คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : - 17 - ( 100% )
눈이 멀어도 괜찮아요 숨이 멎어도 괜찮아요
한번만 그대 볼 수 있다면 내 맘 모두 줄 수 있다면
ถึงแม้จะมองไม่เห็น ก็ไม่เป็นไร ถึงจะไม่อาจหายใจ ก็ไม่เป็นไร
แค่ฉันได้เห็นหน้าคุณสักครั้ง แค่ฉันได้มอบหัวใจดวงนี้ให้คุณก็เพียงพอ
เสียงใสเอ่ยพูดต้อนรับเจ้าชายหนุ่มที่เดินทางตรงมาจากอังกฤษตามสคลิปที่ท่องไว้ นัยน์ตาสวยจ้องมองเจ้าชายรูปงามตาไม่กระพริบกับความหล่อปนน่ารัก เจ้าชายจากอังกฤษที่มีดวงตาสีฟ้าสวยตามเชื้อตะวันตก ผิวขาวผ่อง คิ้วเรียวและกลุ่มเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างไม่สูงไม่เตี้ยจนเกินไปด้วยชุดเต็มยศของเจ้าชาย
อ๋า ทำไมหล่อจัง อยากลองเข้าไปซบอกดูสักคืนสองคืน #วรั๊ยเขิน (>///∇///<)
“ยินดีที่ได้รู้จักครับดัชเชสลู่หาน ที่นี่ยังคงสวยงามเหมือนเมื่อสองปีก่อนที่ผมเคยมาไม่มีผิด” เจ้าชายเฮนรี่ยกยิ้มไมตรีทักทายลู่หานที่วันนี้ยืนต้อนรับอยู่คนเดียวในฐานะดัชเชสเนื่องด้วยดยุคคนสำคัญติดประชุมด่วนที่กรีซ คนตัวเล็กเลื่อนมือทักทายเจ้าชายหนุ่มเบาๆ ร่างบอบบางที่วันนี้แต่งตัวเต็มยศด้วยชุดดัชเชสประจำเฮเลเนี่ยน และสร้อยคอดวงอาทิตย์ที่เป็นสิ่งตีตราว่าบุคคลผู้นี้คือดัชเชสของดยุคเซฮุน
“น่าเสียดายที่ในครั้งนี้ดยุคเซฮุนไม่อยู่ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเยอะแยะไปหมด^-^”
อัปป้ามึงออมม่ามึง! ยะยิ้มโตรหล่อเลยอีเหี้ย!!! #แดดิ้น (T///∇///T)
“เห็นทีเจ้าชายคงต้องเปลี่ยนมาคุยกับผมแทน ถึงผมจะไม่ค่อยสันทัดในบางเรื่อง แต่ผมไม่ทำให้คุณเบื่อแน่นอนครับ!”
“ฮ่าๆ ดัชเชสตลกดีนะครับ ผมคงต้องขอคำปรึกษาเรื่องงานของผมจากคุณอีกเยอะเลยละ ^-^”
ไม่นะ… อย่ายิ้มแบบนี้สิ…
“ขอได้ตลอดเวลาเลยครับ ถ้าผมตอบได้จะตอบทุกอย่างเลย”
“ฮ่าๆ ไว้ผมมีข้อสงสัยแล้วจะรีบมาถามดัชเชสทันทีเลย ^-^”
กร๊ดดดดดดด พ่ายแพ้แล้วศิโรราบแล้ว ยอมแล้วทูลหัวอยากมีผัวเป็นเจ้าชายเฮนรี่ #ฮริ้ง (T///////∇////////T)
ผู้ชายบ้าอะไรยิ้มโคตรหล่อเลยมึง โอ้ยเห็นละดนตรีจังหวะเพลงโรคหัวใจกำเริบเลิฟของโฟร์มดมันดังอยู่ในอกข้างซ้าย #เด้งนมใส่แบบใบเตยอาร์สยาม ♥_♥
“เจ้าชายเฮนรี่รู้บ้างเปล่าครับว่าเวลายิ้มนี่ผมมองทีแล้วรู้สึกแสบตาวิ้งวับเลยครับ มันส่องแสงกระแทกตาผมจนรู้สึกวิงเวียน…”
ม๊าสอนว่า 'โตแล้วจะแรดใส่ใครก็ได้' #โปรยเบอร์โทร ฮิ! ♥_♥
“ฮ่าๆ รอยยิ้มของผมกระแทกตาแล้วไม่กระแทกใจดัชเชสมั่งหรอครับ ^-^”
ไม่ต้องกระแทกตากระแทกใจละเรามากระแทกอย่างอื่นกันดีกว่าโน๊ะ
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย #แดดิ้น \(///∇///)\
และก่อนที่ทั้งสองคนจะได้หยอกล้อกระชับมิตรเชื่อมความสัมพันธ์มากกว่านี้ก็ต้องหยุดลงเมื่อมีอีกเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น
“เฮนรี่มานานแล้วงั้นหรอ”
“อ้าวคริสไม่เจอกันนานสบายดีนะ”
ลู่หานยืนกระพริบตาปริบๆเมื่อจู่ๆก็โดนเด้งออกจากวงสนทนาเหลือแค่เจ้าชายเฮนรี่และคนมาใหม่อย่างคริส ยืนนิ่งด้วยความงงวยปนสงสัย ทั้งสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นหรอ...?
“กว่าจะได้เจอกันนี่โคตรยาก คิดถึงชิบหาย”
“ไม่เจอกันนานแล้วนี่ตั้งกี่ปีละ เกือบห้าปีแล้วรึเปล่า?”
ทว่าไม่นานก็ได้รับคำตอบในความสงสัยของตัวเองเมื่อเห็นท่าทางพูดคุยและคำศัพท์ที่แสดงถึงความสนิมสนมของทั้งสองคน อ่า…เขาลืมไปได้ยังไงว่าคริสเคยไปอยู่อังกฤษเมื่อตอนเด็ก
“ฉันลืมไปเลย ลู่หานนี่เฮนรี่นะ เขาเป็นเพื่อนฉันตอนเรียนประถมที่อังกฤษน่ะ”
“อ่าพวกคุณเป็นเพื่อน…สนิทกันหรอ”
“หืมสนิทหรอ? ต้องเรียกว่าเพื่อนตายกันมากกว่าใช่ไหมคริสฮ่าๆ” ทั้งสองคนยืนกอดไหล่พูดคุยถามถึงความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้พบเจอกันนาน จนลู่หานเริ่มหงอยลงอย่างเห็นได้ชัด
ถ้ารู้จักกันตั้งแต่แรกแล้วจะให้เขามาต้อนรับทำไม ทำไมไม่ให้คริสมาต้อนรับแทนกันละ -^-
“แล้วนายมาพร้อมกับ ‘เขา’ รึเปล่า?”
“อื้มใช่เราบินมาพร้อมกัน ถามถึงแบบนี้เริ่มเปิดใจให้ ‘เขา’แล้วรึไง?”
“ไม่หรอก ก็แค่ถามถึงเฉยๆ แล้วตอนนี้ไปอยู่ไหนซะแล้วละ”
“ไม่รู้สิ เห็นบอกว่าจะขอตัวไปเดินย้อนวันวานซะหน่อย”
ลู่หานตีหน้าสงสัยกับ ‘เขา’ที่อยู่ในบทสนทนาของสองคนนี้ หมายถึงใครกันนะแล้วทำไมต้องทำสีหน้าเคร่งเครียดกันขนาดนี้ด้วยละ หากแต่สงสัยได้ไม่นานก็โดนสะกิดที่ด้านหลังจนต้อนหันไปมองก็พบกับสาวใช้ด้านหลัง
“มีอะไรหรอ”
“ดัชเชสคะ อาหารเที่ยงพร้อมที่โต๊ะแล้วค่ะ แต่ว่าเรื่องขนมหวานจะรับเป็นอะไรดีคะ”
“อ่านั่นสิ…” คำถามนี้เป็นคำถามที่ยากสำหรับเขาเอาการ เพราะหน้าที่ดูแลต้อนรับเจ้าชายเฮนรี่หนึ่งในนั้นก็คือการเอาใจ หากอาหารหรือขนมที่นำมาไม่ถูกปากอาจสร้างผลกระทบได้ภายหลัง
“มีโกโก้ไหม? เฮนรี่ชอบกินโกโก้ ทำเป็นโกโก้ปั่นหรือไม่ก็โกโก้หวานเย็นคู่กับผลไม้ที่มีน้ำเยอะ หมอนั่นชอบกินอะไรแบบนี้”
เสียงของคริสที่ดังแทรกขึ้นทำให้ปมคิ้วที่ขมวดกันของลู่หานคลายลง สาวใช้พยักหน้ารับโค้งตัวลงแล้วเดินจากไปทิ้งให้ลู่หานมองอีกคนด้วยความไม่เข้าใจนักแต่ก็แย้มยิ้มขอบคุณกลับ
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก…”
“…”
“ถ้าได้ทำเพื่อนายสักนิดฉันก็ยินดี”
นัยน์ตาสวยเลื่อนขึ้นมองแผ่นหลังของคริสที่หมุนตัวเดินนำเจ้าชายเฮนรี่ไปยังห้องอาหารที่อยู่ถัดไม่ไกล หัวใจเต้นในจังหวะปกติอย่างคนไม่รู้สึกรู้สาอะไรก่อนพรูลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายแล้วก้าวเดินตามไป
เห้อ… อยากศัลยกรรมหน้าตัวเองให้ขี้เหร่ลงจัง (._.)
GREECE
“ด้านซ้ายจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ไว้จัดงานสังสรรค์ต่างๆค่ะ ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องครัวและเก็บอุปกรณ์เพื่อที่จะได้ใกล้กับห้องโถง และที่เป็นไฮไลท์ของเราก็คือระเบียงติดห้องโถงด้านนอกซึ่งมองเห็นวิวยามค่ำคืนของกรุงเอเธนส์และยังมีกล่องดูดาวขนาดยักษ์สองลำบนชั้นลอย จัดเป็นโซนรับลมยามค่ำคืนด้านหลังค่ะ”
เซฮุนพยักหน้ารับอย่างพึงใจสำหรับโรงแรมห้าดาวหุ้นส่วนใหม่ในเครือเฮเลเนี่ยนกรุ๊ปที่เขาได้เข้ามาดูสถานที่ด้วยตัวเอง กรุงเอเธนส์เมืองหลวงกรีซที่มีคนเข้ามาท่องเที่ยวมากกว่าสิบล้านคนต่อเดือนสร้างรายได้มหาศาล แต่ดวงดาวที่สร้างเงินของจริงน่ะไม่ใช่จุดนี้หรอก
“ชั้นใต้ดินเราทำเป็นระบบรักษาความปลอดภัยขั้นหนึ่งที่ทุกคนต้องเป็นสมาชิกวีไอพีเท่านั้นจึงจะผ่านเข้าไปได้ ด้านในเป็นศูนย์รวบรวมคาสิโนขนาดใหญ่รวมถึงศูนย์กลางการประมูลรายการแบล็คลิสที่จะจัดขึ้นทุกสองปี”
เมื่อมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืด ธุรกิจโรงแรมห้าดาวขนาดใหญ่ที่สนองทุกความต้องการของมนุษย์เป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่คลอบคลุมสิ่งเน่าเฟะภายใน ทว่าสิ่งเน่าเฟะที่กล่าวถึงนั้นกลับซุกซ่อนไปด้วยเพชรเม็ดงามทำเงินให้อย่างมหาศาล
“วันเปิดโรงแรมฉันจะบินมาร่วมงานด้วย แจ้งวันกับคนของฉันได้เลย”
“ค่ะ ขอขัดจังหวะอีกสักครู่นะคะท่านดยุคเซฮุน” เธอขัดขึ้นภายหลัง ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใบหน้าหล่อเหลาแบบคนเอเชียที่ใครได้พบเห็นก็ต้องหลงติดกับดักเสน่ห์ไปทุกราย
“ท่านทูตสเตฟานอสกำลังรอพบท่านดยุคอยู่ที่ห้องราชันสามค่ะ”
หญิงสาวโค้งตัวลงพลางเอ่ยบอกตามคำสั่งที่ได้รับ เซฮุนเพียงแค่ปรายสายตามองชานยอลองครักษ์หนึ่งเดียวที่ยังคงพูดถึงรายละเอียดเล็กน้อยกับหญิงสาวอีกคน
“ตามฉันมาทีหลังก็แล้วกัน” เอ่ยบอกชานยอลก่อนก้าวเดินออกมาเมื่อไม่อยากให้ท่านทูตผู้ร่วมหุ้นอีกหนึ่งต้องคอยนาน แม้ชานยอลอยากจะเอ่ยค้านเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของดยุคผู้มีความสำคัญระดับประเทศแค่ไหน แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อธุระของเขาก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ได้แต่ส่งสายตาบังคับขู่เข็ญหญิงสาวให้รีบหน่อยก็เท่านั้น
“เดินนำฉันไปพบสเตฟานอสที”
เอ่ยบอกเสียงนิ่งพลางเดินตามหญิงสาวที่เดินนำออกไป นัยน์ตาคมภายใต้กรอบแว่นสีดำนิ่งสนิทคอยระวังตัวทุกย่างก้าวเมื่อในเวลานี้เขาไม่มีบอดี้การ์ดเข้ามาตามติด ตระหนักกับตัวเองอยู่เสมอว่าออกแนวถิ่นแดนต้องระวังภัยไว้ให้ดี เพราะหากตัวเขาเป็นอะไรไปคงกระทบต่อความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเฟื่องฟูอยู่มากโข
หากทว่าจะระมัดระวังมากแค่ไหน ก็ต้องมีเพียงเสี้ยววินาทีที่เผลอหลุดช่องโหว่ออกมา…
จุดเลเซอร์สีแดงส่งมาจากทิศทางไกลฉายเป็นจุดเล็กๆบริเวณหน้าอกข้างซ้ายซึ่งเป็นจุดตายเพียงหนึ่งเดียว
และก่อนที่มันจะ...
ปัง!!!!!!!!!!
“ว่ายังไงนะ!!!!!!”
“ดยุคเซฮุนถูกลอบยิงค่ะ อาการบาดเจ็บยังไม่ทราบแน่ชัดต้องรอคนของท่านดยุคติดต่อกลับมา”
ลู่หานแทบลมทั้งยืนกลางห้องอาหารหลังจากได้รับฟังข่าวร้ายจากแบคฮยอน ดวงตาสวยกรรโชกลมพายุขนาดยักษ์จนสั่นไหวรุนแรง ลำตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
กลัวการสูญเสียหัวใจ โดยไม่มีวันคืนกลับมา
“ไม่จริง…”
คริสและเฮนรี่ลุกพรวดทะยานเข้าไปพยุงลู่หานก่อนที่ร่างนั้นจะล้วงลงสู่พื้น ทั้งสองมีสีหน้ากระวนกระวายไม่ต่างกัน ใจนึงก็คิดสงสารลู่หานที่ตัวสั่นเสียจนน่าสงสาร ยิ่งพบว่าดวงตาเลื่อนลอยยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ
“ทำยังไงดีฮึกคริสฉันจะทำยังไงดี”
หันไปหาคนข้างกายกุมมือหยาบที่ช่วยพยุงร่างตนไว้เป็นที่พึ่ง หัวใจดวงเล็กบีบแน่นราวแตกสลาย หลากความรู้สึกถาโถมเข้ามาปะปนกันไปหมด หวาดกลัว หวั่นวิตก กังวลใจ ทับถมเข้ามาจนหนักอึ้งไปทั้งร่าง
บอกทีว่าแค่ฝันไป…
หากแต่ถ้าลู่หานจะรู้สักนิดว่าคนที่กำลังปั้นหน้าเศร้าเป็นแหล่งพักพิงอยู่นั้นกำลังลอบยิ้มพึงใจส่งไปหาเจ้าชายเฮนรี่ที่ยืนอยู่อีกด้าน แม้จะพอใจที่เหตุการณ์เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ทว่าในส่วนลึกกลับสะท้อนความเจ็บปวด
เจ็บปวดแทบขาดใจเมื่อคนที่อิงแอบร้องถวิลหาแต่ใครอีกคน
ใกล้ตัวแต่ไกลหัวใจ…
“ฉัน…เอาโทรศัพท์ฉันมา” เสียงสั่นสะท้านไปถึงร่างกาย ลู่หานผละออกจากคริสที่ช่วยโอบพยุงก่อนร้องขอโทรศัพท์จากแบคฮยอนเพื่อโทรหาคนที่เป็นห่วงสุดหัวใจ
ขอแค่ได้ยินเสียง… ขอแค่ได้รับรู้ว่าปลอดภัยดีหรือไม่
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ยิ่งไร้วี่แววว่าปลายสายจะกดรับยิ่งร้อนรนหัวใจไม่ต่างจากกองไฟที่สุมอยู่ในอก ลู่หานยืนหลับตาแน่นอ้อนวอนขอร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เห็นใจแก่ความเป็นห่วงของเขา ความเป็นห่วงที่มีมากจนล้นอกพลอยทำให้ดวงตาสวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ความหวาดกลัวพุ่งเข้าใส่จนเปิดประตูแห่งความอ่อนแอเอ่อล้นออกมา
ขอแค่ได้ยินเสียงแล้วบอกว่าสบายดี ขอแค่ได้รับรู้ถึงความปลอดภัยของอีกคน
ขอแค่เท่านี้เขาก็จะกลับไปเป็นลู่หานที่เข้มแข็งคนเดิม…
“ฮึกรับสักทีสิ”
ด้วยความเป็นห่วงที่ท่วมท้นหัวใจยิงเข้าใส่บ่อน้ำตาจนไหลออกมาเป็นสาย คริสที่ยืนดูอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้ามาเช็ด พร้อมกับที่อีกมือหนึ่งกำเข้าหากันอย่างช้าๆก่อนจะบีบแน่น
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ยิ่งปล่อยทิ้งเป็นเวลานานความคิดด้านลบก็ยิ่งสอดแทรกเข้ามา ความหวาดกลัวแพร่พิษไปทั่วหัวใจจนรู้สึกวิตกว่าหากในวันพรุ่งนี้จะต้องไร้เซฮุนข้างกาย… เพียงแค่คิดก็เหมือนหัวใจถูกดึงออกมา
จะทิ้งกันไปแบบนี้หรอ… ดยุคเซฮุนต้องอยู่กับดัชเชสลู่หานตลอดไปไม่ใช่หรอ…
“ฮึก”
แกร๊ก
“ฮะฮัลโหล…”
ฟึบ!!!!!
“เซฮุน!!!!!!!!!”
ลู่หานร้องลั่นอย่างดีใจด้วยใบหน้าที่ยังคงหลงเหลือคราบน้ำตา ความกังวลทั้งหลายปลิวหายโดยฉับพลันยามได้ยินเสียงคุ้นหูจากปลายสาย
“ฮึกไม่เป็นไรใช่ไหม? ฉันได้ยินว่าถูกยิง ปลอดภัยดีรึเปล่า? เกิดอะไรขึ้น? บาดเจ็บตรงไหนไหม?” เสียงสั่นเอ่ยถามออกมารวดเดียวอย่างคนที่แบกความห่วงไว้ล้นอก
“ทีละคำถามสิ โอ้ยซี๊ด ฉันไม่เป็นอะไรแค่เฉี่ยวๆ”
“ละแล้วเจ็บมากไหม”
“โชคดีที่ชานยอลเข้ามาช่วยรอดไปอย่างหวุดหวิดเลยละ ลูกกระสุนถากแขนฉันนิดหน่อยตอนนี้กำลังทำแผลอยู่…” เสียงที่กำลังเล่าสถานการณ์หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากปลายสาย “ลู่หาน…”
“ฮึกทำไมไม่ระวังตัวเองบ้างเลยฮึกฉันตกใจมากนะ! ใจหายด้วยฮึก… ฉันกลัวฉันกลัวว่าฉันจะเสียเซฮุนไปฮึก… ฉันกลัวจริงๆนะ”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงทำให้ปลายสายแย้มยิ้มกว้างออกมา หัวใจพองโตกับการที่ถูกคนรักห่วงใยมากขนาดนี้
“ตกใจมากรึเปล่าลู่หาน”
“ฮึก”
“ฉัน…ขอโทษนะ”
“ฮึก”
“ทีหลังจะระวังตัวให้ดีกว่านี้นะครับ”
ดวงหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างทั้งน้ำตา หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง ก่อนเอ่ยเสียงอ้อนปลายสาย
“คุณเนื้อคู่…เฟสไทม์กันนะ~ อยากเห็นหน้าคุณเนื้อคู่ให้หายกังวลใจ”
เซฮุนไม่ตอบแต่กลับกดชวนเฟสไทม์เข้ามาแทน ลู่หานแย้มยิ้มกว้างปลีกตัวออกมายืนอยู่คนเดียวนอกระเบียงแล้วกดตอบรับเฟสไทม์เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เฝ้าคิดถึง
ขนาดเพิ่งโดนลอบยิงมายังหล่ออะ เห้อเบื่อจัง (.////////.)
“ตาแดงหมดแล้ว” ทันทีที่เห็นใบหน้าอีกฝ่ายเสียงทุ้มก็ร้องทักขึ้น นึกโมโหตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้อีกคนต้องเสียน้ำตา
“แดงไม่เท่าแผลคุณเนื้อคู่หรอก ดูสิขนาดทำแผลเสร็จแล้วยังมีรอยเลือดติดอยู่เลย… เจ็บมากไหม?” ร่างสูงก้มลงมองแขนตัวเองที่ถูกพันด้วยผ้ากอซก่อนลากสายตากลับมามองใบหน้าสวยผ่านหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้งพร้อมยิ้มบางเบา
“เป็นห่วงหรอ?”
“ห่วงดิ ห่วงมากด้วย”
“ห่วงแล้วทำไมไม่มาเป็นพยาบาลดูแลละ”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนี่…”
“โอ้ย... เจ็บแผลไม่ไหวแล้วอยากได้คนแถวนี้มาเป็นพยาบาลดูแล”
“อย่ามาเล่นตลกนะ!”
“ดูดิคนเรา ดยุคเจ็บแขนจะตายแล้วดัชเชสก็ยังไม่คิดสนใจอีก รู้งี้น่าจะโดนให้เยอะกว่านี้เนอะ”
“ดูพูดเข้า ถูกลอบทำร้ายแล้วยังไม่เจียมอีก”
คนร่างสูงยกยิ้มขำขันกับคำพูดแอบจิกกัดของอีกฝ่าย รู้สึกว่านานวันเข้าลู่หานก็จะเริ่มกล้าพูดกล้าต่อรองกับเขามากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ทั้งคอยเอาใจและตามใจเขาสารพัดสารเพ
“วันนี้อยู่ต้อนรับเฮนรี่เป็นยังไงบ้าง เขาแกล้งนายรึเปล่า”
“เจ้าชายเฮนรี่น่ารักมากเลย ตอนแรกก็คิดว่าคงต้องหยิ่งแน่ๆแต่ที่ไหนได้กลับเป็นกันเองและคุยสนุกสุดๆ นี่คุณเนื้อคู่รู้ไหมว่าตอนเจ้าชายเฮนรี่ยิ้มน่ะนะน่ารักสุดๆไปเลยแหละ! เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเล่นจริงๆ”
แผงคิ้วเข้มกระตุกขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดและท่าทางเพ้อฝันของคนที่อยู่ในหน้าจอโทรศัพท์
“เห้ น้อยๆหน่อย ฉันนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้นะ (-_-)”
“ก็เจ้าชายเฮนรี่น่ารักจริงๆนี่! ฉันประทับใจเขามากเลยนะ”
“ลู่หาน (-_-)+”
“แล้วอีกอย่างตาสีฟ้าของเขาก็สวยมากๆเลยละ…”
“นี่ถึงกับมองตากันแล้วหรอ!!!!”
“ก็ตาสีฟ้าของเจ้าชายเฮนรี่มันเด่นชัดมากๆเลยนิน่า”
“ฉันชักเริ่มจะหึงแล้วนะ (-_-)+”
“ทำไมต้องหึงด้วยเล่าก็เจ้าชายเฮนรี่เขาหล่อจริงๆอะ”
“แล้วดยุคเซฮุนคนนี้ไม่หล่อรึไง!!!!”
“หล่อสิ! แต่เจ้าชายเฮนรี่เขาก็หล่อเหมือนกันนิน่า”
“ไม่ได้! ดยุคเซฮุนต้องหล่อที่สุด! หล่อมาก! หล่อจนดัชเชสลู่หานทนไม่ไหว!!”
“ทำไมคุณเนื้อคู่เอาแต่ใจแบบนี้ละ ไม่เห็นเหมือนเจ้าชายเฮนรี่เลยสักนี๊ด~”
“ลู่หานนี่นายเป็น ‘ดัชเชสของฉัน’ นะ!!!”
“ฉันรู้! ใครๆก็รู้ว่าฉันเป็นดัชเชสแห่งเฮเลเนี่ยน”
“แล้วใครที่ไหนจะบ้านั่งฟัง ‘คนของตัวเอง’ ชมคนอื่นหล่องู้นงี้บ้างนะห๊ะ!”
ลู่หานนิ่งค้างกับคำพูดของเซฮุนและแววตาดุดัน ผิวแก้มใสขึ้นสีระเรื่อก่อนเชิดปากขึ้นตอบกลับ “…ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่ ก็แค่ชมเฉยๆ ยังไงคนที่ฉํนรักจริงๆก็มีแค่ดยุคโอเซฮุนเท่านั้นแหละน่า! …อย่าขี้หึงนักจะได้ไหมเล่า”
เซฮุนชะงักกึกกับคำพูดทิ่มแทงหัวใจของลู่หาน ผลึกตาสีเฮเซลจ้องมองใบหน้าสวยผ่านจอโทรศัพท์พลางพรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความน่ารักน่าเอ็นดูของอีกคน
“สัญญาเลย ถ้ากลับไปฉันจะจับนายฟัดให้ตาย”
“ไม่เห็นถึงกับต้องสัญญาเลย”
“นั่นสิเนอะ…”
“…เพราะยังไงก็ไม่รอดอยู่ดี”
ดวงตาสีคาราเมลผินหนีจากหน้าจอโทรศัพท์ยามที่เห็นสายตาร้อนแรงราวกับแผดเผาของอีกคน ไม่รู้จะเขินอะไรนักหนา รู้แต่ว่าไม่เคยชินกับสายตาของคนตัวสูงได้เลยสักครั้ง
ไม่ไหว/////
“ลู่หาน…” เอ่ยเรียกอีกคนเมื่อเห็นคนตัวเล็กหลบสายตา ภาพในจอที่แสดงจากแอพริเคชั่นสั่นไหวไปมาจนคิ้วเรียวขมวดขึ้นเป็นปมอย่างขัดใจ
“ถือโทรศัพท์ดีๆหน่อยสิมันสั่นไปหมดแล้ว ฉันมองหน้านายไม่ชัดเลย เห้!”
“อะหรอ แห๊ะๆ ขอโทษที” เอ่ยตะกุกตะกักสูดลมหายใจเข้าทำใจกล้ามองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ทว่าทันทีที่ลากสายตากลับไปยังหน้าจอก็แทบปล่อยโทรศัพท์ราคาแพงล้วงตกพื้นเมื่อจู่ๆหัวใจก็ดันเต้นกระตุกขึ้น ฝืนพยายามประคับประคองสติกลับมาที่เดิมถึงแม้จะริบหรี่เต็มทีก็เหอะ
ก็ใครให้นั่งจ้องหน้ากันแบบนั้นเล่า!! แล้วยิ่งสายตาที่มองมาราวกับจะจับเขา 'กิน' นั่นอีก…
ถ้าไม่เขินจนนมสั่นก็ให้มาตบอีลู่คนนี้ได้เลย!!!!
“นี่! ฉันบอกว่าถือโทรศัพท์ให้มันดีๆหน่อยไง ฉันอยากมองหน้านายนะลู่หาน!”
“ท่านดยุคครับ ได้เวลาแล้วครับ”
“แปบหนึ่งขอเวลาห้านาที”
เสียงที่ดังขัดขึ้นเรียกความสนใจจากลู่หาน เขาพอจำได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของชานยอล …ตอนนี้เซฮุนไปทำงานอยู่นี่น่า
“คุณเนื้อคู่ไปทำงานได้แล้ว อย่ามัวแต่นั่งอู้”
“แล้วคนไม่อู้คิดถึงฉันมั๊ย?”
คำถามที่ถูกแทรกขึ้นทำเอาลู่หานนิ่งชะงักหากเป็นในเวลาปกติคนตัวเล็กคงโพล่งกลับไปอย่างรวดเร็วทันทีว่าคิดถึงมากแค่ไหน ทว่าในโหมดอารมณ์ที่หัวใจยังไม่เป็นปกติแบบนี้ทำให้ร่างเล็กเกิดอาการเลิ่กลั่กปนเขอะเขินหาเส้นเสียงไม่เจอ
“อั๊กคะอึ๊ก…” พูดแทบไม่เป็นภาษาพร้อมกับที่ผิวแก้มแดงจัด ยิ่งผลึกตาสีเฮเซลมากอำนาจที่จ้องมองมาราวกับบีบเค้นเอาคำตอบยิ่งทำให้เกิดอาการละล้าละลัง
ฮื้ออออออ เขินจนแทบระเบิดบู้มๆแล้วนะ! /)_(\
“คิดถึงฉันมั๊ย”
ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันแน่นพยายามประคับประคองสติที่ใกล้จะหลุดออกไปให้ถือโทรศัพท์แน่น
“คิดถึง…”
“ตอบแล้วมองตาด้วยสิ”
“ทำไม…”
“เพราะฉันก็อยากบอกคิดถึงผ่านสายตาของฉันเหมือนกัน”
ฉ่า///
หัวใจกระตุกเต้นรัวขึ้นทันทีอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำพูดหวานเชื่อมพร้อมกับสายตาอ่อนแสง มือน้อยสั่นระริกจนทำให้อีกฝ่ายรู้ได้ทันทีว่าคนตัวเล็กกำลังเขินมากแค่ไหน ลู่หานหันเหหลบสายตาไม่กล้าสู้กล้องเป็นพัลวันราวกับหลบหนีสายตาเมดูซ่า
“คะคิด…”
“มองตาฉัน”
งื้อ
ร้องท้วงในใจเมื่อพบว่านี่มันยากลำบากกว่าทำข้อสอบระดับชาติ ความร้อนระอุแล่นฉ่าไปทั่งหน้าจนหวั่นวิตกว่าอีกคนจะรู้ถึงอาการเขินอายขนาดหนักของตัวเอง เขินมากเขินจนกำชายเสื้อเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว…
พรึบ!!
“เห้ยทำไมหน้าจอเป็นสีดำเล่าลู่หาน! ลู่หาน!!!”
รู้ว่าความเขินของตัวเองทะยานขึ้นสูงจนน่าอาย ดัชเชสจอมขี้เขินก็คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทันทีปล่อยให้ปลายสายร้องโวยวายอย่างไม่พอใจ …ไม่ไหว… มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกที่เต้นดังสนั่นแน่นจนรู้สึกอยากทึ่งหัวตัวเองกับอาการขี้เขินง่าย
ปกติไม่ใช่คนขี้เขินหรอก พออยู่กับเซฮุนเท่านั้นแหละ เขินเลย \(///∇///)\
“ลู่หาน! เห้!! เปิดหน้าจอเดี๋ยวนี้!!! เร็วๆสิเวลาฉันมีค่านะ บอกคิดถึงฉันก่อน!!!!!”
กายเล็กสะดุ้งกับเสียงคะยั้นคะยอจากอีกฝ่าย จะให้เปิดหน้าจอขึ้นหรอ เดี๋ยวก็รู้กันหมดสิว่าตอนนี้เขาเขินจนยืนกุมแก้มตัวเองแล้วกระทืบเท้าไปมาอยู่ตรงระเบียงแบบนี้!
น่าอายจะตายชัก T//////T
“คุณเนื้อคู่… ฉันต้องไปแล้วเดี๋ยวเจ้าชายเฮนรี่รอนาน วางแล้วนะ!!!!!” เอ่ยปุบปับแล้วกดวางทันทีโดยไม่รอฟังเสียงท้วงจากอีกฝ่ายที่แว่วเสียงโวยวายส่งท้าย มือเรียวยกกุมหัวใจตัวเองพรูลมหายใจออกมาราวกับเรียกสติ
ทว่า…
ตึ๊ง!
DK.SEHUN : กล้าใหญ่แล้วนะ! L
กดเปิดอ่านคาคาโอทอล์คแล้วอมยิ้มออกมา ปล่อยเจ้าชายเฮนรี่รอไปก่อนแล้วกันเนอะ ขอทำตัวฟุ้งฟิ้งแปบละกัน
DCH.LUHAN : ก็มันกะทันหันนี่น่า
DK.SEHUN : จองหอง!
ลู่หานยืนหัวเราะขำคิกคักอยู่คนเดียวตรงระเบียงก่อนพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋า เดินกลับเข้าไปยังด้านในทันที
DCH.LUHAN : คิดถึงนะ จุ๊บๆ ฟุ๊บๆ มุ๊บๆ งุ๊บๆ
การพบกันเป็นเรื่องของท้องฟ้า…
…สิ่งต่อมาเป็นเรื่องของเรา
DK.SEHUN : คิดถึง
DK.SEHUN : คิดถึงมาก
DK.SEHUN : คิดถึงดัชเชสจอมขี้แย
( - la fondue ♡ au chocolate - )
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาหยุดอยู่ด้านหน้าสวนพฤกษาดอกไม้สีฟ้าอ่อนขนาดใหญ่ ทันทีที่ภาพดอกไม้คุ้นตาฉายชัดอยู่ในแววตาก็เกิดอาการสั่นไหวเพียงชั่วขณะ ความทรงจำครั้งแต่ก่อนผุดขึ้นออกมาจากส่วนลึกของหัวใจฉายภาพที่ไม่อยากจำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
‘คุณยังไม่คิดล้มเลิกที่จะเอาดอกไม้นี่มาให้ผมอีกอย่างงั้นหรือ’
‘ถึงนายจะไม่รับหัวใจของฉัน แต่นายก็ยังใจดีรับดอกไม้ของฉันนี่’
‘คุณก็รู้ดีว่าผม…’
‘ฉันจะให้ดอกไฮเดรนเยียกับนายจนกว่านายจะยอมมอบหัวใจให้ฉัน ฉันจะให้นายไปเรื่อยๆ ให้ไปทุกๆวันจนกว่านายจะยอมใจอ่อนให้ฉัน… สักนิด’
‘แล้วถ้าวันใดวันหนึ่งผมไม่ได้อยู่เป็นแสงตะวันเคียงข้างคุณแล้วละ’
‘ฉันก็คง… ปลูกสวนดอกไฮเดรนเยียเฝ้ารอวันที่นายกลับมา’
ร่างบอบบางผิวขาวซีดที่มองปราดเดียวก็รู้ว่ามาจากตระกูลสูงส่งยืนนิ่งทอดสายตามองสวนไม้ดอกสีฟ้าอ่อนเจนตาพลันเม้มริมฝีปากอย่างวิตก แม้ว่าเขาจะหายไปร่วมปี แม้ว่าเวลาหนึ่งปีก็ยังไม่สามารถชดใช้ความผิดใหญ่หลวงที่เขาจุดชนวนให้เกิดขึ้น แม้ว่าหัวใจทรนงดวงนี้ยังคงปักหลักยึดมั่นที่เดิมไม่เคยเปลี่ยนผัน
แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อหัวใจไม่เคยเชื่อฟังสมอง ในเมื่อหัวใจ… บังคับกันไม่ได้
“คุณปลูกมันจริงๆด้วยอย่างนั้นหรอ…”
วังวนแห่งความเจ็บปวดที่ต่างคนยอมเสียสละหัวใจรับความเจ็บปวดแลกกับความรัก
“ทั้งๆที่คุณก็รู้ดีว่าผมทำไปเพื่ออะไร ยอมสละตัวเองเพื่ออะไร ทั้งๆที่คุณรู้ทุกอย่างเสมอมา…”
แต่สุดท้ายวังวนนั้นต้องพังพินาศลงเพราะกฎแห่งความจริงที่ไม่สามารถสะบัดหนีได้
ตุบ
“ดะดัชเชสกลับมาแล้วหรือคะ!!!!!!!”
กายเล็กหมุนตัวกลับไปยังด้านหลังก็พบกับเมดสาวใช้คนสนิทที่เคยดูแลเขามาแต่ก่อนกำลังยืนมองด้วยแววตาตื่นๆ แย้มยิ้มริมฝีปากอิ่มเมื่อเห็นท่าทีตกใจจนโอเวอร์ของอีกคนที่ทำข้าวของหล่นจากมือ
“ผมไม่ใช่ดัชเชสอีกแล้ว อย่าเรียกแบบนั้นเลย”
“ขะขอประทานโทษด้วยค่ะ สงสัยคงเป็นความเคยชินของชอลลี่เอง ดัชเอ้ย… คุณจาง”
“ไม่ได้เจอกันนานชอลลี่สบายดีนะ”
“สบายดีค่ะ ห่วงก็แต่คุณจางที่ต้องจากไปไกล อยู่ที่นู่น… สบายดีไหมคะ”
“ผมสบายดี แล้ว…”
“ท่านดยุคก็สบายดีค่ะ ถ้าท่านรู้ว่าคุณจางกลับมาคงต้องดีใจแน่ๆ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ท่านไปประชุมที่กรีซ คงจะกลับมาอีกสองสามวัน คุณจางกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรรึเปล่าคะ ชอลลี่กลัวคุณจางจะมาแล้วเสียเที่ยว…”
“แค่เขาสบายดี… ผมก็ยินดีแล้วละครับ”
“โถ่คุณจาง… ยังนึกถึง ‘เรื่องนั้น’ อยู่อีกหรอคะ”
ใบหน้าขาวซีดหมองลงโดยทันที ความทรงจำครั้งแต่ก่อนที่เหมือนพิษร้ายฝังลึกลงในกระแสเลือดราวกับตราบาปติดตัว รากแห่งความทรมานกลั่นหยดน้ำใสโอบรอบนัยเนตรก่อนไหลลดลำต้นขาวซีด
ร้องไห้อีกครั้งกับเรื่องเดิมๆ
“ผมหนีไปอยู่อีกซีกโลกหนึ่งเพื่อทำใจให้ลืมและเริ่มต้นชีวิตใหม่… แต่ผมก็กลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยเหตุผมเดิมๆ”
“คุณจาง…”
“ผมรู้ว่าแก้วมันร้าว… แต่ผมก็ยังดื้อดึงที่จะหากาวมาต่อ”
“…”
“ผมนั่งซ่อมแก้วใบนั้น… ซ่อมจนมันบาดนิ้วตัวเอง ”
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก้าวเดินมายังด้านหลังโดยที่เจ้าของเสียงไม่รู้ตัว
“ถึงแม้เลือดจะออกและผมจะเจ็บ… แต่ผมก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอกนะ ไม่เป็นไร… ทั้งๆที่ข้างในมันเจ็บจนจะบ้าตายแล้วแท้ๆ ”
คนมาใหม่ยืนฟังถ้อยคำเหล่านั้นด้วยหัวใจนิ่งเฉยราวกับคนด้านชา
“ทั้งๆที่รู้ว่ามันเจ็บจนจะบ้าตาย… แต่ผมก็ยังโง่งมงายหยุดรักเขาไม่ได้เลยสักวินาทีเดียวฮึก”
“ยังเจ้าน้ำตาไม่เปลี่ยนเลยนะ… อดีตดัชเชส”
“…เจ้าชาย”
และเมื่อได้ผสานดวงตาที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าคู่นั้น
เขาก็แน่ชัดในหัวใจว่าไม่เคยเลิกรัก และยังคงเฝ้ารอ …เสมอมา…
( "คิดถึงดัชเชสจอมขี้แย" - Siad by Duke Sehun ♥ )
แชพเตอร์ที่สิบเจ็ด 100% #ฟองดูฮุนฮาน
Fonduehunhan
ครบร้อยแล้วน่า ตอนนี้เปิดตัวทุกอย่างทุกคนเลย เบ้
ในที่สุดก็รู้แล้วนะว่าอดีตดัชเชสคือใคร เพราะฉะนั้นตอนต่อไปก็ขอสปอยล์ว่า
เมื่ออดีตกลับมาพบกัน เมื่ออดีตที่ทุกคนสะบัดออกกลับมาเจอกันอีกครั้ง
คึ เข้าใจใช่ปะ 55555555555555555555555555
ช่วงนี้คนอ่านฟิคหายไปไหนหรอ เรารู้สึกว่าหายๆ -^-
แต่ไม่เป็นไร ไม่เม้นทืขอแค่เข้ามาอ่านก็ยังดี TvT
ปล.ยังีฟิคสต็อกเล่มหนึ่งเหลือ อยากได้ line ginghyuk จ้ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นท์นะคะ
ขอบคุณ#ฟองดูฮุนฮาน ในทวิต ขอบคุณโหวต ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน
ขอบคุณจริงๆที่ให้กำลังใจเรามาเสมอ รักคนอ่านทุกคนค่ะ จุ้บๆ
ความคิดเห็น