คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : -After Sunset Before Moon rise-
Feat. Fic Reborn ยามตะวันตกดิน
After Sunset Before Moon rise
<Mission>
เมอริเอตต้าทั้งสองได้รับภารกิจจากผู้กำกับ
เมอริเอตต้า มารี = มารี
เมอริเอตต้า มารี ฟรอนว์ = ฟุรุยะ อาซามิ
"1 2.. ได้ยินเสียงฉันไหมทั้งสองคน" เสียงโมโนโทนเอ่ยผ่านลำโพงด้วยไมค์จิ๋ว การถ่ายทำครั้งนี้ ผู้กำกับจะอยู่หลังจอซึ่งถ่ายทอดด้วยกล้องวงจรปิดหรือการซ่อนกล้องอีกที
"ได้ยินค่ะ"
"ชัดแจ๋วเลยค่ะ!"
สองร่างนั่งหันหน้าเข้าหากัน ในตอนนี้อาซามิไม่ได้ปลอมตัว เธออยู่ในสภาพตัวจริง หน้าไม่เเต่ง วิกไม่ใส่ เรียกว่ากลายเป็นแฝดกับมารีไปเสียเเล้ว ทั้งคู่เหลือบตามองสบกัน หนึ่งยิ้มสนุกสนาน หนึ่งแสยะยิ้มเกรียน
"หวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่น่าสนุกนะ"
"เช่นกันค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ คุณอาซามิ"
"พูดคุยกันเสร็จแล้ว ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยนะ"
เมอริเอตต้าสองคนขานรับ เช็คชุดที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ทว่าในขณะที่อาซามิมองหาที่เปลี่ยนชุดคนข้างตัวกลับแก้ผ้าเรียบร้อยเเล้ว
"มารี!"เด็กสาวแหวใส่ ถึงแบบนั้นก็สำรวจร่างกายอีกฝ่ายเสร็จสรรพ ไอ้รอยคิสมาร์กที่เต็มไปหมดทั้งตัวนั่นมันอะไรกัน! เฮ้ ในใบประวัติที่ให้อ่านคร่าวๆ มารีไม่มีคนรักนี่นา!?
"คะ?"อาซามิมองใบหน้าฉบับเดียวกันเป๊ะ เทียบแล้วมารีอายุมากกว่าเธอปีหนึ่ง ระยะห่างระหว่างวัยเพียงแค่นั้นไม่ได้สร้างความแตกต่าง แต่ที่ทำให้สามารถแยกแยะพวกเธอชัดเจนคงเป็นสีหน้านี่แหละ
มารีเป็นคนร่าเริง แต่เธอเหมือนเด็กเล็กๆ สีหน้าซื่อบื้อชวนให้ด่าว่าเอ๋อนั่นเจือด้วยอากัปน่าเอ็นดู เป็นเหตุให้อาซามิตะหงิดใจที่จะสุภาพกับเธอทั้งที่มองมารีเป็นเหมือนน้องสาวมากกว่า
ส่วนอาซามินั่นมีนิสัยเกรียนเข้าขั้นบ้า จะมองมุมไหนก็คล้ายจะส่อแววกวนประสาทชวนตี
แล้วตอนนี้ผู้กำกับที่กำลังมองอยู่เบื้องหลังในห้องอัดก็ราวจะเห็นอันธพาลสาวเขย่าตัวเด็กเอ๋ออย่างหาเรื่อง
"ใครทำ!?"
"อ้อ ปะป๊าน่ะค่ะ"ยังมีหน้ายิ้มซื่อ อาซามิอ้าปากเหวอจนมารีหัวเราะขบขัน ก่อนจะร้องอุทานเบาๆ เมื่อมือจับอะไรบางอย่างได้ในกองผ้าตนเอง
"มีอะไรเหรอ?"
"วันนี้ลืมใส่กางเกงในมาพอดี ขอบคุณผู้กำกับนะคะที่เตรียมมาให้"
อาซามิตาเหลือก ก้มมองต่ำแล้วเห็นว่าทั้งตัวอีกฝ่ายไม่มีอะไรเลย.. ไม่มี.. เสื้อในไม่ใส่ยังไม่หนักเท่าลืมกางเกงใน! นี่หล่อนโตมายังไงกันยะ!
การแต่งตัวอันแสนยาวนานและวุ่นวายเกิดขึ้นเพียงเพราะอาซามิต้องการซักถามที่มาของร่องรอยบนตัวและทอดยาวไปยันความสัมพันธ์อันน่าสับสน
"...เธอนี่มัน.. อยู่ท่ามกลางสัตว์ป่าไม่ใช่รึไง"
"จะว่าแบบนั้นก็ได้นะคะ โดนกินบ่อยเลย"
เธออยากจะถามเหลือเกิน ว่าที่โดนกินน่ะ กินไปถึงขั้นไหน แต่นั่นคงเป็นอะไรที่ควรปล่อยให้ชาวบ้านสงสัยต่อไป
ในที่สุดก็เปลี่ยนชุดเสร็จ
อาซามิอยู่ในชุดของหน่วยลอบสังหารวาเรีย มองเผินๆ อาจจะเห็นเป็นมารีสวมเสื้อตัวใหญ่ของสควอโล่ เเต่ถ้าเพ่งพิศเสียหน่อยคงจะเเยกออกอย่างแน่นอน เวลาเดียวกันนั้นก็เป็นมารีในชุดนักเรียนนามิโมริ เธอบ่นนิดหน่อยเรื่องการใส่เสื้อผ้าหลายชิ้นเพราะปกติใส่เเบบชิ้นเดียวมาตลอด
“เหมือนเเฝดกันเลย!”
มารียิ้มรับ กวาดสายตาอย่างวิเคราะห์แล้วพบว่าร่างกายเธอผอมกว่าอีกฝ่ายนิดหน่อย ฮึ่ม.. ถ้ามีน้ำมีนวลเท่าอาซามิคงถูกจับเป็นที่ลับฟันของปะป๊าแน่ๆ… แค่ปัจจุบันนี้ก็ระบมพอเเล้วล่ะ
“ภารกิจแรก เราจะไปโลกของอาซามิกันก่อน เตรียมตัววาร์ปใน สาม.. วาร์ป!”
“สองกับหนึ่งหายไปไหน!!”
.
.
.
“ลงจอดอย่างปลอดภัยกันนะ?”
“...”
มารีหัวเราะแหะ
เมื่อสักครู่มีเหตุขัดข้องนิดหน่อย ดันตกลงมาจากฟ้า ถ้าไม่ใช่เพราะพลังจิตก้นกรุที่เก็บไว้จนหยากไย่เกาะพวกเธอคงบี้ติดพื้นดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริไปเเล้ว เเขนเล็กคลายกอดเล็กน้อย ให้ร่างของแฝดต่างมิติขยับลุกขึ้นจากตัว ดีเเค่ไหนที่มารีคว้าอีกฝ่ายมากอดได้ทันจะกระเเทกพื้น
“อย่าให้เจอหน้านะ! จะกระโดดเเทะหัวให้สำนึกเลย!”
เหมือนว่าจะไม่มีอารมณ์มาสุภาพกับผู้กำกับเเล้วสินะ..
“จะเริ่มอธิบายภารกิจเเล้ว ช่วยฟังดีๆล่ะ”
“เมินกันหนิเฮ้ย!”
นอกจากหน้าตาแล้ว นิสัยก็ยังชวนปะทะสินะ
"ภารกิจนี้มารีเริ่มก่อนนี่นา"อาซามิท้าวสะเอว มือขวายกขึ้นกุมคาง แว่นตาที่เอามาใส่ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบส่องแสงราวกับติดไฟนีออน
"..อะไรเหรอคะ? นั่นน่ะ"
"ไม่เคยดูเหรอ ถึงตัวจะเป็นเด็--"
"เดี๋ยวก็โดนแบนหรอกฟุรุยะ"
"อะแฮ่ม.. เอาล่ะ ไปเล่นกันเถอะ!"
"ค่ะ"ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไรแต่ก็ยิ้มแย้มเออออตามไป
เป้าหมายเเรก ให้มารีไปทักทายฮิบาริ เคียวยะ
"เห็นท่าไม่มีก็ชิ่งก่อนเลยนะ"ไหล่เล็กถูกเขย่าเรียกความสนใจ เป็นอาซามิที่แสดงท่าทีห่วงจริงจัง มารีกระพริบตาปริบเอียงคอครุ่นคิด หรือพี่เคียวของที่นี่จะน่ากลัว?
"ไม่เป็นไรนะคะ ที่นู่นมารีกับพี่เคียวตีกับประจำเลยค่ะ"เด็กสาวยิ้มจนตาปิด อาซามิดึงเธอมากอดรัด
ทั้งที่หน้าตาเหมือนกันแท้ๆ ทำไมถึงให้บรรยากาศน่าเอ็นดูต่างจากเธอราวฟ้ากับเหว ไม่เข้าใจเลย
"รีบๆ ไปได้แล้ว"
"สวัสดีค่ะ"
หัวหน้ากรรมการคุมกฎแห่งนามิโมริจดจ้องมองร่างของเด็กสาวเบื้องหน้า ปรายตามองเห็นว่าเป็นรุ่นน้องที่แปลกตาไปเนื่องจากไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของสาวสวยเช่นเดิม ถึงแบบนั้นก็ใช่ว่าเขาจะจำหน้าจืดๆ นั่นไม่ได้
แต่เหมือนมีอะไรผิดปกติ
มารีฟังคำสั่งจากหูฟังบลูทูธ ได้ยินเสียงให้กำลังใจจากอาซามิก็หลุดขำเบาๆ ระหว่างก้าวเท้าไปนั่งโซฟา ดีใจที่อีกคนในห้องไม่ชักทอนฟามาฟาดเอาๆอย่างพี่เคียวในโลกของเธอ
จะว่าไปทางนั้นก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเเหะ
"มองอะไรของคุณ"
'มองหน้าหาเรื่องมั้งคะ' ถ้าเป็นปกติอาซามิจะต้องตอบเเบบนั้น แต่..
"แค่คิดถึงน่ะค่ะ"
มือที่พับเก็บเอกสารบนโต๊ะหยุดนิ่ง สังเกตถึงน้ำเสียงและบรรยากาศที่แปรผัน คำพูดที่คิดว่ายังไงก็ต้องออกมาจากปากของเธอไม่เหมือนอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งสีหน้า ท่าทาง คำพูด แววตา
"คุณเป็นใคร"
ไม่ใช่ฟุรุยะ อาซามิของเขา
"คะ?"
เสียงขานรับสั้นๆ นั้นยิ่งทำให้มั่นใจ คนพูดมากอย่างอาซามิไม่มีทางถามโดยไร้ประโยคเรียกฝ่าเท้าหรอก
"ผมไม่ถามซ้ำ"
คล้ายได้ยินเสียงล้อเลียนพี่เคียวจากปลายสาย ผู้กำกับบอกให้ลองเล่นตัวอีกหน่อย มารีเลยทำการแสดงต่อ แม้ว่ามันจะไม่เนียนเลยก็ตาม
"น.. ฉันก็คือฉันไงล่ะคะ ..รุ่นพี่ถามอะไรแปลกๆ"
อีกสิ่งหนึ่งที่สนับสนุนความคิดของเด็กหนุ่ม คือสัญชาตญาณของเขา ผู้หญิงที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ตัวเล็ก ไร้พิษภัย อยู่ด้วยเฉยๆแล้วผ่อนคลาย ต่างจากอาซามิที่แค่เห็นหน้าก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากไล่ฟาดสักรอบสองรอบ
มั่นใจว่าไม่ใช่แน่ๆ แต่ไม่ได้อันตรายอะไร
"ฮิบาริ ฮิบาริ"
ยิ่งเจ้านกอ้วนปุกนั่นบินเข้าหน้าต่างไปนอนเล่นบนหัวยิ่งมั่นใจ
"ฮ่ะๆ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ เจ้าตัวน้อย"
เหมือนสัตว์เล็กสองตัวเล่นกัน
ในอีกด้าน อาซามิอ้าปาก
"ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่ฉันแต่ก็ปล่อยเลยตามเลยเหรอ! หรือว่าจะตกหลุมความน่าเอ็นดูของมารี.. ไม่นะ! สเปครุ่นพี่เป็นแบบนั้นเรอะ!?"
"เลิกสติแตกได้รึยัง…"
ในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงในห้องรับแขกของโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริ เคียวยะ นั่งทำงานอย่างสงบโดยมีคนแปลกหน้าซึ่งเล่นกับฮิเบิร์ดเป็นที่พักสายตา
"ดีจังเลยค่ะ ได้เล่นกับเจ้าก้อนกลมด้วย"
"รุ่นพี่.."
"?"
"เอ้าๆ จะวาร์ปไปอิตาลีแล้วนะ"
"2… วาร์ป!"
"ทำไมโผล่มาแค่สองล่ะยะ!"
.
.
ยังดีที่คราวนี้ลงจอดอย่างนุ่มนวล เป็นห้องของหน่วยเก็บกวาดที่อาซามิถูกเรียกใช้งานบ่อยๆ
"มารี เปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิม"
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่นั่นล่ะ แต่มารียินดีเปลี่ยนกลับเพราะอึดอัดเต็มที มือเล็กถอดเสื้อผ้าออกราวกับดึงทึ่ง โยนลงพื้นก่อนรับเสื้อของหน่วยลอบสังหารตัวโคล่งแสนคุ้นชินมาใส่ จมูกรั้นขยับดมฟุดฟิดได้กลิ่นแชมพูพี่ชายที่ติดเจือจางจากเสื้อก็คล้ายจะแผ่ออร่าแฮปปี้เสียจนผู้กำกับเห็นพื้นหลังเป็นดอกไม้บาน
"เป้าหมายต่อไป เดินเล่นรอบปราสาท"
ตั้งใจจะให้เจอพวกซันซัสชัดๆ!
"มารี.. วาเรียของที่นี่ไม่ได้-- เอ๊ะ อ้าว"อาซามิที่ตั้งใจหันไปเตือนคนด้านข้างกลับพบเพียงอากาศธาตุว่างเปล่า "มนุษย์ล่องหน!"
"สตินะ มารีเพิ่งวิ่งออกไป"
"สติไม่ใช่สตังค์ค่ะ ไม่จำเป็นต้องมี"
"เออ เรื่องของหล่อน"
ทางด้านของเด็กซน มารีวิ่งเท้าเปล่าไปทั่วทางเดิน ที่นี่ไม่ค่อยต่างจากโลกของเธอเท่าไร เส้นทางคุ้นตา ต่างไปแค่ไม่มีโพสอิทแปะบนกำแพง
มารีขี้เบื่อง่าย เวลาทุกคนไม่ว่างเล่นด้วยเธอก็จะแปะโพสอิทไว้เต็มผนัง ไม่มีใครเอ็ดเธอก็ทำต่อไป ทุกคนเวลาเดินผ่านก็จะอ่าน หลายครั้งที่มีคนเขียนตอบ ส่วนมากไม่ลุสซูเรียก็เบลเฟกอล กลายเป็นของตกแต่งไปแล้ว
ปึก
"โว้ย!! แหกขี้ตาดูทางบ้างสิไอ้เวร!"
"ทำไมเกรี้ยวกราดจังเลยค่ะ.."เด็กสาวแหงนหน้ามองคนสูงกว่า เห็นสีหน้าปุเลี่ยน
สควอโล่ที่ผ่านมาขมวดคิ้วมองเธอด้วยความรู้สึกที่ตีกันแปลกๆ อารมณ์เหมือนเจอคนข้างบ้านที่ฟาดกันบ่อยๆ แต่มันตงิดเหมือนจะทักผิดคน ก้มมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าเเล้วก็เอ่ย
“เเต่งตัวบ้าอะไรของแก”จำได้ว่าหน่วยที่อาซามิทำงานไม่น่าจะสวมเครื่องเเต่งกายแบบเขา ชุดหลวมโผลก แถมรองเท้าก็ไม่ใส่ ที่น่าแปลกใจคือไม่เล่นหูเล่นตาก่อนชิ่งเหมือนปกติ เฮ้ย ไม่ใช่ว่าเป็นศัตรูปลอมตัวมานะเว้ย! แต่ตัวเขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านอะไร อีกฝ่ายเเผ่ออร่าไร้พิษภัยสุดๆ
แต่ยังไงก็..
“พี่ชายกำลังจะไปไหนเหรอคะ?”
ไม่ใช่คนที่เขารู้จักเเน่ๆเว้ย!
ปลายดาบนาบอยู่ข้างลำคอ มารีมองคนท่าทางน่ากลัวรอยยิ้มไม่จางหาย เพียงขยับคอหลบนิดหน่อยเท่านั้น
“แกเป็นใครว--”
ผลั่ก! โครม!
“ปั่นเกียร์หมาเลยจ้าาาา”
มารีนิ่งไปชั่วขณะก่อนหลุดขำพรืดเมื่อฉลามคลั่งคนนั้นถูกอาซามิกระโดดถีบลงถังขยะไร้ที่มา เดาได้เลยว่าเป็นเธอนั่นแหละที่เป็นคนลาก เด็กที่ถูกแบกหนีมองขาสองข้างที่ชี้เด่สะบัดไปมาเพราะออกจากภาชนะใส่ขยะไม่ได้แล้วสำลักหัวเราะจนเเทบขาดอากาศ
ตาย ถ้าอยู่กับอาซามิเเล้วเจอเเบบนี้ทุกวันเธอต้องขาดอากาศตายเเน่ๆ ขอโทษนะคะพี่ชาย เเต่มันตลกจริงๆ
“สรุปคือไม่เนียนเลยสินะ”
“แน่สิ เห็นว่าเนียนรึไง!”
“ใจเย็นๆ นะคะ..”
"เวลาเหลือไม่มากแล้วเอ้า รีบกลับไปโลกของมารีทำภารกิจสุดท้ายดีกว่า!"
"วาร์ป!"
"คราวนี้ไม่นับล่ะเฮ้ย!!"
"..."
คราวนี้เป็นตาของอาซามิบ้างที่ต้องเดินสำรวจปราสาทวาเรียที่… อืม
เธอคิดว่าตัวเองคงอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เฉาตายแน่ๆ มองหน้ามารีของที่นี่ก็รู้ว่าโลกนี้เป็นอย่างไร ไม่มีคนตบชงมุกแบบที่นู่นแหง่ อาซามิรับไม่ได้ จืดชืด แค่หน้าเธอก็จืดชืดพอแล้วชีวิต
สายตากวาดมองทั่วโถงทางเดิน เห็นโพสอิทมากมายแปะเรียงรายหลากสี ตัดสินใจเข้าไปอ่านดู
'วันนี้มารีทำแพนเค้ก แต่ไหม้อะ ไว้ทำได้อร่อยจะให้ทุกคนชิมนะคะ'
'เจ้าชายแอบชิมแล้วนา ใช่ได้นี่ ชิชิชิ~'
'เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอกค่ะ!'
อาซามิยิ้มขบขัน อะไรกัน ที่นี่น่ารักกันจริง
'ทุกคนคะ ถ้ายังไม่รีบกลับมา หนูจะเผาคลังเตกีล่าของปะป๊า!'
'เขียนตั้งเเต่เมื่อไรเนี่ย มารีจัง?'
'เอ๊อะ นั่นสิคะ ลืมไปแล้วอ่า'
ไม่มีเอกลักษณ์ชัดเจนแต่เดาว่าคงเป็นกระเทยประจำหน่วยอรุณนั่นล่ะ
"ฮึ่ม.. ทำไมไม่เจอใครเลยนะ.."
"เธอไม่มีดวงมากกว่า"
"เพราะฉันดึงดูดเเต่พวกไร้สติไงล่ะ! คนตบมุกไม่ได้น่ะ ไม่เจอกันดีแล้ว!" อีกอย่าง วาเรียที่นี่ดูอันตรายกว่าฝั่งของเธอเสียอีก ไม่เจอนั่นแหละดี
ที่นู่นหนีตายจริง แต่ถ้าเป็นแบบที่เห็นตามรอยบนตัวของมารี.. อาซามิขอปาดคอตายเป็นผีหลอกรุ่นพี่จนฟ้าดินสลายดีกว่า
"งั้นปิดจ๊อบวันนี้แล้วแยกย้ายกลับบ้านดีกว่า"
"เสียเที่ยวจริง"
เท้าของเธอชะงักลง เห็นที่มุมทางเลี้ยวของฝั่งตรงข้ามมีสมาชิกระดับสูงวิ่งแบกของอยู่ พออ่านคำบนป้ายใหญ่ก็ยกยิ้ม
รู้เเล้วล่ะว่าทำไมเงียบ
"ผู้กำกับนี่ไม่เช็ควันที่เลยสินะ.."
"สาม… สอง.. วาร์ป!"
ก็วันนี้ครบรอบสองปีที่มารีอยู่กับวาเรีย
คนเขาวิ่งวุ่นจัดงานกันอยู่นี่เนอะ
อือ มีครอบครัวที่ดีจริงๆ
.
.
.
"ลวกเพ่~~"
"..."ฮิบาริส่งสายตาเอือมระอาตอบสิ่งที่ชีวิตที่โดดเกาะเขาเป็นปลิงตั้งแต่เมื่อสักครู่ ขาเรียวเกี่ยวรัดรอบแขนจนสะบัดไม่ได้ หัวเขาถูกกอดจนมองทางแทบไม่เห็น
นี่หล่อนกำลังเลียนแบบลิง?
"สเปครุ่นพี่เป็นแบบนั้นเหรอคะ ทำไมไม่บอกฉันแต่เเรกล่ะ คนเจ้าชู้ คนหลายใจ คนผีทะเล!"
ทำอย่างกับเป็นผัวเมียกัน
เขากลอกตา เดินตรวจโรงเรียนรอบเย็นต่อ ดีที่ไม่มีนักเรียนอยู่แล้ว
"หนัก"
"ว่าฉันอ้วนเหรอคะ!?"
"..."
"ตอบฉันสิคะ โฮ!"
เป็นวันนั้นของเดือนรึไง… "เดี๋ยวเลี้ยงซูชิ"
"...."
"...."
"...."
"แซลมอนโรลห้าชุด"
"รักที่สุดเลยค่ะ รุ่นพี่"
=_=
เฮ้อ ปวดหัว
"จริงๆฉันรู้หรอกนะคะว่ารุ่นพี่มีฉันคนเดียว ไม่ต้องห่วงค่ะ จากนี้ทั้งชีวิตจะมีแค่ฉันเท่านั้นที่ตามรังควาญรุ่นพี่ ไม่ปล่อยให้คนแย่งไปแน่นอน"
…..
อย่างกับสัมภเวสี
อาซามิหัวเราะคิกคัก พูดเล่นให้อีกฝ่ายขนลุกเฉยๆ รอดูปฏิกิริยาด้วยความคึกคะนอง
"ทำให้ได้แบบที่พูดแล้วกัน"
"แน่อยู่แล้-- เอ๊ะ?"
"..."
"เมื่อกี้รุ่นพี่ว่าไงนะคะ? นี่!"
"..."
"ทำไมไม่เคยเคลียร์!?"
เมินกันเหรอ? ได้ ได้! แทะหัวแม่ม!!
"ยัยสัตว์กินพืชนี่!"
"แง่งงง"
ความคิดเห็น