คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #55 : บทที่53 ปากเสียง [2]
บทที่53 ปากเสียง [2]
แลนช์ช่วยพยุงลักซ์ให้ยืนขึ้น ก่อนที่เขาจะถูกจูงไปทางทะเลสาบขนาดย่อมที่อยู่ในส่วนที่ลึกเกือบจะที่สุดของเขตคฤหาสน์
"กระผมจะไปเอาชุดมาให้นะครับ..."
ลักซ์หันไปเลิกคิ้วใส่คนพูดนิดหนึ่ง
แล้วกระชับมือที่คว้าแขนเขาเอาไว้ให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้จากไปตามที่พูด
"ยุ่งยากน่าแลนช์ แค่ถอดสูทนอกออกก็พอแล้ว"
ไม่ว่าเปล่า นางยังถอดเสื้อตัวนอกของตนแล้วโยนไว้บนพื้นข้างทะเลสาบอีกต่างหาก ทั้งยังเดินเข้าไปปลดเสื้อนอกของอีกฝ่ายออกด้วยตัวเอง
แลนซ์มีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย
“เสื้อผ้าเนื้อบางเช่นนี้ หากเปียกน้ำละก็คงดูไม่งาม...”
เธอกลอกตา หันกลับมามองอีกฝ่ายอย่างเซ็งจิต สองแขนเท้าสะเอวด้วยเหลือทน
"แล้วเจ้าคิดว่าข้าสนรึไง? เงียบแล้วช่างแม่งมันให้หมดเถอะน่า เกิดมาทั้งทีจะอะไรนักหนา แปป ๆ เดี๋ยวก็ตายแล้ว"
ถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงและติดจะหยาบคายอยู่สักหน่อยทำเอาเด็กหนุ่มแอบสะดุ้งในใจ
'แล้วทำไมคุณหนูต้องพูดจาเป็นลางด้วยล่ะครับ...'
เขาได้แต่คิด สีหน้าเหมือนอยากร้องไห้เต็มที
หลังจากยืนลังเลอยู่หลายนาที ในที่สุดแลนช์ก็ยอมถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วเดินตามคุณหนูลงทะเลสาปไปอย่างจนใจอยู่นิด
ๆ
ความเย็นของน้ำผิดจากอากาศอันอบอุ่นด้านบนลิบลับจนทำเอาร่างของเขาสั่นไปวูบหนึ่ง ลักซ์ว่ายนำไปไกลหลายช่วงตัว ทั้งยังเพิ่มระดับความลึกเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกลัวว่าออกซิเจนที่กักเก็บเอาไว้ในปอดจะหมดลงกลางคัน แลนช์เสียอีกที่เป็นกังวลแทนจนต้องว่ายตามไป
ข้อมือถูกคนด้านหลังคว้าเอาไว้มั่น ลักซ์จำต้องหันกลับมาเลิกคิ้วใส่อีกฝ่ายอย่างตั้งคำถาม
ดวงตาคู่นั้นฉายประกายของความเว้าวอนปนห่วงใยจาง
ๆ ไม่ต้องพูดก็เดาออกว่ากำลังสื่อถึงอะไร เด็กสาวโครงศีรษะอย่างเซ็ง ๆ แต่ก็ยอมตามอีกฝ่ายขึ้นไปเหนือน้ำแต่โดยดี
ผืนน้ำกระจายเสียงดังเมื่อทั้งคู่โผล่พรวดขึ้นมา ร่างเปียกชุ่มด้วยน้ำเย็นจัด เพียงถูกลมพัดก็ให้หนาวสะท้านไปถึงกระดูก
เด็กสาวก้มมองมือที่ยังถูกจับไว้ไม่คลายพลางจิ๊ปาก ทางนั้นยังคงไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มน้อย ๆ แต่นั่นก็มากพอจะทำให้เธอรู้แล้วว่าเขาพร้อมจะ ‘ตามติด’ หล่อนแค่ไหน
“ก็ได้ ข้าจะไม่เล่นอะไรแผลง ๆ แล้ว เช่นนั้นโปรดอย่าได้ทำตัวเป็นวิญญาณอาฆาตตามติดชีวิตข้าเลย”
แลนช์ยกยิ้มน้อย ๆ ให้กับอีกฝ่าย ก่อนปล่อยมือออกอย่างอ้อยอิ่ง ลักซ์ดีดตัวออกห่าง ก่อนมุดลงไปกระชากขาของอีกฝ่ายอย่างแรงแล้วว่ายหนีไปหน้าตาเฉย
ชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ตั้งตัวสำลักน้ำเข้าไปอึกใหญ่ ไอโขลกไม่หยุด
แม้เขาจะเป็นต้นไม้ที่ชื่นชอบการแช่น้ำเป็นที่สุด ทว่าก็จมน้ำตายได้เหมือนกันนะครับคุณหนู!
เขายกมือขึ้นเกาหัวแกรก
ๆ ก่อนว่ายตามคุณหนูตัวแสบของตนไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว
พ่อบ้านหนุ่มโดนลักซ์แกล้งอยู่หลายครั้ง
ทั้งดำน้ำหนี ดึงขา ลากคอลงไปในที่ลึก
ๆ จี้เอว
และอีกสารพัดที่นางมารพันหน้าจะคิดมาแกล้งเขาได้
สภาพของเขาตอนนี้ค่อนข้างดูตลกเล็กน้อย นอกจากจะตัวเปียกโชกแล้ว ผมเผ้ายังยุ่งเหยิง แถมมีสภาพเหนื่อยหอบอีกต่างหาก
ร่างเพรียวว่ายตรงเข้ามาหา เขาหรี่ตาลงก่อนตัดสินใจดำลงไปใต้น้ำเพื่อหลบมือมรณะของคุณหนูตัวแสบ ทางนั้นรุกไล่อย่างไม่ลดละ
ลักซ์เร่งความเร็วในการว่ายมากขึ้นจนมือเกือบจะคว้าไหล่ของอีกฝ่ายได้ ไม่คาดว่าทางนั้นจะดีดตัวขึ้นไปด้านบนแล้วหมุนกลับมาอยู่เหนือร่างเธอ แล้วรวบเอวหล่อนแน่น
เด็กสาวได้แต่ลอยนิ่ง
ๆ ให้เด็กหนุ่มลากตัวเองขึ้นมาเหนือผิวน้ำด้วยท่าทีนิ่งงัน สองตากะพริบปริบ ๆ เหมือนตามเรื่องราวไม่ทัน
แลนช์มองเด็กสาวยิ้ม
ๆ ดวงหน้ายังคงอ่อนโยนชวนมอง ก่อนคลายมือออกจากเอวบาง แล้วเปลี่ยนมาเป็นกอบกุมมือเล็ก ๆ ของหล่อนเอาไว้แทน
“ขึ้นฝั่งกันเถอะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
อีกฝ่ายยอมให้เขาประคองขึ้นฝั่งมาอย่างไม่มีอิดออดแต่อย่างใด
เสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มของทั้งคู่แนบอยู่บนเรือนร่าง ปรากฏเป็นภาพที่ ‘ไม่ดีไม่งาม’ ขึ้น แลนช์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเหลือบไปเห็นเสื้อผ้าแนบเนื้อนั่น จึงรีบกระโดดไปคว้าเสื้อตัวนอกมาสวมให้อีกฝ่ายทันที ทั้งยังนำของตัวเองสวมทับซ้ำไปให้อีกตัวเสียด้วย
ลักซ์มองเสื้อตัวโคร่งที่สวมทับอยู่บนร่างของตนสลับกับใบหน้าของแลนช์ ก่อนพยักหน้าเป็นการขอบคุณ
พ่อบ้านหนุ่มพยักหน้ายิ้ม
ๆ เมื่อเห็นว่าคุณหนูดูเรียบร้อยขึ้นแล้ว จึงเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนของนางขึ้นมาถือ เขามองสมุดสเก๊ตส์ที่โดนใส่ไว้อย่างลวก ๆ จนไม่สามารถปิดปากกระเป๋าลงได้ ก่อนเริ่มเรียงของด้านในใหม่ให้อีกฝ่ายอย่างใจเย็นยิ่ง
เด็กสาวชะงักไปครู่หนึ่งยามเห็นสมุดวาดภาพเล่มนั้น มองเหม่ออยู่นาน จนแลนช์เก็บของเสร็จแล้วเดินเข้ามาหา เธอจึงได้สติ
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะครับ”
นางพยักหน้ารับคำพูดนั้นเล็กน้อย ก่อนเดินตามเด็กหนุ่มไปโดยไม่พูดอะไรอีก เพราะในหัวของเธอตอนนี้กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก
ว่าคืนนี้จะวาดรูปอะไรต่อดี?
อาเรนเซียลงมาจากรถม้า สองเท้าก้าวนำน้องชายเข้าเขตสถานศึกษาไปอย่างสดชื่นยินดี
‘กวางน้อย หยุดก่อนสิ’
เสียงร้องของลักซ์ทำให้นางจำต้องชะงักฝีเท้า ค่อย ๆ หันใบหน้าไปทางที่อีกฝ่ายต้องการ สองตาจึงได้ปะทะเข้ากับภาพของครอบครัวกลุ่มเดิมที่กำลังแสดงความรักใคร่ออกมาอย่างอบอุ่น
‘เจ้าจะวาดพวกเขาอีกแล้วหรือ?’
‘อืม’
ทางนั้นตอบกลับมาสั้น
ๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนบอกให้อีกฝ่ายเดินต่อ อาเรนเซียไม่ได้ติดใจอะไร เพียงหันไปหาน้องชายแล้วพากันเดินเข้าโรงเรียนไป
ใช้เวลานานทีเดียวกว่าทั้งคู่จะเดินมาถึงห้องเรียน เด็กส่วนใหญ่ที่ใช้เวทมนตร์ในการเดินทางแม้จะมาถึงโรงเรียนที่หลัง แต่กลับนั่งจับกลุ่มกันก่อนสองพี่น้องจะขึ้นมานานแล้ว
‘วันนี้มีวิชาเกี่ยวกับสัตว์อสูรด้วยนี่? ข้าอยากรู้จังว่าเจ้าจะได้ทำอะไร’
อาเรนเซียชวนอีกฝ่ายคุยระหว่างที่กำลังค้นหาหนังสืออ่านเล่นในกระเป๋าออกมาอ่านฆ่าเวลา
‘นั่นสิ หวังว่าจะไม่ใช่การร่ายภาคทฤษฎีใส่นะ’ เธอพูด ก่อนเงียบไปครู่หนึ่ง ร่างนิมิตพลันปรากฎออกมาทำหน้าเหยเกอยู่ไม่ไกล ‘ประวัติความเป็นมาก็ไม่เอาเหมือนกัน’
คนหน้าแสงหัวเราะคิก ส่ายหัวพลางเปิดหนังสือไปยังหน้าที่ถูกคั่นไว้
ประตูห้องเรียนถูกเปิดผัวะอย่างแรง นาราเรียในสภาพสองแก้มบวมช้ำวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาด้วยท่าทีตื่นกลัว ส่งเสียงร้องสะอื้นในลำคอ
เจ้าหล่อนตรงเข้าไปหลบที่ด้านหลังของอาเรนเซีย นั่นทำให้ทุกคนต่างหันมองมาทางนี้เป็นตาเดียว
เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล รีบหันกลับไปดูอาการอีกฝ่ายทันที ยิ่งเห็นสองแก้มที่บวมแดงนั่นก็ยิ่งตกใจจนต้องสูดลมหายใจเฮือก
มันเป็นรอยฝ่ามือ!
เสียงฝีเท้ากลุ่มหนึ่งเดินนวยนาดผ่านร่างเธอไป เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงพบว่าเป็นบีลิน่าและบรรดาลิ่วล้อของเธอ พวกหล่อนไม่แม้แต่จะชายตามองมาทางนี้เสียด้วยซ้ำไป
อาเรนเซียขมวดคิ้วแน่น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกหล่อนแน่
“...ขอข้าดูหน่อยนะ”
นางกล่าวเสียงเบา จับใบหน้าอีกฝ่ายพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างเบามือ มันไม่ได้มีเพียงรอยตบเท่านั้น แต่กลับพบรอยจ้ำเขียวคล้ายถูกหยิกอีกหลายที่ อาเรนเซียตัดสินใจปลดกระดุมคอเสื้อนาราเรียออก อีกฝ่ายผวาเฮือก ร่างกายสั่นเทาหนักขึ้นทันใด
ที่รอบคอของเด็กสาว คือรอยมือที่บีบเข้าหากันอย่างรุนแรง ทิ้งรอยจ้ำเอาไว้อย่างเด่นชัดจนชวนให้คนมองเย็นวาบไปทั้งใจ
รุนแรงถึงเพียงนี้?
ความคิดเห็น