ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 33 : 33th Bullets 100% มาแว้ววว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.6K
      19
      31 ธ.ค. 57




    ตอนที่ 33 : 33th Bullets - Leader Game จบ-










     

    ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการปกครองโดยมีพระจักรพรรดิ์ หรือเรียกว่า เทนโน

    เป็นผู้มีอำนาจปกครองสูงสุด แม้ในตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่ พระจักร-

    พรรดิ์ และราชวงศ์เบญจมาศก็ยังมีอิทธิพลและได้รับความเคารพจากประชาชนไม่เสื่อมคลาย






     

    เบื้องหลังการบริหารบ้านเมืองของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตนั้นขึ้นกับตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่ เพียงไม่กี่

    ตระกูล และตระกูลที่มีอิทธิพลมาก เป็นอันดับ 1 ก็คือ เครือตระกูล ฟูจิวาระ  ไม่ว่าจะเป็น

    เสนาบดีฝ่ายขวา หรือ พระสนมเอก หรือ จักรพรรดินี ล้วนเป็นคนของตระกูลนี้ทั้งสิ้น  ด้วยบารมี

    ที่สะสมมาตั้งแต่อดีต ทำให้ในปัจจุบัน เครือตระกูล ฟูจิวาระ ที่มีสัญลักษณ์ตราประจำตระกูลเป็น

    ช่อดอกฟุจิ เป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่นทุกวันนี้  นอกจากธุรกิจเบื้องหน้าที่ใสสะอาด

    อย่างเจ้าของสื่อ สถานีโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และขนส่งมวลชน

    แล้ว ธุรกิจเบื้องหลัง ค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ ค้ายาเสพติด ยากุซ่า เรียกค่าคุ้มครอง เครือตระกูลฟูจิ

    วาระก็มีเครือข่ายครอบคลุมหมดทั้งสิ้น  ที่ต้องเรียกเป็นเครือตระกูล เพราะว่า มีการแบ่งเป็น

    ตระกูลหลัก และตระกูลสาขามากมาย  โดยตระกูลหลักจะมีอำนาจเหนือตระกูลสาขา พวก

    ตระกูลสาขาจะมีหน้าที่ทำทุกอย่างสนับสนุนตระกูลหลักให้ประสบความสำเร็จ 







    ในวันนี้ ฟูจิวาระ โนะ โอดะ ผู้นำตระกูล ฟูจิวาระ รุ่นที่ 62 กำลังจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลคน

    ใหม่ให้ หลานชายของเขา ฟูจิวาระ โนะ ทากะอากิระ อายุ 10 ปี พร้อมกับ มีพิธี โมหงิ เป็นพิธี

    บรรลุนิติภาวะ ฉลองให้เด็กผู้หญิง คือ ฟูจิวาระ โนะ ไอกะ หลานสาว อายุ 13 ปี เพื่อก้าวเข้าสู่

    ความเป็นผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมโบราณ  เป็นธรรมดาของตระกูลใหญ่ ในตระกูลหลักเอง ก็มี

    ความขัดแย้งไม่น้อย การหาพันธมิตรทั้งภายในและภายนอกตระกูลเป็นสิ่งจำเป็น  นายใหญ่จำ

    ต้องฝากฝังว่าที่ผู้นำตระกูลคนใหม่กับเหล่าพันธมิตรที่เชิญมาร่วมงานในขณะที่เขายังมีอำนาจ

    อิทธิพลอยู่  งานนี้จึงเกิดขึ้น







    พันธมิตรที่ว่า ก็คือ 5 ตระกูลใหญ่ ที่เป็นพระญาติ หรือเรียกว่าสืบเชื้อสายมาจาก พระจักพรรดิ์

    และพระบรมวงศานุวงศ์อื่นๆ รวมเรียกว่า ชิเซย์ ประกอบด้วย  เครือตระกูล มินาโมโตะ ของ

    อากิ และอาโอยเก็นซุย มี สัญลักษณ์คือ ดอกไม้ 5 แฉก ที่ในปัจจุบัน มีอิทธิพล และทรัพย์สิน

    มากมายมหาศาลไม่แพ้ เครือตระกูลฟูจิวาระ ในอดีต ตระกูลนี้เคยเป็นผู้นำรัฐบาล และอยู่ในตำ

    แหน่งสำคัญๆมาหลายยุค หลายสมัย มีบทบาทต่อการเมือง และนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ

    ในระดับสูง







    เครือตระกูลไทระ ของ ทาคุยะ เก็นซุย มีสัญลักษณ์ คือ ผีเสื้อ สีแดง สืบเชื้อสายมาจาก

    จักรพรรดิพระองค์หนึ่ง ก่อนจะมีสงครามเปลี่ยนราชวงษ์ ตระกูลนี้ สมัยก่อนมีกองกำลังทหาร

    และซามูไรชั้นสูงจำนวนมาก  ในปัจจุบัน ผู้นำตระกูลก็เป็นผู้กุมอำนาจทางทหารของประเทศ

    งานเบื้องหลัง อื่นๆ ก็เหมือนตระกูลใหญ่ๆ ไม่มีอะไรใสสะอาด







    ตระกูล ทาจิบานะ ของ ชิโนบุเก็นซุย  เป็นตระกูลเดียวที่ไม่มีตระกูลสาขา มีตราสัญลักษณ์ของ

    ตระกูล เป็นรูปดอกส้ม ยึดมั่นในธรรมเนียมโบราณ และสืบเชื้อสายจากจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง

    เหมือนกัน ในอดีตเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ เครือตระกูลฟูจิวาระมาตลอดทุกสิ่งอย่าง จนมาถึง

    ปัจจุบันที่ทาจิบานะ ชิโนบุ  ผู้นำตระกูล ก็ไม่ค่อยลงรอยกับ ฟูจิวาระ โนะ โอดะ มาแต่ไหนแต่ไร 

    ส่วนตระกูล คิโยฮาระ และ อาริวาระ ก็เป็นตระกูลใหญ่ไม่แพ้ 4 ตระกูลที่กล่าวไปข้างต้น เช่น

    กัน







    ปรกติ ธิดา หรือบุตรีที่เกิดใน ตระกูลฟูจิวาระ  จะต้องได้อภิเษก หรือแต่งงานกับกับมงกุฎราช

    กุมาร หรือเจ้าชายรัชทายาทเสมอ ทุกยุคทุกสมัย แต่ บังเอิญ ที่ รัชทายาทในรุ่น ปัจจุบัน เป็น

    เจ้าหญิง  ทำให้ตระกูลฟูจิวาระต้องเฟ้นหาผู้เหมาะสม รายอื่นเพื่อรักษาอิทธิพลที่มีอยู่แทน







    การต่อสู้ฆ่ากัน มีอยู่คู่กับมนุษยชาติมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในยุคนั้นอาจทำเพื่อความ

    อยู่รอด และ ดำรงค์เผ่าพันธุ์ แต่สมัยนี้มันคือความบันเทิง  ที่ผสมผสานด้วยศิลปะที่เสพแล้ว

    ต้องตาติดใจ มีการพนันขันต่อ นอกจาก สนุก ตื่นเต้น  สวยงามแล้วมันยังมีมูลค่าให้จับต้อง เต็ม

    ไปด้วยอารมณ์
    passion รัก โลภ โกรธ หลง และที่สุดก็คือ เงิน และผลประโยชน์  แม้ไม่มี

    สงครามมนุษย์ก็ยังอยากเสพการฆ่าฟัน ไอดอลก็คือหมากตัวหนึ่งในเกมเหล่านี้เท่านั้น  ตลาด

    ธุรกิจนักฆ่าอันดับสองของโลกที่ใหญ่ที่สุด รองจากอเมริกา ก็คือ ญี่ปุ่น ที่มีตระกูลเหล่านี้เป็น

    เส้นเลือดใหญ่นั่นหล่ะครับ...







    ปาร์ค จินยอง ชายหนุ่มหน้าตาดี แต่ดูเหมือนเป็นตัวประหลาดเพราะ เขาได้เข้ามาสู่งานอย่าง

    เป็นทางการของโลกเบื้องหลัง ที่ไม่มีใครรู้จักเขา และเขาก็ไม่รู้จักใคร  จินยองเดินตามนาย

    น้อย ฟูจิวาระ โนะ ทากะอากิระ เด็กชาย วัย 10 ปี ผู้ใส่ชุดกิโมโนผ้าไหมสีเขียวอ่อนเต็มยศ

    มายังที่นั่ง กลางห้องพิธี ที่จัดในโรงฝึกขนาดใหญ่ของแก๊งยากูซ่า แห่งโอซาก้า  ภายในสถาน

    ที่แห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มีชื่อเสียง ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ผู้กุมอำนาจและเศรษฐกิจ

    ของประเทศ นักการเมือง และผู้มีตระกูล ทั้งหลาย พวกเขามาเป็นสักขีพยานในการสืบทอด

    ตำแหน่ง ผู้นำเครือตระกูลฟูจิวาระ รุ่นที่ 63 ในวันนี้







    นายใหญ่ ฟูจิวาระ โนะ โอดะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับบรรดาแขกเหรื่อผู้ให้เกียรติมาร่วมงาน  เพราะ

    นอกจากพระราชพิธีวันเฉลิมฉลองที่สำคัญเป็นทางการของราชวงศ์แล้วโอกาสที่จะเห็น ชิ

    เซย์(ตระกูลใหญ่ที่สืบเชื้อสายราชวงศ์) ทั้ง 5 ออกงานใดใดร่วมกันนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย 

    ซึ่งเป็นนัยถึงชื่อเสียงและหน้าตาของเจ้าของงานมาก







    ภายในโรงฝึกใหญ่ที่ดัดแปลงเป็นโถงจัดงาน มีเวทีเตี้ยๆอยู่ด้านหน้าตรงกลาง ด้านซ้ายติดเวที

    แถวหน้าสุด เป็นที่นั่งของตระกูล ทาจิบานะ และมินาโมโตะ  ส่วนด้านขวา เป็นของตระกูล ไทระ

    อาริวาระ และ คิโยฮาระ นั่งอยู่หน้าสุดเหมือนกัน ที่นั่งของพวกเขาปูด้วยพรมแตกต่างจากผู้อื่น

    แต่ละตระกูลมีผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง และสวมเสื้อกิโมโน ที่มีสีเป็นเอกลักษณ์และมีตราประจำ

    ตระกูลปักอยู่ที่ สาบเสื้อเด่นชัด







    หลังจากที่นายใหญ่ประกาศผู้สืบทอด และทำพิธีมอบตราสัญลักษณ์ผู้นำตระกูลให้หลานชาย

    แล้ว ผู้นำตระกูลต่างๆก็เข้าไปร่วมอวยพรฝากเนื้อฝากตัวกับนายใหญ่แห่งตระกูลฟูจิวาระคน

    ใหม่  โดยมีอดีตนายใหญ่คอยแนะนำแขกและบอกบทอยู่ข้างๆ  







    วันนี้น่าจะเป็นวันที่ อดีตนายใหญ่โอดะเป็นปลื้มมีความสุข แต่เขาก็ต้องหนังตากระตุก เมื่อเห็น

    เด็กๆ
    Got7 ยังอยู่กันครบเมื่อมองไปยังที่นั่งประจำของแต่ละตระกูล







    ชิโนบุ ทาคุยะ มิซากิ เคน อากิ และอาโอย เหล่าเก็นซุยผู้นำตระกูลระดับชิเซย์ทั้ง 5 เดินแถวมา

    อวยพรทากะอากิระตัวน้อย พร้อมกัน สร้างความกดดันแก่ผู้ร่วมงานไม่น้อย เพราะแต่ละคนมีสง่า

    ราศีน่าเกรงขาม อยู่ในชุดเต็มยศ มีรังสีกดดัน จนคนแทบทั้งห้องโถงจัดงานเงียบ ไม่กล้าคุยกัน

    หรือ หายใจดัง พวกแขกทั้งหลายกำลังรอฟังว่าเหล่าผู้นำชั้นสูงพวกนั้นจะคุยอะไรกัน







    "พวกนายไม่อยากได้ผู้สืบทอดไม่ใช่เหรอ  ทำไมเด็ก Got7 พวกมันยังอยู่ครบทุกคนหล่ะ!?"

    อดีตนายใหญ่โอดะ เปิดฉากทักทายปั้นหน้ายิ้มแย้ม แต่เสียงเครียดไม่เป็นมิตร







    ตรงข้ามกันเก็นซุยทั้ง 6 ที่แอบมองหน้ากันยิ้มๆ  ใบหน้าของทั้ง 6 ดูมีความสุข ไม่เคร่งขรึม บึ้ง

    ตึง เคร่งเครียดเหมือน 5 วันก่อนหน้านี้







    ["คนพวกนี้มันยิ้มกันเป็นด้วยเหรอฟระ" อดีตนายใหญ่โอดะแอบงง ปนขนลุก  เพราะตลอด 30ปี

    ในวงการนักฆ่า ที่เคยรู้จักและสัมผัสคนพวกนี้  รอยยิ้มเป็นอะไรที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ปรกติ

    พวกเขาทุกคนจะไว้ตัว ไว้ท่า วางมาด หยิ่ง เข้าถึงยาก เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติกับคนทั่วไป 

    อะไรทำให้พวกเขาเปลี่ยนกันไปได้ขนาดนี้กันหนอ --- โดยเฉพาะ เจ้าชิโนบุ กับ อากิและอา

    โอย  ผู้ที่นายใหญ่คิดมาตลอดว่าเส้นประสาทแสดงอารมณ์บริเวณใบหน้าของ 3 คนนี้น่าจะเป็น

    อัมพาตไปแล้ว เพราะเจอที่ไรก็หน้านิ่งมาตลอด ตลอด
    ]







    ไม่มีใครตอบเขาให้หายข้องใจได้  อดีตนายใหญ่รู้สึกหงุดหงิด โมโห เพราะถูกทำราวกับเป็นหัว

    หลักหัวตอ อากาศธาตุก็ไม่ปาน







    นอกจากทากะอากิระ  เด็กน้อยที่ได้รับความสนใจเอ็นดูจากผู้นำตระกูลทุกคนแล้ว  ปาร์ค จิน

    ยอง หนุ่มรูปงามที่นั่งเยื้องไปด้านหลังของเด็กน้อยก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน







    เพราะเด็กๆGot7 ที่อยู่กับเก็นซุยแต่ละคนพูดถึงหนุ่มคนนี้กันไม่ขาดปาก  เหล่าเก็นซุยที่รับรู้รับ

    ฟังเด็กๆมาก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา  ฟังจนอินราวกับเป็นสมาชิกในทีมเสียเองรู้จักนิสัย

    ท่าทางของเด็กแต่ละคนจนนึกว่า เด็กทุกคนจะรู้จักพวกเขาเหมือนที่เขารู้ด้วยซ้ำ




    [เคน เก็นซุย : นี่เหรอ คนที่ดูแลเจ้าแก้ว มาตั้งแต่เด็กๆ หน้าตาดี ใจดี คนดีที่สุดของเจ้าแก้วอ่ะ

    นะ




    มิซากิ เก็นซุย: โอ้โห เด็กคนนี้เหรอ ที่เจ้าขวดชมนักชมหนา บอกว่าเก่งที่สุด ฉลาดสุดยอด

    นิสัยดี เป็นผู้จัดการ ดูแลทุกอย่าง และทุกคนในทีม ตัวจริงดูดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย




    ทาคุยะ เก็นซุย: โอ้... คนสำคัญที่เจ้าถ้วยพูดถึงแทบจะตลอดเวลา  ให้ตายเถอะ หน้าตา

    ท่าทางดูบอบบาง แบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเก่งเวอร์เท่าที่เจ้าถ้วยสาธยายไว้เลยนะ อ๊ะ
    !! เงยหน้ามา

    สบตาด้วย อือหือ แววตานั่นมันก็ไม่แน่แฮะ น่าสนใจจริงๆด้วย




    อากิ/อาโอย เก็นซุย : อืม....เด็กๆกลุ่มนี้ทำไมหน้าตาดีกันขนาดนี้เนี่ย โดยเฉพาะเจ้าคนนี้ 

    มาร์ค/แจ๊กสัน ว่าหน้าตาสุดยอด หาใครเทียบได้ยากแล้วนะ  แต่หนุ่มคนนี้มัน.. หล่อ ผิวดี  ดูผู้ดี

    มากๆ คนละแบบกับเจ้าพวกนั้น ดูดีได้อีก  ถ้าจะเก่งพอๆกับเจ้า สองแสบ (มาร์ค/แจ๊กสัน) ด้วยนี่

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทีมเด็กพวกนี้จะน่ากลัวขนาดไหน




    ชิโนบุ เก็นซุย: อือหือ...ขนาดอายุปูนนี้ยังอดใจเต้นไม่ได้เลยแหะ เป็นเด็กผู้ชายที่ดูดี ทั้งหล่อ

    และสวยในเวลาเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ แถมมีความสามารถที่นายใหญ่ต้องการ  คนที่เจ้า  

    แจบอมตาขวาง ให้ความสำคัญมากกว่าใครๆ มากกว่าสมาชิกทั้งหมด แม้ไม่พูดก็รู้สึกได้หล่ะนะ 

    ลองมีทั้งรูปสมบัติ และคุณสมบัติขนาดนี้ ชักหนักใจแทนจริงๆ
    ]







    หลังจากพิธีส่งมอบตำแหน่งและแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลฟูจิวาระคนใหม่จบลง  พิธีโมหงิ

    ฉลองการเป็นผู้ใหญ่ของหลานสาวอีกคนในตระกูลก็ถูกจัดขึ้นเป็นลำดับต่อไป







    ฟูจิวาระ โนะ ไอกะ เด็กผู้หญิง ที่น่ารักที่สุดเท่าที่มีอยู่บนพื้นพิภพตอนนี้ เด็กน้อยผู้มีผิวสีน้ำนม

    ขาวบริสุทธิ์ มีพวงแก้มสีชมพูเปล่งปลั่ง ตามธรรมชาติ มีริมฝีปากสีกลีบดอกซากุระแย้มยิ้ม น่า

    หลงไหล มีผมยาวดำขลับ สวมกิโมโน 12 ชั้น เต็มยศเหมือนตุ๊กตาฮินะ ออกมาเดินดุ๊กดิ๊ก ให้คน

    ทั้งห้องยลโฉม ก่อนจะกลับไปอยู่หลังม่านที่สานจากไม้ตามธรรมเนียมพิธี  แม้จะยังเด็กมาก

    เพราะอายุแค่ 13 ปี แต่ความน่ารัก ไร้เดียงสา ก็จับใจผู้ที่ได้ยล แม้ไม่ต้องพ่วงด้วยนามสกุล

    ฟูจิวาระ ก็เป็นที่ต้องตาใครหลายคนตั้งแต่แรกเห็น และเพราะการออกมาโชว์ตัวนี้ ทำให้เรียก

    เสียงฮือฮาได้ไม่ขาดสาย  เหล่าชายหนุ่มชาติตระกูลดี ล้วนต้องตา ต้องใจหมายปอง หมายมั่น

    จะเข้าชิงตำแหน่งหลานเขยตระกูลฟูจิวาระกันเป็นทิวแถว







    และงานนี้ส่วนหนึ่งก็ถูกจัดมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว  การเฟ้นหาผู้เหมาะสมสำหรับเป็นคู่หมั้นของ

    หลานสาวหัวหน้าแก๊งยากูซ่าอันดับหนึ่ง แห่งโอซาก้า ตอนนี้ผู้ถูกคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบทั้ง

    การศึกษา ฐานันดร ชาติตระกูล ก็ต่อแถวขึ้นไป ทำพิธีชงชาต่อหน้าผู้นำตระกูลคนใหม่ และ

    อดีตผู้นำตระกูลฟูจิวาระ บนเวทียกพื้นเตี้ยๆทีละคน โดยมีไอกะ นั่งมองอยู่หลังม่านบนเวทีเช่น

    กัน







    พิธีชงชาแบบญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่แค่เทน้ำร้อน แล้วตักใบชาใส่ถ้วย ก็เสร็จ มันต้องเป็นขั้นเป็นตอน

    ตั้งแต่ท่านั่ง องศาการหยิบจับอุปกรณ์ต้องเรียนรู้กันเป็นคอร์สเป็นเดือน บางคนก็เป็นปีกว่าจะ

    ทำได้ดี







    ภายในโถงจัดงานพิธีที่มีคนหลายร้อยตอนนี้เงียบกริบราวป่าช้า  ผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งหลาน

    เขย แต่ละคนล้วนเครียด ตื่นเต้น ยิ่งความเงียบเข้าครอบงำแบบนี้ บางคนได้ยินแม้กระทั่งเสียง

    หัวใจเต้นของตัวเอง  ใครที่ฝึกมาไม่ดีจริง ไม่นิ่งจริงล้วนทำผิดพลาด แค่วางช้อนชาแรงไปเสียง

    ก็ดังไปทั่วห้องบางคนเทน้ำร้อนก็หก คนชาก็กระเซ็น วางถ้วยชาแรงไป ชาก็กระฉอก บางคนที่

    ท่าทางเก้ๆกังๆ เจ้าบ้านก็ไม่ยกชาที่ชงนั้นขึ้นมาดื่มเลยก็มี ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ก้ทำให้

    ถูกหักคะแนน ตกรอบกันไปกว่าค่อน เรียกว่า จาก 98 คน ถูกคัดด้วยพิธีชงชาเหลือ 25 คน  และ

    ก่อนที่จะจบพิธีชงชา แล้วเข้าสู้การแข่งขันลำดับต่อไป ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น







    "เดี๋ยวครับ!" ทากะอากิระ เด็กน้อยผู้เป็นนายใหญ่คนใหม่ขัดพิธีกรที่กำลังดำเนินพิธีอยู่ขึ้น







    "บ้านหลักของผม ขอส่งผู้เข้าแข่งขันอีก 1 คน  ถ้าเอาชนะคนๆนี้ไม่ได้ ต่อให้ได้ที่ 1 จากการ

    แข่งวันนี้ การหมั้นหมายก็จะไม่มีขึ้นครับ
    " เด็กน้อยที่เพียงแค่ผ่านพิธีรับตำแหน่งไม่กี่ชั่วโมงมา

    ราศีผู้นำเริ่มจับ การพูดจา น้ำเสียงดูมีอำนาจได้รับการรับฟังจากคนที่นั่น  เด็กน้อยตบมือหนึ่งที

    จินยองก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินลงไปด้านหน้าเวทีเพื่อเข้าแข่งในพิธีชงชาเหมือนคนอื่นๆ







    ถึงจะมีเสียงฮือฮา ไม่พอใจที่บ้านใหญ่เข้ามายุ่ง แต่ไม่นานทุกคนก็เงียบในที่สุด เพราะเกรงใจ

    ผู้ใหญ่จากตระกูลชิเซย์ทั้ง 5 ที่นั่งนิ่ง รวมกับการแสดงของจินยองที่ ทำได้ไม่มีที่ติ นอกจาก

    หน้าตารูปร่าง ที่หล่อดูดี สมส่วน ที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขันแล้ว ท่าทางการเคลื่อนไหว การ

    เดิน การนั่ง การจับอุปกรณ์ และการชงชาของจินยองนั้น ถูกต้อง ตามทฤษฎีทุกอย่าง ลื่นไหล

    สงบ เหมือนนั่งชมการแสดงศิลปะชั้นสูง แถมชาที่ออกมา เจ้าบ้านทั้ง 3 ยังยอมยกดื่ม และ

    ทำท่าพอใจ เป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่ เจ้าบ้านทั้ง 3 ยอมดื่มชาที่ชงในพิธีวันนี้







    เพื่อป้องกันข้อกังขา จินยองยังชงชาต่อและแจกไปยังผู้นำตระกูลใหญ่ และผู้ร่วมงาน บางส่วน

    ทุกคนที่ได้ลิ้มลองต่างยิ้มพึงพอใจ ในขณะที่มีอยู่คนหนึ่งทำหน้างอคอคว่ำ หน้าบูดแทบจะเป็น

    ตูดอยู่แล้ว







    อิม แจบอม นั่นเอง เขานั่งอยู่เบื้องหลัง ผู้นำตระกูล ทาจิบานะ ที่ตำแหน่งด้านซ้ายของเวที ไม่

    ไกลจากที่จินยองอยู่เท่าไหร่นัก เรียกว่าห่างซัก 20 เมตรได้ ในขณะที่ พวก แบมแบม ยองแจ

    และยูคยอม นั่งอีกฝั่งของห้องโถง ห่างจากเขาไปเกือบ 60 เมตร
    ส่วนมาร์คกับแจ๊กสันก็อยู่

    ใกล้ๆ เพราะตระกูลมินาโมโตะ นั่งติดกัน ห่างไม่ถึง 5เมตร







    แจบอม ขัดใจกับท่าทางผู้ดิ๊ ผู้ดี นอบน้อม อ่อนหวาน หว่านเสนห์มัดใจคนทุกเพศทุกวัยทั้งชาย

    และหญิงของจินยองมากก เขารับรู้ได้ทันทีเลยว่า ความสนใจของคนส่วนใหญ่ในห้องนี้ตอนนี้

    พุ่งไปที่จินยองขนาดไหน ทั้งพวกใจดีคิดกุศล ชื่นชมยินดี กับพวกที่คิดอกุศล หื่นใส่ สาวน้อย

    ใหญ่ต่างกริ๊ดกร๊าด ออกนอกหน้า นั่นยังพอเข้าใจ แต่ผู้ชายไม่น้อยก็มองมาอย่างไม่น่าไว้ใจ

    เหมือนกัน โอยยยย อยากลุกไปปาดคอ ฆ่าคนโว้ยยย แจบอมแสดงสีหน้าท่าทาง อาฆาตมาตร

    ร้าย จนปิดไว้ไม่อยู่







    พิธีคัดเลือกลำดับต่อมาคือการแข่งขัน คิวโดะ ( การแข่งยิงธนูแบบญี่ปุ่น ) การยิงธนูแบบนี้

    นอกจากเป็นกีฬาแล้ว ยังเป็นศิลปะอีกด้วย นอกจากใช้ฝึกร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังใช้ฝึก

    จิตใจให้สงบนิ่ง กติกาไม่เหมือนธนูสากล ใช้คันธนูที่ยาวเป็นพิเศษ ตอนนี้ในห้องโถงพิธีถูกจัด

    ตรงกลางเป็นสนามแข่งยิงธนู ระยะทาง 60 เมตร โดยใช้เป้าขนาดเล็ก 28 เซนติเมตร ผู้เข้า

    แข่งขันจะได้รับลูกศร คนละ 4 ดอก แข่งขัน 2 เซท เซทละ 2 ดอก จริงๆแล้วผู้ที่จะเข้าแข่งขัน

    คิวโดะ จะต้องมีการสอบใบอนุญาติเป็นการเป็นงานทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ การเลื่อนลำดับ มี

    12-13 ขั้น นักธนูระดับ 5ดัน ขึ้นไปจะเรียกว่า เรนชิ สามารถใส่ โดกิ(เสื้อยิงธนู) สีดำได้ การแข่ง

    นอกจากจะนับแต้มจากศรที่เข้าเป้าตามตำแหน่งต่างๆแล้ว การให้คะแนนยังมีตั้งแต่การเดินเข้า

    สนาม การจับคันธนู ท่าทางการเดิน การยืน การวางเท้า การง้างศร ละเอียด ซึ่งนักธนูญี่ปุ่นต้อง

    มีการสอบใบเซอร์ (
    certificate- ประกาศณียบัตร) รับรองก่อนถึงจะเข้าแข่งขันเป็นทางการได้ 

    แต่การแข่งในวันนี้จัดเป็นการภายในไม่มีการตรวจใบรับรองอะไร ทำให้จินยองเข้าแข่งได้

    สบายๆ







    เรื่องความนิ่ง สมาธิ และความแม่นยำ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ จินยอง ถึงแม้จะไม่เคยเรียนคิวโดะ

    อย่างจริงๆจังๆ แต่เขาก็ได้ศึกษากับพ่อบ้านของทากะอากิระ ซึ่งเคยเป็นแชมป์ระดับประเทศมา

    แล้วอยู่หลายวัน ตอนนี้จินยองได้เปลี่ยนชุดสำหรับลงแข่งยิงธนู เป็นโดกิ สีขาว ฮากามะ สีดำ ดู

    เหมือนชุดยิงธนูของนักเรียนมัธยมมากกว่า ดูเป็นมือใหม่สุดๆ แต่เขาก็แสดงฝีมือให้คนทั้งห้อง

    โถงต้องตะลึงอีกครั้ง







    ท่ามกลางเรนชิ ชั้นจูดันทั้งหลาย(พวกขั้น 10 ขึ้นไป) จินยองดู สงบกว่า ท่าทางสวยงาม สง่า

    กว่า  ลื่นไหลกว่า การเคื่อนไหว เดิน วางขา จับคันธนู ง้างศร และปล่อยออกสมบูรณ์แบบราวกับ

    เป็นการหายใจปรกติของเขา  ร่างกายตั้งตรง นิ่ง ไม่มีสั่นไหว บวกกับหน้าตาแบบที่ใครๆเห็นก็

    หลงไหลใจเต้นได้ไม่ยาก







    ลูกศรของจินยองทั้ง 2 ดอกแรกเบียดตัวแย่งกันเข้ากลางเป้า เป๊ะมากแทบจะที่สุดของที่สุดใน

    บรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด  ความดูดีของเขาตอนนี้ทำให้คู่ต่อสู้ที่เข้าแข่งขันคนอื่นกลายเป็น

    คนขี้เหร่ทั้งหมดเลยทีเดียว







    ผู้เข้าแข่งขันยิงธนู ทั้ง 25 คนจากรอบแรก ถูกคัดด้วยลูกศร 2 ดอกในรอบแรก มีผู้ถูกคัดออก

    เพราะศรไม่เข้าเป้า หรือเข้าไม่ครบ 2 ดอก หรือ เข้าแต่ไม่ถึงกลางเป้า หรือ ถึงกลางเป้าแต่ไม่

    ครบทั้ง 2 ดอก ล้วนถูกคัดออกไป ซึ่งมันก็แทบจะทั้งหมด เพราะการแข่งมันกดดัน และยากมาก

    เป้าขนาด 28 เซนติเมตร เมื่ออยู่ห่างออกไป 60 เมตรมันเล็กแค่เหรียญ 10 บาทเท่านั้นเอง ดัง

    นั้นตอนนี้เหลือผู้เข้าแข่งขันแค่ 4 คนเท่านั้น และแน่นอนว่ามีจินยองรวมอยู่กับ ตาลุงแก่ อายุ

    45-55 ปี อีก 3 คน คงไม่ต้องบอกว่าตอนนี้แขกในงานจะเชียร์ใคร







    ด้วยความเครียดและโหดหินของการตัดสินทำให้ผู้แข่งขันคนอื่นๆที่ตกรอบมาโวยวาย(อีกแล้ว)

    ไม่ว่าจะด้วยความผิดหวังที่จะไม่ได้หารสมบัติของตระกูลฟูจิวาระ หรือเสียดายความน่ารักของ

    ไอกะ ทุกคนจึงร่วมมือกันชี้เป้าถามถึงที่มาของจินยองกันยกใหญ่







    มาถึงตรงนี้ อดีตนายใหญ่โอดะ ทานูกิจอมเจ้าเล่ห์ก็เผยไต๋ถือโอกาสพลิกลิ้นขึ้นมาทันที เขา

    ประกาศว่า







    "ตัวแทนของทากะอากิระ คือปาร์ค จินยอง เขาเป็นไอดอลนักฆ่าชาวเกาหลี ที่มีฝีมือโดดเด่น

    มาก ถ้าเขาชนะทุกคนได้ในวันนี้ เขาก็เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นคู่หมั้นปกป้องไอกะ

    และตระกูลฟูจิวาระต่อไป ตามกฏของการแข่งขันเหมือนคนอื่นๆ 







    การประกาศต่อหน้าคนจำนวนมากส่งผลผูกมัดตัวเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ จินยองก้มหน้า

    กัดริมฝีปาก อย่างหัวเสีย







    "ว่าแล้ว..ตาแก่นี่ แกจะเอาอย่างนี้จริงๆสินะ!!"  ถ้าผมยอมแพ้ พวกตาแก่หื่นๆนั่นก็จะได้ไอกะไป

    ย่ำยีสบายใจ  ทีนี้ทากะอากิระก็จะอยู่ไม่สุขอีก แถมนอกจากเด็กนั่นแล้วคนที่จินยองกลัวใจที่สุด

    จริงๆแล้วก็นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆผู้นำตระกูลทาจิบานะ ข้างเวทีนี้  แจบอมนั่นเอง --ขนาดเป้าธนู

    ระยะ 60 เมตรเขายังเล็งยิงเข้ากลางย่างแม่นยำ กับแจบอมที่นั่งไม่ห่างเท่าไหร่นั้น ทำไมเขาจะ

    เห็นสีหน้าแววตานั่นไม่ชัดหล่ะ มันน่ากลัวมาก โหมดดาร์คของลีดเดอร์ น่ากลัวจนจินยองไม่

    กล้าสบตา แจบอมเลย แต่จะคอยมอง ตลอดเมื่อแจบอมไม่หันมาทางเขาเท่านั้น







    ในขณะที่จินยองกำลังหลบสายตาของแจบอม  ลีดเดอร์ก็ทำบางสิ่งที่ถ้าไม่สังเกตุดีๆก็จะไม่มี

    ใครเห็น







    แจบอมกำลังเอามือทั้งสองวางข้างหน้าแล้วก้มศีรษะติดพื้นคำนับทาจิบานะ ชิโนบุ ผู้นำตระกูล

    ทาจิบานะที่นั่งอยู่ตรงหน้า







    "ทำอะไร!?? ไม่สมเป็นนายเลย แจบอม" ชิโนบุเก็นซุย ตบบ่าบังคับให้แจบอมเงยหน้าขึ้น







    "เซนเซย์ได้โปรดช่วยผมด้วยเถอะ นะครับ" คำขอร้องโหมดสุภาพหลุดออกมาจากปากของลูก

    ศิษย์ปากหนักหน้าตากวนบาทา บอกบุญไม่รับก็คงจะมีอยู่เรื่องเดียวหล่ะนะ







    "ถ้าฉันบอกว่ามันมีเงื่อนไขหล่ะ  ฉันอาจจะช่วยนายได้ แต่นายต้องเสียบางอย่างแลกมา  บาง

    อย่างที่สำคัญพอๆกัน  นายจะทำยังไง
    " ชิโนบุ เก็นซุย อมยิ้ม ถามหยั่งเชิง ลูกศิษย์ใจร้อนที่

    ตอนนี้ดูจะหน้ามืดตามัว ด้วยความโมโหจนเปล่งรังสีอำมหิตชวนอึดอัน เพื่อชลอให้เขาได้คิด

    ทบทวนเรียบเรียงความคิดเรียกสติให้กลับมาดีๆ







    "ถ้าผมทำไม่ได้ ช่วยจินยองไม่ได้  เท่ากับผมล้มเหลวเรื่องชีวิตส่วนตัว ความสำเร็จอะไรอย่าง

    อื่นก็ทดแทนกันไม่ได้หรอกครับ
    " แจบอมเข้าใจสิ่งที่ เซนเซย์ตักเตือน แต่เขาก็มีจุดยืนที่แน่วแน่

    เช่นกัน







    "ถ้าต้องเสียทีม Got7ไป สูญเสียฐานะลีดเดอร์อะไรแบบนี้  นายก็จะไม่แคร์ ไม่เสียใจเหรอ!?"

    ชิโนบุ เก็นซุย ไม่เหมือนพูดเล่น แววตาของผู้ใหญ่ดูลึกซึ้ง แทงทะลุเข้าไปในหัวใจของแจบอม







    "ฐานะลีดเดอร์ คืออะไร ถ้าลีดเดอร์คือผู้ที่มีอำนาจ พูดอะไรแล้วสมาชิกทุกคนต้องทำตาม เ

    เพราะตำแหน่งแบบนั้น มันไม่ใช่ผม มันคือเผด็จการ  ตอนนี้ทุกคนในทีม
    Got7 สามารถเป็น

    ลีดเดอร์ได้หมด ทุกคนเป็นผู้นำในเรื่องของตัวเองได้ และทุกคนในทีมก็พร้อมจะรับฟังกันและ

    กัน และเพราะแบบนั้นพวกเราถึงเป็นทีม เป็นคนที่สนิทกัน  ผมมีหน้าที่แค่ดูว่าพวกเขา สมาชิก

    ทีมทำผลงานออกมาได้ตามที่ต้องการหรือยัง ผมแค่มีหน้าที่แค่รวบรวมทุกคนให้อยู่ด้วยกันเป็น

    อันหนึ่งอันเดียวกัน ถึงไม่มีผม เด็กๆพวกนั้นก็อยู่ต่อไปได้ครับ ในหมู่พวกเราถ้ามีใครเหมาะจะ

    เป็นผู้นำต่อละก็ มาร์คก็เป็นได้ เขามีความละเอียดรอบคอบ และใจเย็น แจ๊กสันก็เป็นได้ เขามี

    ความเป็นผู้นำ จินยองก็เป็นได้ เขามีวิสัยทัศน์ ยองแจก็เป็นได้ เขามีความใส่ใจ แบมแบมก็เป็น

    ได้ เขามีความเป็นตัวของตัวเอง หรือแม้แต่ยูคยอมก็เป็นได้ เมื่อถึงเวลา เขามีความรับผิดชอบ

    แต่ว่าเซนเซย์จะให้ผมทำอะไรเหรือครับ
    ?" แจบอม ตอบยาว แล้วถามกลับ







    ชิโนบุ เก็นซุยยิ้ม ให้แจบอมอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นรอยยิ้มนี้มาก่อน เก็นซุยดูภูมิใจ และชอบใจ

    กับคำตอบของแจบอมมาก เพราะ ผู้นำที่ดี ต้องไม่ใช่ผู้ที่อยากจะนำเพราะตำแหน่ง และต้อง

    สามารถสร้างผู้นำรุ่นต่อๆมาให้เก่งพอๆกันหรือเก่งกว่าเขาได้ และที่สำคัญคือต้องให้ความ

    สำคัญกับครอบครัวก่อน ถ้าชีวิตในบ้านประสบความสำเร็จ ชีวิตนอกบ้านก็ไม่มีอะไรต้องกังวล 

    แจบอมเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่โดดเด่นมากจริงๆ ตัดสินใจได้ดี จนทำให้ชิโนบุเก็นซุยตัดสินใจทำบาง

    อย่าง







    ทาจิบานะ ชิโนบุ ผู้นำตระกูลทาจิบานะ ได้ถอดฮาโอริ (เสื้อคลุมกิโมโน) สีดำที่ปักตราประจำ

    ตระกูลเป็นรูปดอกส้ม ที่เขาสวมอยู่ออก แล้วพับมันอย่างดี ก่อนจะส่งมอบให้แจมบอม  นี่หมาย

    ถึงว่าถ้าแจบอมยอมรับและสวมมันละก็  ต่อไปนี้แจบอมก็คือคนของตระกูลทาจิบานะ ผู้ซึ่งมี

    ฐานะ และศักดิ์ศรีไม่เป็นสองรองใครใน บรรดาตระกูลใหญ่ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องเกรงใจผู้ใด แม้

    กระทั่งเจ้าบ้าน อย่างตระกูลฟูจิวาระ







    "ขอโทษนะครับ ผู้อาวุโส อดีตนายใหญ่ฟูจิวาระ โนะ โอดะ ทางตระกูลทาจิบานะของผม  อยาก

    ยุติความบาดหมางกับท่าน ผมขอส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน เผื่อว่าเราจะได้ดองเป็นญาติกันสักวัน

    ระหว่างไอโกะจังผู้น่ารัก กับทายาทของผม อิมแจบอม
    " ชิโนบุเก็นซุย ผายมือไปยัง แจบอมที่

    สวมฮาโอริ สีดำ ทับกิโมโนผ้าไหมสีดำอีกชั้น แจบอม ลุกขึ้นยืน และคำนับให้คนทั้งห้องก่อนจะ

    เดินออกมายังกลางห้องโถงให้ทุกคนได้เห็นหน้าเขากันชัดๆ







    ถ้าถามถึงความเหมาะสมของตระกูลฟูจิวาระ กับทาจิบานะแล้ว คงไม่มีอะไรสมกันไปกว่านี้ถ้า

    สองตระกูลจะมาดองเป็นเครือญาติกัน ทุกคนในห้องเลยส่งเสียงเชียร์ให้แจบอมเข้าร่วมการ

    แข่งขันยิงธนูอีกคน







    ฟูจิวาระ โนะ โอดะ พิจารณา แจบอม ในชุดกิโมโนสีดำ สวมฮาโอริสีเดียวกัน มีตราของตระกูล

    ทาจิบานะ และมีการรับรองจากชิโนบุ ผู้นำตระกูลอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้าเด็กไอดอลนักฆ่าคนนี้

    ดูดีมีสง่าราศีผิดหูผิดตาขึ้นมาได้ยังไงกัน  รูปร่างที่ดูกำยำแข็งแกร่ง กับจมูกโด่ง สันกรามเด่น

    ผิวดี มีนัยตาคมแวววาว ลักษณะดี ไม่แพ้ ปาร์ค จินยอง ถ้าได้มาใช้งานก็ไม่เลวเหมือนกัน  อดีต

    นายใหญ่ผู้โลภมากจึงอนุญาตให้แจบอมเข้าแข่งอีกคน







    "เอาแล้วไง!"  จินยองก้มหน้าเบะปาก ทำหน้าบึ้ง  เขาทำทุกวิถีทางไม่ให้แจบอมเตะตานาย

    ใหญ่ สุดท้ายความพยายามก็สูญปล่าว แจบอมฮยองคนโง่ เสนอตัวมาติดกับดักเองซะงั้น  ถ้า

    เขายิงธนูแพ้ แจบอมก็จะกลายเป็นเขยของตาแก่ฟูจิวาระ แทน เขาไม่ยอมยกแจบอมให้ใคร

    หรอกนะ เรื่องนี้เท่านั้นที่ยอมไม่ได้  จินยองกำ ลูกศรอีก 2 ดอกที่อยู่ในมือแน่น
      และเมื่อเงย

    หน้าขึ้นมาจินยองก็แทบช๊อค













    แจบอมในชุดกิโมโนสีดำ ถอดแขนข้างหนึ่งออกจากเสื้อ ง้างศร ก่อนจะปล่อยมันพุ่งเข้าเป้า 2

    ดอกติด แม่นยำราวจับวางเหมือนเขา หรืออาจจะยิ่งกว่า เพราะดอกที่ 2 พุ่งปักต่อท้ายดอกแรก

    ที่ปักอยู่แล้วกลางเป้าแยกลูกศรดอกแรกออกเป็นซีกๆก่อนจะได้ปักเข้ากลางเป้าแทน เรียกเสียง

    โห่ร้อง ชื่นชมของแขกผู้ที่เฝ้าเชียร์ได้ถล่มทลาย







    [อิม แจบอม ทำไมนายต้องทำขนาดนี้ ถอดเสื้อโชว์เขาไปทั่วอย่างนี้ได้ยังไงนะ  ถึงจะแค่ครึ่ง

    ซีกก็เถอะ แต่ผิวขาวเนียนกับกล้ามแขน และไหล่ช่วงบน นั่นเป็นของชั้นนะ แจบอมคนบ้า        

    ฮยอง คนโง่
    ] ---จินยองก้มหน้าบ่นงุงิ ทำปากขมุบขมิบ ไม่ทันรู้ตัวว่าแจบอมเดินเข้ามาประชิด

    ตรงหน้าใกล้มาก







    แจบอมใช้มือข้างหนึ่งจับมือของจินยองขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะจูบมือนั้น แต่ไม่--- แจบอมบีบ

    มือนั่นอย่างแรงจนจินยองเจ็บ พร้อมกับพูดว่า
    "อยากเป็นหลานเขยยากูซ่ามากขนาดนั้นเลย

    เหรอ
    !!?" แล้วก็ปล่อยมือออกจากจินยอง แล้วเดินออกมา นั่งรอในแถว เพื่อจะเข้ายิ่งธนูที่เหลือ

    อีก 2 ดอก ต่อในรอบสอง







    จินยองช๊อค ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยิน เขาลืมคิดไปเลยว่า ที่เขาทำมันเหมือนการอยากเป็น

    หลานเขยตาแก่ฟูจิวาระจริงๆด้วยถ้าเขาชนะ แต่ถ้าเขาแพ้ แจบอมก็จะได้เป็นหลานเขยไปแทน 

    คำว่าอยากเป็นอะไรแบบนี้ไม่เคยอยู่ในสมองของเขานะ ทำไมแจบอมไม่เข้าใจเขาหล่ะ  จินยอง

    รู้สึกสับสน เสียใจที่ถูกคนที่ไว้ใจที่สุดไม่เข้าใจ ต่อว่า หาว่าเขาอยากเป็นหลานเขยยากูซ่า ทั้งๆ

    ที่เขาไม่เคยคิด --ตอนนี้คันธนูในมือจินยองสั่นเทา น้ำตาหยดแหมะ เป็นเม็ดรัวถี่อย่างควบคุมไม่

    ได้ เขาร้องไห้ต่อหน้าคนเป็นร้อย โดยที่จะต้องเป็นคนยิงธนูคิวต่อไปแล้ว ตอนนี้น้ำตามันไหล

    จนมองไม่เป็นเป้าธนูที่ต้องยิง ปาร์ค จินยอง ได้ยินเสียงขานชื่อ จากกรรมการ เขาปล่อยโฮ และ

    สะอื้นดังอย่างไม่อายใคร ตอนนี้เขาจะทำยังไงดี ......





    ...............






     

    จินยองมองไปทางน้องๆ GOT7เพื่อขอกำลังใจ  เขาเห็นแบมแบม ยองแจและยูคยอมทำมือ

    เป็นสัญลักษณ์เลข 7 ส่งมาให้ สีหน้าของน้องแต่ละคน พยายามพูดว่า
    สู้ๆนะ ช่วยบรรเทา

    หัวใจที่หนักอึ้งของเขาได้บ้าง  ผิดกับเมื่อหันหน้าไปทางแจบอมที่อยู่ใกล้กว่า ลีดเดอร์ทำเป็น

    หลับตา ตั้งใจรวบรวมสมาธิ ไม่ยอมมองกลับมา






     

    เชอะ แจบอมฮยอง จำไว้เลยนะ  ไม่ยอมเชื่อใจผมใช่ไหม!?” จินยองกระพริบตาถี่ๆ นิดหนึ่ง

    เพื่อไล่น้ำตา ก่อนจะมองไปทางมาร์ค และแจ๊กสัน  ---สองคนนั้นก็ไม่มองมาทางเขาสักคน 






     

    น่าตีจริงๆ เจ้าพวกนี้  แต่สถานการณ์ตรงที่นั่งของตระกูลมินาโมโตะ ก็ดูผิดปรกติไปนะ จินยอง

    เพิ่งสังเกตเห็น






     

    เนื่องจากผู้นำตระกูลมินาโมโตะคนปัจจุบันเป็นฝาแฝด หญิง ทำให้ผู้ติดตามทั้งหมดเป็นหญิง

    ล้วนไปด้วย สาวสวยนับสิบ สวมกิโมโนสูงค่า สวยงามนั่งประกบมาร์ค และแจ๊คสันไว้ด้วย

    ท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ






     

    มาร์คนั่งหลับตายิ้มๆ โดยมีสาวสวย 3 นางประกบ ซ้ายขวา และด้านหลัง ถ้ามองจากด้านฝั่งตรง

    ข้ามที่แบมแบมอยู่ จะไม่เห็นคนที่ประกบด้านหลัง แต่ถ้ามองจากมุมของจินยองนั้นเห็นได้ชัด

    เหมือนกับว่า มาร์คนั่งเองไม่ได้ ต้องใช้คนประกบดันไว้ให้ตัวตั้งอยู่ได้  ส่วนแจ๊กสันนั้นยิ่งหนัก

    เข้าไปใหญ่  ตอนแรกโดนประกบเหมือนมาร์ค  แต่ตอนนี้ทรุดตัวลงจนต้องโดนลากไปหลังฉาก

    กั้น แล้วมีสาวสวยกรูตามกันไปอีก 2-3 คน จนน่าสงสัย





    .

    .

    .



     

    ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ชั่วโมง ก่อน







    ในที่สุด มาร์คก็แบกร่างของแจ๊กสันมาจนเกือบถึงทางออกของสนามที่ 1 โดย 100 เมตร

    สุดท้ายบนสนามที่เป็นทรายนี้เป็นช่วงที่แจ๊กสันก้าวขาเองไม่ได้แล้ว  มาร์คที่มีแผลที่สีข้างด้าน

    หลังจากสะเก็ดระเบิดที่เจ็บจะแย่ ต้องแบกเพื่อนที่ทิ้งน้ำหนักทั้งร่างใส่  กว่าจะก้าวเท้าผ่าน

    ทรายที่ยุบดูดขาของเขาลงไปแต่ละก้าว ช่างยากเย็น ทำให้เดินได้ช้า ส่งผลให้เขาหงุดหงิด

    ที่สุด







    แจ๊คสันเองถึงจะขยับร่างกายไม่ได้เพราะพิษงูเข้าสู่ร่างกายทำลายระบบประสาทให้กล้ามเนื้อ

    เริ่มเป็นอัมพาตหลายส่วนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หมดสติ ( พิษงูไม่มีผลต่อสมองนะคะ แต่ทำไม

    ละครไทยใครโดนงูกัดต้องหมดสติทุกรายน๊า อิอิ) เขามองมาร์คที่พยายามฉุดกระชาก ลาก ถู

    แบกร่างเขาไปยังเป้าหมายข้างหน้าอย่างทุลักทุเล ร้อนรน ไม่เหลือเค้า มาร์คฮยองผู้แสน คูล

    คงไม่มีใครนึกถึงภาพมาร์คตรงหน้าเขาออกเป็นแน่ มันช่างบีบคั้นความรู้สึก จนอยากจะถอดใจ

    ให้มาร์คทิ้งเขาไว้ แล้วเอาตัวรอดไปก่อนเถอะ แต่กล้ามเนื้อลิ้นและคอของเขาก็เริ่มเกร็งจนพูด

    ไม่ได้  คงมีแต่น้ำตาที่เก็บไว้ไม่ไหว ต้องหยดไหลออกมาเงียบๆด้วยความซาบซึ้ง







    โธ่ เว้ย!!!  ใครจะไปยอมแพ้กันหล่ะ  ห้ามยอมแพ้นะแจ๊คสัน เจ้าหวัง เว้ยยย เจ้าเตี้ย เจ้าบ้า

    เจ้าขาสั้น  อย่าคิดว่านายเก่งอยู่คนเดียวได้มั๊ย  พวกเราเพิ่งเดบิวเองนะ ยังต้องเดินจากตรงนี้ไป

    อีกไกล ห้ามขี้ลาดหนีไปก่อนนะเฟ้ยยย ชั้นจะไม่ให้อภัยนะถ้านายใจเสาะ ไม่ยอมสู้


     !@#$%^&*()_+_)(*&^%$#@  ฯลฯ (และข้อความสบถคำหยาบของมาร์ค อีกล้านแปด)







    แจ๊คสันอยากจะขำกับสภาพของมาร์คเหมือนกัน ---ฮยองเอ๊ยยย ตัวเองก็ย่ำแย่ เยินขนาดนี้ยัง

    จะพูดจากวนโมโหได้อีก  สภาพเราสองคนก็ไม่ต่างจากเตี้ยอุ้มค่อมเลยเหอะ







    มาร์คเองก็ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง  หน้าตาเนื้อตัว เคล้าเลือดคลุกทราย ไม่ห่วงหล่อ  แม้

    จะใช้แรงกายไปจนหมด  ประตูทางออกก็ยังไม่ขยับเข้ามาใกล้ดั่งใจที่ต้องการอีก  ตอนนี้มองไป

    ทางไหน ก็ไม่เห็นใครให้อยู่พอที่จะขอความช่วยเหลือได้เลย  มีแต่เขาเท่านั้นที่ต้องช่วยตัวเอง

    ถ้าเขาไม่ก้าวขาไปต่อ แจ๊คสันต้องเสียชีวิตแน่ในไม่ช้านี้







    ให้มันรู้ไปสิว่าจะมีคนเหนื่อยตาย เพราะแบกเพื่อน  หรือถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังดีกว่าปล่อยมือ

    กันไปหล่ะนะ
    !!”







    ไม่เอา..ไม่คิด..มาร์คบอกตัวเอง  แต่เขาอดไม่ได้ที่จะ flashback นึกถึงความหลังสมัยก่อนที่

    เขาเจอกับแจ๊กสันครั้งแรก  ในบรรดา
    GOT7 นอกจาก แจบอมและจินยองที่อยู่มาก่อน ก็มีแบม

    แบม กับเขา ที่มาเป็นเทรนนี่ตามมา ก่อนที่แจ๊กสันจะเข้ามา  แจ๊กสันมาเป็นลำดับที่ 5 แล้วถึง

    ตามด้วย ยูคยอม และยองแจเป็นคนสุดท้าย อยู่ฝึกด้วยกันก่อนรวมเป็นทีม







    ดูเหมือนครอบครัวของแจ๊กสันจะทำงานเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับระดับสูงของประเทศ

    ฮ่องกง และแจ๊กสันเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก
    แต่แจ๊กสันก็ไม่ค่อยพูด

    ถึงอดีตของตัวเองมากนัก เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่แจ๊กสันถูกส่งไปทำงานกับเพื่อนรุ่นราวคราว

    เดียวกัน  แล้วทำงานพลาดทำให้เพื่อนเสียชีวิต และตัวเองก็ถูกทรมาน ถูกเค้นความลับอยู่

    หลายเดือนก่อนจะมีคนไปช่วยและหนีออกมาได้  ระดับการถูกทรมานและความทุกข์ยากขนาด

    นั้นมันเกินกว่าจิตใจของเด็กคนหนึ่งจะทานทน มันทำให้จิตใจของเขาผิดเพี้ยน ไม่สามารถอยู่

    ในสังคมเหมือนคนปรกติได้ จนมีแมวมองไปทาบทามเขาเข้ามาสู่การเป็นเทรนนี่ของวงการ  

    ไอดอลนักฆ่าที่นี่







    แวบแรกเมื่อ 4 ปีก่อน ที่มาร์คได้สบตาแจ๊กสัน แววตาของแจ๊กสันนั้น ดำมืด ไร้แวว ไม่มีก้นบึ้ง

    ช่างอ้างว้าง หดหู่ และดูน่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้ ผิดกับตอนนี้ที่ดูมีแววตาสดใส  ค่อนข้างเหมือน

    คนทั่วไปมากแล้ว  ถ้านายไม่ได้กลับออกไปฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่







    แสงสว่างจ้า อากาศถ่ายเท  นอกอุโมงค์ครอบแก้วที่แสนอึดอัด  ในที่สุดมาร์คก็มาถึงตรงนี้  ไม่

    ต้องรอให้เขาแบกแจ๊คสันไปขอความช่วยเหลือ สองเก็นซุยหญิง อากิ กับอาโอยก็มายืนรอ

    รับ
    (!?)อยู่ตรงหน้าแล้ว







    อากิ เก็นซุย ในชุดกิโมโนสีแดงสด ยืนกอด อก มองต่ำลงมายังมาร์คที่ ทรุดร่างกับพื้นหอบแฮก

    โดยมีแจ๊คสันอยู่ข้างๆ  เธอเอ่ยทักมาร์คก่อน







    สวัสดีมาร์ค  ฉันมีข้อเสนอดีๆให้นายนะ ข้อแรก ทิ้งเพื่อนที่เป็นภาระไปซะ ฉันจะปล่อยให้

    นายกลับไปหาน้องๆที่บ้านนายใหญ่ตอนนี้เลย....  หรือ ข้อสอง จะเลือกตายทั้งคู่เลยดี







    (ข้อเสนอ ...ดี!!?? เห้ ไรวะ *&^%$#@###$%^& มาร์คสบถรัวๆ ในสมองอีกแล้ว ก่อนจะเก็บ

    อาการแล้วกล่าวตอบโต้)







    ไม่มีทางไหนที่จะรอดไปทั้ง สองคนเลยเหรอครับ หรืออย่างน้อยขอเซรุ่มให้เราก่อน แล้วค่อย

    กลับไปทดสอบกันใหม่ก็ได้
    มาร์คต่อรอง อย่างมีหวัง นี่เขาพยายามประณีประนอมอย่างสุภาพ

    ที่สุดแล้ว เพราะเห็นแก่เซรุ่ม เพื่อแจ๊คสัน  ถ้าเป็นยามปรกติ มีแต่ต้องใช้กำลังคุยกันเท่านั้นหล่ะ

    ครับ







    จะไม่มีการทดสอบใหม่แล้ว  ถ้าอยากให้เราช่วยแจ๊คสันนายก็ต้องเป็นฝ่ายตายแทนนะ!!?” อากิ

    เก็นซุย ใช้การปรายหางตามองมาร์คที่แทบจะคุกเข่าขอร้องอยู่ตรงหน้า







    รีบช่วยเขาก่อนเถอะน่าป้า ผมจะเป็นยังไงก็ช่างแมร่ง...มันเถอะ!!!” มาร์คตะโกนสุด

    เสียงด้วยความโมโห ก่อนจะเป็นฝ่ายหมดแรง และหมดสติ ลงไปกองกับพื้น  --- เพราะถ้าย้อน

    ไปดู มาร์คเองก็เสียเลือดไปไม่น้อยตั้งแต่ โดนสะเก็ดระเบิด สองชั่วโมงก่อน  ไหนจะต้อง

    ออกแรงแบกแจ๊คสันที่หนักกว่าตัวเองมาตั้งไกล และก่อนหน้านี้ที่ย้ายมาฝึกที่โรงแรมนี่ ก็ไม่ได้

    พักผ่อนเลยเพราะต้องสู้กับนักล่าเงินรางวัลที่ปล่อยมาไม่เป็นเวล่ำเวลา  ถ้าเป็นคนปรกติอาจจะ

    เครียดจนเสียสติไปแล้ว  ที่ยังยืนอยู่ได้จนถึงเมื่อกี้ก็น่าจะเรียกว่า
    ปาฏิหาริย์แล้วหล่ะนะ.







    อาโอยเก็นซุยนั้นจัดเตรียมทีมแพทย์และเซรุ่มพร้อมอยู่แล้ว เพราะตั้งใจว่าจะช่วยแจ๊คสันตั้งแต่

    ต้น  และตอนนี้แจ๊กสันก็อยู่ในมือหมอแล้ว







    ส่วนอากิเก็นซุย ยังไงก็ไม่ยอมใจอ่อนกับมาร์ค นั่นเป็นเพราะ มาร์คเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนตัว

    เอง  แต่ที่สุดแล้ว มาร์คขอให้ช่วยแจ๊คสันก่อนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตน  คนที่ยอมทำเพื่อคน

    อื่นขนาดนี้หน่ะไม่ได้หากันได้ง่ายๆซะด้วย







    ไม่ไหวเลย  สุดหล่อผู้ดูไม่จืด  ถ้านายยอมปล่อยมือเพื่อนไปซะ อะไรๆมันก็จะง่ายกับนายกว่านี้

    ฉันจะได้ตัดสินใจฆ่านายได้สบายกว่านี้ แต่การที่นายไม่ปล่อยเขาไปมันทำให้ชั้นประทับใจมาก

    กว่า เอาเป็นว่าชั้นให้นายผ่านการทดสอบก็แล้วกันนะมาร์ค
    อากิ เก็นซุย กดโทรศัพท์เรียกทีม

    แพทย์ของตัวเองมาพามาร์คไปปฐมพยาบาล ก่อนจะส่งขึ้นเตียงพิเศษ เข็นไปยังลานกว้าง

    กลางห้อง







    ไม่นานนัก โดมหลังคาด้านบนของโรงแรมก็เปิดออก ให้เฮลิคอปเตอร์พยาบาลลำใหญ่ที่บินอยู่

    สูงขึ้นไป โรยเชือกลงมารับเตียงของมาร์ค และแจ๊คสัน (มีเฮลิคอปเตอร์มา สองลำค่ะ) ไปส่งยัง

    โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแพทย์มินาโมโตะ ที่อยู่ไม่ไกลนัก







    ใจอ่อนจนได้นะน้องเรา อาโอยเก็นซุย แซวน้องสาวที่ยืนมอง ส่งทีมแพทย์และเฮลิคอปเตอร์

    ที่มารับมาร์คบินไกลออกไป







    เอาไงดีท่านพี่  สองคนนั่น(มาร์ค/แจ๊คสัน) ดูจะไปร่วมพิธีของนายใหญ่ฟูจิวาระไม่ไหวแน่ 

    มาร์คต้องผ่าตัด และอาจต้องทำ
    skin graft ด้วย(การปลูกถ่ายผิวหนัง) เพราะแผลใหญ่และลึก

    ไม่เบา ส่วนแจ๊คสันก็ต้องดูอาการยาว เพราะหลังให้เซรุ่ม ซึ่งเป็นอนุพันธุ์ของโปรตีนก็มีโอกาส

    แพ้ และช๊อคเพราะเกิดการต่อต้านจากภูมิคุ้มกันของร่างกายได้
    อากิ เก็นซุยตอบคนพี่โดยที่

    สายตายังไม่ละจากขอบฟ้าที่เฮลิคอปเตอร์เพิ่งบินผ่านไป







    ก็เร่งทีมแพทย์เข้าสิ ถึงจะได้มาแค่ร่างที่หมดสติ ยังไงก็ต้องเอาทั้งสองคนนี้เข้าไปร่วมงานให้

    ได้  ไม่งั้นพวกเราก็จะแพ้พนันเก็นซุยคนอื่นนะ
    อาโอยเก็นซุยตอบน้องสาว







    .

    .

    .


    นี่จึงเป็นที่มาของตุ๊กตามาร์ค และแจ๊กสัน  ---ในพิธีตั้งแต่เริ่มต้น สองคนนี้ก็มีแต่ร่างที่ไร้สติ

    เพราะหลับอยู่ด้วยฤทธิ์ยากลายเป็นหุ่นเชิดมนุษย์ ถูกเชิดประครองด้วยสาวสวย 3 คนเข้าประกบ

    ทำหน้าที่พยุงทั้งซ้ายขวา และด้านหลังก็คอยดันขาให้เหมือนเดินได้ ก่อนจะพามานั่ง แล้วเข้า

    ประกบอีกที  และที่เห็นมาร์คยังยิ้มอยู่นั่นหน่ะ เป็นอาการข้างเคียง
    Euphoria ( ฤทธิ์ของยาที่

    ทำให้รู้สึกมีความสุข) ของยาแก้ปวดที่ถูกฉีดให้เท่านั้นแหละ







    กลับมาที่คนนอกตระกูลมินาโมโตะ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร --- จินยองแค่รู้สึกว่าท่านั่งของมาร์ค

    และแจ๊กสันมันแปลกๆไปเท่านั้น แต่ฝั่ง แบมแบม และยองแจ ที่อยู่ตรงข้ามกับ ฝั่งมาร์คและ

    แจ๊กสัน กลับเห็นเป็นอีกอย่าง







    จากระยะไกลๆ แบมแบมเห็นว่ามาร์คนั้นเอียงคอซุกสาวสวยซ้ายที ขวาที และยังยิ้มด้วย น่า

    หมั่นไส้สุดๆ หลายวันมานี่ระหว่างที่แบมแบมทุ่มเทให้กับการฝึกแทบตาย มาร์คฮยองกลับเอา

    เวลาไปอี๋อ๋อสาวๆเหรอ....







    ยิ่งในสายตายองแจ ยิ่งแล้วใหญ่ แจ๊กสันที่ยองแจเห็น เขาโอบสาวสวยเต็ม มือทั้ง 2 ข้าง (จริงๆ

    แล้วแจ๊กสันถูกหิ้วปีกมากกว่าค่ะ 555) แถมยังดูยิ้มพริ้ม ซบคนนั้นที คนนี้ที ( จริงๆเพราะฤทธิ์ยา

    และทรงตัวไม่อยู่เพราะหมดสติอยู่นะจ๊ะ)







    ภาพเหล่านี้ทำให้ทั้ง แบมแบม และยองแจต่างคิดเลยเถิดไปไหนต่อไหนกันแล้ว







    เท่านั้นยังไม่พอ เหตุการณ์ยิ่งแย่ลง เมื่อแจ๊กสันทำหน้าตาดูอึดอัดแล้วสาวสวยคนด้านขวาของ

    เขาก็เบี่ยงตัวมาบังด้านหน้าของแจ๊กสัน เหมือนเธอเอาตัวมาบังเพื่อจูบกับเขา
    !!? (จริงๆแล้วมัน

    แค่มุมกล้อง เธอเป็นแพทย์ที่เก็นซุยให้มาดูแลแจ๊กสันค่ะ) โชคร้ายที่แจ๊กสันเกิด
    secondary

    peak ( ระดับพิษในเลือดสูงขึ้นมาอีกครั้ง ) คือหลังจากเซรุ่มเข้าไปจับกับพิษงู ทำให้หมดฤทธิ์

    และถูกขับออกมาแล้วนั้น บางคนที่โชคร้ายระดับพิษงูในเลือดอยู่ๆก็สูงขึ้นมาอีก ทำให้ต้องรับ

    เซรุ่มซ้ำ และช่วยเรื่องการหายใจ อย่างง่ายคือฝายปอด แต่จริงๆคือต้องใส่ท่อใช้เครื่องช่วย

    หายใจด้วยซ้ำ การพาแจ๊กสันมาออกงานอะไรพวกนี้หลังจากพักฟื้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงนี่จึงเป็น

    เรื่องอันตรายมาก ไม่ควรทำอย่างยิ่ง







    ฝั่งตระกูลมินาโมโตะเป็นมืออาชีพพออยู่แล้ว แม้จะดูฉุกละหุก แจ๊กสันถูกลากเข้าไปหลังฉาก

    แต่ก็ยังเห็นขาและปลายเท้าโผล่ออกมาอยู่ดี แต่มันไม่โผล่ปล่าว ดันมีชายผ้ากิโมโนลาย

    ดอกไม้คลุบทับ ขึ้นคร่อมปลายขานั้นอยู่  ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในงานคนเยอะแยะ ก็คงคิดเป็นอย่างอื่น

    ไม่ได้หรอกนะ ( แต่จริงๆแล้วแพทย์คนสวยขึ้นคร่อมเพราะต้องปั๊มหัวใจให้แจ๊กสันค่ะ รอบนี้พิษ

    ที่เหลือ ส่งผลถึงกล้ามเนื้อหัวใจทำให้ หัวใจหยุดเต้น คุณหมอต้องปั๊มหัวใจ ใช้
    adrenaline มา

    ฉีด และ
    load เซรุ่มที่เตรียมมาต่อ โดยมีทีมงานหลังฉากช่วยกันวุ่นวาย )







    ฝั่งยองแจที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่นั่งน้ำตาไหล เพราะคิดเป็นอย่างอื่น ทำให้จินยองที่เห็นเบื้องหลัง

    ทั้งฝั่งแจ๊กสัน และเบื้องหน้าฝั่งยองแจคิดได้







    "บางสิ่งมันก็มีเหตุผลมากกว่าแค่ที่ตาเห็น  ผมยังไม่ได้บอกเหตุผลของผมกับแจบอมฮยอง

    เลยนี่นะ ที่เขาอาจจะเข้าใจผมผิดก็เป็นเรื่องธรรมดา
    " จินยองจึงหันไปพูดบางอย่างกับแจบอม

    ก่อนที่จะกลับมายิงธนูต่อ






     

    "ศรนี้ก็เหมือนความรู้สึกของผมที่มีต่อฮยอง มันพุ่งตรงเสมอและไม่เคยออกนอกเส้น

    ทางหรือเบี่ยงเบนไปไหน  ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมตั้งใจปล่อยความรู้สึกออกไป และไม่ว่าจะ

    ผ่านไปนานแค่ไหน  มันจะถูกส่งไปยังเป้าหมาย ก็คือ หัวใจของ อิม แจบอม ตลอดไป

    ครับ
    "







    ลูกศร 2 ดอกสุดท้ายของจินยอง ปักเข้ากลางเป้าเดิม และปักซ้อนต่อลูกศรดอกก่อนหน้า เป๊ะ

    เหมือนที่แจบอมทำไว้ ทั้งห้องกลับมาโห่ ร้องเชียร์จินยองอีกครั้ง




    ...




    ...




    ....




    ^\\\\^







    "โอยยย เจอคำสารภาพรักแบบนี้ หัวใจแทบหยุดเต้น" อิมแจบอม ก้มหน้า คิ้วขมวดหนักเข้าไป

    อีก  
    ตอนแรกที่เห็นน้ำตาจินยอง เขาก็แทบจะใจสลายไปด้วยอยู่แล้ว  ตั้งแต่คบกันมาจินยองไม่

    เคยร้องให้แบบนี้เลยสักครั้ง  แต่พอจินยองตั้งหลักได้ กลับพูดสารภาพเรื่องพวกนี้ด้วยใบหน้า

    นิ่งๆอีก ทำได้ยังไงเนี่ย
    !!?? (แต่จริงๆใบหูของจินยองก็แดงปริ๊ด แต่แจบอมไม่ทันสังเกตเอง)

    โอยยยย อยากกระโดดกอดแล้ว
    XxxX ให้สาแก่ใจ ฮึ่ยยย!!)







    แจบอมเครียดหนักหน้าบูดขึ้นไปอีก เพราะต้องพยายามเก็บอาการจนขนลุก ปวดแก้มปวดกราม

    ไปหมด เพราะต้องเกร็งเก๊กหน้าเข้มไม่ให้หลุดยิ้มหน้าบานออกมาได้ ตอนนี้แจบอมไม่อยากอยู่

    ในพิธีบ้าบอนี่นานกว่านี้อีกต่อไปแล้ว
    แต่จำต้องแสดงให้สมบทบาท!?? จนนาทีสุดท้าย







    พอถึงตาที่แจบอมต้องยิงธนู สองดอกสุดท้าย คนทั้งหมดในงานก็กลับมาเงียบกริบอีกครั้ง







    ศรดอกที่ 3และ 4 ปักต่อ ศรดอกก่อนที่เขายิงไว้อย่างแม่นยำ ด้วยท่วงท่าที่สง่างามไม่มีที่ติ

    ตอนนี้ผู้มาร่วมงานได้แบ่งเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน ฝ่ายแรกเชียร์ ปาร์ค จินยอง ผู้นุ่มนวล สมบูรณ์

    แบบ  ฝ่ายที่สอง เชียร์อิมแจบอม ผู้แข็งแกร่ง สง่างาม จนทุกคนลืมไปว่า ยังเหลือ คุณลุงผู้เข้า

    แข่งคนอื่นๆอีก 3 คน ซึ่งในภาวะอย่างนี้ ใครจะอยากโผล่มาโดนแรงกดดันมหาศาลขนาดนี้กัน

    คุณลุงทั้ง 3 เลย พลาด กันคนละนิดละหน่อย เหลือ แค่ จินยอง กับ แจบอมเท่านั้นที่ยังไม่

    พลาดเลย จนสุดท้ายต้องมาแข่ง
    Sudden death กันเอง คือ การ สลับกันยิงลูกศรคนละดอก

    ถ้าใครพลาดก่อนก็แพ้ไป







    ตอนนี้ทุกคนในห้องไม่มีใครกังขาถึงคุณสมบัติและความสามารถของทั้งคู่ ถึงตอนนี้จะเป็นคน

    ไหนชนะก็ได้ทั้งนั้น ตาแก่ฟูจิวาระ อดีตนายใหญ่คิด







    จินยองเห็นสีหน้าตาแก่นั่นยิ้ม ก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาจนพลาดยิงไม่เข้ากลาง---นั่นทำให้เขาใจ

    หายวูป จนต้องหันไปมองแจบอม







    แจบอมก้าวขามาดมั่นเหมือนเดิม แต่รอบนี้เขาหันมาขยิบตาให้จินยอง ก่อนจะ ยิงศรออกนอก

    เป้าไปเลย
    เรียกเสียงโห่ และถอนหายใจดังจากคนทั้งห้อง







    [จงใจ จงใจ จงใจ  อิมแจบอมจงใจยิงพลาด นายจงใจใช่ไหม!!?] จินยองเบิ่งตาขมึงทึงไปทาง

    ลีดเดอร์ที่แกล้งมารยายอมแพ้ นายทำเพื่ออะไรเนี่ย
    !!?? จินยองทั้ง โมโห ทั้ง งง ทั้งโล่ง อก







    นายใหญ่รีบเดินมาจับมือจินยอง แต่ก่อนที่เขาจะประกาศเรื่องหมั้นหมายที่อยากประกาศ

    แจบอมก็เดินเข้ามาดึงตัวจินยองไปกอดตัดหน้า







    "อย่าประกาศสิ่งที่ท่านคิดเลยครับ ไม่ว่าท่านจะทำยังไงก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า คนคนนี้

    เป็นของผมไม่ได้
    "--- แจบอมไม่พูดปล่าว เขาเชยคางจินยองให้เงยหน้าขึ้นมาจูบต่อหน้าทุก

    คนในห้องโถงตอนนั้น







    จินยองตกใจนิดหน่อย ก่อนจะใช้สองมือประครองใบหน้าแจบอมกลับ แล้วจูบต่ออย่างดูดดื่มจน

    แขกในงานหน้าแดง เขิลแทนกันไปเลย







    "ทำอย่างนี้คิดว่าจะรอดจากเงื้อมมือของตระกูลฟูจิวาระได้เหรอ ถ้าไม่มาเป็นเบี้ยรับใช้ให้ ฉันก็

    จะทำลายพวกนายทิ้งซะ
    " อดีตนายใหญ่วางโต ขู่ให้แจบอม และจินยอง







    "ถ้าเป็นเมื่อ 5 วันก่อนผมคงคิดหนักและอาจจะกลัวท่านนะครับ แต่วันนี้ผมคิดว่า อย่างท่านคง

    ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
    " แจบอมตอบอย่างมาดมั่น เขาไม่ได้พูดด้วยความหยิ่งผยอง เพราะ

    สวมฮาโอริของตระกูลทาจิบานะอยู่ ถึงนั่นจะมีส่วนอยู่บ้างก็เถอะ แต่เหตุผลหลักก็คือ คนที่อยู่

    ตรงหน้า ไม่มีซะหล่ะ ที่ชายชื่อปาร์คจินยอง จะอยู่เฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไรไว้







    "ก็ได้... อิมแจบอม ฉันถือว่านายท้าทาย ฉันจะโชว์พลังของตระกูลฟูจิวาระให้ดู" ว่าแล้วนาย

    ใหญ่ก็ตะโกนประกาศบอกคนในงาน ใครไม่อยากโดนลูกหลงให้รีบกลับบ้านไปได้แล้ว ต่อไปนี้

    เขาจะคิดบัญชีกับ เด็กที่ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำกล้ามาท้าทายอำนาจของเขา







    ตอนนี้ คนในงานแตกฮือ วิ่งชุนลมุน อื้ออึง หาทางหนีออกไปจากบริเวณงานกันอย่างรวดเร็ว แต่

    ก็ไม่ทั้งหมด พวกตระกูล ชิเซย์ทั้ง 5 ยังอยู่กันครบ







    "พวกนายอยู่ข้างไหนกัน !!??" นายใหญ่ตวาดถาม เก็นซุยทั้ง 6 ที่นั่งชิวๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับ

    เรื่องที่เกิดขึ้น







    "พวกเราอายุมากแล้ว ปล่อยให้เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของเด็กๆไปเถอะ" ทาคุยะเก็นซุยตอบอย่าง

    ถนอมน้ำใจที่สุดแล้ว เพราะถ้าเกิดการตะลุมบอนขึ้นมาจริงๆ เขาก็ต้องเข้าข้าง เจ้าถ้วย(ยูคยอม)

    อยู่แล้วหล่ะนะ และเก็นซุยคนอื่นๆก็ด้วยเหอะ แต่กลัวนายใหญ่จะรับไม่ได้ซะมากกว่า
    จึงพูด

    อ้อมๆ







    "ทำไม พวกหน่วยต่อสู้หลักยังไม่มาอีก!!?" อดีตนายใหญ่ หงุดหงิดถามพ่อบ้านคนสนิทที่ตอนนี้

    ก็หลบตาดูมีพิรุธ







    "ผมสั่งไม่ให้เข้ามาเองหล่ะครับ คุณปู่" ทากะอากิระเด็กน้อย เดินเข้ามาจับมือ อดีตนายใหญ่ไว้

    อย่างน่าเอ็นดู แต่นายใหญ่ที่กำลังโมโห กับสะบัดมือออก แล้วดุเข้าให้







    "พูดกับปู่ ทำไมไม่ก้มหน้า!!??" เสียงตวาดดัง จนคนอื่นรู้สึกสงสารเด็กน้อยแทน แต่ทากะอากิ

    ระ กลับปั้นหน้ายิ้มตอบ






     

    "จินยองซัง บอกว่าต่อไปนี้ห้ามผมก้มหน้า หรือก้มศีรษะให้ใครอีก คุณปู่คงไม่ว่าใช่ไหมครับถ้า

    ผู้นำของตระกูลฟูจิวาระ จะไม่ทำแบบนั้น
    ?" ฟูจิวาระโนะ โอดะ แทบจะเป็นลมกับสิ่งที่ได้ยิน 

    เด็กน้อยพูดจาแตกต่างจากเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้ามือเป็นหลังมือ แถมยกเอาเจ้าชาวเกาหลีนี่มา

    อ้างอีก  หรือว่ามันจะล้างสมองหลานเขาไปแล้ว นี่เขาพลาดที่ให้เจ้านั่นมาดูแลหลานเหรอเนี่ย







    ตาแก่ฟูจิวาระ ค่อยๆหันไปทางจินยองอย่างสโลโมชั่น แล้วเขาก็ต้องพบกับภาพที่ จินยองกำลัง

    ลูบหัวทากะอากิระอย่างเอ็นดู เด็กน้อยผู้ไม่ชอบให้ใครเล่นหัว เอาศีรษะซุกมือนั่นอย่างออดอ้อน







    จินยอง และแจบอมหันมายิ้มให้อดีตนายใหญ่โอดะ อย่างมีชัย







    "ขอบคุณอดีตนายใหญ่ที่ไว้ใจให้ผมดูแลทากะอากิระนะครับ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ ทากะ

    อากิระก็เป็นเด็กดีน่ารัก พูดอะไรก็เชื่อฟังไปหมด ดีนะครับ
    " จินยองยิ้มหวาน ด้วยรอยยิ้มเย็น

    เยือกตัดขั้วหัวใจ แต่ยังไม่จบแค่นั้น







    "ชิเซย์ทั้ง 5 ตระกูลก็เอ็นดูพวกเรา GOT7 ดี แล้ว ถ้านายใหญ่มีอะไรอยากให้พวกเรารับใช้ หรือ

    อยากใช้งานอะไร ก็ ลองช่วยไปซื้อหุ้นบริษัท
    JYPE ของพวกเราดูสิครับ เหลือแค่วิธีนี้เท่านั้น

    แล้วผมยินดีจะรับใช้เต็มที่
    " มันช่างเจ็บปวด จนความดันพุ่ง เส้นเลือดในสมองแทบระเบิด ปาร์ค

    จินยอง เอาคืนอย่างเจ็บแสบ จนการมาญี่ปุ่นครั้งนี้ แทบจะกลายเป็นตำนานของเขาเลยทีเดียว







    จากนั้น Show case 1st  impact in Japan ก็ได้ถูกจัดขึ้นตามหมายกำหนดการ GOT7 ได้ไป

    แสดง โชวเคสแรกของตัวเอง ต่อหน้าผู้ชมนับหมื่น และประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นทั้งๆที่

    ยังไม่ได้เดบิวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นด้วยซ้ำ คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเหล่าแฟนคลับจะเป็น

    ใคร ถ้าไม่ใช่ ชิเซย์ทั้ง 5+1 ตระกูล ที่มีหัวหน้าแฟนคลับเป็นเด็กน้อยอายุ 10 ขวบ.

     














    ***แถมท้าย







    "จะมีอะไรทำให้ปาร์ค จินยองหวั่นไหวได้มั่งไหมเนี่ย?!!" แจบอมกุมมือจินยองไว้ระหว่างอยู่บน

    เครื่องบินที่กำลังบินกลับเกาหลี







    "มีสิครับ ก็ฮยองนั่นแหละ รอบนี้ผมหวั่นไหวมากจนแทบเสียสติจริงๆน๊า  แล้วทำไมฮยองต้อง

    แกล้งยอมแพ้ด้วยหล่ะ ไหนๆก็ตั้งใจจะล้มงานอยู่แล้วนี่
    ?" จินยอง ซบศีรษะลงกับไหล่กว้างอุ่น








    "ก็ เป็นการ add value เพิ่มมูลค่าให้ตาแก่นั่นอยากได้นายจนแทบคลั่งมากขึ้นไปอีกไง พอใจ

    หรือป่าวหล่ะ
    ?" แจบอมมองใบหน้าหวานใกล้ๆ แล้วพาลนึกถึงคำสารภาพรักของจินยอง ทำให้

    เขาหน้าแดงขึ้นมาทันที







    "เป็นอะไรหรือป่าว ฮยอง?" จินยองแอบรู้ทัน เลื่อนแก้มใสเข้ามาซะใกล้ แถมหายใจรดต้นคอ

    เขาอีก







    อดทนไว้ อีกชั่วโมงนิดๆ ก็แลนดิ้งแล้ว เตรียมตัวไว้เถอะ เจ้าตัวร้าย แจบอมแกล้งกอด อก

    หลับตา หันหน้าไปอีกทาง โดยมีจินยองหัวเราะคิกคักชอบใจอยู่ใกล้ๆ







    ...........





     

    "มาร์คฮยองเจ็บมากไหม?" แบมแบม ได้ฟังเรื่องการฝึกโหดของมาร์คกับแจ๊กสันก็ต้องร้อง โอ้

    ว๊าว หูยยย โห.. อย่างหวาดเสียว สยอง นั่นมันทำให้การฝึกของเขาดูเด็กๆไปเลย







    แถมเรื่องเข้าใจผิดระหว่างพิธีวันนั้นอีก ทำให้แบมแบมอายจนไม่กล้าบอกมาร์ค







    "มีอะไรยังไม่ได้บอกมาร์คหรือป่าว เพราะมาร์คคิดถึงแบมแบมตลอดเวลาเลยนะ ถึงพยายาม

    รอดกลับมาเจอแบมแบมให้ได้หน่ะ
    " โอยยย เวลามาร์คแทนตัวเองว่า มาร์ค ตอนอยู่กันสองต่อ

    สอง มันทำให้แบมแบมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใจหนึ่งก็เขินจนอยากวิ่งหนี อีกใจหนึ่งก็รักมากจน

    อยากจะกระโดดกอดคนตรงหน้าไม่ยอมปล่อยไปไหน







    "คือ...แบมขอโทษนะครับ ตอนที่มาร์คฮยองไม่ได้สติ อยู่ในหมู่สาวๆของตระกูลมินาโมโตะ

     แบมแบมโมโหอ่ะ ...หวง
    " เด็กน้อยทำแก้มป่องน่ารัก จนมาร์คยิ้มกว้างชอบใจ







    "นั่นเรียกว่าหึงต่างหากล่ะ แบมแบมทำให้มาร์คดีใจ จนจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ" มาร์คยิงฟันโชว์

    เขี้ยวสวย ตาหยี ยิ้มหวานให้ แบมแบมอย่างมีความหมาย ...







    คุณหมาป่ามาร์คตาเชื่อมเยิ้ม มองแบมแบมหนูน้อยหมวกแดงผู้ไม่ประสา ไม่รู้ชะตากรรมว่าพอ

    ลงเครื่องถึงหอแล้วจะเป็นเช่นไร  อิ อิ...







    ........







    ยองแจจ้องแจ๊กสันอย่างไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยิน ถ้าเขาละสายตาไป แจ๊คสันจะเป็นอะไรไป

    อีกไหมนะ







    "นายเป็นสิ่งเดียวที่ฉันคิดถึงนะยองแจ" แจ๊กสันใช้แขนโอบยองแจที่นั่งติดกัน แล้วรั้งตัวเข้ามา

    กอด







    ยองแจค่อยๆเอียงตัวมาซบ คนตรงข้าง แล้วใช้ใบหู แนบเข้ากับหน้าอกแกร่งฟังเสียงหัวใจเต้น

    ของแจ๊กสัน







    "ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงหัวใจเต้น ดังฟังชัด และเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ฮยองเป็นอะไรหรือป่าว?" ยองแจเงย

    หน้ามองแจ๊กสันที่ก้มดูเขาอยู่จนริมฝีปากเกือบจะแตะกัน







    อย่ากระนั้นเลย ยองแจยืดคอขึ้นอีกนิดเพื่อรับสัมผัสจูบจากแจ๊คสันตรงๆ เพราะเมื่อนึกถึง

    เหตุการณ์ในวันงาน เขากลับหึงจนหน้ามืดตามัว ไม่สามารถช่วยอะไรแจ๊คสันที่เกือบหมดลม

    หายใจได้เลย  ถ้าคนคนนี้หายไปเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนเมื่อก่อนได้ไหมนะ







    "หัวใจฉันแทบหยุดเต้นตอนแจบอมบอกว่า ฉันอาจจะไม่ได้เจอนายอีก ฉันไม่อยากรู้สึกแบบนั้น

    อีกแล้ว ยองแจ นายจะอยู่กับฉันตลอดไปใช่ไหม
    " อยู่ๆแจ๊คสันก็พูดในสิ่งที่ยองแจกำลังคิด

    เหมือนกัน







    "ผมจะไปไหนได้หล่ะครับ ก็หัวใจของผมหน่ะ อยู่ที่นี่" ยองแจลากนิ้วเรียวชี้ไปยังหน้าอกของ

    แจ๊กสัน บริเวณหัวใจที่เขาเพิ่งแนบหูไปเมื่อครู่ พร้อมกับยิ้มหวาน ด้วยตาตี่ สุดน่ารักให้







    แจ๊คสันรีบใช้สองมือโอบร่างยองแจทั้งตัวเข้ามาแนบ อก แล้วเสยผมม้าที่ปรกตายองแจขึ้น

    ก่อนจะสอดลิ้นลุกไล่ เข้าไปในปากสวยแลกจูบดูดดื่มเนิ่นนาน ที่ทำยังไงก็รู้สึกยังไม่พอ...เมื่อ

    ไหร่ เครื่องจะลงสักทีนะ อยากทำอะไรที่มันถึงใจมากกว่านี้แล้ว....










    ......................



    แก้คำผิด ครั้งที่ 2



    จบตอนแย้วววว เย้ เย้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาวิว มาเม้นให้กำลังใจนะคะ จนเราเดินทางมาถึงตอนนี้ได้ 
     

    อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าจะ จบแค่นี้ ตาม timeline นี่แค่จบ โปรโมท3xG ค่ะ เดี๋ยวตอนหน้าจะกลับไปคัมแบคที่เกากลี ตาม

    Timeline ช่วง A แล้ว อย่าลืมเข้ามาติดตามต่อนะคะ จนกว่าเลือดจะหมดโลก 555



     

    Happy New Year 2015 จ้า !!!!!!








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×