ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #13 : Ep.13 - Seraph

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.01K
      186
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.13 – Seraph

    ความลับค่ะ

    เธอว่า พลางประสานนิ้วทั้งห้าขึ้นราวกับขอโทษ เกลได้แต่นิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ถ้ามีเจ้านั่น..ทั้งความหิวและอาการบาดเจ็บก็จะหมดไปทันที ทั้งอย่างนั้น,เธอก็คิดจะเก็บงำความลับนี้ไว้เพียงคนเดียวรึไง?”

    ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจแหละค่ะ อีกอย่างเรื่อง <อาคมก็ไม่ได้มีแค่ชั้นคนเดียวที่รู้ซักหน่อยนี่คะ

    ไม่ได้มีแค่คนเดียว?”

    เกลกระตุกคิ้ว จากนั้นจึงครุ่นคิดถึงเรื่องหนึ่งได้ว่าการที่เอแคร์มาช่วยตนนั้นก็แสดงว่าอีกฝ่ายย่อมเห็นนารากะพาราห์แล้วแน่ๆ ทว่าพอกวาดมองกลับพบว่าหอกนั้นไม่ได้อยู่ที่ตนหรือบริเวณโดยรอบ เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงไขข้อข้องใจ

    ดูเหมือนคุณเกลจะเพิ่งใช้ <อาคมเป็นครั้งแรกสินะคะโดยปกติ <อาคมจะสามารถคงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ยังมีสติ และเนื่องจากว่าคุณเผลอหลับไปมันก็เลยหายตามไปด้วยยังไงล่ะค่ะ

    ...ทำไมเธอถึงรู้เรื่องพวกนี้ได้

    มีคนสอนชั้นมาค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้คงยังบอกไม่ได้หรอกนะคะว่าเป็นใคร อย่างน้อยก็จนกว่าชั้นจะเชื่อใจคุณได้มากนี้ซะก่อนล่ะนะ” เธอว่าพลางลุกเดินหมายออกจากห้อง————เกลโพล่งขึ้น “จะไปไหนน่ะ?”

    เอแคร์ชะงักฝีเท้าแล้ววกกายกลับมาตอบ “ไปล่าสัตว์ค่ะ คุณเกลสนใจไหมล่ะคะ?”

    ล่า..สัตว์?”

    เกลทวนคำอย่างุนงง————ในนรกแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าท่ไหนให้ล่าอีกงั้นเหรอแม้ยังข้องใจ,ทว่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชายจึงผงกศีรษะรับแล้วลุกขึ้นตามหลังเธอไป พอออกมาจากห้องนอนจึงกลายเป็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นรวมกับห้องอาหาร ขนาดของห้องนับว่าเล็กพอๆกับคอนโดซักห้อง

    ชั้นสงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้แรก ทำไมที่นี่..ในนรกแบบนี้ถึงได้มีทั้งบ้านไม้หรือเตียงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้กัน?”

    เป็นเพราะ <อาคมค่ะ แต่ถ้าถามว่าเป็น <อาคมแบบไหนหรือทำได้ยังไง ทางนี้ก็คงต้องขอเก็บเงียบไว้ก่อนล่ะนะคะ” เธอว่า ขณะเดียวกันก็ก้าวอาดผ่านห้องนั่งเล่นจนเลยไปประตูไม้หน้าบ้าน เมื่อเปิดออกจึงพบว่าภายนอกยังคงเป็นฟ้าสีแดงฉานดั่งนรกแตกต่างกับภายในบ้านไม้ซึ่งดูสงบร่มเย็น

    ขณะทั้งสองเงียบงันเกลจึงเอ่ยคำถามขึ้นอีกหนึ่ง

    ทำไมเธอถึงไม่มีปลอกคอ..?”

    เด็กสาวชะงักกึก ในหัวของเกลนั้นค่อนข้างแน่ชัดว่าทุกคนที่ลงนรกจะต้องถูกโซ่ปลอกคอล่ามเอาไว้ กระนั้นตรงหน้านี้ ณ ลำคอขาวของเอแคร์กลับว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งผูกมัด ตั้งแต่ที่ลงนรกมานี้กลุ่มคนที่เขาเห็นว่าไม่มีโซ่สวมอยู่ก็มีเพียงแค่ <หญิงสาวบนบัลลังก์กับ <นิรยบาลและ <อสุรกายก็เท่านั้น

    พูดตามตรงถึงเธอจะช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ส่วนหนึ่งก็คือเธอดูน่าสงสัยจนเกินไป————เธอดูไม่น่าไว้ใจซักเท่าไหร่นัก สำหรับคนที่เพิ่งพบเจอกันได้ไม่ถึง 10 นาทีก็คงต้องว่าเช่นนั้น

    เอแคร์ลูบต้นคอตนพลางครุ่นคิดบางอย่างยากคาดเดา,แล้วว่า “ชั้นทำลายมันแล้วน่ะ” ว่าอย่างนั้นแล้วจึงก้าวเดินออกไปได้แต่ปล่อยให้เกลขบคิดอยู่เพียงลำพัง

    ทำลายเนี่ยนะ?————กระทั่งหอกยังสร้างรอยข่วนไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วเธอใช้วิธีไหนกันถึงแยกมันออกมาได้ ชายหนุ่มคิด,แล้วปิดประตูบ้านไว้ก่อนจะตามหลังเอแคร์ไปติดๆ

    พื้นที่โดยรอบนี้มีป่าไม้ขึ้นหนาแน่นกว่าบริเวณก่อนหน้า กระนั้นโดยรวมก็นับว่าน้อยนิดเห็นเพียงบางตาเท่านั้น ทั้งสองก้าวเดินออกไปร่วม 300 เมตร ตอนนั้นเอแคร์จึงหยุดเท้าลงแล้วว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ” จนเกลขมวดคิ้วแน่น “มีอะไรเหรอ?”

    เอแคร์ทำนิ้วจุ๊ปากส่งสัญญาณพลางชี้ไปยังเบื้องหน้าซึ่งเผยให้เห็นร่างของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ทันทีที่สิ่งนั้นประจักษ์แก่สายตา เกลก็ถึงกับเบิกตากว้าง

    ที่เห็นอยู่นั้นก็คือ <อสุรกายสูงร่วม 4 เมตร————

    รูปร่างชวนสะอิดสะเอียนคล้ายกับเนื้อบดนั้นกำลังง่วนเดินวนไปเวียนมาอยู่กับที่อย่างไร้แก่นสาร แล้วเกลจึงเอ่ยทัก “...อย่าบอกนะว่า <ล่าสัตว์นั่นหมายถึง––” ยังไม่จบคำ,เอแคร์กลับวาดมือซ้ายออกตั้งนิ้วชี้และก้อยขึ้นราวกับท่าร็อคเมทัลของนารากะพาราห์ จากนั้นเธอจึงพึมพำออกปากแล้วเน้นเสียงสุดท้าย

    จงปรากฏต่อหน้าข้าพานีทัลวาล

    ทันใดนั้นตรงหน้าเธอจึงปรากฏผืนน้ำขึ้นก่อตัวเป็นทรงเรียวยาวเกือบ 1 เมตร พอเอแคร์เอื้อมสัมผัส,ผืนน้ำจึงแตกโพลงกลายเป็นดาบเรียวเล่มหนึ่ง ตัวดาบนั้นเป็นแบบ <สคิมิต้าร์ซึ่งมีคมด้านเดียวดูแวบวับ เกลตะลึงอีกครั้งพลางตระหนักว่านี่คือ <อาคมประเภทเดียวกับหอกสามง่าม

    เอแคร์เหลือบมองเล็กน้อยแล้วว่า “ไปล่ะนะ” เธอพุ่งออกไปดั่งสายลมโดยไม่ทันให้เกลได้ตั้งตัว ระยะห่างเกือบ 6 เมตรพลันถูกเอแคร์ย่นระยะเหลือเพียงแค่ไม่กี่ก้าว จังหวะนั้นเหมือน <อสุรกายรับรู้ได้ มันหันขวับจ้องเธออย่างถมึงทึงพร้อมเพรียงกันก็ซัดหมัดหนักออกหมายอัดกระแทกร่างให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

    ————กระนั้นเอแคร์กลับทะยานออกไม่ชะลอแม้แต่เสี้ยว

    ขณะที่กำปั้นเกือบจรดปลายจมูก,เด็กสาวก็พลันพลิกตัวหลบด้วยท่วงท่าชวนตะลึง ปลายเท้าหนึ่งตบลงเป็นจุดศูนย์เฉกเดียวกับทั่วสรรพางค์ก็หมุนวนแบบ <โพสมูฟออกเป็นวงดั่งเสี้ยวพระจันทร์

    ฉัวะ!

    เอแคร์สะบั้นดาบลงหนักแน่น ส่งให้ปลายคมตัดผ่านแขนมันอย่างแม่นยำ

    ไม่ใช่แค่หลบแต่เธอยังโต้ตอบกลับได้ในเวลาเดียวกัน

    เคาท์เตอร์แอคแทคอันสมบูรณ์แบบ————บางทีตอนมีชีวิตเธออาจเป็นนักกีฬาฟันดาบมาก่อน อย่างน้อยเกลก็เผลอนึกเช่นนั้น แขนใหญ่ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยกำลัง ยามเมื่อถูกแยกออกไปจากร่าง <อสุรกายจึงแผดร้องอย่างโกรธแค้นแล้วซัดหมัดอีกข้างหนึ่งไร้ซึ่งความปราณี

    ทว่ากำปั้นนี้กลับพลาดเป้าปะทะต่อผืนดินที่เธออยู่เมื่อครู่แทน

    รู้ตัวอีกทีเอแคร์จึงปรากฏตัวอยู่ข้าง <อสุรกายในมุมอับ แล้ววาดดาบออกเป็นวงเข้ากลางคอของอีกฝ่ายเผยโลหิตหลากพวยพุ่งอย่างคับคั่ง มันกรีดร้องในลำคอพลางดิ้นพล่านทรมาน————จากนั้นพอเวลาผ่านไปครู่มันจึงแผ่วเสียงลงแล้วล้มตึงกับพื้นไร้ซึ่งลมหายใจอีก

    เกลถึงกับอึ้งค้างนิ่งไม่ไหวติง————ใครจะคิดล่ะว่าเด็กสาววัยขบเผาะจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดนี้

    ทั้งเด็ดขาดและเฉียบคม ใครได้ยัยนี่เป็นแฟนคงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะนะ

    เมื่อเรื่องราวทุกอย่างจบลง เกลจึงเดินเข้าไปหาเอแคร์ ทว่าตอนนั้นอีกฝ่ายกลับโพล่งขึ้น “อย่าขยับ” ส่งให้เกลขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็เหมือนรับรู้ได้ถึงบางสิ่งรอบข้าง บริเวณแมกไม้ล้วนปรากฏเค้าร่างใหญ่ขึ้นจากมุมทั้งสี่ทิศ

    พวกมันคือ <อสุรกายทว่าหนนี้กลับปรากฏขึ้นพร้อมกันถึง 4 ตัว

    ————แย่แล้ว...

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×