gapsasa
ดู Blog ทั้งหมด

คุณพ่อบอสโก

เขียนโดย gapsasa

                 ฮัลโหล~ จุบุ ขุบุ ทายซิ วันนี้ กุดชี่เอาอะไรมาฝาก~

   ช่วงนี้ โรงเรียนธิดานุเคราะห์และชาวคริสต์ในประเทศของเรากำลังคึกคักเรื่องอะไร ไหนๆ ใครตอบกันได้บ้างจ้ะ

.....ปี๊ด....หมดเวลา......แต่กุดชี่คิดว่า หลายๆคนคงทราบแล้วล่ะ ว่ามีเรื่องอะไรที่พิเศษๆ กำลังมา...

 

 นั้นคือ พระธาตุของคุณพ่อยอห์น บอสโก บิดา อาจารณ์และเพื่อนของเยาวชน พร้อมประโยคสุดฮิตที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักกับคำพูด เพียงแค่รู้ว่าเธอเป็นเด็ก พ่อก็รักเธอเสียแล้ว แต่...อ๊ะๆ สาว Y ห้ามจิ้นนะจ้ะ เดี๋ยวบาปจะกินกบาลไม่รู้ตัว (หรือมีแค่กุดชี่ที่คิดคนเดียวหว่า)

 

 

 แล้วทุกคนทราบหรือเปล่า ว่าประเทศไทยของเราได้รับพระธาตุส่วนไหนของคุณพ่อกัน??

 

ติ๊กต่อก..... แต่นแต้น~(เอฟเฟกต์นิดๆพอให้ตื่นเต้น)

พระธาตุของคุณพ่อบอสโกที่จะเดินทางมาถึงไทย คือส่วน มือ จ้า! (เน้นตัวเบ้งๆ)
แต่ไม่ใช่มีแค่มือใส่ในโรงแก้วหรอกนะ!(อย่าเข้าใจผิด เพราะกุดชี่ขึ้เกียจฟังเสียงโวยวาย ประมาณ ไหนอ่ะ เบอะไม่ได้มีมืออย่างเดียวที ฟังแล้วอยากกุมขมับค่ะ!)

เค้าจะสร้างเป็นหุ่มขี้ผึ้งจำลอง แล้วใส่พระธาตุจริงๆไว้ในหุ่นค่ะ ส่วนโลงก็ทำจากโลงแก้ว (ได้ข่าวว่าหนักมากๆจนต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ หรือว่าฐานรองโลงจะเป็นทองคำแท้ค่ะ ?)

  โดยการที่ประเทศไทยได้มีดอกาสต้อนรับพระธาตุของพ่อบอสโกในครั้งนี้ บุคคลที่เป็นตัวตั้งตัวตี อย่างพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ที่สร้างโอกาสดีๆแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งพวกเราก็ไม่มีทางทราบได้ ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ (ซึ่งครั้งต่อไป เราอาจจะได้ต้อนรับเลาราก็ได้ ใครจะรู้ จริงไหมค่ะ ?)

 

 อ่า...กุดชี่ก็พูดพล่ามมามากแล้ว ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นดีกว่า...ฮึอึ...ฮ่าๆๆ โฮะๆๆ

 

เย้ย!! อย่าเพิ่งหนีไปไหน กุดชี่ล้อเล่น กลับมาก่อน! ที่กุดชี่จะพูดน่ะก็คือ ประวัติของพ่อบอสโกต่างหาก!

กุดชี่ก็เข้าใจ ว่าทุกคนคงเบื่อกับเนื้อหายืดๆ ที่มีแต่น้ำ  เด็กๆอย่างพวกเราจึงมักหลับ ดังนั้นเราก็มาฟังเป็นแฟนฟิคสนุกๆดีกว่า [มีสาระและไม่ผิดศีลแน่นอน!(เหรอ) กรุณาทำใจกับมุขแป้ก]

[หากมีเนื้อหาหรือคำพูดใดที่พาดพิง หรือกระทบต่อหลักควาเชื่อของศาสนา ขอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องที่แต่งเพื่อให้ความรู้และความสนุกสนานเท่านั้น]

 

   หลังจาก 7 วันที่พระเจ้าได้สร้างโลกได้อย่างสมบูรณ์สดสวย งดงาม  มีอดัม และเอวา มีปลาร้าและส้มโอ(?) เทพลูซิเฟอร์ที่อิจฉา อดัมกับเอวา ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในสวนเอเดนที่แสนสุขสบาย เทพหนุ่มรูปงามนามลูซิเฟอร์ที่มีความแค้นเต็มหัวใจอิจฉาที่อดัมได้รับความสนใจจากพระเจ้ามากกว่าตน(ไม่ได้ Yน้า =[]=!)

ทำไม! ทำไมพระเจ้าถึงไม่สนใจข้าเลย!”ลูซิเฟอร์ เทพบุตรผู้มีหน้าตางดงามรำพึงอย่างเจ็บแค้น

 

ข้าจะจัดการเจ้า อดัม!”เสียงมาดร้ายดังขึ้น ก่อนจะเงียบหายไป...เมื่อมองไปยังจุดที่เทพบุตรหนุ่มเคยยืนอยู่...ผู้เฝ้ามองก็พบเพียงแค่...ความว่างเปล่า...

 จากนั้นเรื่องทุกอย่างก็เป็นไปตามคัมภีร์ไบเบิ้ลตามที่ทุกๆทราบ...[อ่าว! ตัดจบดื้อๆ ถ้าอยากอ่านเป็นฟิค ส่งหลังไมค์ค้า! >__<]

    จนในที่สุด ปีคริสตศักราช 1815 เมื่อหนูยอห์นได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก...ในวันที่ 16 สิงหาคม หลังจากอดัมและเอวาเกิดลูกเกิดหลานมากมายจนมาถึงหนูยอห์น...ในที่สุด...

                ครอบครัวของหนูยอห์นเป็นครอบครัวที่ยากจน ซึ่งอาศัยอยู่ที่ตำบลเบ๊กกี จังหวัดอาสตี ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี แต่ถึงครอบครัวนี้จะยากจน แต่ก็มีความอบอุ่น ซึ่งแตกต่างจากครอบครัวปกติในยุคปัจจุบัน แม้ว่าครอบครัวของยอห์นจะเสียผู้นำครอบครัวไปตั้งแต่เล็กๆ (ตอนหนูยอห์น 2ขวบ) แต่คุณแม่มาการ์รีตา(หรือมาการ์เรต) ก็สามารถดูแลลูกๆของเธอ จนเติบโตและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในนาม บิดา อาจารย์ และเพื่อนของเยาวชน อย่างพ่อบอสโก โดยสมาชิกทุกคนในครอบครัวจ่างมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีศีลธรรม เคารพนับถือและเลื่อมใสในศาสนาของตนอย่างเคร่งครัด

                และเมื่ออายุของหนูยอห์นย่างเข้า  9 ขวบ(วัยเด็กน่ารัก น่าชัง) หนูยอห์นได้มีความมานะตั้งใจว่าจะต้องพยายามก้าวหน้าในเรื่องความรู้และการศึกษา อีกทั้งยังต้องการบวชเป็นพระสงฆ์อีกด้วย!(ป่านนั้นเราทำอะไรอยู่นะ? = =;;)  เพื่อที่จะสามารถเอาใจใส่ช่วยเหลือเด็กๆที่กำพร้าพ่อแม่ หรือถูกทอดทิ้งขาดการอบรม และในที่สุดความตั้งใจดังกล่าวก็เป็นความจริง หนูยอห์นได้ฟันฝ่าอุปสรรค ต่างๆมากมายเพื่อศึกษาหาความรู้หลายแขนง

จนประสบความสำเร็จ และได้เรียนจนถึงบวชเป็นพระสงฆ์ (ได้ยินมาว่า ตอนอายุ 10 ขวบ ยอห์นได้ฝันว่า ถึงพระเยซูคริสตเจ้า และ พระแม่มารีอา ดังนั้น หนูยอห์นจึงตั้งใจเป็นพระสงฆ์เพื่อทำให้เด็กๆกลายเป็นคนดี และระหว่างที่ยอห์นได้เรียนเพื่อเป็นพระสงฆ์ ยอห์นได้ทำงานเป็นช่างไม้ ช่างทำรองเท้า ช่างเหล็ก ช่างตัดเสื้อ และอาชีพต่างๆอีกมากมาย ซึ่งเรื่องนี้แสดงถึงศักยภาพของท่านได้เป็นอย่างดี!)

 

 หลังจากที่ได้เป็นพระสงฆ์แล้ว คุณพ่อบอสโกก็ได้เริ่มกิจการตามที่ได้ตั้งใจไว้ คือเริ่มยืมสถานที่บ้าง เช่าบ้าง ซื้อบ้าง และก็รวบรวมเด็กอนาถาที่ยากจนให้เข้ามาอยู่รวมกัน ท่านได้เป็นผู้อบรมสั่งสอนทั้งในด้านศีลธรรมจรรยาและความรู้ทางวิชาการ นอกนั้นยังได้ให้เด็ก ของท่านฝึกงานต่างๆตามที่เขาถนัด เมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นและรู้จักงานดีแล้ว ท่านก็เป็นผู้จัดหางานให้เขาทำกิจการของคุณพ่อบอสโก ขยายจากกรุงตุริน ไปยังเมืองอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ในตอนแรกท่านได้อาศัยความช่วยเหลือของเด็กโตๆ พระสงฆ์และฆราวาสบางคน ต่อมาจึงดำริเห็นว่าเพื่อความมั่นคงถาวร และความแน่นอนในภารกิจนี้จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีผู้ช่วยเหลือ เพื่อที่จะช่วยอบรมสั่งสอนและดูแลเด็กๆต่อไป ดังนั้นคุณพ่อบอสโกจึงได้ขออนุมัติจากผู้ใหญ่ ฝ่ายพระศาสนจักร เพื่อจัดตั้งคณะนักบวชขึ้น ซึ่งเรียกว่า "คณะซาเลเซียน" ภารกิจของคณะซาเลเซียนนี้คุณพ่อบอสโก ได้มอบไว้ในความคุ้มครองของนักบุญฟรังซิส เดอ ซาล เพราะนักบุญองค์นี้เป็นผู้ใจบุญสุนทานมีความสุภาพอ่อนหวาน มีอารมณ์ดีและยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ซึ่งนี่เองเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการผูกใจเด็ก ให้รู้สึกรักใคร่และเหมาะแก่การชักนำเด็กได้เป็นคนดี จุดประสงค์ประการสำคัญของคณะซาเลเซียน คือการเปิดยุวสถานให้เป็นที่ชุมนุมของเด็กและ เยาวชนเป็นต้น ในวันอาทิตย์เพื่ออบรมให้พวกเขาเหล่านั้นมีศีลธรรมดีงาม ให้รู้จักทำหน้าที่ที่มนุษย์พึงมีต่อพระเป็นเจ้า ต่อประเทศชาติ ต่อบิดา มารดา และต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คุณพ่อบอสโก ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1888 (พ.ศ. 2431) ที่กรุงตุริน ประเทศอิตาลี รวมอายุได้ 72 ปีเศษ พระศาสนจักรได้แต่งตั้งให้คุณพ่อบอสโกเป็นนักบุญเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1934 (พ.ศ. 2477) และในวันที่ 31 มกราคมของทุกๆปี บรรดาสมาชิก ของคณะซาเลเซียนอีกทั้งเด็กๆ ที่อยู่ในโรงเรียนซาเลเซียน พร้อมกับคริสตศาสนิกชนทั่วโลกจะร่วมกันทำฉลองยอเกียรติคุณของท่าน เพื่อขอให้ท่านได้ทรง โปรดพิทักษ์พวกเขาให้พ้นจากภยันอันตราย ทั้งฝ่ายร่างกายและวิญญาณ

 


มุมของสาวๆ ธิดานุเคราะห์
รู้ป่ะ สาวๆธิดา คณะซาเลเซียนของเรามาจากไหน ?

คุณพ่อบอสโกได้ตั้งคณะนักบวช "ซาเลเซียน" ซึ่งรับธุระทำงานแพร่ธรรมที่ยิ่งใหญ่และโดยร่วมมือกับนักบุญ มารีอาโดเมนีกา มัสซาเรลโล ท่านได้ตั้งคณะนักบวชหญิงมีชื่อว่า "ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์" ซึ่งโรงเรียนธิดานุเคราะห์ของเราก็อยู่ในเครือนี้ด้วยนะ!

และคุณพ่อบอสโกก็เป็นครูที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะหนึ่งในลูกศิษย์ของท่านก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกอีกด้วย

ผลของวิชาครูที่งดงามที่สุดของท่านผลหนึ่ง ก็คือ นักบุญ ดอมินิก ซาวีโอ เด็กอายุ 15 ปี ซึ่งเข้าใจบทเรียนของท่านได้พูดว่า "เราทุกคนที่อยู่โรงเรียนของคุณพ่อยอห์น บอสโก เราได้เรียนรู้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่การเป็นผู้ที่มีความร่าเริงยินดีอยู่เสมอและอยู่ที่การทำหน้าที่ของตนให้ครบถ้วนมิให้ขาดตกบกพร่อง"

เฮ้อ!! ในที่สุด ประวัติของพ่อบอสโกก็เสร็จล่ะ ใครที่ได้ประโยชน์จาก Blog นี้ ก็เม้นๆด้วยนะจ้ะ!! >___<//




ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ทำงานส่งครูอ่ะดิ เจ่เจ้ >w<//
ความคิดเห็นที่ 2
เอ๋...
งานนี้ที่ครูพี่เก่งสั่งป้ะ
555+
ความคิดเห็นที่ 3
อิแกป ขอบใจว่ะแก เค้ามีงานส่งแล้ว เย๊เย
bbh-bc
bbh-bc 5 ม.ค. 54 / 21:19
อ่ะนะ ๆ ๆ