คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : - 26 - ( 100% )
มันก็ยังมีบางอย่างนะ ที่ไม่ว่าคุณจะต้องการมันมากแค่ไหน
คุณก็ไม่มีวันครอบครองมันได้อยู่ดี
“ทางโล่งครับคุณชานยอล”
เสียงทุ้มแผ่วเบาของคนด้านหน้าองครักษ์หนุ่มดังขึ้น ชานยอลพยักหน้ารับก่อนยกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่เป็นรุ่นน้องคนสนิทอย่าง ‘คิมจงอิน’ ทำการสะเดาะกลอน
กึก
ทันทีที่เสียงสะเดาะแม่กุญแจลูกโตดังขึ้น มือหนาขององครักษ์ก็ออกแรงดันบานประตูตรงหน้าออกช้าๆอย่างหยั่งเชิง เสียงบานประตูเหล็กเก่าดังขึ้นพร้อมกับหัวใจของชายหนุ่มทั้งคู่ที่เต้นรัวขึ้นอย่างลุ้นระทึก
และเสียงปนสภาพของคนที่สะบักสะบอมก็พาดวงตาสองคู่เบิกโพลง
“เจ้าชายคริสมาหาอี้ชิงหรอ…”
ร่างเปลือยเปล่าของจางอี้ชิงที่ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยบอบช้ำเขียวปนม่วง มีผ้าผืนเก่าคร่ำเครอะปิดกายอยู่หมิ่นแหม่ กายบอบช้ำที่นอนจมกองเลือดแห้งวงกว้างแลดูสยดสยอง รวมถึงข้อเท้าเล็กที่มีโซ่เส้นโตล่ามผูกไว้กับปลายเตียง ภาพน่าเวทนาที่ทำเอาผู้มาใหม่สองคนมองอย่างใจหาย
จิตใจทำด้วยอะไรถึงได้ทารุณกับร่างน้อยนี้ได้ลงคอ
“คุณจาง! ใครทำอะไรคุณจางครับเกิดอะไรขึ้น จงอินหุบประตูลงซิ” องครักษ์หนุ่มถลาเข้าไปช่วยประคับประคองร่างบอบช้ำที่จู่ๆก็เกิดอาการสั่นผวากัดฟันดังกึกๆโอบกอดร่างตัวเองแน่นราวสั่นกลัวคนมาใหม่ทั้งคู่ อีกทั้งดวงตาแดงช้ำที่สั่นไหวไปมาราวคนขวัญผวานี้อีก
“อะออกไปนะ... ฮึก... อย่าเข้ามาใกล้ผม!”
“คุณจางครับตั้งสติไว้ ใครทำอะไรคุณจางทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น!!”
“ฮึกมะไม่... ออกไป... อะออกไปนะ!!”
“คุณชานยอลครับผมว่าพูดไปคุณจางก็คงไม่ฟังหรอกครับ”
ชานยอลมองใบหน้าขาวซีดของอดีตดัชเชสจางอี้ชิงที่สั่นขวับไปมาปนสะอึกสะอื้นสั่นผวาอย่างนึกสงสาร อาการที่ไม่แตกต่างจากคนเป็นบ้า... อาการสั่นกลัวกับดวงตาที่ล่อกแล่กไปมารวมถึงตามผิวเนื้อเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำไม่เว้นว่าง
ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเจ้าชายคริสอย่างนั้นหรือ… ทำได้ถึงขนาดนี้เชียวงั้นหรือ
จิตใจทำด้วยอะไรกัน
“เราควรช่วยคุณจางออกมารักษาอาการทางด้านจิตก่อน แล้วหลังจากนั้น… เขาน่าจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเรื่องนี้!”
กลางดึกสงัด
ทางเดินเปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คนในกลางดึกที่เงียบสงัด ร่างเล็กของดัชเชสลู่หานแอบลอบหนีออกมาเมื่อในค่ำคืนนี้คนที่ควรจะอยู่เฝ้าเขาทั้งวันอย่างคริสหายไป และเหมือนกับทุกสิ่งอย่างเป็นใจเมื่อตลอดทางเดินที่ผ่านมากลับไร้ผู้คน…
ราวกับไม่มีคำสั่งให้เฝ้าทางเดินอย่างเช่นทุกที
ขาเรียวเล็กสับอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งเดินเข้าสู่คุกใต้ดินสถานที่เพียงหนึ่งเดียวที่หัวใจพร่ำเรียกร้อง และทันทีที่ก้าวมาถึงก็ไม่รีรอทรุดกายลงจับรั้วกรงเหล็กขึ้นสนิมแน่นเรียกร้องหาคนที่หัวใจเฝ้าถวิลหาทันที
“เซฮุน...”
“ลู่หาน? นายมาได้ยังไง! ปลอดภัยดีใช่หรือเปล่า!” ทุกคำถามเต็มไปด้วยความเป็นห่วงพาเอาหัวใจดวงน้อยอุ่นวาบ ดวงตาสวยกวาดมองทั่วร่างแกร่งของดยุคหนุ่มเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายก็ปลอดภัยดีไม่ต่างกัน
ความเป็นห่วงที่มอบให้แก่กันและกันดั่งความรักที่สวยงาม
“พรุ่งนี้ก็เป็นวันตัดสินคดีแล้ว นายต้องชนะคดีนี้นะเซฮุน” มือเรียวรอดผ่านรั้วกรงกอบกุมมือแกร่งแน่นก่อนบีบลงเบาๆอย่างให้อีกคนเบาใจ ก่อนที่ใบหน้าของทั้งคู่จะเปลื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข
สุขที่แม้ในวันทุกข์ทรมานก็ยังมีคนของหัวใจข้างกาย
“ฉันเป็นถึงดยุคเซฮุนเชียวนะ ดยุคโอเซฮุนจะยอมแพ้เรื่องแบบนี้ง่ายๆได้อย่างไรกัน”
“ฮึกนั่นสินะ... ก็เพราะว่านายเป็นดยุค… เป็นดยุคของดัชเชสลู่หานคนนี้ ฮึก” โดยไม่รู้ตัวหยาดน้ำตาก็รินไหลเป็นทางบอกทุกความรู้สึกในก้นลึกหัวใจ ความทรมาน ความเจ็บปวด และความเจ็บช้ำกับชีวิตที่ไม่คยได้รับความสุขทำให้ตอนนี้ช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะฝืนยิ้มออกมา
แม้กระทั่งหายใจก็ยังสัมผัสได้ถึงรสชาติของความเจ็บปวด
อ่อนแอเหลือเกิน
“อย่าร้องไห้เข้าใจไหมลู่หาน... อย่าร้อง... ยิ่งเห็นว่านายร้องฉันยิ่งโกรธตัวเอง ...โกรธจนแทบเป็นบ้า”
โกรธที่ปกป้องคนสำคัญไว้ไม่ได้
“ฉันอึ๊กขอโทษ... ฉันอ่อนแอทุกครั้งเวลาเห็นนายทุกข์แบบนี้ ฮึกฉันไม่ชอบตัวเองเลย” ทว่ายิ่งห้ามเท่าไหร่น้ำตากลับยิ่งท่วมท้น น้ำตาที่หลั่งไหลมาจากความเจ็บปวดกีดลึกลงไปในหัวใจแกร่งให้เซฮุนกำมือเข้ากับกรงเหล็กแน่น
อยากกระชากร่างน้อยเข้าสู่อ้อมกอดแล้วกอดปลอด พรบจูบทั่วหน้าผากมนแล้วกระซิบว่าไม่เป็นไร มันจะไม่เกิดอะไรร้ายแรงขึ้น... แต่ทำไม่ได้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากคอยเช็ดน้ำตาให้ลู่หานผ่านกรงรั้วเหล็กเช่นนี้
โกรธตัวเองจนแทบพังทลาบทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้ย่อยยับ
“ลู่หาน…”
“ทำไมเราสองคนถึงไม่ได้รักกันอย่างสบายใจสักทีเซฮุน... ทำไมเราสองคนถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วยอย่างั้นหรอเซฮุน... ทำไมความรักของเราถึงต้องมีอุปสรรคมากมายขนาดนี้ด้วยฮึก”
มือกร้านที่หนักอึ้งยกขึ้นเช็ดหยดน้ำตาใสแผ่วเบา คำถามของลู่หานเปรียบเหมือนปลายมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงให้เจ็บไปทั้งกาย คำถามที่ยิ่งตอกย้ำถึงความห่างไกลในความรักของทั้งคู่ ชายหนุ่มคิดทบทวนคำถามนั้นก่อนบีบมือแน่นเพราะรู้ถึงคำตอบดี
“ฉันรู้ดีว่าความรักของฉันจะต้องนำมาซึ่งความเจ็บปวดของนาย ฉันเป็นดยุคที่รู้อยู่แก่ใจว่าสักวันหนึ่งจะต้องเกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้น แต่ฉันก็ยังดื้อดึงเอานายมายืนเคียงข้างกายของฉัน... เจ็บปวดมากหรือเปล่าลู่หาน” คำตอบที่หนักอึ้งไปทั้งอกอย่างที่พาเอาหัวใจดวงแกร่งเจ็บร้าวไปทั้งใจ “เจ็บปวดมากหรือเปล่าที่ยืนเคียงข้างผู้ชายอย่างฉัน”
เพราะผู้ชายอย่างโอเซฮุนก็เป็นเพียงผู้ชายที่มีหัวใจธรรมดาคนหนึ่ง... หัวใจธรรมดาๆที่อยากเฝ้าดูแลทะนุถนอมคนรักให้ดีที่สุด
หากแต่คำตอบของลู่หานก็พามาซึ่งรอยยิ้มและหัวใจที่พองโตไปทั้งอก ...เขาเลือกรักคนไม่ผิด
“ถึงความรักครั้งนี้จะทำให้ฉันต้องเจ็บหรือทำให้ฉันต้องร้องไห้และเสียน้ำตาอีกสักกี่ครั้ง” และลู่หานคนนี้ก็ขอสาบาน… “ฉันก็จะรักนายตลอดไปเซฮุน”
“...ลู่หาน”
“เพราะว่าฉันรักนาย แม้ต้องเจ็บอีกสักแค่ไหน แม้ต้องให้ทุกข์ทรมานอีกมากเพียงใด… ฉันก็ยอม”
ดวงตาสองคู่สบผสานท่ามกลางความมืด ความมืดที่ฉุดรั้งทุกความรู้สึกทิ้งไปให้พบแต่แสงประกายแห่งความหวังในแววตา แววตาแห่งความหวังที่สะท้อนไปถึงความเชื่อมั่นในหัวใจ และในหัวใจทั้งสองดวงที่เต็มอิ่มเอมไปด้วย ‘ความรัก’
และก่อนที่สองมือนั่นจะบีบกันแน่น… บอกทุกความรู้สึกหมดหัวใจ
รัก... รักเหลือเกิน
แกร๊ก
แอ๊ด…
ประตูไม้เก่าผุกร่อนถูกดันเปิดออกช้าๆโดยฝ่ามือหยาบกร้านของดยุคคนใหม่แห่งเฮเลเนี่ยน ทันทีที่ขายาวของคริสก้าวเข้ามาภายในดวงตาคมก็เบิกโพลงก่อนดันประตูไม้เก่ากระแทกผนังดังตึ้งตามแรงอารมณ์ เมื่อเตียงเล็กว่างเปล่าไร้ร่างของคนที่ควรนอนอยู่บนนั้น….
…จางอี้ชิงหายไป
“จะเป็นไปได้ยังไง…”
ดวงตาคมหลุบต่ำมองโซ่เส้นใหญ่ที่กองอยู่ข้างเตียงด้วยแววตาวาวโรจน์ จะหายไปได้อย่างไร… จางอี้ชิงจะหายไปได้อย่างไร! และยิ่งคนที่มีสภาพจิตใจไม่สมประกอบแบบนั้นยิ่งเป็นไปได้ยากที่จะหนีออกมา นอกเสียจากว่า…
มีคนเข้ามาช่วย
“โถ่เว้ย!!!!!!!”
เสียงแข็งคำรามออกมาดังลั่นอย่างโกรธจัด ดวงตาคมวาววับเต็มไปด้วยแรงแห่งโทสะ ขายาวก้าวเดินออกสู่ด้านนอกที่เต็มไปด้วยเหล่าข้ารับใช้และกลุ่มอารักขาประจำกาย
และทันทีที่พบเห็นว่าท่านดยุคก้าวออกมาเหล่าคนศักดิ์ต่ำต่อยก็พร้อมใจกันโค้งคำนับลงทันที คริสที่หัวใจอัดแน่นไปด้วยแรงโกรธคำรามคำสั่งออกมาดังลั่นให้ได้ยินและรับฟังกันอย่างทั่วถึง
“ฉันขอออกคำสั่ง ตามหาอดีตดัชเชสจางอี้ชิงให้เจอ! แล้วลากตัวมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!!!!!!”
“ขอรับ!!”
หลังรับคำสั่งก็กระจัดกระจายกันออกไปทำตามหน้าที่ทันที เหลือไว้เพียงแต่ปีศาจร้ายในร่างดยุครูปงามที่ยืนขบฟันกรอดอย่างโกรธเกรี้ยวเจือหงุดหงิด
โดยที่ชายหนุ่มก็ยังไม่แน่ใจว่าต้นเหตุอารมณ์โมโหร้ายนี้มาจากอะไร
โมโห หรือ เป็นห่วง
ในขณะเดียวกัน ร่างขาวซีดของคนที่ถูกออกคำสั่งตามหาตัวอยู่นั้นนั่งเหม่อลอยทอดสายตาออกนอกหน้าต่างมองกลุ่มก้อนเมฆที่ขยับเขยื่อนตัวตามทิศทางของสายลมพลางอมยิ้มออกมา… คนเดียว
“วันนี้ท้องฟ้าสวยจังเนอะคุณนางฟ้า”
คำพูดที่หลุดมาทำเอาคิ้วเรียวขององครักษ์หนุ่มที่ยืนมองขมวดมุ่น อาการแบบนี้ฟันธงได้อย่างเดียวว่าคงเจอเรื่องหนักสาหัสกระทบจิตใจเข้าอย่างแรงถึงได้กลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนบ้าแบบนี้
และที่สำคัญพวกเขาต้องรีบรักษาจางอี้ชิงให้หายเป็นปกติโดยไวที่สุด ความจริงที่ปาร์คชานยอลมั่นใจด้วยตำแหน่งบนบ่าว่าคนคนนี้คือผู้กุมความลับไว้ทุกอย่าง!
“คุณจางครับ”
“นางฟ้า… อี้ชิงคิดถึงเขาจังเลย… เมื่อไหร่เขาจะมาหาอี้ชิงอีก…”
“คุณจางครับ ขออนุญาตินะครับ”
“อ๊ะ! ปะปล่อยผมนะ! ฮึก! ไม่เอานะอย่าแตะต้องผมฮึกกลัว… กลัวแล้ว! …อี้ชิงกลัวแล้ว!! ฮึก”
ทันทีที่มือกร้านขององครักษ์หนุ่มแตะไหล่บางกายเล็กก็กระตุกพรึบก่อนสั่นผวาไปทั้งกาย ลูกแก้วดำสนิทในแววตาบอบช้ำสั่นระริกราวคนขวัญผวาหวาดกลัวรอบข้างอยู่ตลอดเวลา อาการที่พาเอาองครักษ์หนุ่มกัดฟันกรอดพลางคิดหาวิธีให้คนตรงหน้าได้สติกลับคืนมาเร็วที่สุด
จะปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นดยุคเซฮุนคงต้อง… บัดซบเอ้ย!!
“คุณจางครับ! คุณเข้าไปในนั้นได้อย่างไร เจ้าชายคริสทำอะไรคุณใช่ไหมบอกผมมาเถอะครับคุณจาง!!!”
“จะเจ้าชายคริส… ไม่นะไม่... ฮึกกลัว… อี้ชิงกลัวแล้วฮึกอย่าทำอะไรอี้ชิงเลยนะฮึก”
หากแต่ยิ่งเห็นอาการสั่นหนักขึ้นองครักษ์หนุ่มก็ยิ่งหนักใจ มือยาวเอื้อมจับแขนช้ำก่อนเขย่าเพื่อหวังให้คนตัวเล็กได้สติรับรู้ความเป็นจริง
“ตั้งสติหน่อยครับคุณจาง พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากคุณนะ!! คุณจางเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยท่านดยุคเซฮุนได้!!!!!”
“ซะเซฮุน… ดยุคเซฮุน…” และเมื่ออาการสั่นผวาเปลี่ยนมาเป็นนิ่งงัน หัวใจองครักษ์หนุ่มก็เต้นรุนแรง เมื่อเห็นอาการของจางอี้ชิงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเพียงเพราะเพียงชื่อชื่อเดียว
“ตอนนี้ท่านดยุคเซฮุนถูกจับเพราะโดนใส่ร้าย ผมรู้ว่าคุณจางสามารถช่วยท่านได้! …ได้โปรดเถอะครับ”
“ฉะฉัน…”
“ตอนนี้ทุกอย่างในเฮเลเนี่ยนกำลังปั่นป่วน ตอนนี้ดัชเชสลู่หานของพวกเราก็กำลังถูกหน่วงเหนี่ยว ดัชเชสเจ็บปวดมากกับการที่ไม่สามารถช่วยอะไรท่านดยุคได้เลย… ได้โปรดเถอะครับคุณจาง”
“ฉะฉันฮึกไม่เอา”
“ขอร้องเถอะครับคุณจาง ตั้งสติสักที ช่วยพวกเราด้วยเถอะครับ ก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ คุณจางเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยพวกเราได้นะครับ!!!!”
“มะไม่ฮึกกลัว”
ปัง!!!!
“คุณชานยอลครับ!! เราพบหลักฐานสำคัญแล้ว!!!!!!!”
ประตูที่ถูกเปิดพรวดกะทันหันทำให้องครักษ์หนุ่มหันกลับไปก็พบคิงจงอินที่เป็นผู้ช่วยเพียงหนึ่งเดียวที่ชายหนุ่มไว้วางใจมากที่สุดในเวลานี้ มือหยาบกร้านที่บีบไหล่เล็กของจางอี้ชิงลงแรงหนักขึ้นเมื่อเจ้าตัวกำลังรู้สึกดีใจปนมีความหวัง
ท่านดยุคเซฮุนครับ... ผมหาทางช่วยท่านได้แล้วนะครับ
“ดีมากจงอิน เอาหลักฐานนั่นมาสิ”
ถุงใสถูกยื่นไปตรงหน้าก่อนที่ชานยอลจะรับมาดูแล้วเพ่งมองเข้าไปยังภายในที่มีถุงมือสีดำเปลื้อนเลือด และ เพียงเท่านั้นก็ทำให้องครักษ์หนุ่มที่เคร่งเครียดมาหลายวันระบายยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“เท่านี้ก็พอช่วยท่านดยุคของพวกเราได้แล้วใช่ไหมครับ”
“ครับแต่คงจะดีหากว่าคุณจาง…”
ทั้งคู่หันไปมองร่างที่นั่งนิ่งของจางอี้ชิง ดวงตากลมสวยเหม่อลอยเคว้งคว้าง ร่างกายบอบช้ำตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยถูกทำร้าย ใบหน้าไร้ความรู้สึกดูไร้จุดหมายและความคิด ใบหน้าสวยที่นิ่งสงบราวคนไร้วิญญาณ
“คงจะเป็นไปได้ยาก… แต่เอาเถอะตอนนี้เราต้องเอาเลือดไปพิสูจน์ดีเอ็นเอให้เร็วที่สุด”
“ครับ!”
ปัง
ยามประตูห้องปิดลง… ร่างที่นั่งนิ่งราวคนไร้วิญญาณกระพริบตาลงเพียงหนึ่งครั้งพร้อมหยดน้ำตาที่ใหลยาวเป็นทาง…
“ฮึก”
มือเรียวที่วางอยู่บนตักนิ่มบีบเข้าหากันแน่น ดวงตาสวยที่เคยเหม่อลอยกลับอัดแน่นไปด้วยหยาดน้ำใสแห่งความเศร้าปนช้ำใจ ริมฝีปากบางที่เคยเหยียดตรงกลับโค้งขึ้นอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่กายเล็กจะขยับโยกจนตัวโยนเพราะแรงสะอื้นราวคนเจ็บทรมานคลับคล้ายคนใกล้ขาดอากาศหายใจตาย...
ความเจ็บ…ที่ไม่สามารถรักษาหายได้
“ฮึก… อย่าทำเขา”
เสียงหวานหลุดออกมาในห้องที่ต่างจากห้องขังอับชื้น ฟันคมขบกัดกลีบปากแน่นก่อนยกมือเช็ดหยาดน้ำตาบนดวงหน้าสวยที่กำลังแสดงความรู้สึกโศกเศร้าราวคนขาดอากาศหายใจ
ราวกับเป็นคนละคนกลับก่อนหน้านี้
“ผมควรจะทำอย่างไรดี... จะช่วยคุณหรือจะแสร้งเป็นคนบ้าหลีกหนีความเจ็บปวดแบบนี้ต่อไป... ฮึก”
คำถามที่ยากนักจะหาคำตอบเมื่อใจหนึ่งก็แสนรักใจหนึ่งก็แสนทรมาน สีหน้าแสดงความรู้สึกที่หากปาร์คชานยอลเห็นคงได้ดีใจเป็นแน่ หากแต่จางอี้ชิงก็ไม่เลือกจะเปิดเผยความจริงออกมา เพราะอี้ชิงไม่รู้... ไม่รู้ว่าหากเปิดเผยความจริงออกมาชีวิตของคนที่สุดแสนรักจะเป็นเช่นไรต่อไป
เพราะว่ารัก... ต่อให้เขาเลวกับเรายังไง เราก็รักเขาตลอดไป...
“ฮึก... ผมจะทำยังไงต่อไปดี”
เสียงสะอื้นไหวดังก้องทั่วห้องเล็ก เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บปวดทรมานหัวใจตัวเอง เสียงสะอื้นที่ดังก้องกังวานพร้อมกับคำว่ารัก... รักสุดแสนหัวใจ
ผมควรจะทำอย่างไรกับหัวใจที่ทรมานทุกช่วงวินาทีเช่นนี้
พระเจ้าได้โปรดช่วยตอบผมที…
ขณะเดียวกัน… คริสเองก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ ใจนึกร้อนรนตลอดเวลาเมื่อยังไม่ได้รับรายงานจากเหล่าข้ารับใช้ที่ได้รับคำสั่งตามหาตัวอดีตดัชเชสจางอี้ชิง ก้อนเนื้อในอกบีบรัดแน่นอย่างนึกหงุดหงิดโดยไม่รู้ถึงสาเหตุแท้จริง
เพราะอะไร... ที่โมโหอยู่ตอนนี้เป็นเพราะอะไร…
ไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองว่ากำลังนึกห่วงคนที่หายไป อาการจิตใจล่องลอยราวคนเสียสติจะไปทำอะไรเองที่ไหนได้ หากอาละวาดขึ้นมาจะทำอย่างไร ...และนั่นคือเสียงร้องในหัวใจที่ส่งเสียงกระซิบเบาหวิว
ความแค้นที่ฝังรากอยู่ในความคิดทำให้ดยุคคนใหม่แห่งเฮเลเนี่ยนกำมือเข้าหากันแน่นอย่างโกรธเกรี้ยว จางอี้ชิงคือคนเดียวที่กุมความลับของเขาทุกอย่าง ความลับที่อาจทำให้เขาได้รับโทษร้ายแรง ยิ่งคิดยิ่งทำให้ชายหนุ่มเหงื่อตกจิตใจระส่ำระส่ายจนอยู่ไม่นิ่ง
หากแต่อีกด้านหนึ่งคิดว่าคนเสียสติเช่นนั้นจะไปจำอะไรได้... จะมีใครเชื่อคำพูดของคนบ้าเพี้ยนวิกลจริตกัน ตลกสิ้นดี
หากแต่ในวินาทีต่อมานั้นเอง....
rrrrrrRRRRRRR
ดวงตาเฉี่ยวคมปรายมองโทรศัพท์ที่วางข้างกายโชว์เบอร์แปลกโทรเข้ามา คริสชั้งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนเอื้อมมือยาวกดรับ
“ฮัลโหล”
เสียงทุ้มติดแข็งเอ่ยใส่ปลายสายทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา คริสยืนกรอกตาขึ้นฟ้าเมื่อตอนนี้อารมณ์ก็ร้อนมากพออยู่แล้วยิ่งมาเจอแบบนี้ก็พาลแต่จะทำให้หงุดหงิดหนักเข้าไปใหญ่
หากแต่ขณะที่กำลังกดตัดสายทิ้งเพราะความรำคาญ เสียงแหบพร้าที่ดังขึ้นก็พาเอาดวงตาคมเบิกโพลงพร้อมหัวใจที่เต้นกระตุกรัว
“คุณคริส…”
...เสียงที่ไม่รู้ทำไมถึงจำได้...
“จางอี้ชิง!! นี่นายอยู่ที่ไหน! แล้วนี่โทรศัพท์ใคร!!” กระชากถามอย่างร้อนรนเมื่อแน่ใจว่าปลายสายคือคนที่ตนกำลังว้าวุ่นใจ ทว่าอี้ชิงไม่เลือกตอบคำถามนั้นกลับยิงอีกคำถามออกมาแทน
“ผมรู้ว่าคุณคือคนฆ่าคุณซูโฮ… และคุณก็ใช้วิธีนี้ใส่ร้ายเซฮุนเพื่อจะขึ้นเป็นดยุค… คุณ… คุณทำแบบนี้ทำไมครับ”
น้ำเสียงปลายสายเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและไม่เข้าใจ ทว่าความหวังดีของจางอี้ชิงก็ไม่สามารถส่งไปถึงจิตใจโหดเหี้ยมของปีศาจร้ายได้
“เหอะ! มันเรื่องของฉัน แล้วนี่หายเป็นบ้าแล้วรึไง” กระแสน้ำเย็นมีหรือจะสู้กองไฟให้ดับสูญได้ ชายหนุ่มสุดแสนเกรี้ยวกราดขบฟันกรอดกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนแทบแหลก ดวงตาสีรัตติกาลมืดสนิทมองไม่เห็นแสงสว่างพบเพียงความแค้นที่อัดแน่น
ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแม้กระทั่งเสียงแผ่วเบาจากก้นลึกของหัวใจ
ช่างน่าเศร้าใจ… ที่เศษฝุ่นความรักของจางอี้ชิงปลิวไปไม่ถึงหัวใจที่มืดมนเสียที
“ครับ… ผมไม่ได้เป็นอะไรแต่แรกแล้ว”
“หึ! ฉลาดนักนะจางอี้ชิง กลับมาหาฉันได้แล้ว!!!”
ปลายสายที่รับรู้ความโกรธจากน้ำเสียงอีกฝ่ายเงียบไปอึดใจอย่างคนใช้ความคิด ระหว่าง ‘ความถูกต้องหรือความรัก’ ถ้าจะให้เลือกจะต้องเลือกอย่างไหนกัน…
จะต้องเลือกสิ่งใดที่ไม่ให้ใครทั้งนั้นเจ็บปวด จะต้องเลือกสิ่งใดที่ไม่ทำให้หัวใจต้องร้องไห้ไปมากกว่านี้…. จางอี้ชิงที่เหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางเขาวงกรตอันเวิ้งว้าง…
หากแต่… ชีวิตของจางอี้ชิงคือคริสเสมอมา ความรักที่มั่นคงในหัวใจมานับหลายปี…
“คุณรู้ไหมครับ… ว่าตอนนี้ชานยอลสามารถหาหลักฐานที่จะเอาผิดคุณได้แล้ว”
จากคนที่อารมณ์ร้อนตีวนกลายเป็นตกใจเพียงพริบตาเดียว มือที่สั่นเพราะความโกรธค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความกลัว ลูกแก้วสีรัตติกาลสั่นระริกอย่างคนหวาดระแวง …หลักฐานที่จะจับผิดเขางั้นหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร!
“หมายความว่ายังไง!!”
“ชานยอลพบถุงมือที่มีคราบเลือดติดอยู่และเขากำลังนำไปพิสูจน์ดีเอ็นเอ หากว่าผมตรวจนั้นเป็นของคุณขึ้นมาคุณจะต้องถูกขังไปฮึกตลอดชีวิตเลยนะฮึกคุณคริส”
ชายหนุ่มที่กำลังกระวนกระวายนึกย้อนกลับไปวันที่เขาสวมถุงมือเพื่อยิงฆ่าซูโฮปิดปากความลับสำคัญ ในวันนั้นเขาถอดถุงมือทิ้งลงขยะที่อยู่หลังเฮเลเนี่ยนซึ่งเป็นพื้นที่ร้างปลอดคน แต่เขาคิดตื้นเกินไป!
เขาประมาทองครักษ์ปาร์คชานยอลมากเกินไป!!
“ฉัน… ฉันไม่ยอมแน่ๆ! ยังไงฉันก็ต้องได้ทุกอย่างกลับคืนมาเข้าใจไหม!!! ไม่ว่าต้องให้ฆ่าคนอีกกี่ชีวิตก็ตาม!!!!”
คำพูดอำมหิตที่หลุดจากปากคนที่รักสุดหัวใจพาเอาจางอี้ชิงปล่อยน้ำตาโฮ เขาอยากมีเวทมนต์ อยากมีความสามารถที่บังคับจิตใจใครก็ได้ เพราะเขาไม่อยาก… ไม่อยากเห็นคนที่ตนรักต้องหลงผิดไปมากกว่านี้แล้ว
หรือบางทีมันอาจสายเกินไปแต่แรกอยู่แล้ว…
“ฮึก… พอเถอะครับคุณคริส ….พอเถอะครับ …หยุดความแค้นของคุณลงฮึก …ได้โปรดเอาความแค้นของคุณทั้งหมดมาลงที่ผมคนเดียวฮึก …ผมจะยอมเป็นคนรับความแค้นความเกลียดชังของคุณไว้ทั้งหมดเอง ฮึก แต่ได้โปรด… หยุดเถอะครับ”
เสียงเว้าวอนปนสะอึกสะอื้นของจางอี้ชิงที่บอกจะรับความแค้นของตนไว้ทั้งหมดพาเอาชายหนุ่มทวีความโมโหหนักกว่าเดิม ไม่มีใครเข้าใจ… ความแค้นความเกลียดชังที่เขาต้องสะสมมานับสิบปี ความอาฆาตความพยาบาทที่ใครก็ไม่มีวันเข้าใจ!
ถ้าอยากจะรับความแค้นแทนฉันก็ต้องตายทั้งหมดเฮเลเนี่ยนนั่นแหละ!
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันละ? ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย กลับ – มา – หา – ฉัน – เดี๋ยว – นี้!!!!!”
แต่มีหรือที่กระแสน้ำเย็นจะเอาชนะกองเพลิงความแค้นได้ กองเพลิงที่นับวันยิ่งลุกโชนจนยากนักจะดับให้สงบนิ่ง
“ผมฮึกไม่อยากให้คุณต้องทำอะไรผิดไปมากกว่านี้แล้ว… เพราะผมรักคุณมากฮึกผมจึงไม่อยากเห็นคุณทำผิดอีกแล้ว ได้โปรดถือว่าผมขอร้องหยุดทีเถอะครับ จะให้ผมก้มลงกราบคุณก็ได้ฮึก…แต่ได้โปรดรับฟังคำขอของผมทีฮึก”
ถ้อยคำที่เปรียบเหมือนการลดศักดิ์ศรีตนเองพาเอาคริสหัวเราะเย้ยหยันในลำคอ จางอี้ชิงยังไงก็ยังคงเป็นบุคคลไร้ค่าอยู่วันยังค่ำ
“ถ้ารักฉันก็กลับมาหาฉันซะสิ!”
เสียงสะอื้นเงียบลงพร้อมกับความคิดของจางอี้ชิงที่ลอยเข้ามาแทน จางอี้ชิงไม่เคยเสียใจ ไม่เคยคิดเสียใจแม้สักวินาทีที่ได้รักผู้ชายคนนี้ เพราะความรักที่จางอี้ชิงมอบให้คือความรักที่บริสุทธิ์ ความรักที่บริสุทธิ์จากหัวใจ…
“ถ้าอย่างนั้นผมมีข้อเสนอ”
ทว่าคำถามที่แทรกขึ้นพาให้แผงคิ้วเข็มขมวดขึ้นก่อนเอ่ยถาม
“ข้อเสนออะไร”
“ข้อเสนอที่จะทำให้คุณพ้นผิดทุกโทษ คุณจะไม่ได้โดนจับขังคุก ผลตรวจดีเอ็นเออย่างน้อยต้องใช้ระยะเวลาประมาณสามวันแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันตัดสินคดีของเซฮุนพอดี ฉะนั้นผมตรวจดีเอ็นเอมาไม่ทันวันตัดสินแน่…”
ยิ่งฟังคำพูดของจางอี้ชิงคริสยิ่งไม่เข้าใจ จึงให้อีกฝ่ายได้พูดต่อ
“คุณจะเป็นคนบริสุทธิ์ และผมจะรับผิดแทนคุณทุกอย่างผมจะเป็นคนฆ่าคุณซูโฮเอง ผมจะบอกว่าเซฮุนบังคับอยู่เบื้องหลังให้ผมฆ่าคุณซูโฮและหลักฐานที่จะจับเซฮุนผมจะสร้างมันขึ้นมาเอง และส่วนรูปตัดต่อผมก็จะช่วยยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าเป็นเรื่องจริง… แลกกับการที่คุณต้องวางความแค้นลง หยุดทำเรื่องร้ายทุกสิ่ง”
“…เหอะ!”
“ผมจะฮึกเป็นคนรับผิดแทนคุณทุกอย่าง ผมจะเป็นคนฆ่าคุณซูโฮเอง ผมจะเป็นคนใส่ร้ายลู่หานและเซฮุนเอง ผมจะยอมถูกจับแทนคุณเองฮึกแลกกับการที่คุณหยุด …หยุดมันทุกอย่าง”
ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดแสนโง่เง่าของจางอี้ชิง ทำไมต้องยอมทำเพื่อเขาขนาดนี้? ทำไมกัน…
คำถามที่หาคำตอบไม่ได้เสียทีว่าทำไม…
“ความต้องการของคุณคือทวงบัลลังก์ดยุคและลู่หานใช่ไหมครับ ผมคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ฮึก ผมจะเป็นคนรับผิดทั้งหมด ผมจะยอมทุกอย่างเพื่อคุณขอเพียงแค่ฮึก... ขอเพียงแค่หยุดเรื่องราวทุกอย่างลง อย่าให้เฮเลเนี่ยนต้องวุ่นวายไปมากกว่านี้เลย”
ชายหนุ่มคิดตามคำพูดของปลายสายพลางเหยียดยิ้มออกมา จางอี้ชิงที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำเพื่อเขาเสมอ ถ้าสั่งให้ไปตายก็คงไปตายสินะ เหอะ… ไร้ค่าสิ้นดี
“ฮึก”
ทำไมชีวิตของจางอี้ชิงมันถึงดูอนาถได้ขนาดนี้
“ฮึก ได้…โปรดฮึก”
ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เคยจะหันไปรักแต่ทำไมถึงยังทำเพื่อเขาขนาดนี้
“คุณคริส…ฮึก”
นายมันน่าสมเพชจางอี้ชิง
ก็แค่เศษฝุ่นที่ปลิวมาและผ่านไป ก็แค่ดอกไม้เหี่ยวเฉาที่ไร้การรดน้ำ ถึงจะทำอย่างนี้… ฉันก็ไม่รักนายขึ้นมาหรอก…
…จางอี้ชิงคนโง่…
“ถ้าอยากทำตัวเป็นคนดีนักละก็... ได้ฉันตกลง”
( "เพราะว่าฉันรักนาย แม้ต้องเจ็บอีกสักแค่ไหน แม้ต้องให้ทุกข์ทรมานอีกมากเพียงใด… ฉันก็ยอม" - Said by Duchess Luhan♥ )
แชพเตอร์ที่ยี่สิบหก 100% #ฟองดูฮุนฮาน
Fonduehunhan
เปิดโอน + จอง #ฟองดูฮุนฮาน vol.1+2
รายละเอียด v
http://my.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=1094220&chapter=29
********************
29 / 11 / 2014
ปล.เปลี่ยนวันปิดจองฟิคเป็นวันที่ 1 มกราคม
เปลี่ยนวันปิดโอนเงินเป็นวันที่ 4 มกราคม จาก 19 ธันวาคม
เนื่องจากไม่มีเวลาจริงๆค่ะ อยากให้ผลงานออกมาดีเลยจำเป็นต้องใช้เวล่นิดนึง เราปิดเทอม 16 ธันวา
ชาวงนี้ช่วงปั่นโปรเจคกับอ่านหนังสือไฟนอล
ได้โปรดคนอ่านทุกคนเห็นใจทีนะคะ ขอบคุณค่ะ T_T
----
และแล้วอี้ชิงก็เลือกคนที่เขารักมากกว่าความถูกต้อง
ความรักของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันเราจะไปดูถูกความรักของอี้ชิงไม่ได้
สำหรับอี้ความสุขของคริสคือทุกอย่างของเขา แม้ว่าต้องแลกด้วยอะไร
แต่ถ้ามันทำให้คนที่เรารักมีความสุขอี้จะยอมทุกทาง
แล้วอีพี่คริสก็นะ.... ร้ายเกินบรรยาย
ตอนหน้าจะเข้มข้นมาก และน่าลุ้นมาก เรามาลองเดากันดูนะคะ ว่าอี้จะสามารถช่วยคริสได้ไหม
และชานยอลจะสามารถช่วยเซฮุนไได้ไหม
สุดท้าย ถึงจะมาอัพช้า...
แต่เราก็อยากขอโทษแง้ มันไม่ทันจริงๆ เราเรียนหนักงานเยอะใกล้สอบ
ตอนนี้เราจะบ้าตายอยู่ละ 55555555555555555555
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และ#ฟองดูฮุนฮาน
รักคนอ่านเสมอจ้า ฝันดีนะคะ จุ้บๆ <3
27 /11/2014
อันดับแรก ขอโทษที่มาอัพช้ามากของมาก เพราะเราติดงานโปรเจคค่ะ
เลยทำให้ไม่มีเวลามาอัพฟิคเลยจริงๆ แตะคอมทีก็ทำงานตลอด
อันดับที่สอง เราจะเลื่อนวันจองโอนฟิคออกไปอีกเป็นต้นมกรา
ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันแน่นอน แต่เราต้องเลื่อนเพราะเราแต่งสเปไม่ทันจริงๆค่ะ
ใกล้สอบแล้ว เตรียมตัวเฮลโลไฟนอลอยู่ เพราะฉะนั้น...
กำลังจะหายไปอีกรอบนั่นเอง 55555555555555555555
ชีวิตปีสามมันไม่ง่ายเลยจริงๆค่ะ T_T
อันนี้เฉลยแล้วนะคะ ว่าอี้ชิงไม่ได้บ้า นางแค่แกล้งเป็นบ้า
แล้วแกล้งเป็นบ้าเพื่ออะไร?
เพื่อไม่ให้โดนคริสทำร้ายหนั่นเอง เลยหาวิธีทางออกคือการแกล้งยบ้า
แล้วเราก็มาลุ้นกันนะคะ ว่าอี้ชิงจะยอมช่วยเซฮุน? หรือช่วยคริส?
เพราะอี้ชิงคือกุญแจสำคัญนั่นเองค่ะ ^^
อยากฝากคติในตอนท้ายนี้หน่อยว่า
ถึงแม้เขาจะเลวจะร้ายยังไง หากเรารักไปแล้ว... เราก็ไม่มีวันหยุดรักเขาได้หรอกค่ะ
เพราะหัวใจมันบังคบกันไม่ได้ว่าให้รักหรือไม่รักใคร :)
14/11/2014
มาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววว
มาแบบ เจ็บๆ คันๆ นิดๆ
มีคนช่วยจางอี้ชิงแล้วววววววววววว เย้
อี้ชิงคือคนคนเดียวจริงๆค่ะ ที่จะช่วยฮุนฮานได้
อี้ชิงคือกุญแจสำคัญในตอนจบเชียวละ T_T
เรื่องนี้เหลืออีสองตอนจะจบแล้ว ทำไมเร็วแบบนี้นะ?
วันนี้มาอัพได้เพ่ะว่างค่า 55555555555555555
เดี๋ยวจะกลับไปวุ่นวานอีกละ งานเยอะละเกินนน ฮื้อออออ
เดี๋ยวจะสอบแล้วอะ ปั่นงานแทบไม่ทัน ไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบอีก วุ่นวานมาก
ถ้าหากเรามีการเปลี่ยนแปลงวันปิดจองฟิคไกลออกไปอีกหวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะ
เพราะเรายังไม่มีเวลาว่างพอจะแต่งตอนพิเศษได้เลยจริงๆ
คือเสียใจมาก ::( แต่อยากให้คนอ่านเข้าใจเราจริงๆ
เพราะเราก็ปีสามแล้ว ใกล้สอบอีก มันจะวุ่นวายมากจริงๆ
พาร์ทที่เหลือจะได้รับกับความลับของจางอี้ชิงค่ะ
ความลับของเขา... คิคิ ตามสอยอะ ใครเดาได้ด็เดานะ 5555555555555555555555
สุดท้าย ขอบคุณทุกคอมเม้น ขอบคุณทำกำลังใจ
รักคนอ่านเสมอนะคะ จุ้้บๆ <3
ความคิดเห็น