ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #91 : Ep.09 - Arthur

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.36K
      61
      9 มิ.ย. 60

    UNagain.09 – Arthur

    ตายอีกแล้วสินะ?”

    ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้อย่างนั้น ข้างๆกันก็เผยให้เห็นกริชกำลังนั่งซึมอยู่ พวกเขาทั้งสองล้วนไร้อาภรณ์สวมใส่ ดังนั้นจึงเป็นที่แน่ชัดว่าเสื้อผ้านั้นคงถูกท่าพลังจิตบดขยี้เป็นเศษซากไปแล้ว ขอโทษด้วยชายหนุ่มเปรยขึ้นเบาๆ จนเธอได้สติ หญิงสาวส่ายหน้าตอบ แล้วเอ่ยกลับอย่างนุ่มนวล

    อย่าคิดมากน่า ยังไงเราก็ยังสามารถฟื้นขึ้นมาใหม่ได้––

    โกหก

    เอ๋?”

    ทันใดนั้นน้ำเสียงอันหยาบกระด้างก็เข้าแทนที่ ใบหน้าของกริชพลันละลายออกอย่างช้าๆโลหิตปนน้ำเหลืองชวนสะอิดสะเอียนล้วนไหลนองอยู่กับพื้น ใบหน้านั้นกลับกลายเป็นรูโหว่เผยให้เห็นเนื้อกะโหลกอยู่ภายใน ดวงตาอันมือบอดนั้นกำลังจับจ้องมาที่เธออยู่

    พวกเราไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้อีก เจ้าก็รู้

    .......!?”

    รูปลักษณ์และน้ำเสียงพลันแปรเปลี่ยนไปจนหมดสิ้น ตรงหน้าของแพทหลงเหลือเพียงเศษเนื้อละลายกองอยู่กับพื้น และโครงกระดูกซึ่งกำลังพูดออกมาราวกับนี่เป็นเรื่องปกติ

    น-นายเป็นใคร? ไม่สิ...นายเป็นตัวอะไรกันแน่!?”

    เจ้ารู้จักข้า

    รู้จักงั้นเหรอ? เจ้าโครงกระดูกนี่พูดอะไร!? แล้วกริชล่ะ..? แพทตี้ขบคิดอย่างสับสน ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ลุกขึ้นก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างแช่มช้า หญิงสาวพลันเหงื่อแตกพลั่ก ขณะเดียวกันก็เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสะดุดล้มกับบางสิ่ง จนก้นจ้ำเบ้ากับพื้น——

    สิ่งนั้นก็คือศีรษะของมนุษย์ เป็นศีรษะของเด็กชายคนหนึ่ง

    ท่านแม่.....

    เฮือก!

    ร่างกายของเธอพลันสั่นสะท้านจนขนลุกซู่ นี่มันอะไรกัน? ความรู้สึกเศร้าปนหวาดกลัวนี่..!? เธอจ้องมองไปยังศีรษะเด็กซึ่งเอื้อนเอ่ยคำพูดสลับกับชิ้นส่วนโครงกระดูกซึ่งกำลังย่างเข้ามาทีละน้อย

    เธอรู้สึกผิด รู้สึกกลัว รู้สึกหดหู่

    อยากตาย! เราอยากตายให้มันพ้นๆไปซะ..!

    .

    .

    ท่านทำแบบนั้นไม่ได้หรอกท่านแม่

    ใช่แล้ว เจ้านั้นมันบาปเกินไป ความตายไม่อาจช่วยเจ้าได้

    พอได้แล้ว..!”

    ———แพทตี้ตะโกนออกไป

    พวกนายเป็นใคร! พวกนายต้องการอะไรกันแน่..!?”

    ข้าคือบุตรของท่าน ข้าต้องการไออุ่น

    ข้าคือสหายของเจ้า ข้าต้องการสันติสุข

    ทันทีที่เอ่ยจบ โครงกระดูกไร้ร่างจึงทะยานเข้าประชิดพลางแทงมือเข้ากลางอกของหล่อนจนเผยหยาดโลหิตพวยพุ่งออกมา อ่อก..!?” แพทตาเหลือกค้าง ขณะเดียวกันสติก็เริ่มสั่นคลอน อากาศรอบตัวพลันหนาวเหน็บขึ้นในชั่วเสี้ยววิ เลือดไหลออกมุมปากจนยากแก่การพูดคุย เลือดไหลออกจมูกจนยากหายใจ

    แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร? ปรารถนาสิ่งใดอยู่?”

    โครงกระดูกเอ่ยเสร็จจึงกระชากมือออก เผยหัวใจของเธอเต้นตุบอยู่ในอุ้งมือของมัน ร่างบางไร้เรี่ยวแรงจะเสวนาต่อ แพทถึงกับทิ้งดิ่งลงกับพื้นดังสนั่น จากนั้นจึงภาพตรงหน้าจึงดับวูบ

    ———หลงเหลือไว้เพียงเสียงแหบพร่าของอีกฝ่าย

    เรียกข้าออกไปสิ

    .

    .

    .

    เปรี้ยง!

    ทันทีที่ศรเพลิงระเบิดออก หมู่ควันจำนวนมากจึงพวยพุ่งออกมาอย่างคับคั่ง นิรยบาลฉีกยิ้ม คาดว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องตกตายไปแล้วอย่างแน่นอน ดังนั้นมันจึงเบนสายตาไปทางกริชซึ่งกำลังนอนทรมานไร้แขนอยู่กับพื้น ถึงตาเจ้านิรยบาลเปล่งคำพูดอำมหิต ก่อนจะเหยียดเท้าข้างหนึ่งหมายทะยานออกไป

    เจ้าคิดสังหารข้างั้นเหรอ?”

    กึก!

    ร่างของผู้คุมชะงัก เสียงใสแต่เปลี่ยนสรรพนามนั้นก้องออกมาจากหมู่ควันด้านหน้า มันยังไม่ตาย!? ความคิดนี้พลันแล่นเข้าโสดประสาททันที นิรยบาลเมื่อรับรู้เช่นนั้นจึงเล็งคันธนูไปยังทิศทางตรงหน้า

    ก็แล้วเป็นเช่นไร!? ยังไงเจ้ามันก็แค่คนบาปผู้หนึ่ง

    ป่งงงง!

    ศรเพลิงทะยานออกไปดั่งใจคิด แรงเสียดทานในอากาศนี้ส่งผลให้หมู่ควันกระจายออกไป ขณะเดียวกันเมื่อมันสัมฤทธิ์ผลปะทะต่อเป้าหมายตรงหน้า เสียงกัมปนาทก็ดังขึ้นสะท้านไปทั่ว

    เปรี้ยง!

    ตอนนั้นม่านหมอกจึงเลือนหายไปเผยให้เห็นหญิงสาวคนหนึ่ง

    ———ยืนตั้งดาบใหญ่สูงสองเมตรขนานกับพื้น

    อาคมชั้นสูง..!?” นิรยบาลถึงกับตระหนก เพราะดาบสองคมเบื้องหน้านั้นสามารถรับท่าพลังจิตได้ปกติสามัญ การจะป้องกันท่าพลังจิตจำต้องใช้ท่าพลังจิตด้วยกันต้านทาน แต่การกระทำตรงหน้านั้นกลับเป็นเพียงแค่การหยิบดาบมาตั้งไว้ หากเป็นเช่นนี้ย่อมแสดงว่าอาคมของอีกฝ่ายต้องแข็งแกร่งกว่าแน่นอน

    ไม่ได้การแล้ว!

    มันลอบสบถนึกย่ำแยอยู่ในใจ ก่อนจะถอยออกมาเตรียมร่ายอาคมที่แข็งแกร่งกว่าเก่า ทว่าตอนนั้น เพียงชั่วพริบตาที่มันตบเท้าออกไป สตรีผมขาวก็พลันเลือนหายไปด้วยเช่นกัน ทันใดนั้นเสียงกระซิบก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง

    ความตายนั้นน่ากลัวนัก หากเป็นไปได้ข้าก็ไม่อยากสังหารเจ้า

    อะไร..!?”

    คว้าก!

    เสียงฉีกขาดดังขึ้น คมดาบซึ่งวาดออกไปส่งผลให้ร่างของนิรยบาลถึงกับขาดครึ่งเป็นท่อนบนและล่าง ไส้สีชมพูไหลทะลักออกมา ขณะเดียวกันมันก็เหมือนนกไร้ปีก ร่างกายที่เสียสมดุลนี้ทำให้อีกฝ่ายล้มตึงกับพื้นอยู่ในสภาพปางตาย นิรยบาลนอนหายใจรวยรินจ้องมองฟ้าสีแดงฉานอย่างฉงน

    นี่มันเรื่องอะไรกัน? จากปลอกคอนั่นย่อมแสดงว่าพวกมันเป็นหน้าใหม่ที่เพิ่งลงมายังขุมนรก

    ———แล้วทำไมมันถึงใช้อาคมชั้นสูงได้เล่า..!?

    ค่อก..! อ-อ้ากกกกกกก!”

    ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่ว นิรยบาลซึ่งตัวขาดครึ่งแต่ยังมีลมหายใจอยู่จำต้องดิ้นทุรนทุรายเพื่อบรรเทาอาการเจ็บตามสัญชาตญาณ มันฝืนมองไปยังศัตรูตรงหน้าแล้วคำรามอย่างยากลำบาก

    ฝีมือเช่นนี้ย่อมผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก! จงบอกมาเจ้าเป็นใครกันแน่!?”

    ถ้าหากนั้นเป็นการกระทำเพื่อสันติ ข้าก็จักบอกนามนั้นให้

    ดวงตาซึ่งเดิมเป็นสีฟ้าเปอร์เซีย ยามนี้กลับกลายเป็นสีแดงฉานวาวโรจน์ดุจทับทิม

    นามข้าคืออาเธอร์ • เพนดราก้อน

    .........!”

    เมื่อได้ยินก็ถึงกับถ่างตาค้าง ขณะเดียวกันพอเพ่งมองไปยังมือซ้ายซึ่งสลักตราศาสนาและเมอร์ริธไว้ มันจึงตื่นตะลึงงัน ตราสัญลักษณ์ซึ่งสมควรว่างเปล่า กลับถูกแทนที่ด้วยสัญลักษณ์กางเขน เช่นเดียวกับเมอร์ริธของเธอซึ่งสมควรเป็นศูนย์เอง ยามนี้ก็กลับเพิ่มพูนเป็นหลักสิบ และมันก็ไม่ใช่แค่หลักสิบขั้นต้น

    เมื่อนับเรื่อยๆใบหน้าของนิรยบาลก็ยิ่งซีดเผือด

    สิบ..ยี่สิบ..สามสิบ..สี่สิบ..ห้าสิบ

    .

    .

    .

    หกสิบจุด!

    บ-บ้าน่า!? แฮ่ก!...เมอร์ริธขนาดนั้น! แฮ่ก!...นี่เจ้าอยู่ในนรกมานานแค่ไหนกัน!?”

    ข้าหลงลืมไปนานแล้ว ว่าแต่เจ้าเถอะ

    หญิงสาวควงดาบขึ้นเหนือศีรษะหนหนึ่ง ก่อนจะฟันมันลงกลางตัวอีกฝ่ายในชั่วอึดใจ

    โผล๊ะ!

    จะอยู่ในนรกอีกนานแค่ไหนกัน?”

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×