ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12 : Twelveth Bullets

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      13
      20 ก.ค. 57


    ตอนที่ 12 : Twelveth Bullets






    ........


    18.20 น.



    มีดสปาร์ต้ายาว 1 ฟุต สองอันถูกเก็บได้จากถังขยะ และกระถางต้นไม้ระหว่างทาง  มีดพก 6 นิ้ว

    1 อัน และปืนสั้น 1 กระบอก ก็หาไม่ยาก จากแถวนั้นถ้าสังเกตถึงความผิดปรกติของสิ่งแวดล้อม

    ดีๆ
    ไม่ถึงขั้นต้องแก้ปริศนาก็หาได้




    (มีแต่จินยองเท่านั้นอ่ะที่สังเกตเห็น เช่นป้ายบอกทางที่เป็นเสาเหล็ก มีแผ่นไม้ห้อยลงมามีเป็น

    ลูกศรชี้บอกที่สถานที่  แล้วพอดีขอบป้ายเป็นเหล็ก  ดูมันวาวกว่าปรกติ  จินยองก็ไปแกะออกมา

    ได้มีดพก  เป็นต้น)




    จินยอง  แจ๊กสัน  และยองแจ  กำลังมุ่งหน้าไปทางชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่สูงเท่ากับตึก 20 ชั้น

    (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 เมตร) ที่เป็นหนึ่งใน แลนด์มาร์คของสวนสนุก  เพราะกล้อง

    สำหรับติดปืนไรเฟิลอยู่ที่นั่น และ ส่วนประกอบของตัวปืนนั้น อยู่แถวม้าหมุนใกล้ๆ




    ตอนนี้ผ่านมา 20 นาทีแล้วหลังจากปล่อยตัว  ทีมต่างๆทยอยเข้ามาในสนามน่าจะเกือบครบ 

    ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น  ที่แขนของพวกเค้ามี นาฬิกาที่ทำหน้าที่เป็นเข็มทิศดิจิตอลได้ 

    บอกเวลาได้ และบอก คะแนนของทีมได้ 
    Got7 ตอนนี้คะแนนยังเป็น 0 ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับ

    พวกแจบอม แบมแบม มาร์ค และยูคยอมแน่ๆ แต่เป็นห่วงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ต้องทำตามแผน

    ให้ดีที่สุด




    จินยองสลัดความกังวล แล้วค่อยๆพาทีมไปถึงบริเวณ ฐานของชิงช้าสวรรค์  ที่นั่น มี คนอยู่ก่อน

    แล้ว  ประมาณ 20 กว่าคน กำลังชกต่อยกันอยู่  น่าจะเป็นระดับ
    C เพราะ เขาจำข้อมูลของผู้เข้า

    แข่งขันทั้งหมดได้




    แจ๊กสันยิ้มอย่างร่าเริง เพราะเป็นสิ่งที่เขารออยู่แล้ว ...การปะทะ!!




    ดู ทีม C พวกนั้น ยังไม่มีอาวุธกันเลย ได้แต่ตะลุมบอลกันด้วยมือป่าว




    "...อโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ  เพราะผม  ..ต้องฆ่าก่อนที่จะถูกฆ่า" แจ๊กสัน เนียน ย่องเงียบ

    เข้าไปเอามืออุดปาก แล้วปาดคอพวกนั้นได้ไปหลายคน ก่อนที่จะมีคนรู้ตัว 




    บางคนวิ่งหนีแต่ก็ไม่รอด บางคนหันมาร่วมมือกันสู้  แต่มือป่าวก็ไม่อาจต้านทานความเกรี้ยว

    กราดของมีดสปาตาร์สองมือที่แจ๊ก เข้ากระหน่ำ แทง ปาด เฉือน ไปยังจุดตายอย่างแม่นยำ
    โดย

    ไม่ยั้งมือได้




    ทีม C ล้มลงคนแล้วคนเล่า โดยมี ยองแจคอยช่วยยิงเก็บพวกที่คิดจะหนี Got7 ได้ 20 คะแนน

    อย่างรวดเร็ว




    แจ๊กสันสบัดคออย่างเกรียจคร้าน พร้อมดึงมีดออกมาจาก ศพสุดท้าย ที่โดนแถมจนเหวอะกว่า

    คนอื่น  แล้วยกแขนเสื้อมาเข็ดเลือดที่กระเซ็นโดนใบหน้าของตัวเองออกช้าๆ อย่างพอใจ




    ด้วยความเร่งรีบและ ชะล่าใจ  ผมสั่งให้แจ๊กสันไปเอาตัวปืนไรเฟิลจาก ม้าหมุนใกล้ๆคนเดียว

    แล้วผมกับยองแจก็ขึ้นไปบนกระเช้าของชิงช้าสวรรค์




    กระเช้าของชิงช้าสวรรค์ค่อยๆเคลื่อนตัวสูงจากพื้นดินเรื่อยๆ แน่นอนว่าใครที่อยู่แถวนั้นต้อง

    สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเจ้าเครื่องเล่นอันนี้  เพราะมันเด่นมาก  แต่ผมก็ภาวนาให้เราได้

    สิ่งที่ต้องการก่อนด้วยใจระทึก
    ...



     

    "...กึ้ง!!! กึก" หัวใจผมกระตุกวาบ  กระเช้าหยุดเคลื่อน พร้อมกับเสียงกระซิบของยองแจ




    " 7 คน ทาง 10 นาฬิกา" พวกเราก้มตัวลงมาหลบในท่านั่งยองๆชิดกันทันที




    งานเข้าซะแล้ว!!




    ....  ทีมหญิง ระดับ A  7 คน ยืนอยู่ตรงบริเวณที่ควบคุมกระเช้าด้านล่าง และกำลังมองมาทาง

    ชิงช้าสวรรค์
      พวกเธอเป็นนักฆ่ารุ่นใหม่ที่มีฝีมือดีขึ้นเรื่อยๆ  มีพัฒนาการทุกการแข่งขัน  แถมยัง

    ได้ถืออาวุธแล้ว เป็นปืนกลสั้น 2 อัน และปืนพก อีก 1 อัน
    แล้วก็เหมือนมีเชือกม้วนๆคล้องแขน

    อยู่  




    กระเช้าของชิงช้าสวรรค์ตัวนี้มีทั้งหมด น่าจะเกือบ 100 ตัว ระยะทางจากพื้นดินตอนนี้ น่าจะ

    ประมาณ75 เมตร( ประมาณ 3/4 ของความสูงทั้งหมด) อีก ไม่ถึง 25 เมตรก็จะถึงจุดสูงสุดที่มี

    การซ่อนกล้องส่องทางไกลที่พวกเขาต้องการแล้ว จินยองตัดสินใจปืนออกมาจากกระเช้า 



    ...มันสูงมากและลมก็พัดแรงจนร่างบางแทบปลิว  แต่ก็ต้องเสี่ยง เพื่อเป้าหมาย




    "ฮยอง มันอันตรายนะ ตกมาไม่เหลือแน่" ยองแจประท้วงทั้งน้ำเสียงและสีหน้า




    "อยู่แบบนี้ก็ไม่รอดเหมือนกัน ถ้าพวกนั้นเดินเครื่องต่อ แล้วเราหมุนลงถึงพื้นในที่สุด ถ้าไม่ได้

    กล้องมา ก็เท่ากับเสียปล่าว ไม่ใช่เหรอ
    เดี๋ยวนายคอยยิงคุ้มกันฉันจากตรงนี้ก็พอ ... นั่น  6 ใน

    7 คนกำลังเดินมาทางนี้แล้ว
    "




    จินยองเดาว่า สาวๆพวกนั้นน่าจะแก้ปริศนาได้เช่นกัน และมีเป้าหมายที่กล้องสำหรับติดไรเฟิล

    เหมือนกัน  อย่างน้อยเค้าก็ยังได้เปรียบที่อยู่ใกล้กว่า  เขาค่อยๆ ปีนขึ้นจากกระเช้าหนึ่ง ไปอีก

    กระเช้าสูงขึ้น สูงขึ้น
    ...


     

    ...............


     

    18.29 น.



    Shot gun  1 กระบอก ปืนกลเบา M60 กับ M 240 อย่างละกระบอก ตอนนี้มันก็ไม่ต่างจากท่อน

    ไม้หนักๆเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีกระสุน  แต่พวกเรากำลังเข้าไปเอามันอยู่  โชคดีอย่างไม่น่า

    เชื่อ(เหรอ)มันอยู่ตรงกรงไลเกอร์พอดี  สิงโตลูกผสมตัวเกือบเท่ารถยนต์ กำลังนอนแทะศพของ

    ใครบางคนอยู่ กระดูดท่อนขาโผล่มาให้เห็น รอบๆก็มีศพเกลื่อนอีก นับ 10  สภาพเละเทะ




    หน่อยแหนะมาแย่งทำคะแนนเจ้าไลเกอร์อ้วน ...  แต่หวังว่ามันคงจะอิ่มแล้วนะ ... มาร์คคิด




    ก่อนหน้านี้พวกเขาตามรอยแผนที่ที่จินยองถอดปริศนาไว้  ไปเก็บอาวุธสำคัญๆ ได้ตามเป้า คือ

    shot gun 2 กระบอก ปืนกล ข้างต้น 4 กระบอก ปืนกลสั้น MP-7 ซึ่งกระสุนหมดไปแล้ว 1

    กระบอก บาซูก้า 1 กระบอก เหลือแต่ กระสุนกับ ปืนกลหนัก
    HMG- M2 กับ DShK ที่ต้องเอามา

     ก็ครบแระ  คือ อันไหนที่เราไม่ใช้ ก็ต้องทำลายทิ้ง ไม่ให้มีใครนำไปใช้เป็นอุปสรรคกับเราอีก 

    โดยเฉพาะเจ้าปืนกลหนัก ที่ต้องใช้คนเคลื่อนย้ายมากกว่า 1 คน พลานุภาพของมันสูงมาก

    ปรกติมักติดบนยานพาหนะ เช่น รถหุ้มเกราะหรือเครื่องบิน มีอัตราการยิง
    600 นัด/นาที ความจุ

    ต่อสาย
    50-200 นัด ( อาวุธสงครามทั้งสิ้น 555 )




    "ยูคยอมไปล่อมันออกมาซิ ...เผื่อมันยังไม่อิ่ม   ถ้าได้กินนายอีกคนน่าจะอยู่ท้อง" มาร์คอมยิ้ม ชี้

    นิ้วสั่ง




    "เฮ้ย!! ฮยอง เอาจริงดิ!!" ยูคยอมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้




    "ไม่ดีกว่า เดี๋ยวชั้นจะล่อ มันออกมาแล้วนายก็เข้าไปเอากระสุนให้พอใช้นะ  แล้วมาช่วยชั้นด้วย

    ละกัน ขอแบบไวที่สุดในชีวิต
    " มาร์คไม่ค่อยมั่นใจว่าเขาจะพอหลอกล่อเจ้าไลเกอร์ได้นานแค่

    ไหน  ต้องฝากชีวิตไว้ที่ยูคยอมแล้วหล่ะ 




    มาร์คถอดเสื้อแจ๊กเกทชั้นนอกออก เหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาวข้างใน  แล้วก็แกะเครื่องประดับที่

    กรุ้งกริ้งระโยงระยาง กำไลแหวน ที่ติดตัวออกทั้งหมด เพื่อให้ร่างกายเบาและเคลื่อนไหวได้

    รวดเร็วที่สุด
    จากนั้นก็เดินเข้าไปประจันหน้ากับเจ้าไลเกอร์ตรงๆ ในระยะ 10 เมตร




    เจ้าแมวยักษ์เงยหน้าขึ้นมาแล้วสปริงตัวกระโดดตะปบมาร์คทันที!!




    มาร์คกระโดดหลบแทบไม่พ้น ปลายเล็บของมันข่วนเข้ากับเนื้อแขนขาว ที่สะท้อนแสงในความ

    มืดจนเลือดไหล เป็นรอย 3 แถบ ยาวกว่า 10 เซนติเมตร




    "อ๊าคค ...เจ๊บชมัด" มาร์คกัดฟันบ่นเบาๆ  เขาวิ่งสุดชีวิตนำเจ้าแมวอ้วนเข้าไปในส่วนป่าไกล้ๆที่มี

    ต้นไม้ใหญ่ขึ้นระเกะระกะ ขัดขวางการวิ่งเต็มสปีดของมัน




    เจ้าไลเกอร์กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ จนมาร์ครู้สึกถึงแรงอัดอากาศกระทบหลังเวลามันคำรามแต่ละ

    ที  แต่เขาก็พยายามวิ่งซิกแซก กระโดดขึ้นต้นไม้บ้าง วิ่งบนพื้นบ้าง จนมาถึงต้นไม้ยักษ์ใหญ่ที่

    เป็นแลนมาร์คของโซนนี้




    ด้านบนต้นไม้ใหญ่มีบ้านสร้างเป็นหลังๆ เป็นหมู่บ้านสูงขึ้นไป ภายในบ้านหลังแรกมีคนหลบอยู่

    5-6 คน (น่าจะเป็น ระดับ
    D) ทั้งหมดมีอาวุธเป็น หอกไม้เหลาเอาเอง  กับธนูที่พยายามจะ D.I.Y.

    (
    do it yourself = ทำขึ้นมาเอง) กันเอาตามมีตามเกิด  บ้านหลังต่ำสุด สูงจากพื้นดินประมาณ 3

    เมตร




    มาร์คกึ่งปีน กึ่งกระโดด ข้ามบันไดลิงทีละ 10 ขั้นขึ้นไปที่สูงๆอย่างรวดเร็ว  เจ้าไลเกอร์กระโดด

    ตามตะบบ  แต่พลาดโดนเอาบ้านหลังแรกพังลงมา  พวก ทีม
    D ที่หลบอยู่ทั้ง 6 คนนั่น ร่วงลงมา

    หมด ดึงความสนใจเจ้าไลเกอร์ได้ชะงัก




    "ไม่นะ!! อย่ามาทางนี้ ..อ๊าคคคค ...!!!" เสียงร้องขอชีวิตของพวกทีม D ดังอยู่สักพัก จึงเงียบ

    เจ้าแมวตะกละนั่นฟาดมนุษย์ทั้ง6 คนเรียบร้อย  




    มาร์คเกาะอยู่ที่ความสูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร ได้พักหายใจแปบหนึ่ง  มันไม่น่าจะโดดถึง

    ตรงนี้ได้  ตอนนี้หัวใจของมาร์คเริ่มประท้วง เต้นรัวมาก  
    heart rate น่าจะเกิน 200 
    ไปแล้ว

    (คนปรกติ ประมาณ 72ครั้ง/นาที)  จากการวิ่งและเคลื่อนไหวไม่หยุดกว่า 10 นาทีเกินกำลังของ

    มนุษย์ปรกติ มันเหนื่อยมาก มาร์คหายใจหอบเร็ว แทบจะไม่เหลือแรงจะยืน มือรั้งบันไดบ้าน

    ต้นไม้ไว้หลวมๆ




    "จะฆ่าเจ้าไลเกอร์ทิ้งหรือ ปล่อยไว้เล่นกับคนอื่นดีนะ"   วันนี้มันเก็บมนุษย์ได้ไปหลายแต้มแล้ว

    มากกว่าคะแนนของเขาเสียอีก เสียดายไม่มีโดรนของไลเกอร์ ไม่งั้นจะได้ยึดเอาคะแนนมา   ถึง

    ในเวลาแบบนี้มาร์คก็ยังยิ้มได้




    " ปัง!!." เสียงปืนดังขึ้น ...




    ....มือของมาร์คที่รับน้ำหนักประคองตัวอยู่ถูกคนที่อยู่บนบ้านต้นไม้ที่สูงขึ้นไป ยิงลงมาโดน

    ทำให้มาร์คล่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง
    ...


     

    ..................

     


     

    แจ๊กสันได้ของที่ต้องการมาอย่างไม่ยากเย็น  ปืนไรเฟิลถูกแยกชิ้นส่วนแล้วซ่อนไว้ตามเสาของ

    ม้าหมุน  เขารวบรวมแล้วประกอบมันทีละชิ้น พร้อมกับฆ่าคนที่อยู่แถวนั้นไปทีละคน
    อย่าง

    สนุกสนาน

     



    ถ้าไม่ได้ข้อมูลของจินยอง หลายอย่างคงไม่ง่ายดายขนาดนี้  ลองนึกดูว่าถ้าเขาไม่มีอาวุธ

    สถานการณ์คงพลิกจากที่เป็นอยู่จากหน้ามือเป็นหลังมือ





    .....แต่เมื่อกลับไปยังชิงช้าสวรรค์ก็ต้องพบกับเรื่องที่ทำให้เลือดในกายแทบเป็นน้ำแข็ง ...

     

     


     

     

    ...จินยองนอนนิ่ง ทั่วร่างขมุกขมอม มีเลือดไหลจากศีรษะ ใบหน้า ร่างกายโดนเชือกมัดไว้โดยมี

    ยองแจร้องไห้อยู่ข้างๆ ในสภาพมอมแมม

     

     


    "มานู่นแล้ว " เสียงสาวคนนึงดังขึ้นเมื่อเห็นแจ๊กสัน





    "รีบไปกันเถอะ ยังเหลือทางสวนน้ำอีก 1 กระบอก  ... ฝากสวัสดีแจบอมด้วยนะ" เฮจอง หันมา

    ยิ้มให้ยองแจ ก่อนที่ทั้ง 7 คนจะหายไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว



     

    "อ๊าคคคคคค ม่ายยยยยย นะ" แจ๊กสันกรีดร้องกับภาพที่เห็น พร้อมกับวิ่งเข้าไปดูอาการจินยอง

    ใกล้ๆทันที   

     

     


    แจ๊กสันกำลังสติแตก  เขาปล่อยอาวุธจากมือ แล้วก็ทำหน้าตกใจสุดขีด  ตัวสั่นเทิ้ม  เหมือนจะ

    ทำอะไรไม่ถูก ดูน่ากังกล ผิดกับบุคลิก ปรกติ  อาจจะเป็นเพราะเขามีบาดแผลทางจิตใจที่เคย

    เห็นเพื่อนเสียชีวิตต่อหน้า ( แจ๊กสันเคยเล่าให้ยองแจฟังเมื่อพวกเขาสนิทกันขึ้นเมื่อไม่นานมานี้)


     

    ยองแจตัดสินในเข้าไปกอดปลอบ แต่โดนแจ๊กสันผลักออก ด้วยแววตาผวา เลื่อนลอยเหมือนสติ

    ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว

     

     

    ยองแจไม่ละความพยายาม แม้จะโดนชก จนล้ม  เขากลับ ประกบปาก ขืนจูบแจ๊กสันอย่างอ่อน


    โยน  จนแจ๊กสันสงบลง  เลิกขัดขืน... แล้วจูบตอบ...



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×