ฉันไม่เคยถามตัวเองสักครั้งที่ได้ทำอะไรให้เธอ ฉันไม่เคยถามเลยว่าตัวเองเหนื่อยไหมที่ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ให้เธอ ฉันรู้เพียงว่า...ฉันมีความสุขดีกับสิ่งที่ได้ทำให้ ฉํนแค่รู้สึกสนุกทุกครั้งไม่ว่าอะไรก็ตามที่เธอร้องขอให้ฉันทำให้ ฉันไม่ได้ต้องการอะไร เธอไม่เห็นความรักของฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันรักเธอมันก็เพียงพอแล้ว...
...แต่แล้ว...ฉันกลับรู้สึกอยากหยุดเอาเสียดื้อๆ...
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ฉันไม่อยากวิ่งตามเพื่อมอบความรักให้เธออีกแล้ว ไม่ใช่เพราะฉันหมดรักเธอ ฉันก็ยังรักเธอเหมือนเดิม เพียงแต่ฉันรู้สึกอยากรักเธออยู่ในมุมเงียบๆของฉันดีกว่า คอยวิ่งตามมอบความรักให้เธอ อยู่ในมุมของฉํน ในที่ที่ฉันควรอยู่ ไม่ต้องคอยชะเง้อมองหาเธอ ไม่ต้องไปดักในที่ๆเธอชอบไปเพื่อที่จะได้เจอหรือพูดคุยกับเธอ ฉันควรจะอยู่นิ่งๆและทำอะไรให้ตัวเองบ้าง
...ฉันคิดอย่างนั้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันก็เลยหามุมเงียบๆอยู่กับตัวเอง ว่างเมื่อไหร่ก็ไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดเลือกมุมอับๆที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาวุ่นวาย ที่ๆไม่ค่อยมีคนเห็น
...ฉันคิดอย่างนั้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันก็เลยหามุมเงียบๆอยู่กับตัวเอง ว่างเมื่อไหร่ก็ไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดเลือกมุมอับๆที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาวุ่นวาย ที่ๆไม่ค่อยมีคนเห็น
"ฉันเลือกนั่งตรงนั้น"
ที่ตรงนั้น...ที่ไม่ค่อยมีคนเห็น ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ที่ๆไม่มีใครเข้ามาวุ่นวาย ที่มุมหันออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้หรอกว่าข้างในมีอะไรบ้าง ฉันนั่งอ่านหนังสือตรงนี้ แอบงีบไปบ้างในบางทีด้วยความสุขใจมากขึ้น เพราะไม่ต้องเหนื่อยที่ต้องคอยดูว่าเมื่อไหร่เธอจะมา ไม่ต้องพะว้าพะวงว่าเธอจะมาเห็นฉันในสภาพไหน ไม่ต้องคอยถ่างตาเวลาง่วงนอนเพราะรอเธอ
...อยู่ตรงนี้ฉันไม่ต้องหันไปสนใจว่ารอบข้างเกิดอะไรขึ้น เพราะชั้นเห็นแค่วิวที่อยู่นอกหน้าต่าง
...อยู่ตรงนี้ฉันได้หลับอย่างสบายไม่ต้องสนว่าหน้าจะเกิดรอยย่นหรือจะนอนอ้าปากรึป่าว
...อยู่ตรงนี้ฉันก็มีความสุขดีเหมือนกันนะ
ในวันแรกที่ฉันเลือกมานั่งมุมนี้ ฉันคว้านิยายติดมือมาหนึ่งเล่ม นั่งทำการบ้านไปพลาง เมื่อรู้สึกง่วงนอนจึงหยิบนิยายมาอ่าน อ่านได้นิดหน่อยทำการบ้านต่อ ทำเสร็จเริ่มง่วงอีกแล้ว เลยหลับไปพักใหญ่ๆ จากนั้นก็คว้านิยายมาอ่านต่อ ซึ่งกำลังสนุกทีเดียว ทั้งยังถึงตอนกำลังเศร้าเคล้าน้ำตามาก ฉันอ่านไปน้ำตาไหลไปพลาง จำไม่ได้หรอกว่าเรื่องอะไร รู้เพียงว่าเป็นงานเขียนของณารานะ มีบ้างที่อ่านไปยิ้มไป แต่ครานี้ถึงกับเสียน้ำตาให้กับตัวละครในแผ่นกระดาษกันเลยทีเดียว
...แต่ในขณะนั้นเอง กลับมีใครบางคนวางกระเป๋าลงบนโต๊ะข้างๆ ใจฉันนั้นคิดว่าจะไม่หันไปสนใจอะไรเขาหรอกเพราะตัวเองกำลังน้ำตาเปื้อนหน้าอยู่ ฉันกลัวเขารู้ว่าฉันบ้าอ่านนิยายแล้วร้องไห้ แต่แล้ว..ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันหันเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เขาวางกระเป๋าลง อาจเป็นเพราะว่า...
...อยู่ตรงนี้ฉันไม่ต้องหันไปสนใจว่ารอบข้างเกิดอะไรขึ้น เพราะชั้นเห็นแค่วิวที่อยู่นอกหน้าต่าง
...อยู่ตรงนี้ฉันได้หลับอย่างสบายไม่ต้องสนว่าหน้าจะเกิดรอยย่นหรือจะนอนอ้าปากรึป่าว
...อยู่ตรงนี้ฉันก็มีความสุขดีเหมือนกันนะ
ในวันแรกที่ฉันเลือกมานั่งมุมนี้ ฉันคว้านิยายติดมือมาหนึ่งเล่ม นั่งทำการบ้านไปพลาง เมื่อรู้สึกง่วงนอนจึงหยิบนิยายมาอ่าน อ่านได้นิดหน่อยทำการบ้านต่อ ทำเสร็จเริ่มง่วงอีกแล้ว เลยหลับไปพักใหญ่ๆ จากนั้นก็คว้านิยายมาอ่านต่อ ซึ่งกำลังสนุกทีเดียว ทั้งยังถึงตอนกำลังเศร้าเคล้าน้ำตามาก ฉันอ่านไปน้ำตาไหลไปพลาง จำไม่ได้หรอกว่าเรื่องอะไร รู้เพียงว่าเป็นงานเขียนของณารานะ มีบ้างที่อ่านไปยิ้มไป แต่ครานี้ถึงกับเสียน้ำตาให้กับตัวละครในแผ่นกระดาษกันเลยทีเดียว
...แต่ในขณะนั้นเอง กลับมีใครบางคนวางกระเป๋าลงบนโต๊ะข้างๆ ใจฉันนั้นคิดว่าจะไม่หันไปสนใจอะไรเขาหรอกเพราะตัวเองกำลังน้ำตาเปื้อนหน้าอยู่ ฉันกลัวเขารู้ว่าฉันบ้าอ่านนิยายแล้วร้องไห้ แต่แล้ว..ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันหันเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เขาวางกระเป๋าลง อาจเป็นเพราะว่า...
ฉันอยากรู้ว่าใครมานั่งข้างๆ?
ฉันอยากเห็นว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
ฉันรู้สึกเหมือนเขาจงใจวางกระเป๋าลงแรงๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ฉันสงสัยว่าทำไมเขาต้องมานั่งใกล้ๆทั้งๆที่โต๊ะอื่นที่อยู่ถัดไปว่าง ว่าง และว่างทั้งนั้น
ฉันอยากเห็นว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
ฉันรู้สึกเหมือนเขาจงใจวางกระเป๋าลงแรงๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ฉันสงสัยว่าทำไมเขาต้องมานั่งใกล้ๆทั้งๆที่โต๊ะอื่นที่อยู่ถัดไปว่าง ว่าง และว่างทั้งนั้น
และคำตอบก็ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง...
...เป็นเขา...คนที่ฉันพยายามตามหาเขามาตลอด คนที่ฉันพยายามวิ่งตามมอบความรักให้เขา คนที่ฉันมาคอยพบเขาทุกวันแต่ไม่เคยเจอ
วันนี้...เขายืนอยู่หน้าฉันแล้ว ยืนยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่ฉันน้ำตาเปื้อนหน้า...
ฉันทำอะไรไม่ถูก รีบเอามือปาดน้ำตา ในขณะที่เขาเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆ เขาถามว่าฉันเป็นอะไร ทำไมอ่านนิยายจนน้ำตาร่วงหรอ? ฉันตอบไม่ถูกได้แต่พยักหน้าอือๆไป ด้วยทั้งอึ้ง ทั้งเขิน ทั้งดีใจไม่คิดว่าจะเป็นเขา และแม้ว่าเขาจะเข้ามานั่งกับฉันเพียงเวลาไม่กี่ชม.ก็เถอะ นั่นมันก็ทำให้ฉันดีใจมากแล้ว เขามาเล่าว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาไปไหน ไปทำอะไรมา และยังซื้อของมาฝากฉันด้วย ฉันยิ่งดีใจเหมือนจะบินได้ที่รู้ว่าของฝากนั้นเป็นชอคโกแลตก้อนโตจากมาเลยเซีย แม้จะรู้ว่าใครๆที่ไปเที่ยวมาเลย์ฯมักจะซ์้อชอคโกแลตมาฝากทั้งนั้นแหละ เพราะนอกจากมันจะถูกแล้วมันยังพกพาง่าย หาซื้อง่าย ไม่ยุ่งยากไงหล่ะ
วันนั้น...เขาทำอะไรไม่น่าเชื่อหลายอย่าง ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจมานั่งข้างๆหล่ะ เขาชวนฉันคุยจนไม่ได้อ่านนิยายต่อ จนฉันลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอ่านนิยายน้ำตาคลออยู่ เขาเล่าถึงกิจกรรมต่างๆของเขา เขาบอกฉันว่าโทรศัพท์หายไม่รู้ไปหล่นที่ไหน เขาลุกไปไหนก็จะฝากกระเป๋าไว้ที่ฉัน กลัวว่าฉันไปไหนก็ทิ้งกระเป๋าตังค์ให้ฉันเก็บไว้กับตัว ฉันเพ้อถึงขนาดต้องนั่งจ้องกระเป๋าตังค์เขาเลย อยากจะเปิดดูข้างในใจจะขาด อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง อยากเห็นว่าเขาจะแอบเอารูปใครใส่กระเป๋าไว้หรือป่าว ฉันคิดวุ่นวายไปหมดแต่ก็ไม่กล้า ฮ่าๆๆ เขากลับมาและยังแกล้งฉันอย่างเดิม ไม่ต้องบอกหรอกว่าตอนนั้นหน้าฉันจะแป้นแล้นขนาดไหน
มันดีแค่ไหนแล้วที่ฉันมีโอกาสถึงขนาดนี้ การได้เจอเขาเป็นสิ่งที่ฉันคิดในทุกวันแต่ก็ไม่มีโอกาส แม้กระทั่งการมาดักเจอเขาในที่ๆเขามาบ่อยๆก็ตาม แต่วันนี้เขาเดินเข้ามาหาฉันเองทั้งๆที่ฉันเลือกมุมที่จะไม่มีใครสนใจมองมันด้วยซ้ำ
//ดีใจนะที่เจอเธอ...อยากให้เธอรู้มากเลยนะว่าตอนนี้ฉันไม่เสเพลแล้ว ฉันรู้แล้วว่าฉันชอบเธอ ไม่รู้ว่าฉันเริ่มชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ตอนนี้ฉันชอบมากถึงขั้นเพ้อหาตลอดเวลา เพ้อจนฉันคิดว่าจะเลิก ฉันมันโง่เอง โง่ที่เพิ่งรู้ตัวในวันที่อะไรๆก็สายไป แต่ก็ยังดีใจที่เธอยังให้โอกาสให้ฉันได้เป็นเพื่อนเธอ//
ขอบคุณนะ...SF
ความคิดเห็น