Zen กับสายเลือดที่สาบสูญ
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ แฟนตาซี Tags : แฟนตาซี, เอลฟ์, เวทมนต์, ความรัก, เผ่าพันธุ์, โรงเรียน
ผู้แต่ง : Ganauou
My.iD :
https://my.dek-d.com/ganauou/writer/
ตอนที่ 29 : ที่มาของพลัง
“เป็นยังไงบ้างลูกไปเข้าค่าย หาเพื่อนได้มั้ย” โมเชียน่ากล่าวถามเซนทันทีที่ถึงบ้านหรือพระราชวังแห่งเมืองเวอดิลลา
โดยเธอและเวนเดอลาได้ไปรับเซนกลับมาหลังจากเซนเข้าค่ายเตรียมความพร้อมสิบวันเสร็จ ซึ่งเธอก็เป็นห่วงว่าเซนจะหาเพื่อนไม่ได้จึงเอ่ยถามออกไป
“ได้เพื่อนเยอะแยะเลยล่ะครับ แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้นเลย แถม..แปลกด้วย” เซนเอ่ยตอบโมนาวี่อย่างว่าง่าย แต่ในประโยคหลังๆเขาผ่อนเสียงลงพลางยิ้มแหยๆ ทำให้โมนาวี่ถามว่าเมื่อกี้เซนพูดอะไรเพราะเธอฟังไม่ชัด ซึ่งเซนก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรแต่ในหัวกลับคิดถึงพวกคนแปลกๆเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น อลิซ...องค์หญิงผู้ไม่ชอบให้ถูกมองบ่อยๆซึ่งเธอบอกให้เขาเลิกเรียกว่าองค์หญิงและเรียกอลิซเฉยๆ เซลีน...สาวสวยผู้มีนิสัยแปลกๆขัดกับใบหน้าพร้อมกับความลับมากมาย ลาเมีย...เด็กสาวผู้สามารถใช้เวทย์รักษาได้แถมยังนิสัยดีอีกด้วย กริมมอ...บาบาเรียนที่ชอบเกาะแกะและอวยเขาตลอดเวลาแถมคำพูดคำจาก็ห้วนซะไม่มี และแรมพิส...เด็กชายสวมแว่นที่ดูเหมือนเด็กเรียนแต่การต่อสู้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนบุคลิก
เซนได้แต่คิดถึงคนพวกนี้และภาวนาว่าขอให้เปิดเรียนไวไวด้วยเถิด ซึ่งต้องรอเพียงหนึ่งอาทิตย์แต่กับเซนแล้วมันเหมือนนานนับปี
‘เมื่อไหร่จะเปิดเรียนกันน้า’ เซนนั่งคิดในใจ ในตอนนี้เขามาถึงห้องของตัวเองแล้ว ห้องที่เขาใช้พักอยู่มาหลายปี ข้าวของยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
เซนนอนกลิ้งเล่นบนเตียงพลางนึกถึงกลิ่นของผ้าปูที่นอนที่ยังหอมเหมือนวันแรกที่เขามา บ่งบอกถึงการเอาใจใส่ของแม่บ้านเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ก็ตาม เซนทำอย่างนี้จนเริ่มเบื่อก็เรียกให้คามานออกมา
“คามาน ออกมา” เซนเอ่ยเบาๆเพียงให้ตัวเองได้ยินเพื่อเรียกคามาน ซึ่งเธอก็ออกมาพอดีพร้อมกับทักทายเซน
“มีอะไรหรือเซน เรียกข้ามาซะดึกเชียว หร-หรือว่า...อ๊ะ เซน เจ้าเด็กลามก อร๊ายย” ทันทีที่คามานโผล่ออกมาเธอก็ถามถึงสาเหตุที่เซนเรียกมากลางดึกแบบนี้ และยังไม่ได้คำตอบด้วยซ้ำเธอก็ทำทีเหมือนรู้ว่าเซนต้องการอะไรพร้อมทั้งทำมือป้องปากแล้วบิดซ้ายบิดขวาเหมือนกำลังเขินอายอยู่
ซึ่งก็ทำให้เซนที่นั่งจ้องเธอเอ่ยอย่างเอือมๆกับมุกตลก 18+ นี้ว่า
“ฉันไม่มีอารมณ์กับคนแก่ร้อยปีหรอก อีกอย่างนะฉันก็จับต้องเธอไม่ได้อยู่แล้วด้วยแถมอายุก็เพิ่งจะสิบสามเอง” เซนกล่าวพร้อมทำสีหน้าเบื่อหน่าย
“แหมๆแรงนะคะคุณน้อง ฮ่าฮ่าเอาเถอะๆสรุปมีอะไรล่ะ”
“คือฉันสงสัยอยู่เรื่องนึงน่ะ ตอนที่สู้กับพวกก็อบบลิน พลังนั่น...ทำไมมันถึงเป็นสีขาวทั้งๆที่มันรวมทุกธาตุในตัวฉัน” เซนถามถึงเรื่องเมื่อตอนฝึกใช้เวทย์ในวันที่ห้าของการเข้าค่าย ซึ่งเป็นเหตุทำให้เขามีภาพพจน์ดีขึ้นด้วยพลังของตัวเอง แต่ปริศนาของพลังนั่นมันยังคงวนเวียนในหัวเขาอยู่
ซึ่งทันทีที่คามานฟังคำถามของเซนจบเธอก็นิ่งคิดซักพัก และไม่นานเธอก็ลอบยิ้มพร้อมทั้งบอกให้เซนลองทำแบบนั้นอีกครั้งหนึ่ง
“เซน นายใช้พลังแบบครั้งนั้นอีกดูสิ ถ้ามันไม่เหมือนเดิมแสดงว่าข้อสันนิษฐานของฉันถูก”
หลังจากได้ฟังคำแนะนำจากคามาน เซนก็ลองใช้พลังเหมือนตอนที่สู้กับก็อบบลินดูอีกครั้ง ซึ่งเมื่อเขาแปลงแขนตัวเองแทนดาบและทำให้พลังเวทย์แปรปรวนที่แขนดาบนั้น มันกลับปรากฏเป็นสีต่างๆปนเปกันไปตามสีของแต่ละธาตุ แถมยังดูอ่อนแออีกเพราะมันไม่สามารถคงรูปเป็นขนนกเหมือนในตอนนั้นได้
คามานที่ลอบสังเกตตั้งแต่เริ่มจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ฉันรู้แล้วล่ะเซนว่าทำไม ในตัวนายตอนนี้มีเพียงแค่หกธาตุทำให้ไม่สามารถคงสภาพของคลื่นพลังเวทย์ที่แปรปรวนนั้นได้ เพราะยังขาดอีกหนึ่งธาตุ...” คามานเอ่ยยิ้มๆอย่างนักวิจัยเวทย์ที่ประสบความสำเร็จจากการค้นพบเวทมนต์บทใหม่
“ไม่เข้าใจ... ตัวฉันก็มีหกธาตุมาตั้งนานแล้วนะ แล้วทำไมตอนนั้นถึงใช้ได้แต่ตอนนี้ใช้ไม่ได้ล่ะ” เซนเอ่ยกับคามานอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งคามานก็ยืนกอดอกพลางลยมาข้างๆเซน
“งั้นลองทำใหม่ดูอีกทีนะ” คามานกล่าวพร้อมทั้งหายเข้าไปในดวงจิตเซนเหมือนที่เคยทำตามปกติ เซนก็ไม่เข้าใจว่าคามานจะหนีไปในดวงจิตเขาทำไมทั้งๆที่ยืนคุยปกติสะดวกกว่าแท้ๆ
‘ลองทำอีกครั้งสิเซน’ เสียงคามานดังก้องในหัวของเซน ซึ่งเซนก็ส่ายหน้ายิ้มเยาะเพราะไม่คิดว่ามันจะต่างอะไรจากเดิม
‘พรึ่บ’ ขนนกสีขาวเจิดจ้าปรากฏออกมาทั่วแขนของเซนทันทีที่เขาทำให้เวทย์ทุกธาตุที่อยู่ในตัวไปกระจุกอยู่ เซนไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรทั้งๆที่เมื่อกี้เขาทำไม่ได้
เซนยกสองแขนของตัวเองขึ้นมาดูที่ในครั้งนี้เขาไม่ได้เปลี่ยนให้มันกลายเป็นดาบ มันจึงกลายเป็นแขนที่เต็มไปด้วยขนนกบริสุทธิ์สวยงามแต่กลับดูอันตรายไปในขณะเดียวกัน เพราะขนนกนี้เกิดจากพลังเวทย์ที่ซึ่งหากเซนบังคับมันให้หลุดออกจากตัวเขาไปกระทบอะไรเข้า มันก็จะเกิดเป็นระเบิดขนาดย่อมๆได้เลยล่ะโดยมีตัวอย่างคือฝูงก็อบบลินเมื่อตอนนั้นที่เซนได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มัน แต่ที่มันไม่ระเบิดเป็นเพราะเขาต้องการให้มันเสียบทะลุและหายไป
‘คามาน ทำไมครั้งนี้ฉันถึงทำได้ล่ะ..’ เซนเอ่ยถามคามานในใจ ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาทันทีว่า
‘นายคงไม่ลืมไปแล้วใช่มั้ยว่าธาตุของฉันคืออะไร’ คามานเอ่ยในห้วงความคิดของเซนทำให้เซนเริ่มจะเข้าใจอะไรแล้ว
‘ความมืด’
‘ใช่ ธาตุของฉันคือความมืด... พอฉันรวมกับนายจึงทำให้นายสามารถใช้ธาตุความมืดได้ แต่พอฉันปรากฏตัว นายก็จะใช้ธาตุความมืดไม่ได้ และนั่นก็แสดงว่า’ เสียงคามานขาดหายไปในห้วงความคิดของเซนก่อนจะเอ่ยอีกประโยคนึงซึ่งเธอยังพูดไม่จบ
“นั่นก็แสดงว่า หากฉันกับนายร่วมมือกันเราจะสามารถใช้เวทย์ได้ทุกธาตุยังไงล่ะ” คามานที่ตอนนี้ได้ปรากฏตัวให้เซนเห็นพร้อมกับยิ้มเยาะ ทำเอาเซนที่กำลังเรียบเรียงข้อมูลในหัวไม่ถูกเพราะกำลังอื้งกับเรื่องที่คามานพูดเมื่อกี้อยู่ ก่อนจะคุยกับคามานว่าพรุ่งนี้จะไปบอกเรื่องนี้ให้ท่านพ่อท่านแม่ทราบรวมถึงเรื่องคามานด้วย ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธเพราะมันไม่ได้เสียหายอะไรกับตัวเธอ
“ห้ะ!? ลูกว่ายังไงนะ?? สังสัยพ่อฟังผิดแน่ๆเลยไหนลองพูดใหม่อีกรอบซิ”
“ผมจะบอกว่า... ผมใช้เวทย์ได้ครบเจ็ดธาตุเลยครับ” เซนกล่าวเหมือนกับสำนึกผิด เพราะทั้งเวนและโมนาวี่ทำหน้าดูตกใจกับเรื่องที่เซนบอกเมื่อกี้มาก ทำให้เขาชักเริ่มเกร็งแล้วสิว่าจะบอกหมดดีรึเปล่า
“แล้วลูกใช้ได้ยังไงล่ะจ๊ะ แม่จำได้ว่าลูกใช้ได้แค่หกธาตุเองหนิ แถมแค่นั้นแม่กับพ่อก็ตกใจจะแย่แล้วนี่ลูกยังใช้ธาตุมืดได้อีกเหรอ” โมนาวี่ถามเซนอย่างไม่ค่อยเชื่อ เพราะคนที่ใช้เวทย์ได้ถึงเจ็ดธาตุนั้นตามประวัติศาสตร์แห่งทวีปเอมารามีเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนต่างก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น รบเพื่อรวมทวีปเป็นปึกแผ่น โค่นล้มปีศาจที่หลุดมาจากนรก สร้างเวทย์อาณาเขตที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างในป่าอาถรรพ์เนฟินดอร์ เป็นต้น
“คือ... ตอนไปฝึกกับท่านอาจารย์ลูคัสผมได้วิญญาณติดมาด้วยน่ะครับ ทำให้ผมใช้เวทย์ธาตุความมืดเพิ่มได้อีกธาตุ...”
เซนกล่าวพร้อมทั้งให้คามานปรากฏตัวให้เวนและโมนเห็น ซึ่งทันทีที่เธอปรากฏตัวเธอก็สวัสดีทั้งสองอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ คุณเวนเดอลา คุณโมน” คามานทักทายทั้งสองด้วยความสุภาพทั้งยังย่อตัวลงให้ด้วย ซึ่งทันทีที่โมนและเวนเห็นคามานก็ดูจะตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่ตกใจเพราะความกลัวหรืออะไรหรอกนะ แต่เป็นเพียงตกใจเพราะไม่คิดว่าวิญญาณที่เซนพูดถึงจะเป็นสาวสวยแบบนี้ นึกว่าเป็นวิญญาณร้ายหน้าเหี่ยวเลือดอาบซะอีก
“ส-สวัสดีค่ะ-ครับ” เวนและโมนสวัสดีรับการทักทายพลางยิ้มเจื่อนๆให้เล็กน้อย
เมื่อทักทายกันเสร็จ คามานก็หายไปต่อหน้าเวนและโมนทันที เพราะเธอบอกเซนว่าถ้าปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นจะทำได้ไม่นานเพราะมันกินพลังมาก
หลังจากคุยกันมานานสักพัก เวนก็ตัดสินใจว่าจะพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเพราะอีกหนึ่งอาทิตย์เซนก็จะเปิดเรียนแล้ว จึงอยากจะมอบของขวัญให้เป็นรางวัลที่สอบเข้าอาซลานอคาเดมีได้
“เซน พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปดินแดนคนแคระกันนะ พ่อว่าจะไปขอให้ช่างฝีมือดีแถวนั้นตีดาบตีอาวุธเป็นของขวัญให้ลูก ครั้งนี้เราจะไปกันแค่สองคน เพราะโมนเธอบอกจะอยู่ถักเสื้อให้ลูกเป็นของขวัญเหมือนกัน ไปมั้ย” เวนกล่าวยิ้มๆพร้อมทั้งหันไปมองเซนถึงแผนที่จะพาเซนไปยังดินแดนคนแคระ
ซึ่งทันทีที่เวนพูดจบเซนก็ดูจะดีใจมากเพราะหากขึ้นชื่อว่าเป็นอาวุธที่สร้างโดยคนแคระแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่างคนแคระอันดับท้ายๆก็ยังทำได้ดีกว่าช่างมนุษย์มืออาชีพของมาก เซนจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธพลางพยักหน้ารัวๆพร้อมตอบว่า
“ครับ”
ช่วง : ไร้สาระกับไรท์เตอร์
คุยกันจั๊กนอยย : ดีใจจุงคนติดตามถึง500แล้ว55 //แทบจะก้มลงจูบเท้านักอ่าน บอกตามตรงเลยว่าผมไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมาถึงขนาดนี้ได้ เพราะผมกะจะเเต่งนิยายระบายความคิดของตัวเองเล่นๆ55(ที่ผมออกจะโรคจิตชอบให้พระเอกผิดหวังสาวโดนฉุด-.,-แต่ไม่รู้จะเอามาใช้มั้ย55) ล้อเล่นๆ
ตอนแรกที่เขียนเรื่องนี้เพราะผมก็อ่านนิยายมาหลายๆเรื่องทั้งสะสมครบเซตอย่างเรื่องมายาจอมคาถา และเมอเมดราฟโซดีของพี่วี หรือV.Rondell และอ่านในเวบเด็กดีเมื่อไม่นานมานี้ทำให้เป็นตัวจุดประกายว่า ถ้าจะเเต่งนิยายใครๆก็น่าจะทำได้ ผมเลยพิมพ์เล่นๆในโนตบุคและให้น้องชายอ่าน ซึ่งมันก็บอกว่าสนุกแต่ผมก็ตบกะบาลมันไปเพราะคิดว่ามันประชด55 เอาจริงๆก็อยากให้น้องอ่านนะแต่ผมไม่ได้กลับบ้านมาเดือนกว่าเเล้วT^Tไม่ได้โทรคุยด้วย คิดถึงมัน55 กำนอกเรื่องละ
เอาเป็นว่าขอบคุณทุกคนนะครับที่ติดตามมาถึงตอนนี้ ขอบคุณมากๆครับบT^T
//ในตอนแรกว่าจะไปแต่งต่อเเละลงพรุ่งนี้เพราะกลัวอัพถี่ไปและนักอ่าน(ที่เคารพ)รำคาญเลยไปตีฮอนเล่น แต่พอไปเล่นได้ตา2ตามันกลับรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆเลยขี่รถกลับหอมาแต่งต่อแล้วลง55 //พิมพ์ไปยิ้มไป :D
"...ซึ่งต้องรอเพียงหนึ่งอาทิตย์แต่กับเซนแล้วมันเหมือนนานนับปี..." อ่านแล้วมันฟังดูแปลกๆ นะค่ะ
"...ซึ่งการรอ(คอย)เพียงหนึ่งอาทิตย์ แต่สำหรับเซนแล้วมันเหมือนนานนับปี..." น่าจะประมาณนี้รึเปล่าค่ะ ในวงเล็บจะใส่ไม่ใส่ก็แล้วแต่ค่ะ
ทำให้เกิดความคิดว่า "กรรมที่พระเอกเราลำบากเรียนกับอาจารย์เอฟมาโรงเรียนดันสอนเหมือนกันอีก 55" เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าพระเอกจะเก่งเมื่อไหร่ 55
สนุกและน่าติดตามมากๆๆๆ อ่านแล้วติด
แต่ว่าเรื่องเซนกับผู้หญิงนี่ อ่านแล้วตงิดๆ
พวกอ่านนิยายแฟนตาซีจิตใจบอบบาง อ่อนแอ มันเยอะนะครับ 555+
แล้วก็บอกด้วยนะครับว่าเรื่องนี้จะฮาเร็มมั้ย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2558 / 17:10
ปล.ลงบ่อยๆได้นะคะ อิอิอิอิ-.,-
ในที่สุดก็บอกพ่อแม่สักที เรื่องคามาน ..
มี 7 ธาตุ เทพเลยนะ คราวนี้ก็จะได้เก่งขึ้นอีก