คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : Ep.16 - Adjure
UNagain.16 – Adjure
“เจ้าจะเรียนวิชายุทธ์เรอะ?”
ผู้พูดนั้นเป็นอาจารย์วัยกลางคนท่านหนึ่ง
เลยออกไปด้านหลังก็มีไวโอเล็ตและบัทเตอร์ฟรายกำลังโบกมือเรียกอยู่
เธอพยักหน้าหนหนึ่ง ก่อนจะว่า “ค่ะ” เบาๆออกมา อาจารย์ในคาบวิชายุทธ์มีนามว่า【พาชอน】แน่นอนว่าเขาเป็นคนเกาหลี
ดังนั้นท่าทางและคำพูดจึงออกไปทางโซนเอเชียอย่างเห็นได้ชัด เขาว่า
“ไปแนะนำตัวที่กลางห้อง”
“ค่ะ ชั้นชื่อแพทตี้
เป็นศิษย์หน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในหมู่ตึกบูรพาเมื่อเร็วๆนี้ค่ะ”
แปะ! แปะ! แปะ!
ทุกคนปรบมือให้ จากนั้นพาชอนจึงบอกให้ไปหาที่นั่ง
ซึ่งสำหรับเธอก็คงไม่แคล้วเลือกนั่งข้างรูมเมทสาว
กระทั่งมานั่งข้างๆจึงสังเกตเห็นว่ากลุ่มของพวกเธอมีชายคนหนึ่งที่แพทตี้ไม่รู้จักนั่งรวมอยู่ด้วย
ไวโอเล็ตเหมือนรู้ความคิด เธอจึงแนะนำตัวเพื่อนชายด้านข้างให้
“ยัยนี่ชื่อ【สมพงศ์】น่ะ”
“ยัยนี่..?”
“ใช่แล้วฮ่า เจ๊ชื่อสมพงศ์เอง
แต่เป็นไปได้เรียกว่าซีซี่จะดีกว่านะฮ้าาา~~”
———อ่อ สาวสองนี่เอง
รูปร่างซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม
เธอก็เลยไม่นึกเอะใจซักนิด
“ฮะฮะ ถ้างั้นศิษย์พี่เรียกชั้นว่าแพทเฉยๆก็ได้ค่ะ”
“จ้าาา น้องแพทของเจ๊”
พวกเธอ(?)ส่งยิ้มให้กัน
หลังจากแนะนำตัวพอเป็นพิธี เบื้องหน้าพาชอนก็เอ่ยถึงการสอนวิชายุทธ์
วิชายุทธ์ก็คือศิลปะการต่อสู้แขนงหนึ่ง
หลักๆก็มีไว้เพื่อป้องกันตัวและเอาชนะคู่ต่อสู้
คาบของพาชอนเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ดังนั้นหากสังเกตดีๆก็จะพบจุดเชื่อมของวิชาอย่างยูโด
คาราเต้ หรือคาโปเอร่า
ตึง!
“อั่ก..!?”
ศิษย์ชายคนหนึ่งถูกพาชอนทุ่มกระแทกพื้นอย่างจัง นี่เป็นการสาธิต
กระนั้นก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะเจ็บจริงอยู่ไม่ใช่น้อย เขาว่า “นี่คือการทุ่มที่ถูกต้อง” จากนั้นจึงหันไปมองพวกนักเรียนอีกครั้ง
กระทั่งสายตาหยุดลงที่แพทตี้ซึ่งกำลังพูดคุยกับพวกไวโอเล็ตพอดิบพอดี พาชอนตะโกน
“เจ้า! ศิษย์ที่เพิ่งเข้าเรียนในวันนี้น่ะ!
เจ้านั่นแหละ! ลงมานี่!”
“เอ๋? ชั้นเหรอคะ..?”
แพทตี้ชี้นิ้วใส่ตัวเอง จากนั้นอาจารย์จึงพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่หนหนึ่ง
ตอนนั้นเองที่ไวโอเล็ตหน้าซีดเล็กน้อย แล้วกระซิบ “เจ้าระวังตัวด้วย
อาจารย์น่ะชอบลงโทษเด็กผ่านการสาธิตวิชา ข้าเคยโดนมาแล้ว”
“ไวโอเล็ต!”
“อ-อึ๋ย! เจ้าคะ..!?”
“อย่าชวนศิษย์คนอื่นคุยในคาบ”
พอถูกติงมาอย่างนั้น ไวโอเล็ตจึงได้แต่หงอยไปโดยปริยาย
ส่วนแพทตี้เองก็จำต้องปฏิบัติตาม เธอก้าวออกจากกลุ่ม ก่อนจะหยุดยืนอยู่หน้าพาชอน
เขาว่า “ข้าจะใช้วิชาทุ่มหลัง
เจ้าจงใช้วิธีป้องกันตามที่ข้าสอน”
“ข-เข้าใจแล้วค่ะ”
พอว่าเสร็จ ทั้งสองจึงก้าวถอยหลังเว้นระยะห่างไว้ให้เกือบ 5 เมตร
จากนั้นพาชอนจึงคำรามว่า “รับมือ!” ป่ง! ทันใดนั้นมันจึงตบเท้าแน่นพุ่งเข้าใส่
แพทตี้เห็นดังนั้นก็ถึงกับตกตะลึง จากนั้นก็เป็นไปตามคาด
โลกหมุนกลับ หากอธิบายเช่นนี้ก็คงจะไม่ผิด
———ใช่ เธอในตอนนี้กำลังหัวทิ่มอยู่กับพื้น
“ศิษย์น้อง..!”
เอ๋? อะไรกัน? นี่เราถูกทุ่มงั้นเหรอ? แต่ว่าทำไมกัน.....ความเร็วขนาดนี้? จากนั้นเหนือกว่าการรับรู้ใดๆ ใบหน้าของเธอจึงซีดขาว ดวงตาเริ่มหรี่ลง
ภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือพวกไวโอเล็ตที่กำลังโผเข้ามากอด
จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีก
.
.
“อ-อืม? ที่นี่มัน..?”
ท่ามกลางสติอันเรือนราง ตรงหน้าของเธอก็พลันปรากฏซีซี่ขึ้น
ชายหนุ่มร่างกำยำทำหน้าตกตะลึง จากนั้นจึงค่อยยิ้มขึ้นอย่างยินดี เขาว่า “ที่นี่คือห้องพยาบาลจ้ะ ไวโอเล็ต!
ศิษย์น้องฟื้นแล้ว!”
“จริงเหรอ!?”
“อาการนางเป็นเช่นไรบ้าง!?”
“ศิษย์น้อง...เจ็บไหม?”
“ว-เหวอออออ!?” ทันใดนั้นผ้าม่านกั้นฉากจึงถูกเลื่อนเผยให้เห็นไวโอเล็ต คริซซี่ และบัทเตอร์ฟรายกำลังจ้องเธอกันหน้าสลอนอยู่
จากนั้นทุกคนจึงหันมาแตะหน้าผากบ้าง แตะลำคอบ้าง และจับหน้าอก(?)บ้างกันคนละที จวบจนเช็คทุกซอกทุกมุมดี
พวกเธอจึงค่อยเบาใจลงเมื่อไม่พบเห็นร่องรอยของบาดแผลใดๆ
“ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรนะ?”
หญิงสาวยิ้มแหยๆแล้วว่า “ศิษย์พี่เป็นห่วงเกินไปแล้ว” จากนั้นพวกเธอจึงขมวดคิ้ว
ก่อนจะว่า “จะไม่ห่วงได้ยังไงล่ะ? ก็ในเมื่อเจ้าเป็นน้องสาวของเรานี่” คริซซี่พยักหน้า
“ใช่แล้ว วันหลังอย่าได้ทำอะไรฝืนตนเองเป็นอันขาด”
“พวกชั้น...ห่วงนะ”
“...........”
ทุกคนช่างดีต่อเราเหลือเกิน พอคิดอย่างนั้นแพทตี้ก็รู้สึกละอายใจ
ทุกคนนั้นล้วนแข็งแกร่งกว่าเธอ
การที่พวกเขาต้องมาดูแลคนไร้ประโยชน์เพียงคนเดียวน่ะมันไม่ได้หมายความว่าเสียเวลารึยังไง?
กึด!
———ทำไมกัน?
ทำไมเราถึงได้อ่อนแอขนาดนี้กัน!?
“ศิษย์น้อง.....” ท่าทีกำหมัดแน่นของเธอไม่พ้นสายตาจากพวกศิษย์พี่
ดังนั้นทันทีที่เห็นทั้งสี่รวมถึงซีซี่ก็ตระหนักได้ทันทีว่าแพทตี้กำลังคิดอะไรอยู่
ไวโอเล็ตยื่นมือหมายจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ทว่าตอนนั้นคริซซี่กลับคว้ามือไว้
ก่อนจะส่ายหน้าไปมาหนหนึ่ง เธอว่า “เช่นนั้นพวกเราไปเรียนก่อนนะ
ศิษย์น้องก็ถนอมตัวไว้ด้วยล่ะ”
“คริซซี่!?”
“เข้าใจแล้วค่ะ ศิษย์พี่โปรดดูแลตัวเองด้วย”
แพทตี้พูดขัดคำร้องของไวโอเล็ต
พอเห็นดังนั้นหล่อนจึงได้แต่กัดฟันก่อนจะก้าวออกจากห้องพยาบาลพร้อมพรรคพวก ปล่อยให้ที่แห่งนี้หลงเหลือแต่หญิงสาวอยู่เพียงลำพัง
หมัดที่กำแน่นยามนี้กลับถูกคลาย เธอค่อยๆปาดน้ำตาที่เอ่อล้น
จากนั้นจึงลุกออกจากเตียงพร้อมกับเปลี่ยนเป็นชุดของศิษย์สำนัก
“คิดจะไปไหนเรอะ?”
“..........!”
เหนือการรับรู้ สุดขอบสายตานั้นก็เผยให้เห็นพาชอนกำลังนั่งเท้าคางอยู่ข้างริมระเบียง
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!? เธอลอบตระหนก
จากนั้นอาจารย์ไว้หนวดเคราเข้มจึงพลิกตัวเข้ามาในห้อง แล้วทัก
“เป็นธรรมดาที่ข้าจะต้องดูแลศิษย์
ดังนั้นเจ้าไม่ต้องแปลกใจที่เห็นข้าปรากฏตัวอยู่ที่นี่”
เขาเดินเลยผ่านเธอไป ก่อนจะตบไหล่เบาๆ “แต่ดูท่าจะแข็งแรงดีแล้วนี่นะ
ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอตัว––”
“ไม่ค่ะ!”
“........?”
ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ชะงักเผยสีหน้าไม่เข้าใจออกมาต่อคำพูดของแพทตี้
เธอผ่อนลมหายใจทีหนึ่งก่อนจะกุมมือแน่นที่กลางอกราวกับกำลังตัดสินใจบางอย่างอยู่
จากนั้นจึงพูดออกไป
“ชั้นน่ะไม่ได้แข็งแรงเลยซักนิดค่ะ
กลับกันมีแต่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆด้วยซ้ำ”
“.....แล้วเจ้ามาบอกข้าทำไม?”
“ชั้นอยากจะแข็งแกร่งขึ้น! ชั้นไม่อยากเป็นตัวถ่วงของใครอีกต่อไปแล้วค่ะ!”
แพทตี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างยากลำบาก จากนั้นจึงค่อยๆก้มศีรษะค้อมคำนับให้กับชายตรงหน้า
“ได้โปรด! ช่วยอาจารย์สั่งสอนศิษย์ด้วย!”
“..............”
ท้องฟ้าสีแดงฉาน และลมบริสุทธิ์ซึ่งพัดผ่าน เวลานี้คือช่วงเย็นของวัน
แม้เหนือขึ้นไปจะไม่มีกลางวันและกลางคืน แต่มนุษย์ก็ยังคงประดิษฐ์เวลาขึ้นมาใช้ ภายในนอกจากเสียงเดินเข็มของหน่วยวิฯในหน้าปัด
ก็มีเสียงลมหายใจกระชั้นของหญิงสาวดังระเรื่อพอๆกับเสียงหัวใจที่เต้นตุบดังระรัว
———ตอนนั้นเองที่พาชอนถอนหายใจ
“เฮ้อ! ให้ตายสิ ที่เขาว่าจิตใจสตรีนั้นยากแท้หยั่งถึงคงจะเป็นเรื่องจริงกระมั้ง?”
“อาจารย์...”
“อ่าๆ หยุดทำหน้าชวนสมเพชนั่นซักที”
เขาโบกปัดก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยมีแพทตี้กำลังยืนคอตก
ทว่าตอนนั้นเองเขาก็โพล่ง “เจ้าเป็นศิษย์สำนักอยู่แล้วนี่?” คำถามนี้เหมือนมีนัยยะบางอย่าง หญิงสาวเงยหน้ามองอีกฝ่าย
“การจะเรียนกับข้าน่ะไม่จำเป็นต้องถามหรอก”
“เอ๊ะ? ถ-ถ้าอย่างนั้น...”
“เจ้าฝึกวิชากับข้าตอนไหนก็ได้
จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังได้!”
“อาจารย์..!”
ทันใดนั้นเธอก็เผยสีหน้าเปี่ยมล้นด้วยความยินดี
ก่อนจะโผเข้าไปกอดชายฉกรรจ์ตรงหน้าจนเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งเฮือกหลบฉากออกไป ดังนั้นหล่อนจึงได้แต่จั่วลม
แล้วเอาหน้าจูบกับกำแพงเข้าอย่างจัง
“แอ้ฟ!?”
“ค-คิดจะทำอะไรของเจ้ากัน!? ระหว่างศิษย์อาจารย์น่ะไม่ควร––”
พาชอนชี้นิ้วว่าได้เพียงเท่านั้น
ดวงตาของเขาก็กลายเป็นหรุบต่ำมองศิษย์หญิงฟุบหน้าลงกับพื้นอย่างฉงน เขาลองเอาเท้าเขี่ยๆเธอ
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเสียง ตุบ! แล้วหล่อนก็ล้มพับไปทั้งอย่างนั้น
———เอาจริงดิ?
นี่หมดสติอีกแล้วเรอะ..!?
۞۞۞
ความคิดเห็น