ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #31 : ตอนที่ 29 : 29th Bullets 100% จ้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.51K
      18
      15 ต.ค. 57




    ตอนที่ 29 : 29th Bullets    -Leader Game-






    ผู้นำ จำเป็นต้องเก่งที่สุดไหม? ฉลาดที่สุดหรือป่าว? หล่อสวยดูดีมีร่างกายที่สวยงามสมบูรณ์

    พร้อมเห
    รอ?อุปนิสัยและอารมณ์ทั่วไปหล่ะ? แน่นอนว่าการดีเลิศด้านใดด้านหนึ่งนั้นเป็นสิ่งดี แต่

    ถ้า
    ทั้งหมดรวมอยู่ในคนคนเดียวนั้นยิ่งดีกว่ามิใช่หรือ?

     

     

     

    จินยอง อมยิ้มทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะวางเม็ดหมากล้อมสีขาว  ลงบนกระดานไม้เก่าแก่  สายลม

    โชยเอื่อย เย็นสบาย บนชายคาที่เปิดโล่ง เห็นสวนหิน และต้นไม้ร่มรื่น มีทัศนียภาพราวกับหลุด

    เข้ามายังอีกโลก ล้อมรอบเขาอยู่ ณ เบื้องหน้า







    คู่แข่งของเขาเป็นเด็กน้อยอายุไม่น่าจะเกิน 10 ขวบ ทำหน้าตาคร่ำเคร่ง ประหนึ่งหมากเกมนี้ มี

    ชีวิตเป็นเดิมพัน จนจินยองอดที่จะรู้สึกเอ็นดูไม่ได้







    ภายในห้องเดียวกันอีกด้านด้านไม่ไกลนัก มีผู้นำสูงสุดของตระกูล หัวหน้าแก๊งยากูซ่าแห่งโอ

    ซาก้า ฟูจิวาระโนะ โอดะ ชายชราวัย 70 กำลังนั่งมองพวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ







    จินยองค่อยๆดำดิ่งสู่ห้วงความคิดล้ำลึก ก่อนจะ ประมวลกลยุทธ์ออกมารุกไล่ ล้อม จัดการหมาก

    สีดำของเด็กน้อยตรงหน้า จนเด็กคนนั้นต้องโยนหมากยอมแพ้







    นี่ถือว่าเป็นการรังแกเด็กไหมนะ เพราะเด็กคนนั้น คือ ฟุจิวาระโนะ ทากะอากิระ นายน้อย หรือ

    ทายาทสุดหวงแก้วตาดวงใจของแก๊งยากูซ่านี้  ถึงจะเป็นแค่เด็ก แต่ก็มีชื่อในวงการหมากล้อม

    ญี่ปุ่นมาก ว่าเป็นลูกศิษย์ ของโทยะเมย์จิน ผู้เข้าใกล้ตำแหน่งเมย์จิน (ตำแหน่งสูงสุดของนัก

    เล่นหมากล้อมมืออาชีพ คล้ายๆชื่อตำแหน่งแชมป์โลกในวงการ ประมาณนั้น และมีค่าตอบแทน

    ในการครองตำแหน่ง หลายร้อยล้านเยนต่อปี) คนต่อไปมากที่สุด







    "อย่าร้องไห้ อากิระ" เสียงผู้อาวุโสดังขึ้นเมื่อเห็นหลานรักก้มหน้า กัดริมฝีบาก ด้วยตัวสั่นเทา

    แม้จะไม่มีเสียงสะอื้นออกมา







    เด็กน้อยกำหมัดแน่นแล้วยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะเงยหน้าทำเป็นเข้มแข็งให้คนตรงหน้าเห็น

    แล้วหันไปยิ้มตอบให้คุณปู่







    "ความสามารถระดับนี้ ทำไมไปเป็นไอดอลนักฆ่าเสียหล่ะ ปาร์คจินยอง" นายใหญ่แห่งเหล่ายากู

    ซ่าเอ่ยถาม เด็กหนุ่มผู้สงบเสงี่ยม ใบหน้าเนียนคม ท่วงท่าสง่างาม  กริยามารยาท ความ

    อ่อนน้อมถ่อมตน การมีสัมมาคารวะ การวางตัวถูกต้องจนเป็นที่ต้องตา และได้รับความเมตตา

    หาได้ยากในหมู่คนอายุน้อย และยิ่งกว่านั้น คือเขาเป็นชาวต่างชาติ







    จินยองก้มศีรษะคำนับน้อยๆก่อนตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม







    "จุดมุ่งหมายในชีวิตของคนเราคืออะไรหรือครับ  สำหรับท่านฟุจิวาระ อาจจะเป็นการดำรงความ

    ยิ่งใหญ่ของตระกูลสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่สำหรับผม แค่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก

    จนถึงตอนนี้ผมก็มีความสุขดีแล้วครับ การเป็นไอดอลนักฆ่าก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมดของ

    ชีวิต  สักวันก็ต้องวางมือ ผมจึงทำทุกวันให้เต็มที่เหมือนกับนี่เป็นวันสุดท้ายของชีวิต หากเกิด

    อะไรขึ้นกระทันหัน ผมก็ไม่เสียใจ
    " จินยองตอบด้วยถ้อยคำคมคาย น่าคิด ไม่น่าเชื่อว่าจะออก

    จากปากเด็กหนุ่มที่อายุเพิ่งจะ 20 ปี คนนี้







    "แปลกจัง  นายไม่มีความทะเยอทะยาน ตามประสาวัยรุ่นเลยเหรอ อย่างการได้เป็นไอดอล

    อันดับหนึ่งของประเทศ หรือของโลกอะไรแบบนั้น  ไม่ก็เป้าหมายอื่นๆเช่น  ความร่ำรวย หรือ

    ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น หน่ะ
    " คู่สนทนาถามต่อ







    "ไม่รู้สิครับ  นั่นเป็นหน้าที่ของผู้นำของผม คนที่ผมไว้ใจและฝากชีวิตไว้ ว่าเค้าจะพาพวกเราไป

    ไหน  ผมมีหน้าที่แค่ทำทุกอย่างที่เค้าคิด ให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างด้วยกำลังทั้งหมดที่มี  ส่วน

    หลังจากนั้น ผลของมันจะเป็นยังไง  ผมก็ไม่สนใจหรอกครับ
    " จินยองยังคงยิ้มน้อยๆ และตอบ

    คำถามสบตาผู้อาวุโสตรง เหมือนเล่นสงครามจิตวิทยากัน







    "อ่า... ฉันเข้าใจแล้ว  ทางแก๊งของเราก็เป็นแก๊งใหญ่ติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น เราต้องการ

    คนอย่างนายมาร่วมงานนะ เสนาธิการผู้ไม่หวั่นไหว เด็ดเดี่ยว ซื้อสัตย์ และเชื่อฟังผู้นำ  ถ้าเพียง

    แต่นายจะยอมมาทำงานให้แก๊งของเราและเป็นพี่เลี้ยงให้ ทากะอากิระ หลานของฉัน ถาวรแล้ว

    ละก็  ในโลกนี้นายจะต้องการอะไรอีกก็ย่อมได้ตามนั้น
    " นายใหญ่พูดเข้าประเด็นที่เชิญจินยอง

    เข้าพบวันนี้ในที่สุด







    จินยองใคร่ควรคำตอบ และวิเคราะห์สถานการณ์อยู่พักหนึ่ง  เขาไม่ได้ลังเลที่จะปฏิเสธข้อเสนอ

    หากแต่ เขาจะปฏิเสธยังไงไม่ให้มีเรื่องตามมาอีก  สิ่งที่จินยองคิดอยู่ตอนนี้ก็คือ  ชายชราผู้กุม

    อำนาจสูงสุดผู้นี้นั้น น่าจะต้องการคนรุ่นใหม่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแก๊ง และถ้าเขามอง

    จากการแข่งที่ผ่านมา พวกรุ่นพี่ 2
    PM น่าจะเก่งกว่าพวกเขาเสียอีก แต่พวกพี่ๆมีความเป็นทีม  มี

    ประสบการณ์ชีวิต และมีชื่อเสียงมากกว่า แล้วการจะดึงตัวใครสักคนมาคงทำได้ยากหรืออาจจะ

    เป็นไปไม่ได้  ส่วน
    GOT7 นั้น สมาชิกยังอายุน้อย ไม่ประสาอะไรกันเท่าไหร่  ตลอดการโชว์ที่

    ผ่านมา คนที่น่าจะเตะตานายใหญ่ที่สุด นอกจากตัวเขา ก็คงเป็น มาร์ค แจ๊กสัน แล้วก็แจบอม 

    ถึงเขาจะปฏิเสธคำชวนนี้ไป แต่ คนอื่น โดยเฉพาะแจบอมก็ต้องโดนทาบทามต่อไปอยู่ดี  จะทำ

    ยังไงให้ทีมของเขาพ้นจากมือยากูซ่าพวกนี้ไปได้นะ







    ที่สำคัญต้องทำให้ ชายชราผู้นี้ไม่สนใจแจบอมด้วย เพราะถ้าเขาสนใจ เขาต้องพบคุณสมบัติ

    และข้อดีหลายอย่างของแจบอมในที่สุด จนต้องอยากดึงตัวไว้เป็นแน่  แล้วก็ต้องทำให้เลิก

    สนใจในตัวเขาเองด้วย  และรวมไปถึงสมาชิก
    GOT7 คนอื่นๆต้องไม่โดนทาบทาม ซื้อ หรือดึง

    ตัวไป แค่ตอนนี้พวกเรายังมีชื่อเสียงไม่มาก  ยังเริ่มต้องระวังเรื่องพวกนี้แล้ว ถ้าวันไหนพวกเรา

    โด่งดังแล้วละก็ปัญหา แบบนี้คงหลีกกันไม่พ้นเป็นแน่







    "ผมขอเวลาไตร่ตรองสักนิดได้ไหมครับ  แล้วเรื่องที่ผมขอร้องไว้..." จินยองยังคงแสดงท่าที

    เยือกเย็น  แล้วถามถึงสิ่งที่เขาต้องการบางอย่าง







    "อ่า ใช่สินะ นายเล่นหมาก ล้อมชนะได้ จะขออะไรก็ว่ามา" นายใหญ่วัยชรา พูดอย่างอารมณ์ดี







    "ขอให้เลิกยุ่งกับพวกผม (ภาษาเกาหลี) ...เอ๊ยไม่ใช่ (กลับมาพูด ญี่ปุ่นต่อ) ขอให้ช่วยเรื่องเทรน

    นิ่ง 1 สัปดาห์ก่อนขึ้นโชว์เควสที่โตเกียว อ่ะครับ จริงๆแล้วพวกเราก็ยังไม่เก่งกันเท่าไหร่ แล้วก็

    ถ้าเสียดาบเอฟุตาชิ ของโอซาก้าให้ พวกโตเกียวไป มันคงจะไม่ดีใช่ไหมหล่ะครับ
    "







    " ลำบากใจจังเลยน๊า  เราเสียนักฆ่าระดับขุนพลไป 10 คน และรองขุนพลอีก 10 คน จากโชว์

    ครั้งที่แล้ว ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่  ตอนแรกชั้นกะปิดบัญชีนักฆ่าจากเกาหลี หยุดความ

    โด่งดังของพวก
    2PM ซะ แต่กลายเป็นว่า เสียท่ายับเยิน  นายยังจะขอร้องให้เรา เทรนพวกนาย

    ขึ้นมาเป็นเสี้ยนหนามอีก  ทำแบบนั้นพวกเราจะได้อะไร
    ?" นายใหญ่แห่งแก๊งจ้องเขม็งด้วยแวว

    ตาเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้เป็นคนละคน แถมยังปลดปล่องรังสีทำลายล้าง สร้างความกดดัน

    เปลี่ยนบรรยากาศให้ มาคุ หนักอึ้ง
    จนจินยองรู้สึกอึดอัด







    จินยองมองไปยังเด็กน้อยที่ทำท่าจะทนแรงกดดันไม่ไหว นั่งตัวสั่น จนเขาต้องประคองมือขึ้นมา

    จับ เป็นการปลอบขวัญ แล้วบอกให้เด็กคนนั้นออกไปพักผ่อนก่อน







    เด็กน้อยค่อยๆเงยหน้าสบตา ท่านปู่ผู้อยู่ในมาดนายใหญ่น่าเกรงขาม  ก็ได้รับสัญญาณพยักหน้า

    กลับ เขาจึง ขอตัวออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว







    ( ตาแก่นี่ ตอนแรกก็บอกว่าถ้าชนะหมากล้อมจะยอมให้ความช่วยเหลือตามคำขอ พอชนะจริงยัง

    ท่ามาก เรื่องมาก ถามนู่นถามนี่ จะเอาประโยชน์จนถึงที่สุดให้ได้ เขี้ยวลากดินจริงๆให้ตายเถอะ

     แต่ทำไงได้ เพราะถ้าขืนขึ้นโชว์เคส ตามมีตามเกิดด้วยสภาพทีมตอนนี้  มันก็ไม่น่าจะไหว

    เพราะได้ข่าวว่า ยากูซ่าของโตเกียวผู้จัดงาน ก็โหดหิน ติดอันดับอยู่เหมือนกัน - จินยองแอบคิด

    ในใจ )







    "เรา อาจจะได้รับการติดต่อแบบนี้จากยากูซ่าทางโตเกียวให้ไปร่วมมือเหมือนกัน อย่างไม่ต้อง

    สงสัยนะครับ  ทางโอซาก้าจะรับได้หรือ ถ้าไม่ยื่นมือเข้ามาก่อน  แถมอย่างที่บอก เรื่องดาบของ

    เมืองนี้ ถ้าเสียไป นอกจากหมายถึงศักดิ์ศรีของทางแก๊งและชาวเมืองแล้ว โอกาสได้กลับมาคง

    ยากน่าดู นะครับ
    " จินยองพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูเป็นต่อ ไม่เหมือนผู้มาขอความช่วยเหลือสัก

    นิด







    ( ไอ้เด็กนี่ ร้ายจริงๆ พูดพลิกสถานการณ์ให้ตัวเองดูเป็นต่อได้ แถมไม่มีความลังเล หวาดกลัว

    ในคำพูด สีหน้า หรือแววตาสักนิด ราวกับได้คิดและไตร่ตรองเรื่องพวกนี้ มาดีแล้ว  อายุขนาดนี้

    ยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าไปทำงานให้แก๊งไหน ต้องเป็นคนที่น่ากลัวจะเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อไปใน

    อนาคตแน่ๆ ถ้าเกลี้ยกล่อมมาอยู่กับเราไม่ได้ คงมีแต่ต้องทำลายทิ้งไม่ให้ใครเอาไปใช้

    ประโยชน์ มาเป็นเสี้ยนหนามกับแก๊งเราในภายภาคหน้าได้หล่ะนะ -นายใหญ่คิด )







    "ตกลง ชั้นจะส่ง ครูฝึก ระดับ แม่ทัพ 6 คนมาฝึกสอน ตัวต่อตัว ให้พวกนาย ใน 1 อาทิตย์นี้

    ระดับแม่ทัพนั้นเป็น ระดับสูงสุดของนักฆ่าแล้ว ในประเทศญี่ปุ่น มีรวมกัน ไม่ถึง 20 คน ส่วน

    ใหญ่ไม่ได้ลงสนามโชว์กันแล้ว เพราะหาคู่ต่อสู้ไม่ได้ ความเข้มงวด โหดร้าย ไม่ขอบรรยายนะ

    ถ้าพวกนายไม่เก่งจริง อาจจะตายระหว่างฝึก ก่อนขึ้นโชว์เสียอีก รับได้ไหมหล่ะ
    ? แล้วก็นะ  ที่มี

    ครูฝึก 6 คน เพราะนาย.... ปาร์คจินยอง จะต้องถูกห้ามฝึก และห้ามขึ้นโชว์
    " นายใหญ่เป็นฝ่าย

    ยิ้มเย้ยกับข้อเสนอที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้บ้าง  ถ้าขาดเสนาธิการวางแผนในการต่อสู้ ย่อมต้องเกิด

    ความสูญเสีย และอาจจะมีโอกาสให้เขาได้ใช้ต่อรองในการดึงตัว คนที่เขาต้องการมาได้







    ( นักฆ่าระดับ แม่ทัพ จัดเป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่าในวงการนักฆ่าระดับโลก แน่นอนว่าฝีมือสูง

    กว่ามืออาชีพระดับ
    E มาก โอกาสเจอตัวเป็นๆ กันนั้น ยากยิ่งกว่ายาก ถ้าได้เรียนรู้โดยตรงจาก

    คนพวกนี้ มันต้องมีประโยชน์กับพวกเขามากในอนาคตแน่ๆ  การขาดเขาไปในสนามแข่งแค่ 1

    แมทช์ คงไม่เดือดร้อนมากเท่าประโยชน์ที่จะได้รับ  แต่ดูเหมือนตาแก่นั่นจะมีแผนอะไรซ่อนไว้

    อีก ถ้ามัวแต่กลัว ทิ้งโอกาสที่หายากแบบนี้ไป นับว่าโง่มาก  คงต้องฝากที่เหลือไว้กับ แจบอม

    แล้วหล่ะ - จินยองคิด )







    "เป็นอันตกลงครับ  รบกวนนายใหญ่ดูแล เพื่อนๆ และน้องๆของผมจนถึงวันแข่งขัน" จินยองใช้

    สองมือวางบนพื้นด้านหน้าแล้วก้มหัวลงคำนับหัวหน้าแก๊งยากูซ่าเป็นคำตอบ
    ก่อนจะค่อยๆลุก

    ขึ้นอย่างสง่างาม







    "เดี๋ยว!! อย่าเพิ่งไป  นายต้องอยู่ที่เรือนใหญ่ ห้ามกลับไปพบสมาชิกทีม Got7 ตั้งแต่นี้เป็นต้น

    ไป จนกว่าจะแข่งจบ ถ้าไม่ตกลง ทุกอย่างที่พูดก่อนหน้านี้ ถือว่า ไม่เคยเกิดขึ้น
    " นายใหญ่กล่าว

    ทิ้งท้าย ทำให้จินยองเผลอหลุดเก็กขรึม







    เขาอ้าปากค้างพร้อมกับเบิ่งตาเลิกคิว และเกือบหลุดด่าเป็นภาษาเกากลี "ไอ้ ..@#$%^&*(X "

    ก่อนจะจ้องกลับเขม็งทำท่ากินเลือดกินเนื้อ แล้วทิ้งตัวลงในท่านั่งบนขา เหมือนเดิมอย่างเสียที








    ( อย่าให้ถึงทีเขาบ้างละกันนะ ไอ้แก่นี่ จะเอาคืนให้เจ็บกว่านี้ ร้อยเท่า - จินยองแอบอาฆาตใน

    ใจ)







    "ตามแต่ท่านหัวหน้าจะต้องการครับ " จินยองฝืนยิ้ม จนตากระตุก อยากฆ่าคนขึ้นมาตะหงิดๆ

    ส่วนตาแก่นั่นได้แต่หัวเราะชอบใจ








    ...................





     

    บ่ายวันนั้น ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ สำหรับบุคคลสำคัญ ด้านหลังคฤหาสน์ ลึกเข้าไปในภูเขา

    เบื้องหลัง ก็ กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากร้างลาการใช้งานมานานปี







    นายใหญ่ เรียกระดมเหล่านักฆ่า ระดับสูงสุด ชั้น แม่ทัพทั้ง 6 คน ด้วยพันธสัญญา ในครั้งเก่า

    ก่อน  แม้ตอนนี้พวกเขาจะหมดภาระเป็นอิสระต่อกันแล้ว แต่ในสมัยหนึ่งก็ เคยได้ชื่อว่าเป็น

    เพื่อนรัก ร่วมรบ และเป็นหนี้บุญคุณนายใหญ่ กันมา






     

    ข้อความที่แต่ละคนได้รับก็ไม่มีอะไรมากมาย แค่ให้คัดเลือกผู้สืบทอดจากคนที่นายใหญ่คัดมา

    ให้ ถ้าคนไหนใช้ไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ ให้ฆ่าทิ้งได้เลย ถ้าคนไหนมีแวว ให้ชักชวนเข้าแก๊งให้ได้






     

    "นี่พวกเรา 6 คนไม่ได้เจอกันนานเท่าไหร่แล้วนะ" แม่ทัพหญิงฝาแฝดกล่าวทักทาย สหายเก่าที่

    ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 10 ปี ระหว่างการเดินผ่านทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ โรงฝึกใหญ่  แม้วัย

    จะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ทั้ง 6 ก็ยังดูแข็งแรง สุขภาพดี สง่างามน่าเกรงขามไม่

    เปลี่ยนแปลง






     

    ทาจิบานะ ชิโนบุ   - อายุ 60 ปี อดีตนักฆ่าระดับ ได เก็นซุย ( จอมทัพ ) แต่ขอลดระดับตัวเอง

    ลงมาเป็น เก็นซุย (แม่ทัพ) ได้ 20 ปี แล้ว ช่วง 10 ปีหลังมานี่ แทบไม่มีใครเคยเห็นตัวเขาอีก

    เลยจนวันนี้   แต่ถ้าพูดถึงผลงานในอดีต นักฆ่าทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่นไม่มีใครไม่รู้จักเขา







    มินาโมโตะ อากิ และมินาโมโตะ อาโอย - ฝาแฝดหญิง อายุ 57 ปี ดำรงตำแหน่งนักฆ่าระดับ

    เก็นซุย (แม่ทัพ) มา 35 ปี ทั้งสอง ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด ตั้งแต่อายุยังน้อย และไม่เคยลดระดับลง

    มาเลย ถ้าพูดถึงการต่อสู้ ก็เรียกได้ว่า ไม่เป็นสองรองใคร






     

    ไทระ ทาคุยะ, คิโยฮาระ มิซากิ และอาริวาระ  เคน - คู่รัก คู่แค้น อายุ 55 ปี ดำรงตำแหน่ง

    นักฆ่าระดับ เก็นซุย (แม่ทัพ) มา 25 ปี ทั้ง 3 คนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น แข่งกัน

    มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยเอาชนะกันได้สักที อาจจะมีเคยเพลี่ยงพล้ำกันบ้าง ก็กลับมาแก้มือ

    กันไป มา จนยังไม่รู้แพ้ชนะจนถึงทุกวันนี้  ปัจจุบันด้วยวัยที่ล่วงโรยมาเยอะ จึงแยกย้าย กันไป







    ผู้อาวุโส ทั้ง 6 ถูกเชิญ มานั่งเรียงกันในโรงฝึก เป็นหน้ากระดาน แล้วให้ สมาชิกทีม Got7 เดิน

    เข้ามาโชว์ตัว ก่อนจะให้นั่งประจันหน้ากัน






     

    "แล้วเรามีเกณฑ์ คัดเลือกลูกศิษย์กันยังไงเหรอคะ นายใหญ่?" อาโอย เก็นซุย พูดขึ้นทำลาย

    ความเงียบ






     

    "เลือกๆไปเถอะ คนละ 1 คน ถ้าคนไหนใช้ไม่ได้ หรือขี้เกียจสอนก็แค่ ฆ่าทิ้งซะ" ฟุจิวาระ โอดะ

    นายใหญ่พูดเสียงเหี้ยมข่มขวัญ สมาชิก ที่เหลือ ทั้ง 6 ของ
    Got7 ที่ตอนนี้ หน้าซีด ตัวลีบ มอง

    หน้ากันเลิกลัก เหงื่อแตกกันเป็นแถว






     

    "ให้เกียรติสุภาพสตรีเลือกก่อนเลย" ชิโนบุ เก็นซุย กล่าวพร้อมยิ้มไปทาง สาว(เหลือน้อย)ทั้ง

    สอง






     

    "งั้น อากิ เลือก คนผมแดง" อากิ เก็นซุยชี้มือไปทาง มาร์ค





     

    "อาโอยเลือกคน นั้น ผิวขาว ตาโต ผมดำ" อาโอย เก็นซุย เลือก แจ๊กสัน






     

    เนื่องจาก เก็นซุยทั้ง 2 เป็นฝาแฝด รูปแบบการต่อสู้จะเป็นแบบประชิดตัว และต้องอาศัยเทคนิค

    โจมตีเป็นคู่ แจ๊กสันกับมาร์ค จึงได้ฝึกคู่กัน แยกจากคนอื่น
      ส่วนสาเหตุที่เก็นซุยทั้ง 2 เลือกทั้ง

    คู่นั้นก็ไม่มีอะไรมาก นอกจาก ทั้งสองหล่อ หน้าตาดี ถูกใจ สาว(เหลือน้อย) ทั้งสอง







    "ที่เหลือว่าไง เดี๋ยวให้เลือกทีละคน นะ" ชิโนบุ เก็นซุย ซึ่งอาวุโสรองจากนายใหญ่เป็นคน

    จัดการต่อ






     

    ทาคุยะ เก็นซุย ชี้มือไปทาง ยูคยอม พร้อมกับยิ้มเยาะคนที่เหลือ
     

    "ชั้นเลือกเด็กตัวใหญ่นี่ ท่าทางหน่วยก้านดี คงจะฝึกให้ฆ่าเด็กของพวกนายได้ก่อนแน่ๆ"






    มิซากิ เก็นซุย ชี้มือไปทาง ยองแจ พร้อมทำท่าคิดหนัก
     

    "เจ้าเด็กนี่ก็คงจะดีที่สุดในที่เหลือแล้วมั้ง อย่างน้อยก็มีแววตาสงบนิ่ง ไม่ล๊อกแล๊ก หน้าตาไม่

    กวนบาทาเหมือนเจ้า 2 คนที่เหลือด้วย
    "






     

    เคน เก็นซุย ก็ทำท่าลำบากใจ ก่อนจะชี้มือไปทาง แบมแบม
     

    "ถึงเจ้านี่จะตัวเล็กกว่าเพื่อน  แต่ชั้นรับรู้ได้เลยว่าเจ้านี่ไม่ธรรมดา พวกนายพลาดแล้วที่เหลือ

    เด็กคนนี้ให้ชั้น (ปลอบใจตัวเองพร้อมข่มขวัญคนอื่น คือเทคนิคอย่างหนึ่ง)
    "






     

    "งั้นก็เหลือ เจ้าหางตาชี้ หน้าตาไม่เป็นมิตรให้ชั้นสินะ ท่าทางดูแลยากนะเนี่ย" ชิโนบุ เก็นซุย

    กล่างถึงแจบอม ที่ไม่มีคนเลือกจึงเหลือมาเป็นลูกศิษย์ของเขา






     

    "ชั้นบอกไม่ได้หรอกนะ ว่าใครจะโชคร้ายที่สุด เพราะการสอนของเราทั้ง 6 ไม่เหมือนกัน  พวก

    เราไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อน  อาจจะทำอะไรรุนแรงพลังมือไปบ้าง หวังว่าพวกนายคงไม่ตายกัน

    ก่อน และคงจะอดทนฝึกให้ครบ 1 สัปดาห์ตามสัญญานะ  พวกชั้นไม่อยากเหนื่อยฟรี  ถ้าไม่เห็น

    แก่นายใหญ่ พวก ไทโช (นักฆ่าระดับขุนพล) ทั้งหลาย มาอ้อนวอน เอาเงินเอาทองมากองเป็น

    ภูเขา ขอเป็นลูกศิษย์ พวกเรายังไม่แลแม้หางตาเลย
    " ชิโนบุ เก็นซุยกล่าวก่อนที่ ทั้งหมดจะแยก

    ย้ายตาม อาจารย์ของตัวเองออกไป






     

    ตอนนี้ แจบอม ชิโนบุ เก็นซุย และ นายใหญ่โอดะ กำลังเดินตามกันไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ทาง

    ด้านหลังคฤหาสน์  ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน






     

    " ผมมีคำถามครับ " แจบอมเปิดปาก ทำลายความสงบก่อนคนแรก





     

    นายใหญ่หงายมือแล้วยกขึ้น เป็นการอนุญาตให้แจบอมพูดได้





     

    "ผมทราบมาว่า ท่านทราบว่าสมาชิกทีมอีกคนของผม ปาร์ค จินยอง เขาอยู่ที่ไหน?" แจบอม

    เงยหน้าตรงจ้องเขม็งไปที่นายใหญ่ ผู้ที่มีสีหน้าเรียบเฉย ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามว่าอะไร






     

    " เขาอยู่แถวนี้แหละ และก็สบายดี  การที่พวกนายได้ฝึกกับ เก็นซุยทั้ง 6 ก็เป็นเพราะ เขา

    ขอร้องฉันมา
    " นายใหญ่พูดยิ้มๆ แค่ดูก็รู้ว่าต้องมีแผนอะไรเบื้องหลังแน่ๆ






     

    "ขอผมสนทนากับเขาสักหน่อยได้ไหมครับ" แจบอมตีหน้ายิ้ม สวมหน้ากากเข้าใส่เหมือนกัน





    "คิดว่า คงไม่ได้  เพราะพวกนายต้องจ่ายค่าตอบแทนในการเชิญ เก็นซุยทั้ง 6 มา อย่างประเมิน

    ค่าไม่ได้
    " นายใหญ่ยิ้มลึกลับอีกแล้ว   







    ซึ่งมันแจบอมรู้สึกหงุดหงิดโมโหกับคำตอบที่ได้รับ จนอยากจะเดินไปกระชากคอเสื้อตาแก่นั่น

    แล้วฟันศอกสัก 2 ที ก่อนจะตีเข่าเข้าให้ แต่เขาก็ต้องพยายามสะกดอารมณ์เพราะอยู่ต่อหน้า

    เก็นซุยอีกคน ที่สามารถจะฆ่าเขาเมื่อไหร่ก็ได้ หากไม่ระวังตัว






     

    อย่างน้อยแจบอมก็รู้แล้วว่า นี่เป็นสิ่งที่จินยองเกี่ยวข้องและรับรู้  ดังนั้นการจัดการต่อจากนี้ ก็

    เหมือนทุกทีคือ พวกเขาต้องผ่านไปให้ได้ และหวังว่าจินยองก็คงผ่านมันมาได้เหมือนกัน






    .

    .

    .

     

    อีกด้านหนึ่ง เก็นซุย 3 คน คู่แค้น กำลังเล่นสนุกกับลูกศิษย์ใหม่อยู่ภายในโรงฝึกเมื่อครู่







    ทาคุยะ เก็นซุย -    " เจ้า หัวเห็ด สีทอง นี่ชื่ออะไรนะ?"
     

                                 " ยูคยอมครับ เซนเซย์" ยูคยอมตอบอย่างสุภาพ และส่งยิ้มทักทาย
     

                                 " เรียกยากหว่ะ ต่อไปนี้นายเป็นลูกศิษย์ชั้น ชื่อ ว่า ถ้วย ละกันนะ"  ( ต่อไป

                                   นี้ ยูคยอมจะชื่อ น้องถ้วย นะคะ 555 )







    มิซากิ เก็นซุย         "เออ จริง งั้น นายตาตี่ ต่อไปนี้ นายต้องใช้ชื่อว่า ขวด นะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" (                                    
                                   ยองแจ ชื่อ น้องขวด ค่ะ )






     

    เคน เก็นซุย            " งั้น เจ้าตัวเล็กนี้ชื่อ หม้อ เอ๊ย แก้วน้ำ ดีกว่าสินะ" ( แบมแบม ชื่อ น้อง

                                  แก้ว ค่ะ)

     




     

    "พอดีเลย เราให้เด็ก 3 คนนี้ มาตัดสินผลแพ้ชนะของเรา ที่ยังไม่เคยตัดสินได้ดีไหม ให้พวกนี้

    ฆ่า กันเองจนกว่าจะรู้ผล 7วันนี่น่าจะพอนะ คงมีใครได้ตายไปบ้างหล่ะ
    " ทาคุยะ เก็นซุย เสนอ

    ความเห็น






     

    "ถ้าแพ้ต้องยอมรับผลนะเฟ้ย  ห้ามถอนคำพูดนะ" มิซากิ เก็นซุยเสริม





     

    "อืม งั้นเริ่มเลยดีไหม?" เคน เก็นซุยเห็นด้วยและเร่งให้เริ่มการต่อสู้ได้เลย





     

    "ให้ลองสู้ให้สุดฝีมือกันก่อนถึงจะรู้ว่าต้องสอนตรงไหน  ใครตายก่อนก็คัดออก ถ้าใครออมมือ

    หรือทำไม่เต็มที่ ฉันนี่แหละ จะลงไปสงเคราะห์ พวกนายเอง
    " ทาคุยะเก็นซุย โยนวากิซาชิ

    ( ดาบซามูไรขนาด สั้นสำหรับพกเป็นดาบที่สอง ยาวประมาณ 50
    cm.) ให้น้องถ้วย(ยูคยอม)

    โดย เก็นซุยที่เหลือก็ทำตาม โยนดาบให้ลูกศิษย์ของตัวเองที่เหลือ น้องขวด- ยองแจ และ

    น้องแก้ว-แบมแบม






     

    สมาชิกทั้งหมดของ Got7 อยู่ในชุด ฮากามะ สำหรับต่อสู้ (เป็นชุดกิโมโน 2 ชิ้น) สวมกางเกง

    ญี่ปุ่นสีเทามีลายดำแนวตั้งกับเสื้อสีกรมท่า น้อง ถ้วย ขวด และแก้ว ยืนหันหน้าเข้าหากันเป็น

    วงกลม แต่ละคน ชัก ดาบวากิซาชิ ออกจากฝัก แล้วจ้องหาจังหวะลงมือ อย่างเอาจริง






     

    น้องถ้วย (ยูคยอม) " ผมอยากรู้ว่าถ้าแบมแบมฮยองไม่ออมมือให้ ฝีมือจะเป็นยังไง  ที่ผ่านมา  

    ฮยองยอมให้ผมเด่นกว่ามาตลอด ตอนซ้อมก็ให้ผมชนะ ไม่เคยเอาจริง ซักที
    " ลองยูคยอมเรียก

    แบมแบมว่าฮยองเมื่อไหร่ มักจะเป็นเวลาที่เขาซีเรียสหรือ โกรธ เพราะปรกติทั้งสองเรียกชื่อกัน

    เฉยๆ เพราะอยู่ใน สถานะเพื่อนเล่นกันมากกว่า







    น้องขวด (ยองแจ) "ผมต้องไม่เป็นภาระของทีม เข้ามาเลยไม่ต้องออมมือ" ยองแจจ้องเครียด

    ไปทางน้องทั้งสอง เพราะพวกเขาไม่เคยสู้กันจริงๆจังๆสักที แต่ถ้าดูจากประสบการณ์การสู้ระยะ

    ประชิดแล้ว เขานับว่าอ่อนด้อยที่สุดในทั้ง 3 คนนี้







    น้องแก้ว (แบมแบม)  "ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย  แต่ยังไงผมก็ไม่ยอมแพ้เหมือน

    กันนะ
    " แบมแบมกระชับดาบแน่น พร้อมกับมองไปรอบๆเพื่อคำนวณระยะหนี และหลบหลีกที่พอ

    จะเป็นไปได้







    ยูคยอมเปิดฉากด้วยการควงดาบวากิซาชิ  แล้วพุ่งใส่แบมแบม ที่ยกดาบขึ้นมารับก่อนจะเบี่ยง

    ตัวปัดแรงพุ่งของยูคยอมออกไปด้านข้างแล้วตวัดคมวากิซาชิของเขาเฉี่ยวข้อมือและชายเสื้อ

    ขวาของยูคยอมไป ได้เลือดทันที







    แบมแบมทำไปโดยสัญชาติญาณ ได้แต่ตกใจ หัวใจเต้นรัวที่ทำร้ายยูคยอมจนเลือดออก แต่ไม่

    สามารถแสดงความเป็นห่วงออกนอกหน้าได้ จึงทำได้แต่เบิ่งตาที่โตอยู่แล้วให้ดูโตขึ้นกว่าปรกติ

    ก่อนจะขยับเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ในที่ท่าเตรียมพร้อมรับการโจมตีต่อ






     

    ยูคยอมยกมือขวาที่จับดาบอยู่พลิกหาหลังมือที่มีรอยเลือดไหล แล้วเลียเลือดของตัวเองด้วย

    สีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตียองแจที่จ้องเขาอยู่เป็นคนต่อไป






     

    ยองแจมองเห็นคมดาบและการเคลื่อนไหวของยูคยอม รวมถึงช่องว่างของเขาอย่างชัดเจน แต่

    ไม่สามารถหลบได้พ้น เพราะร่างกายเคลื่อนไหวไม่ทันความคิด 






     

    ผิดกับแบมแบม ที่ร่างกายเคลื่อนไหวไปก่อนความคิดโดยสัญชาติญาณ การเคลื่อนไหวไม่มี

    การเสียปล่าว ทำได้พอดี ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ สวยงาม 







    ส่วนยูคยอม  แม้จะเคลื่อนไหวได้ดี รวดเร็วรุนแรง แต่ใส่พลังมากเกินไป ถ้าเคลื่อนไหวติดต่อกัน

    นานๆ และไม่สามารถปิดเกมได้จะเสียเปรียบ เพราะจะเหนื่อยมาก







    ถึงพลังด้านรุกตอบโต้ของยองแจ จะไม่ดี เท่า ยูคยอมและแบมแบม แต่การป้องกันตัวของเขาก็

    นับว่าใช้ได้ คมดาบของยูคยอมที่พุ่งเข้าใส่ ถูกฝักดาบ และตัวดาบของยองแจ  รับไว้ ด้วยการ

    ไขว้เป็นกากบาท ก่อนจะผลักออกแล้วกระโดดถอยหลัง สร้างระยะห่างจากยูคยอมไปอีก เป็น

    จังหวะให้ แบมแบม รุกเข้าใส่ยูคยอมบ้าง






     

    แบมแบมใช้สเตปสาวเท้าเข้าประชิดตัว ในขณะที่ยูคยอมมัวแต่สนใจยองแจ  ฝักดาบของแบม

    แบมฟาดเข้าที่ข้อมือขวาของยูคยอมทำให้ ดาบวากิซาชิ หลุดจากมือ






     

    แต่ทันใดนั้น ยูคยอมก็ใช้ศอกกระทุ้งใส่ลำตัวแบมแบมที่อยู่ชิดโดยไม่ต้องหันไปหา แล้วคว้าคอ

    เสื้อแบมแบมไว้แล้วจับทุ่มข้ามไหล่






     

    แบมแบมรู้ตัวว่าเสียที โดนยูคยอมคว้าคอเสื้อได้ จึงสปริงตัวก่อนที่จะโดนทุ่ม ทำให้ไม่บาดเจ็บ

    แล้วอาศัยแรงส่งของยูคยอม กลิ้งตัวม้วนหน้าออกห่าง พร้อมกับเตะดาบของยูคยอมที่ตกอยู่ก่อนหน้านี้ ให้กระเด็นไป

    สุดมุมห้อง






     

    ตอนนี้ยองแจ เดินถือดาบเข้ามาหายูคยอมจากด้านซ้าย และแบมแบมก็ถือดาบหันคม เดิน

    เข้าหาน้องจากด้านขวา
    ...






     

    .

    .

    .


    ด้านมาร์ค และแจ๊กสันถูกพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังโรงแรมหรู ของตระกูลมินาโมโตะ ใจกลาง

    เมืองโอซาก้า






     

    ภายในโรงแรม ชั้นที่ 50 มีการจัดฟลอร์ ทั้งชั้นเป็นฟิตเนส และห้องเทรนนิ่งส่วนตัว กว้างขวาง

    สวยงามทันสมัย คือมันกว้างจริงๆ น่าจะประมาณ สนามฟุตบอลรวมลู่วิ่งได้ ทั้งยังทำหลังคาเป็น

    ทรงโดม  เปิดปิดได้  ( คนรวยนี่มันรวยจริงๆ )






     

    ภายในโรงแรมมีพนักงานทั้งหมดเป็นผู้หญิงสาวรุ่น หน้าตาดี





     

    "ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะ นายหญิง แล้วผู้ชาย 2 คนนี้คือ...?" หญิงสาวสวยผู้จัดการโรงแรม เอ่ย

    ถาม เก็นซุยทั้งสองหลังจากรับเสื้อคลุม สัมภาระ และกล่าวต้อนรับ






     

    "ของเล่นชั่วคราวหน่ะ นายใหญ่ให้มา เดี๋ยวช่วยเคลีย ชั้น 50 หน่อยนะ พวกชั้นจะใช้ทั้งอาทิตย์

    เปิดสนามเพาะ 1-4 ด้วย แล้วก็จัด นักล่ารางวัล เพิ่มเป็นวันละ 50 คน ทุกวัน จัดอาหาร 4 ที่ วัน

    ละ 3 เวลา แล้วก็ ซีล ชั้นนี้ให้เข้าออกทางเดียว
    " อากิ เกนซุย สั่งผู้จัดการ






     

    "บอกเลขาให้ยกเลิกนัดหมายทั้งสัปดาห์ด้วยนะ...ไปได้แล้ว ถ้าไม่ได้สั่งห้ามใครเข้ามาที่นี่อีก"

    อาโอยเก็นซุยเสริม







    "อย่างน้อยเพื่อไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียถึงพวกชั้น  พวกนายจะได้ใช้ชื่อว่าครั้งหนึ่งเคย

    เป็นลูกศิษย์ของ อากิและอาโอยเก็นซุย ชั้นจะเทรน (ทรมาน) พวกนายสักนิด ก่อนละกันนะ
    " 

    อากิเก็นซุย พูดทักทาย โดยมีอาโอยเก็นซุย เดินไปใส่กุญแจมือซ้ายของแจ๊กสัน กับมือขวา

    ของมาร์คเข้าไว้ด้วยกัน






     

    "เท่าที่ดู พวกนาย 2 คน จากทีม 6 คนที่พวกเราเจอเป็น หน้าตาของทีมสินะ มี visual looking

    เป็นตัวล่อเป้า เข้าโจมตีก่อนคนอื่นในทีม และแน่นอนว่าต้องรับการโจมตีจากศัตรูก่อนคนอื่น

    ด้วย  ต้องปกป้องเพื่อนๆฝ่ายวางแผน และผู้ที่ใช้อาวุธโจมตีระยะไกล รวมถึงผู้เล่นสายสนับสนุ

    นอื่นๆ การฉายเดี่ยวมันก็ดี แต่ดีไม่พอหรอก เพราะบางทีพวกนายต้องเจอกับคู่แข่งที่เก่งกว่า ตัว

    ใหญ่ หรือมีอุปกรณ์อะไรได้เปรียบกว่า จำนวนเยอะกว่า โกงกว่า บลา บลา บลา เพราะโลก และ

    วงการนี้มันโหดร้าย  ดังนั้น การสู้ 2 คนย่อมดีกว่า พลังทำลายล้างสูงกว่า ปิดบัญชีได้เร็วกว่า

    จากประสบการณ์อ่ะนะ เพราะฉนั้น พวกเราจึงจะสร้างรูปแบบการโจมตีของพวกนายขึ้นมาใหม่

    โดยต้องอาศัยพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การสื่อสาร
    " อากิเก็นซุย อธิบายต่อ







    "ต่อไปนี้ห้ามพวกนายคุยกัน ให้พยายามอ่านใจกันให้ได้  รับรองว่าจะเป็นผลดีต่อไปในอนาคต

    วันแรกจะมัดแค่มือ คนละ ข้างติดกัน วันต่อไปจะเป็น มัด มือ และ ขา วันต่อไปจะเป็น ปิดตา

    คนละข้าง และ สลับปิดตาคนละ 2 ข้าง พร้อมกัน และให้ฝึก ในสนามเพาะนะ  สนามนี้จะกว้าง

    ด้านละ 10 เมตร และ ยาว 100 เมตร มี 4 สนาม แต่ละสนาม จะฝังระเบิดไว้ มีทั้งแบบ หนัก เบา

    รวม 30 ลูก พวกนายต้องพากันลุยสนามเพาะ ทุกวัน โดยต้องลุยไป สู้กับ นักล่าเงินรางวัลที่

    พวกเราจ้างมาไปด้วย  หัวใจสำคัญของการฝึกก็คือ การคิดและอ่านใจของพวกนายนะ ถ้าพวก

    นายไม่เดินไปทางเดียวกัน สลักบนพื้น จะจมไปครึ่งเดียว แล้วระเบิดจะทำงาน แต่ถ้าพวกนาย

    เดินไปด้วยกันน้ำหนักของสองคน จะกดสลักระเบิดลงไปสุด ระเบิดลูกนั้นก็จะโดนปลดไป  ง่าย

    ใช่ไหมล่า
    ?!!" อาโอย เก็นซุย เสริม






     

    "อ่า นี่พวกนายมีดาบเอฟุตาชิ กันด้วยเหรอ  ไม่ธรรมดานะเนี่ย แต่การฝึกอาทิตย์นี้ ยังไม่จำเป็น

    ต้องใช้หรอก พวกชั้นจะเก็บไว้ให้ แล้วก็ ใส่ฮากามะ ฝึก คงไม่สะดวก ให้เปลี่ยนใส่ชุดวอร์ม เสื้อ

    กล้ามดีกว่านะ พวกนักล่าเงินรางวัลจะมาตอนไหนไม่บอกนะ พวกนายจะได้รับแค่มีดพก 6 นิ้ว

    คนละอัน  แล้วก็อาจจะไม่ได้นอนกันเลยนะ พวกชั้นจะเฝ้ามองพวกนายจากกล้องที่ติดไว้ มี

    อะไรขาดเหลือให้ กดปุ่ม สีแดงที่ผนัง  ต้องกดพร้อมกัน 2 คนนะ ขอให้สนุกกันหล่ะ
    " จบคำ  

    อธิบายเก็นซุยทั้งสอง และผู้จัดการโรงแรมก็เดินออกไป ทางประตูที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ เพราะ

    หลังจากนั้น ประตูก็ปิดลง เนียนเสมอผนัง เหมือนไม่เคยมีประตูอะไรอยู่ตรงนั้น






     

    "ไปเปลี่ยนชุดกันเถอะ" มาร์คชวนแจ๊กสัน แต่แค่ก้าวแรก ทั้งสองก็เดินไปคนละทาง จนกุญแจ

     มือที่คล้องทั้งสองไว้ตึง ดึงให้ร่างทั้งสองกลับมาติดกัน






     

    "จะไปไหนล่า ตู้เสื้อผ้ามันอยู่ทางนี้" มาร์คร้องขึ้นอย่างหงุดหงิด





     

    "ก็ตรงนี้ก็มี ใกล้กว่าด้วย นายมัวมองไปไหนเนี่ย" แจ๊กสันเถียงกลับพร้อมกระชากแขนที่ใส่

    กุญแจมือให้มาร์คเซมาทางเขา






     

    แค่ออกเดินก้าวแรกก็ ทะเลาะกันซะแล้ว  แล้วพวกเขาจะผ่านการฝึกอ่านใจกันได้เหรอเนี่ย ...






    .

    .



    ในเรือนรับรองหลังเล็ก ด้านหลังตัวคฤหาสน์หลัก หลังใหญ่  เรือนไม้สีดำที่มีความสวยงามและ

    ถูกตกแต่งภายในอย่างดี เหมือนถูกสร้างเป็นพิเศษเพื่อใครบางคน  รอบๆมีต้นซากุระใหญ่

    ออกดอกบานสะพรั่งสีชมพู สวย กิ่งก้านสมบูรณ์กว่าต้นที่เคยเห็นตามท้องถนนทั่วไป






     

    แจบอม กำลังนั่งจิบชา อยู่กับชิโนบุ เก็นซุย อาจารย์ของเขาอย่างสบายๆ ผิดกับน้องๆ Got7 คน

    อื่นๆ






     

    สายลมเย็นสบาย พัดกลีบซากุระที่อวดสีชมพูอ่อนให้โปรยปลิวตามสายลม ราวเกร็ดหิมะ ที่

    ค่อยๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า






     

    ชิโนบุ เก็นซุย ทอดสายตา ราวกับกำลังรำลึกถึงบางอย่างไกลออกไปในอดีต  สายตาที่เต็มไป

    ด้วยความเจ็บปวด






     

    "ไม่นึกว่าในชีวิตนี้จะมีโอกาสได้กลับมานั่งที่เรือนเล็กหลังนี้อีกแล้วนะนี่  ต้องขอบใจพวกนาย

    นะ  ชื่อแจบอมใช่ไหม
    ?"






     

    "อ่ะ..ใช่แล้วครับ ชิโนบุ เซนเซย์" แจบอมรีบวางถ้วยชา แล้วคำนับตอบ





     

    "นายจะเป็นลีดเดอร์ต่อไปได้ยังไงถ้าสมาชิกในทีมตายหมดไม่เหลือใคร ?" ชิโนบุ เก็นซุย เริ่ม

    สนทนาเป็นการเป็นงานกับแจบอมขึ้นมา






     

    "เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกครับ  ผมไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้น ผมจะทำทุกอย่างเพื่อไม่

    ให้มันเกิดขึ้น  ถ้าผมยังเป็นลีดเดอร์ของทีม
    " แจบอมตอบหนักแน่น






     

    "เมื่อก่อนฉันก็คิดแบบนาย  สมัยที่เป็น ได เก็นซุย ทีมของฉัน ไม่เคยแพ้ใคร จน ฟุจิวาระขอ

    ถอนตัว
    "






     

    "นายใหญ่ หนะเหรอครับ เคยเป็นนักฆ่าทีมเดียวกับ ชิโนบุเซนเซย์?"





     

    "ปล่าว ลูกชายเขาต่างหาก ฟุจิวาระ โนะ มาโคโตะ เสนาธิการของทีม เจ้าของเรือนรับรองหลัง

    นี้
      เพราะเขาเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเก่าแก่ ต้องล้างมือเพื่อมาสืบทอดกิจการ  แล้ว

    สุดท้ายก็ต้องถูกลอบสังหารจากคู่แข่งทางธุรกิจ  ทั้งๆที่ถ้ายังอยู่ในทีม ฉันสามารถคุ้มครองได้

    ตลอดเวลาอยู่แล้ว
    " ชิโนบุ เก็นซุย พูดใส่อารมณ์ เหมือนระบายให้แจบอมฟัง  เหมือนเขาจงใจ

    จะเล่าเพื่อบอกใบ้อะไรบางอย่าง






     

    "นายใหญ่ ต้องการเสนาธิการคนใหม่ และกำลังหมายตาคนของนาย ไง" ชิโนบุ เก็นซุย เฉลย

    สิ่งที่ แจบอมคิดไว้ แต่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นมากที่สุด






     

    "ด้วย อิทธิพลมืดที่นายใหญ่มี เขาสามารถทำให้พวกนายหายไปเฉยๆก็ได้  แต่นับว่าเจ้า

    เสนาธิการของทีมนายเก่งไม่เบาที่เรียกพวกเรามาร่วมวงได้  อะไรๆมันก็เริ่มไม่ง่ายซะแล้ว






     

    "แล้ว ที่เซนเซย์มาเตือนผม...เซนเซย์ไม่ได้เข้าข้างนายใหญ่หรอกเหรอครับ?" แจบอมลองหยั่ง

    เชิง  เพราะนักฆ่าระดับเก็นซุยก็ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกมืดสูงเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องก้ม

    หัวให้ยากูซ่าแก๊งไหน นอกจากเป็นเพื่อนกันจริงๆ ซึ่งความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าจะเป็นอย่าง

    หลัง






     

    "หึ!! บอกตามตรง ฉันเกลียดไอ้แก่นี่จะตาย  ถ้าไม่เพราะมัน ทีมของฉันก็คงไม่แตก  มาโคโตะก็

    คงไม่ตาย
      ที่ฉันโผล่มางานของพวกนายนี่ก็เพื่อมาดู มันกระอักเลือดไม่สมหวังในตอนสุดท้าย

    ไงหล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    " ชิโนบุเก็ยซุย หัวเราะชอบใจ แต่แจบอมยังนึกไม่ออกว่าจะทำยังไง






     

    "และชั้นก็อยากทดสอบนายด้วยเหมือนกันว่านายจะมีคุณสมบัติพอที่จะครอบครองสุดยอด

    เสนาธิการที่นายใหญ่หมายตาไว้หรือป่าว
    "






     

    "แล้วเซนเซย์ จะทดสอบผมยังไงเหรอครับ?" 







    .............................





    ตัวละครเยอะไปหน่อย ถ้าสับสนให้ เน้นที่เด็ก Got7 เป็นหลัก ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่มจะได้ไม่งง นะคะ  กลุ่ม 1 ถ้วย ขวด แก้ว

     กลุ่ม 2 markson  กลุ่ม 3 แจบอม แค่นี้เองงงงง ส่วนชื่อเก็นซุย ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร 555 
       ตามพูดคุยได้ที่

     #ฟิคต้องรอด หรือ @got2survive นะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันน๊า รัก รี๊ด ทุกคนเลยยย 








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×