ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #43 : บทที่41 สงบศึก [2]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.46K
      125
      5 ม.ค. 64

    บทที่41  สงบศึก  [2]

                เมื่อลักซ์มาถึงโต๊ะเรียน  เธอรีบหยิบสมุดสเก็ตซ์ออกมาเริ่มร่างภาพทันที  สิ่งที่เห็นก่อนหน้ายังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำ  จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะวาดออกมา

                เพียงไม่นานภาพร่างของครอบครัวที่อบอุ่นก็พลันออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

                เบิร์นมองมันอย่างสนใจ  เรื่องทักษะในด้านศิลปะไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับสาวเจ้า  ทว่าภาพที่วาดออกมาต่างหากที่ชวนให้สงสัย

                วาดภาพครอบครัวสุขสันต์เนี่ยนะ?  ปกติเห็นชอบแต่วาดพวกธรรมชาติกับวาดเล่นไร้สาระเท่านั้น  น้อยครั้งนักที่จะเห็นหล่อนวาดรูปเหมือนของคน

                ลักซ์วาดภาพนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจเสียจนไม่ได้รับรู้เลยว่ากำลังมีคนมามุงดูเธอมากขนาดไหน

                เด็กสายมนตราส่วนใหญ่คือพวกที่มุ่งเน้นตัวเองมาทางสายต่อสู้และภาคปฎิบัติทั้งสิ้น  ทางด้านการเรียน  ศิลปะอะไรเช่นนี้จึงค่อนข้างจะด้อยกว่าอีกสายโขทีเดียว

                ทว่าลักซ์กลับมีฝีมือในระดับใกล้เคียงมืออาชีพแล้ว  ไม่แปลกเลยที่จะตกเป็นจุดสนใจ

                หล่อนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมีเงาศีรษะของใครบางคนตกกระทบลงบนกระดาษ  เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ทำการปรับเปลี่ยนอารมณ์กลายเป็นอาเรนเซีย  พูดกับชายคนนั้นยิ้ม ๆ

                “ช่วยถอยไปหน่อยได้มั้ยจ๊ะ  พอดีมันบังแสงน่ะ”

                ชายคนนั้นรีบก้าวถอยร่นไปทันทีพร้อมกับกล่าวขอโทษเธอเสียงเบา

                หล่อนกำลังจะหันไปตอบกลับเขาตามมารยาท  เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาก้มหน้าลงมองมาพอดี  ทำให้สายตาของคนทั้งคู่ผสานกันโดยบังเอิญ

                นั่นทำให้พวกเขาชะงักอึ้งไปคล้ายตกใจในอะไรบางอย่าง

                หลังจากจ้องกันอยู่พักหนึ่ง  ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้สติ  ต่างฝ่ายต่างหลบตากันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                มือของลักซ์ดูจะสั่นอยู่เล็กน้อย  สมาธิเริ่มแตกกระเจิง  แม้จะยังคงวาดรูปต่อ  ทว่าหัวกับไม่ได้สนใจภาพในมือเท่าไหร่นัก

                ความรู้สึกเมื่อกี้มัน...

                เธอเกือบจะร้องว่า  ‘shit’  ออกมาอยู่แล้ว  หากไม่ได้รีบกัดฟันยั้งเอาไว้ก่อน

                หล่อนส่ายหน้าไม่ให้คิดอะไรต่อ  เริ่มกลับมาจดจ่อกับสมุดในมืออีกครั้ง  คนทั้งสามถูกลงรายละเอียดมาได้มากกว่าครึ่งแล้ว

                เธอยังคงรับรู้ได้ถึงสายตาจากชายที่เผลอสบตาเข้าเมื่อครู่นี้  นั่นทำให้สมาธิของหล่อนไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่นัก

                อ๊ะ  เจ้าแรเงาออกนอกเส้นแล้ว

                เสียงทักของกวางน้อยทำให้สติของเธอกลับมา  เด็กสาวจ้องมองเส้นดินสอที่เลยออกจากกรอบมานิดหน่อยพลางถอนหายใจยาว

                เพราะมัวแต่เหม่อนั่นแหละ  พลาดจนได้

                เธอหยิบยางลบขึ้นมาเล็มออกเบา ๆ อย่างใจเย็น

                ปกติเจ้าเป็นคนที่มือนิ่งมาก  ข้าไม่เคยเห็นเจ้าพลาดเลยสักครั้ง  มีอะไรกวนใจรึเปล่า?

                คำถามนั้นตรงจุดเสียจนมือที่กำลังใช้ยางลบถูกับกระดาษสั่นเล็กน้อย  สุดท้ายก็ลอบถอนหายใจอย่างไร้เสียงออกมาอีกรอบ

                ก็นิดหน่อย

                นิดหน่อย?  ข้าช่วยเจ้าได้มั้ย?

                นางร้องถามอย่างหวังดี  นั่นทำให้ลักซ์ถึงกับหลุดยิ้มออกมา

                ไม่ต้องช่วยหรอก  ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร  แค่เจอ  [พวก]  เฉย ๆ

                พวกเหรอ?

                อาเรนเซียเอ่ยถาม  พยายามครุ่นคิดถึงความหมายของคำว่า  พวก  อย่างเป็นจริงเป็นจังจนถึงขั้นต้องทิ้งกายละเอียดลงนั่งกอดอก

                พวกที่นางหมายถึงอาจเป็นได้ทั้งคนที่มีความชอบเหมือนกัน  คนจากโลกเดียวกัน  คนที่มีอะไรคล้ายกัน  เช่นนั้นแล้วเป็นแบบไหนล่ะ?

                คล้ายลักซ์จะทราบดีว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรจึงได้หัวเราะออกมาเบา ๆ

                ฉันหมายถึงพวกที่บ้า ๆ เหมือนกันน่ะ

                ...บ้า?

                ‘I'm  a  psycho’

                ลักซ์เกร็งเสียงให้แตกพร่าเหมือนเสียงของพวกปีศาจร้ายตัวใหญ่ ๆ  ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทีหนึ่งจนคล้ายกับคนสะอึก

                เด็กสาวเลิกคิ้วอย่างงุนงง

                ...ประโยคนั้นไม่ได้แปลว่าฉันเป็นคนโรคจิตหรอกหรือ?

                คนโรคจิต...

                อาเรนเซียเหงื่อตกทันใด

                โอ้...

                เธออุทานเสียงเบา  รู้สึกว่าหลังจากนี้จะต้องมีเรื่องยุ่ง ๆ ขึ้นแน่อย่างบอกไม่ถูก

                รูปในมือถูกวาดจนเสร็จโดยที่ลักซ์ก็เอาแค่คุยเพลินจนไม่ได้รับรู้แต่อย่างใด  เธอตวัดลายเซ็นลงไปที่มุมภาพอย่างคล่องแคล่ว  ในหัวยังคงสนทนาต่อ

    เสียงชื่นชมจากรอบข้างทำให้เธอคืนสติ  เมื่อจ้องดูที่ภาพดี ๆ จึงได้เห็นว่ามันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

                หลังจากจ้องมองอยู่นับนาที  จู่ ๆ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น

                “ฝีมือการวาดภาพของเจ้าไม่ใช่ธรรมดาเลย”

                เธอเงยหน้าขึ้นมองคนพูด  เห็นเป็นชายคนเดิมก็ให้ยิ้มออกมา  อีกฝ่ายเองก็ยิ้มตอบกลับด้วยท่าทีอ่อนโยนเป็นมิตรชวนให้อยากคบหาเหมือน ๆ กัน

    นอกจากรอยยิ้มจะออกมาในทางเดียวกันแล้ว  ดวงตาของทั้งคู่ยังฉาบประกายนิ่งเฉยไร้อารมณ์ออกมาดุจเดียวกันอีกด้วย

                เพราะตอนแรกมัวแต่ตกใจที่เจอ  พวกเดียวกัน  เธอจึงไม่ได้มองสำรวจเขา  เมื่อตอนนี้ลองได้พิจารณาดู  พบว่าเขาเป็นคนที่กำลังตามหาอยู่เชียว

                ลักซ์ยิ้มรับคำพูดนั้นด้วยท่าทีติดประหม่าอยู่เล็กน้อย

                “ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะ”  เธอทำท่าคล้ายนึกขึ้นได้  ก่อนยิ้มละไม  “ข้าชื่ออาเรนเซีย  เวลด้า  และนี่น้องข้า  เบิร์น  ไม่ทราบว่าเจ้า...?”

                เขาโค้งหัวเล็กน้อย  ก่อนตอบกลับมายิ้ม ๆ

                “เลเวียส  ทาโนเบล  ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

                “ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ”

                นางกล่าวเสียงใส  ทำเป็นมองไม่เห็นสายตารับไม่ได้จากเบิร์นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  เลเวียสหัวเราะเล็กน้อย  มองใบหน้าหมดจดงดงามของเด็กสาวอย่างนิ่งงันก่อนพึมพำ

                “เราเหมือนกันจริง ๆ ด้วย...”

                ลักซ์ยังคงยิ้ม  ทว่าในส่วนของดวงตานั้นกลับหรี่แคบลงอย่างชัดเจน  เธอทำเป็นไม่ได้ยินถ้อยคำกระซิบเมื่อครู่  พลิกหน้ากระดาษวาดรูปต่อ  ทางนั้นเองก็ไม่ได้รั้งอยู่นาน  เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจก็ได้จากไปทันที

                “ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะงั้นเหรอ?”

                เบิร์นทวนประโยคของสาวเจ้าออกมาเบา ๆ  หรี่ตามองอย่างรับไม่ได้

                การกระทำเพียงเท่านี้ถือว่าเขาไว้หน้าหล่อนมากแล้ว  หากอยู่กันตามลำพัง  ตนล่ะอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ เหลือเกินว่า  ยัยจิ้งจอกเอ๊ย!’

                ลักซ์นั้นมั่นใจในฝีมือวาดรูปของตัวเองในระดับที่ค่อนข้างมากทีเดียว  เวลาได้รับคำชมจากคนในคฤหาสน์ก็มักตอบรับเหมือนไม่ใส่ใจ  คล้ายกับคำชมเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

                แล้วตอนนี้อะไร?  ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะเนี่ยนะ?  แสดง!  นี่มันการแสดงชัด ๆ !

                ลักซ์หันไปยักคิ้วใส่อีกฝ่ายอย่างกวนประสาทเต็มที่  ยื่นมืออกไปบีบแก้มเขาอย่างแรงจนเป็นรอยแดง  เบิร์นถึงกับเบ้ปากด้วยความเจ็บ

                ชายหนุ่มยกมือขึ้นยึดแขนข้างนั้นไว้  ก่อนออกแรงกัดนิ้วหัวแม่มือของเธอไม่ยอมปล่อย

                เด็กสาวเลิกคิ้วพลางกล่าว

                “เป็นหมารึไง?”

                เขาทำทีเป็นไม่ได้ยิน  เลื่อนมากัดตรงข้อมืออีกทีก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ

                ลักซ์มองรอยฟันจาง ๆ พลางเบ้ปาก  พึมพำเสียงเบา

                “หมาเอ๊ย...!

                เธอก้มลงวาดร่างใบหน้าในมุมต่าง ๆ ต่อได้อีกไม่กี่รูปก็ต้องเก็บของทั้งหมดแล้วเตรียมตัวไปเรียนวิชาแรก  หล่อนมองชุดวาดภาพที่เหน็บอยู่ใต้โต๊ะแวบหนึ่งก่อนเดินตามเบิร์นออกจากห้องเรียนไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×