ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God Command พระเจ้า! ทำไมท่านไม่หาร่างใหม่ให้ข้า![Reverse Harem]

    ลำดับตอนที่ #59 : บทที่57 ไลกีอาร์ [3]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.91K
      113
      6 ม.ค. 64

    บทที่57 ไลกีอาร์ [3]

                “ถึงคาบชมรมเมื่อไหร่ก็เรียกฉันด้วยล่ะ”

                กายละเอียดที่นั่งอยู่ภายห้องแสงสีประหลาดตากล่าวเสียงเนือย  มองภาพโลกภายนอกผ่านน้ำตกตรงหน้า  เห็นเป็นมุมมองส่ายตาที่ขยับขึ้นลง

    ได้เลย 

    เมื่อได้อยู่เงียบ ๆ คนเดียว  ลักซ์ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการใช้ความคิด

                ในตอนที่จู่ ๆ ก็ปวดศีรษะจนล้มลง  คล้ายกับเธอจะเห็นภาพอะไรบางอย่าง

                เป็นสถานที่คล้ายวิหารอันงดงามใหญ่โตแห่งหนึ่ง  เจ้าแมวยักษ์อยู่ตรงหน้าเธอ  กำลังขยับปากพูดบางอย่างที่ตนไม่ได้ยิน  ก่อนที่จะมีมืออันสวมไว้ซึ่งเครื่องประดับหรูหรามากมายยื่นไปลูบหัวของมัน

                แล้วภาพเหล่านั้นก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เหมือนกระจกถูกทุบ  ทั้งร่างเหมือนจะถูกไฟฟ้าช็อตไปแวบหนึ่งจนแข็งเกร็ง  ก่อนที่ทุกอย่างจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                เด็กสาวหรี่ดวงตามองพื้นที่คลุมด้วยหมอกควันอย่างเหม่อลอย

                ภาพนั่น...มีความหมายว่าอย่างไรกัน?

                อนาคตของเจ้าแมวนั่นหรือ?

                “คิดผิดรึเปล่าวะเนี่ยที่รับคำมาที่นี่”

                เธอพึมพำพลางหลับตาลง  ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ  ก่อนจะเข้าสู่สภาวะพักผ่อน

     

               

                ลักซ์  ตื่นเถอะ

                เสียงเรียกไม่ดังไม่เบาจนเกินไปทำให้ดวงวิญญาณสีฟ้าขนาดครึ่งกำปั้นที่กลางห้องสั่นไหว  แล้วจึงแปรสภาพกลายเป็นเด็กสาวดังเดิม

                ดวงตาสีนิลเหลือบมองภาพบานประตูภายในน้ำตกแวบหนึ่งแล้วจึงเมินไปทางอื่น

                “อืม”

                เธอตอบรับสั้น ๆ  ก่อนจะแทรกตัวเข้าสู่หน้าแสงแทนที่อาเรนเซีย

                ยังไม่ทันจะได้เอื้อมมือไปแตะบานประตู  เสียงแหวดังสนั่นของผู้หญิงก็พลันดังลอดออกมาจนนางสะดุ้งโหยง  ระดับความดังทำเอาเธอปวดแก้วหูตุบ ๆ

                อะไร?  ใครจะฆ่ากันรึยังไง?

                ประตูถูกกระชากเปิดออก  พร้อมกับใครบางคนที่วิ่งชนร่างนางเข้าเต็ม ๆ  แต่กลายเป็นว่าคนชนนั่นแหละที่หงายหลังล้มโครมลงไป

                ลักซ์กะพริบตาปริบ  ก่อนจะสวมบทเป็นกวางน้อยช่วยพยุงเด็กสาวผู้นั้นขึ้นมา

                “เป็นอะไรมากมั้ยคะ?”

                อีกฝ่ายส่ายหน้าวืด  หัวเราะร่าและวิ่งจากไปพร้อมตะโกนเสียงดังไปทั้งอาคาร

                “เอลดี้ชอบมาคัส!  เอลดี้ชอบมาคัส!

                “ใครชอบหมอนั่นกันหา!

                เสียงตะโกนแสนทรงพลังเสียงเดิมดังออกมาอีกครั้ง  เธอมองเข้าไปด้านในห้องชมรมอย่างสนใจ  ว่าใครหนอช่างมีเสียงอันแสนทรงพลังขนาดนี้

                ภาพของเด็กผู้หญิงผมสั้นละต้นคอสีแดงเพลิงคนหนึ่งที่ยืนกระทืบเท้าปึงปังอยู่บนเวทีเตี้ย ๆ ขนาดเกือบหนึ่งในสี่ของพื้นที่ห้องช่างคุ้นตานัก

                ...ที่แท้ก็แบบวาดของเธอนั่นเอง

                อีกฝ่ายบ่นอะไรอีกหลายคำกว่าจะรู้ตัวว่ามีคนยืนจ้องตนอยู่หลังบานประตูห้อง  ใบหน้าที่เคยฉายแววกรุ่นโกรธจึงพลันแข็งค้างไปในบัดดล

                ลักซ์ยิ้มให้เธอแล้วผงกหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย

                เด็กสาวผู้นั้นยกมือขึ้นเกาแก้มแล้วยิ้มแห้ง ๆ ตอบกลับมา

                “สวัสดี  เจ้าชื่ออะไรหรือ?  ข้าเอลดี้  วินนี  ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

                น้ำเสียงร่าเริงมั่นคงของเจ้าหล่อนไพเราะมาก  ลักซ์รับฟังเสียงนั้นอย่างพอใจ  ดวงตาหรี่โค้งเล็กน้อย  รอยยิ้มหวานที่เผลอฉีกออกอย่างลืมตัวทำเอาเอลดี้หายใจสะดุด

                เจ้าหล่อนช่างงามนัก!

                “ข้าชื่ออาเรนเซีย  เวลด้าจ้ะ  ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะ”

                “อื้ม  เช่นกัน ๆ !

                ลักซ์ฟังเสียงของอีกฝ่ายอย่างพออกพอใจยิ่ง

                สมาชิกคนอื่น ๆ เริ่มทยอยกันมาถึงแล้ว  มีเด็กปีหนึ่งมาสมัครใหม่อยู่จำนวนมากพอสมควร  แต่กลับน่าเสียดายนักที่กว่าครึ่งแทบจะไม่มีทักษะในการร้องเพลงเลย  ไม่เคยเรียนการขับร้องมาก่อนในชีวิต  บางคนถึงขั้นไม่เคยได้ฟังการขับร้องตามโรงละครมาก่อน  มีอยู่เพียงสามคนเท่านั้นที่เคยเรียนกับอาจารย์  นั่นคือลักซ์  เอลดี้และทอร์ส  เด็กผู้ชายจากสายสามัญคนหนึ่ง

                ทั้งสามจึงได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติ  นั่นคือการช่วยสอนเด็กปีหนึ่งคนอื่น ๆ ในการขับร้อง

                ส่วนพวกรุ่นพี่น่ะหรือ?  ครึ่งหนึ่งก็ทำงานดีอยู่หรอก  แต่อีกครึ่งที่เน้นหนักไปในทางผู้ชายนั้นกลับเอาแต่วิ่งเล่นกันอย่างไร้สาระเป็นที่สุด

                ลักซ์มองภาพเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย  พวกเขามีอายุพอ ๆ กับเธอในชาติก่อน  ทว่ากับพบเจอสิ่งต่าง ๆ มาไม่เท่ากัน

                ในชีวิตก่อน  เธอไม่เคยได้วิ่งเล่นกับเพื่อนมาก่อนในชีวิต  มีก็แต่วิ่งหนีให้พ้นจากเงื้อมมือของเหล่าเด็กสารเลวพวกนั้น  และหนีการตามล่าก็เท่านั้น

                เด็กสาวดึงสายตากลับ  เริ่มอ้าปากขับร้องบทเพลงออกมาอย่างช้า ๆ

                หากเสียงของลักซ์ในคราบอาเรนเซียเปรียบได้กับธารน้ำใส  ยามนางขับร้องในแบบที่ตนถนัด  ก็ไม่ต่างอะไรจากแผ่นดินที่กำลังลุกเป็นไฟ

                หนักแน่น  เร่าร้อน  และมากด้วยเสน่ห์อันเกิดจากพิษร้าย

                ภายในห้องชมรมถูกเสียงอันหนักแน่นทรงเสน่ห์ของลักซ์ตรึงเอาไว้จนพากันเงียบกริบ  พลังเสียงของหล่อนแข็งแรงพอจะส่งมันให้ดังสะท้อนไปทั้งห้องกว้าง  และทะลุกกำแพงออกไปยังชมรมข้างเคียง

                ลักซ์เลือกที่จะร้องเพลงง่าย ๆ เกี่ยวกับความรักบทเพลงหนึ่ง  แม้จะร้องออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก  แต่ด้วยความสามารถของพรจากปีศาจที่ติดตัวมาแต่ชาติภพก่อน  ก็กลับทำให้มันน่าฟังขึ้นมาได้

                เสียงร้องหยุดลง  ก่อนถูกแทนที่ด้วยเสียงปรบมือดังระงม

                ลักซ์โค้งกายตอบรับอย่างอ่อนน้อม  ส่งยิ้มอ่อนหวานที่ไร้ความหยิ่งทระนงให้แก่ทุกคน  สลักภาพลักษณ์อันแสนเลิศเลอลงในใจสมาชิกชมรมไปเรียบร้อย

                “เจ้าสุดยอดมาก!

                เอลดี้ปรี่เข้ามาจับมือเธอเขย่าไม่หยุด  สายตาเปล่งประกายระยิบระยับไม่ต่างจากเด็กสาวที่พบเจอกับไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ

                ลักซ์ยิ้ม  ดวงตาหรี่โค้งลงยามสบเข้ากับดวงตาของคู่สนทนา

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×