ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #87 : Ep.05 - Amnesia

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.53K
      63
      1 มิ.ย. 60

    UNagain.05 – Amnesia

    กรอด! ไอ้สารเลวเอ๊ย

    แพทตี้คำรามด้วยโทสะ แม้เป็นอย่างนั้น เธอก็ตระหนักดีว่าตนไม่อาจทำอันใดได้ ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงได้แต่ข่มอารมณ์มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าโดยไม่วู่วามอยู่พักหนึ่ง ทางด้านชายชราเมื่อกล่าวเสร็จก็ยันเท้าเข้าใส่กริชเต็มเปา อั้ก..!” ชายหนุ่มล้มไปกองกับพื้น จากนั้นเฒ่าชราจึงว่า

    เอาตัวมันไปขัง

    เพราะไม่อาจขัดขืน ดังนั้นเขาจึงถูกสมุนที่เหลือลากเข้ากรงไป กึง! กระทั่งกรงเหล็กปิดลง พวกมันจึงเริ่มแยกย้ายไปหาที่นอนของตัวเองตามสะดวก โดยปล่อยให้กริชนั่งซึมอยู่เพียงลำพัง

    ———นี่ล่ะโอกาส

    แพทตี้ซึ่งคอยมองห่างอยู่ขบคิด หญิงสาวค่อยๆคลานต่ำเข้าไปเพื่อย่นระยะทีละน้อย กระทั่งหยุดห่างจากกรงของเพื่อนชายเพียง 10 เมตร เธอก็ถึงกับกุมขมับทันที เพราะระยะห่างก่อนหน้าและแสงไฟสลัวก็เลยทำให้หล่อนมองเห็นไม่ชัด

    แต่พอมาดูใกล้ๆจึงพบว่ากรงเหล็กนี้กลับถูกปิดผนึกไว้ด้วยแม่กุญแจไม้อีกทีหนึ่ง

    ความจริงนี่ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หากจะคุมขังนักโทษยังไงก็ต้องมีมาตรการป้องกันไว้บ้าง แย่จริง! แพทตี้สบถในใจ กระนั้นก็ยังถือว่าโชคดี แม่กุญแจนี้เป็นล็อกไม้อัดแบบทำมือ อย่างน้อยก็คิดว่าคงพอทำลายมันลงได้ แม้จะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับไร้หนทางซะทีเดียว

    คงต้องหาของมีคมแถวๆนี้

    เธอพึมพำ กระทั่งสุดสายตาเหลือบไปเห็นมีดหินเล่มหนึ่งวางกองไว้กับพื้น แพทตี้จึงลอบทุบกำปั้นดัง แปะ! เบาๆ ก่อนจะย่องเข้าไปหาอาวุธเพียงชิ้นเดียวตรงหน้าอย่างแช่มช้า

    เมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันเปื้อนเลือดอยู่เต็มไปหมด

    ———ถ้าจำไม่ผิดนี่คงเป็นมีดที่ฆ่าเราเมื่อกี้

    พอนึกย้อนกลับไป แพทตี้ก็ถึงกับหน้าซีดเหงื่ออาบไปทั่วร่าง เธอรีบสะบัดหน้าไปมา ก่อนจะหันมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง เธอค่อยๆย่องกลับไปที่เดิม ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้ากรงเหล็กของกริช

    ก๊อก! ก๊อก!

    หญิงสาวเคาะกรงเรียกความสนใจ แล้วก็ได้ผล ชายหนุ่มซึ่งฟุบหน้าซึมอยู่ค่อยๆเหลือบมองมาทีละน้อย ก่อนจะเบิกตาโพลงอุทานว่า

    นี่เธอ..!?”

    ชู่ว! เบาๆสิ เดี๋ยวพวกมันก็รู้ตัวหรอก

    ชายหนุ่มพลันตะครุบปากอย่างลืมตัว จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวา แล้วค่อยกระซิบว่า เธอมาทำบ้าอะไรที่นี่!? อยากตายอีกรอบรึไง?” ราวกับคำพูดนี้เป็นเพียงอากาศธาตุ แพทตี้หาได้สนใจไม่ กลับกันก็บรรจงตัดแม่กุญแจด้วยมีดในมืออย่างทุลักทุเล เขาเห็นดังนั้นจึงกระตุกคิ้ว พลางเอ่ยย้ำ

    พอได้แล้ว! ขืนเธอมายุ่งก็มีแต่จะตายซะเปล่า

    ก็แล้วมันทำไมเล่า!?”

    หญิงสาวพลันหยุดมือจ้องเขม็งมาที่กริชอย่างไม่สบอารมณ์ เธอว่า นายเคยช่วยชั้นไว้

    ———จากนั้นปลายมีดจึงชี้มาที่กลางอกตน

    เพื่อตอบแทนบุญคุณนั่น ต่อให้ตายชั้นก็ไม่สนหรอก!”

    .....นี่เธอ

    กริชถึงกับสั่นสะท้านต่อคำพูดนั้น พูดไม่ออก ผู้หญิงแบบนี้สำหรับเขาก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก พอมองสองมือของหล่อนก็พบว่ามันกำลังสั่นอยู่ เธอกำลังกลัว? เขานึกในใจ กระนั้นก็น่าแปลก

    ถ้าหากกลัวจริง แล้วอะไรถึงนำพาเธอมาที่นี่

    ถ้ากลัวจริงแล้วจะฝืนตัวเองไปเพื่ออะไรกัน?

    แม้เป็นเช่นนั้น แต่ความรู้สึกตื้นตันใจกลับแผ่ขยายเข้าสู่กลางอกอย่างเด่นชัด มิตรภาพงั้นเหรอ? ความรักงั้นเหรอ? บุญคุณงั้นเหรอ? จะอย่างไหนเขาก็ไม่รู้หรอก แต่ที่แน่ๆกริชกลับรู้สึกยินดี

    ———ยินดี.....ที่พวกเขาได้รู้จักกัน

    ในตอนนั้นมุมปากของชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาอย่างเป็นสุขขัดต่อสภาพการณ์รอบด้าน ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของแพทตี้ที่กำลังหั่นแม่กุญแจอยู่นั้น แกร๊ก! จู่ๆเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นราวกับนี่เป็นคำอวยพรจากพระเจ้า กริชได้สติอีกครั้ง เขาเพ่งมองไปยังที่มาของเสียงแตกหักดังกล่าว ก่อนจะเบิกตากว้าง

    แม่กุญแจยามนี้กลับขาดออกจากกันโดยสมบูรณ์

    ———กล่าวคือเขาสามารถออกไปได้แล้วนั่นเอง!

    แพทตี้ยิ้มให้หนหนึ่งก่อนจะปาดเหงื่อบนหน้าลวกๆ แล้วเปิดกรงเหล็กให้ชายหนุ่มก้าวเดินออกมา สำเร็จ.....สำเร็จแล้ว! เท่านี้เราก็สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้แล้ว! ขณะที่กริชกำลังดีใจอยู่นั้น

    จู่ๆก็มีเสียงแหบพร่าดังขึ้น

    ช-ช่วย...ด้วย

    เป็นแพทตี้ที่หันไปมอง ก่อนจะพบว่าเสียงดังกล่าวนั้นก็คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกจับตัวไว้ในฐานะทาส หล่อนเปล่งเสียงย้ำอีกครั้ง โดยหนนี้มีพรรคพวกร้องเรียกตามด้วยเช่นกัน

    ช่วยชั้น...ด้วย

    ช่วยพวกเรา...ที ขอร้องล่ะ!”

    ทั้งคู่ถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก กริชเรียก .....แพทตี้ก่อนจะหันมองคู่สนทนาตนอย่างช้าๆ แน่นอนว่าหญิงสาวก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกัน ความรู้สึกลึกๆของทั้งสองก็คืออยากช่วย แต่ไม่อาจช่วยได้ ทั้งนี้เป็นเพราะบางคนไม่มีแขนขา และบางคนซูบผอมจนเกินไป การจะเสียเวลาช่วยเปิดกรงโดยกินเวลาไปร่วมสิบนาทีนั้นถือว่ามีความเสี่ยงอยู่มากเลยทีเดียว

    ขอโทษนะ

    แพทตี้เอ่ยเบาๆพร้อมทั้งแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมาจากใจ ผิดกับพวกทาสที่ถูกคุมขังไว้ ทันทีที่มันได้ยินคำตอบของเธอ ใบหน้าอ้อนวอนก็พลันฉายแววอาฆาตเปล่งประกายโกรธแค้นออกมาอย่างคับคั่ง

    อ๊ากกกกก! ตาย! ตาย! ขอให้พวกมึงตายๆไปซ้าาาา!”

    ไอ้พวกชั่ว! กูขอสาปแช่งมึงไม่ให้ตายดี..!”

    ฮืออออ! โฮฮฮฮฮ....บัดซบ! บัดซบ!”

    การกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งนี้พลันดังแพร่สะพัดไปทั่วบริเวณถ้ำจนทุกคนถึงกับสะดุ้งเฮือก ส่วนกริชกับแพทตี้นั้นยิ่งแล้วใหญ่ พวกเขาในตอนนี้เหมือนกับวิญญาณหลุดจากร่างแล้วด้วยซ้ำ

    ฮ-เฮ้ย! หยุดร้องได้แล้ว ขืนตะโกนแบบนั้นมีหวัง––

    ไม่ต้องไปคุยแล้ว!”

    กริชตัดบทแล้วคว้าข้อมือเธอวิ่งนำออกไป ขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าจำนวนหนึ่งวิ่งตามมา เมื่อหันหลังไปจึงพบกับกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังกรูเข้าใส่อย่างเนืองแน่น ไม่บอกก็รู้ พวกมันคือสมุนของเฒ่าชรา!

    เวรเอ๊ย! อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้

    ฮ่าห์..!”

    เสียงขานรับดังก้องไปทั่วสารทิศ พวกมันล้วนถืออาวุธครบมือทั้งสิ้น ผิดกับทั้งคู่ซึ่งมีมีดหินหักๆอยู่เพียงเล่มเดียว กรอด!กริชขบฟันแน่น ระยะห่างจากตรงนี้ถึงทางออกคือประมาณ 150 เมตร กะเวลาคร่าวๆก็ประมาณ 20-25 วิฯจึงจะไปถึง ระยะเวลาขนาดนั้นคาดว่าพวกมันคงตามมาทันแน่

    ———ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแค่ทางเดียว

    เมื่อนึกได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงหยุดฝีเท้าลง

    กึก!

    แพทตี้หันขวับมองชายหนุ่มอย่างร้อนรน แล้วว่า นี่! จะทำบ้าอะไรของนายน่ะ..!?” ผิดกับเจ้าตัวที่ยามนี้กลับยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

    หนีไปซะ

    อย่ามาพูดบ้าๆนะ! นี่จะบอกให้ชั้นทิ้งนายรึไง..!?”

    แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!? ขืนไม่ทำแบบนี้เราคงเสร็จพวกมันทั้งคู่แน่!”

    ก็แล้วยังไง! ชั้นไม่คิดจะทิ้งนายไปไหนแน่ ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน..!”

    “.....อ-อึก! นี่เธอ–– กริชทำหน้าอึ้ง จากนั้นจึงกลืนน้ำลายฝืดลงคอ พลางถอนหายใจกล่าวยิ้มๆออกมาว่า หึ! เธอเนี่ยดื้อชะมัดจากนั้นชายหนุ่มจึงเพ่งมองไปยังภาพเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง

    เอางั้นก็ได้!”

    ชายหนุ่มคว้ามีดในมือเธอมาถือไว้———

    พวกเราจะตายไปด้วยกัน..!”

    .

    .

    .

    แหมๆ ไอ้วงจรอุบาทว์หมาหมู่นี่มันมีทุกที่เลยจริงๆ

    ทันใดนั้นเสียงใสก็ดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสองคน กริชตระหนกวูบ รีบหันกลับวาดคมมีดในมือโดยอัตโนมัติ ฟุ่บ! กระนั้นอีกฝ่ายกลับเอี้ยวหลบอย่างลวกๆก่อนจะว่า

    ใจเย็นสิ ชั้นมาดีไม่ได้คิดร้ายกับพวกนายหรอกนะ

    แกเป็นใคร!?”

    กริชคำรามพลางชี้มีดออกไป ขณะเดียวกันทางด้านเฒ่าชราก็ตามติดมาถึงตัวทั้งสองแล้ว ยามนี้พวกเขากำลังโดนตีขนาบอยู่ หากเรียกแบบนี้ก็คงไม่ผิดนัก ท่ามกลางสภาพวิกฤตอันเคร่งเครียดนี้

    บุคคลที่สามซึ่งสวมฮู้ดขาดๆตรงหน้าก็โพล่งขึ้น

    เห๋? ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอแกที่นี่เฒ่ากระดูก

    ........!?”

    เฒ่าชราผู้เป็นเจ้าของถ้ำแห่งนี้เพ่งมองผู้มาใหม่อย่างฉงน แล้วว่า แกรู้จักชั้น?” จากนั้นทางด้านฮู้ดนิรนามจึงยักไหล่ตอบ แหงแซะก่อนจะสะบัดผ้าคลุมจรดนิ้วออกไปเบื้องหน้า พอเห็นอย่างนั้น เฒ่ากระดูกก็ถึงกับหรี่ตาต่ำเผยหยาดเหงื่อขึ้นหน้าเล็กน้อย

    ผู้ใช้อาคมเรอะ? เหอะ! ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้แกก็ไม่เกี่ยว อย่าแส่หาเรื่องจะดีกว่า

    ก็อยากทำงั้นอยู่ แต่ว่าขอชั้นถามอะไรซักอย่างหนึ่งก่อนแล้วกัน

    .....ว่ามา!”

    ———อีกฝ่ายเหยียดยิ้มแล้วทัก

    ในช่วงหลายปีมานี้ นายเคยเห็นอสูรแปดชั้น • เกลบ้างไหม?”

    อสูรแปดชั้น!? นี่แกรู้จักกับจอมปีศาจพรรค์นั้นเรอะ?”

    ตอบคำถาม

    .....เคยได้ยินแต่ชื่อเสียง ว่าเดือนก่อนไปเที่ยวอาละวาดใส่จ้าวนรกฟากใต้จนวุ่นวาย กระนั้นทางนี้ก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงอะไรมากนัก

    เฮ้ยๆ ไปงัดข้อกับจ้าวนรกเนี่ยนะ? หมอนั่นชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้วมั้ง?”

    ฮู้ดนิรนามเผยสีหน้าเอือมๆออกมา จากนั้นเฒ่ากระดูกจึงทัก ในเมื่อตอบคำถามแล้ว แกก็ไปซะส่งผลให้อีกฝ่ายชะงักกึกไปซักพัก ก่อนจะหันมาเหยียดยิ้มว่า

    จงปรากฏต่อหน้าข้านารากะ • ทัลนุล

    นี่แก..!?”

    วู้มมมมมม!

    ทันใดนั้นตรงหน้าของบุคคลลึกลับจึงปรากฏคันธนูยาวเกือบสองเมตรขึ้นตรงหน้า สีของมันเป็นดำสนิทแต่กลับมีรอยแตกร้าวเผยวังวนเพลิงระอุพวยพุ่งออกมาเป็นพักๆ ท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของทุกคน เจ้าตัวก็พลันคว้าหมับไว้ด้วยมือหนึ่งก่อนจะทาบนิ้วเป็นรูปปืนลงกั่นธนู จนบังเกิดศรเพลิงขึ้น

    หลบเร็ว..!” เฒ่ากระดูกกู่ร้อง

    จากนั้นมันจึงทะยานออกไปราวกับกระสุนนัดหนึ่ง

    เปรี้ยง!

    เสาเพลิงขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นตรงหน้ากริชกับแพทตี้ ขณะเดียวกันสมุนของเฒ่ากระดูกก็ล้วนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แรงระเบิดนั้นส่งผลให้ทุกสิ่งโดยรอบกระจัดกระจายไปทั่ว

    อุหวา...สงสัยจะหนักมือไปหน่อย

    คนก่อเหตุได้แต่หัวเราะแหะๆก่อนจะคลายอาคมให้เลือนหายไป ขณะเดียวกันแพทตี้ที่กำลังเหงื่อแตกพลั่กก็เอ่ยถามออกไปด้วยเสียงสั่นหงึกไม่อยู่กับที่

    น-นี่นายเป็นใครกันแน่?”

    หืม? ชั้นน่ะเหรอ..?”

    ———เจ้าตัวหันมองเธอ จากนั้นจึงฉีกยิ้มกว้างให้

    ถ้าจะเรียกก็ให้เรียกว่าวีดแล้วกัน

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×