ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #54 : บทที่52 ปากเสียง [1]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.9K
      118
      5 ม.ค. 64

    บทที่52 ปากเสียง [1]

    “อีกคู่แล้วเหรอเนี่ย...?”

              ชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบตำรวจพูดขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็น แมงมุมมนุษย์ ที่ห้อยหัวฉีกยิ้มอยู่บนเพดาน  ชวนให้เส้นประสาทตึงเครียด

              เขาพ่นก้มบุหรี่ลงพื้น  กระทืบมันอย่างแรง

              “น่าขยะแขยงฉิบหาย  ถ้าฉันจับไอ้เวรนี่ได้ล่ะก็  มันไม่ตายดีแน่”

              คำพูดอันเต็มไปด้วยอารมณ์นั้นตามมาด้วยคำสบถอีกพรวนใหญ่  ชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุได้ยินถ้อยคำนั้นเข้าก็ได้ปรายดวงตานิ่งเฉยมองอย่างช้า ๆ  กล่าวเสียงเสียงเรียบ

              “การทำงานที่ดีต้องแยกระหว่างอารมณ์ส่วนตัวกับหน้าที่ให้ชัดเจน”

              พวกตำรวจที่กำลังพูดคุยอย่างออกรสเรื่องวิธีจัดการกับไอ้ฆาตกรโรคจิตพากันเงียบกริบเมื่อได้ยินคำนั้น  เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่สวมเครื่องแบบขององค์กรเซฟก็ต่างพากันหลบตา

              องค์กรเซฟนั่นเริ่มขยายอำนาจและความน่าเชื่อถือไปกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดสิบปีมานี้  ในขณะที่รัฐบาลกลับย่ำแย่ลงด้วยความขัดแย้งภายในและความเสื่อมโทรมของนิสัยคนในยุคนี้

              คนจากกรมตำรวจอย่างพวกเขานับว่าต่ำกว่าคนจากเซฟขั้นหนึ่ง  หากไม่อยากเป็นเรื่องเป็นราวให้ปวดหัว  การเงียบและทำตามนับเป็นหนทางที่ดีที่สุด

              ภาคินมองผ่านท่าทีไม่ยินยอมแต่ต้องทำเป็นเห็นด้วยนั้นอย่างเฉยชา  ก่อนเดินไปทางผลงานชิ้นใหม่ที่อยู่บนเพดานกลางห้องนั่งเล่น

     

     

    ลักซ์ยืนการควบคุมให้แก่อาเรนเซียอย่างกะทันหัน  สิ่งแรกที่รู้สึกหลังจากได้ร่างคือความเจ็บปวดที่บริเวณลำคอคล้ายถูกบีบอย่างแรง  กลิ่นอายเวทที่เจือจางแทบจะเลือนหายไปอยู่แล้วทำให้เด็กสาวตระหนักได้ถึงบางอย่าง

                อาเรนเซียหันขวับไปยังโต๊ะที่ตัวเองเคยนั่งทันที  ที่ตรงนั้น  นอกจากนาราเรียแล้วก็ไม่ปรากฎใครอื่น  เลเวียสได้หายตัวไปแล้ว

    อาเรนเซียขมวดคิ้ว  อีกคนในร่างก็เข้าสู่สภาวะพักผ่อนไปแล้ว  และดูจากอารมณ์  การไปรบกวนคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก

                เธอถอนหายใจ  เดินไปนั่งเป็นเพื่อนให้นาราเรียทานอาหารอย่างไม่หวาดระแวง  เมื่อเจ้าหล่อนเห็นอาเรนเซียก็มีท่าทีอ่อนลง  กล้าที่จะจับช้อนตักซุปข้นเข้าปากเสียที

                หล่อนมองนางยิ้ม ๆ  สองตาเหม่อลอยครุ่นคิด

     

     

                อาเรนเซียมอบการควบคุมคืนให้แก่ลักซ์เมื่อเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่นางจะต้องออกมาทานอาหารค่ำร่วมกับครอบครัว

                ลักซ์กระโดดลงมาจากรถม้า  สีหน้าดูไม่ใคร่จะสบอารมณ์เท่าไรนัก  ทำให้บรรดาบริวารที่ตามออกมาต้อนรับต่างมองหน้ากันไปมา

                เบิร์นมองอีกฝ่ายที่ดูจะหัวเสียมาตั้งแต่พักเที่ยงอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก  ไม่มีใครเล่าอะไรให้ตนฟังสักอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น  เขาจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายหัวเสียได้มากขนาดนี้

                แทนที่ลักซ์จะตรงเข้าคฤหาสน์เช่นทุกที  นางกลับเดินอ้อมไปยังสวนด้านหลังโดยไม่รีรอผู้ใด  เบิร์นมองตามก่อนถอนหายใจ  ยกมือห้ามไม่ให้บรรดาบริวารตามไป

                เข้าไปกวนนางตอนนี้เห็นทีจะไม่ค่อยดีนัก

                เด็กหนุ่มเหม่อมองตามร่างนั้นไปจนลับตา  ก่อนจะค่อย ๆ เดินอย่างแช่มช้าเข้าไปในตัวบ้าน

                หัวหน้าพ่อครัวผู้หนึ่งเดินมาโค้งกายให้เด็กหนุ่มอย่างนอบน้อม  เบิร์นหยุดฝีเท้าลง  หันไปจ้องมองผู้มาใหม่ช้า ๆ  ทางนั้นจึงได้เริ่มกล่าวขึ้นอย่างสุภาพ

                “ไม่ทราบว่าคุณชายอยากทานอะเป็นพิเศษหรือไม่ครับ?  ข้าจะได้จัดเตรียมให้”

                เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย  ก่อนหลุบตาลงต่ำอย่างครุ่นคิด  ใบหน้าที่เคยคุ้นในอีกบุคลิกหนึ่งปรากฏขึ้นมาในสมอง  เบิร์นอดที่จะย่นคิ้วเข้าหากันไม่ได้

                นางมารพันหน้าผู้นั้น...

                “...ปลาเลวีฟอบสมุนไพรกับซุปสมุนไพรละกัน”

                หัวหน้าพ่อครัวตอบรับอย่างสุขุมก่อนถอยฉากออกไป  ทั้งสองอย่างล้วนเป็นอาหารที่คุณหนูลักซ์ทานเป็นประจำ  ในขณะที่คุณชายนั้นค่อนข้างจะรู้สึกแย่กับทั้งสองที่กลิ่นฉุนและรสชาติติดขม  ต่อให้ไม่มีสมองก็คิดได้ว่าเด็กหนุ่มสั่งทั้งสองสิ่งนี้ให้แก่ใคร

                เบิร์นมองจนเห็นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้วจึงขึ้นบันไดไป

     

     

                ลักซ์เอนหลังพิงต้นไม้  สองมือกอดอก  มองดูแผ่นหลังไกลลิบของชายในชุดพ่อบ้านอย่างเงียบงัน

                เธอจงใจที่จะไม่พรางตัว  ทำให้อีกฝ่ายหันกลับมามองทางนี้ทันที  จึงเห็นว่าในมือของเขากำลังถือถุงใส่อาหารอยู่  พื้นตรงหน้าคือกลุ่มลูกหมาและลูกแมวกว่าสิบตัวที่มะรุมมะตุ้มเต็มไปหมด

                เด็กสาวเดินเข้าไปหาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว  เหลือบตามองสัตว์หน้าขนกลุ่มนั้นแวบหนึ่งก่อนไถลตัวนั่งพิงหลังกับต้นไม้ข้าง ๆ เด็กหนุ่ม

                แลนช์ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งให้อีกฝ่ายทันที

                “ยินดีตอนรับกลับบ้านครับ  คุณหนูลักซ์”

                “อืม...”

                นางตอบอย่างไม่ใส่ใจ  ท่าทีหงุดหงิดคลายลงไปหลายส่วน  เหลือบตามองไปที่บริเวณหน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว

                เขามองสาวเจ้ายิ้ม ๆ  มองหมาน้อยที่เดินเข้าไปปืนขาคุณหนูอย่างอยากรู้อยากเห็นพลางกล่าว

                “คุณหนูชอบสัตว์หรือไม่ครับ?”

                นางเลิกคิ้ว  ก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ใช้ความพยายามอุสาหะทั้งหมดที่มี(?)ในการปีนขาตนอย่างเรียบเฉย  ก่อนจะช่วยใช้มือดันก้นมันให้ขึ้นมาได้ในที่สุด

                “ก็ไม่ได้เกลียดล่ะมั้ง”

                เธอพูดพลางยื่นนิ้วไปดันกลางหน้าผากของมันพลาง  เจ้าตัวน้อยส่งเสียงร้องแหลมใส่ไม่หยุดเมื่อทำอย่างไรก็ไล่จับนิ้วขาว ๆ นั่นไม่ทันเสียที

                “นี่  แลนช์”

                “ครับคุณหนู?”

                เขาขานตอบทันที  ละสายตาจากกลุ่มสัตว์ตัวน้อยขึ้นมามองคุณหนูแทน

                เธอไม่ได้เงยหน้าสบตาเขา  ยังคงแกล้งเจ้าหมาสีดำมะเมื่อมราวก้อนถ่านนั่นไม่เลิก  ก่อนจะยอมให้มันใช้สองขาหน้าคว้านิ้วของหล่อนไป

                “เล่นน้ำกัน”

                คำชวนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย  ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหัวเราะออกมาเบา ๆ

                “ได้ครับ  แต่ขอข้าให้อาหารพวกนี้ก่อน...”

                คำพูดที่เหลือจำต้องกลืนลงคอ  เมื่อมือเรียวเอื้อมมาแย่งถุงอาหารถุงหนึ่งไปจากเขา  แล้วก็เริ่มป้อนมันให้เจ้าหมาน้อยบนตัก  แบ่งลูกหมาอีกสองตัวมาช่วยกันกินอาหารจากมือของหล่อน

                “มองหน้าข้าไปพวกมันก็ไม่อิ่มขึ้นมาหรอกนะ”

                คำพูดติดเหน็บแนมทำให้แลนช์ได้สติ  เขาหลบตาวูบ  ป้อนอาหารให้บรรดาลูกสัตว์วัยประมาณเดือนเศษอย่างเอาใจใส่ยิ่งประหนึ่งแม่ของพวกมัน

                อาหารในถุงของเธอหมดแล้ว  จึงหันมาเล่น(แกล้ง?)เจ้าลูกสัตว์แสนไร้เดียงสาเหล่านั้นรอพลช้าป้อนอาหารลูกน้อยโดยไม่ได้เร่งใด ๆ

                เจ้าก้อนถ่านน้อยตัวนี้ดูจะติดใจหล่อนเสียเหลือเกิน  นอกจากจะอาจหาญปีนขึ้นมานอนบนตักเธอแล้ว  ยังพยายามอย่างยิ่งที่จะปีนขึ้นมาเพื่อจะเลียเธอให้ได้

                ทว่าด้วยความตัวสั้นกลมของมัน  จึงถึงเพียงใต้อกเท่านั้น  มันเอาหัวชนหน้าท้องเธอเหมือนขัดใจ  ส่งเสียงแหลมเจี้ยวแจ้วอย่างประท้วงไม่หยุด

                เธอหรี่ตามองมัน  แกล้งรวบขาหน้าทั้งสองไว้แล้วดันจนหงายหลังลงไปนอนขาชี้ฟ้าอยู่บนขาอ่อนของนาง  สีหน้าดูเหมือนว่าจะงุนงงอยู่ไม่น้อย

                ลักซ์หัวเราะหึ ๆ  อุ้มมันลงไปอยู่บนพื้นเมื่อเห็นว่าอาหารในมือของเด็กหนุ่มนั้นหมดลงแล้ว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×