ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : จันทราเจ้าเอย... (OC) [END]

    ลำดับตอนที่ #17 : Moon Number.15 < Weakness >

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.81K
      596
      18 ก.พ. 63

    Moon Number.15

    < Weakness >

     

    จันทราเจ้าเอย..

    จุดอ่อน

     

     

     

     

    เหมื่อย

     

    ไม่สบายตัวเลย

     

    แต่มุมนี้เห็นชัด

     

    “นี่ ไฟตรงอกนั่นมันอะไรเหรอคะ?” นิ้วซีดชี้ไปยังหน้าจอมอนิเตอร์เบื้องหน้า เอียงศีรษะน้อยๆ เพราะบ่าเล็กถูกจับจองที่ด้วยคางเรียวของเบียคุรัน 

     

    ู้ว่าทำอะไรไม่ได้ ทั้งน่าเบื่อและขี้เกียจ ตื่นมาก็นั่งน้ำลายยืดบนตักคนบ้าแล้ว เลยเอาคืนด้วยการเช็ดปากกับเสื้อนอกของเก้าอี้มนุษย์ซึ่งเต็มใจให้เธอนั่งทับโดยไม่บอกขอโทษด้วย ถึงเด็กหัวฟ้ากับผู้ชายหัวแดงนั่นจะบ่นใส่ก็เถอะ เธอมีภูมิต้านทานกับเสียงนกเสียงกานะ อย่าหาว่าโม้เลย สกิลนี้ขออวดว่าได้มาจากพี่ชายและลุสซูเรีย มารีภูมิใจมากๆ

     

    “นั่นเรียกว่าทาร์เก็ตล่ะ~" คนบ้าใจดีตอบกลับ ถึงแบบนั้นก็เริ่มคิ้วกระตุกเพราะรำคาญ 

     

    แน่นอน นี่เป็นคำถามที่ห้าในระยะเวลาสิบนาทีที่ผ่านมา ตอนแรกเด็กสาวไม่คิดจะพูดอะไรให้มากหรอก แต่เพราะเธอดูไม่รู้เรื่องก็เลยต้องถาม กลายเป็นว่า บลูเบลและซาคุโร่สลับกันด่าเธอ ส่วนเบียคุรันคอยห้ามศึก สรุปโดยภาพรวมแล้วคือดูการแข่งไม่ได้เพราะสมาธิแตกกระเจิง

     

    "ขอร้องนะมารีจัง ฉันจริงจังกับการแข่งนี้สุดๆ เลย"

     

    เพราะประโยคนั้นประโยคเดียว มือของเขาก็เลยกลายเป็นอาหารว่างทานเล่นของมารี

     

    ฟันขาวงับเบาๆ ตามข้อนิ้วจนมันขึ้นสีเลือดฝาด บ้างขบเล่น บ้างใส่ปากไว้เฉยๆ เธอพบอีกหนึ่งความประหลาดของร่างกาย.. มารีสามารถรับรู้รสชาติเลือดเนื้อของคนอื่นได้เหมือนกับอาหาร เพราะกับคนอื่นเธอเพียงแค่หอมหรือจุ๊บ ดังนั้นจึงไม่รู้ความจริงในข้อนี้ แต่เพราะเธอกินเขาไปแล้ว ถึงได้ทราบ ส่วนคนโดนกินเหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้ว เขาดูไม่ตกใจเท่าไร

     

    ขอเพียงแค่เข้าปาก..

     

    อยากจะกัดให้ขาดแบบตอนแรกอยู่หรอก แต่เดี๋ยวอาจจะโดนบ่นหูชา พออย่างนั้นเลยได้แต่นั่งแทะเป็นหมาเล่นกับกระดูกนี่ไง

     

    อ๊ะ เขี้ยวเผลอไปข่วน..

     

    จุ๊บ

     

    เลียแผลแถมจุ๊บปลอบใจแล้วนะ ถือเป็นการขอโทษที่ผิดสัญญาว่าจะไม่กินแบบเลือดตกยางออก

     

    "..."

     

    ในส่วนที่มารีไม่ได้มอง บลูเบลตาร้อนดั่งไฟจ้องเธอราวกับรอเวลากระโจนเข้าไปบีบคอเล็กๆ นั่นให้หัก ซาคุโร่ไม่รับรู้อะไรด้วยแล้ว ส่วนคนโดนจุ๊บปลอมใจก้มมองพื้น ยกมือปิดใบหน้าช่วงล่างทั้งยังตัวสั่นกึกๆ

     

    ยัยเด็กนี่มัน…

     

    "สตอเบอรี่ล่ะ"

     

    ยังจะมีหน้ามาวิจารณ์รสชาติเลือดเขาอีก!

     

    รอยยิ้มใต้ฝ่ามือบิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไง บุปผาอาลัยสาวน้อยแทบจะนั่งไม่ติดที่อยู่แล้ว

     

    การแข่งขันไปถึงไหนตัวของชายหนุ่มก็ได้แต่ทำเป็นเก๊กนิ่งดูต่อ แต่ระบบประมวลผลติดขัดเต็มที

     

    "ซาคุโร่ เล่นเป็นเพื่อนเด็กคนนี้หน่อยสิ"

     

    โยนภาระให้เลยแล้วกัน

     

    .

    .

    .

     

    กระทั่งการแข่งขันที่มีชื่อว่า 'ช้อยส์จบลง มารีอิ่มแปล้กับคนทางฝั่งมิลฟิโอเล่จนยอมเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน

     

    ให้เล่าย้อนไปก็สั้นๆ ง่ายๆ เธอเล่นตบแปะกับซาคุโร่จนพื้นที่แถวนั้นแหว่งไปนิดหนึ่ง จบลงที่โดนดุ แลกกับของในปากเป็นชิ้นเนื้อโอชะรสบาร์บีคิวพอกรุบกริบ ต่อมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยงับแก้มของบลูเบลเข้า พบว่าเป็นรสอาหารทะเลที่ไม่ค่อยจะได้กิน เลยกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนหมดเวลา

     

    ผลลัพธ์เด่นชัดคือรอยฟันของเธอบนตัวเหล่ามิลฟิโอเล่ผู้ไม่ได้เข้าร่วมการแข่ง

     

    ยับเหยิน

     

    “เอาล่ะ มารีจัง ช่วยรออยู่ที่นี่อย่าไปไหนนะ”เบียคุรันว่าแบบนั้นก็จะออกไปหาพวกวองโกเล่

     

    มารีอยากจะหนีอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าเธอพังกำแพงหรือประตูออกไปไม่ได้ จากที่ดู ไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านี้แข็งแรงทนทานต้านแรงเธอ แต่เป็นอะไรบางอย่างที่กดแรงเธอไว้ไม่ให้เกินจุดๆ หนึ่ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ…

     

    คิดถึงทุกคนใจจะขาดแล้ว อยากกลับไปหาปะป๊า.. 

     

    และในตอนนั้น

     

    เธอก็โผล่มา

     

    .

    .

    .

     

     

    “ขอบคุณที่ช่วยออกมาค่ะ”

     

    “ภาระจริง”

     

    คำเดียวแทงถึงใจ

     

    ทั้งที่เตรียมตัวไว้แล้วว่าต้องมีคนดุแน่ๆ แต่ทำไมเมอริเอตต้าพูดออกมาแค่คำเดียว พลังทำลายล้างมันถึงได้รุนแรงปานนี้กันนะเราเป็นคนๆ เดียวกันไม่ใช่รึไง.. ทำไมถึงโหดร้ายนักเล่า

     

    “...”

     

    มารียืนเงียบ เหลือบมองเมอริเอตต้าที่สูบไปป์เงียบๆ

     

    “เธอต้องเรียนเพิ่ม”

     

    “คะ?”

     

    “หูหนวกรึไง”

     

    “...”

     

    ทำไมตัวเธออีกพาลาเรลไม่อ่อนโยน

     

     

     

    ยังดีกว่าตอนเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มุคุโร่ ไม่แย่เท่าตอนถูกคนบ้าสีขาวจับขัง เมอริเอตต้าคอยอัพเดตข่าวสารตลอดว่าโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้น เด็กสาวถูกจับฝึกการใช้ไฟธาตุ การต่อสู้ นอกจากนั้นยังเพิ่มเรื่องพลังจิตเข้าไปอีก คนอายุมากกว่าบอกว่าร่างกายเธอแพ้ฟีโรโมนของเบียคุรัน.. เพราะแบบนั้นถึงสู้ไม่ได้ เป็นจุดบอดใหญ่ของเธอจริงๆ

     

    ใครจะบ้าเอาฟีโรโมนตนเองมาทำเป็นข้อบกพร่องให้ตัวทดลองล่ะ?

     

    ลืมไปว่าเจ้าเบียคุรันนั่นมันบ้า

     

    บทสรุปออกมาแสนเรียบง่าย เธอปะทะกับเบียคุรันตัวต่อตัวไม่ได้ และอาจจะกลายเป็นตัวประกอบพร้อมตายในศึกใหญ่ของอีกฝ่าย ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำคือก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

     

    นรกชัดๆ

     

    มิติที่เต็มไปด้วยฟีโรโมนของเบียคุรัน.. นี่จะมอมเธอรึไง?

     

    "พิษแก้พิษ" คำอธิบายสั้นๆง่ายๆ

     

    เธอเพียงแค่ต้องฝึกทุกอย่างตามปกติโดยมีอุปสรรคที่เธอต้องก้าวผ่านให้ได้ 

     

    ก่อนอื่นต้องทำตัวให้ชินกับกลิ่นเหมือนขนมที่หอมฟุ้งจนน่าเวียนหัวนี่...

     

     

    แค่คิดก็เอียนแล้ว

     

    ☽☽☽

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×