คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1(รีไรท์สมบูรณ์)
ภายในคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ เด็กสาวหน้าตาท่าทางน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างมั่นใจในชัยชนะในเรื่องที่ตนเองกำลังจะพูด เธอตรงไปยังมารดาบังเกิดเกล้าของตน ก่อนจะส่งเสียงแหลมๆเรียกออกไป
"คุณแม่ขา หนูลีมีเรื่องจะขอร้องค่ะ"สาวน้อยคนนั้นพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่ได้บ่งบอกเลยว่ากำลัง'ขอร้อง'อยู่
"มีอะไรหรือคะหนูลี"ผู้เป็นแม่ถามเสียงเบา สังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ด้วยรู้นิสัยของบุตรสาวดี
"คือว่า...หนูลีจะขอออกไปอยู่ที่คอนโดฯ ของเฮียกะเจ้น่ะค่ะ"
"หนูลี!! พูดอะไรออกมาคะนั่น ลูกเพิ่งจะอายุ 16 เท่านั้นเอง จะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง อยู่กับคุณแม่ก็ดีแล้วนี่คะลูก"มารดาพยายามแจงเหตุผลของตนเอง ทั้งที่ก็พอจะเดาคำตอบได้ลางๆ
"ไม่รู้ล่ะ ยังไงหนูลีก็จะไป"เธอพูดอย่างเอาแต่ใจสุดๆ ตามประสาคุณหนูที่ได้รับการตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ
"แต่ว่าหนูลีคะ...."
"นะคะคุณ
"มันจะไม่อันตรายไปหน่อยเหรอคะหนูลี...เอ่อ.. เอาอย่างนี้ไหมคะลูก ให้นมทับทิมไปอยู่ด้......"คุณแม่พยายามหาทางออกแบบพบกันคนละครึ่งทาง แต่ทว่าบุตรสาวของเธอกลับไม่คิดแม้แต่จะฟังให้จบ
ปึง!
ผู้เป็นลูกตบโต๊ะดังอย่างเอาแต่ใจ
"ไม่เอาหรอกคะ....หนูลีก็แค่อยากจะใช้ชีวิตอิสระ มีชีวิต และ ห้องพักเป็นของตัวเองบ้างก็เท่านั้น แล้วอีกอย่างนะคะ พวกพี่ๆ ก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษกันแล้ว อีกตั้งนานกว่าจะกลับ ห้องก็ว่าง...คุณแม่จะทิ้งห้องไว้ทำไมหรือคะ"
"......."
"ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่ให้หนูลีจะโกรธคุณแม่แล้วก็หนีออกจากบ้านด้วย!"
"ก..ก็ได้ค่ะ คุณแม่จะให้หนูลีไปอยู่ที่คอนโดฯ ก็ได้แต่ว่าหนูลีอย่าโกรธคุณแม่นะคะ...ToT "
‘ต้องอย่างนี้อยู่แล้วคุณแม่สุดที่รัก’
ต่อจากนี้ฉันก็จะได้เป็นอิสระเสียที อ่อ...ลืมแนะนำตัวไป เราชื่อเล่นว่า ‘ลีเบอต์’ ออกจะแปลกๆ ไปสักนิดหนึ่งก็เหตุเพราะว่ามันเป็นภาษาเยอรมัน ชื่อนี้คุณแม่และคุณพ่อเป็นคนตั้งให้ฉันเองรู้สึกจะแปลว่า ที่รักหรือสุดที่รัก อะไรสักอย่างนี่ล่ะ ที่บ้านตอนนี้มีเพียงแค่ฉันกับคุณแม่และพวกแม่บ้าน คุณพ่อของฉันเป็นนักการทูตประจำประเทศไทยที่ต้องไปอยู่ในประเทศเยอรมัน คุณแม่เป็นทั้งแม่บ้านและเจ้าของธุรกิจที่สืบต่อจากคุณพ่อ
ฉันมีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 3 คนรวมฉันด้วยนั่นก็คือ พี่ชาย พี่สาวและฉัน....
พี่ชายของฉันชื่อเล่นว่า ‘ไฮพีค’ แปลว่าสูงสุดๆ ประมาณนั้นจะเรียกว่าเป็นเพลย์บอยก็ไม่เชิง นักล่าเวอร์จิ้นก็ไม่ใช่....เป็นพวกที่ทำตัวให้เสียเวลากับสาวๆ ไปวันๆ นั่นล่ะค่ะแต่จะบอกอะไรให้นะคะ เขาเป็นผู้ชายที่รักและหวงแหนน้องสาวคนนี้อย่างสุดซึ้งเลยล่ะ.....มาถึงพี่คนกลางของฉันเป็นผู้หญิงชื่อว่า ‘เกรซ ’...เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน อ่อนช้อย อ่อนน้อม และอ่อนแอ - - เรียกว่าเป็นกุลสตรีไทยยิ่งกว่าใครก็ได้ ทำให้บางทีฉันเห็นแล้วก็แอบหมั่นไส้พี่สาวตัวเองที่ไม่ทำตัวให้เก่ง กล้า สามารถแบบน้องสาวคนนี้ โฮะๆๆ
แต่ก็อย่างที่บอกน่ะค่ะ ตอนนี้ที่บ้านมีแต่คุณแม่อยู่พวกพี่ๆ เขาก็ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษและยังไม่ได้ฤกษ์เลยว่าจะกลับกันเมื่อไหร่ ฉะนั้นห้องว่างในคอนโดฯ ที่พวกเขาเคยอยู่จะทิ้งว่างไว้ทำไมให้ฉันไปอยู่ดีกว่า
"ขอบพระคุณนะคะ ^0^ หนูลีรักคุณแม่ที่สุดในโลกเลย"ฉันสวมกอดคุณแม่ด้วยความดีใจ
"ค่ะลูก"แม่รับคำอย่างกล้ำกลืนนิดๆ
"งั้น...หนูลีไปเย็นนี้เลยนะคะ ขึ้นไปจัดของก่อนดีกว่า ^-^ "ว่าแล้วฉันก็เดินขึ้นไปบนห้องโดยไม่ได้ยินที่คุณแม่ของฉันบ่นอะไรอุบอิบ
"เฮ้อ! จริงๆเลย ลูกคนนี้ ทำไมไม่ได้สักครึ่งหนึ่งของยัยเกรซบ้างนะ"แม่บ่นอย่างอ่อนใจในความเอาแต่ใจของลูกสาว
..........................
................
เวลาผ่านไป
กระเป๋าสัมภาระใบโตหลายใบถูกลากออกมาที่ลานจอดรถโดยคนใช้ร่างบิ๊ก 3 คน
"หนูลีไปแล้วนะคะ คุณแม่ก็รักษาสุขภาพดีดีด้วยนะ"ฉันพูดพลางโบกมือลาคุณแม่ ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นรถยนต์ BMW คันหรูที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสน์
"ถ้ามีปัญหาอะไร ก็โทรมาบอกคุณแม่ได้นะคะลูก"แม่พูดอย่างเป็นห่วง
" Bye mom! "ฉันร่ายภาษาอังกฤษอย่างสั้นอีกที ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากบริเวณของคฤหสาน์
"กรี๊ดด! วู้ววว...."
โอ๊ย! ดีใจจัง ต่อไปนี้ฉันก็จะไม่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัดมารัดตัวอีกแล้ว...ทีนี้ล่ะ ก็ไม่ต้องขอคุณแม่ ในเวลาที่ฉันจะออกไปแต๊ดแต๋อีกแล้ว หึหึ เอาล่ะพอไปเก็บของที่คอนโดฯ แล้วออกไปเที่ยวเลยดีกว่า
>> คอนโด >>
เมื่อเข้าไปในล็อบบี้ ฉันก็กดเรียกลิฟท์และเดินนำพนักงานถือกระเป๋าเข้าลิฟท์ หลังจากรูดคีย์การ์ด ฉันก็กดหมายเลขชั้น 54 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ไม่อยากจะพูดว่าทั้งชั้น 54 นี้เป็นห้องที่มีราคาแพงที่สุดเลยนะ แถมยังทำทะลุตีทั้งชั้นอีกเสียด้วย โฮะๆๆ คนมันรวยก็อย่างล่ะ
เมื่อฉันเก็บสัมภาระที่มันรก.. -*- และแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ฉันคิดว่าฉันจะออกไปกินข้าวนอกบ้านก่อน ถึงจะดึกไปหน่อยสำหรับการเข้า รร.ใหม่วันพรุ่งนี้ แต่ยังไง วันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันได้ออกมาอยู่คนเดียว ก็ต้องฉลองหน่อยล่ะ.....อืมไปไหนดีน้า โอ๊ะ! รู้แล้วไป RCA ดีกว่า.....
ฉันเดินคิดไปเรื่อยเปื่อยตามถนน ทันใดนั้นสายตาของฉันก็ไปหยุดที่ผับแห่งหนึ่ง เป็นผับที่ใหญ่โตมาก และมีหลอดไฟส่องแสงแต็มไปหมดเลย ว๊าววว! ลองเข้าไปดูสักหน่อยคงไม่เสียหายนะ ^. .^
"พี่คะ เอ่อ...หนูจะเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหมคะ -.-"ฉันพูดอย่างเงอะงะนิดหน่อยกับพี่หน้าลูกครึ่ง(จระเข้กับตะขาบ - - )คนที่ยืนอยู่หน้าประตูผับ
"อายุเท่าไหร่แล้วเรา"ตายแล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าฉันยังอายุไม่ถึง 18 บัตรประชาชนปลอมก็ไม่มีจะทำยังไงดีเนี่ยะ.....
แต่แล้วฉันก็รู้สึกถึงมืออันแข็งแกร่งกับวงแขน ที่โอบอ้อมมายังเอวของฉัน และ..........
"เฮ้ย! คนนี้เด็กฉัน.."เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างๆตัวฉัน ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองทันที(ขอย้ำว่าเงยนะ ก็คนอะไร สูงเป็นบ้าเลย) และ ..และ ..
โอ้ววววว พระเจ้าขา..เขาเป็นใครกัน ทำไมถึงได้หล่อไม่อายฟ้าอายดินอย่างนี้ >>...<<
"ข..ขอโทษครับลูกพี่ -*- ผ..ผมไม่ทราบจริงๆครับ" คนเฝ้าประตูพูดอย่างลนลานและนอบน้อมกับคนข้างๆฉัน ก๊าก..สมน้ำหน้าไอ้พี่หน้าโหด แต่ว่าผู้ชายคนที่แอบแต๊ะอั๋งฉันเนี่ย จะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลแน่ๆเลย นี่ถือว่าเป็นโชคดีสุดๆของฉันเลยนะเนี่ย
"เออๆ แต่ถ้าคราวหน้าน้องเขามา ก็ให้เขาเข้าไปได้เลยนะ"ตาหน้าหล่อพูด
"เอ่อ... - -^"นี่คือสีหน้าของฉัน
"อ่อ ส่วนเธอ...."
"ลีค่ะ ^ ^ แหมๆ แค่นี้ก็จำชื่อไม่ได้หรอพี่? หนูงอนนะเนี่ย -^-"ฉันตอบในแนวส่งซิกให้เขารู้จักชื่อฉัน
"จำได้สิครับ โอ๊ะๆ ไม่เอาๆ อย่าทำหน้ามู่ทู่อย่างนั้นสิครับ เดี๋ยววันนี้เฟียสจะพาไปเที่ยวต่อด้วย ดีมั้ย ^Q^"ฮั่นแน่! ในที่สุด เขาก็บอกชื่อกับฉัน นายรูปหล่อคนนี้ชื่อเฟียสนี่เอง
"ก็ได้ค่ะ ^-^" ฉันรีบตอบอย่างรวดเร็วพลางซบหัวลงบนไหล่ของเขาอย่างสนิทชิดเชื้อ แม้ว่าฉันกับเขาจะไม่รู้จักกันก็ตามทีเถอะ
"ง..งั้นเชิญครับ"พี่ยามพูดพร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อย
เมื่อฉันเดินเข้ามาถึงในตัวผับ แสงสีที่ล่อตาล่อใจส่องแสงอย่างไม่อายใครในบริเวณที่กว้างขวาง เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มเข้ามากระทบโสตประสาทของฉัน วัยรุ่นหลายคนต่างเต้นกันอย่างสนุกสนานในความมืด ผู้คนที่หลบหนีความน่าเบื่อและยุ่งเหยิงจากโลกภายนอก ต่างเข้ามาเสพความสนุกกันที่นี่
"ว้าวว!"ฉันอุทานเล็กน้อย
"ชอบเหรอจ๊ะที่รัก"แล้วฉันก็ต้องผงะออก เมื่อนายหล่อนั่นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆกับใบหน้าฉัน /// เออ ลืมไปเลยว่าเขายังไม่ปล่อยมือออกจากเอวฉัน!
"อ..เอ่อ ขอบคุณที่พาฉันเข้ามานะคะ แต่...ช่วยกรุณาปล่อยมือจากสะโพกฉันได้แล้วค่ะ"ใช่แล้ว...ตอนนี้ไอ้บ้านี่กำลังเลื่อนมือมาลูบไล้ที่บั้นท้ายฉันแล้ว อี๋ย์..หื่นจริงตานี่ถึงแม้ว่าจะมีประกายความหล่ออยู่หน่อยก็เถอะ มาทำอย่างนี้เดี๋ยวแม่ไม่ยั้งมือนะ * \__/ *
"แล้ว...ไม่ชอบเหรอครับ ^-^" นายนั่นบอกพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม - - ^
"ไม่ค่ะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะ" ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ทำให้ตาหล่อหื่นนั่น ใช้สองแขนเกี่ยวกระหวัดเอวฉัน ทำให้ใบหน้าของฉันหันมาประจันกับเขา โดยระยะห่างใบหน้าของเรา ละกันไม่ถึง
"แล้วถ้าผมบอกว่า ไม่ปล่อยล่ะครับ..คุณจะทำอะไรผม ? ^ x ^" เขาพูดพลางใช้มือข้างหนึ่งมาลูบไรผมฉันเล่น
"......."ฉันครุ่นคิดอยู่สักพัก กะจะหาคำพูดมาตอกให้หน้าหงายซะหน่อย แต่สงสัยฉันจะคิดนานไป นายนั่นเลยค่อยๆก้มหน้ามาประสานสายตากับฉัน
"เธอ..."เขาพูดพร้อมกับจ้องตาฉัน ราวกับจะต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง
"นาย...."ฉันหลุดออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะพยายามตั้งตัวให้ติดกับสายตามีอำนาจคู่นั้น
"หืม?"เขายักคิ้วข้างซ้ายที่ดกดำเล็กน้อย
"อยากจูบ ฉันหรอ?"
ฉันถามพลางแสยะยิ้มโชว์เขี้ยวด้านข้างอย่างน่ารัก แหม! ใช่ว่าคนอย่างฉันจะไม่เคยล่อลวงหนุ่มๆ เสียเมื่อไหร่(แต่ฉันยังจิ้นนะ >-<) และอีกอย่าง มันก็น่าสนุกไม่ใช่เหรอกับการที่ได้ยั่วคนหล่อขนาดนี้
"อืม ผมอยากจูบคุณ"เขาตอบเรียบๆเฉยๆ กรี๊ด! ผู้ชายอะไรหล๊อหล่อ หม๊อหม้อ...นี่แหล่ะค่า เสป็คหนูลีเลย
พอพูดจบ เขาก็ค่อยๆโน้มตัวลงมาพร้อมกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อปานกลีบกุหลาบลงมา สายตาคู่นั้นหลับลงดูพริ้มเพราคล้ายดังเส้นขอบฟ้าที่มีน้ำหนัก ผมสีดำนิลราวกับนกกาลู่ลงระติ่งหูและพริ้วไหวตามลมรับกับใบหน้า อ๊ายย!...ดูเขาเซ็กซี่จังเลย แต่ก่อนที่ฉันจะให้เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ ฉันก็เลื่อนมือข้างหนึ่งของฉันไปกั้นระหว่างปากเขากับปากฉันได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่มันจะประกบกัน (อ้าวเฮ้ย!?)
ตอนนี้สีหน้าของเขาดูจะงงงวยมากเป็นพิเศษ ฉันจึงค่อยๆ ปล่อยมือจากริมฝีปากของเขา พลันใช้มือที่อิสระ 2 ข้างของฉันคล้องคอเขาก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจ้องดวงตาเรียวสีนิลคู่นั้นบ้าง ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง...ฉันก็กระตุกคอเสื้อเขาเบาๆ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าและ...
ประกบริมฝีปาก!! ของเขาอย่างแผ่วเบา แต่ทว่ารุนแรง...นานพอสมควรที่ฉันจูบเขา หลังจากที่ริมฝีปากของเราละจากกัน ฉันก็ถอยตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขาทันที เขามองฉันอย่างทึ่งๆ (คงจะไม่เคยโดนผู้หญิงเป็นฝ่ายจู่โจมล่ะสิ ~ ^O^)
“พอใจกับรสจูบอันหอมหวานนี้ไหมคะ”
"เยี่ยม"เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น พลางเลียปากนิดหนึ่ง
"แน่นอน"ฉันยักคิ้วให้เขา เดาว่าเขาคงไม่เคยโดนผู้หญิงจูบแหงๆ
"เธอเป็นผู้หญิงในเสป็คฉันเลย!"เขาโพล่งออกมา หา..??นี่เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย?? ไม่ได้ตกใจหรอกเหรอ??
"เสป็คนายเหรอ?"ฉันถามอย่างสงสัย
"ใช่! ^*^"เขาตอบพลางยิ้มร่า
"ตรงไหนล่ะที่นายว่าใช่?..."ฉันย้อนกลับ ทำเอานายนั่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบในคำตอบที่ทำให้ฉัน แอบพอใจเล็กน้อย..
"ก็เธอน่ะ ทั้งสวย เริด เชิด กล้า...นี่ล่ะเสป็คฉันเลย"เขาบอก พร้อมกับจับมือทั้ง 2 ข้างของฉันขึ้นไปกุม และจุมพิตเบาๆ
---------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขครั้งแรก - 12/10/49
แก้ไขครั้งที่สอง - 22/10/49
แก้ไขครั้งที่สาม - 20/02/50
ความคิดเห็น