ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] SWEET ♡

    ลำดับตอนที่ #16 : [SF] เพื่อนสนิท (KaiHun)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 404
      0
      29 มี.ค. 56

     

    TITLE :: เพื่อนสนิท

    PAIRING :: Kai x Sehun (Ft.Baekhyun)

    AUTHOR :: GiFt To You

    RATE :: PG - 15

     

     

     

     

     

    คิดว่ากะอีแค่คำขอโทษแล้วเรื่องมันจบรึไงห๊ะ!ดวงตาเรียวคู่สวยที่ถูกกรีดด้วยอายไลเนอร์เสียคมเฉียบจ้องมองร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยสายตาโกรธแค้น ร่างบางตรงหน้าที่เอาแต่สะอื้นไห้น้ำตาไหลอาบแก้มใสๆนั้น

     

     

    ไม่เอาหน่าแบคฮยอนเสียงทุ้มเอ่ยปราม เพราะสงสารร่างบางจับใจ

     

     

    นายก็เหมือนกันไค  ฮึก...ทำไม...นายถึงทำกับฉันแบบนี้น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากตาคมสวย คนตัวเล็กส่งสายตาตัดพ้อไปให้คนผิวเข้มคนใจร้ายที่ทิ้งเขาไป... แบคฮยอนตัวสั่นน้อยๆด้วยความโกรธและเสียใจ เสียใจเหลือเกิน...มันเกินกว่าที่หัวใจที่แสนบอกบางดวงนี้จะทนไหว

     

     

    ขอโทษไคหลบสายตาจากดวงตาคมสวยของแบคฮยอนที่จ้องมา เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษเบาๆ 

     

     

    ขอโทษ นายก็ดีแต่ขอโทษ! ฮึก...นายพูดคำนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้วมั้งมือเล็กปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆ 

     

     

    จะให้ทำไงล่ะ นายถึงจะยอมยกโทษให้เซฮุนล่ะไคถามออกไปตรงๆ ยิ่งแบคฮยอนได้ยินร่างสูงเจ้าของผิวสีเข้มนั้นปกป้องคนตัวบางที่เอาแต่นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดแกร่งมันก็ยิ่งทำให้แบคฮยอนเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก แบคฮยอนหันไปมองหน้าเซฮุนด้วยสายตากรุ่นโกรธ

     

     

    นายน่ะ! ก็ดีแต่แย่งของๆคนอื่นใช่ม่ะ! ทุเรศที่สุด!ยิ่งเซฮุนได้ยินคำด่า ร่างบางนั้นยิ่งสั่นเทามากยิ่งขึ้น

     

     

    ฉันขอโทษ ฮึก...ฮือๆร่างบางเอ่ยขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า

     

     

    แบคฮยอน...ขอร้องล่ะ จะว่าอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าว่าเซฮุนเลยไคเอ่ยเสียงอ่อนเพราะยิ่งเห็นร่างบางของเซฮุนสั่นเทาจากการร้องไห้หนักเท่าไร เขายิ่งเจ็บปวดตามไปด้วย

     

     

    มันมีดีอะไรนักหนาห๊ะ!!แบคฮยอนเอ่ยตะคอกเสียงดัง ไคเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กก่อนจะจับข้อมือของแบคฮยอนเสียแน่น แล้วยกมือเล็กนั้นขึ้นมา

     

     

    เพี๊ยะ!!!มือหน้ายกมือเล็กขึ้นมาตบหน้าตัวเอง เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่น แสดงให้รู้ว่าแรงตบนั้นมีมากแค่ไหน

     

     

    นายจะตบจะด่าจะตีฉันยังไงก็ได้ แต่ขอร้องอย่าว่าเซฮุนไคพูดด้วยสีหน้าจริงจัง 

     

     

    ฮึก...ทำไม ทำไม ฮือๆแบคฮยอนร้องไห้อย่างหนัก มือเล็กทั้งทุบทั้งตีอกกว้าง ริมฝีปากสวยก่นด่าร่างสูงเจ้าของผิวสีเข้มอย่างตัดพ้อและเสียใจเหลือเกิน

     

     

    ตีอีกสิ...จนกว่านายจะพอใจแบคฮยอนยังคงทุบและตีไม่หยุด จนเพื่อนของคนตัวเล็กต้องเข้ามาห้าม

     

     

    พอเถอะแบคฮยอน...ในที่สุดเพื่อนของแบคฮยอนก็สามารถหยุดแบคฮยอนได้ เมื่อแบคฮยอนไปแล้วไคจึงรีบเดินไปฉุดร่างบางมากอดปลอบ

     

     

    ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร…” ไคเอ่ยปลอบคนในอ้อมกอดอย่างแผ่วเบา พลางยกมือหนาขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มนั้นอย่างถนุถนอม พอเซฮุนได้อยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของคนผิวเข้มก็ยิ่งทำให้เคนตัวบางร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดินเสียอีก

     

     

     

     

     

     

    ถ้าจะถามผมว่าเรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อไร ในความคิดผมมันอาจจะเริ่มตั้งแต่เมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ตอนที่ผมพึ่งเริ่มคบกับแบคฮยอน แต่....ผมว่าจุดเริ่มต้นจริงๆของเรื่องนี้ทั้งหมดอาจเริ่มตั้งแต่ผมได้พบกับ โอ เซฮุน...

     

     

    ผมกับเซฮุนก็เรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้น แต่ถามว่าตอนนั้นเซฮุนรู้จักผมไหม ผมว่าคงไม่หรอก เซฮุนเป็นดาวเด่นประจำโรงเรียน เรียนก็ได้อันดับหนึ่งของชั้น ส่วนผมก็คงมีดีแค่ทางด้านกีฬา เล่นเยอะจนดำอย่างนี้ไง ฮ่าๆ แต่ผมว่าสีผิวผมก็เซ็กซี่ออกนะ ผมก็แอบอิจฉาเซฮุนอยู่บ้าง ก็ฮุนมีแต่เคะมาจีบซะเยอะแยะขนาดนั้น (พูดอย่างกะตัวเองไม่มี)

     

     

    พอเลื่อนชั้นขึ้น ม.ปลาย นั้นล่ะคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของผมกับเซฮุน เราได้เรียนห้องเดียวกัน เพราะเซฮุนชอบภาษามากกว่าคณิต ถึงได้เลือกเรียนห้องศิลป์ 

     

     

    เอ่อ...คือนั่งด้วยนะเสียงหวานเอ่ย ผมที่กำลังนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ จำต้องเงยหน้าขึ้นมามอง คนที่มารบกวนเวลานอนอันแสนสุขอย่างเสียไม่ได้ พอเงยหน้าขึ้น ผมก็ได้เห็นใบหน้าหวานเต็มๆตา ถึงใครเขาจะพูดว่าโอ เซฮุนแมนมาก(?) แต่ในสายตาผม ให้ตายเถอะ! เนี้ยนะแมน น่ารักโคตรๆเหอะ

     

     

    ฉันถามว่า นั่งด้วยได้ไหม มาจ้องตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้มันเสียมารยาทนะเซฮุนพูดพลางยู่ปาก ยิ่งทำหน้าแบบนี้ยิ่งน่ารักนะ

     

     

    ก็นั่งไปสิ ไม่ได้แปะป้ายจองไว้ซะหน่อยพอผมพูดจบ ร่างบางของเซฮุนก็นั่งลงข้างๆผมทันที มือบางจัดวางของลงบนโต๊ะให้เรียบร้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ดวงตากลมคู่สวยหยีขึ้นจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ริมฝีปากสวยเผยยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสเปล่งประกายเหลือเกิน ผมโดนเซฮุนแอทแท็คจังๆเลยครับ

     

     

    ฉันชื่อ โอ เซฮุน นายชื่อไรอะร่างบางแนะนำตัวและไม่ลืมที่จะฉีกยิ้มกว้างตบท้าย

     

     

    คิมจงอิน รึจะเรียกไคก็ได้เห็นรอยยิ้มหวานๆนั้นแล้ว มันอดไม่ได้เลย ที่ผมจะยิ้มตามไปด้วย

     

     

    ตั้งแต่วันนี้เราถือเป็นเพื่อนกันแล้วนะ

     

     

    อือผมตอบรับ ก่อนจะฟุบหลับต่อ หลังจากนั้นเราก็เริ่มสนิทขึ้นเรื่อยๆ จากที่ใช้คำว่า ฉันกับ นายเราก็เปลี่ยนไปใช้ กูกับ มึงก็เราสนิทกันมากนี่ครับ นอกจากผมกับเซฮุนที่เป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว ยังมีชานยอลและดีโอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเราด้วย

     

     

     

     

     

     

    ถ้าไม่ใช่เพราะต้องทำรายงานเดี่ยว ผมคงจะไม่มีวันเข้าห้องสมุดเลย แค่เห็นตัวหนังสือผมก็ง่วงแล้ว (ปกติแกก็ดูง่วงอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เหรออินนี่ 555+) ผมเดินไปเรื่อยๆ จนเจอชั้นหนังสือสังคม ผมต้องทำรายงานสังคม โคตรปวดหัวเลย ผมเดินดูไปเรื่อยๆ ฝั่งนี้ไม่มีแหะ ผมเลยเดินไปดูอีกฝัง 

     

     

    อึบ! เชรี่ย แมร่งจะอยู่สูงไปไหนฟร่ะเสียงหวานเอ่ยสถบเบาๆ ผมถึงกับฉีกยิ้มกว้างกับภาพตรงหน้า จะไม่ให้ยิ้มได้ไง ก็ภาพตรงหน้านี้ คือร่างเบางของเซฮุนที่กำลังพยายามเอื่อมมือสุดตัวเพื่อจะหยิบหนังสือบนชั้น อย่างนี้คงต้องช่วยแล้วละสิ

     

     

    แต่ว่านะ มันอนาจตรงที่...ผมก็ไม่ได้ตัวสูงไปหว่าเซฮุนซักเท่าไหร่...ถ้าเขาหยิบไม่ถึงก็ใช่ว่าผมจะหยิบถึง ผมเลยเดินไปลากเก้าอี้มาวางซ้อนอยู่ข้างหลังเซฮุน  ก่อนจะขึ้นไปเหยียบบนที่นั่งแล้วเอื่อมมือไปหยิบหนังสือที่ร่างบางข้างหน้าผมพยายามหยิบแทบตายให้

     

     

    อะผมยื่นหนังสือไปให้ 

     

     

    ขอบใจว่ะ แมร่ง! ไม่รู้หนังสือจะอยู่สูงไปไหนเซฮุนบ่นงุ้งงิ้ง ผมเลยอดไม่ได้ ที่จะยกมือขึ้นไปลูบหัวกลมนั้นเบาๆ เซฮุนมองผมหน้ามู่ทู่ แล้วทำปากเบะ น่ารัก...

     

     

    ไม่ใช่หมานะเว้ย มาขยี้หัว หมดหล่อเลยใครว่าหล่อ น่ารักต่างหาก ผมได้แต่ประท้วงในใจ 

     

     

    มึงหาหนังสือทำรายงานใช่ป่ะผมพยักหน้าตอบรับ

     

     

    กูช่วยได้นะมึง เอาป่ะ?” พูดพลางเอาไหล่บางมากระแทกกับแขนของผม ทั้งยังทำยักคิ้วหลิ่วตาอีก รู้ตัวบ้างไหมว่าตัวเองน่ะ...น่ารักจนจะทำผมบ้าอยู่แล้ว!

     

     

    ก็ดีผมตอบพลางส่งยิ้มไปให้ วันนั้นทั้งวัน ผมเลยนั่งทำรายงานกับเซฮุนจนผิดนัดกับแบคฮยอน ไม่ใช่ว่าลืมนัด รู้อยู่แก่ใจว่ามีนัด แต่ไม่อยากลุกไปไหน อยากนั่งมองใบหน้าน่ารักนี้ตอนกำลังตั้งใจทำงาน น่ารักจนไม่สามารถล่ะสายตาออกจากภาพตรงหน้าได้เลย...

     

     

     

     

     

     

    มารู้ตัวอีกที ผมใช้เวลาอยู่กับเซฮุนมากกว่าอยู่กับแบคฮยอนที่เป็นแฟนผมเสียด้วยซ้ำ และนั้นทำให้แบคฮยอนไม่พอใจเอามากๆ จนเราต้องทะเลาะกัน

     

     

    ไคฉันรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้นายไม่มีเวลาให้ฉันเลยนะแบคฮยอนมองผมด้วยสายตาจับผิด

     

     

    อะไรกันแบคฮยอน ฉันก็อยู่กับเพื่อนตลอด ไม่ได้นอกใจนายเลยนะผมเอ่ยเสียงเนือยๆ เบื่อ...เบื่อที่จะคุยเรื่องนี้

     

     

    แล้วทำไมนายถึงต้องอยู่แต่กับเพื่อน ฉันมันน่าเบื่อแล้วใช่ไหม หนึ่งปีที่เราคบกันมันไม่มีความหมายอะไรกับนายเลยใช่ไหม ไค...ฮึก...ร่างเล็กของแบคฮยอนเริ่มสั่นน้อยๆ ผมจึงดึงคนตัวเล็กมาปลอบ ก่อนจะจุมพิตเบาๆกับหน้าผากมน

     

     

    ฉันมีแค่นายคนเดียวอย่าคิดมากสิพอเคลียร์กันได้ ผมก็ไปส่งแบคฮยอนที่ห้อง ก่อนจะเดินไปที่สวนสาธารณะ ที่กลุ่มของผมมักจะมานั่งเล่นกันประจำ แต่ผมกับเห็นภาพบาดตา ผมก็ไม่คิดว่าภาพนี้จะทำให้ผมรู้สึกเจ็บได้ขนาดนี้

     

     

    เซฮุนนา... กูคิดว่า...กูชอบมึงว่ะเสียงทุ้มของชานยอลเอ่ยพลางสบตากลมของเซฮุนอย่างซื่อความหมาย ใบหน้าหวานใสแต่ก็ดูหล่อเหลาแดงซ่าน เซฮุนมองชานยอลย่างอึ้งๆ

     

     

    คือ...เซฮุนเอ่ยออกมาเบาๆ

     

     

    ไม่ต้องคิดมาแค่อยากบอก ช่วยเก็บไปคิดซักนิดพูดจบร่างสูงของชานยอลก็ขโมยหอมแก้มใสของร่างบางไป ก่อนจะรีบเดินหนีออกมา ผมที่มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เจ็บที่หน้าอกข้างซ้าย ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม กะอีแค่ชานยอลบอกรักแล้วหอมแก้มเซฮุนผมจะเจ็บไปทำไม มันเกี่ยวอะไรกับผมกัน

     

     

    อะ...อ่าว ไคเซฮุนเอ่ยทักอย่างเก้ๆกังๆเมื่อเห็นผม

     

     

    มะ...มึงเห็นเมื่อกี้ป่ะ?” คนตัวบางเอ่ยถามผมเสียงเบา

     

     

    อือ...กูเห็นเต็มสองตาเลยเมื่อเซฮุนได้ยินคำตอบของผม ร่างบางก็ยกมือบางนั้นขึ้นมาเกาหัว แก้อาการเคอะเขิน ยิ่งเห็นเซฮุนทำท่าหมือนเขินที่ชานยอลมาบอกรักแบบนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บ

     

     

    แล้ว...จะคบกันไหมผมฝืนใจถามออกไป แม้พอจะคาดเดาคำตอบได้แล้วก็ตาม ก็ชานยอลออกจะหล่อและดูดีซะขนาดนั้นนี่นา คงไม่มีใครปฏิเสธได้หรอก

     

     

    มะ...ไม่รู้สิ แล้ว...มึงคิดว่าไงอะผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยสั่นระริกแปลกๆในตอนที่รอฟังคำตอบ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

     

     

    กูไม่ใช่มึง กูตอบมึงไม่ได้หรอก

     

     

    งะ...งั้นเหรอ อ่า...ว่าแต่แล้วแบคฮยอนแฟนมึงอะ มึงเคลียร์กันยังว่ะตาคู่สวยนั้นเหมือนจะมีแววผิดหวังอยู่วูปนึงแต่ก็ไม่รู้นะว่าผมตาฝาดไปเองรึเปล่า

     

     

    อือผมตอบออกไปเบา เซฮุนเผยยิ้มเล็กน้อย

     

     

    ก็ดีแล้วนี่ แล้วไงมึงทำหน้าบูดแบบนี้ว่ะเซฮุนถามพลางยกมือบางขึ้นมาตบหลังผมเบาๆ

     

     

    ไม่รู้ดิผมตอบไปแค่นั้น ก่อนที่ผมจะเดินหนีเซฮุนมาโดยไม่กล่าวลาซักคำ

     

     

     

     

     

     

    วันนี้ทำเค้กมาด้วยแหละ ลองกินป่ะเซฮุนเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่ม และแน่นอนคนแรกที่เสนอตัว ก็คือชานยอลนั้นล่ะ

     

     

    ขอชิ้นนึงชานยอลเอ่ยเสียงหวาน มือบางจึงหยิบเค้กให้ชานยอลหนึ่งชิ้น ชานยอลยื่นมือรับ ตาใสลุกวาว ด้วยความตื่นเต้น ที่จะได้กินเค้กฝีมือของคนที่ตัวเองชอบ

     

     

    จงอิน มึงไม่กินเหรอวะ ของฟรีน่ะเว้ยคยองซูเอ่ยถาม ในขณะที่กำลังกินเค้กอยู่

     

     

    ไม่ กูกลัวตาย

     

     

    พูดอย่างนี้ฮุนมันเสียความรู้สึกนะเว้ยไอ้ตาเหลือกเอ่ยด่าผม ผมเลยจำใจหยิบขึ้นมาชิ้นนึงแล้วยัดเข้าปาก เซฮุนมองหน้าผมอย่างลุ้นๆ ตากลมเป็นประกายวิบวับเลยล่ะ สงสัยรอคำชม มองผมซะแบ๊วขนาดนี้ (=__= ‘)

     

     

    อร่อยป่ะ

     

     

    อือผมตอบรับ มันก็อร่อยล่ะนะ 

     

     

    อร่อยมากกกกกอะมึงชานยอลเอ่ยชม เซฮุนหันไปเห็นเศษเค้กเลอะขอบปากชานยอล  นิ้วเรียวนั้นจึงเอื่อมไปเช็ดเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มสวย ยิ่งเห็นภาพแบบนี้...ผมยิ่งรู้สึกปวดในอก ผมลุกออกจากโต๊ะ เดินหนีออกมาจากจุดนั้นทันที ทนเห็นไม่ได้ ทนดูไม่ได้ ทนไม่ได้อีกแล้ว ผมเริ่มรู้แล้วล่ะ ว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันคืออะไร

     

     

     

     

     

     

    ผมเก็บภาพนั้นมาคิดมันติดอยู่ในหัวเป็นอาทิตย์ จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว ผมเดินตรงดึ่งไปที่ตึกสายวิทย์ ไปหาแบคฮยอน ผมต้องไปหาแบคฮยอน เพื่อเคลียร์กับไอ้ความรู้สึกบ้าๆนี้ ผมต้องทำอะไรซักอย่าง ขาผมหยุดอยู่หน้าห้องของแบคฮยอน ผมเปิดประตูห้องเรียน คนตัวเล็กกำลังง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือเรียน

     

     

    แบคฮยอนไปคุยกันหน่อยสิมือเล็กปิดหนังสือเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าสวยจะส่งยิ้มหวานมาให้ผม

     

     

    ได้สิแบคฮยอนตอบรับ มือเล็กเอื้อมมากุมมือผมไว้เบาๆ ผมพาแบคฮยอนมาที่สวนหลังโรงเรียน บรรยากาศที่แสนเงียบสงบ สายลมพัดเอื่อยๆ คนตัวเล็กมองหน้าผมพลางเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย 

     

     

    มีอะไรเหรอไค?”

     

     

    เรา...เลิกกันเถอะในที่สุดผมก็เอ่ยมันออกไป ความสัมพันธ์เกือบสองปีของเรามันกำลังจบสิ้นลง 

     

     

    ฉันหูฝาดไปรึเปล่า บอกฉันสิว่าฉันหูฝาดตาคู่สวยเริ่มแดงก่ำ มือบางยกขึ้นมาปิดปากตัวเอง

     

     

    ได้ยินไม่ผิดหรอก แบคฮยอน...เมื่อผมพูดจบ น้ำตาของแบคฮยอนก็ไหลออกมาทันที เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้น

     

     

    ฉัน...ฉันไม่ดีตรงไหน ฮึก...เหรอ ไคแบคพูดพลางสะอื้น

     

     

    ไม่ใช่นายไม่ดี ฉันต่างหากที่ไม่ดี ขอโทษนะใช่ผมต่างหากที่ไม่ดี ทั้งๆที่แบคฮยอนมีแค่ผมเพียงคนเดียว แต่ผมก็ยัง... 

     

     

    นายได้ทั้งตัวและหัวใจของฉันไปแล้ว...นายจะทิ้งมันง่ายๆอย่างนี้น่ะเหรอ ไค” ร่างเล็กเอ่ยตักพ้อเสียงสั่น

     

     

    ขอโทษ...ฉันขอโทษคงไม่มีคำอื่นที่ผมสามารถจะพูดได้อีกนอกจากคำนี้

     

     

    ไค อย่าเลิกกับฉันเลยนะ ฮึก...ฉันจะอยู่ยังไง...ถ้าไม่มีนาย

     

     

    ฉันขอโทษนะ แบคฮยอน...ผมเดินล่ะออกมาจากร่างเล็กเพื่อปล่อยให้แบคฮยอนได้อยู่คนเดียว แต่พอหันหลังผมก็เจอเซฮุนพอดี ผมดึงมือบางนั้นให้เดินตามผมไป เซฮุนยังคงมองแบคฮยอนที่นั่งร้องไห้อยู่ไม่วางตา ผมพาร่างบางมาที่ห้องเรียน ดีที่ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาในห้องเลย

     

     

    กูไม่ได้เสือกนะเว้ย! แต่ว่า...มึงเลิกกะแบคฮยอนไมว่ะเซฮุนถามผมอย่างสงสัย ผมจ้องตาเซฮุนอยู่นาน จนรคนตัวบางต้องหลบสายตาผม พลางยกมือขึ้นมาเกาจมูกแก้เก้อ

     

     

    มองกูหาแป๊ะไรว่ะ กูถามตอบดิ

     

     

    “...” ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ได้แต่เงียบเพียงอย่างเดียว

     

     

    เชรี่ย! กูถามมึงเนี่ย มึงกะกูยังเป็นเพื่อนกันอยู่ป่าวว่ะเซฮุนมองหน้าผมอย่างเคืองๆ

     

     

    “...”

     

     

    กูถามมึงเนี่ย!!!!!

     

     

    กูไม่อยากเป็นเพื่อนมึงผมตะคอกออกไปอย่างสุดทน ทำเอาเซฮุนอึ้ง 

     

     

    เชรี่ย! มึงไม่อยากเป็นเพื่อนกูแล้วมึงมาคบกูเป็นเพื่อนทำหอกอะไรว่ะเซฮุนตะคอกอย่างสุดทน ใบหน้าที่เคยขาวเนียนแดงจัดด้วยความโมโห วันนี้ผมต้องจัดการกับความรู้สึกทุกอย่าง ผมคงต้องพูดความจริง...

     

     

    กูไม่อยากเป็นเพื่อนมึง เพราะกูรักมึงไงจากหน้าโกรธกลายเป็นเหวอไปเลย

     

     

    มะ...มึงล้อกูเล่นใช่ป่ะ

     

     

    กูพูดจริงผมจ้องเซฮุนอย่างจริงจัง เพื่อสื่อให้คนตัวบางรู้ว่าผมจริงจังมากมายแค่ไหน

     

     

    แล้ว...แล้วแบคฮยอน” 

     

     

    กูก็เคลียร์กับแบคฮยอนเพื่อมาบอกรักมึงนี่ไง ก็ไม่รู้หรอกว่ากูเริ่มรักมึงจริงๆเมื่อไร พอรู้ตัวอีกที แค่เห็นชานยอลอมแก้มมึง หรือชานยอลคอยออดอ้อนเอาอกเอาใจมึง กูก็หึงจนไม่เป็นทำอะไร กูผิดนัดแบคฮยอนบ่อยๆ เพราะกูอยากอยู่กับมึง กูอาจเลว ที่มีแบคฮยอนอยู่แล้วยังมองมึง แต่กูหลงรักมึงไปแล้วจะให้กูทำยังไงล่ะ” 

     

     

    มึง...มึงรักกูใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัด ผมก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่ามันเป็นเพราะผมบอกรักเซฮุน หรือเซฮุนกำลังโกรธกันแน่ 

     

     

    อือ...กูรักมึง แล้วมึงล่ะว่าไง

     

     

    ความจริง...กูก็...ชอบมึงนะ แต่...แค่ได้ยินเซฮุนบอกชอบผม หัวใจของผมมันก็พองโต เต้นแรงขึ้นทุกที แค่เซฮุนบอกว่าชอบผม ก็ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากๆจนไม่น่าเชื่อ มุมปากผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

     

    มึงพึ่งเลิกกับแบคฮยอน...แล้วถ้ากูมาคบกับมึงต่อเลยมันดูไม่ดีว่ะ เป็นเพื่อนกันไปก่อนเหอะเซฮุนมองหน้าผม ผมพยักหน้าตอบรับ คบกันวันนี้มันคงเร็วไป ต้องรออีกนิด ไม่เป็นไรผมรอได้อยู่แล้ว ผมจูบเบาๆลงบนแก้มเนียน (นี่เรอะ! ที่บอกว่ารอได้?)

     

     

    มึงหอมว่ะผมเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม ใบหน้าหวานขึ้นสึระเรื่อ มือบางตีไหล่ผมเบาๆ

     

     

    บ้า!กูบอกว่าเป็นเพื่อนกันก่อนไง เพื่อนที่ไหนหอมแก้มกัน!

     

     

    มึงไม่ได้เป็นแฟนกับชานยอลใช่ป่ะว่ะ?” ผมถามคำถามที่ผมสงสัยมากนาน

     

     

    ถ้าเป็นกูคงบอกว่าชอบมึงหรอกนะได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งอก

     

     

     

     

     

     

    มองไรว่ะ อยากกินเหรอผมกำลังนั่งมองเซฮุนอ่านหนังสือ ปากก็คาบป๊อกกี้ไว้ ร่างบางเงยหน้าจากหนังสือมามองหน้าผม ทั้งยังถามคำถามที่เจ้าตัวสงสัย 

     

     

    อือผมตอบรับ เซฮุนเลยหยิบป๊อกกี้แล้วยื่นให้ผม

     

     

    อะ เอาไปดิ อยากกินไม่ใช่?”

     

     

    ไม่ได้อยากกินป๊อกกี้ แต่อยากกิน...มึงอะพูดจบ ร่างบางตรงหน้าผม ก็หน้าขึ้นสีทันที เซฮุนเอาป๊อกกี้ที่ยื่นให้ผมเมื่อกี้ไปกินแก้เก้อ

     

     

    ชักอยากกินป๊อกกี้ซะแล้วสิพูดจบผมก็เคลื่อนตัวไปใกล้ๆเซฮุน แล้วกัดปลายป๊อกกี้อีกด้านที่ริมฝีปากสวยคาบไว้ กัดไปเรื่อยๆจนปากเราชนกัน ผมปรับองศาของใบหน้าเพื่อที่จะได้จูบได้สะดวกขึ้น ก่อนที่จะส่งเรียวลิ้นหนาเขาไปในโพรงปากของร่างบาง

     

     

    อือ...จงอินเสียงหายใจหอบถี่แสดงให้เห็นว่าเซฮุนของผมนั้นเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว ผมจึงต้องยอมปล่อยร่างบางแต่โดยดี ถึงแม้จะอยากจูบต่อก็เถอะ

     

     

    จูบรสป๊อกกี้อร๊อยอร่อยผมพูดพลางเอามือเช็ดเริ่มฝีปากตัวเองเบาๆ มองอาการหอบหายใจของคนตรงหน้าพลางยิ้มกริ่ม คุณไม่รู้หรอก ว่าใบหน้าที่แดงซ่านเพราะพิษจูบของเซฮุนดูน่ารักขนาดไหน เมื่อผ่อนลมหายใจได้เข้าที่แล้ว มือบางก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ทำราวกับว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

     

     

    ไค ขอคุยด้วยได้ไหมเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหลังผม ผมหันไปมองเจ้าของเสียง

     

     

    อะ...เอ่อ..ผมออกจะแปลกใจนิดหน่อยกับการปรากฎตัวของแบคฮยอน

     

     

    ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย

     

     

    มีอะไรพูดมาเลยก็ได้แบคฮยอนชำเลืองมองหน้าเซฮุนเล็กน้อย

     

     

    เรายังไม่เลิกกันนะ

     

     

    หือผมอุทานออกไปอย่างงงๆ

     

     

    ยังไงฉันก็ไม่ยอมเลิกกับนายหรอกไคคิ้วของผมขมวดเข้าหากัน

     

     

    ฉันนึกว่าเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วนะแบคฮยอน

     

     

    ไม่ยังไงฉันก็ไม่ยอมเลิกกับนายเด็ดขาดน้ำตาเริ่มคลอเต็มดวงตาคมคู่สวยของแบคฮยอน

     

     

    ฉันรักนายมาก ยังไงฉันก็ไม่ยอมปล่อยนายหรอกผมมองหน้าแบคฮบยอน ก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวตัวเองอย่างกลุ้มจัด ทำไมคุยไม่รู้เรื่องว่ะเนี่ย จะว่าผมเลวก็ได้ที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนตัวเล็กซักนิด แต่ผมไม่ได้รักแบคฮยอนอาจจะไม่ได้รักตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ เพราะเห็นเขาน่ารักดีเลยคบด้วย แล้วตอนนี้ผมมีแต่เซฮุน

     

     

    แต่ฉันไม่ได้รักนายแล้วยิ่งแบคฮยอนได้ยินประโยคนี้ ร่างเล็กยิ่งตัวสั่น น้ำตาไหลออกมาเต็มใบหน้าสวย มือเล็กปาดน้ำตาทิ้ง เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกให้รู้ว่าแบคฮยอนเสียใจมากมายแค่ไหน

     

     

    เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้จริงๆเหรอแบคฮยอนเอ่ยถาม ผมหันไปชำเลืองมองร่างบาง เซฮุนได้แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ทำเป็นไม่สนใจผมกับแบคฮยอน

     

     

    ไม่ได้หรอกแบคฮยอน ฉันรักคนอื่นแล้วเมื่อผมพูดจบ แบคฮยอนถึงกับนิ่งค้างไปเลย

     

     

    ใคร คนนั้นคือใครแบคฮยอนเขย่าแขนผมอย่างต้องการคำตอบ

     

     

    เราพึ่งเลิกกันไม่ถึง 3 วันนายยังไม่ทันรักใครได้หรอก หรือว่า นายมีคนอื่นตั้งแต่แรกแล้วแบคฮยอนมองผมด้วยสายตาคาดคั้น มือเล็กปาดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าสวยจนหมด

     

     

    ฉัน...

     

     

    มันใช่ไหม ที่แย่งนายไปจากฉันแบคฮยอนชี้ไปที่เซฮุนที่กำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ 

     

     

    มะ...ไม่ใช่ผมเอ่ยปฏิเสธไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก และแบคฮยอนก็จับผิดผมได้

     

     

    ใช่จริงๆด้วยแบคฮยอนเดินตรงไปกระชากแขนบางของเซฮุนให้ลุกขึ้น เซฮุนลุกตามแรกกระชาก แบคฮยอนจับเซฮุนมาเขย่าด้วยความโมโห ร่างบางนั้นสั่นคลอนไปตามแรงเขย่าของแบคฮยอน

     

     

    ไม่เอาหนาแบคฮยอน อย่าทำอะไรเซฮุนเลยนะผมพยายามแกะแบคฮยอนออกจากแขนของเซฮุน ใบหน้าหวานของเซฮุนเหย่เกเพราะความเจ็บที่แบคฮยอนบีบแขนเขาอย่างแรง

     

     

    หน้าด้านเหลือเกินนะแย่งแฟนคนอื่นเขาน่ะ!

     

     

    แบคฮยอนปล่อยเซฮุนดวงตากลมหวานของเซฮุนเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา

     

     

    ไม่ต้องมาบีบน้ำตา นายเจ็บสู้ฉันไม่ได้หรอก!!แบคฮยอนเอ่ยตะคอกเสียงตัง แต่ ในที่สุดผมก็ดึงมือแบคฮยอนออกจากแขนเซฮุนได้ ผมลากแบคฮยอนออกมาให้ไกลจากคนตัวบางที่สุด

     

     

    แบคฮยอนหัดมีเหตุผลหน่อยสิ” 

     

     

    ฉันไม่มีเหตุผลตรงไหนกัน บอกมาสิ

     

     

    ฉันขอโทษ...แต่ฉันรักเซฮุนจริงๆ และฉันก็ไม่ได้รักนายแล้ว ขอโทษนะแบคฮยอนเมื่อได้ยินคำสารภาพจากปากผม ร่างเล็กๆนั้นถึงกับทรุดตัวลง นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น ถึงผมจะสงสารแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้รักแบคฮยอน... ผมรีบเดินกลับไปหาเซฮุนทันที

     

     

     

     

    หลายครั้งที่แบคฮยอนมาด่าเซฮุนเสียๆหาย แบคฮยอนไม่ยอมเลิกราง่ายๆ คนตัวเล็กยังคงพยายามโทรหาผม แต่ผมไม่เคยรับสาย เหมือนเช่นวันนี้แบคฮยอนมาด่าเซฮุน ผมยอมให้ร่างเล็กทุบตีโดยไม่ว่าอะไรเลย ผมยอมรับผิด ขอแค่อยากให้เขาเลิกยุ่งกับผม

     

     

     

    ตอนนี้ผมกำลังกอดปลอบเซฮุน หลังจากที่ร่างบางร้องไห้อย่างหนักมาเป็นเวลานาน นัยน์ตาหวานที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา ก็สบตาผม มือบางลูบเบาๆบริเวณแก้มที่โดนตบ (ความจริงแล้วคือผมตบตัวเอง โง่เนอะ...)

     

     

    เจ็บมากไหม?” ร่างบางถามด้วยความเป็นห่วง ผมส่งยิ้มบางๆไปให้เซฮุน

     

     

    ไม่หรอก

     

     

    จริงๆนะ

     

     

    อือ…”

     

     

     

    หลังจวันที่ผมตบหน้าตัวเอง แบคฮยอนไม่เคยตามมาว่าหรือด่าเซฮุนอีก ไม่แม้แต่จะพยายามโทรมาหาผม ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีในระดับนึง ตอนนี้ผมพาเซฮุนมาที่สวนสาธารณะที่ผมเจอฉากชานยอลบอกรักเซฮุนพอดี ผมดึงมือบางของเซฮุนมากุมไว้

     

     

    รักนะครับผมเอ่ยบอกคนตัวบางเสียงหวาน 

     

     

    บอกบ่อยจังว่ะ ไม่ซึ้งแล้วหว่ะถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่หน้างี้แดงเชียว

     

     

    เรื่องทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว เพราะงั้นจะเป็นแฟนกันได้รึยัง

     

     

    อ่า...

     

     

    ได้มะ

     

     

    ได้มะ...อือยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบผมก็ชิงจูบอันแสนหวานมาก่อนเสียแล้ว

     

     

    ไอ้บ้าให้ตั้งตัวก่อนสิวะหลังจากที่ผมยอมปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ ริมฝีปากบางก็ก่นด่าผมไม่เลิก ฮะๆ แบบนี้ล่ะน่ารัก...

     

     

     

    Fin*

     

    รึเปล่า...?

     

    แถมๆๆๆ

     

     

     

     

    นี่ จูบได้ป่ะเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพลางมองใบหน้าหวานของเซฮุนที่กำลังทำหน้าฉงน ร้อยวันพันปีไม่เคยขอ อยู่ดีๆมาขอจูบแบบนี้มันเขินว่ะ มือบางยกขึ้นมาเกาหัวแก้เขิน

     

     

    “...”

     

     

    ไม่ตอบแสดงว่าได้ไคยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะโน้มหน้าไปใกล้ใบหน้าหวาน ที่กำลังหลับตา รอรับสัมผัสอันแสนนุ่มนวลและอ่อนโยนจากคนรัก มือข้างหนึ่งของไคจับใบหน้าของเซฮุนไว้ แต่อีกข้างนั้นกลับสอดเข้าไปในเสื้อตัวน้อยของเซฮุนอย่างซุกซน

     

     

    อะ...ไม่เอานะ อะ...อืมคนตัวบางพยายามปัดป่ายมือที่ล้วงเข้าไปในเสื้อของตน พยายามโวยวายแต่ก็ถูกคนตัวหนาประกบจูบปิดปากซะก่อน เรียวลิ้นหนาตะหวัดควานหาความหวานจากโพรงปากของร่างบาง มือหนาก็ยังไม่เลิกซุกซนลูบไล้ไปทั่วตัวของร่างบาง

     

     

    อะ...อือเซฮุนประท้วงเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก ไคยอมผละออกจากริมฝีปากบางนั้นแต่โดยดี แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมหยุด ไคเลื่อนไปจูบริเวณแก้ม ก่อนจะลงไปที่บริเวณลำคอขาว

     

     

    ไม่เอานะจงอิน อะ..อือถึงแม้จะเอ่ยห้าม แต่ร่างบางก็เผลอส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย มือหนาลูบไล้บริเวณยอดอกของร่างบางเบาๆ เพื่อให้ร่างบางรู้สึกเสียวซ่าน

     

     

    พอแล้วจงอิน นี่...นี่มันโรงเรียนนะเซฮุนเอ่ยห้าม ใบหน้าหวานแดงซ่านดูน่ารักจับใจ

     

     

    ไม่มีใครเห็นนี่ กังวลทำไมไคเอ่ยอย่างไม่หยี่ระเท่าไรนัก

     

     

    แล้วถ้ามีคนมาเห็นเล่า ไอ้บ้านี่เซฮุนเริ่มโวยวายเสียงดัง

     

     

    ช่างดิ

     

     

    ช่างแป๊ะมึงดิ!พูดจบร่างบางก็ถีบร่างหนาเสียเต็มรัก จนไคตกเก้าอี้ไปเลย ใบหน้าหวานยู่อย่างขัดใจ มือบางกอดอกตัวเองไว้ พลางจ้องหน้าไคอย่างไม่คอยพอใจ

     

     

    บอกแล้วนี่มันโรงเรียนไคลุกขึ้นมานั่งข้างเซฮุนตามเดิม

     

     

    ถ้าไม่ใช่ที่โรงเรียน ไฟเขียวเลยใช่ป่ะ?” ถามพลางทำหน้ายียวน

     

     

    มึงอยากโดนกูเตะอีกป่ะไคหัวเราะ หึหึ ก่อนจะยื่นมือหนาไปขยี้หัวคนรักซะจนยุ่ง

     

     

     

     

     

     

    อาจไม่มีใครรู้ ในระหว่างที่ไคและเซฮุนกำลังสวีทกันนั้น มีคนๆหนึ่งที่กำลังยืนดูอยู่ ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตา มือเล็กพยายามปาดน้ำตาทิ้ง แต่พยายามเท่าไร น้ำตาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลซักที

     

     

    ฮึก...ฮือๆเสียงสะอื้นเล็กๆ ดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสวยได้รูปนั้น

     

     

    อาจมีใครหลายคนที่มองว่าผมนั้นร้ายกาจ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดว่าผมเป็นยังไง แต่ที่ผมคิด...สิ่งที่ผมทำกับเซฮุนมันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ผมเป็นคน...ผมมีหัวใจ...ผมรักเป็น...ผมโกรธเป็น...ผมเสียใจเป็น...

     

     

    การที่เรารักใครมากๆ จนแทบจะยอมตายเพื่อเขาได้ มันเป็นเรื่องที่หนัก และเหนื่อยเกินคาด ความรักของผมที่มีต่อไคมันอาจมีมากเกินไปจนมันล้นออกไม่สามารถเติมเต็มให้ไคได้ ไคถึงไม่เคยเห็นค่าความรักของผมเลยแม้แต่น้อย 

     

     

    เราคบกันมาถึง 2 ปี 2 ปีเชียวนะ ที่ผมทุ่มทั้งตัวและหัวใจให้เขา ถ้าไม่มีเซฮุนซักคน ไคคงไม่หมดรักผมแบบนี้ ทั้งๆที่ก่อนที่ไคจะรู้จักเซฮุน เรารักกันมาก รักกันมาก ฮึก... 

     

     

    หัวใจผมแหลกสลายไม่เหลือดี เมื่อได้ยินไคบอกว่ารักเซฮุน ผมอยากจะเดินเข้าไปกระชากใบหน้าหวานของเซฮุน ทำไมต้องแย่งไคไป ทั้งชีวิตผมไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากไค ทำไมต้องแย่งความรักของผมไปด้วย ทำไมกัน...

     

     

    ยิ่งเห็นไคปกป้องเซฮุนผมยิ่งเสียใจ ยิ่งเห็นว่าไครักเซฮุนมากแค่ไหน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด เหมือนมีมีดแหลมคมมากรีดลงที่หัวใจของผมอย่างช้าๆซ้ำๆ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

     

     

    ผมทนไม่ไหวอีกแล้ว ผมไม่อาจทนทำร้ายเซฮุนที่ไคคอยปกป้องและถนุถนอม เพราะยิ่งผมทำให้เซฮุนหวาดกลัวและเจ็บปวด ไคก็จะยิ่งปกป้อง และกลายเป็นผมเองที่เจ็บปวดเมื่อเห็นภาพเหล่านั้น ผมถึงต้องยอมหยุด...หยุดทุกอย่าง แม้จะต้องเจ็บปวดอยู่เพียงคนเดียว

     

     

    ผมกำลังมองภาพคู่รักหวานฉ่ำ ที่ตอนนี้ถือเป็นคู่รักที่ดังที่สุดในโรงเรียนสวีทกัน มีความสุขกันจังนะ...ผมกำลังจะหันหลังเดินจากภาพนี้ ภาพที่แสนบาดตา แต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนมองภาพๆเดียวกับผม ตากลมโตคู่นั้นมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาแสนเศร้าสร้อย

     

     

    หวัดดีชานยอลเอ่ยเบาๆ พลางหันมามองหน้าผม ก่อนจะเผยยิ้มบางๆที่ใครมองก็ต้องรู้ว่ามันรอยยิ้มที่ฝืนใจแค่ไหน

     

     

    สนใจจะ...ไปหาอะไรกินแก้เศร้าด้วยกันไหมชานยอลเอ่ยออกมาเบาๆ ผมพยักหน้าตอบรับ ชานยอลคงรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากผม

     

     

    ถ้าหากผมสามารถหาคนที่สามารถช่วยระบายความอัดอั้นนี้ออกไปหมดได้ก็ดีสินะ...

     

     

    .

    ..

    ...

     

    จบจริงๆแล้วน๊า


     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×