านไปครู่มันจึงแผ่วเสียงลงแล้วล้มตึงกับพื้นไร้ซึ่งลมหายใจอีก
เกลถึงกับอึ้งค้างนิ่งไม่ไหวติง————ใครจะคิดล่ะว่าเด็กสาววัยขบเผาะจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดนี้
ทั้งเด็ดขาดและเฉียบคม
ใครได้ยัยนี่เป็นแฟนคงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะนะ
เมื่อเรื่องราวทุกอย่างจบลง
เกลจึงเดินเข้าไปหาเอแคร์ ทว่าตอนนั้นอีกฝ่ายกลับโพล่งขึ้น “อย่าขยับ” ส่งให้เกลขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็เหมือนรับรู้ได้ถึงบางสิ่งรอบข้าง
บริเวณแมกไม้ล้วนปรากฏเค้าร่างใหญ่ขึ้นจากมุมทั้งสี่ทิศ
พวกมันคือ <อสุรกาย> ทว่าหนนี้กลับปรากฏขึ้นพร้อมกันถึง 4 ตัว
————แย่แล้ว...
۞۞۞
ความคิดเห็น