ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักของนายโอตาคุ(เวอร์ชั่นเก่า) แจ้งข่าวเปิดพรีฯ สนพ.ลิชต์

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ตื่นมารับความจริง รีไรท์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.94K
      122
      3 ก.ย. 61

    ตอนที่ 2 ตื่นมารับความจริง

     

                

    หมู...”

    ใครเรียกกันนะ?

    “ตื่นขึ้นมาเถอะ...”

    เสียงทุ้มนั่นฟังดูเศร้าจัง มือของผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นที่กอบกุ่มโดยใครบางคน ใคร? ...ม๊าเหรอ? ป๊า? หรือยัยปลา?

    ...เฮ้อ เสียงถอนหายใจก้องในหัวผมครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะอะไรน่ะเหรอ? นั่นเพราะผมพยายามลืมตาตื่นอยู่น่ะสิ แต่มันก็ไม่ตื่นจริงๆสักที! หมูสุดเซ็ง!

    หลายครั้งที่ผมฝันว่าตัวเองตื่นแล้ว ในตอนนั้นผมดีใจมาก เห็นสภาพตัวเองที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ยัยปลานั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างๆ สักพักม๊ากับป๊าวิ่งเข้ามากอดผม ผมร้องไห้กอดพวกท่านด้วยความดีใจ แต่เพียงไม่นานนัก... ทุกอย่างก็มืดลง ร่างผมเหมือนดิ่งลงมาจากที่สูง แล้วกลับมาลืมตาตื่นอีกรอบ วนลูปอยู่ในความฝันซ้ำไปซ้ำมาจนผมเริ่มเบื่อ บางครั้งผมทั้งหยิกทั้งตบหน้าตัวเอง โคตรเจ็บเลยขอบอก แต่ผมก็ยังคงอยู่ในความฝันนี้เหมือนเดิม นึกสนุกลองเอาหัวโขกกำแพงดู ปรากฏว่ามันดันทะลุได้เฉย!

    ...

    เหนื่อย... เหนื่อยจนผมไม่อยากตื่นอีกแล้ว ถ้าไม่ติดว่าไอ้เสียงเรียกนั่นมันโคตรหนวกหู ผมนี่อยากจะตื่นขึ้นมาดูหน้าจริงๆว่าใครมันตะโกนข้างหูผมวะ? ขี้หงขี้หูกระจายหมดเนี่ย!

    ผมคงต้องปลงสินะ

    ควรปลง ...

    แกร๊บๆๆ ...แจ่บๆ …”

    ใครมากินอะไรแถวนี้เนี่ย? เคี้ยวโคตรเสียงดัง คนกำลังพยายามปลงอยู่นะโว้ย เดี๋ยวเหอะ!

                    เอิ่ม ก็ไม่รู้สินะ ไหน ๆก็ไหนๆ ผมเลยพยายามตื่นอีกรอบ จนในที่สุดก็ยกเปลือกตาขึ้นสำเร็จ ถึงจะมองเห็นไม่ค่อยชัดแต่ก็รู้สึกดีใจจนอยากจะร้องไห้

    ในความพร่ามัวผมเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสวมหูแมวสีขาว ผิวขาว ตากลมโต หน้าคุ้นๆ... อ๋อ นั่นมันยัยปลาน้องสาวผมเอง! มันชอบใส่ที่คาดผมหูแมว เห็นมันกำลังนั่งกินขนมอยู่ที่โซฟาข้างๆ กินแบบไม่หุบปากด้วย ไม่มีมารยาทซะจริง

    สรุป ...นี่คือความจริงหรือความฝัน? แต่มันก็ชัดเจนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมานะ

    ...ไม่ๆ! เราต้องไม่ประมาท ความฝันมันอาจหลอกเราอยู่เหมือนครั้งก่อนๆ ผมพยายามอ้าปากเรียกยัยน้องสาวตัวแสบแต่กลับไม่มีเสียง คอแห้งจนแสบไปทั้งคอ พอขยับทีนี่เจ็บจี๊ด แถมระบมไปทั้งตัว ลองก้มหน้าดูสภาพของตัวเองคร่าวๆ ตอนนี้ผมห่มผ้าอยู่ เห็นเพียงแค่ขาข้างซ้ายใส่เฝือกยกขึ้นโผล่พ้นผ้าห่มออกมา มือทั้งสองข้างพันด้วยผ้าพันแผล มีสายระโยงระยางรอบตัวผมเต็มไปหมด

    ผมชักเริ่มไม่อยากตื่นแล้วสิ

    “โอ้ย...” แค่ขยับตัวก็เจ็บแล้ว เป็นครั้งแรกที่ผมขอให้นี่คือความฝัน

     “เฮ้ย! เฮียหมู! เฮียๆๆๆ เฮียฟื้นแล้ว!!! กรี๊ดๆๆ”

    เสียงกรี๊ดของยัยปลาทำให้ผมถึงกับปวดหัว มันไม่กรี๊ดเปล่า รีบล้วงมือถือโทรออกทันที”...โหลม๊า เฮียฟื้นแล้ว รีบมาเลย …#@#@!$$!%” เสียงแหลมตะโกนดังลั่นจนผมสะดุ้งเป็นระลอก อยากจะด่ามันเหลือเกิ๊น ผมหันไปมองมันที่คุยโทรศัพท์ไปย่ำเท้าไปมา ...แกจะโอเวอร์แอ๊คติ้งไปถึงไหนวะ? ก่อนโทรไปเม้าท์กับป๊าม๊าเนี่ยช่วยไปเรียกหมอมาก่อนได้ป่ะห๊ะ!? ไม่ก็เอาน้ำให้เฮียสุดที่รักคนนี้จิบก็ยังดี...น้ำโว้ยย น้ำๆๆ 

    ผมจ้องมันเขม่งประดุจส่งกระแสจิตให้มันรับรู้บ้าง แต่ ...ไร้ซึ่งปฏิกิริยา มันคุยไปได้สักพักก็วางสายแล้วรีบมาหาผม จับมือผมบีบไปมาพร้อมมองผมน้ำตาคลอ

    เฮีย ...อึก ...ฮือๆๆ ปลาเป็นห่วงเฮียมากนะ ป๊ากับม๊าก็เป็นห่วง ...เฮียหลับไปนานเกือบเดือน...ปลา ...ปลายัยปลาร้องไห้ยกใหญ่และเริ่มพูดไม่เป็นภาษาคน ทำเอาผมมึนงงกับสิ่งที่มันพูด

    เดือน... เกือบเดือนเลยงั้นเหรอ!?

                    ได้แต่นิ่งอึ้ง มองน้องสาวที่ยังคงร้องไห้อยู่ใกล้ๆ อยากเอามือไปลูบหัวมันอยู่หรอกนะแต่เจ็บจนไม่กล้าขยับ มันร้องไห้สักพักก่อนจะนึกอะไรได้เดินไปกดเรียกหมอกับพยาบาลมา

    ...เยส!! กระแสจิตผมส่งไปถึงมันสักที ถึงจะช้าไปหน่อยก็เถอะ ผมว่าแล้วว่าผมต้องมีพลังจิตอยู่แน่ๆ ชัดเลย ผมมีพลังจิต!!

    เพ้อได้ไม่นานหมอกับนางพยาบาลก็เข้ามาตามด้วยป๊ากับม๊า พวกท่านร้องไห้ดีใจที่ผมฟื้นยกใหญ่ ผมเองก็ดีใจมากที่ได้เจอหน้าพวกท่าน แต่ที่ผมดีใจกว่านั้นคือนางพยาบาลส่งน้ำให้ผมจิบ ในที่สุดหมูก็ได้กินน้ำสักที

    อ่า...อ่าลองเทสเสียงดู เสียงผมแหบเอามากๆ แต่ก็พอที่จะพูดได้แล้ว หมอเห็นดังนั้นก็เริ่มถามอาการผมพร้อมตรวจดูร่างกายผมอย่างละเอียด ผมจึงเริ่มสำรวจดูร่างกายตัวเองตามหมอ พอเห็นชัดๆก็รู้สึกหดหู่จนอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที

    ตัวผมตอนนี้ถูกพันเป็นมัมมี่ทั้งตัว มีเลือดซึมเล็กน้อยตามจุดต่างๆ ที่หัวมีผ้าพันไว้ เพิ่งรู้ว่าตัวเองใส่ที่ดามคอ แล้วยังจะช่วงหน้าท้องที่ถูกอะไรทับอยู่... พอๆๆ! ไม่สำรงสำรวจมันแล้ว

    เหมือนหมอจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงเลยยกมือขึ้นลูบหัวปลอบเบาๆ...พี่หมอนี่หล่อแถมดูใจดีอีก

    หลับตาทำใจสักพักแล้วลืมตามองดูรอบๆห้องแทน เป็นห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ มีตู้เย็นสีแดงขนาด 7 คิวอยู่ใกล้โซฟาข้างเตียง ห้องน้ำส่วนตัว ที่ระเบียงผ้าม่านปิดอยู่ มีแสงสว่างลอดออกมาให้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลากลางวัน ทีวีจอแบน 42 นิ้ว ใกล้ๆมีนาฬิกาเรือนใหญ่ที่เข็มสั้นชี้ไปเลขหนึ่ง งึม... บ่ายโมงกว่าสินะ แล้วก็ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทานข้าว ...ฯลฯ

    อึ้งแป๊บ

    โฮกกก!!! นี่มันโรงแรม 5 ดาวหรือโรงพยาบาลค้าบบ!?

    แล้วที่นี่คืนละเท่าไหร่? ผมรีบหันไปมองหน้าป๊ากับม๊าทันที ในหัวเกิดคำถามขึ้นมากมาย บ้านผมก็ไม่ได้รวยอะไร ที่บ้านเป็นตึกแถว 3 ชั้นเปิดร้านขายของชำเล็กๆแถวนานา แล้วนี่ให้ผมมาพักในที่หรูขนาดนี้ แถมเป็นเดือน ประกงประกันก็ไม่มี โอ้ยยตาย ผมไม่อยากฟื้นแล้ว!!

    ในระหว่างที่ความคิดผมบ้าคลั่งปานพายุ คุณหมอก็ตรวจไปเรื่อยๆอย่างไม่ใส่ใจต่อสีหน้าผม ได้แต่เหม่อมองดูทีวีตรงหน้าที่ปิดอยู่ หมอพูดอะไรมามันไม่เข้าหัวเลยสักนิด จะมาได้สติก็ตอนที่หมอพูดว่า …“เอาล่ะครับคุณหมู หมอได้ดูอาการคุณและลองเช็คดูบาดแผลคุณแล้ว ไม่มีอาการติดเชื้ออะไร คาดว่าประมาณ 1-2 เดือนก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ ...ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวหมอจะดูแลคุณเองครับ

    ฮะ ...เฮ้ย! ผมหน้าเหว๋อทันที เดี๋ยวครับคุณหมอ! เดี๋ยวๆ ถามก่อนไหมว่าผมอยากให้ดูแลรึเปล่า อย่าให้ผมอยู่นานเลย ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมไม่มีตังจ่าย!! อึก!

    ...พูดไม่ออกครับ วินาทีนี้ได้แต่มองหมอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อล้นแลดูซึ้งใจสุดๆ

    ฮะๆ เอ่อจริงสิ หมอมีอีกเรื่องที่ต้องบอก ช่วงนี้คุณหมูจะมีอาการไม่อยากอาหารหน่อยนะครับ เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้มีหินเข้าไปกดทับต่อม#@!!@$ซึ่งไม่สามารถผ่าออกได้ มันจึงทำให้ความอยากอาหารของคุณลดลง แต่ไม่มีอันตรายหรอกนะครับ ไม่ต้องกังวลๆ อย่าเครียด ฮ่าๆๆเอ๊ะต่อมอะไรนะ? เงยหน้ามองคุณหมอที่พูดเรื่องอะไรไม่รู้ แล้วหมอยังจะขำอีก สงสัยหน้าผมคงตลกน่าดู ขนาดนางพยาบาลยังกลั้นขำผมน้ำตาเล็ด

    โอเคครับ อยากขำอะไรขำให้เต็มที่เลย ตอนนี้ผมไม่รับรู้อะไรแล้ว รู้แต่ไม่เป็นอันตรายพอ นอกนั้นมันเบลอๆไปหมด ความคิดที่ต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษากับค่าห้องมันตีกันอยู่ในหัว ทำไงดีไอ้หมู! หันไปมองหน้าหมออีกรอบ ...โอเค๊! ผมจะไม่เครียด ไม่เครียดเลยจริงจริ๊ง!!

    ไม่นานคุณหมอกับนางพยาบาลก็พากันเดินออกจากห้องไปเพื่อให้ผมได้พักผ่อน แล้วป๊ากับม๊าก็เดินเข้ามากอดเหมือนในฝันเป๊ะ พวกท่านจับมือผมแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมมองหน้าพวกท่านไม่ค่อยชัดนักเพราะตอนนี้น้ำตาผมไหลแล้ว ไหลพรากเลย

     “อาหมูเอ๋ย ม๊าเป็นห่วงลื้อมากนะ ดีที่ลื้อฟื้นขึ้นมาได้ อั้วนึกว่าลื้อจะ ...จะ ...” ม๊าพูดถึงตรงนี้ก็น้ำตาไหล ผมได้แต่เงียบ มองหน้าม๊าที่ส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้

     “โชคดีที่ลื้อรอดมาได้ หมดเคราะห์หมดโศกกันสักทีนี่ป๊าผมพูดครับ แล้วผมก็เงียบหันไปมองหน้าป๊า รายนี้หน้านิ่งแต่เสียงสั่นๆ

    เฮีย ปลาก็ดีใจนะ ในที่สุดเฮียก็ฟื้น ปลาจะอยู่เป็นเพื่อนเฮียทุกวันเอง เฮียไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาต่อมาก็ยัยปลา แต่ผมเห็นสีหน้ามันก็รู้เลยครับ มันหาเรื่องไม่ไปโรงเรียนชัวร์ เฮ่อะ! ลิ้นไก่โผล่ออกมาจากตาแกแล้วนั่น

    ผมรอให้ทุกคนพูดเสร็จ จนรอบๆผมเริ่มเงียบสงบ โอเค นี่ถึงตาผมแล้วใช่ม๊ะ?สาม สี่...

    แง๊ ...ม๊า ...ป๊า ...หมูเครียด!!!” ผมปล่อยโฮออกมาทันที พยายามตะเบ็งเสียงออกมาให้ดังที่สุด แต่เสียงกลับแหบแห้งปานกระซิบ ส่วนทุกคนในห้องก็มองหน้าผมอย่างงงๆ “ทำไม!! ทำไมพาหมูมาอยู่ห้องหรูอย่างนี้ อึก แล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย ไหนจะค่ารักษา ค่ายา ค่าผ่าตัด บ้านเราไม่มีปัญญาหาตังมาจ่ายแน่ หมู อึก หมูเครียดนะม๊าป๊าแค่กๆๆผมพูดออกมารวดเดียว แถมสำลักน้ำลายด้วย มันอึดอัดครับ จะไปกู้เงินที่ไหนดี กู้แล้วพอจ่ายไหม ป๊าม๊าจะทำยังไง โอ้ยยยยย เครียด!

    แต่สิ่งที่ผมได้รับคือ ป๊าม๊ากับยัยปลามองหน้ากันแล้วปล่อยก๊ากออกมา ก่อนที่ยัยปลาจะส่งน้ำมาให้ผมจิบ

    ฮ่าๆๆๆๆ นี่ที่ลื้อทำหน้าเครียดน้ำตาคลอเนี่ย ลื้อเครียดเรื่องนี้เองเหรอ โอ๋ๆๆ อาปลามันยังไม่บอกลื้อสินะ ดูทำหน้าเข้า ลื้อตลกมาก ฮ่าๆๆ...นี่มันอะไรเนี่ย!? ได้แต่ทำหน้าเอ๋อๆมองงงๆ เอ๊า! ฮากันเข้าไป งงเลยตู แล้วอยู่ๆป๊าก็หยิบมือถือโนเกียรุ่นดึกดำบรรพ์ขึ้นมาถ่ายรูปผมอีก

    ...ป๊าจะถ่ายอั้วเพื่อ? แล้วรุ่นนั้นมันถ่ายได้ที่ไหน!

     “อั้วไม่ขำนะ! ไม่รู้เรื่องด้วย! ช่วยบอกอั้วด่วน!! อั้วเจ็บคอ แค่กๆ พูดเสร็จก็ยกน้ำขึ้นมาจิบแบบลืมเจ็บ มองดูทุกคนด้วยสายตาเคืองเท่าที่จะทำได้ จนม๊าที่หยุดหัวเราะเป็นคนแรกเอ่ยออกมายิ้มๆ

    ลื้อไม่ต้องเป็นห่วง คุณครอส คนที่ขับรถชนลื้อน่ะ เขารับ ผิด ชอบ เรื่องทั้งหมดเพราะงั้นลื้ออย่าเครียด เดี๋ยวแผลจะหายช้า เอ่ยจบก็เดินเข้ามาลูบหลังผมที่นิ่งค้างสตั้นเบาๆ

    “....” ห๊ะ!!! อะไรนะ รับผิดชอบ!? เดี๋ยวๆๆ ทั้งหมดเลยเนี่ยนะ? โอ้ว พระเจ้าจอร์จ! อะไรมันจะแหล่มขนาดนี้!

    แล้วภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผุดขึ้นในหัวเห็นได้ลางๆว่ามีรถลีมูซีนขับมาชนผม โอ้ะ! ผมนึกชื่อยี่ห้อรถได้แล้ว วะฮ่าๆๆ

    พอได้ยินที่ม๊าบอกก็โล่งอกยิ้มออก มิน่าแหละขับรถหรูขนาดนั้นคงรวยน่าดู แถมยังเป็นคนดีอีกด้วย มันต้องอย่างนี้สิสังคมถึงจะน่าอยู่ แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย คุณครอสสินะ ชื่อนี่เหมือนน้อง ครอสจังในครอสซีรีย์z เลย ก็ต้องเป็นคนดีเหมือนกันสิ ฮ่าๆๆๆ ครอสจัง

     ‘ !

    เฮ้ย! ครอสจัง! น้องครอสที่ผมได้มาอย่างยากลำบากล่ะ!?

    รีบหันหน้าไปหายัยปลาทันที ดีที่มันรู้ใจรีบชี้ไปทางหัวเตียง ผมพยายามหันไปดูตามนิ้วมันซึ่งก็ลำบากพอควร จนยัยปลาต้องเข้ามาช่วยประคองผมแทน

    “...ครอส อึก นึกว่าจะโดนขโมยไปแล้วใช่ครับ บนหัวเตียงมีของที่ผมถือตอนโดนชน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเป้ ถุงกระดาษ โปสเตอร์อนิเมะ ทุกอย่างครบ มีแม้แต่ซากโทรศัพท์ N7x ของผม นอกจากนั้นยังมีพวกกระเช้าเยี่ยมไข้กับกระเช้าดอกไม้อีก 3-4 ชุด มิน่าหละถึงว่าหอมกลิ่นดอกไม้อะไรแถวนี้ ...เริ่มรู้สึกเลยว่า คุณครอสเป็นคนรอบคอบ ใส่ใจ และเป็นคนดีคนหนึ่ง ผมโคตรประทับใจคุณเลยจริงๆ

     “แหม่ลื้อนี่ ยิ้มหน้าบานเลยนะ ของพวกนี้คุณครอสเขาเก็บไว้ให้ เขามาเยี่ยมลื้อทุกวันตอนที่ลื้อยังไม่รู้สึกตัว ถึงตอนนี้จะบินไปดูงานต่างประเทศแล้วแต่ก็ยังส่งคนมาดูแลเป็นระยะๆ ม๊านี่ประทับใจเลย ยังดีที่ในความโชคร้ายของลื้อยังมีความโชคดีอยู่ รู้ไหม?” ผมพยักหน้าเห็นด้วย ตอนแรกยังกลัวเลยว่าจะโดนชนแล้วชิ่งหนีกลายเป็นผีเฝ้าถนนไปแล้วด้วยซ้ำ

     “อ๋อเฮีย! ระหว่างที่เฮียหลับอยู่มีคนมาเยี่ยมเฮียด้วยหละ มีพี่ซัน เพื่อนเฮียที่มหาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาเฮีย แล้วก็ ...พี่อาร์ตกะน้องสาวเขาปลาทำท่านึกก่อนจะเอ่ยออกมา อาจารย์ที่ว่า... อาจารย์พงศ์งั้นเหรอ? ผมมองปลาที่ทำท่าจะเล่าต่อ มีอีกเรื่องนะเฮีย เรื่องการเรียน ดูเหมือนคุณครอสเขาจะติดต่อไปทางมหาลัยเพื่อพักการเรียนของเฮียเทอมนึงแล้วนะ...แกรบๆมันพูดพร้อมเดินไปนั่งกินขนมที่โซฟา แต่โหย คุณครอส นี่คุณรับผิดชอบผมขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ทั้งเรื่องอนาคตทางการเรียน นี่ไหนๆก็ไหนๆ ช่วยดูแลชีวิตผมทั้งชีวิตเลยได้ไหมครับ? ฮ่าๆๆๆๆ

    หลังจากคุยกันได้สักพัก ม๊าก็ส่งสัญญาณให้ป๊าก่อนจับมือผมอีกรอบ เอาล่ะ ลื้อพักผ่อนมากๆนะ วันนี้ลงของพอดี เดี๋ยวป๊ากับม๊ากลับไปดูแลร้านต่อ อาปลา! ฝากดูแลเฮียลื้อด้วยพอพูดจบก็เดินออกไปพร้อมกับป๊า ส่วนยัยปลาพอเห็นม๊ากับป๊าออกออกไปปุ๊บ ก็รีบหันมายิ้มตาหยีให้ทันที

     “มีไรยัยปลา? ...หน้าหื่นว่ะดูมันยิ้มสิครับ โคตรน่ากลัวเลยเถอะ มันยิ้มหื่นตาหยีแต่เป็นประกายออกมาได้ ผมว่าแบบนี้ต้องมีอะไรแหง

     “หึๆ เฮีย” ปลาเอ่ยพร้อมหัวเราะเสียงต่ำ “...ปลาเพิ่งรู้นะ ว่าเฮียมีเสน่ห์ดึงดูดพวกเมะด้วย เฮียโดนกดยัง?”

    “พรวดด แค่กๆ” สำลักน้ำลายแป๊ป ไอ้น้องบ้า! ดึงดูดเมะเนี่ยนะ? แล้วมันเอาเซลล์สมองส่วนไหนมาจิ้นว่าผมโดนกดเนี่ย!? นึกภาพแล้วอยากจะอ้วก ตัวอ้วนๆใหญ่ๆไขมันเป็นชั้นๆแบบผม โดนเมะกด ...อุบาทว์โฮก

    บ้าป่ะยัยปลา!! เฮียอ้วนขนาดนี้มันจะมีใครสนวะ? แล้วให้เฮียถูกกดเนี่ย ...โอ้ย~ ขนลุก!” ผมดันจิ้นไปแล้วด้วยเนี่ยสิ อยากอ้วกเลย ส่วนยัยปลามันก็หัวเราะชอบใจ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้

    ฮ่าๆๆ ก็ปลาเฝ้าเฮียทุกวัน ปลาเห็น ปลารู้ ปลาอับดุล...” ยัยปลาพูดค้างแล้วเหล่ตายักคิ้วใส่ ทำเอาต่อมอยากรู้ของผมมันกระตุกอย่างแรง

     “ว่ามาดิ เห็นอะไร?” ผมรีบถามทันที มันยังหัวเราะคิกคักอยู่นานถึงจะเปิดปากพูดต่อ

     “ก็ตอนคุณครอสสุดหล่อมาเยี่ยมเฮียอ่ะดิ...” ปลาพูดเว้นช่วงแล้วทำหน้าเคลิ้ม ผมนี่อยากเตะมันจริงๆ “...ตอนนั้นนะเฮีย ฟินมาก คุณครอสจับมือเฮียแล้วมองหน้าเฮียเป็นชั่วโมงๆ แบบนี้ต้องคิดอะไรแน่ๆพูดจบก็ยิ้มกระหยิ่มอย่างน่าเตะ ว่าแต่...อะไรนะ

     “ขะ เขาอาจจะรู้สึกผิดไงแกไอ้นี่ก็จิ้นไปได้ หน้าตาพี่ครอสเป็นยังไงยังไม่รู้เลย ไม่รู้จักกันด้วย แล้วจะมาคิดอะไรกับผมได้ไง

     “แต่ว่าๆ คุณครอสมานั่งจับมือบีบมือเฮียแทบทุกวัน นี่ถ้านอนกอดเฮียได้คงทำแล้ว ถ้าเขาไม่ติดงานสำคัญจริงๆนะ วันนี้เฮียคงเห็นเขาแล้วละปลาพูดเสริมให้สิ่งที่มันมโนเป็นจริงให้ได้ ผมเบ้หน้าทันที

     “เอ่อ ...คนมีความรับผิดชอบสูงก็เงี้ย แกอย่าจิ้นไรมากเล๊ย เหอะๆครับ ถ้าผมน่ารัก หล่อ หุ่นเอ็กซ์ ผมจะคิดเหมือนมันอยู่ แต่เพราะนี่มันคือผม ผมที่อ้วน ไขมันเป็นชั้นๆ ตาตี่ๆ แก้มใหญ่ๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้!! แต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นน้องตัวเองมองหน้าผมแล้วยิ้มมุมปากเหมือนมีอะไรที่อยากจะเล่าต่อ ...มีไรอีกว่ามาเถอะ! ผมได้แต่เงียบรอมันเปิดปากเล่าอีกรอบ

     “อ๋อเร้อ~ แล้วอาจารย์ที่ปรึกษาเฮียอ่ะ มาเยี่ยมเฮียเกือบทุกวันเหมือนกันนะ เอามือลูบหัวเฮีย จากนั้นก็ ...จูบหน้าผากเฮีย

    ห๊ะ!! ผมอ้าปากค้างด้วยความตกใจ จูบหน้าผาก? อะ อาจารย์เขาอาจจะเป็นห่วงเฮียไง เป็นเรื่องธรรมดา ก็แค่จูบหน้าผาก ผมรีบปรับสีหน้าเป็นปกติทันที ก็แต่จุฟหน้าผากเอ๊ง

     “ต่อๆ ส่วนพี่อาร์ตที่หัวทองๆอ่ะ เข้ามาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาพี่ ลูบแก้มเฮียไม่พอ หอมแก้มเฮียด้วย 2 ข้างเลย ถ้าไม่ติดว่าปลาอยู่ พี่คงเสียจูบแรกไปแล้วหละเฮ้ยยย !! โอ้วววม่ายยยยยย ได้แต่อ้าปากค้าง ทำไมมันร้อนๆที่หน้าเนี่ย? โอ้ย ร้อน ร้อนทั้งหัวแล้ว!!

    แล้วก็ยังมีเหตุการณ์ตอนรถไฟชนกันด้วย ทุกคนต่างมายื้อแย่งเฮีย โอ้ย~! กระแสไฟฟ้าวิ่งชนกันเปรี้ยะๆ จนปลาต้องออกจากห้อง....” เหมือนเสียงปลาจะขาดหายไป แต่สายตาผมยังเห็นปากมันพูดไม่หยุด นี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน?

    ช็อกแป๊บ ช็อก คิดอะไรไม่ออก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!

     "เวอร์ว่ะ ยัยปลา"

    กึก! อยู่ๆเสียงที่ขัดการเล่าของยัยปลาก็ดังมาจากทางหน้าประตูทางเข้า ทำให้ผมที่มึนอึนแถมหูอื้ออยู่หันไปมองตามเสียง เห็นชายหนุ่มสูง175 เซนติเมตร หน้าตาออกไปทางจีน ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นยืนเท้าเอวมองผมกับปลาอยู่ ผมยิ้มให้มันทันที

    เป็นไอ้ซันเพื่อนสนิทสุดเลิฟนี่เอง ที่มันรู้ว่าผมตื่นแล้วคงเป็นเพราะยัยปลาแน่ๆ ผมเห็นยัยนั่นรัวนิ้วนั่งแชทมือถืออย่างเมามันส์ตอนที่หมอตรวจผมอยู่

    แกใส่ไข่มากไปว่ะ เว่อร์เกิ๊น! ดูหน้าพี่แกด้วย วิญญาณออกจากร่างไปแล้วเอ่อ! อึ้งแดกอยู่ แต่วิญญาณยังไม่ออกโว้ย!

    ผมเขม่งใส่ซันที่ตอนนี้เดินเข้ามาใกล้ๆ มือทั้งสองเต็มไปด้วยถุงขนม ซันเดินเข้ามาวางถุงไว้ที่โซฟา ก่อนจะนั่งข้างๆยัยปลาที่หน้ามุ่ยใส่ อ๋อ ...เมื่อกี้ที่น้องผมพูดมันโกหกใช่ไหม!? เฮ้อ ทำตูเหว๋อหมด

     “กินป่ะ?” ซันหันมาถาม ผมได้แต่สายหน้าเซ็งๆ

    คือมันไม่หิวอ่ะ

    พอผมปฏิเสธซันก็ทำหน้าอึ้งเล็กน้อยและพยักหน้าให้ คงเข้าใจว่าผมคงช็อกกับเรื่องเมื่อกี้อยู่ เพราะผมเป็นตายร้ายดีเจ็บเจียนตายขนาดไหนผมจะไม่เคยปฏิเสธน้ำใจมันเลย

     “โห้ย~ พี่ซัน ปลาพูดเรื่องจริงนิคะ พี่ซันก็เห็น” ...อ่าว

    ผมตาโตหันไปหาซันทันที แน่ะ! มันดันเงียบอีก เฮ้ย! ท้วงหน่อย! แก้ข่าวนิดนึง! ผมใจคอไม่ดี!!

     “เอ่อๆๆ แต่แกดูหน้าพี่แกด้วย นี่เพิ่งฟื้นนะอย่าทำให้มันเครียดดิ เอ่อไอ้หมู นายไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาก็แค่เป็นห่วง หวงกันเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก นอนพักผ่อนเยอะๆ

    ...ช่วยได้มากเลยไอ้ซัน! อะไรห่วง หวงกันฟะ? งงว่ะ

    ถ้าผมหน้าตาดี ปากนิดจมูกหน่อย ก้นงอนยิ่งกว่าผู้หญิงตามแบบฉบับพวกเคะเนี่ยจะไม่งงเล๊ย แบบไอ้ซันนี้ยังจะเคะกว่าผมซะอีก ดูเอวมันสิ บางจนผมงงว่าเครื่องในมันไปพันอยู่ส่วนในของร่างกาย ...หรือว่าเดี๋ยวคนหล่อมันเปลี่ยนรสนิยมมาชอบคนอ้วนเพศเดียวกันหมดแล้ว!?

    เอ่อ! จะพยายามผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ตาชักเริ่มปิดแล้วสิ นอนมาก็เยอะแล้วนะ แต่มันก็ยังง่วง น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่หมอฉีดเข้าไปเมื่อกี้

    ..ก็ดีเหมือนกัน ไม่อยากคิดอะไรมากแล้ว อุตสาห์ตื่นจากฝันมาได้แต่ดันต้องมารับรู้เรื่องบ้าๆแบบนี้ บอกตรงๆเลยว่า ผมรับไม่ทัน

    ... อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

    ช่างมันแล้ว! ผมขอพักผ่อนก่อนดีกว่า

    ง่วงว่ะ หลับก่อนนะ” พูดเพียงเท่านี้สติผมก็ดับวูบไปอีกครั้ง

    เบื่อ! เบื่อจัง เฮ้อ ...” เป็นเสียงผมที่เอ่ยออกมาลอยๆ มองไปรอบๆด้วยความเบื่อหน่าย

    หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว ส่วนอาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นเร็วมากจนหมอยังแปลกใจ คาดว่าน่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่าที่คิด แต่ถึงจะบอกว่าอาการดีขึ้นตัวผมก็ยังถูกพันเป็นมัมมี่อยู่ เฮ้ออ!! แต่ตอนนี้สิ ตอนนี้มัน ...โคตรน่าเบื่อเลยเหอะ!

    แม้ว่ามีแอร์เย็นๆกับทีวีจอแบน 42 นิ้วให้ดู แต่เพราะได้แต่กินๆนอนๆบนเตียง เป็นใครใครก็เบื่อ! ดีที่มือทั้งสองข้างไม่เป็นอะไรมากพอหยิบจับได้ ผมกดรีโมตเปลี่ยนช่องครบ 405 ช่องแล้ววนเปลี่ยนอีกรอบ อารมณ์เหมือนคนอยากหนีออกจากโรงพยาบาลเต็มที อยากหนีกลับบ้าน อยากกลับไปอ่านมังงะ ไปฟินกับโดจิน ไปเกรียนกับเพื่อนในเกมออนไลน์... โว้ยยย!!

    ถ้าจะบอกว่าก็อ่านโดจินไปสิ อยู่ห้องพักส่วนตัวนิ่ แล้วโดจินก็ยังวางตระหง่านอยู่บนหัวเตียงด้วย

    แต่ผม ...ผมมีปัญหาครับ เป็นปัญหาที่ทำให้ผมอดอ่านมัน ปัญหาผมคือ 'ผมเขินอ่ะ'

    ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะท่าน(?)ครอสน่ะสิ เมื่อ 2 วันก่อนอยู่ๆก็ส่ง ...เอ่อ ส่งสาวรับใช้หรือที่เรียกกันว่าเมดมาดูแลผมถึง 2 คน!

    โฮกก~! ท่านครอสขอรับ กระผมขอกราบท่านงามๆเลย เลือกมาให้ผมเนี่ยน่ารักเว่อร์ๆ เมดสาวน้อยลูกครึ่ง ผิวขาว ตากลมโต หุ่นเอ็กซ์ โนตม แถมเป็นฝาแฝดซะด้วย

    หันไปมองพวกเธอที่นั่งยิ้มให้ข้างๆก็ต้องหันกลับมาด้วยความอาย คนนึงผมยาวประบ่าชื่อว่าโรส ส่วนอีกคนใส่แว่น ผมยาวมัดรวบดูเรียบร้อย ชื่อเดซี่ สาวเมดทั้งสองอยู่ในชุดเมดสีกรมท่า เรียบร้อยมีสง่าราศี กระโปรงยาวเลยเข่ามานิดนึง ใส่รองเท้าคัทชูสีดำ ถุงเท้าสีขาวยาวถึงเข่า มีผ้ากันเปื้อนสีขาวระบายด้วยลูกไม้ ผมนี่ขอตะโกนก้องในใจเลยว่า โมเอ๊ะ น่ารักที่ซู๊ดด~ ผมก็รู้สึกเกรงใจท่านครอสมากนะที่รับผิดชอบผมเยอะมากหรือแม้แต่ส่งสาวเมดมาให้ แต่ช่างเถอะ เขาเสนอเราสนอง ผมยินดีรับน้ำใจท่านเสมอคร้าบ

    “คุณหมูคะ” เดซี่เรียกผมด้วยรอยยิ้ม เธอเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วโค้งตัวเล็กน้อย ทำเอาผมเผลอโค้งตาม จากนั้น เดซี่ก็ยื่นมือถือมาให้เครื่องนึง “ท่านครอสให้เดซี่เอามือถือมาให้คุณหมูค่ะ เดซี่จัดการลงโปรแกรมกับข้อมูลเดิมเรียบร้อยแล้วนะคะ” ว่าจบมือถือที่เดซี่ว่าก็มาอยู่ในมือผมแบบงงๆ ...ห๊ะ? อะไรนะ

    “ดะ เดี๋ยวครับคุณเดซี่ คือ...” มือสั่นเลยผม พอก้มมองมือถือในมือ มันแพงกว่าเครื่องเก่าผมชนิดฟ้ากับเหว มือถือยี่ห้อนี้ผมรู้จักดี ดังที่สุดในเมืองไทย ผมดูมาเยอะสัมผัสมาบ่อย ตัวเครื่องสีประกายทองบางเบารุ่นท็อปตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางขายได้ไม่กี่วัน ราคาแค่คิดก็ขนลุกซู่ เพราะมันแพงจนสามารถถอยคอมเทพได้ นี่ถ้าทำเป็นรอยจะเป็นยังไง?

    “เอ่อ คุณหมูไม่ชอบเหรอคะ? งั้นเดี๋ยวเดซี่ไปดูเครื่องใหม่ที่ดีกว่านี้ดีไหมค่ะ?” เดซี่ขมวดคิ้วพูด ทำเอาผมหน้าเหว๋อทันที

    “ปะ...เปล่าครับ เครื่องนี้ดีมาก ตะ ตะ... แต่มันแพงไปครับคุณเดซี่ แพงเกินไป...” ผมว่าพร้อมดึงผ้าห่มมาเช็ดหน้าจอเพราะกลัวเป็นรอย มันเป็นความเคยชินครับ เจอของแพงแล้วผมต้องถนอมเท่าชีวิต เดี๋ยวทำเสียหายแล้วผมจะซวยเอา

    แต่เดี๋ยว ข้อมูลเก่า? ขะ...ข้อมูลเก่าที่ว่าคือ ข้อมูลในโนเกีย N7x ผมเหรอ?

    “ขะ...ข้อมูลเดิมที่ว่า อะไรบ้างครับเดซี่” พอถามจบเดซี่ก็อมยิ้มตาปิดไม่พูดอะไร ผมนี่หน้าซีดเป็นหมูต้มเลย อยากถามเหลือเกินว่าคุณเห็นโดจินที่ผมแอบสะสมในเครื่องรึเปล่าครับ... ไหนจะรูปติดเรท... อ๊ากกก คลิปโป๊ 2D โดจินวาย ...ผมไม่กล้ามองหน้าเดซี่เลยตอนนี้

    -ปี๊ดๆๆๆ- “เหว๋อ!!” ตกใจจนมือถือเด้ง หน้าจอสว่างตามจังหวะแรงสั่น ผมมองดูสายเรียกเข้า เป็นชื่อภาษาอังกฤษที่ผมคุ้นตาดี

    Cross งั้นเหรอ

    คะ...ครอส?” เบิกตากว้าง ทวนสิ่งที่เห็นอยู่หลายครั้ง

    ครอส!? ครอสไหน? หรือว่า...

    น้องครอสจังโทรมาหาผมมมมม!!

    “...” เดี๋ยวๆ น้องครอสจังจะโทรหาผมได้ยังไง ผมว่าผมคงต้องตั้งสติสักหน่อยละ ครอสนี่หรือว่าจะเป็น...

    เอ่อคุณหมูคะ กดรับสายท่านครอสสิคะ เดี๋ยวสายตัดไปก่อนนะคะเดซี่ว่า ทำเอาผมสะดุ้ง นิ้วโป้งที่จะสไลด์รับสายนี่สั่นเลยทีเดียว ครอสที่ว่านี่ ท่านครอสคนนั้นงั้นเหรอ อ๋อ กดรับสายตรงนี้ค่ะคุณหมูเดซี่นึกว่าผมกดรับสายไม่เป็นเลยกดรับแทนให้ เฮ้ย! ดะ เดี๋ยวครับ ผมยังไม่พร้อม!! ขอสตั้นก่อน!

    ผมสตั้นไปสักพัก ก่อนจะหลับตากลั้นหายใจยกโทรศัพท์ราคาเฉียดแสนขึ้นมาทาบที่หู

    สะ สวัสดีครับท่านครอสรู้เลยว่าเสียงตัวเองสั่นมาก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ อยู่ๆจะได้คุยกับคู่กรณีที่ขับชนผมกะทันหัน เอาจริงๆ ผมไม่รู้จะคุยอะไรยังไง อีกอย่าง ผมคุยไม่เก่งด้วย จริงๆนะ ไม่เก่งจริงๆ

    “...”

    ...ฮัลโหล?” ปลายสายกลับเงียบกริบ ทำเอาผมลืมตาขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ๋ หรือมือถือจะเสีย? ก็เป็นไปได้นะ ท่านครอส...?” เอ่ยอีกครั้งแล้วมองหน้าเดซี่งงๆ ดูท่ามือถือคงเสียแล้วหละ แต่มันเสียเองนะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย มันเสียเองจริงๆ

    [เรียกฉันว่าพี่ครอส] แล้วในที่สุดเสียงปลายสายก็ดังขึ้น เป็นเสียงทุ้มที่ทำให้ผมถึงกับค้าง น้ำเสียงนิ่งๆแต่กลับมีอำนาจ แค่ประโยคเดียวก็ทำเอาใจผมสั่นสะท้านได้

    พี่? พี่เลยเหรอ!! จะ จะดีเหรอครับ?” ใช่ จะดีเหรอ คือแบบขนาดเวลาปกติโรสกับเดซี่ยังต้องเรียกว่าท่านครอสเลยนะ แสดงว่า ท่านครอสคนนี้ต้องมีฐานะไม่ธรรมดาแน่ ...หรือผมจะคิดมากไปเอง?

    [เรียกฉันว่าพี่ครอส] ปลายสายพูดซ้ำอีกรอบ เหมือนโดนดุเลยแฮะ ทั้งๆที่น้ำเสียงก็เหมือนกับเมื่อกี้แท้ๆ

    เอาวะ พี่ก็พี่ คะ ครับ พี่...พี่ครอสพอเรียกว่าพี่ครอสก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมายังไงไม่รู้ ยิ่งเห็นเดซี่ยิ้ม ยิ่งทำให้ผมอยากเอาหน้ามุดผ้าห่ม มันไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ก็แค่เรียกว่าพี่ครอสเอง แค่เรียกว่าพี่เอง พี่ครอส ...แล้วผมจะเอาหน้ามุดผ้าห่มทำไมเนี่ย? สงสัยผมจะเมายาที่หมอมาฉีดให้เมื่อกี้

    [อาการเป็นยังไงบ้าง โรสกับเดซี่ดูแลดีไหม] น้ำเสียงปลายสายเปลี่ยนไป เป็นเสียงที่อ่อนโยนขึ้นจนผมเริ่มผ่อนคลายขึ้น

    ครับ อาการดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนคุณโรสกับคุณเดซี่ดูแลผมดีมากครับ เอ่อ ขอบคุณมากครับที่รับผิดชอบเรื่องของผม...”

    [ดีแล้วที่ดีขึ้น ว่าแต่หลังจากหมูฟื้นเป็นยังไงบ้าง? เล่าให้พี่ฟังได้ไหมครับ?]

    ครับ ก็...” แล้วหลังจากนั้นผมกับพี่ครอสก็คุยกับยาว แปลกจัง ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ หน้าก็ไม่เคยเห็น แต่ผมกลับรู้สึกดี จากที่คิดว่าต้องพูดอะไรไม่ออกแน่กลับกลายเป็นว่าตัวเองพูดไม่หยุด ถ้าให้ผมเดาอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายดูแลเอาใจใส่ผมตลอด คุยกันนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีเดซี่ก็หายออกไปจากห้องซะแล้ว

    หลังจากวางสายไป ผมกลับรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก อยากคุยต่อ อยากเจอ อยากรู้จักนี่เราต้องบ้าไปแน่ๆ ทำไมเราถึงคิดแบบนี้ได้เนี่ย เพิ่งจะคุยกันครั้งแรกทำไมถึงเป็นขนาดนี้?

    ผมนิ่งคิดอยู่นานจึงตัดสินใจเอ่ยถามโรสที่เพิ่งมายืนอยู่ข้าง คุณโรสครับ พี่ครอส...เอ่อ เป็นคนยังไงเหรอ?” พอถามจบ โรสก็มองหน้าผมสักพักก่อนจะยิ้มให้

                    “โรสบอกได้แค่ท่านครอสเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลเก่าแก่ที่ฝรั่งเศสค่ะ ท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีความเป็นผู้นำสูง เก่งและรอบรู้ในทุกด้าน อีกทั้งยังหล่อจนสาวๆต่างพากับหลงเสน่ห์ อ๊ะ! แต่โรสกับเดซี่ เอ่อ เห็นท่านครอสเป็นบุคคลที่น่าเลื่อมใสนะคะ จริงๆนะเธอว่า ทำเอาผมรู้สึกว่าเธออวยเจ้านายเหลือเกิ๊น หล่อรวยดูดีมีชาติตระกูล นี่มันคาแรคเตอร์พระเอกในนิยายชัด อ่อจริงสิ ดูรูปท่านครอสไหมคะ?ว่าจบโรสก็หยิบมือถือใหม่ของผมเข้าไปเปิดแอพดูรูปแล้วยื่นมาให้ผมดู

    ...นี่เอารูปพี่ครอสใส่ลงไปด้วยเหรอ? ผมมองดูรูปครึ่งตัวของชายคนหนึ่ง ใบหน้าเรียวยาวออกไปทางยุโรป ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถูกมัดรวมไว้ด้านหลัง ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาอย่างไร้อารมณ์ ใส่ชุดสูทสีน้ำเงินดูเป็นทางการ ให้เดาอายุก็น่าจะสัก 30+ จะว่าหล่อไหม มองทีแรกผมนึกว่านายแบบที่ไหนซะอีก หล่อลากดิน หล่อไม่บันยะบันยัง แต่...ทำไมผมรู้สึกว่าพี่ครอสในรูปดูน่ากลัวแปลกๆ อืม... น่าจะเพราะสายตาละมั้ง สายตาที่เหมือนหุ่นยนต์นั่น หรือไม่ก็ใบหน้าที่บึ้งตึง ผมมองรูปพี่ครอสจนเพลิน หันไปอีกทีก็ถึงเวรที่เดซี่มาดูแลผม

                    “คุณหมูคะ ทานผลไม้หน่อยไหมคะ เดี๋ยวดิฉันปลอกให้ค่ะเดซี่ว่าพร้อมเดินไปเลือกผลไม้ที่อยู่ในกระเช้า

                    “เอ่อ ... ขอบคุณครับ แต่ผมไม่หิวครับคือมันไม่หิวจริงๆครับ ไม่อยากกินอะไรเลย เมดทั้ง 2 พยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่ถามต่อ แต่สีหน้าดูเป็นห่วงผมเอามากเพราะผมซูบผอมลงจนน่าตกใจ

    ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลน้ำหนักผมลดลงไปเกือบ 10 กว่ากิโลได้มั้ง นี่ยังไม่รวมตอนผ่าตัดแล้วเอาไขมันออกอีกนะ เหมือนหมอจะบอกว่าต้องเอาไขมันออกบางส่วนออกเพื่อง่ายต่อการผ่าตัดและรักษา และการที่น้ำหนักผมลดลงอย่างรวดเร็วในครั้งนี้ หมอเลยบังคับให้ผมทานอาหารเสริม ยกกระชับโน่นนั่นนี่เต็มไปหมด

    ผมหันไปมองเมดทั้งสอง พวกเธอดูคล่องแคล่วและรู้งาน เก่งไปหมดทุกอย่างจนผมต้องถามว่ามาเป็นเมดได้ยังไง โรสตอบผมว่าพวกเธอเรียนจบมาทางสายนี้โดยตรง เพื่อที่จะมาเป็นสาวใช้ให้กับตระกูลครอส เพราะตระกูลของพวกเธอรับใช้ตระกูลท่านครอสมาช้านานแล้ว

    ...โอ้ว นี่มันการ์ตูนชัดๆ ในโลกนี้มันมีจริงหรือนี่!? ผมเริ่มรู้สึกหลุดเข้าไปในจินตนาการแล้วตอนนี้

    ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังจนผมสะดุ้งหันไปมอง เห็นอาจารย์พงศ์เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม ผมเลยยิ้มตอบไป อาจารย์แกเป็นที่ปรึกษาผมเอง อายุมากกว่าผมแค่ 5-6 ปี ตัวสูงมาก สูงกว่าผมน่าจะ 20 เซนได้ ผมสั้นสีดำที่เข้ากับหน้าคม ตาเรียวดุ สวมแว่นตากรอบดำ จมูกโด่งรับกับแว่นเป็นอย่างดี มีผิวสีแทน และมีร่างกายที่บึกบึน เมื่อหันไปมองข้างๆก็เห็นพี่อาร์ตเดินตามมาติดๆ พี่อาร์ตนี่ดูตัวเล็กไปเลยครับ

    หลังจากผมฟื้น สองคนนี้ชอบมาเยี่ยมผมด้วยกันบ่อยๆ ตอนแรกผมก็ยังรู้สึกมองหน้าไม่ติด ก็เพราะยัยปลานั่นแหละเล่าเรื่องแบบนั้นออกมา แต่พอนานเข้าผมก็ไม่คิดอะไรแล้ว ผมว่ายัยปลามันพูดใส่สีตีไข่เจียวเกินจริงซะมากกว่า พวกเขาสองคนน่าจะเอ็นดูผมเหมือนน้องชายต่างหาก ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และอีกอย่างที่ทำให้ผมคิดอย่างนั้นเพราะ ...

    เพราะผมเห็นสองคนนี้มากันบ่อย ...บ่อยจนผม

    ...ผมเก็บไปจิ้นเตรียมเอาไปให้ยัยปลาทำโดจินเรียบร้อยแล้ว! ก็ดูสิ เดินจับมือโอบเอวกันมาเชียว!?(ความจริงเดินห่างกันเป็นวา)

     ...เช็ดน้ำลายแป๊บ

    "หมู เป็นไงบ้างน่ะเรา เห็นว่าใกล้จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนิ่ ดีใจด้วยนะ" อาจารย์พงศ์เดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมยื่นช่อดอกกุหลาบสีม่วงมาให้ ผมมองดอกไม้ตรงหน้าตาเป็นประกาย มันสวยมากครับ แถมเป็นสีที่ผมชอบมากด้วย ผมยิ้มร่าเตรียมรับมาชื่นชม แต่ยังไม่ทันถึงมือโรสก็ฉกไปอย่างรวดเร็ว

                    "เดี๋ยวดิฉันเอาไปใส่แจกันให้นะคะ" พูดจบก็เดินถือดอกไม้ผมไปเลย ไม่ถงไม่ถามผมสักคำ ส่วนพี่อาร์ตที่ถือถุงขนมมา รายนี้รู้งานครับ ยื่นถุงให้เดซี่ทันที

                    "หมูผอมลงรึเปล่า? อาหารที่โรงพยาบาลไม่อร่อยเหรอ?" พี่อาร์ตถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

    "อร่อยอยู่ครับ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหาร" ผมยิ้มบางให้เพื่อให้รู้ว่าผมไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่กลับต้องแปลกใจ เมื่อพี่อาร์ตกลับมองผมตาค้างและนิ่งไปอยู่นาน

    ...

    "สวย"

    หือ? อะไรนะ!?

    เมื่อกี่พี่อาร์ตเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง? สวย? อะไรสวย? ใคร? ผมเหรอ? ผมทำหน้าตกใจทันที พี่อาร์ตเห็นดังนั้นก็สะดุ้งก่อนจะเอ่ยบอกต่อ

    "อ่อ เอ่อ ...นาฬิกาอาจารย์สวยจังเลยนะครับ ไปซื้อที่ไหนเหรอ ผมอยากได้บ้าง" พี่แกว่าแล้วจับข้อมืออาจารย์พงศ์ขึ้นมาดู

    มองหน้าผมแล้วชมนาฬิกา ...เอิ่ม โอเค หมูเชื่อพี่ นั่นเพราะ...

                    ผมอยากให้ภาพนี้มันอยู่นานๆ!! โฮกกก!!!

    ภาพที่ผมเห็นตอนนี้คือพี่อาร์ตหน้าแดง จับข้อมือของอาจารย์อยู่! จับมือกัน จับมือ


    ในจินตนาการหมู

    พี่อาร์ต : อาจารย์ครับ นะ..นาฬิกาสวยจังเลยครับ ซื้อที่ไหนเหรอ? อาร์ตอยากได้บ้างจัง

    อาจารย์: อยากได้เหรอครับอาร์ต? เอาไหมล่ะ? ผมให้

    พี่อาร์ต : อะ..อาจารย์จะให้ผมจริงๆเหรอครับ!?

    อาจารย์: จริงสิ ...แต่ต้องมีของแลกเปลี่ยนกันนะ

    พี่อาร์ต : เอ๋! อาจารย์อยากได้อะไรเหรอ?

    อาจารย์: หึ! อาร์ตก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอครับว่าผมต้องการอะไร

    พี่อาร์ต : ...คะ...ครับ


    พรวด!! กำเดาจิ้นไหล ตอนนี้อาจารย์กับพี่อาร์ตคุยอะไรกับผมนี่ผมไม่รู้เรื่องแล้ว ออกไปตอนไหนก็ไม่รู้ด้วย สมงสมองผมไปไกลถึงตอนที่พวกคุณทั้ง 2 อาบน้ำด้วยกันแล้ววว~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×