คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ALLY 02 :: ความทรงจำ
ALLY 02
“ MEMORY ”
คิดว่าเรื่องตลกร้ายที่สุดในชีวิตคืออะไร?
การถูกยิงเสียชีวิตโดยรับรู้ก่อนตายเพียงไม่กี่วินาที
การที่จู่ๆ รู้สึกตัวในร่างเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อ
การเจอคนแปลกหน้าทะเลาะกันต่อหน้าต่อตา
การเข้ามาอยู่ในโลกที่คล้ายเกม
อันนี้เพิ่งนึกออกว่าทำไมหน้าเด็กสาวผมดำคุ้นๆ เพราะเป็นนางเอกนี่เอง เธอนามว่า เซียนน่า ฟิโอเร่ หน้าตายังคงติดตาอยู่เนื่องจากมันเป็นปกแผ่นเกมที่พวกเขาหยิบขึ้นมาดูก่อนเสียชีวิต แน่นอนยังไม่ทันเล่น เอ่อ จริงๆ ก็ไม่คิดจะเล่นเร็วๆ นี้ และ เพราะยังไม่เริ่มเล่นทำให้พวกเขาไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับโลกนี้
แต่สิ่งที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ตลกร้ายเลยสำหรับเฟลิกซ์
ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเลซีย์นี่
สำหรับเลซีย์แล้วสิ่งที่กลายเป็นเรื่องตลกร้ายในตอนนี้คือ
ความทรงจำที่จู่ๆ ก็แล่นเข้าสมองโดยยังไม่ทันตั้งตัว เรียกว่ายัดเหยียดความทรงจำดีไหม
ช่างเถอะ ถ้ากรณีความทรงจำทั่วไปๆ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ความทรงจำของร่างนี้มัน
...ช่างรุนแรง...
ใช้อารมณ์เป็นหลักเลยนี่หว่า
อารมณ์เป็นที่ตั้งของสติยิ่งกว่าไอแซคอีก
แต่ขอบคุณอย่างหนึ่งที่ทำให้อดีตน้องชายฝาแฝดดูดีขึ้น
เอาละ กลับมาเข้าเรื่องต่อ ร่างนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า
เลซีย์ จริงๆ รู้ตั้งแต่ขึ้นจากหน้าผาได้แล้ว ส่วนร่างที่ไอแซคอาศัยอยู่ชื่อเซียนน่า
จากสถานการณ์ตอนนั้นบ่งบอกได้ว่าพวกเธอไม่ถูกกันในระดับเลวร้าย เนื่องจากเหล่าเพื่อนของทั้งสองฝ่าย พอมาถึงก็โยนความผิดให้อีกฝ่ายทันที อย่างเช่น เพื่อนเซียนน่าบอกว่าเลซีย์ผิด
ในขณะที่เพื่อนเลซีย์ก็เถียงว่าเซียนน่าผิด
สรุปว่า ตอนนั้นต้องยืนดูใครไม่รู้เถียงกันราวๆ เกือบสามสิบนาที
จะให้บอกว่าน่ารำคาญ
มันก็น่ารำคาญแหละ
แต่ขณะนั้นเลซีย์พูดอะไรออกมาไม่ได้ เนื่องจากไม่รู้ว่าบุคลิกของร่างนี้ก่อนหน้าเป็นเช่นไร
ดังนั้นเลยเลือกเงียบ
ทว่าความคิดที่ว่าพวกเธอทั้งสองไม่ถูกกันขั้นรุนแรงนั้นเหมือนจะคาดเดาได้ถูกต้อง
เมื่อได้รับความทรงจำของสาวน้อยคนนี้
เลซีย์ เลสเตล่า...โอเค หยุดตรงนี้ก่อน ขออธิบายเรื่องนามสกุลก่อน
ตอนเห็นป้ายชื่อหน้าห้องพักนึกว่าออกเสียงเป็น เล – สะ - เต – ล่า
แต่เพิ่งมารู้หลังความทรงจำกลับว่าจริงๆ แล้วคำนี้ออกเสียงว่า เลส – เต –ล่า ฟังดูแปลก
แต่ออกเสียงแบบนี้จริงๆ
เลซีย์คือบุตรสาวเพียงหนึ่งเดียวของแกรนด์ดยุคธีโอดอร์
เลสเตล่า มีบุคลิกภายนอกที่ค่อนข้างมีเสน่ห์ ถึงจะหยิ่งนิดๆ ก็ตาม หากแต่ลึกลงไปกลับเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวจนไม่อาจประเมินค่าได้
เธอเสพติดความสมบูรณ์จนมากเกินความจำเป็น พยายามไขว่คว้าทุกสิ่งทุกอย่าง
คว้าตัวเลขหนึ่งไว้ในกำมือ โดยไม่เคยไตร่ตรองว่าวิธีการของตนเองบ้าบอแค่ไหน ความจริงก็ไม่ได้บอกว่าวิธีมันผิดศีลธรรมอะไรหรอก เดิมทีไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว แค่จะสื่อว่าไม่เคยนึกผลลัพธ์ที่ตามมาภายหลัง
--- ก็เท่านั้น
โดยภาพรวมคงไม่สามารถทำตัวเหมือนเลซีย์ในอดีตได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ขอเว้นไว้สักอย่างสองอย่างก็ดี อันที่จริงอยากเปลี่ยนนิสัยแบบปุ๊บปั๊บไปเลย
แต่เกรงว่าจะผิดสังเกตเกินไป บุคลิกเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต ดังนั้นควรค่อยๆ
ปรับเปลี่ยนทีละนิด น่าจะดีกว่า
ต่อด้วยเรื่องพลัง
ในความทรงจำเรื่องพลังเรียกได้ว่าอัดแน่นอย่างมาก เลซีย์
เลสเตล่าคือผู้ใช้เวทสายธาตุ สายต่อสู้โดยตรง ธาตุโดดเด่นในตัวเธอนั้นคือธาตุพฤกษา
มีคุณสมบัติสร้างต้นไม้ รวมทั้งควบคุมต้นไม้รอบข้างให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
นับว่าเป็นหนึ่งในพลังสายต่อสู้ที่มีพลังสูง
แวบแรกค่อนข้างแปลกใจนิดๆ ปกติเกมแนวนี้ธาตุพฤกษามักเป็นของนางเอกอย่างเซียนน่า
หรือ คนในกลุ่มตัวเอก หากแต่เกมนี้กลับอยากฉีกมาตรฐานทำให้ธาตุไม้อยู่กับเลซีย์ ซึ่งจากความสัมพันธ์เป็นตัวร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ธาตุดิน, แสงได้ด้วย
อืม พอมาคิดอีกที เลซีย์มีพลังแบบนี้ก็สมเหตุสมผลดี
ผืนป่า แสงสว่าง และ ปฐพี
สมกับมีเลือดเอลฟ์ครึ่งหนึ่ง
ใช่ เลซีย์เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ แม้บิดามารดาเป็นแค่มนุษย์ก็ตาม เหมือนฝั่งแม่สืบสายเลือดเอลฟ์มานิดหน่อย พูดตามตรงเรื่องสายเลือดบนโลกใบนี้เป็นอะไรที่ซับซ้อน และ ละเอียดมาก คงยากที่จะอธิบายภายในครั้งเดียว แน่นอนเด็กสาวมีอายุขัยยืนยาวกว่ามนุษย์ทั่วไป รวมทั้งเวทสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนเซียนน่าเหมือนใช้ธาตุไฟ กับ
ไฟฟ้าได้ ความคิดว่านางเอกเกมจีบหนุ่มต้องถือครองพลัง หรือ ความสามารถสายสนับสนุน โปรดโยนทิ้งไปได้เลย
เห็นนิสัยเรียบร้อย นิ่มๆ แบบนั้น แท้จริงเซียนน่าคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ใช้การโจมตีระยะประชิด
ซึ่งนี่เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ เด็กสาวผมดำสู้เก่งกว่าเลซีย์ พูดให้เห็นภาพ เก่งกว่าเหล่าพระเอกในเกมเสียอีก เกือบทุกครั้งที่สู้แบบไม่ยั้งมือทำเอาหนุ่มๆ
ทำหน้าเหวอตามๆ กัน และ ข้อมูลในความทรงจำบอกว่าตระกูลของเซียนน่าเปรียบเสมือนกำแพงเหล็กของอาณาจักร
ช่วงสงครามในอดีตกองทัพศัตรูถูกตระกูลฟิโอเร่กวาดเรียบ
เดี๋ยวก่อนนะ โปรไฟล์โหดมาก
สรุปสร้างมาเป็นนางเอก หรือ
พระเอกเกมกันแน่
---- อยากปรบมือให้คนเลือกร่างแก่พวกเขาเหลือเกิน
เพราะคนที่อยู่ในร่างเซียนน่าตอนนี้น่ะ หน่วยประจัญบานชัดๆ
สุดท้ายความสัมพันธ์ของเลซีย์กับเซียนน่า
เรียกได้ว่าเกลียดกันถึงขั้นที่ว่าชาตินี่แม้แต่เป็นมิตรยังไม่ได้เลย สาเหตุที่เด็กสาวผมบลอนด์ไม่ชอบอีกคนนั้น
มีเหตุผลนิดหน่อย ที่เหลืออคติส่วนตัวล้วนๆ นอกจากนางเอกแล้ว เธอยังเกลียดพวกพระเอกเกมพอๆ
กันด้วย เรียกได้ว่าเป็นนางร้ายที่เกลียดนางเอกโดยไม่ต้องพึ่งตัวแปรกลางอย่างพระเอก...
อีกอย่างเหตุผลที่ตกหน้าผานั่นน่ะ
ไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่คาดไว้ตั้งแต่แรก แต่เป็นฝีมือเลซีย์เอง
เธอควบคุมต้นไม้แถวนั้นให้ทำลายพื้นเพื่อดึงเซียนน่าตกหน้าผา
แต่ดันซวยตรงที่ไม่กะระยะจุดยืนดีๆ ตนเองเลยร่วงไปด้วย
อันนี้หมดคำพูดด้วยจริงๆ...
เอาเป็นว่าเรื่องความสัมพันธ์สรุปแค่นั้นพอ
กลับมาพูดถึงเรื่องปัจจุบันดีกว่า แม้มีความทรงจำร่างนี้ แต่เด็กสาวกลับไม่รู้สึกคล้อยตามความคิดเหล่านั้น ดังนั้นเรียกได้เต็มปากว่าตอนนี้ไม่รู้สึกเกลียด หรือ อคติเซียนน่าเลย อีกอย่างคนที่อยู่ในร่างนั้นคืออดีตฝาแฝด อยู่ด้วยกันมาตลอดยี่สิบสี่ปีเลยนะ ถึงก่อนหน้านี้แอบหมั่นไส้นิสัยหมอนั้นนิดๆ แต่คงเกลียดไม่ลงอยู่ ทว่าลองใช้มุมมองของคนอื่น การที่จู่ๆ สนิทกันคงแปลกตาพอสมควร แต่ตลอดเวลาที่อยู่ใต้หน้าผาพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนี่ ดังนั้นแถว่าปรับความเข้าใจกันตอนตกหน้าผาแล้วกัน
จะเชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่อง
เรื่องความทรงจำแบบคร่าวๆ จบลงเท่านี้
หากใครสงสัยว่าตอนนี้เลซีย์นั่งอยู่ส่วนไหนของสถาบัน
ขอตอบเลยแล้วกัน ตอนนี้อยู่ในห้องพักส่วนตัวภายในหอ หลังกลับมาถึง และ
ทำแผลก็ถูกไล่มานอนพักผ่อนเลย แต่นอนไม่ถึงสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ
ความทรงจำข้างต้นแล่นเข้าสมองจนต้องมานั่งปะติดปะต่อดังที่เห็น
ห้องมีพื้นที่เล็กกว่าคอนโดที่เคยอาศัยอยู่ในโลกเดิมนิดหน่อย
แต่เนื่องจากไม่ได้ถูกแบ่งเป็นห้องๆ ทำให้มันกว้างจนน่ากลัว ภายในห้องมีเตียงกว้าง...กว้างมากจนคิดว่าให้ชายร่างบึกบึนนอนสามคนยังได้
เฟอนิเจอร์มากมายตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบทำให้ห้องไม่ได้ดูรกเกินไป
หอพักภายในสถาบันแห่งนี้นั้นไม่ได้แบ่งหอไว้มากมาย
แบ่งแค่ห้องหญิง – ชายเท่านั้น หอพักทั้งสองสูงประมาณห้าชั้นได้
โดยชั้นบนสุดจะเป็นห้องของนักเรียนสามชั้นชน เชื้อพระวงศ์ ตระกูลแกนด์ดยุค หรือ
บางอาณาจักรเรียกอาร์คดยุค, ตระกูลดยุค, ชั้นสี่สองชนชั้น มาควิสกับเอิร์ล, ชั้นสามไวเคานต์,
ชั้นสองบารอน และ ชั้นหนึ่งตระกูลเซอร์ ผู้ครอบที่ดิน แต่ไม่มีสิทธิ์สภาขุนนาง
หรือ ทายาทตระกูลอัศวินทั้งหลาย
ส่วนสามัญชน เนื่องจากสถาบันนี้เน้นสานความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรทำให้ไม่มีนักเรียนที่มีสถานะเป็นสามัญชน
โดยปกติหากพบสามัญชนที่ครองพลังมักส่งไปเรียนสถาบันภายในอาณาจักรแห่งนั้นเสียมากกว่า
หากพลังเยอะๆ หน่อยอาจจะได้เรียนสถาบันชื่อดังของอาณาจักร ทั้งนี้เพื่อขัดเกลาความสามารถโดยตรง
หลังนั่งประติดปะต่อความทรงจำร่วมชั่วโมง
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องออกนอกหน้าต่างที่ยังคงนิ่งสนิทก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกรอบ รุ่งเช้ามาเยือนพร้อม
เสียงเคาะประตูดังลั่น และ รัวทำเอาเด็กสาวเด้งตัวขึ้นจากเตียงอย่างตื่นตระหนก
แวบแรกที่ตกใจไม่ใช่อะไรหรอก ก่อนหน้านี้ติดนิสัยนอนดึก ไม่สิ เกือบเช้า และ
ตื่นตอนเวลาประจำ เลยเผลอคิดว่าน่าจะเข้าเรียนสาย
หากแต่ยังไม่ทันไรสมองก็ค้นพบว่าวันนี้เป็นวันหยุด
เลซีย์ถอนหายใจโล่งอกอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างตาพริบถี่ๆ
พลางหันมองบานประตู เสียงเคาะประตูดังลั่นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ใจคอไม่คิดจะเกรงใจคนอื่นหรือไง
เด็กสาวพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายในขณะที่เดินไปเปิดประตู ทว่าก่อนที่จะดึงประตูเปิดนั้นเสียงของคนที่อยู่อีกฟากกลับดังลอดเข้ามาทำเอาคิ้วทั้งสองข้างของเด็กสาวกระตุกด้วยความหงุดหงิดเบาๆ
“เฮีย!!!”
--- คนเคาะไม่รู้จักคำว่าเกรงใจชาวบ้านนี่เอง
สีหน้าเลซีย์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเอือมระอาเต็มทีก่อนเปิดประตูต้อนรับพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“อย่าตะโกนแต่เช้าได้ไหม?”
“ผมเคาะตั้งนาน แต่ไม่มาเปิดสักทีนี่”
ไอแซค..ไม่สิ เซียนน่าตอบกลับเสียงขุ่น
“เลิกใช้คำว่าผมเถอะ ฟังแล้วมันแปลกๆ”
“โทษที ลืมตัวไปนิด”
เด็กสาวผมดำตอบพลางหัวเราะอย่างร่าเริง
ทางด้านเลซีย์เลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า จำได้ว่าสไตล์การแต่งตัวไอแซคถือว่าดูดีไม่น้อย
แต่คงเรียกว่าคนละขั้วกับรสนิยมเซียนน่า แถมพูดได้เต็มปากว่านี่เป็นครั้งแรกที่เลือกชุดสำหรับสตรีทำให้เจ้าตัวทำตัวไม่ถูกล่ะมั้ง
เสื้อสีแดงแปร๊ด กระโปรงสีเขียวสด รองเท้าหนังสีดำ จริงๆ แฟชั่นนี่ในโลกเดิมหาพบได้ทั่วไป
ไม่แปลกเลยสักนิด ถ้าเซียนน่าไม่ถือกำไรสีเหลืองเอาไว้ในมือน่ะนะ
--- ไม่อยากพูดแบบนี้ออกมาหรอก แต่จู่ๆ
ก็นึกถึงไฟจราจรขึ้นมา
“ทำไมนายถึงต้องแต่งตัวแบบนี้”
“ตอนแรกกะจะใส่กระโปรงสีดำเหมือนรองเท้า
แต่กระโปรงตัวนั้นดันใส่ยาก เลยหยิบตัวนี้มาใส่แทน ช่างเถอะ ยังไงผมก็ไม่คิดมาก”
...คิดหน่อยเถอะ...
เลซีย์ยกมือขึ้นกุมขยับนิดหน่อย
นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองรอบๆ อย่างละเอียด
เนื่องจากยังเช้าอยู่ทำให้ยังไม่มีใครเดินเผ่นผ่าน
อีกทั้งเป็นวันหยุดนักเรียนส่วนใหญ่มักแต่งตัวออกไปทั่วเวลาสายๆ
เด็กสาวผมบลอนด์ขยับตัวไปฝั่งซ้ายมือก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ยังไงก็เข้ามาข้างในก่อนได้ไหม?”
ความคิดเห็น