คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : บทที่52 ปากเสียง [1]
บทที่52 ปากเสียง [1]
“อีกคู่แล้วเหรอเนี่ย...?”
ชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบตำรวจพูดขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็น
‘แมงมุมมนุษย์’ ที่ห้อยหัวฉีกยิ้มอยู่บนเพดาน ชวนให้เส้นประสาทตึงเครียด
เขาพ่นก้มบุหรี่ลงพื้น กระทืบมันอย่างแรง
“น่าขยะแขยงฉิบหาย ถ้าฉันจับไอ้เวรนี่ได้ล่ะก็ มันไม่ตายดีแน่”
คำพูดอันเต็มไปด้วยอารมณ์นั้นตามมาด้วยคำสบถอีกพรวนใหญ่ ชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุได้ยินถ้อยคำนั้นเข้าก็ได้ปรายดวงตานิ่งเฉยมองอย่างช้า
ๆ กล่าวเสียงเสียงเรียบ
“การทำงานที่ดีต้องแยกระหว่างอารมณ์ส่วนตัวกับหน้าที่ให้ชัดเจน”
พวกตำรวจที่กำลังพูดคุยอย่างออกรสเรื่องวิธีจัดการกับไอ้ฆาตกรโรคจิตพากันเงียบกริบเมื่อได้ยินคำนั้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่สวมเครื่องแบบขององค์กรเซฟก็ต่างพากันหลบตา
องค์กรเซฟนั่นเริ่มขยายอำนาจและความน่าเชื่อถือไปกว้างขึ้นเรื่อย
ๆ ตลอดสิบปีมานี้ ในขณะที่รัฐบาลกลับย่ำแย่ลงด้วยความขัดแย้งภายในและความเสื่อมโทรมของนิสัยคนในยุคนี้
คนจากกรมตำรวจอย่างพวกเขานับว่าต่ำกว่าคนจากเซฟขั้นหนึ่ง หากไม่อยากเป็นเรื่องเป็นราวให้ปวดหัว การเงียบและทำตามนับเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ภาคินมองผ่านท่าทีไม่ยินยอมแต่ต้องทำเป็นเห็นด้วยนั้นอย่างเฉยชา ก่อนเดินไปทางผลงานชิ้นใหม่ที่อยู่บนเพดานกลางห้องนั่งเล่น
ลักซ์ยืนการควบคุมให้แก่อาเรนเซียอย่างกะทันหัน สิ่งแรกที่รู้สึกหลังจากได้ร่างคือความเจ็บปวดที่บริเวณลำคอคล้ายถูกบีบอย่างแรง กลิ่นอายเวทที่เจือจางแทบจะเลือนหายไปอยู่แล้วทำให้เด็กสาวตระหนักได้ถึงบางอย่าง
อาเรนเซียหันขวับไปยังโต๊ะที่ตัวเองเคยนั่งทันที ที่ตรงนั้น
นอกจากนาราเรียแล้วก็ไม่ปรากฎใครอื่น
เลเวียสได้หายตัวไปแล้ว
อาเรนเซียขมวดคิ้ว อีกคนในร่างก็เข้าสู่สภาวะพักผ่อนไปแล้ว และดูจากอารมณ์ การไปรบกวนคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
เธอถอนหายใจ เดินไปนั่งเป็นเพื่อนให้นาราเรียทานอาหารอย่างไม่หวาดระแวง เมื่อเจ้าหล่อนเห็นอาเรนเซียก็มีท่าทีอ่อนลง กล้าที่จะจับช้อนตักซุปข้นเข้าปากเสียที
หล่อนมองนางยิ้ม
ๆ สองตาเหม่อลอยครุ่นคิด
อาเรนเซียมอบการควบคุมคืนให้แก่ลักซ์เมื่อเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่นางจะต้องออกมาทานอาหารค่ำร่วมกับครอบครัว
ลักซ์กระโดดลงมาจากรถม้า สีหน้าดูไม่ใคร่จะสบอารมณ์เท่าไรนัก ทำให้บรรดาบริวารที่ตามออกมาต้อนรับต่างมองหน้ากันไปมา
เบิร์นมองอีกฝ่ายที่ดูจะหัวเสียมาตั้งแต่พักเที่ยงอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ไม่มีใครเล่าอะไรให้ตนฟังสักอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายหัวเสียได้มากขนาดนี้
แทนที่ลักซ์จะตรงเข้าคฤหาสน์เช่นทุกที นางกลับเดินอ้อมไปยังสวนด้านหลังโดยไม่รีรอผู้ใด เบิร์นมองตามก่อนถอนหายใจ ยกมือห้ามไม่ให้บรรดาบริวารตามไป
เข้าไปกวนนางตอนนี้เห็นทีจะไม่ค่อยดีนัก
เด็กหนุ่มเหม่อมองตามร่างนั้นไปจนลับตา ก่อนจะค่อย ๆ เดินอย่างแช่มช้าเข้าไปในตัวบ้าน
หัวหน้าพ่อครัวผู้หนึ่งเดินมาโค้งกายให้เด็กหนุ่มอย่างนอบน้อม เบิร์นหยุดฝีเท้าลง หันไปจ้องมองผู้มาใหม่ช้า ๆ ทางนั้นจึงได้เริ่มกล่าวขึ้นอย่างสุภาพ
“ไม่ทราบว่าคุณชายอยากทานอะเป็นพิเศษหรือไม่ครับ? ข้าจะได้จัดเตรียมให้”
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนหลุบตาลงต่ำอย่างครุ่นคิด ใบหน้าที่เคยคุ้นในอีกบุคลิกหนึ่งปรากฏขึ้นมาในสมอง เบิร์นอดที่จะย่นคิ้วเข้าหากันไม่ได้
นางมารพันหน้าผู้นั้น...
“...ปลาเลวีฟอบสมุนไพรกับซุปสมุนไพรละกัน”
หัวหน้าพ่อครัวตอบรับอย่างสุขุมก่อนถอยฉากออกไป ทั้งสองอย่างล้วนเป็นอาหารที่คุณหนูลักซ์ทานเป็นประจำ ในขณะที่คุณชายนั้นค่อนข้างจะรู้สึกแย่กับทั้งสองที่กลิ่นฉุนและรสชาติติดขม ต่อให้ไม่มีสมองก็คิดได้ว่าเด็กหนุ่มสั่งทั้งสองสิ่งนี้ให้แก่ใคร
เบิร์นมองจนเห็นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้วจึงขึ้นบันไดไป
ลักซ์เอนหลังพิงต้นไม้ สองมือกอดอก
มองดูแผ่นหลังไกลลิบของชายในชุดพ่อบ้านอย่างเงียบงัน
เธอจงใจที่จะไม่พรางตัว ทำให้อีกฝ่ายหันกลับมามองทางนี้ทันที จึงเห็นว่าในมือของเขากำลังถือถุงใส่อาหารอยู่ พื้นตรงหน้าคือกลุ่มลูกหมาและลูกแมวกว่าสิบตัวที่มะรุมมะตุ้มเต็มไปหมด
เด็กสาวเดินเข้าไปหาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว เหลือบตามองสัตว์หน้าขนกลุ่มนั้นแวบหนึ่งก่อนไถลตัวนั่งพิงหลังกับต้นไม้ข้าง
ๆ เด็กหนุ่ม
แลนช์ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งให้อีกฝ่ายทันที
“ยินดีตอนรับกลับบ้านครับ คุณหนูลักซ์”
“อืม...”
นางตอบอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทีหงุดหงิดคลายลงไปหลายส่วน เหลือบตามองไปที่บริเวณหน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว
เขามองสาวเจ้ายิ้ม
ๆ มองหมาน้อยที่เดินเข้าไปปืนขาคุณหนูอย่างอยากรู้อยากเห็นพลางกล่าว
“คุณหนูชอบสัตว์หรือไม่ครับ?”
นางเลิกคิ้ว ก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ใช้ความพยายามอุสาหะทั้งหมดที่มี(?)ในการปีนขาตนอย่างเรียบเฉย ก่อนจะช่วยใช้มือดันก้นมันให้ขึ้นมาได้ในที่สุด
“ก็ไม่ได้เกลียดล่ะมั้ง”
เธอพูดพลางยื่นนิ้วไปดันกลางหน้าผากของมันพลาง เจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องแหลมใส่ไม่หยุดเมื่อทำอย่างไรก็ไล่จับนิ้วขาว
ๆ นั่นไม่ทันเสียที
“นี่ แลนช์”
“ครับคุณหนู?”
เขาขานตอบทันที ละสายตาจากกลุ่มสัตว์ตัวน้อยขึ้นมามองคุณหนูแทน
เธอไม่ได้เงยหน้าสบตาเขา ยังคงแกล้งเจ้าหมาสีดำมะเมื่อมราวก้อนถ่านนั่นไม่เลิก ก่อนจะยอมให้มันใช้สองขาหน้าคว้านิ้วของหล่อนไป
“เล่นน้ำกัน”
คำชวนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ได้ครับ แต่ขอข้าให้อาหารพวกนี้ก่อน...”
คำพูดที่เหลือจำต้องกลืนลงคอ เมื่อมือเรียวเอื้อมมาแย่งถุงอาหารถุงหนึ่งไปจากเขา แล้วก็เริ่มป้อนมันให้เจ้าหมาน้อยบนตัก แบ่งลูกหมาอีกสองตัวมาช่วยกันกินอาหารจากมือของหล่อน
“มองหน้าข้าไปพวกมันก็ไม่อิ่มขึ้นมาหรอกนะ”
คำพูดติดเหน็บแนมทำให้แลนช์ได้สติ เขาหลบตาวูบ
ป้อนอาหารให้บรรดาลูกสัตว์วัยประมาณเดือนเศษอย่างเอาใจใส่ยิ่งประหนึ่งแม่ของพวกมัน
อาหารในถุงของเธอหมดแล้ว จึงหันมาเล่น(แกล้ง?)เจ้าลูกสัตว์แสนไร้เดียงสาเหล่านั้นรอพลช้าป้อนอาหารลูกน้อยโดยไม่ได้เร่งใด
ๆ
เจ้าก้อนถ่านน้อยตัวนี้ดูจะติดใจหล่อนเสียเหลือเกิน นอกจากจะอาจหาญปีนขึ้นมานอนบนตักเธอแล้ว ยังพยายามอย่างยิ่งที่จะปีนขึ้นมาเพื่อจะเลียเธอให้ได้
ทว่าด้วยความตัวสั้นกลมของมัน จึงถึงเพียงใต้อกเท่านั้น มันเอาหัวชนหน้าท้องเธอเหมือนขัดใจ ส่งเสียงแหลมเจี้ยวแจ้วอย่างประท้วงไม่หยุด
เธอหรี่ตามองมัน แกล้งรวบขาหน้าทั้งสองไว้แล้วดันจนหงายหลังลงไปนอนขาชี้ฟ้าอยู่บนขาอ่อนของนาง สีหน้าดูเหมือนว่าจะงุนงงอยู่ไม่น้อย
ลักซ์หัวเราะหึ
ๆ อุ้มมันลงไปอยู่บนพื้นเมื่อเห็นว่าอาหารในมือของเด็กหนุ่มนั้นหมดลงแล้ว
ความคิดเห็น