ผู้เข้าชมรวม
731
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
รู้ไว้นะ...ฟิลิปปินส์กำลังแย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แง้ๆๆๆๆครูฟิลิปปินส์เรากลับประเทศไปแล้ว จะเป็นไรมั้ยเนี่ยยยยToT
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เพราะจะไปเจอมวลอากาศเย็นเมืองจีนทำให้อ่อนกำลัง ส่วน “เมล์เรอร์”เคลื่อนห่างจากไทยมาก ด้าน "เสธ.หนั่น"เตือนอีก 7 วันน้ำท่วม อ่างทอง กทม....
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ต.ค.) ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากพายุ “กิสนา”
พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “กิสนา"”16 จังหวัด โดยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแสนกว่าครอบครัว ถนนเสียหาย 500 กว่าสาย สะพาน 22 แห่ง บ่อปลาและพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมแสนกว่าไร่ ส่วนการประเมินความเสียหายนั้น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถทำได้ ต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงเข้าไปสำรวจความเสียหาย สำหรับการเตรียมการช่วยเหลือประชาชน ภายหลังน้ำลดนั้น จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำงบประมาณสำรองจ่าย 50 ล้านบาท ที่แต่ละจังหวัดมีอยู่แล้ว ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที พร้อมรวบรวมความเสียหายส่งมาให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมความเสียหายส่งให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินไปให้ความช่วยเหลือ ประชาชนต่อไป
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า กล่าวว่า ในวันที่ 6 ต.ค.จะรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ครม.รับทราบ อย่างไรก็ตามได้รับรายงานจากกรมชลประทานว่า แม่น้ำเจ้าพระยายังมีน้ำมาก ดังนั้นในสัปดาห์หน้า เขื่อนเจ้าพระยาจะปล่อยน้ำออกมา ทำให้ จ.อ่างทองจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้ เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาแคบ รวมถึง กทม.ก็อาจได้รับผลกระทบบ้าง จึงต้องเฝ้าระวังไว้
ด้าน นายศิริ พงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า 16 จังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อนเช่น สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมนั้น จะทรงตัวอยู่ใน 2-7 วันนี้ แต่ภายใน 1 สัปดาห์น้ำจะลดลงหมด หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม
ส่วน นายอังสุมาล ศุนาลัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมเป็นห่วงพายุ “ป้าหม่า” ที่คาดการณ์ว่าจะไปที่ประเทศไต้หวัน แต่เนื่องจากมีพายุอีกตัวชื่อ “เมล์เรอร์” ที่มาทีหลังและมีความรุนแรงกว่า โดยสภาพของพายุ 2 ตัวที่เข้ามาใกล้กันจะเกิดการดึงดูดกัน ทำให้พายุ “ป้าหม่า”มีเปลี่ยนทิศมาทางประเทศไทย อย่างไรก็ตามช่วงนี้มีอากาศหนาวจากประเทศจีนเข้ามา เมื่อพายุเจออากาศเย็นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น “ป้าหม่า” จึงไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยมากเท่าใด
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวด้วยว่า คาดว่าประมาณวันที่ 14 ต.ค.นี้ พายุ “ป้าหม่า”จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศจีนแถวเกาะไหหลำ จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ยิ่งถ้ามีความกดอากาศสูงแรงอย่างใน ขณะนี้ พายุคงจะสลายตัวเร็ว ดังนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนพายุ “เมล์เรอร์”คงจะเคลื่อนห่างจากประเทศไทยไปเรื่อยๆ ไม่กระทบต่อไทย
ผลงานอื่นๆ ของ メガネ人 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ メガネ人
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น