คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #87 : Ep.05 - Amnesia
UNagain.05 – Amnesia
“กรอด! ไอ้สารเลวเอ๊ย”
แพทตี้คำรามด้วยโทสะ แม้เป็นอย่างนั้น เธอก็ตระหนักดีว่าตนไม่อาจทำอันใดได้
ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงได้แต่ข่มอารมณ์มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าโดยไม่วู่วามอยู่พักหนึ่ง
ทางด้านชายชราเมื่อกล่าวเสร็จก็ยันเท้าเข้าใส่กริชเต็มเปา “อั้ก..!” ชายหนุ่มล้มไปกองกับพื้น
จากนั้นเฒ่าชราจึงว่า
“เอาตัวมันไปขัง”
เพราะไม่อาจขัดขืน ดังนั้นเขาจึงถูกสมุนที่เหลือลากเข้ากรงไป กึง! กระทั่งกรงเหล็กปิดลง พวกมันจึงเริ่มแยกย้ายไปหาที่นอนของตัวเองตามสะดวก
โดยปล่อยให้กริชนั่งซึมอยู่เพียงลำพัง
———นี่ล่ะโอกาส
แพทตี้ซึ่งคอยมองห่างอยู่ขบคิด
หญิงสาวค่อยๆคลานต่ำเข้าไปเพื่อย่นระยะทีละน้อย กระทั่งหยุดห่างจากกรงของเพื่อนชายเพียง
10 เมตร เธอก็ถึงกับกุมขมับทันที เพราะระยะห่างก่อนหน้าและแสงไฟสลัวก็เลยทำให้หล่อนมองเห็นไม่ชัด
แต่พอมาดูใกล้ๆจึงพบว่ากรงเหล็กนี้กลับถูกปิดผนึกไว้ด้วยแม่กุญแจไม้อีกทีหนึ่ง
ความจริงนี่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากจะคุมขังนักโทษยังไงก็ต้องมีมาตรการป้องกันไว้บ้าง
แย่จริง! แพทตี้สบถในใจ
กระนั้นก็ยังถือว่าโชคดี แม่กุญแจนี้เป็นล็อกไม้อัดแบบทำมือ
อย่างน้อยก็คิดว่าคงพอทำลายมันลงได้ แม้จะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับไร้หนทางซะทีเดียว
“คงต้องหาของมีคมแถวๆนี้”
เธอพึมพำ กระทั่งสุดสายตาเหลือบไปเห็นมีดหินเล่มหนึ่งวางกองไว้กับพื้น
แพทตี้จึงลอบทุบกำปั้นดัง แปะ! เบาๆ
ก่อนจะย่องเข้าไปหาอาวุธเพียงชิ้นเดียวตรงหน้าอย่างแช่มช้า
เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันเปื้อนเลือดอยู่เต็มไปหมด
———ถ้าจำไม่ผิดนี่คงเป็นมีดที่ฆ่าเราเมื่อกี้
พอนึกย้อนกลับไป แพทตี้ก็ถึงกับหน้าซีดเหงื่ออาบไปทั่วร่าง เธอรีบสะบัดหน้าไปมา
ก่อนจะหันมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง เธอค่อยๆย่องกลับไปที่เดิม ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้ากรงเหล็กของกริช
ก๊อก! ก๊อก!
หญิงสาวเคาะกรงเรียกความสนใจ แล้วก็ได้ผล ชายหนุ่มซึ่งฟุบหน้าซึมอยู่ค่อยๆเหลือบมองมาทีละน้อย
ก่อนจะเบิกตาโพลงอุทานว่า
“นี่เธอ..!?”
“ชู่ว! เบาๆสิ
เดี๋ยวพวกมันก็รู้ตัวหรอก”
ชายหนุ่มพลันตะครุบปากอย่างลืมตัว จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวา
แล้วค่อยกระซิบว่า “เธอมาทำบ้าอะไรที่นี่!?
อยากตายอีกรอบรึไง?” ราวกับคำพูดนี้เป็นเพียงอากาศธาตุ
แพทตี้หาได้สนใจไม่ กลับกันก็บรรจงตัดแม่กุญแจด้วยมีดในมืออย่างทุลักทุเล
เขาเห็นดังนั้นจึงกระตุกคิ้ว พลางเอ่ยย้ำ
“พอได้แล้ว! ขืนเธอมายุ่งก็มีแต่จะตายซะเปล่า”
“ก็แล้วมันทำไมเล่า!?”
หญิงสาวพลันหยุดมือจ้องเขม็งมาที่กริชอย่างไม่สบอารมณ์ เธอว่า “นายเคยช่วยชั้นไว้”
———จากนั้นปลายมีดจึงชี้มาที่กลางอกตน
“เพื่อตอบแทนบุญคุณนั่น ต่อให้ตายชั้นก็ไม่สนหรอก!”
“.....นี่เธอ”
กริชถึงกับสั่นสะท้านต่อคำพูดนั้น พูดไม่ออก ผู้หญิงแบบนี้สำหรับเขาก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก
พอมองสองมือของหล่อนก็พบว่ามันกำลังสั่นอยู่ เธอกำลังกลัว? เขานึกในใจ กระนั้นก็น่าแปลก
ถ้าหากกลัวจริง แล้วอะไรถึงนำพาเธอมาที่นี่
ถ้ากลัวจริงแล้วจะฝืนตัวเองไปเพื่ออะไรกัน?
แม้เป็นเช่นนั้น
แต่ความรู้สึกตื้นตันใจกลับแผ่ขยายเข้าสู่กลางอกอย่างเด่นชัด มิตรภาพงั้นเหรอ? ความรักงั้นเหรอ? บุญคุณงั้นเหรอ? จะอย่างไหนเขาก็ไม่รู้หรอก
แต่ที่แน่ๆกริชกลับรู้สึกยินดี
———ยินดี.....ที่พวกเขาได้รู้จักกัน
ในตอนนั้นมุมปากของชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาอย่างเป็นสุขขัดต่อสภาพการณ์รอบด้าน
ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของแพทตี้ที่กำลังหั่นแม่กุญแจอยู่นั้น แกร๊ก! จู่ๆเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นราวกับนี่เป็นคำอวยพรจากพระเจ้า
กริชได้สติอีกครั้ง เขาเพ่งมองไปยังที่มาของเสียงแตกหักดังกล่าว ก่อนจะเบิกตากว้าง
แม่กุญแจยามนี้กลับขาดออกจากกันโดยสมบูรณ์
———กล่าวคือเขาสามารถออกไปได้แล้วนั่นเอง!
แพทตี้ยิ้มให้หนหนึ่งก่อนจะปาดเหงื่อบนหน้าลวกๆ
แล้วเปิดกรงเหล็กให้ชายหนุ่มก้าวเดินออกมา สำเร็จ.....สำเร็จแล้ว! เท่านี้เราก็สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!
ขณะที่กริชกำลังดีใจอยู่นั้น
จู่ๆก็มีเสียงแหบพร่าดังขึ้น
“ช-ช่วย...ด้วย”
เป็นแพทตี้ที่หันไปมอง
ก่อนจะพบว่าเสียงดังกล่าวนั้นก็คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกจับตัวไว้ในฐานะทาส
หล่อนเปล่งเสียงย้ำอีกครั้ง โดยหนนี้มีพรรคพวกร้องเรียกตามด้วยเช่นกัน
“ช่วยชั้น...ด้วย”
“ช่วยพวกเรา...ที ขอร้องล่ะ!”
ทั้งคู่ถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก กริชเรียก “.....แพทตี้” ก่อนจะหันมองคู่สนทนาตนอย่างช้าๆ แน่นอนว่าหญิงสาวก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกัน
ความรู้สึกลึกๆของทั้งสองก็คืออยากช่วย แต่ไม่อาจช่วยได้ ทั้งนี้เป็นเพราะบางคนไม่มีแขนขา
และบางคนซูบผอมจนเกินไป
การจะเสียเวลาช่วยเปิดกรงโดยกินเวลาไปร่วมสิบนาทีนั้นถือว่ามีความเสี่ยงอยู่มากเลยทีเดียว
“ขอโทษนะ”
แพทตี้เอ่ยเบาๆพร้อมทั้งแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมาจากใจ
ผิดกับพวกทาสที่ถูกคุมขังไว้ ทันทีที่มันได้ยินคำตอบของเธอ ใบหน้าอ้อนวอนก็พลันฉายแววอาฆาตเปล่งประกายโกรธแค้นออกมาอย่างคับคั่ง
“อ๊ากกกกก! ตาย! ตาย! ขอให้พวกมึงตายๆไปซ้าาาา!”
“ไอ้พวกชั่ว! กูขอสาปแช่งมึงไม่ให้ตายดี..!”
“ฮืออออ! โฮฮฮฮฮ....บัดซบ! บัดซบ!”
การกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งนี้พลันดังแพร่สะพัดไปทั่วบริเวณถ้ำจนทุกคนถึงกับสะดุ้งเฮือก
ส่วนกริชกับแพทตี้นั้นยิ่งแล้วใหญ่
พวกเขาในตอนนี้เหมือนกับวิญญาณหลุดจากร่างแล้วด้วยซ้ำ
“ฮ-เฮ้ย! หยุดร้องได้แล้ว
ขืนตะโกนแบบนั้นมีหวัง––”
“ไม่ต้องไปคุยแล้ว!”
กริชตัดบทแล้วคว้าข้อมือเธอวิ่งนำออกไป ขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าจำนวนหนึ่งวิ่งตามมา
เมื่อหันหลังไปจึงพบกับกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังกรูเข้าใส่อย่างเนืองแน่น ไม่บอกก็รู้ พวกมันคือสมุนของเฒ่าชรา!
“เวรเอ๊ย! อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้”
“ฮ่าห์..!”
เสียงขานรับดังก้องไปทั่วสารทิศ พวกมันล้วนถืออาวุธครบมือทั้งสิ้น
ผิดกับทั้งคู่ซึ่งมีมีดหินหักๆอยู่เพียงเล่มเดียว “กรอด!” กริชขบฟันแน่น
ระยะห่างจากตรงนี้ถึงทางออกคือประมาณ 150 เมตร กะเวลาคร่าวๆก็ประมาณ 20-25 วิฯจึงจะไปถึง
ระยะเวลาขนาดนั้นคาดว่าพวกมันคงตามมาทันแน่
———ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่ทางเดียว
เมื่อนึกได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงหยุดฝีเท้าลง
กึก!
แพทตี้หันขวับมองชายหนุ่มอย่างร้อนรน แล้วว่า “นี่! จะทำบ้าอะไรของนายน่ะ..!?”
ผิดกับเจ้าตัวที่ยามนี้กลับยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
“หนีไปซะ”
“อย่ามาพูดบ้าๆนะ! นี่จะบอกให้ชั้นทิ้งนายรึไง..!?”
“แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!? ขืนไม่ทำแบบนี้เราคงเสร็จพวกมันทั้งคู่แน่!”
“ก็แล้วยังไง! ชั้นไม่คิดจะทิ้งนายไปไหนแน่
ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน..!”
“.....อ-อึก! นี่เธอ––” กริชทำหน้าอึ้ง จากนั้นจึงกลืนน้ำลายฝืดลงคอ พลางถอนหายใจกล่าวยิ้มๆออกมาว่า
“หึ! เธอเนี่ยดื้อชะมัด” จากนั้นชายหนุ่มจึงเพ่งมองไปยังภาพเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง
“เอางั้นก็ได้!”
ชายหนุ่มคว้ามีดในมือเธอมาถือไว้———
“พวกเราจะตายไปด้วยกัน..!”
.
.
.
“แหมๆ ไอ้วงจรอุบาทว์หมาหมู่นี่มันมีทุกที่เลยจริงๆ”
ทันใดนั้นเสียงใสก็ดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสองคน กริชตระหนกวูบ รีบหันกลับวาดคมมีดในมือโดยอัตโนมัติ
ฟุ่บ! กระนั้นอีกฝ่ายกลับเอี้ยวหลบอย่างลวกๆก่อนจะว่า
“ใจเย็นสิ ชั้นมาดีไม่ได้คิดร้ายกับพวกนายหรอกนะ”
“แกเป็นใคร!?”
กริชคำรามพลางชี้มีดออกไป ขณะเดียวกันทางด้านเฒ่าชราก็ตามติดมาถึงตัวทั้งสองแล้ว
ยามนี้พวกเขากำลังโดนตีขนาบอยู่ หากเรียกแบบนี้ก็คงไม่ผิดนัก
ท่ามกลางสภาพวิกฤตอันเคร่งเครียดนี้
บุคคลที่สามซึ่งสวมฮู้ดขาดๆตรงหน้าก็โพล่งขึ้น
“เห๋? ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอแกที่นี่【เฒ่ากระดูก】”
“........!?”
เฒ่าชราผู้เป็นเจ้าของถ้ำแห่งนี้เพ่งมองผู้มาใหม่อย่างฉงน แล้วว่า “แกรู้จักชั้น?” จากนั้นทางด้านฮู้ดนิรนามจึงยักไหล่ตอบ “แหงแซะ”
ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมจรดนิ้วออกไปเบื้องหน้า พอเห็นอย่างนั้น เฒ่ากระดูกก็ถึงกับหรี่ตาต่ำเผยหยาดเหงื่อขึ้นหน้าเล็กน้อย
“ผู้ใช้อาคมเรอะ? เหอะ! ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้แกก็ไม่เกี่ยว อย่าแส่หาเรื่องจะดีกว่า”
“ก็อยากทำงั้นอยู่ แต่ว่าขอชั้นถามอะไรซักอย่างหนึ่งก่อนแล้วกัน”
“.....ว่ามา!”
———อีกฝ่ายเหยียดยิ้มแล้วทัก
“ในช่วงหลายปีมานี้ นายเคยเห็น【อสูรแปดชั้น • เกล】บ้างไหม?”
“อสูรแปดชั้น!? นี่แกรู้จักกับจอมปีศาจพรรค์นั้นเรอะ?”
“ตอบคำถาม”
“.....เคยได้ยินแต่ชื่อเสียง ว่าเดือนก่อนไปเที่ยวอาละวาดใส่จ้าวนรกฟากใต้จนวุ่นวาย
กระนั้นทางนี้ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงอะไรมากนัก”
“เฮ้ยๆ ไปงัดข้อกับจ้าวนรกเนี่ยนะ? หมอนั่นชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้วมั้ง?”
ฮู้ดนิรนามเผยสีหน้าเอือมๆออกมา จากนั้นเฒ่ากระดูกจึงทัก “ในเมื่อตอบคำถามแล้ว แกก็ไปซะ”
ส่งผลให้อีกฝ่ายชะงักกึกไปซักพัก ก่อนจะหันมาเหยียดยิ้มว่า
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【นารากะ • ทัลนุล】”
“นี่แก..!?”
วู้มมมมมม!
ทันใดนั้นตรงหน้าของบุคคลลึกลับจึงปรากฏคันธนูยาวเกือบสองเมตรขึ้นตรงหน้า
สีของมันเป็นดำสนิทแต่กลับมีรอยแตกร้าวเผยวังวนเพลิงระอุพวยพุ่งออกมาเป็นพักๆ
ท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของทุกคน
เจ้าตัวก็พลันคว้าหมับไว้ด้วยมือหนึ่งก่อนจะทาบนิ้วเป็นรูปปืนลงกั่นธนู จนบังเกิดศรเพลิงขึ้น
“หลบเร็ว..!” เฒ่ากระดูกกู่ร้อง
จากนั้นมันจึงทะยานออกไปราวกับกระสุนนัดหนึ่ง
เปรี้ยง!
เสาเพลิงขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นตรงหน้ากริชกับแพทตี้
ขณะเดียวกันสมุนของเฒ่ากระดูกก็ล้วนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
แรงระเบิดนั้นส่งผลให้ทุกสิ่งโดยรอบกระจัดกระจายไปทั่ว
“อุหวา...สงสัยจะหนักมือไปหน่อย”
คนก่อเหตุได้แต่หัวเราะแหะๆก่อนจะคลายอาคมให้เลือนหายไป ขณะเดียวกันแพทตี้ที่กำลังเหงื่อแตกพลั่กก็เอ่ยถามออกไปด้วยเสียงสั่นหงึกไม่อยู่กับที่
“น-นี่นายเป็นใครกันแน่?”
“หืม? ชั้นน่ะเหรอ..?”
———เจ้าตัวหันมองเธอ จากนั้นจึงฉีกยิ้มกว้างให้
“ถ้าจะเรียกก็ให้เรียกว่า【วีด】แล้วกัน”
۞۞۞
ความคิดเห็น