คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : the true story [ ความจริง ]
ซาวาดะ สึนะโยชิกำลังยืนอึนมึนอยู่ที่หน้
ถ้าจะให้ย้อนความกลับไปก็คงเป็
แล้วเขาก็พบกับ เซเซรินะ โย มนุษย์ผู้ชายที่ตั้งแต่มั
กลับเข้าเรื่อง..... ไอ้มนุษย์ผู้ชายผมน้ำตาลแดงที่
"นายมาที่นี่ทำไม"สึนะกระพริ
โยยิ้มแหยๆให้เขาอีกครั้งก่
"คือว่านะ...."
สาเหตุใหญ่ๆที่โยบุกมาถึงบ้
ไม่นานนักมือขวาหน้าเดิมของริ
"เชิญครับ ตามผมมาเลย"
"เย่ คุณแรมโบ้อยากกินแล้ววว ฮ่าๆๆ"แรมโบ้ก็ยังคงดี้ด้าน่
อาเบะพาพวกเขาเข้ามานั่งในห้
"=_="
"อ้าว สวัสดีวองโกเล่มาสิครับ นั่งก่อนอาเบะไปบอกให้คุณคุ
ซึ่งก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่
"ไหงมีแค่แกคนเดียวฟะ"ฮิบาริ
"อ้อ พอดีว่าโซยุกำลังจัดการน้
เมื่อชามาเสริพก็เป็นมารยาทปกติ
"อ้าว!! มากันแล้วเหรอ"เสียงหวานใสที่
ปรากฎร่างของหญิงสาวหน้
"สวัสดีครับ"สึนะโค้งคำนับเล็
"สวัสดีจ๊ะ ชั้นชื่อโซยุกิ เราคงพึ่
"แล้วไอ้พวก...เอ้ย พวกเลนอยู่ไหนล่ะครับ"โกคุ
"แหมม จะรีบเร่งอะไรกันนักหนายะ เจ้าภาพงานเขาก็ควรมีการเตรี
"แต่นี่มันงานคุณโซยุตะหากละกรี
"ก็เหมือนงานของไอ้พวกนั้นด้
"ก็ไม่ได้แต่งตัวอะไรไม่ใช่เหรอ ชุดปกตินิ ก็แค่ยังทำใจจะออกมาไม่ได้
"พวกมันอะทำใจได้ปกติของพวกมั
"ชั้นว่ามีช็อค"
"พวกเธอพูดบ้าอะไรกันเนี้ย"โกคุ
"เดี๋ยวก็รู้"ทั้งสี่หัวเราะปิ
เมื่อหญิงสาวทั้งสี่ออกไปไม่ทันจะถึงนาที แม้แต่ช่วงจังหวะหายใจยังไม่ทันทั่วท้องดี อยู่ๆห้องญี่ปุ่นก็ไฟดับวูบลงก่อนที่ความหนาวเย็นจนถึงไขสันหลังก่อนตัวขึ้นก่อนที่ไฟจะกระพริบถี่ๆจนสุดท้ายก็กลับมาติดอีกครั้ง
"แหม งานเลี้ยงนี่น่าสนุกจังน้า~~~~
"ขยับ..ไม่ได้..แกทำอะไร"ชายหนุ่มกัดฟันกรอดร่างกายพยามต่อสู้
"อยู่ๆก็ฟาดของอันตรายแบบนี้ใส่
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของสึนะเบิ
"แก!!!"โซยุกิทำท่าจะพุ่งเข้
"ขะขอโทษที่คุณวิเวียนอยู่ๆก็บุ
ในขณะที่คนในห้องรวมทั้งสึนะได้
"คุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วต้องการอะไรครับ"ริ
"มาทำตามสิ่งเธอชั้
"ตอนนั้น..."
" ที่ว่า เจอกันคราวหน้า ทุกอย่างจะกระจ่างชัด ไงล่ะจ๊ะ"วิเวี
"แล้วเด็กๆพวกนั้นไปไหนละ เราควรจะต้องคุยกันอย่างพร้
"ขอโทษนะสึนะที่ทำให้พวกเธอเสี
"ไม่ได้สิ เพราะว่า ไม่ งั้น มัน จะ ไม่ พร้
"ใช่แล้วตอนนี้องค์ประกอบครบแล้
"ดื่มน้ำก่อนสิเดี๋ยวเราต้องพู
"ก่อนอื่นก็องค์ประกอบหลักอีกสี่ชิ้น"วิเวียนหลับตาพูดขณะที่
"เอาล่ะนายวองโกเล่ทั้งหลาย เตรียมตัวเตรียมใจช็อคค้างได้
............................
.......................
..................
.............
.......
...
.
โรคุโด มุคุโร่ ไม่รู้จะอธิบายสถาณการณ์
"พรู้ดดดดดดดด"โกคุเดระถึงกับพ่
เปรี๊ยะ! ฮิบาริที่กำลังถือถ้วยชาดิ
"นายแต่งหญิงอีกทำไมติดใจเหรอ-_
"เฮีย ทำไมยัยแม่มดนี่ถึงอยู่ที่นี่"
คนที่ดูจะปกติที่สุดคงเป็
ชินตวัดเสียงถามรินโดด้วยเสี
"เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน จัดการธุระของพวกแกให้เสร็จซะ"
"งะ งั้นก็ อะแฮ่ม!"โยทำเสียงกระแอ่มเหมื่
"สวัสดี"ทั้งสี่ก้มลงเล็กน้
"ชั้นชื่อเซเซรินะ โยรุ เป็นน้องสาวแท้ๆของพี่โซยุกิ หรือพวกนายคงจะจำได้ในชื่อ โย มากกว่า"โยพูดพลางยกรอยยิ้มแหยๆให้พวกมุคุโร่แก้มใสแดงขึ้นเล็กน้อยไม่แน่ใจว่าเป็นความประหม่าหรืออายกันแน่แต่เนื้อหามันฟังดูแปลกๆเนาะ....อ้อ โยเป็นผู้ชายที่เป็นน้องสาวของโซยุกิ..อ้อ....ห๊ะ...ว่าไงนะ ขอรีบูธเครื่องในสมองใหม่อีกรอบได้ไหมครับ?!
"ชั้นชื่อคุคาบาระ ซาโย หรืออีกชื่อก็เซย์ตามที่
"ชั้นโอคิตะ เรนะเป็น...ผู้หญิงไม่มีดุ้นแต่อย่างใด-v-"เลนเองก็ยืดอกพูดอย่างเหมือนจะภูมิใจ
"..........."
และแล้ว บรรยากาศในห้องเริ่มดูเพี้
"ชั้นยามานิชิ ชินิ เป็นน้องสาวแท้ๆของเฮียรินถึงจะไม่ค่อยเหมือนก็เถอะนะ"ชินยกรอยยิ้มที่เรียกว่าถอดแบบมาจากรินโดให้เขาก่อนจะเอานิ้วเกาแก้มตัวเองแก้เก้อ
นับถอยหลังการสตั้นแปบนะครับผู้อ่านทุกคน....
1
2
3
"หาาาาาาาาาาาาา"เสียงของเหล่
"สุดขั้ววววว ผู้เหยงงง ผู้หญิงเต็มไปหมดเลยยยย เดี๋ยวชายเดี๋ยวหญิงละกลั
"นี่กะจะแกล้งอะไรกันอีก จะเล่นไร้สาระกันไปถึงไหนฮะ คุคาบาระ เซย์"ฮิบาริหรี่ตามองเซย์...ไม่สิ ซาโยอย่างจับผิด
"ก็บอกว่าให้เรียกร่างนี้ว่าเซย์โกะไงฮร้าาาา จะบ้าเหรอยะ ชั้นเป็นผู้หญิงจริงๆยะแล้วก็ชื่อซาโย ไม่ใช่เซย์แล้ว"ซาโยแยกเขี้ยวใส่ฮิบาริเล่นๆ โอเค....นับหนึ่งถึงสิบในใจซะมุคุโร่...ยอมรับเรื่องพวกนี้ให้ได้....
"ที่จริงแล้วก็สงสัยมาซักพักแล้วละ ฮะๆๆๆ ก็ว่าทำไมพวกนายเอ้ย พวกเธอหน้าหวานชะมัด แถมตอนโดนจับแต่งหญิงครั้งโน้นไม่เห็นเก้อเขินอะไรเลย"ยามาโมโตะหัวเราะร่าอย่างไม่แสดงความตกใจให้เห็นแม้แต่นิด นั่นทำให้บางทีผู้พิทักษ์สายหมอกก็แอบอิจฉาผู้พิทักษ์แห่งพิรุณว่าที่เป็นคนง่ายๆไม่คิดอะไรมาก(หรือมันมันไม่ได้คิดฟะ...)
"ยะ เลิกมองเพื่อนชั้นตาเป็นมันเลยนะยามาโมโตะ ทาเคชิ"แพมม่าพูดเสียงเขียว
"เอ๋? ชั้นก็มองปกตินี่ตาเป็นมันนี่คือะไร ฮะๆๆๆ"ยามาโมโตะยังคงหัวเราะอย่างไม่คิดมากในขณะที่แพมม่าทำหน้าถมึงทึงเป็นยักษ์เมื่อเห็นว่ายามาโมโตะยังคงทำหน้าเอ๋อๆมองพวกโยอยู่ ซึ่งมุคุโร่ก็ไม่ได้เห็นว่าไอ้ยามาโมโตะมันจะคิดอะไรเกินเลยไปไหนสักหน่อย .....ยัยเด็กแพมม่านี่เมื่อไหร่จะเริ่มรุกนะ เจ้าบ้าเบสบอลนี่นะบื้อจะตายไม่พูดไม่บอกมันจะไปรู้ใจเธอรึไง......
"ให้ตายสิ มิน่าถึงเป็นเปี๊ยกโหด"โกคุเดระถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะมองหน้าเรนะพลางยิ้มกวนอารมณ์ใส่คนที่นั่งตรงข้าม
"ว่า ใคร เปี๊ยก นะ ย้าาาาาา"เรนะคว้าผมสีควันบุหรี่ของโกคุเดระแล้วออกแรงทึ้งดึง
"โอ้ยย เจ็บนะยัยเปี๊ยกโหด"
"นี่นะเหรอที่พวกเธอทำตัวลับๆล่อๆให้ชั้นสงสัยมาตั้งนาน"สึนะหัวเราะเบาๆนัยน์ตาสีน้ำตาเข้มของเขาเปล่งประกายอย่างที่มุคุโร่ไม่ได้เห็นมานานแล้วตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน
"ก็ใช่นะสิ ตอนนั้นมันบอกได้ที่ไหนละก็ต้องบ่ายเบี่ยงสิยะ"โยรุขมวดคิ้วทำท่าเหมือนจะฉุนคนผมชี้แต่แก้มใสกลับเปลี่ยนเป็นสีชมพูเล็กน้อยเหมือนอับอายกับความไร้สาระที่ได้ทำลงไป
"เป็นผู้หญิงหมดเลยเหรอ"แรมโบ้โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ม ไอ้เด็กเวรใส่เสื้อยืดลายวัวตามคอนเซ็ปเดิมของต้นแม้จะผ่านไปสามปีแต่ความกวนส้นแบบเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ยังสติลติดตัวมันมาไม่ไปไหน
"ก็ใช่นะสิแรมโบ้"ซาโยฉีกยิ้มพร้อมทำตาแวววาวเหมือนจะกินเด็กวัวเข้าไปทั้งตัว
"ใจเย็นนะซาโยชั้นรู้ว่าแกชอบแรมโบ้แต่อย่าทำท่าโรคจิตแบบนั้นเด็กมันจะมีปมเอา"ชินิพูดพลางรั้งเพื่อนเอาไว้
"แต่พี่ผมฟ้าเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ"แรมโบ้พูดเสียงใสเล่นเอามุคุโร่หลุดขำออกมา
"หืม=_=!!!"ชินิชะงักก่อนหันมองมองเด็กวัวด้วยสายตาแววระยับเหมือนจะฆ่าเด็กได้
"พี่เป็นผู้หญิงเว้ย"ชินิตอบ
"ไม่เหมือนอะ พี่เป็นกระเทยใช่ป่ะ"แรมโบ้ทำหน้ากวนส้นพร้อมกับแคะขี้มูกไปด้วยยิ่งเรียกความน่าตื้บได้เป็นสิบเท่า
"เป็นผู้หญิงจริงๆโว้ย"ชินิกัดฟันพูด เธอเหลือบมองมุคุโร่ที่กำลังกลั่นขำแถมยังทำหน้าเยาะเย้ยเธอสุดชีวิต ใช่...เพราะว่าเธอนิสัยแมนมาก เสียงก็...ค่อนข้างห้าวกว่าผู้หญิงปกติ สูงก็สูงเพราะเชื้อยุโรป แถมยังผมสั้น....ไอ้ตอนที่ต้องปลอมตัวนะไม่รู้สึกอะไรหรอกแต่พอกลับมาเป็นผู้หญิงปกติก็ยังโดนว่าเป็นผู้ชายนี่มัน.....รู้สึกโดนหยามสุดๆเลยละค่ะ..
"ม่ายเชื่ออออ ไอ้ตู้มๆที่อยู่ตรงน่มน๋มนั่นยัดกระดาษไว้ใช่ม้า คุณแรมโบ้รู้หรอกน่า"
"ดะเดี๋ยว แรมโบ้ไปเอาคำพูดแบบนั้นมาจากไหน แล้วแกไปรู้มาได้ยังไงฟะ"โกคุเดระโว้ยวายในขณะที่สึนะหันมาจิกตามองแรมโบ้แบบจะเชือดวัวให้ตายซะตรงนั้น...แต่วัวรู้ไหม...ไม่ วัวไม่รู้
"ก็เวลาหม่าม้าไปข้างนอกบางทีหม่ามาก็ชอบเอาทิชชู่ไปยัดให้มันใหญ่กว่าเดิมนี่หน่..."
ตู้ม!
เฮือก! อยู่ๆก็มีเศษแก้วดินเผาที่แหลมมากๆฟุ่งมาปักอยู่ตรงโต๊ะบริเวณที่แรมโบ้นั่น เจ้าเด็กวัวและคนอื่นๆหันไปมองทิศทางที่มันพุ่งมา ก็เห็นชายหนุ่มว่าที่บอสคนต่อไปของวองโกเล่กำลังเอามือรวบเศษแก้วชาที่แตกไว้รวมๆกัน
"ขอโทษที่ทำแตกนะครับคุณรินโด แล้วก็นะ....แรมโบ้...พูดมากกว่านี้ไม่ดีละมั้ง...จริงไหม"ชายหนุ่มยกรอยยิ้มที่ดูใจดีแต่กลับแผ่รังสีอำมหิตออกมาอย่างน่าสะพรึงให้กับผู้พิทักษ์อัศนี
"อะ เอ่อ....เมื่อกี้แรมโบ้พูดอะไรเราไม่ได้ยินจริงๆนะครับรุ่นที่สิบ"โกคุเดระรีบแก้สถาณการณ์
"ใช่ๆ ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย"ทุกคนรีบตอบแทบจะทันที มุคุโร่หัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของคนที่บอกว่าจะเป็นมือขวาของบอสวองโกเล่ที่ลุกลี้ลุกลนจนน่าขัน
"แต่พี่หัวฟ้าเป็นกระเทยยัดนมจริงๆใช่ม้า=O="แรมโบ้พูดต่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำให้คนที่พยามช่วยตอนแรกเริ่มด่าในใจ...ไอ้เด็กเวรนี่ ไม่ช่วยแล้วเว้ย
"ไม่ได้ยัดโว้ยยยยยย ของจริงเว้ยยย"ชินิพูดอีกครั้งเพราะความที่เจ้าตัวเป็นคนห้าวๆอะไรก็ได้แค่เรื่องทะลึงลามก หรืออะไรที่ผู้หญิงน่ารักๆไม่ควรพูดเธอไม่เคยสนพูดหมด ฟังได้หมดแค่พูดเรื่องยัดนม เธอไม่มีทางกระดากปากอยู่แล้วแต่...
"ไอ้ชินี้ยยยย พูดดีๆ นมเนิ่มอะไรผู้ชายเต็มห้องเลย"โยรุฟาดแขนเธอดังป้าบแต่ชินิก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก
"งั้นก็โชว์ดิ อะโด่ ป๋อดอะจิกระเทย=O="ชิบหาย.....นี่คือคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวของสามสาวที่โตมาพร้อมๆกับชินิ จะด่าจะว่าอะไรชินิมันก็แค่โวยวายแปบๆมันก็ลืมขอแค่อย่างเดียวอย่าท้า!!!! แค่ตอนที่มีผู้ชายท้ามันต้อยมันก็พุ่งเข้าไปแบบไม่คิดแล้ว... ขออย่างเดียวจริงๆเพราะไอ้ผู้หญิงที่ชื่อชินินี่มันบ้าซ่อนรูปใครยุทำใครท้าทำ....
"อย่ามาท้านะเว้ย"ชินิพูดพลางทำท่าจะถกเสื้อขึ้น
โรคุโด โมุคุโร่สะดุ้งสุดตัวเมื่อร่างเพรียวผมฟ้าอยู่ๆก็ยืนขึ้นทำท่าจะถอดเสื้อออกมาจริงๆมือเรียวจับขอบเสื้อเอวลอยดึงขึ้นเรื่อยๆ ร่างสูงพุ่งข้ามโต๊ะไปคว่้าข้อมือของร่างบางแทบจะไม่ทัน ใจหายวาบไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"เฮ้ย"
"ทำบ้าอะไรของเธอวะ"มุคุโร่พูดเสียงดังลั่นจนเกือบจะเป็นเสียงตะวาด ใจที่หล่นไปอยู่ตาตุ่มยังไม่ทันจะปีนขึ้นมาอยู่ที่เดิมดีๆของมัน คราวนี้เส้นเลือดตรงขมับก็ถึงกับปูดขึ้นมาเมื่อเจอหน้าอ้อนเท้ามึนๆของชินิ
"ก็แค่แกล้งเท่านั้นละน่า ใครจะถอดจริงๆละ"แล้วคนผมฟ้าก็ฉีกยิ้มอ้อนเท้า ดูมัน....ดูมันยิ้ม น่าฟาดมากครับ...
"โอ้ย ใจหายใจขว่ำ ไอ้ชินิแกนี่มันน่านัก"เรนะถอนหายใจเฮือกใหญ่พอๆกับที่คนอื่นนั่งลุ้นตามถอนหายใจออกมา
"=..= สุดขั้ว"เรียวเฮย์ยกนิ้วให้ชินิขณะที่หน้าแดงก่ำ มุคุโร่พนันได้ว่าเจ้านักมวยบ้านี่ต้องเห็นอะไรวับๆแวมๆแน่เพราะว่าเขานั่งอยู่ข้างเรียวเฮย์แล้วองศามัน...โอเคเขายอมรับว่าเมื่อกี้เห็นอะไรวับๆแวบๆนิดหน่อย ขาว..เอ้ย!ไม่ใช่ นั่นแหละ....เอาเป็นว่าแค่คิดเขาก็หงุดหงิดแล้วไม่รู้ทำไม
"ฮะๆๆ พวกเธอนี่น่ารักกันเลยน้า"วิเวียนหัวเราะเบาๆแต่กลับเหมือนก้องกังวานไปทั่วโสตประสาทของทุกคนทำให้เกิดความเงียบขึ้นในชั่วอึดใจ
"เกือบลืมไปเลยแฮะว่ามีแม่มดอยู่ในห้องนี้"ชินิกอดอกพร้อมกับพูดประชด
"ชั้นก็แค่ไม่อยากขัดจังหวะของพวกเธอนี่น่ะ"วิเวียนยิ้มเอามือเท้าคางด้วยท่วงท่าสง่างาม
"มีอะไรก็พูดมา"รินโดพูดเสียงเรียบๆ
"งั้นก็เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน"วิเวียนยิ้มเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
"เคยได้ยินเรื่องโลกคู่ขนานไหม?"
"มนุษย์มีทฤษฎีโลกคู่ขนานที่บอกว่าในที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในจักรวาลจะมีโลกที่เหมือนกันอยู่ และอาจจะมีตัวเราอีกคนอยู่ ทฤษฎีนั้นเป็นเรื่องจริงหากแต่ความเข้าใจของมนุษย์นั้นยังถูกจำกัด โลกต่างๆทั้งอาจอยู่ใกล้และอาจอยู่ไกลสำหรับผู้ที่รู้ถึงแก่นแท้อย่างเราแล้ว พวกเธอคงจำร้านของเราได้มันเป็นร้านที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างมิติ และจะสามารถปรากฏได้ในทุกๆโลก เราเฝ้ามองมิติต่างๆมาเป็นเวลานานแสนนานแล้วแต่ว่า ในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาได้เกิดการเสื่อมสลายของโลกต่างๆอย่างหาสาเหตุไม่ได้ และที่โลกนี้ก็เป็นความหวังสุดท้ายของเราและพวกเธอ"
"พูดอะไรของเธอนะ"ซาโยพึมพัมเบาๆด้วยน้ำเสียงเครียด แต่วิเวียนก็ยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"โลกในมิติต่างๆมีหลายแบบและมีคนหลายแบบอาศัยอยู่ อย่างเช่นเด็กน้อยคนที่ติดตามเราอยู่ชื่อว่าเรย์จังในโลกต่างๆก็จะมีเรย์จังที่อาศัยอยู่ในโลกนั้นๆ เป็นเรย์จังที่ไม่ใช่เรย์จังซะทีเดียวจะเรียกยังไงดีละ...เป็นคนละคนกันแต่รากฐานของวิญญาณเดียวกันก็คงจะได้ละมั้ง ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้โลกนี้เองก็กำลังเสื่อมสลายลงเรื่อยๆ โลกที่พวกเธอจากมาก็เช่นกัน"วิเวียนพูดจบประโยคก่อนจะไล่สายตาสีฟ้าใสราวกระจกไปรอบๆราวกับรอให้มีคนถามคำถาม
"โลกนี้?"สึนะพูดขึ้นคิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันอย่างต้องการคำตอบ
"อา...พวกเธอยังไม่ได้บอกสินะว่าพวกเธอ ไม่ ใช่ คน ของ โลก นี้"
"ก็ใครจะไปมีเวลาบอกกันละยะ แล้วเรื่องแบบนี้พูดไปแล้วใครจะเชื่อ"เรนะแย้งขึ้นมาแทบจะในทันที
"ชั้นเชื่อ.."สึนะพูดทำให้ทุกคนหันไปมองเขาเป็นตาเดียว
"ถ้ามันเป็นเรื่องที่มาอธิบายได้ว่าทำไมทั้งคุณรินโด คุณโซยุกิ กับพวกโยรุอยู่ๆก็มีตัวตนในเมืองนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีประวัติของพวกเขามาก่อนเลย ซึ่งถึงมันจะดูประหลาดไปสักหน่อยแต่ว่าก็อธิบายเรื่องนั้นได้อย่างเหมาะเจาะ คุณชื่อวิเวียนสินะ?คุณแม่มด"สึนะยิ้มยกยิ้มบางๆที่ดูร้ายกาจขึ้นก่อนจะถาม
"ใช่แล้ว"วิเวียนตอบรับเรียบๆ
"แล้วหมายความว่ายังไงกับที่คุณพูดว่า 'โลกนี้' กำลังเสื่อมสลาย"
"เราคิดว่าพวกเธอเองน่าจะรับรู้ได้บ้างแล้วนะ ประมาณสามปีทีแล้วได้เกิดเหตุสลดขึ้นทั่วโลกนี้ และพวกเธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุนี่?"
คำพูดนั้นของแม่มดทำให้พวกวองโกเล่ชะงักกึกไปครู่หนึ่ง
"แล้วไฟธาตุของพวกเธอเริ่มใช้ไม่ได้ตั้งแต่....สองปีก่อนละมั้ง"วิเวียนทำท่าเหมือนนึกขณะที่พูด
นั่นทำให้โยรุนึกขึ้นได้ ตั้งแต่พวกเธอมาที่นี่พวกเธอไม่เคยเห็นใครเรียกไฟธาตุออกมาเลย ไม่เห็นพวกสัตว์กล่องหรือแม้แต่แหวนต่างๆถ้าเอาจริงๆ เธอเคยแอบเห็นแหวนวองโกเล่ห้อยอยู่ที่สร้อยคอของพวกวองโกเล่แต่ละคน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ถูกนำออกมาใช้สักพักแล้ว...
"นั่นเป็นผลกระทบจากที่โลกกำลังเสื่อมสลาย เริ่มมีบางอย่างผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆจนสุดท้าย ก็จะไม่เหลืออะไรเลย โลกที่พวกเธอจากมาก็เช่นกันรินโด โซยุกิ โยรุ ชินิ ซาโย และ เรนะ"
"แล้วทำไมต้องเป็นพวกเราด้วย"รินโดถามขึ้น
"อย่างที่เราได้พูดไป โลกต่างมิติหรือเรียกอีกอย่างก็คือโลกคู่ขนาดตามที่ทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์มนุษย์ได้บอกไว้คือจะมีตัวเราอีกคนที่เหมือนเราทุกอย่าง อย่างที่เราได้บอกไปในเรื่องคนละคนแต่รากฐานวิญญาณเดียวกันไปเมื่อตอนต้น โลกของพวกเธอทั้งสองเป็นโลกคู่ขนานกัน ..คุณซาวาดะ สึนะโยชิสินะ? ซึ่งหมายความว่ามีพวกเธออีกคนอยู่ที่อีกโลกหนึ่ง อาจจะหน้าตาไม่เหมือนกันหรือเหมือนก็ได้แต่ว่าพวกเขามีอยู่... ตัวเราได้พยายามหยุดการเสื่อมสลายของทั้งสองโลกจนในที่สุดเราก็ค้นพบหนทาง นั่นก็คือพวกเธอ รินโด "
"แก่นของโลกทั้งสองกำลังผุพังไปเรื่อยๆจนสุดท้ายทั้งสองโลกก็คงหายไป แต่แล้วเราก็ค้นพบว่าโลกคู่ขนานนี้มีความคล้ายคลึงกัน ถ้าหากเรารวมโลกทั้งสองให้เป็นหนึ่งได้โลกทั้งสองก็จะอยู่ต่อไปได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว เราจึงได้ลองทดลองส่งสิ่งของข้ามโลกดูซึ่งปรากฏว่าโลกนั้นปฏิเสธการมีอยู่ของของจากต่างโลก เพราะมันไม่มีวิญญาณ....เราเองก็ไม่ได้อยากจะทำเท่าไหร่เพราะตอนนั้นเราเองก็ยังไม่แน่ใจที่จะส่งสิ่งมีชีวิตข้ามมิติมาอีกโลก จนเราเจอพวกเธอ รู้ไหมอะไรที่ทำให้พวกเธอยังไม่ตายแม้จะมาอยู่ที่ต่างโลก?"
"......."
"เพราะพวกเธอคือคนที่มีวิญญาณเพียงหนึ่งเดียว หนึ่งในล้านคนที่เราเสาะหาคนที่มีตัวตนเดียววิญญาณเดียวและอยู่ที่โลกนั้น พวกเธอมีตัวตนเป็นเอกลักษ์และไม่มีตัวตนอื่นในต่างมิติซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก นั่นทำให้ไม่มีการต่อต้านจากโลกอื่นแม้เราจะส่งพวกเธอข้ามมาที่อีกโลก เพราะก่อนหน้าที่เราจะส่งพวกเธอมา พวกเธอไม่เคยมีตัวตนที่นี่เลย...เราส่งพวกเธอมาให้ทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกทั้งสอง พวกวองโกเล่หรือแม้แต่พวกเซอบีรัสที่เป็นคนของโลกนี้เองก็มีส่วนจำเป็นต่อแผนการของเราเพราะพวกเธอคือคนที่ใกล้ชิดกับพวกรินโดที่สุดในเวลานี้ จำเป็นต้องมีคนรู้เรื่องนี้ในขณะที่เราดำเนินการ"
"ดำเนินการ...อะไร"กรีนเปิดปากพูดออกมาเป็นครั้งแรก...ขอยอมรับจากใจว่าเธอยังช็อคเรื่องแม่มดเอย..เรื่องเพื่อนเธอมาจากโลกอื่นเอย..
"เรากำลังเตรียมพิธีสำหรับการรวมโลกสองโลกให้เป็นหนึ่งเดียว โยรุเธอคงจะเห็นแล้วว่าคนที่เธอเจอตอนนั้นในร้านกาแฟเป็นเพื่อนของเธอแต่ก็ไม่ใช่เพื่อนของเธอ เขามีรากฐานวิญญาณเดียวกับเพื่อนของเธอที่โลกนู้น ชื่อเดียวกัน หน้าตาเหมือนกันแต่ไม่รู้จักเธอ นั่นเป็นเพราะที่โลกนี้เธอไม่เคยมีตัวตน"
"แล้วถ้ารวมโลกสองโลกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอีกโลกนึงละ พ่อแม่ของพวกชั้นละ"ซาโยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
"เขาก็มีตัวตนที่โลกนี้เหมือนกันและยังคงมีรากฐานวิญญาณเดียวกับพ่อแม่ของเธอในโลกนั้นถ้าหากเรารวมโลกทั้งสองสำเร็จ พวกเขาก็จะรวมกันเป็นหนึ่งและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข"
"แล้วถ้าไม่สำเร็จละ...."
"ทั้งสองโลกก็จะแตกสลาย จะไม่มีใครรอด"
"......"
"เรากำลังอยู่ในระหว่างเตรียมพิธีกรรม ซึ่งเวลานีเรากำลังเร่งรีบให้เสร็จโดยเร็วที่เรามาที่นี่ไม่ใช่เพื่อกดดันให้พวกเธอทำอะไรเพื่อเราหรือเพื่อโลก แต่เรามาเพื่อเตือน....พวกเธอจงใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุขจนกว่าจะถึงเวลาทำพิธี และแน่นอนพรมลิขิตเปลี่ยนไม่ได้ คนเรามักมีจุดสิ้นสุดเป็นความตายหากแต่มันจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคนที่ทำ ถ้าหากอยู่ๆวิ่งออกไปให้รถชนนั่นก็คือการกำหนดให้ตัวเองตายใช่ไหมละ ในขณะที่จะเลือกยืนรอข้ามถนนอย่างปลอดภัยก็ได้..มันอยู่ที่ตัวของพวกเธอ ในระหว่างระยะเวลาที่เราเตรียมการพวกเธอควรจะระวังตัวไม่ให้บาดเจ็บหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะถ้าเราขาดพวกเธอที่เป็นกุญแจไปสักดอกหนึ่ง....พิธีจะไม่สำเร็จและทุกอย่างจะเป็นไปตามวิถีวิบัติ"
"ไว้เมื่อถึงเวลาเราคงได้เจอกันอีก ก่อนจะถึงตอนนั้น...อย่าตายซะละ"
เมื่อแม่มดสาวพูดจบควันกลิ่นหอมอ่อนอ่อนก็ลอยครอบคลุมร่างของแม่มดและผู้ติดตามเมื่อควันหายไปร่างทั้งสองก็อันตรธานหายไป.....
"โผล่มาปุ้บก็พูดเรื่องน่ากลัวเลยนะยัยแม่มดนั่น"ชินิเอามือกุมหน้าผากตัวเอง เหงื่อบนหน้าผากเย็นเฉียบพอๆน้ำแข็ง
"ชินิ โยรุ ซาโย เรนะ ที่คนคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ?"อาโอมิถามขึ้น
"อือ พวกเราเป็นคนจากต่างโลกจริงๆ"
"ถ้าเรื่องที่ยัยนั่นพูดเป็นเรื่องจริง...."
"อือ แสดงว่าโลกอยู่ในสถาณการณ์เลวร้ายใช้ได้เลยนะเนี้ย"
"แต่เหมือนว่ทางนั้นเขาจะจัดการทุกอย่างแล้วนะ?"
"สรุปแล้ว ยัยนั่นก็มาแค่บอกให้เรารับรู้เรื่อง และเตือนว่าอย่าทำตัวโง่ๆให้รถชนตายก่อนอะไรแบบนี้สินะ"รินโดถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมสรุปรวบยอดได้แบบน่าถีบมาก
"จะสรุปสั้นไปไหมเฮีย?"
"ก็มันจริงนี่หว่า?"
"อะจ๊ะ"
"เอาเป็นว่า เราก็แค่ต้องใช้ชีวิตต่อไปจนกว่ายัยแม่มดนั่นจะปรากฏตัวใหม่สินะ แต่ก็จริงอย่างที่ยัยนั่ยว่าอุบัติเหตุถึงชีวิตมักมาได้เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ ยัยนั่นคงไม่อยากให้วัตถุดิบของตัวเองพังละมั้ง"โซยุกิพูดต่อ
"แล้วพวกเธอจะเอายังไง คุณ พวก วอง โก เล่ ครับ?"รินโดหันกลับมาหาพวกสึนะรอยยิ้มที่หายไปจากใบหน้าปรากฏขึ้นมาอีกครั้งราวกับการสนทนากับแม่มดเมื่อครู่ได้สร้างความหวังใหม่ขึ้นมาให้กับเขา....ความหวังที่จะได้เจอครอบครัวอีกครั้ง
"ยังไงพวกเราก็โดนเข้ามาเอี่ยวด้วยตั้งแต่รู้จักกันแล้วนี่นะ จะยังไงก็ได้ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันไปแล้วนี่นะ"สึนะยิ้มบางๆเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นแบบที่ไม่มีใครได้เห็นบ่อยนัก
"งั้นต่อจากนี้ไป ก็มาสนุกกับชีวิตให้ถึงที่สุดไปเลยยยยย"ซาโยหัวเราะลั่นเหมือนสติที่หลุดๆไปจะยังกลับมาไม่ครบ
"งั้นเริ่มปาร์ตี้กันเลยดีกว่า กับการที่ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังอีกต่อไปและกับการเกิดใหม่ของโลกใหม่"รินโดพูดติดตลกก่อนจะตะโกนเรียกให้พวกลูกน้องข้างนอกยกอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในห้องญี่ปุ่น
"โอ้!!!"
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตัดจบจย้า
โอ้ยตอนนี้เครียดเนาะTwT''
เราปลดปมใหญ่ของเรื่องออกมาแล้วนะค่ะแฟนตาซีไปหน่อย
แต่นี่เป็นพล๊อตตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว555
ไม่คิดว่าจะสามารถแต่งมาถึงจุดนี้ได้ นี่ถือว่าครึ่งเรื่องแล้วรึเปล่านะ
แม่มดของเราคงหายไปสักพักใหญ่ๆค่ะ
แล้วก็ถึงช่วงเวลาความรักของหนุ่มสาว(?)หรา...
โอ้ยไม่เคยแต่งเครียดขนาดนี้มานานตั้งแต่นิยายแฟนตาซีที่ดองไว้//เดี๋ยวนะ
ตอนหน้าจะกลับมาลั้นลากันเหมือนเดิมแล้วนะคะ...เนาะ
ขอขอบคุณที่ติดตามฟิคสบายๆ หลากหลายรสชาติแสบๆคันๆเรื่องนี้
อ่านแล้วเม้นจะเป็นกำลังใจให้แต่งต่อไปนะจ๊ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้น ทุกคนที่ติดตาม
รัก
ไรท์เตอร์
ความคิดเห็น