ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS] ROUND - KOOKMIN

    ลำดับตอนที่ #3 : os/special halloween - trick or treat

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.46K
      46
      13 ธ.ค. 58

     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    Trick or Treat
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “เอ่ย ‘Trick or Treat’ เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมา... ‘Treat’ คือการยอมแพ้แล้วเอาของหวานให้เรา เข้าใจใช่มั้ย?”
     
    ชายแก่ผมขาวส่งตะเกียงฟักทองให้หลานชายเจ้าของเรือนผมเส้นผมสีบรูเน็ต เด็กน้อยอายุสิบสี่ปีในชุดผีท่านเอิร์ลและผ้าคลุมมีฮู้ดสีแดงพยักหน้า 
     
    เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวมีลูกไม้ระบายตั้งแต่ช่วงคอลงมาถึงอกถูกตกแต่งให้เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสีแดงฉานราวกับเลือด ผูกโบว์เส้นเล็กสีดำตรงลำคอ นุ่งทับด้วยกางเกงขาสั้นสีกรมท่าและถุงเท้าสีขาวยาวเกือบถึงเข่า เด็กน้อยผู้ตื่นเต้นกับเทศกาลฮาโลวีนปีแรกของตัวเองในประเทศอังกฤษ 
     
    “แล้ว...ถ้าเขาบอกว่า ‘Trick’ ล่ะครับ?”
     
    ดวงตากลมฉายแววสงสัยบวกกับสำเนียงภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วน่าเอ็นดูเรียกรอยยิ้มจากชายสูงอายุ เขาย่อตัวลงจนอยู่ระดับเดียวกับเด็กน้อย วางฝ่ามือหนาลงบนฮู้ดสีแดง 
     
    “ก็...หลอกให้เขากลัวเราไปเลยสิ”
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    11:08 PM
     
     
     
    “แฮ่ก... ได้ขนมมาเยอะแยะเลย! กลับกันได้แล้วมั้งเนอะ!” เด็กหนุ่มในชุดกล้วยสีเหลืองสดเอ่ยอย่างร่าเริงหลังจากเช็คจำนวนลูกกวาดในตระกร้าสาน 
     
    ปาร์คจีมินกับเพื่อนในโรงเรียนใหม่เดินเคาะประตูบ้านทุกหลังในหมู่บ้านจนกระทั่งสิ้นสุดที่หลังสุดท้าย จำนวนขนมหวานที่ได้มานั้นเยอะถึงขนาดกินได้เป็นสัปดาห์เลยทีเดียว
     
    ทว่า… ขณะตั้งใจว่าจะกลับบ้าน เด็กน้อยปาร์คจีมินดันเกิดปัญหาขึ้นเสียก่อน
     
    “เอ่อ... วี จ...จีมินปวดฉี่...” นิ้วเล็กของผีท่านเอิร์ลสะกิดแผ่วเบาที่ไหล่ เพราะอุณหภูมิที่ต่ำกว่าบ้านเกิดอยู่มากทำให้ยากต่อการปรับตัว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขามักจะปวดฉี่อยู่บ่อยครั้งต่อวัน
     
    “ทนไหวหรือเปล่า วิ่งกลับไปอีกห้าหลังก็เป็นบ้านเราแล้ว”
     
    “ม...ไม่ไหว” ผีท่านเอิร์ลส่ายหัวด้วยท่าทางเป็นกังวล 
     
    หัวกลมหันซ้ายขวามองหาเส้นทาง จนกระทั่งมองเห็นต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงสุดทางเดิน 
     
    “จีมินจะไปฉี่ตรงนั้นนะ วีรอจีมินได้มั้ย” 
     
    “อ้อ ได้สิ เดี๋ยวนั่งเฝ้าตรงนี้แหละ!” เด็กกล้วยพยักหน้าเข้าใจ ทิ้งตัวนั่งลงกลางถนนดิน หันหลังให้กับต้นไม้ที่ห่างออกไปหลายสิบเมตร หยิบลูกกวาดขึ้นมาแกะแล้วโยนใส่ปากอย่างไม่คิดอะไร
     
    “ขอบคุณนะ” ท่านเอิร์ลตัวน้อยเอ่ยอย่างเกรงใจ รีบวิ่งไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่ แขวนตะเกียงฟักทองกับตะกร้าสานไว้บนกิ่งไม้แล้วสะบัดผ้าคลุมสีแดงไปด้านหลัง รูดซิปกางเกงผ้าสีกรมท่าขาสั้น ก่อนจะทำธุระของตัวเอง 
     
    ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อย เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะเลยนะเพียงแต่ว่านี่มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาวิ่งเล่นในหมู่บ้านจนดึกดื่นขนาดนี้ แถมอากาศก็เย็นเจี๊ยบซะด้วย
     
    แกรก!
     
    เสียงแปลกประหลาดทำให้เด็กน้อยที่กำลังรูดซิปกางเกงขึ้นสะดุ้งโหยง ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อพบว่ากิ่งไม้ที่แขวนตะกร้ากับตะเกียงไว้นั้นกำลังจะหัก 
     
    “อ้ะ..!”
     
    จีมินเอื้อมมือคว้าหูตะกร้าเอาไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ลูกกวาดทั้งหมดร่วงหล่นออกมาพร้อมกับตัวของเด็กน้อยที่พุ่งถลาไปข้างหน้า กลิ้งไปตามแนวเนินลาดชันของพื้นที่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ จีมินได้ยินเสียงร้องของวีดังแว่วมาข้างหลังก่อนที่ร่างของเขาจะกระแทกกับโขดหินเบื้องล่าง
     
    ปั่ก!
     
    เพล้ง! 
     
    เสียงตะเกียงฟักทองแตกละเอียดพร้อมกับแสงสว่างสุดท้ายที่หายไป
     
     
     
    “โอย...”
     
    เหมือนหัวสมองจะดับวูบไปครู่หนึ่ง เด็กน้อยนอนแน่นิ่งอยู่แบบนั้นก่อนจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่า หันกลับไปทางแนวลาดชันก็มองไม่เห็นแสงไฟจากท้ายหมู่บ้าน
     
    ยิ่งไปกว่านั้น... ลูกกวาดในตะกร้าก็พาลตกหายไปในความมืด ฮาโลวีนครั้งนี้เขาไม่เหลือของหวานแม้แต่ชิ้นเดียว
     
    เด็กน้อยหยิบตะกร้าสานพลางลุกขึ้นอย่างเสียใจ เท้าเล็กในรองเท้าคัทชูหนังขัดเงาสีน้ำตาลไม่กล้าเคลื่อนไหว เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าท้ายหมู่บ้านมีเนินชันแบบนี้ด้วย ที่สำคัญ...
     
    เขาไม่รู้เลยว่าเบื้องล่างเนินลาดชันนั้นจะมีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่อย่างที่ปรากฏให้เห็นในตอนนี้
     
    ฟันขาวขบลงที่ริมฝีปากล่างอย่างชั่งใจ เขาควรไปขอความช่วยเหลือจากคนในคฤหาสน์หลังนั้นให้พาเขากลับไปส่งที่หมู่บ้าน คิดได้ดังนั้นเท้าเล็กก็เริ่มออกเดิน อากาศหนาวเย็นทำให้ร่างกายเขาแข็งไปหมด กว่าจะกลั้นใจเดินมาจนถึงหน้าประตูบานใหญ่ก็ใช้เวลาไปเยอะพอสมควร
     
    ก๊อก ก๊อก
     
    กำปั้นน้อยเคาะที่ประตูบานหนา มืออีกข้างกระชับตะกร้าสานไว้แน่น มีเพียงความเงียบงันที่ตอบกลับมา เด็กน้อยเกือบท้อใจแล้วถ้าหากไม่ได้ยินเสียงลากฝ่าเท้าดังขึ้นอีกฟากประตูเสียก่อน 
     
    ครึ่ก...
     
    ประตูบานใหญ่ส่งเสียงเล็กน้อย จีมินเดินถอยหลังเมื่อประตูถูกดันมาด้านหน้า ท่ามกลางความมืดมิดภายในคฤหาสน์ มีร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งยืนอยู่
     
    ผิวสีขาวซีดตัดกับเส้นผมสีดำขลับและเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด ใบหน้าหล่อเหลาต่างจากผู้คนในอังกฤษทำให้เด็กน้อยใจกระตุกวูบ ห่อลูกกวาดสีแดงในมือของชายคนนั้นดึงดูดสายตาท่านเอิร์ลตัวน้อยได้เป็นอย่างดี จีมินหลุบตามองตะกร้าสานว่างเปล่าของตัวเอง
     
     
     
    ‘เอ่ย ‘Trick or Treat’ เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมา... ‘Treat’ คือการยอมแพ้แล้วเอาของหวานให้เรา เข้าใจใช่มั้ย?’
     
     
     
     ฉับพลันคำพูดของคุณปู่ก็แว่วเข้ามาในหัว ยังไม่ทันได้ประมวลอะไรริมฝีปากอิ่มก็เปล่งเสียงออกไปเสียแล้ว 
     
    “T…Trick or Treat?”
     
    “...”
     
    เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏที่มุมปากชายหนุ่มร่างสูง ดวงตากลมสบตากับอีกฝ่ายอย่างคาดหวัง อดตื่นเต้นไปกับทุกวินาทีที่ว่างเปล่าไม่ได้ 
     
    ในที่สุดการรอคอยของเด็กน้อยก็สิ้นสุดลงเมื่อเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมา
     
    “Trick.”
     
    คำตอบที่ไม่คาดฝันทำให้เด็กน้อยใจเต้นไม่เป็นส่ำ ตลอดทางเดินทั่วหมู่บ้านมีไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่เอ่ยคำนี้กับเขา และที่ผ่านพ้นมาได้ก็เพราะการแสดง ‘ผีหลอก’ ของวีทั้งนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผีกล้วยสีเหลืองได้ของหวานเยอะกว่าเขา
     
    เด็กน้อยเม้มปากอย่างคิดไม่ตก พยายามคิดภาพการแสดงของเพื่อนสนิทแล้วเริ่มขยับมือไม้ตาม 
     
    “ถ... ถ้าไม่อยากโดนกินล่ะก็ เอาขนมนั่นมาให้ข้าซะ!” ผีท่านเอิร์ลชี้นิ้วออกคำสั่ง เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่หน้าผากทั้งที่อากาศหนาวจัด คงไม่ต้องบอกเลยว่าเขาประหม่าขนาดไหนที่ต้องมาแสดงท่าทีตลกๆ โดยที่มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องไม่ห่าง
     
    ชายร่างสูงลอบยิ้มไม่ให้เด็กน้อยเห็น จมูกเล็กเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอากาศหนาว ถ้ามองดีๆจะเห็นว่าร่างเล็กนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว
     
    ช่างเป็นผีที่ไม่น่ากลัวเอาเสียเลย...
     
    ถ้าจะให้พูดก็คง ‘น่ารัก’ มากกว่าล่ะมั้ง
     
    กลิ่นหอมอันบริสุทธิ์กำลังดึงดูดเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
     
    ชายร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าเด็กตัวน้อยจนสายตาอยู่ระดับเดียวกัน ดวงตากลมเลี่ยงที่จะสบตาด้วยความตื่นเต้น ฝ่ามือชื้นเหงื่อขยำชายกางเกง
     
    “Treat.”
     
    สิ้นเสียงนุ่ม รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเด็กน้อยเมื่อลูกกวาดในห่อสีแดงถูกยื่นมาตรงหน้า 
     
    “ผ...ผมได้แล้วเหรอ?”
     
    “อื้อ”
     
    “ขอบคุณครับ!” ท่านเอิร์ลตอบรับอย่างอารมณ์ดี มือเล็กหยิบห่อลูกกวาดไปกำไว้แนบอก ชายร่างสูงมองตะกร้าสานที่ว่างเปล่าแล้วเอ่ยถาม
     
    “ไม่ได้ของหวานเลยเหรอ?”
     
    “มัน...หล่นหายไปหมดแล้วล่ะครับ” ดวงหน้าสดใสหม่นลงเล็กน้อย ยังไงของหวานก็ย่อมเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆอยู่แล้ว 
     
    แต่ปาร์คจีมินจะรู้ไหมว่าการที่ทำใบหน้าสิ้นหวังแบบนั้นต่อหน้า ‘เขา’ คนนี้แล้วมันเป็นสิ่งที่พลาด ยิ่งกลิ่นหอมอันบริสุทธิ์เหมือนกุหลาบขาวเพิ่งผลิบานส่งกลิ่นฉุยออกมายามอยู่ใกล้กันเช่นนี้มันยิ่งทำให้เขาอดใจไม่ไหว
     
    คงจะปล่อยให้ท่านเอิร์ลตัวน้อยกลับบ้านไปมือเปล่าไม่ได้เสียแล้ว...
     
    “ถ้าอยากได้ของหวานเพิ่มอีกล่ะก็...”
     
    “...”
     
    “เข้ามาข้างในสิ มีอีกเยอะเลย”
     
    ถึงจะระมัดระวังขนาดไหน สุดท้ายหนูน้อยหมวกแดงที่ไร้เดียงสาก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคุณหมาป่าวันยังค่ำ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ภายในตัวคฤหาสน์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ตอนแรก เด็กน้อยถอดผ้าคลุมสีแดงพาดไว้กับพนักโซฟาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง ต้นขาแนบชิดกันอย่างเรียบร้อยพร้อมกับประสานมือไว้บนตัก ข้างกายมีตะกร้าสานที่บรรจุลูกกวาดห่อสีแดงวางอยู่ 
     
    ชายหนุ่มเดินหายไปทิ้งเด็กน้อยไว้ในห้องโถงกว้าง แสงไฟสีส้มนวลรับกับเตาผิงติดผนังที่แผ่ไออุ่นออกมาทำให้ร่างกายที่สั่นเทาในตอนแรกนิ่งสงบ เด็กน้อยนั่งรอของหวานอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งชายคนนั้นเดินกลับมา ย่อตัวลงที่พื้นตรงหน้า ในมือมีลูกกวาดถุงใหญ่
     
    “คุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
     
    เด็กน้อยเอียงคอถาม ถึงจะไม่รู้จักกันแต่ชายคนนี้ก็ใจดีกับเขา 
     
    รอยยิ้มถูกจุดขึ้นที่ริมฝีปากบาง ชายชุดดำวางถุงลูกกวาดไว้ในตะกร้าสาน หยิบเม็ดสีแดงที่วางอยู่ก่อนหน้านั้นขึ้นมาคลี่ห่อออกอย่างใจเย็น
     
    “จอน จองกุก”
     
    “ผมชื่อปาร์ค จีมิน เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่นานนี้เอง ฝากตัวด้วยนะครับ”
     
    จอนจองกุกยิ้มรับน้ำเสียงสดใสของเด็กชาย แกะลูกกวาดออกมาจากห่อยกขึ้นจรดริมฝีปากตัวเองท่ามกลางสายตาสงสัยของเด็กน้อย 
     
    จีมินไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไป อดแปลกใจไม่ได้-- ลูกกวาดเม็ดนั้นไม่ได้ให้เขาแล้วหรอกเหรอ? หรือว่าคุณจอนจะแลกมันกับลูกกวาดถุงใหญ่นั่น… ดวงตากลมโฟกัสที่ลูกกวาดสีแดงบนริมฝีปากแดงไม่แพ้กัน ก่อนที่มันจะค่อยๆ ผลุบเข้าไปในโพรงปากของชายหนุ่มเมื่อฟันขาวเกี่ยวมันเข้าไป 
     
    เด็กน้อยลอบกลืนน้ำลาย ดวงตาสั่นไหวไม่รู้จะมองที่ตรงไหนจนกระทั่งมือเย็นเฉียบวางแนบที่ท้ายทอย ปลายนิ้วนวดคลึงเนื้อผิวแผ่วเบา
     
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ร่างสูงเข้ามาประชิดตัวขนาดนี้ ลำตัวหนาแทรกระหว่างต้นขาทั้งสองข้างที่แยกออกจากกัน เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงหน้าท้องแข็งแรง กายเล็กสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอากาศหนาวแต่เป็นสายตาคู่นั้น…
     
    “คุณจอน--”
     
    “ลูกกวาดน่ะ...”
     
    “...”
     
    “ถ้าอยากได้รส ‘หวาน’ กว่าที่เคยเราต้องเปลี่ยนวิธีกินเสียใหม่” 
     
    รอยยิ้มบางปรากฏที่ริมฝีปากสวยก่อนที่มันจะหายไปเมื่อคุณจอนทาบทับริมฝีปากลงมา ลมหายใจของท่านเอิร์ลตัวน้อยขาดห้วง ลืมแม้กระทั่งวิธีหายใจเมื่อฟันคมของอีกฝ่ายเกี่ยวเบาๆที่ริมฝีปากล่าง 
     
    กลิ่นหอมของลูกกวาดรสราสเบอรี่กระทบจมูกยามที่จอนจองกุกบดเบียดริมฝีปากเข้าหา มือเย็นเฉียบกดท้ายทอยของเด็กน้อยไว้ในขณะที่อีกข้างก็โอบเอวบางรั้งเข้าหาตัว มือเล็กสั่น รู้สึกเคว้งคว้างต้องการที่พึ่ง ก่อนจะตัดสินใจวางลงบนไหล่ชายหนุ่ม ออกแรงขยำเสื้อเมื่อลิ้นร้อนแตะที่รอยแยกของริมฝีปาก 
     
    กลิ่นราสเบอรี่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิมเมื่อกลีบปากเล็กเผยอต้อนรับเรียวลิ้นของอีกฝ่าย สัมผัสได้ถึงสองลิ้นที่แตะกันภายในริมฝีปากก่อนที่วัตถุกลมๆจะถูกส่งเข้ามาพร้อมกัน ความหวานแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น ลูกกวาดสีแดงมาอยู่ในโพรงปากแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ผละออกไป น้ำใสไหลออกมาจากมุมปากเล็กของเด็กน้อย เรียวขาไขว้เกี่ยวรอบเอวของร่างสูงดึงรั้งให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น 
     
    มีเพียงเสียงครางงึมงำในลำคอของเด็กน้อยดังแข่งกับเสียงจูบลึกซึ้งท่ามกลางห้องเงียบ ลมหายใจถูกส่งผ่านทางริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชายหนุ่มดูดดุนกับลิ้นเล็กและละเลียดชิมความหวานของลูกกวาดอยู่นานจนขนาดของมันเล็กลงเรื่อยๆ กลิ่นหอมของราสเบอรี่ยังคงคลุ้งอยู่ในโพรงปากที่หอมหวานไม่แพ้กัน 
     
    หัวใจดวงเล็กเต้นไม่เป็นส่ำในอกข้างซ้ายที่แนบชิดกับแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม ฝ่ามือเย็นเลื่อนลงจากเอวบางไปยังบั้นท้าย บีบเค้นแรงๆจนเด็กน้อยร้องครางฮือ
     
    ในที่สุด... ลูกกวาดสีแดงก็ละลายหายไป สองริมฝีปากยังคงเชื่อมติดกัน ลำคอขาวมีเส้นทางของน้ำใสเลื่อนไหลมาจากมุมปาก จอนจองกุกถอนลิ้นออกมาอย่างเสียดาย กดจูบหนักๆอีกครั้งแล้วแตะริมฝีปากค้างไว้กับปากนุ่มของท่านเอิร์ลตัวน้อยที่แทบละลายเหมือนดั่งลูกกวาด 
     
    “หวานหรือเปล่า?”
     
    “...” เด็กน้อยหน้าแดงก่ำผงกหัวช้าๆ ปลายจมูกและริมฝีปากเสียดสีทุกการเคลื่อนไหว สองสายตาประสานท่ามกลางความเงียบ แลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน ชายหนุ่มยกยิ้ม บดเบียดริมฝีปากสีเชอรี่อีกครั้งอย่างร้อนแรงกว่าเก่าก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาไล้เลียหยาดน้ำหวานตามลำคอขาว มือที่จับท้ายทอยเปลี่ยนมาวางอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของเด็กน้อย บีบเค้นอย่างไม่เบาแรงผ่านเนื้อผ้า ปล่อยให้คนตัวเล็กทิ้งคางลงบนศีรษะของเขาแล้วส่งเสียงร้อง
     
    ราวกับเสียงกังวานของนกตัวน้อยที่ร้องเพลงในยามเช้า อยากได้ยินมากกว่านี้... 
     
    จอนจองกุกเบียดกายเข้าหาตามแรงรั้งของต้นขาเล็ก หน้าท้องแนบชิดกับกลางลำตัวของเด็กน้อย ขยับกายเคลื่อนไหวจงใจเสียดสีเพื่อจะได้ยินเสียงใสร้องดังกว่าเดิม
     
    “อึก... คุณจ...จอน...”
     
    “ครับ?”
     
    “จีมิน... จีมินปวดฉี่...” เด็กน้อยครางฮือ น้ำตาใสไหลออกมาจากดวงตากลมกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่มากเกินไป สติกำลังพร่ามัวลงทุกทีกับความสุขเหลือล้นที่ได้รับ
     
    “ไม่ใช่ฉี่หรอกครับเด็กน้อย ปล่อยมันออกมาเลย” จองกุกเอ่ยขณะที่ริมฝีปากยังหมุนวนอยู่ตามลำคอ จีมินส่ายหัวรัวพลางร้องไห้จนตัวสั่น
     
    “ม...มันจะสกปรก ฮึก... คุณจอน ให้จีมินเข้าห้องน้ำก่อน”
     
    ไร้เสียงตอบรับจากร่างสูง จีมินร้องเสียงสั่นเครือเมื่อมือหนาสะกิดที่จุดยอดของแผ่นอก สองนิ้วบีบเค้นคลึงเสียจนใจหาย ฟันคมขบที่ต้นคอขบเม้มเบาๆไม่ให้ทิ้งรอย เอวหนายังคงเสียดสีกับส่วนอ่อนไหวจนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของโซฟา ในที่สุดเด็กน้อยก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป กายเล็กสั่นสะท้าน ขยุ้มไหล่ชายหนุ่มแน่นแล้วปลดปล่อยออกมา 
     
    จีมินซบหน้าลงไปที่ไหล่กว้าง แขนเล็กโอบกอดลำตัวของชายหนุ่มชุดดำ
     
    “ฮึก... ขอโทษ จีมินขอโทษ”
     
    “ขอโทษทำไมครับ จีมินไม่ได้ทำผิดเสียหน่อย” มือหนาลูบเส้นผมสีบรูเน็ตแผ่วเบาก่อนจะประคองใบหน้าเล็กให้สบตากัน ประทับจูบที่ดวงตาช้ำ ไล่ลงมาตามสันจมูก จนถึงริมฝีปากบวมเจ่อ ดวงตากลมปรือปรอยใกล้หมดสติลงทุกที เมื่อกี้ราวกับยกทุกอย่างออกมาจนหมด บางทีสิ่งที่เขาปล่อยออกมาอาจจะไม่ใช่ฉี่อย่างที่คุณจอนบอกก็ได้
     
    จอนจองกุกปล่อยร่างเด็กน้อยให้พิงกับโซฟา จีมินปรือตาที่หนักอึ้งมองอย่างสงสัยก่อนจะกระตุกกายเมื่อร่างสูงโน้มตัวลงมาฝังใบหน้าที่ต้นขา ไล้สันจมูกโด่งจนทั่วราวกับกำลังสูดดมกลิ่น ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะมอบจูมพิตร้อนระอุลงบนต้นขาด้านในที่โผล่พ้นชายกางเกง แรงดูดดุนหนักหน่วงทำให้เด็กน้อยหลุดร้องออกมาอีกครา เสียงใสแหบแห้งจนแทบกลืนหายไปกับอากาศ แต่จอนจองกุกกลับได้ยินมันชัดเจน 
     
    หลังจากลังเลอยู่สักพัก มือน้อยอันสั่นเทาก็เอื้อมมาลูบไล้เส้นผมสีดำขลับของคุณจอนแผ่วเบา รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่ริมฝีปากบวมเจ่อ
     
    “ขอบคุณนะครับ”
     
    “สำหรับ?”
     
    “ลูกกวาด...”
     
    “...”
     
    “แล้วก็...ทุกอย่าง...”
     
    ชายหนุ่มยกยิ้ม มองเด็กน้อยหอบหายใจก่อนที่ดวงตาปรือปรอยจะค่อยๆปิดลงอย่างเชื่องช้า เข้าสู่ห้วงนิทรา
     
    “ราตรีสวัสดิ์ท่านเอิร์ลตัวน้อย”
     
    ถ้าหากเลือกได้ก็ไม่อยากให้มันจบลงตรงนี้ แต่จอนจองกุกรู้ดี...
     
    เขามีเวลาอยู่ที่นี่แค่ ‘วันฮาโลวีน’ วันเดียวเท่านั้น...
     
    “ยินดีที่ได้รู้จัก”
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “คุณจอน...”
     
    “จีมิน! ได้สติแล้วเหรอ!”
     
    สำเนียงอังกฤษคุ้นหูปลุกเด็กน้อยจากนิทรา ดวงตากลมกระพริบซ้ำไปซ้ำมาเพื่อปรับรับกับแสงไฟในห้องก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นวีกับคุณปู่เฝ้ามองมาอย่างเป็นห่วง
     
    “บ้าจริงๆเลย! ตั้งแต่ตกเนินไปก็ไม่ฟื้นสักที ห่วงแทบแย่น่ะรู้มั้ย!” วีในชุดกล้วยเปื้อนคราบฝุ่นปีนขึ้นเตียงมาเขย่าไหล่จีมินรัวๆ ดวงตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
     
    เด็กน้อยที่ยังมึนงงมองไปยังนาฬิกาดิจิตอล
     
     
    01:13 AM
     
    November 1th, 2015
     
     
    ตีหนึ่งของวันใหม่แล้ว... สิ้นสุดวันฮาโลวีน
     
    เด็กน้อยมองหาตะกร้าสานก่อนจะพบว่ามันอยู่บนโซฟาปลายเตียง ถุงลูกกวาดถุงใหญ่ในนั้นหายไป จีมินขมวดคิ้ว
     
    “ลูกกวาดของจีมินล่ะ...”
     
    “หล่นหายไปหมดแล้วตอนที่นายตกเนินนั่นแหละ ถ้าอยากกินเอาของฉันไปก็ได้”
     
    “ม...หมายถึงลูกกวาดถุงใหญ่ๆต่างหาก” จีมินพยายามอธิบายแต่เหมือนว่าวีจะไม่เข้าใจเลยสักนิด
     
    “ได้มาที่ไหนกันล่ะ...”
     
    เขารู้สึกใจหายแปลกๆ เด็กน้อยมองใบหน้างงงวยของวีและคุณปู่สลับกันไปมาก่อนจะถามออกไป
     
    “ล...แล้วคุณจอนล่ะครับ...”
     
    “คุณจอน??”
     
    “วีไม่เห็นเขาเหรอ ตอนจีมินตกลงมาจีมินก็เดินไปที่บ้านเขา บ้านเขาอยู่ข้างหลังเนินนั่นไง คฤหาสน์หลังใหญ่ๆ”
     
    จีมินมองใบหน้าของเพื่อนที่มองเขาเหมือนตัวประหลาด เขาพูดอะไรผิดตรงไหน... วีหันไปมองหน้าคุณปู่อย่างขอความเห็น คุณปู่ทิ้งตัวนั่งลงที่ขอบเตียงอีกฝั่ง ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีบรูเน็ตแผ่วเบา
     
    “ตอนปู่กับวีไปเจอก็เห็นเราน่ะนอนฟุบอยู่ตรงโขดหินข้างล่างเนินนั่นแหละ เราคงจะฝันไปเองหรือเปล่า”
     
    “จีมินไม่ได้ฝันนะครับ คฤหาสน์หลังนั้น...”
     
    “มันเคยมี”
     
    คำว่า ‘เคย’ ที่ออกมาจากปากของคุณปู่ทำให้เด็กน้อยใจหายวาบ หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปเสียดื้อๆ 
     
    “...ก่อนที่มันจะถูกรื้อทิ้งไปทั้งหลัง นั่นเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วตั้งแต่สมัยปู่ยังหนุ่มแน่ะ ถ้าเจอคฤหาสน์หลังนั้นจริงๆ เราคงโดนผีหลอกแล้วล่ะมั้ง”
     
    เหมือนจะเป็นการพูดขำๆ วีที่ฟังอยู่ก็ทำท่าขนหัวลุกแล้วหัวเราะออกมา เสียงล้อเลียนว่า ‘จีมินเจอผีเข้าแล้ว’ ดังออกมาจากปากเพื่อนสนิทไม่ขาดสาย มือเล็กกำชายกางเกงแน่นจนกระทั่งวีกับคุณปู่ออกไปจากห้อง จีมินก็ยังนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น มองตะกร้าสานที่ว่างเปล่าและชุดท่านเอิร์ลเปื้อนฝุ่นที่ตัวเองสวมใส่อยู่
     
    ไม่มีรสชาติหวานของลูกกวาดราสเบอรี่หลงเหลือที่ปลายลิ้น
     
    ไม่มีคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ด้านล่างเนินชัน
     
    ไม่มี… คุณจอนคนนั้น?
     
    เด็กน้อยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะผ่อนออกมาอย่างเชื่องช้า มือเล็กที่กำอยู่บนหน้าขาสั่นเล็กน้อย
     
    จีมินเป็นคนกลัวผี กลัวมาก
     
    แต่ว่า...
     
    ผีแบบคุณจอนน่ะ... ไม่กลัวเลยสักนิด
     
    "เฮ้อ..."
     
    จมูกเล็กพรูลมหายใจหนักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายเปื้อนฝุ่น ขณะที่ดึงกางเกงขาสั้นลงจากเรียวขา ดวงตากลมก็สะดุดเข้ากับร่องรอยสีแดงที่เด่นชัดขึ้นมาบนต้นขาด้านใน
     
    เพียงแค่มองเห็น ความรู้สึกของริมฝีปากร้อนยามดูดดึงที่เนื้อผิวตรงนั้นก็ลอยกลับเข้ามาในห้วงความคิด ความเจ็บแปลบและอุ่นร้อนยังคงชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่
     
    เด็กน้อยอมยิ้มกับตัวเอง
     
     
    ฮาโลวีนปีแรกในอังกฤษ ดูเหมือนเด็กน้อยปาร์คจีมินจะโดน ‘ผีหลอก’ เข้าเต็มเปาเลยล่ะ...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    End♡
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    โคตรรรรรโชตะะะะ55555 จีมินอายุสิบสี่แล้วคุณจอนอายุเท่าไหร่.. ถ้าไม่ใช่ผีงานนี้มีคุกนะคะทั่น
    ขอโทษนะคะที่หายไปนานมาก เพื่อนยืมแมคไปปั่นงานบวกกับช่วงนี้ติดสอบด้วยเลยแต่งฟิคไม่ได้ ฮืออออออ อย่าเพิ่งหนีหายเค้าไปนะ /รีดบอกเลิกรอนานละ แง หมดเรื่องแล้วจะรีบปั่นอย่างไวเลยค่ะ อยากแต่งเหมือนกันแต่แต่งในโทสับแล้วมันไม่ได้ฟีล /sfนี้ก็แต่งในโทสับแมะ55555555 อ่านคั่นเวลาไปก่อนนะคะ ฮื่อ ไปแยะ ;A;
     
     
    ปล.เวลาเราเข้ามาแก้ไขคำผิดจะจั่วหัวที่ชื่อตอนไว้ว่า edit นะคะจะได้ไม่ต้องเสียเวลากดเข้ามาอ่านกัน ฮริ้ง
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×