ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคบารามอสbaramos] A Midsummer Night's Dream

    ลำดับตอนที่ #4 : ภาคต้น Night-03

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.41K
      2
      1 พ.ย. 49

    “ไม่มีใครรู้จักเธอเลยว่ะ หรือจะเป็นลูกอาจารย์ป้อมอื่น”



    เจ้าชายหนุ่มแห่งบารามอสบ่นให้เพื่อนซี้ฟังอย่างเหนื่อยๆ แต่ดวงตายังเป็นประกายระริก



    เมื่อมีคนถามว่าเขากำลังตามหาใคร ตอนแรกเขาก็ตอบว่าสาวสวย แต่ไปๆมาๆก็บอกไปทั่วว่าเนื้อคู่



    สวยขนาดนั้น ต้องจองไว้ก่อน



    การตามหาเจ้าหล่อนทำให้เขาลืมเรื่องที่ทะเลาะกับคาโลไปเสียสนิท เขาเดินไปนั่งข้างๆร่างสูงที่กินข้าวอยู่คนเดียวแล้วเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา



    “นายมีญาติมาเรียนที่นี่หรือเปล่า”



    ดวงตาสีฟ้าเรียบนิ่งเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงจัดการอาหารในถาดต่อ



    “เรนอน ธีน็อท ถ้าเผื่อนายไม่เคยรู้”



    คำตอบทำให้เฟรินต้องนิ่งคิด เมื่อพิจารณาลักษณะของหล่อนอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ต้องเปลี่ยนคำถามใหม่



    “ญาติที่มาจากสโนวแลนด์ ไม่มีหรือ”



    “ไม่มี”



    “งั้นไม่ต้องญาตินายก็ได้ แค่ผู้หญิงที่มาจากสโนวแลนด์ นอกจากเจ้าหญิงวีชา โนเอล ของปราการปราชญ์แล้วนายรู้จักบ้างไหม”



    “นายตามหาใครอยู่ เฟริน”



    คราวนี้เจ้าชายหนุ่มจากคาโนวาลหันมามองคนถามเต็มๆตา ดวงตาคู่สีน้ำตาลเป็นประกายระริก แล้วยักไหล่อย่างยียวน



    “เนื้อคู่สิวะ เผื่อนายไม่เคยรู้”



    คาโลถอนหายใจเบาๆแล้วหันหน้าไปทางอื่น



    “เท่าที่ฉันรู้ ไม่มีนักเรียนคนอื่นมาจากสโนวแลนด์มาหลายปีแล้ว”



    “นายสืบประวัตินักเรียนคนอื่นด้วยงั้นเหรอ”



    เขาไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นเอาถาดอาหารไปเก็บ แล้วพูดโดยไม่มองหน้า



    “นายกลับมานอนที่ห้องได้แล้ว มีคนมาบ่นกับฉันว่านายไปนอนเบียดเขา”



    ดวงตาสีน้ำตาลเบิกขึ้นอย่างแปลกใจ แล้วฉีกยิ้มกว้างรีบลุกตาม



    “อ้างนู่นอ้างนี่ ที่แท้คิดถึงฉันล่ะสิ” พูดพลางมือก็ตบไหล่เพื่อนผู้บัดนี้มีศักดิ์เสมอกันดังป๊าบๆ แต่เมื่อเจอสายตาที่แช่แข็งลงไปถึงปลายเท้าก็ต้องรีบเอามือออก



    “นายก็เลิกโกรธฉันซะทีสิ ความจริงเรื่องตอนนั้นฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายโกรธ ลูกผู้ชายเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยกันหรอกนะ”



    “เรื่องนั้นคงไม่ต้องให้นายมาสอน” ดวงตาสีฟ้าพิจารณาคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วรอยยิ้มบางก็ผุดมุมปาก “นายเองก็ระวังตัวไว้ ไม่รู้เมื่อไหร่อาคมเสื่อม นายจะไม่ได้เป็นผู้ชาย”



    “หา” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างงุนงง



    “เป็นได้แค่ตัวผู้” คาโลต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ



    “แก!” เฟรินกระชากเสียง มือก็คว้าคอเสื้อของคนตรงหน้าเข้ามาใกล้ แต่เมื่อสบกับดวงตาคู่สีฟ้า เขาก็ยอมปล่อยมือ



    “ก็ได้ๆ นายมันเจ้าชาย ฉันมันขโมย ฉันยอมให้นายโขกสับก็ได้ เห็นแก่ที่นายมาง้อให้ฉันกลับไปนอนด้วย”



    รอยระเรื่อปรากฏขึ้นบนโหนกแก้มขาว แต่ไม่ทันที่อดีตหัวขโมยจะเห็นชัดๆ คนเป็นฝ่ายง้อก็หันหน้าหนีไปซะก่อน



    “ท่ามาก ขี้เก๊ก...” เสียงบ่นลอยตามลมไปรบกวนประสาทคนฟังอีกระลอก



    “...แต่ก็น่ารักดี”



    คำสุดท้ายของมันยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาด ทั้งกระอักกระอ่วน ทั้งหวาน ทั้งขมอยู่ในลำคอ



    เสียงหัวเราะปนเสียงโห่ฮาดังไล่หลังเขา ทำให้อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเย็นยะเยือกให้ผู้ที่อยู่รายรอบ แล้วเดินจากไปแบบไม่เหลียวหลัง



    “นายนี่มันแน่ว่ะ เฟริน พอเป็นเจ้าชายแล้วกร่างใหญ่นะ ระวังคาโนวาลจะท้ารบเอา ฐานหมิ่นศักดิ์ศรีเจ้าชายคนสำคัญ”



    คำเย้าจากชายตาเดียวนั้นถูกเจ้าชายเฟริน ฟาโรเวลตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะลั่น และคำตอบยียวนตามนิสัย



    “มันจะไปยากอะไรวะ ก็เถียงกลับสิว่าคาโลมันชอบทำเหมือนคนอื่นเค้าเป็นหมาอยู่เรื่อย ถ้าฉันหมิ่นศักดิ์ศรี ทางโน้นก็เข้าขั้นกดขี่ข่มเหงน้ำใจ”



    “ทั้งกด ทั้งขี่ ทั่งข่มเหงสินะ”



    “แก ไอ้โร มากไปแล้วโว้ย เดี๋ยวเนื้อคู่ฉันได้ยินก็เข้าใจผิดกันพอดี”



    เขายังยืนฟังต่ออยู่ข้างนอก แม้จะมีความโกรธเจือปนอยู่บ้าง แต่ก็อดยิ้มน้อยๆไม่ได้ ก่อนจะระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน



    แล้วคืนนี้จะทำอย่างไร



    เขากินยานั่นไปครึ่งขวด ต้องรอให้ทางคาโนวาลส่งยามาเพิ่ม ถึงจะใช้กับเฟรินได้



    คืนนี้ ควรจะไปไหม หรือจะปล่อยให้หมอนั่นตามหาไปเรื่อยๆ



    “ขอบใจนะ ที่ยอมพูดกับมัน”



    เขาหันไปมองตามเสียงทัก ก็เห็นเพื่อนนักฆ่ายืนยิ้มอยู่



    “ไม่จำเป็น” เขาตอบพลางส่ายหน้า



    “นายนี่ใจดีกับเฟรินจริงๆนะ ถามจริงๆเถอะ นายเคยยอมให้ใครล้อนายเล่นได้แบบนี้ไหม”
    ไม่



    เขาตอบในใจได้ทันที แล้วก็ต้องกังวลใจอีก



    คำถามของคิลทำให้ต้องฉุกคิด จะมีใครสังเกตไหม ความรู้สึกที่เขาซุกซ่อนไว้



    ความรู้สึกที่แทบจะทำให้ทั้งร่างร้อนเป็นไฟ




    เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า เฟรินก็รีบอาบน้ำแล้ววิ่งหายออกไปจากห้อง



    เขารู้ทันทีว่าหมอนั่นจะรีบไปที่สวน รีบไปรอผู้หญิงที่เที่ยวบอกใครๆว่าเป็นเนื้อคู่



    เขาจำเป็นต้องไปเจอมันหรือ



    ไม่ คำตอบก็คือไม่



    ยาที่เขากินเข้าไปจะได้ผลจนถึงคืนเดือนมืด คืออีกสิบเอ็ดคืน



    เขาเพิ่งส่งจดหมายไปเมื่อตอนเย็น กว่ายาจากคาโนวาลจะมาถึงก็คงอีกสิบวัน



    ฉิวเฉียดมาก แต่ก็คงพอดีที่เฟรินจะทุรนทุรายถึงขีดสุด หมอนั่นเป็นแบบนี้เสมอ เป็นพฤติกรรมซ้ำๆที่คาดเดาได้



    เหลียวมองร่างตัวเองในกระจก



    หญิงสาวผู้นี้เป็นใครกัน



    ผิวขาวดั่งตุ๊กตากระเบื้อง ริมฝีปากแดงราวกลีบกุหลาบ ดูเหมือนมีเงาของท่านแม่แฝงอยู่จางๆ



    หน้าแบบนี้คงจะให้ใครเห็นไม่ได้ คิลเองก็ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่



    คืนนี้ เขาเองก็อาจจะต้องไปนอนที่อื่น



    เจ้าชายแห่งคาโนวาลคิดแล้วก็ใจหาย กระสับกระส่ายด้วยความละอายอดสู



    การคิดไม่ซื่อกับใครสักคนนั้นมีผลร้ายถึงเพียงนี้ หัวใจของเขาคงวิปริตไปแล้ว ที่ไม่อาจควบคุมความกระหายในวิญญาณของหมอนั่นจนต้องมามีสภาพแบบนี้ ต่อให้มันกลับไปเป็นผู้หญิงได้จริง แน่หรือว่ามันจะเป็นของเขา คุ้มแล้วหรือที่เขาจะทำแบบนี้



    เอวเจ็บแปลบ ชายหนุ่มเลิกเสื้อขึ้นมองบาดแผลยาว ผิวของเขาขาวใสจนเห็นเลือดที่คั่งค้างอยู่ภายในได้ชัดเจน



    สังเวยไปทีละอย่าง ทำร้ายตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อเป้าหมายอันไร้ค่า



    แต่เขาถอนตัวไม่ได้แล้ว เพราะหัวใจของเขานอนรออยู่ที่ก้นบึ้งของนรก มีแต่จะต้องเดินหน้าต่อไป รอให้เขาได้ครอบครองหัวใจของหมอนั่นแล้วให้มันช่วยฉุดเขาขึ้นไปจากนรกแห่งนี้




    เขานอนพลิกตัวไปมา อากาศยังคงไม่เย็นไปกว่าคืนวาน
    หยาดเหงื่อผุดชื้นอยู่ในเรือนผม ผ่านไปค่อนคืน เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงไขประตูเข้ามาในห้อง



    เขารีบซ่อนร่างไว้ใต้ผ้าห่มแม้จะแสนอึดอัด ใจเต้นกระหน่ำราวรัวกลอง



    ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมีใครเลิกผ้าห่มเขาตอนหลับ ไม่ว่าคิลหรือเฟริน



    แต่คนมีชนักติดหลังนั้นมักหาความสงบสุขมิได้



    เฟรินจะเอะใจไหมว่าทั้งๆที่ร้อนขนาดนี้ เขาถึงนอนคลุมโปงมิดชิด



    “คาโล”



    เสียงเรียกทำให้เขาเกือบสะดุ้ง มือของเขากำแน่นจนชื้นเหงื่อ ทั้งๆที่เย็นจนรู้สึกได้



    “นายหลับแล้วหรือ”



    เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ แต่เขาก็ยังฝืนไม่ขยับกาย การบังคับลมหายใจให้เป็นปกติในตอนนี้นั้นมันยากแสนยาก แต่ละวินาทีที่ผ่านไปนั้นเชื่องช้าราวกับชั่วนิรันดร์



    “ร้อนแบบนี้ยังหลับลงอีก นายเรียกฉันกลับมาไม่ใช่เหรอ แทนที่จะคุยกันหน่อย”



    หางเสียงเจือรอยเศร้า ตอนนี้มันจะทำสีหน้าอย่างไรเขาอยากหันกลับไปดูนัก แต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าเขาขยับ มันจะต้องมองเห็นเส้นผมที่ยาวเกินปกติแบบนี้แน่



    เสียงผ้าดังสวบสาบ ตามด้วยเสียงฟูกยุบ เฟรินทิ้งกายลงบนเตียงแล้ว เขาจึงแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก



    “คาโล”



    นอนๆไปซะทีสิ



    “เธอไม่มา”



    ชายหนุ่มในร่างจำแลงตัวแข็งทื่อ กัดฟันนอนนิ่งต่อไป



    “ฉันรอจนยุงกัดเต็มตัว แต่เธอก็ไม่มา”



    พอซะที



    “หลับจริงๆเหรอนี่ นึกว่าแกล้งซะอีก”



    เสียงคนเตียงข้างๆผุดลุกขึ้นนั่งทำให้คาโลเข้าขั้นหายใจไม่ออก รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องจนเขารู้สึกไปเองว่าแผ่นหลังลุกเป็นไฟ ร่างนั้นขยับตัวยุกยิกแล้วล้มลงนอนอีกครั้ง แล้วไม่ลุกขึ้นมาอีกเลยจนรุ่งเช้า


    *****************************************************************
    ชอบฟิก อ่านฟิก ไม่กิ๊กพวกชอบลอก

    แวะไปอ่านเต็มๆตาได้ที่

    http://immortaleden.proboards92.com
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×