คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #59 : บทที่57 ไลกีอาร์ [3]
บทที่57 ไลกีอาร์ [3]
“ถึงคาบชมรมเมื่อไหร่ก็เรียกฉันด้วยล่ะ”
กายละเอียดที่นั่งอยู่ภายห้องแสงสีประหลาดตากล่าวเสียงเนือย มองภาพโลกภายนอกผ่านน้ำตกตรงหน้า เห็นเป็นมุมมองส่ายตาที่ขยับขึ้นลง
‘ได้เลย’
เมื่อได้อยู่เงียบ
ๆ คนเดียว ลักซ์ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการใช้ความคิด
ในตอนที่จู่
ๆ ก็ปวดศีรษะจนล้มลง คล้ายกับเธอจะเห็นภาพอะไรบางอย่าง
เป็นสถานที่คล้ายวิหารอันงดงามใหญ่โตแห่งหนึ่ง เจ้าแมวยักษ์อยู่ตรงหน้าเธอ กำลังขยับปากพูดบางอย่างที่ตนไม่ได้ยิน ก่อนที่จะมีมืออันสวมไว้ซึ่งเครื่องประดับหรูหรามากมายยื่นไปลูบหัวของมัน
แล้วภาพเหล่านั้นก็แตกเป็นเสี่ยง
ๆ เหมือนกระจกถูกทุบ ทั้งร่างเหมือนจะถูกไฟฟ้าช็อตไปแวบหนึ่งจนแข็งเกร็ง ก่อนที่ทุกอย่างจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เด็กสาวหรี่ดวงตามองพื้นที่คลุมด้วยหมอกควันอย่างเหม่อลอย
ภาพนั่น...มีความหมายว่าอย่างไรกัน?
อนาคตของเจ้าแมวนั่นหรือ?
“คิดผิดรึเปล่าวะเนี่ยที่รับคำมาที่นี่”
เธอพึมพำพลางหลับตาลง ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเข้าสู่สภาวะพักผ่อน
‘ลักซ์ ตื่นเถอะ’
เสียงเรียกไม่ดังไม่เบาจนเกินไปทำให้ดวงวิญญาณสีฟ้าขนาดครึ่งกำปั้นที่กลางห้องสั่นไหว แล้วจึงแปรสภาพกลายเป็นเด็กสาวดังเดิม
ดวงตาสีนิลเหลือบมองภาพบานประตูภายในน้ำตกแวบหนึ่งแล้วจึงเมินไปทางอื่น
“อืม”
เธอตอบรับสั้น
ๆ ก่อนจะแทรกตัวเข้าสู่หน้าแสงแทนที่อาเรนเซีย
ยังไม่ทันจะได้เอื้อมมือไปแตะบานประตู เสียงแหวดังสนั่นของผู้หญิงก็พลันดังลอดออกมาจนนางสะดุ้งโหยง ระดับความดังทำเอาเธอปวดแก้วหูตุบ ๆ
อะไร? ใครจะฆ่ากันรึยังไง?
ประตูถูกกระชากเปิดออก พร้อมกับใครบางคนที่วิ่งชนร่างนางเข้าเต็ม ๆ แต่กลายเป็นว่าคนชนนั่นแหละที่หงายหลังล้มโครมลงไป
ลักซ์กะพริบตาปริบ ก่อนจะสวมบทเป็นกวางน้อยช่วยพยุงเด็กสาวผู้นั้นขึ้นมา
“เป็นอะไรมากมั้ยคะ?”
อีกฝ่ายส่ายหน้าวืด หัวเราะร่าและวิ่งจากไปพร้อมตะโกนเสียงดังไปทั้งอาคาร
“เอลดี้ชอบมาคัส!
เอลดี้ชอบมาคัส!”
“ใครชอบหมอนั่นกันหา!”
เสียงตะโกนแสนทรงพลังเสียงเดิมดังออกมาอีกครั้ง เธอมองเข้าไปด้านในห้องชมรมอย่างสนใจ ว่าใครหนอช่างมีเสียงอันแสนทรงพลังขนาดนี้
ภาพของเด็กผู้หญิงผมสั้นละต้นคอสีแดงเพลิงคนหนึ่งที่ยืนกระทืบเท้าปึงปังอยู่บนเวทีเตี้ย
ๆ ขนาดเกือบหนึ่งในสี่ของพื้นที่ห้องช่างคุ้นตานัก
...ที่แท้ก็แบบวาดของเธอนั่นเอง
อีกฝ่ายบ่นอะไรอีกหลายคำกว่าจะรู้ตัวว่ามีคนยืนจ้องตนอยู่หลังบานประตูห้อง ใบหน้าที่เคยฉายแววกรุ่นโกรธจึงพลันแข็งค้างไปในบัดดล
ลักซ์ยิ้มให้เธอแล้วผงกหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย
เด็กสาวผู้นั้นยกมือขึ้นเกาแก้มแล้วยิ้มแห้ง
ๆ ตอบกลับมา
“สวัสดี เจ้าชื่ออะไรหรือ? ข้าเอลดี้
วินนี ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
น้ำเสียงร่าเริงมั่นคงของเจ้าหล่อนไพเราะมาก ลักซ์รับฟังเสียงนั้นอย่างพอใจ ดวงตาหรี่โค้งเล็กน้อย รอยยิ้มหวานที่เผลอฉีกออกอย่างลืมตัวทำเอาเอลดี้หายใจสะดุด
เจ้าหล่อนช่างงามนัก!
“ข้าชื่ออาเรนเซีย เวลด้าจ้ะ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะ”
“อื้ม เช่นกัน ๆ !”
ลักซ์ฟังเสียงของอีกฝ่ายอย่างพออกพอใจยิ่ง
สมาชิกคนอื่น
ๆ เริ่มทยอยกันมาถึงแล้ว มีเด็กปีหนึ่งมาสมัครใหม่อยู่จำนวนมากพอสมควร แต่กลับน่าเสียดายนักที่กว่าครึ่งแทบจะไม่มีทักษะในการร้องเพลงเลย ไม่เคยเรียนการขับร้องมาก่อนในชีวิต บางคนถึงขั้นไม่เคยได้ฟังการขับร้องตามโรงละครมาก่อน มีอยู่เพียงสามคนเท่านั้นที่เคยเรียนกับอาจารย์ นั่นคือลักซ์
เอลดี้และทอร์ส เด็กผู้ชายจากสายสามัญคนหนึ่ง
ทั้งสามจึงได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติ นั่นคือการช่วยสอนเด็กปีหนึ่งคนอื่น ๆ ในการขับร้อง
ส่วนพวกรุ่นพี่น่ะหรือ? ครึ่งหนึ่งก็ทำงานดีอยู่หรอก แต่อีกครึ่งที่เน้นหนักไปในทางผู้ชายนั้นกลับเอาแต่วิ่งเล่นกันอย่างไร้สาระเป็นที่สุด
ลักซ์มองภาพเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย พวกเขามีอายุพอ ๆ กับเธอในชาติก่อน ทว่ากับพบเจอสิ่งต่าง ๆ มาไม่เท่ากัน
ในชีวิตก่อน เธอไม่เคยได้วิ่งเล่นกับเพื่อนมาก่อนในชีวิต มีก็แต่วิ่งหนีให้พ้นจากเงื้อมมือของเหล่าเด็กสารเลวพวกนั้น และหนีการตามล่าก็เท่านั้น
เด็กสาวดึงสายตากลับ เริ่มอ้าปากขับร้องบทเพลงออกมาอย่างช้า ๆ
หากเสียงของลักซ์ในคราบอาเรนเซียเปรียบได้กับธารน้ำใส ยามนางขับร้องในแบบที่ตนถนัด ก็ไม่ต่างอะไรจากแผ่นดินที่กำลังลุกเป็นไฟ
หนักแน่น เร่าร้อน
และมากด้วยเสน่ห์อันเกิดจากพิษร้าย
ภายในห้องชมรมถูกเสียงอันหนักแน่นทรงเสน่ห์ของลักซ์ตรึงเอาไว้จนพากันเงียบกริบ พลังเสียงของหล่อนแข็งแรงพอจะส่งมันให้ดังสะท้อนไปทั้งห้องกว้าง และทะลุกกำแพงออกไปยังชมรมข้างเคียง
ลักซ์เลือกที่จะร้องเพลงง่าย
ๆ เกี่ยวกับความรักบทเพลงหนึ่ง แม้จะร้องออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก แต่ด้วยความสามารถของพรจากปีศาจที่ติดตัวมาแต่ชาติภพก่อน ก็กลับทำให้มันน่าฟังขึ้นมาได้
เสียงร้องหยุดลง ก่อนถูกแทนที่ด้วยเสียงปรบมือดังระงม
ลักซ์โค้งกายตอบรับอย่างอ่อนน้อม ส่งยิ้มอ่อนหวานที่ไร้ความหยิ่งทระนงให้แก่ทุกคน สลักภาพลักษณ์อันแสนเลิศเลอลงในใจสมาชิกชมรมไปเรียบร้อย
“เจ้าสุดยอดมาก!”
เอลดี้ปรี่เข้ามาจับมือเธอเขย่าไม่หยุด สายตาเปล่งประกายระยิบระยับไม่ต่างจากเด็กสาวที่พบเจอกับไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ
ลักซ์ยิ้ม ดวงตาหรี่โค้งลงยามสบเข้ากับดวงตาของคู่สนทนา
ความคิดเห็น