ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : จันทราเจ้าเอย... (OC) [END]

    ลำดับตอนที่ #10 : Moon Number.8 < Meet you again >

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.2K
      706
      17 ก.พ. 63

    Moon Number.8

    < Meet you again >

     

    จันทราเจ้าเอย..

    พบกันอีกครั้ง

     

     

     

     

    “ล... หลุดออกมาแล้ว...”

     

    เสียงใสกล่าวด้วยความโล่งใจ มือเรียวยันกำแพงข้างตัวขณะหันรีหันขวางสำรวจบริเวณรอบๆ ที่ซึ่งเธอยืนอยู่ตรงนี้... ที่ไหน?

     

    เป็นดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง

     

    มารีต้องใช้พลังงานอย่างมากในการดีดตัวเองออกมาจากมิติห้วงเวลาของเมอริเอตต้า ดังนั้นเธอไม่สามารถที่จะกำหนดจุดหมายปลายทางได้ ทีนี้ก็เเล้วแต่ดวงว่าเธอจะไปโผล่ที่ใด เด็กสาวในชุดเครื่องแบบนักเรียนโกคุโย(ตามที่อาจารย์บอก) เดินไปเกาะรั้วเหล็กที่กั้นกันอุบัติเหตุไว้ พอมองดูดีๆ ก็พบว่าที่เธอวาร์ปมาไม่น่าจะใช่อิตาลี รู้แบบนั้นก็ยิ่งกระวนกระวาย 

     

    มารีจะไปหาปะป๊า! ปะป๊าอยู่ไหน! 

     

    งอแงในใจได้นิดหน่อย ริมฝีปากสีเรื่อเบะออก นิ้วกำรั้วเสียจนขึ้นข้อขาว 

     

     

    ปะป๊า...” ถึงตัวจะโตแค่ไหน แต่ภายในคือวิญญาณที่ทำตัวเป็นเด็กมาเกือบสิบปี จิตใจของเธอยังคงอ่อนไหวในเรื่องคนสำคัญ แต่ไม่ทันได้ปล่อยโฮออกมา อะไรบางอย่างก็เรียกความสนใจจากเธอซะก่อน

     

    โรงเรียนนามิโมริของเราน่าอยู่~

    ไม่ใหญ่ไม่เล็ก  กลางๆแหละดี…

     

    เสียงเล็กๆ ที่เธอเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง.. เจ้านกน้อย! ใบหน้ามีความหวังมองหาที่มาของเสียงจนเส้นผมสะบัดยุ่งฟูตามแรง สุดท้ายก็เห็นเจ้าก้อนกลมสีเหลืองที่บินร่อนอยู่เหนือหัวเธอ ฮิเบิร์ดตัวน้อยกระพือปีกพับๆ เอียงคอมองตอบอย่างน่ารักจากนั้นจึงบินสูงขึ้นไปทางจุดที่เหนือกว่าบนดาดฟ้า มารีร้องฮึบ เม้มปากเป็นเส้นตรงพร้อมเคลื่อนตัวปีนราวบันได ภาวนาให้ความคิดของเธอไม่ผิดพลาด และ.. ใครบางคนก็นอนอยู่ตรงนั้น

     

    “พี่เคียว.. พี่เคียวใช่ไหมคะ?”น้ำเสียงไม่แน่ใจนัก แต่ผู้ชายชุดดำที่นอนอยู่ก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้ว

     

    “ใคร” แผ่นหลังกว้างนั้นดูสูงใหญ่กว่าตอนเจอกันครั้งนั้น น้ำเสียงก็ดูเคร่งขรึมกว่า แต่ไม่ผิดแน่ “ที่มารบกวนการนอนของ--”

     

    “พี่เคียว!!” มารีกระโจนใส่ฝ่ายตรงข้าม อ้าแขนแล้วกอดหมับเข้าที่เอวสอบเสียเต็มรัก ไม่ทันให้อีกฝ่ายยกอาวุธขึ้นมาฟาดเธอด้วยซ้ำ พอเจอหนทางที่มีแสงสว่างแล้วมารีก็อยากจะร้องไห้อีกรอบ แต่มันคงดูน่ารำคาญเกินไป

     

    “คุณเป็นใครเด็กโกคุโย?”

     

     

    มารีดูอ่อนแอและไร้พิษภัยเกินกว่าสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขาจะทำงาน ฮิเบิร์ดเอาแต่เรียกชื่อเจ้านายและบินไปเกาะบนหัวของสาวน้อยที่เพิ่งมาใหม่ ฮิบาริมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ก็รู้สึกคุ้นอยู่เหมือนกัน จะมีสักกี่คนบนโลกที่เขาเห็นเป็นฮิเบิร์ดเวอร์ชั่นมนุษย์..

     

    "ผีเด็กคนนั้น?"

     

    "หนูไม่ใช่ผีเด็กแล้วนะคะ!" ถึงจะตะคอกใส่ แต่เสียงเธอกลับแผ่วเหลือเกิน เกรงว่าคุณพี่ชายผมดำจะเอาท่อนเหล็กในมือนั่นฟาดหัวเธอแบะเสียก่อน..

     

    ไม่สิ เหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าได้ร่างกายทองคำมาน่ะ

     

    "โห... กล้าขึ้นเสียงกับผมเหรอ?"ไม่พูดเปล่า มีการส่งสายตาข่มขู่ มารีอ้าปากพะงาบรีบกล่าวขอโทษ ไม่ต้องการให้พี่เคียวคนนี้ทิ้งเธอไปก่อนที่จะได้เจอปะป๊า 

     

    ในความเป็นจริง ฮิบาริรู้สึกจั๊กจี้ในอกเล็กน้อยกับการที่เด็กวัยมัธยมแทนตัวว่า'หนู'ต่อคนอย่างเขา

     

    เอาเป็นว่าจำได้แล้วว่าเด็กนี่เป็นใคร ทางมารีก็ประมวลผลเรียบร้อยว่าโลกนี้คืออนาคตในอีกสิบปีข้างหน้าจากที่เธอมาแน่นอน เพราะคงไม่มีใครโตเร็วขนาดนี้ภายในไม่กี่เดือนหรอก..

     

    "จริงสิ พี่เคียว วาเรียเป็นยังไงบ้างคะ" ฮิบาริส่งสายตาบ่งบอกอารมณ์ไม่ถูกให้ 

     

    ความเป็นห่วงคนสำคัญของเธอมีมากกว่ามารยาทที่ควรกระทำ

     

    "..." เห็นท่าทางลุ้นจนคล้ายจะร้องไห้นั่นแล้ว.. 

     

    คนโตกว่าลุกขึ้นยืน ก้าวเท้ากระโดดลงไปชั้นล่าง แล้วเดินลงจากดาดฟ้าทันที

     

    ไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้นน่ารังแกหรอกนะ แต่หงุดหงิดชุดที่เด็กนั่นใส่อยู่ต่างหาก... แค่นั้นแหละ

     

    มารีมองตามชายหนุ่มตาละห้อยด้วยอากัปไม่เข้าใจใบหน้าเด๋อด๋าอธิบายไม่ถูก สุดท้ายก็ไร้ทางออกวิ่งตามหลังฮิบาริต้อยๆ

     

    พอลองวิเคราะห์ดู ปะป๊าของเธอไม่ใช้พวกจะล้มง่ายๆ ผู้พิทักษ์ของว่าที่รุ่นสิบก็ยังมาไม่ครบ เป็นไปได้ว่าทุกคนยังจะปลอดภัย เธอแค่สติแตกเพราะอยู่ห่างพวกพี่ชายนานไปเท่านั้นเอง

     

    อ่า พอเริ่มโล่งอก มารีก็เริ่มเครียดเรื่องใหม่ นั่นคือ'ตัวตน'ของเธอ เมอริเอตต้าพาเด็กสาวมาด้วยวิธีเสี่ยงต่อการพังทลายของเวลา ดังนั้นจึงกลายเป็นว่ามารีถูกดึงมาจากอดีต ไม่ใช่การสลับตัวกับอดีตแบบที่บาซูก้าทศวรรษทำ

     

    เธอที่หายตัวไปสิบปี วาเรียจะจำได้ไหมนะ?

     

    ปึก

     

    "โอ๊ะ..." เพราะเดินเหม่อ ก็เลยชนคนด้านหน้าที่หยุดฝีเท้าโดยไม่บอกกล่าว แน่สิ ใครมันจะคอยบอกเวลาเดินหรือหยุดเดินกันล่ะ

     

    "คุณน่ะ ทำไมถึงใส่ชุดแบบนั้น"

     

    ไม่เข้าใจหรอกว่าถามทำไม "อาจารย์ให้มาน่ะค่ะ"

     

    "อาจารย์?"

     

    "ค่ะ โรคุโด มุคุ-- !!?"

     

    เสียงทอนฟาแหวกอากาศดังฟึบทำเธอแทบใจหาย เส้นผมบางส่วนที่ขาดเพราะตอนก้มหลบเกือบไม่ทันค่อยๆ ร่วงหล่นให้เห็นชวนหวาดเสียวเล่น ถึงตอนนี้จะมีร่างกายถึกทน แต่เวลาแบบนี้มารีไม่อยากใช้กำลัง! ว่าแต่นกน้อยบนหัวหายไปไหน!คงไม่ใช่ว่าโดนสอยไปเมื่อกี้นะ!

     

    "โห.. ลูกศิษย์เหรอ.."

     

    บรรยากาศสัตว์อ่อนแอที่ผ่านมา ...โดนหลอกเข้าแล้ว ต้มซะเปื่อยเลยด้วย

     

    มารีผวามองรอยยิ้มเหี้ยมที่คลับคล้ายคลับคลาตอนปะป๊ากระหายการต่อสู้บนใบหน้าชายหนุ่ม จากนั้น มหกรรมวิ่งหนีคนบ้าความแข็งแกร่งก็เริ่มขึ้น

     

    "ใจเย็นนะคะ-- ค่อยพูด--" เสียงหายใจติดขัดแต่กำลังไม่มีตกของเธอเรียกประกายสนใจในดวงตาของผู้พิทักษ์เมฆาวัยหนุ่ม มารีกระโดดสูงหลบทอนฟาที่กำลังปะทะตัว พาดมือกับบ่าคนสูงกว่าแล้วม้วนตัวไปด้านหลัง แต่ฮิบาริก็ไวไม่แพ้กัน แขนของเขาฟาดตามมาทางด้านข้างจนเธอต้องยกแขนกัน

     

    โครม!

     

    ตัวปลิวไปกระแทกผนังเต็มๆ ดีที่บริเวณนี้ไม่ค่อยมีคน ไม่เช่นนั้นคงสร้างความตื่นตระหนกน่าดู

     

    ท่ามกลางควันฝุ่นที่จางลง ร่างหนึ่งยืนนิ่งพิงกับกำแพงที่เป็นรอยร้าววงกว้าง

     

    “ว้าว... ยังยืนไว้ ไม่ได้อ่อนแอจริงๆ สินะ”

     

    "กะเอาตายเลยเหรอคะ?" มารีปัดเศษอิฐที่เปื้อนตามตัวเครื่องแบบมีรอยขาดเป็นบางจุด เนื้อตัวมอมแมม... แต่ไร้บาดแผล "ผู้ใหญ่ใจร้าย"

     

    คนโดนว่าใจร้ายพึงพอใจกับผลงาน

     

    "ไม่ได้อ่อนแอนี่"

     

    เด็กหญิงแสยะยิ้มบ้าง

     

    "เดี๋ยวจับตีก้นซะเลย"

     

    สิ้นประโยค ร่างเงาสองร่างก็พุ่งเข้าปะทะกัน

     

    .

    .

    .

     

    "แล้วทำไมถึงไปตีกันเองล่ะครับเนี่ย..."

     

    เสียงอ่อนแรงกึ่งโวยวายของซาวาดะ สึนะโยชิจากอดีตกลั้นไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นฮิบาริ เคียวยะแห่งอนาคตและเด็กสาวที่แนะนำตัวเองว่าตนคือวิญญาณที่เคยเจอกันสมัยโน้นเดินเข้าฐานทัพมาในสภาพยับเยิน

     

    แปลกใจที่ฝ่ายหญิงไม่มีบาดแผลแม้แต่นิด ฝ่ายชายก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไร แค่แยกย้ายไปทางใครทางมัน สึนะโยชิไม่เข้าใจสถานการณ์เลยจริงๆ

     

    "แค่เล่นกันนิดหน่อยค่ะ สานสัมพันธ์ไง!"มารียิ้มแฉ่งหลังเปลี่ยนไปใส่ชุดที่เคลื่อนไหวสะดวกกว่าเดิม เสื้อฮู้ดสีส้มและกางเกงยีนส์ขายาว

     

    คนเป็นว่าที่บอสรุ่นสิบแห่งวองโกเลือดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ ก็นั่นมันชุดของเขานี่นา ถึงอีกฝ่ายเมื่อเทียบกับซาซางาวะ เคียวโกะจะไม่เรียกว่าน่ารัก แต่นั่นก็ผู้หญิงเชียวนะ!

     

    ผลั่ก!

     

    “แอ่ฟ-- รีบอร์น!?” เสียงที่คนคุ้นเคยคงเดากันออก อัลโกบาเรโน่กระถีบหัวสึนะโยชินั่นเอง เจ้าของจุกนมอรุณกระตุกยิ้มเย้ยหยัน ละความสนใจจากเจ้าห่วยหันไปมองเด็กสาวที่ต่างไปจากความทรงจำ

     

    “เจ้ามุคุโร่ส่งข่าวมาบอกแล้วล่ะ เธอจะเอายังไงต่อ”

     

    “แน่นอนว่าต้องกลับไปหาปะป๊าให้เร็วที่สุดค่ะ” เป้าหมายชัดเจน ใครจะเป็นอะไรมารีไม่สน จะอยู่รึตาย นอกจากวาเรียเเล้วคนอื่นก็ไม่สำคัญสักหน่อย “บอกวิธีไปหาปะป๊าด้วยค่ะ”

     

    “อืม... เธอคงจะไปทันล่ะมั้ง”

     

    “...”

     

    “ศึกหลักที่อิตาลี”

     

     

    ☽☽☽

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×