ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #37 : ตอนที่ 35 : 35 Bullets - 100% อิ อิ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.12K
      13
      24 ก.พ. 58



    ตอนที่ 35 : 35 Bullets 

     







    จากวรรณกรรม(ฟิค)นักฆ่า  กลายเป็นโศกนาฏกรรม น้ำตาท่วมจอ

    โปรดติดตามเรื่องราวความรักระหว่างรบของ หญิงไทยผู้เพียบพร้อม

    แบมสุมาลิน กับ นายทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่น มาร์คโบริ ได้แล้ววันนี้.....





    (....ตามที่ไหนไม่รู้นะคะ
        Cr. ไอเดียคุณ  Lilly Mille  

     






    /////////////////////////////////////////////////






    แบมแบมช้อนร่างมาร์คออกมาจากเศษซากปรักหักพัง อย่างทุลักทุเล





     

    มาร์คนอนหายใจรวยริน






    "หนาวเหลือเกิน........ ใครปิดไฟ......... ทำไมมืดแบบนี้............" ภาพมาร์คหลังจากโดนระเบิด

    นั้นมีแผลหลายแห่ง และเนื้อตัวก็เปื้อนฝุ่นควันเต็มไปหมด






    แบมแบมแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว กระชับอ้อมกอดแน่น






    "แบมแบม..... มาร์คจะไปรอแบมที่ทางช้างเผือกก่อนนะ"  มาร์คพยายามเค้นแรงเฮือกสุดท้ายสั่ง

    เสียก่อนสิ้นใจ






    "มาร์คโบริ!! ม่ายน๊า......" แบมสุมารินกอดร่างนิ่งไร้วิญญานของคนรักพร้อมกับร่ำไห้ปานจะ

    ขาดใจ.....จบบริบูรณ์
    !!

     







    ไม่ใช่แระ ไรท์ยังเล่นไม่เลิก  อ่านข้ามๆนะคะ 555 ตอนเขียนก็ไม่ได้นึกถึงตรงนี้  เข้าโหมดจริงจัง

    สิคะ ปรับอารมณ์กันก่อนน๊า  บิ้วๆๆๆๆ

     




    เปิดวาร์ป ต่อ ตอนใหม่กันตรงนี้ๆๆๆๆๆๆ 

     

     

     
     

    แบมแบมกลั้นหายใจลุ้นระทึก  ใครจะไปคิดว่าในสวนน้ำแห่งนี้จะมีไฟไหม้ได้  อุปกรณ์ควบคุม

    อัคคีภัย ถังดับเพลิง โฟมฉีดดับไฟก็ไม่มี  แม้จะมีน้ำอยู่เต็มสระใกล้ๆก็ไม่รู้จะลำเลียงมาดับไฟยัง

    ไง เพราะมองไปทางไหนก็ไร้อุปกรณ์ แก้ว ขัน ถัง กะละมัง กระป๋อง หรืออะไรสักสิ่ง มีเพียงสอง

    มือเปล่าๆของเขาเท่านั้น  แต่เรื่องของเรื่องหลักๆเลยก็คือ  มันมีระเบิดในนี้ได้ยังไงมากกว่า คิดสิ

    คิดสิ มีสาเหตุอะไรพอเป็นไปได้มั่งนะ








    1. อุบัติเหตุ 2. ก่อการร้าย  3.สร้างสถานการณ์ 4. อีเว้นอะไรบางอย่าง 5. อื่นๆ ยังนึกไม่ออก 

    แล้วเป็นเหตุการณ์แบบสุ่ม หรือมีการเจาะจงวางแผนมาแล้ว กันนะ







    ข้อ1 อุบัติเหตุตัดไปเพราะคงไม่มีอุบัติเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดระเบิดทีละหลายจุดพร้อมกันได้

    ข้อ2 ก่อการร้าย อาจจะเป็นได้เพราะมีการสูญเสีย มุ่งชีวิตมีคนบาดเจ็บล้มตาย แต่เกาหลีใต้ก็

    ว่างเว้นจากการก่อการร้ายมานานแล้วนะ ช่วงนี้ ก็ไม่มีข่าวอะไรน่าสงสัยนี่นา แต่ก็ยังตัดไปไม่ได้ 

    ข้อ 3 หล่ะ สร้างสถานการณ์เหรอ...มันต้องมาพร้อมข้อเรียกร้อง หรือต้องการผลตอบแทนบาง

    อย่าง ต้องหาทางติดต่อโลกภายนอก ดูข่าวแล้วแฮะ ส่วนข้อ 4 ถ้าเป็นงานอีเว้น อะไรนี่ไม่น่า

    ลงทุนพังสิ่งปลูกสร้างถาวร สไลดเดอร์ 7 ชั้นที่เป็นจุดขายซะขนาดนี้ นอกนั้นก็คิดไม่ออกแระ คน

    บ้าว่างมากมาวางระเบิดเล่นอะไรงี้เหรอ... แต่ที่แน่ๆคนร้ายต้องมีมากกว่า 1 คน ถึงจะทำเรื่อง

    แบบนี้ได้ นั่นยิ่งอันตรายใหญ่ถ้าผมจะเคลื่อนไหวอะไรคนเดียว ยิ่งถ้าเป็นข้อ 1 ก่อการร้ายละก็ มี

    แต่ต้องรอกำลังเสริม และต้องระวังตัวเองให้ดีเหมือนกัน







    แบมแบมคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ตามขั้นตอนที่ถูกฝึกมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่าง

    รวดเร็ว  โดยที่สายตายังจ้องไปในกองไฟอย่างไม่สิ้นหวัง  ก่อนจะนึกบางสิ่งได้แล้วร้องออกมา







    "อ๊า!! .....มือถือ  คีย์การ์ด  กระเป๋าตังค์  อยู่ที่มาร์คฮยองหมดเลย  ตายแน่ๆๆๆ" ตอนนี้นอกจาก

    เสื้อผ้าเปียกๆแล้ว แบมแบมก็ไม่มีอะไรติดตัวอยู่เลยสักอย่าง  คงได้แต่หวังให้จินยองติดต่อเข้า

    มาแล้วไม่เจอจะได้รีบมาหาที่นี่หล่ะนะ







    ก่อนหน้านี้ตอนที่แบมแบมกำลังอยู่ในล๊อกเกอร์รูม กับมาร์ค จินยองก็โทรเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่

    ตอนนั้น มาร์คบอกว่าจินยองมีสายซ้อนแล้ววางไปก่อนเลยไม่ได้คุยอะไรกัน







    เอ...ยืนรอแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์  แบมแบมเริ่มสอบปากคำ ซักถามคนที่อยู่แถวนั้นว่า

    เหตุการณ์เป็นมายังไง  บางคนก็ตื่นตระหนกอยู่ พูดอะไรไม่เป็นคำฟังไม่รู้เรื่อง บางคนก็ได้แต่ตัว

    สั่นนิ่งตาเบิกโพลง  บางคนก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย  บางคนก็ร้องกริ๊ดโวยวายไม่หยุดจนแบมแบม

    ต้องเข้าไปปลอบ  สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องสักคน ไม่ได้ความอะไรสักอย่าง แต่โชคก็ยังเข้าข้าง  แบม

    แบมหันไปเจอกล้องวงจรปิดตรงเสาไฟ ส่องมาทางซุ้มไอติมพอดี  ต้องตามไปดูที่ศูนย์ควบคุม

    กล้องแล้วหล่ะ  แบมแบมจึงวิ่งไปดูแผนที่ของสวนน้ำอีกทีก่อนจะวิ่งไปยังจุดหมายที่ต้องการ







    ตอนแรกแบมแบมเหมือนจะคิดถูก แต่เมื่อเขามาถึงศูนย์สื่อสารของสวนน้ำเขาถึงรู้ว่าคิดผิด  ที่

    ศูนย์สื่อสารเป็นอาคารเล็กๆชั้นเดียวหลังคาทำเป็นป้อมรูปแกะตัวใหญ่ สวมหูฟัง ตอนนี้เต็มไป

    ด้วยการ์ด ยาม เจ้าหน้าที่ และบุคคลทั่วไป ทุกคนล้วนอยากดูกล้องหาสาเหตุ หาผู้ก่อเหตุ ตาม

    หาญาติที่สูญหาย หาทรัพย์สิน  บลา ๆๆ จะให้แบมแบมฝ่าฝูงชนพวกนี้ไปขอดูกล้องย้อนหลัง 

    ดีๆคงจะไม่มีหวัง  หรือจะให้จัดการเก็บทีละคนก็คงจะไม่ไหวเพราะมีจำนวนเยอะเกินไป  แต่

    อย่างแบมแบมมีหรือจะถอดใจ







    แบมแบมถอยมาตั้งหลักแถวโรงเก็บอุปกรณ์ไม่ไกลนัก แล้วก็พบสิ่งหนึ่งที่ช่วยจุดประกาย

    แผนการก็คือ ถังใส่คลอรีนเม็ดสำหรับใส่ในสระว่ายน้ำวางเรียงรายนับสิบถัง ..คุณคิดเหมือนแบม

    ไหมครับ
    ?  เด็กน้อยผุดร้อยยิ้มร้ายขึ้นมุมปาก พร้อมกับมองซ้ายขวาหาขวดพลาสติกเปล่าสัก

    ใบ ซึ่งก็หาไม่ยาก  และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ แอลกอฮอล์ นาทีนี้เดินไปเตะตู้กดเบียร์

    หยอดเหรียญอัตโนมัติก็ไม่มีใครสนใจแล้วหล่ะครับ  แบมแบมจึงกระโดดถีบตู้ขายเบียร์กระป๋อง

    หยอดเหรียญยี่ห้อ
    Cass ที่มีหน้านิชคุณเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาหรา ข้างตู้แถวนั้น (ขอโทษนะ

    ครับพี่คุณ---แบมแบมแอบยกมือไหว้ก่อนกระโดดดร๊อปคิ๊กถีบขาคู่ใส่ตู้นั่น) และก็มีเบียร์กระป๋อง

    กลิ้งออกมาสมใจ เท่านี้อุปกรณ์ก็พร้อมแล้วครับ --อุปกรณ์สำหรับทำระเบิดคลอรีน อนุภาพก็แค่

    ฉีกมือแขนขาดได้สบาย เสียงดังนิดหน่อย ระวังเข้าตากับเข้าปากจะดีมาก และต้องมีสติดีๆครับ

    เพราะหลังผสมสารเคมีพวกนี้ จะระเบิดใน 5-6 วินาที แทบจะทันทีเลยหล่ะ ค่อนข้างอันตรายอยู่

    เหมือนกัน







    หลังจากแบมแบมเทเกล็ดผลึกคลอลีนใส่ขวดพลาสติกที่เตรียมไว้ เขาก็ไปหาทำเลเหมาะๆริมๆ

    ขอบๆ ข้างๆ ฝูงชนที่กำลังลุมศูนย์สื่อสารอย่างมืดฟ้ามัวดิน แล้วตะโกนด้วยเสียงที่ดังที่สุดว่า


    "หนีเร็ว ตรงนี้มีระเบิด" ก่อนจะเทแอลกอฮอล์(เบียร์)ใส่ขวดที่เตรียมไว้นั้น  แล้วโยนเข้าพุ่มไม้

    ใกล้ๆให้ระเบิดเสียงดัง







    "บรึม!!" เสียงระเบิดดังใกล้มากทำให้คนแถวนั้นตกใจแตกกระจายวิ่งหนีกันโกลาหล เจ้าหน้า  

    สตาฟที่ในศูนย์สื่อสารด้านในก็หนีตายออกมาเอาตัวรอด แบมแบมจึงอาศัยความชุลมุนเข้าไปดู

    กล้องข้างใน







    แม้ทางจะไม่ถึงกับสะดวกโล่ง แต่คนก็ลดลงไปเยอะมาก ทำให้แบมแบมเข้าจู่โจม  ต่อสู้กับเจ้า

    หน้าที่ที่เหลือในศูนย์ฯด้วยมือเปล่า ได้ไม่ยาก จนเข้าถึงห้องควบคุมกล้องวงจรปิดภายใน







    เด็กน้อยคุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเลกทรอนิคภายในห้องคอนโทรลเป็นอย่างดี  แบมแบมรีบกรอภาพ

    กล้องบริเวณ ซุ้มไอติมของสระน้ำกลางแจ้ง เวลาประมาณ 4 โมงเย็นที่ผ่านมา ในช่วงเวลาก่อน

    การระเบิดทั้ง บริเวณนั้นมีกล้องอยู่ 4 ตัว และไม่นานนัก เขาก็ได้เห็นภาพที่ต้องการในที่สุด







    ภาพมาร์ค กำลังยิ้มร่า หน้าบาน ยืนต่อคิวซื้อไอติมต่อจากผู้หญิง 2-3 คนด้านหน้า ดูไม่มีอะไรผิด

    สังเกตุแต่ในไม่กี่วินาทีถัดมาก็มีประกายไฟและควันพวยพุ่งระเบิ
    ดกระจายจากเคาเตอร์ไอติมนั่น

    แล้วมาร์คก็หายไปจากจอภาพ 







    แม้จะรู้อยู่แล้วแต่แบมแบมก็อดใจหายไม่ได้ทุกครั้งที่หยุด รีเพลย์ดูภาพ จากกล้องทั้ง 4 ตัวที่อยู่

    คนละมุม เขาพยายามหาจุดที่ผิดปรกติที่พอจะมีเงื่อนงำอะไรบ้าง  เวลาแบบนี้อยากจะมีตาสัก

    20 คู่มาช่วยกันดู ช่วยกันวิเคราะห์  เพราะตอนนี้แบมแบมไม่มีเวลาให้พินิจพิจารณาอะไรแล้ว






    ด้านนอกห้องมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ผู้คนที่แตกฮือไปก่อนหน้า ก็เริ่มส่งเสียงอื้ออึง เหมือนจะตั้ง

    ตัวกันได้และกำลังกลับมาทางนี้กัน







    "โธ่เว้ย!! ถ้ามีเวลามากกว่านี้สักนิดนะ..." แบมแบมทุบโต๊ะคอนโทรล อย่างแรงด้วยความ

    หงุดหงิดที่หาคำตอบไม่ได้ ก่อนจะกุมมือนั้นเพราะความเจ็บจนได้สติ  เด็กน้อยรีบวิ่งไปหลบหลัง

    ตู้ที่วางเซิพเวอร์และฮับ นับสิบตัวในห้องกระจกข้างๆ ก่อนที่ประตูห้องคอนโทรลจะเปิดออก







    "ปังๆๆ  !! โครม!!" เสียงทุบประตูดังขึ้น 4-5 ที ก่อนที่มันจะพัง และเปิดออกมา  จากนั้นมีพวก    

    สตาฟ และการ์ดร่างกำยำ เกือบสิบคน  ผงะตอนเดินเข้ามาในห้องเพราะ เจ้าหน้าที่ที่ทิ้งไว้เมื่อกี้

    6 คน นอนสลบเหมือด หมดสติอยู่เพราะฝีมือใครก็ไม่รู้







    "ตอนนี้ไม่ว่าจะไปหลบตรงไหนก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี  มีแต่พวกเราต้องหาสาเหตุของการระเบิดครั้ง

    นี้ให้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร และต้องการอะไร  ก่อนเรื่องจะลุกลามใหญ่โตไปถึงนักข่าว
    " ชายวัยกลาง

    คนที่ใส่สูทเนี๊ยบ ใส่แว่นตาดำ ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้สั่งการ ในที่นี้เป็นคนพูดขึ้น







    "ก็ใช่ แล้วถ้ามีคนตายมากจนปิดไม่ได้ ตำรวจทางการก็จะเข้ามาวุ่นวาย ขุดคุ้ย ดีไม่ดีอาจสาวไป

    ถึงเบื้องหลังกลุ่มเงินทุนที่ใช้สวนน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมาย
    " ชายอีกคนพูดขึ้น







    (การฟอกเงิน ในที่นี้คือการปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เปลี่ยนเงิน

    สกปรก ให้เป็นเงินสะอาดเพื่อพรางให้เห็นว่าเงินนั้นได้มาโดยสุจริตถูกต้องตามกฎหมาย เช่น

    การนำเงินจากการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าอาวุธสงคราม การพนัน ไปฝากผ่านคนกลาง แล้ว

    นำมาปั่นหุ้น หรือลงทุนในธุรกิจหรือกิจการที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง)







    "ก็นะ บอสที่รวยเอาๆ เป็นแสนๆล้านในเวลาไม่ถึงปีจากการตั้งโต๊ะพนันไอดอลนักฆ่าทั้งในและ

    นอกประเทศ แล้วบอกว่ารวยจากการเปิดสวนน้ำเนี่ย  ใครเชื่อก็บ้าแล้ว
    " ชายอีกคนพูดติดตลก

    แต่ต้องเงียบกริบเมื่อชายคนแรกกระแอมขึ้นมา







    "ระวังปาก ของแกไว้บ้างก็ดีนะ เดี๋ยวจะตายก่อนได้ตังค์" ว่าแล้วคนทั้งหมดก็เข้าไปช่วยดูเจ้า

    หน้าที่ที่โดนแบมแบมทำให้หมดสติ เพื่อมาจัดการกับกล้องต่างๆ เพื่อดึงภาพตามที่พวกเขา

    ต้องการให้







    "ความต้องการอันดับแรกก็คือภาพของใครก็ตามที่บุกเข้ามาในห้องคอนโทรลเมื่อครู่" ชายที่เป็น

    ผู้สั่งการออกคำสั่งแต่เจ้าหน้าที่ มองหน้ากันไปมา ก่อนจะตอบอ้อมแอ้มว่า เบาๆ จนชายคนนั้น

    ทุบโต๊ะดัง ปัง้
    !!







    "อะไรกัน ติดกล้องไว้ซะทั่ว แต่ดันไม่ติดกล้องในห้องคอนโทรล!!" เขาตะวาดลั่น ก่อนจะสั่งให้

    เปิดกล้องในจุดอื่นๆต่อไป







    แบมแบมเอามืออุดปากตัวเองแล้วทำตาโตกับสิ่งที่แอบได้ยิน  แปลว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา

    ก่อกวนสวนน้ำ ที่มีเบื้องหลังไม่ชอบมาพากล โดยมีพวกเขาโดนร่างแหไปด้วย  แต่ยังไงก็แล้ว

    แต่ แบมแบมไม่เชื่อว่าพี่มาร์คจะโดนระเบิดจนร่างเละกระจัดกระจายหาเศษไม่เจอแบบนี้หรอก 

    ยังมีจิ๊กซอว์บางชิ้นที่หายไป







    แบมแบมยังแอบมองไปทางมอนิเตอร์นับสิบที่กลับมาฉายภาพตามจุดต่างๆ ตามปรกติที่เจ้า

    หน้าที่ควบคุม กลับมาทำงานได้แล้ว ซึ่งในจอด้านขวาล่าง ติดกับห้องเก็บเซิพเวอร์กั้นกระจกที่

    แบมแบมอยู่นั้น  ได้ฉายภาพภาพหนึ่งที่ทำให้เขามีความหวังขึ้นมา มันเป็นภาพคนกำลังวิ่ง แม้จะ

    แว๊บเดียว ไม่ได้มีอะไรผิดปรกติ ท่ามกลางคนนับร้อยที่กำลังโกลาหล แต่แบมแบมก็จำได้ทันที


    "ยองแจฮยอง  กำลังวิ่งไปทางนั้น!!??"


     





    /////////////////////////////////////////////


    .
    .
    .
    .


    ในช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้







    "แจ๊กสันฮยอง!!" ยองแจตัดสินใจตะโกนออกมาสุดเสียงโดยที่ไม่สนใจว่าคนชุดดำพวกนั้นจะ

    ได้ยินหรือไม่  และเขาก็ไม่ได้ทำแค่นั้น  ยองแจไม่มัวเสียเวลาปีนบันไดลงจากแพลทฟอร์ม

    กระโดดน้ำ 10 เมตรนั่นด้วยความที่กลัวว่าชายชุดดำ จะคลาดสายตาไปไกล  เขาจึงกระโดดลง

    มาด้านหน้า จากแท่นกระโดดน้ำที่สูงที่สุดนั่น ที่แม้แต่คนว่ายน้ำแข็งๆหลายคนยังไม่กล้ากระโดด

    ลงมาทันที







    "ตูมมม!!! ซ่า!!!" เสียงร่างของยองแจตกกระทบน้ำเกิดคลื่นและเสียงดังกระจายไปทั่ว  ท่าทาง

    ตอนทิ้งตัวลงมาก็ไม่ได้สวยงามอะไร ส่วนที่ตีกระแทกกับน้ำ เช่น แขนที่กางออก และหลังที่ไม่

    ได้ลงตรงๆก็เจ็บมาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากังวล 







    ทันทีที่ร่างบางทิ้งดิ่งจมลงก้นสระจนสุดแล้ว เขาก็ถีบตัวพุ่งขึ้นมาสู่บนผิวน้ำ ก่อนที่จะเอามือลูบ

    หน้าเสยผมที่เปียกแล้วมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็ลอยตัว แล้วว่ายเข้าขอบสระ







    หลังจากเสียงระเบิดข้างนอก แล้วก็เสียงปืนที่ดังขึ้น คนที่เล่นน้ำอยู่ก่อนหน้านี้ก็หนีออกไปกันจน

    หมด  ตอนนี้ในส่วนสระน้ำของสปอร์ท คอมเพล็กจึงเหลือยองแจ อยู่กับความเงียบในนี้เพียงคน

    เดียว   ตอนนี้หัวใจของยองแจก็ยังเต้นรัวไม่หายตระหนก พร้อมๆกับสมองที่เริ่มคิดนู่นคิดนี่ไม่

    หยุด







    "ชายชุดดำพวกนั้นเป็นใครกันนะ แม้จะมี 3 คน แต่สามารถสู้ชนะแจ๊กสันที่ถนัดต่อสู้ระยะประชิด

    ได้  น่าจะมีทักษะฝีมือไม่ธรรมดา แล้วยังปืนนั่นอีก  เมื่อกี้จากระยะที่ผมยืนอยู่ มันไกลเกินกว่าที่

    จะมองเห็นว่าแจ๊กสันถูกยิงเข้าตรงไหน  จะเป็นอะไรมากหรือป่าว
    ...อย่าเพิ่งตายนะแจ๊กสันฮยอง

    เพราะคนที่จะฆ่าฮยองได้ต้องเป็นผมเท่านั้น
    "






     

    ยองแจเดินไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่มาคลุมตัว แล้วรีบเดินตามทางที่เห็นพวกชายชุดดำ

    เดินพาแจ๊กสันไปจนออกมานอกอาคารของส่วน สปอร์ท คอมเพล็ก







    เมื่อออกมาด้านนอก เป็นเวลาตะวันเริ่มคล้อยแล้ว แดดเริ่มร่ม ที่ถนนใหญ่เส้นภายนอกตัวอาคาร

    นั้น มีกลิ่นเหม็นไหม้ลอยมาในอากาศ และมีควันจางๆคลุ้ง ฟุ้งไปทั่ว มีเสียงไซเรนดังอยู่ไกลๆ

    และผู้คนวิ่งกันขวักไขว่ อลหม่านเต็มถนน  นอกจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่แล้ว เจ้าหน้าที่

    สวนน้ำเอง สตาฟที่แต่งชุดคอสเพลตัวการ์ตูนสิงสาราสัตว์ หมา เป็ด นก วัว หมี
    etc อื่นๆก็วิ่งกัน

    วุ่นวายชุลมุนไปด้วย  เด็กบางคนพลัดหลงกับผู้ปกครองก็ยืนร้องไห้กระจองอแง  โดนเบียด โดน

    ผลัก และเหยียบกันก็มี จนยองแจทนไม่ได้ต้องเข้าไปช่วยเหลือ






    แม้ว่าจะรีบแค่ไหนก็ตาม  
    แต่แค่สองมือของเขาก็ไม่สามารถช่วยเด็กที่โดนทิ้งหรือคนที่ล้ม โดน

    เหยียบได้ทั้งหมด เขาคิด
    ว่าน่าจะมีคนมาควบคุมไม่ให้ฝูงชนตื่นตระหนกก่อน ไม่งั้นรอดจาก

    ระเบิดได้  แต่มาเหยียบกัน
    ตายตอนหนีจะมีความหมายอะไร





     

    "ช่วยไม่ได้แฮะ ..." ถึงตอนนี้ยองแจจะเป็นไอดอลนักฆ่าเต็มตัวที่มีภารกิจช่วยชีวิตเพื่อนที่ด่วน

    มาก
      แต่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยฝันว่าอยากทำงานที่ได้ช่วยเหลือผู้คนเหมือนกัน  การควบคุมฝูงชนที่

    กำลังแตกตื่น จารจลหนีตายกันอยู่ ต้องเริ่มจาก มีใครสักคนเป็นผู้นำ ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆรอบตัว

    เราไม่ตื่นตระหนก  ทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างมีสติ  แล้วก็ตัดสินใจอย่างถูกต้องเหมาะสม

    เพื่อออกคำสั่ง และทำการแก้ปัญหา แต่เด็กท่าทางกะโปโลอย่างเขาพูดไปจะมีใครฟัง   แบบนี้

    ต้องอาศัยหุ่นเชิดที่สะดุดตา น่าดึงดูดเสียแล้ว







    และยองแจก็ไปสะดุดตากับกลุ่มสตาฟสวนน้ำที่แต่งคอสเพลย์โจรสลัด คล้ายกับกัปตัน แจ๊ก ส

    แปโรว์ ในเรื่อง
    Pirates of the Caribbean ที่กำลังวิ่งหนีมาทางนี้เหมือนกัน เขาจึงดีดนิ้ว เปาะ!

    อย่างถูกใจ

     

     







    "สวัสดีครับ" อยู่ๆเสียงหวานก็ดังขึ้นข้างหูของคนแปลกหน้าที่กำลังวิ่งหนีตาย และอยู่ๆร่างกาย

    ของเขาก็ขยับไม่ได้ขึ้นมา







    ใช่แล้ว กัปตันแจ๊ค สแปโรว์กำลังถูกยองแจจับแขนหมุนล๊อกเข้าด้านหลังแล้วใช้อีกแขนรัดคอ

    แน่นจนกระดุกกระดิกแทบไม่ได้ ไวจนไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในสภ
    าพนี้แล้ว 







    ตอนแรกคุณกัปตันแจ๊ก ก็พยายามจะดิ้นหนี ตีศอกใส่ ใช้ขาเตะกวาด แต่ยองแจก็หลบได้หมด

    ก่อนจะรัดคอแน่นขึ้น จนคนในวงแขนอึดอัดหายใจแทบไม่ออก







    "อยู่เฉยๆ แล้วฟังผมก่อนสิครับ  ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกนะ" ยองแจกระซิบต่อ ด้วยเสียงเรียบ

    เย็น







    กัปตันแจ๊ก ได้แต่เหลือบตามองข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังแล้วด่าในใจ (นี่นายไม่ได้ทำอะไรแน่

    เหรอ อยู่ๆมาล๊อกคอชาวบ้านหน่ะ
    ) ก่อนจะหยุดดิ้นรน  จนยองแจแน่ใจแล้วจึงปล่อยมือ







    กัปตันแจ๊คทำตาโตถมึงทึง หันค้อนแบบเพื่อนสาว  ก่อนจะพูดสำเนียงถิ่นใส่ยองแจอย่างประชด

    ประชัน ตามด้วยมือไม้ที่ไปหมด ว่าเป็นชายแมนแต่ตัวใจเป็นสาวซะงั้น







    "อาวหล่ะ มีไร...ก็ว่ามา" กับตันแจ๊ก หมุนตัวอย่างกรีดกราย แล้วพ้อยต์มือมาที่ยองแจก่อนจะมอง

    เขาตั้งแต่หัวจรดเท้า







    ยองแจรีบยิ้มพิพม์ใจ ทำตาตี่ใส่ และรัวภาษาถิ่นตอบ "ขอโทษนะครับพี่ชาย...เอ่อพี่สาว  พอดี

    ผมมีเรื่องขอร้องอยากจะขอความช่วยเหลือ...
    "







    "ชริ!! ทำเป็นพูดสุภาพ  ถ้าขอเป็นแฟนชั้นไม่โอเคหรอกนะยะ  ชั้นไม่ชอบหนุ่มบ้านๆ!! แต่เรื่อง

    อื่นลองว่ามาดู
    " คุณกัปตันแจ๊ก พ้อยต์ขา ยืนเท้าเอวต่อเป็นลำดับต่อมา







    ยองแจอึ้งเกือบไปต่อไม่ถูก  ก่อนจะดึงสติกับมาพูดเรื่องที่ต้องการได้







    " ......ตอน  นี้คนที่บาดเจ็บจากระเบิดอาจจะไม่เยอะเท่าคนที่หกล้ม เหยียบกันหนีตาย  แถมมี

    เด็กพลัดหลงกับญาติ ผู้ปกครองอีกหลายคน  ผมอยากให้พวกพี่ชายเรียกร้องความสนใจจากคน

    แถวนี้  ให้ส่งเสียดัง ร้องรำทำเพลง  หรือแสดงอะไรก็ได้ ดึงดูด ปลอบโยนผู้คน แล้วชักจูงให้ไป

    หลบรวมกันในสปอร์ทคอมเพล็กใกล้ๆนี่อย่างสงบเป็นทางเดียวกัน  จากนั้นจะอพยพ หรือทำ

    แผล ดูแลคนบาดเจ็บอะไรก็ทำไป จะได้ง่ายขึ้นนะครับ  ในนั้นมีที่พัก มีอาหารและน้ำดื่ม และ

    ปลอดภัยไม่มีระเบิด
    "







    "เชอะ !! เรื่องแบบนี้ทำไมต้องให้เด็กอย่างนายมาบอก  พวกเราเป็นพนักงานมืออาชีพนะ" แทบ

    จะทันทีที่พูดจบ คุณกัปตันแจ๊ก ก็เป่าปากเรียกรวมพรรคพวกที่คอสเพลย์โจรสลัดมารวมกันเกือบ

    15 คน ก่อนจะเริ่มล้อมวงทำเสียงดังโวยวายเหมือนฉากหนึ่งของการแสดง จนมีคนหยุดมุงดูให้

    ความสนใจ เมื่อมีคนหยุดขวางทาง คนต่อๆไปก็สนใจว่าเขามุงอะไรกันจนกระจายเป็นกลุ่มใหญ่

    ขึ้น จากนั้นก็มีการบอกข้อมูลการอพยพช่วยเหลือคนตามที่ยองแจบอก







    เมื่อผู้คนเริ่มมีสติมากขึ้น ก็ช่วยๆกันส่งต่อข้อมูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยดูแลเด็กและคนเจ็บ

    คนละไม้ละมือ จนเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น ผู้คนที่ได้สติ สงบขึ้นนั้นเริ่มมีกลุ่มใหญ่ขึ้นๆ มากกว่าพวกที่

    ยังแตกตื่น จนค่อยๆ กลืนกันไป ปลอบโยนกันไป จนเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ในที่สุด


    กว่ากัปตันแจ๊ก จะหันกลับมาขอบใจยองแจที่วางแผนให้  ยองแจก็หายไปไหนไกลแล้ว พร้อม

    กับแอบฉวยพร๊อพ(อุปกรณ์ประกอบฉาก/ชุดคอสเพลย์) ไปด้วยชิ้นหนึ่ง ก็คือกล้องส่องทางไกล

    แบบมองด้วยตาข้างเดียวของกัปตันแจ๊คติดมือไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้







    "เจ้าเด็กตาตี่  ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ช่วยรับคำขอบคุณจากชั้นไว้ก็แล้วกันนะ" กัปตันแจ๊ก พูด

    เปรยๆกับตัวเองก่อนจะไปสั่งการพนักงานคนอื่นในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่อ







    ยองแจที่เห็นว่ากัปตันแจ๊กสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีแล้วจึงรีบหลบออกมา เขาทำใจไว้ว่า

    คงคลาดกับพวกชายชุดดำแล้วแน่ๆ แต่เขาก็มีแผนสำรองอย่างอื่นจึงหยิบเจ้านี่มาด้วย โดยหวัง

    ว่าเจ้ากล้องส่องตาเดียวนี้จะทำได้ดีกว่าเป็นแค่พร๊อพ์ประกอบการแสดงนะ ถึงจะไม่ได้หวังเรื่อง

    คุณภา
    พและกำลังขยายของมันมากนัก  แต่หวังว่าจะใช้การได้ดีกว่าการมองด้วยตาเปล่าของเขา

    อย่างเดียว 







    ยองแจเอากล้องส่องทางไกลที่คล้ายกระบอกข้าวหลามนั่นเหน็บไว้ที่กางเกงด้านหลังแล้ววิ่ง

    สวนผู้คนไปยังสถานที่แห่งใหม่ตรงหน้า โดยบังเอิญผ่านกล้องวงจรปิดที่แบมแบมได้เห็นพอดี






    .

    .

    .

    .
     


    เครนบันจี้จั๊ม สูง 100 เมตร ตั้งโดดเด่นอยู่ริมทะเลสาบเบื้องหน้า  ปรกติบริเวณนี้มักจะคลาคล่ำ

    ไปด้วยผู้คนที่รอคิวต่อกันเพื่อขึ้นไปพิสูจน์ความกล้า และท้าทาย  แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่

    เจ้าหน้าที่







    ยองแจดูแปลกใจนิดๆที่ไม่เจอใครสักคนที่นี่  แต่คิดไปคิดมาแล้ว การมีระเบิดดังให้ตกใจหลายที่

    ขนาดนี้  ใครจะมีอารมณ์เล่นอยู่ก็ประหลาดเกินไปหน่อยแล้ว







    เครนบันจี้จั๊มนี้มีโครงสร้างเป็นเสาเหล็กฉากขนาดใหญ่เชื่อมกัน 3 เสาหลักเป็นรูป สามเหลี่ยมสูง

    โดดขึ้นไปในอากาศ ระหว่างความสูงจนถึงยอดบนสุด มีแพลทฟอร์ม (พื้น ที่ยื่นออกไปใน

    อากาศ)ตามความสูงระดับต่างๆที่ 50 เมตร 
    75 เมตร และ 100 เมตร ให้เลือกกระโดดได้ตาม

    ชอบใจ ตรงกลางระหว่างเสาทั้ง 3 เป็นลิฟลูกกรงดูไม่แข็งแรงเท่าไหร่ขนาดพอ 2-3 คนยืน

    เท่านั้น ยองแจไม่รอช้า เดินขึ้นไปบนลิฟท์เล็กๆนั่นแล้วกดไปที่ความสูง 100 เมตรอย่างไม่ลังเล

     







    ลิฟท์ตัวเล็กมีพื้นเป็นเหล็กซี่ๆ มีกำแพงละเพดานเป็นลูกกรงลวดถักเป็นหกเหลี่ยมรังผึ้ง ซีทรูเห็น

    วิวรอบด้านได้อย่างน่าหวาดเสียว ทิวทัศน์เบื้องล่างค่อยๆเปลี่ยนไปตามระดับความสูงจากพื้นที่

    เพิ่มขึ้นๆ เรือที่จอดเรียงรายรอบๆชายฝั่งทะเลสาบ ด้านล่างเครนนี่ เริ่มดูเล็กลงๆ จนเหมือนเรือ

    ของเล่น  สายลมเย็นพัดตีปะทะร่างในลิฟท์ได้โดยตรง และยิ่งสูงขึ้นลมยิ่งตีแรงขึ้นจนลิฟท์

    แกว่ง  เสาและคานก็สั่นเอน มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดูไม่มั่นคง  ในขณะที่มองออกไปทัศนียภาพเบื้อง

    หน้า  สามารถมองเห็นได้ไกลขึ้นๆ  ในยามที่อากาศปลอดโปร่งท้องฟ้าเปิด สามารถมองเห็นไป

    ได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตรด้วยซ้ำจากบนนี้







    เมื่อลิฟท์มาหยุดที่ความสูง 100 เมตร บนแพลทฟอร์มด้านบนสุด ที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 4 x 6

    เมตร พื้นมันสั่นและไหวโยกเอน ตามแรงลมเหมือนกับอยู่บนเรือกลางทะเลตอนที่กำลังมีพายุที

    เดียว  แม้เสาและคานเหล็กจะถูกคำนวณมาอย่างดีว่าไม่หักโค่นลงมาแน่ๆด้วยการฝังเสาเข็มที่

    ลึกมากและแน่นหนา แล้วยังมีลวดสลิงเส้นใหญ่ขึงยึดทุกทิศทุกทางทางด้านล่าง แต่บนยอด

    สูงสุดนี่ ต้องปล่อยให้โยกได้บ้างเพื่อรับแรงกระแทกเวลามีแผ่นดินไหว หรือพายุใหญ่ลมแรงจัด

    ช่วงมรสุม







    บนนี้ลมแรงเสียจนเสื้อผ้าที่เปียกน้ำก่อนหน้านี้ของยองแจแห้งสนิท หนุ่มน้อยตาตี่ที่แม้จะไม่ใช่

    คนที่กลัวความสูง  แต่เมื่อขึ้นมาถึงตรงนี้ก็ อดไม่ได้ที่จะหวาดเสียว ใจเต้นรัว มือไม้เย็น และขา

    สั่น เพราะเวลาลมหอบมาแต่ละที เครนก็ไหวทีแถมร่างบางก็เซเสียจนแทบจะลอยไปตามลมได้

    ถ้าเป็นแบมแบมมานี่คงปลิวไปแล้วหล่ะ







    ยองแจค่อยๆคุกเข่าย่อตัวลงแล้วเอาตัวแนบพื้นในท่านอนคว่ำเพราะกลัวสายลมที่แรงจัดจะพัด

    เขาจน ตกลงไปข้างล่างไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ จากนั้นก็ควักกล้องส่องทางไกลที่ขโมยมาส่องดู

    ตำแหน่งควันไฟจากระเบิดในสวนน้ำที่กว้างใหญ่เบื้องล่าง และก็เป็นดังคาด เจ้ากล้องกะโหลก

    กะลา กำลังขยายไม่ถึง 20
    X ต่างกับกล้องติดปืนที่เขาใช้อยู่ประจำราวก้อนหินกับพระอาทิตย์ 







    เขาพบว่ามีควันไฟน่าสงสัยอยู่ 8 จุด และจุดที่น่ากังวลก็คือสไลดเดอร์ใหญ่ 7 ชั้นที่ถล่มลงมาอยู่

    ใกล้กับสระเด็กและสระน้ำวนกลางแจ้งที่แบมแบมกับมาร์คไปหัดว่ายน้ำกัน  ...มันทำให้เขารู้สึก

    ไม่ดีเลย







    ยองแจกำลังประมวลผลตำแหน่งต่างๆที่ถูกระเบิดตรงหน้ากับแผนที่ที่เขาบังเอิญเห็นแว๊บหนึ่ง

    ตอนไปตามแจ๊กสันก่อนเข้าสวนน้ำ แล้วลำดับความสัมพันธ์ว่ามีอะไรเชื่อมโยง หรือมีอะไรเป็น

    เป้าหมายของเหตุการณ์ในครั้งนี้ไหม...

     





     

    สไลเดอร์ยักษ์ 7 ชั้น   โซนขายของที่ระลึก(รวมซุ้มไอติม)  ร้านอาหารริมน้ำ  ลานจอดรถหลัก 

    สถานนีล่องแก่ง  เรือโจรสลัด  สนามกีฬา
    extreme และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(รวม อควาเรี่ยม) 

    สถานที่ที่ถูกวางระเบิดพวกนี้อยู่กระจายกัน ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผู้คนหนาแน่นความสูญ

    เสียคงมากกว่านี้อย่างไม่ต้องพูดถึง  ทำไมถึงมีระเบิดในวันธรรมดาแบบนี้  ยองแจคิดแบบสวม

    บท ว่าถ้าเขาเป็นผู้ก่อการร้ายเสียเองเขาจะทำอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วการสร้างความเสียหาย

    มากกว่านี้ก็ย่อมทำได้ จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้สับสนในเป้าหมายของคนร้าย  แถมการพาตัวแจ๊ก

    สันไปจะเอาไปทำอะไรได้  ถ้าเป็นเขาน่าจะฆ่าผู้ไม่เกี่ยวข้องทิ้งมากกว่า  หรือจะว่า ผู้ก่อเหตุเป็น

    พวกมือสมัครเล่น...แต่ก็ไม่น่าใช่  ถ้าไม่เกิดจากความจงใจ ระเบิด 8 จุดที่สร้างความเสียหาย

    น้อย แต่สะเทือนขวัญเยอะแบบนี้นั้น  ทำยากกว่าระเบิดที่วินาศสันตะโร คนตายเป็นเบือเสียอีก 

    อย่างน้อยรูปแบบของมันต้องเกิดจากการวางแผนมาอย่างดี  และมีคนลงมือมากกว่า 4 คน

    เพราะ เท่าที่เขาเจอในสปอร์ทคอมเพล็กก็ 3 คนแล้ว ระหว่างที่ยองแจส่องกล้องมองไป ก็คิดไป

    จนพบความเคลื่อนไหวผิดสังเกตจนได้

     






    กลุ่มเรือโจรสลัดจำลอง 3 ธง สร้างด้วยไม้ ขนาดเท่ากับเรือ Black pearl ของจริงกำลังลอยลำ

    ห่างจากฝั่งที่มีกองเรือตามท้องเรื่องหลายลำจอดแสดงอยู่ และมีบางส่วนที่โดนระเบิดจมไป

    หลายลำแล้ว อย่างน่าสงสัย  เขาพยายามปรับกล้องส่องทางไกลในมือ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก

    เรือนั่นมันจะลอยไปถึงไหนกัน ไกลเกินกว่าลมธรรมดาจะพัดมันออกไปนะ เพราะแม้ทะเลสาบรูป

    ตัว
    C นี่จะต่อกับทะเลเปิดด้านนอก แต่ก็มีขอบ บังคลื่น ทำให้น้ำภายในทะเลสาบสงบนิ่ง ไม่น่า

    พัดเรือออกไปไกลขนาดนั้นได้ น่าจะ เกิน 1.5 กิโลเมตร จากจุดแสดงโชว์ได้

     







    ไม่นานต่อมา มีเรือสปีดโบ๊ท ลำหนึ่งขนาด 8 ที่นั่ง แล่นจากฝั่งทางทิศเหนือเข้าอ้อมมาเทียบที่

    ด้านข้างของเรือโจรสลัดนี้  จากมุมไกลๆของยองแจพอจะเห็นแค่ว่า คนขับเรือน่าจะเป็นผู้หญิง

    มากัน 3 คนเพราะใส่บิกินนี่เกาะอก สีสดใส แล้วใส่กางเกงขายีนส์ขาสั้นกุดทับช่วงล่าง  ทั้งสาม

    กำลังลำเลียงถุงผ้าหรือก้อนอะไรสักอย่างสีส้มๆขาวๆ  มีคนจากบนเรือมารอรับ เท่าที่เห็น บนเรือ

    มีผู้หญิงใส่เสื้อเชิตฮาวายลายแจ่ม ยืนกางร่มกันแดดอยู่ 1 คน กับผู้ชายใส่เสื้อคล้ายกัน ยืนชี้นิ้ว

    อีก 1 คน ท่าทางเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ....และอีกอึดใจ ก็มีเรือ สปีดโบ๊ทอีกลำ แล่นจากฝั่ง

    ที่ยองแจอยู่  กำลังจะเข้าเทียบข้างๆเรือโจรสลัด ตรงใกล้ๆกับที่มีเรือสปีดโบ๊ทลำแรกจอดอยู่

     







    หัวใจยองแจกระตุกวูป มือไม้สั่น หลังจากพยายามส่องเล็งอยู่สักพัก เพราะถึงเห็นไม่ชัดเท่าไหร่

    แต่เขาก็แน่ใจว่า บนเรือลำที่ 2 มีชายชุดดำอยู่ 2 คนพร้อมกับร่างของแจ๊กสันที่โดนมัด และโดน

    บังคับถูลู่ถูกัง ลากขึ้นเรือใหญ่ ร่างขาวหนาช่วงบนล่ำมีกล้ามแน่น ใส่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นสีดำ

    และมีกล้ามต้นขาใหญ่ ตัวไม่สูงมาก  รูปร่างแบบนี้เห็นไกลขนาดไหนยองแจก็จำได้ดี เพราะสอง

    มือของเขานี้ก็เคยสัมผัสร่างนั้นไปทั่วทุกส่วนมาแล้ว
    ...แต่เดี๋ยวก่อนทำไมตอนนี้ชายชุดดำถึง

    เหลือแค่ 2 คน แล้วอีกคนไปไหน
    !!??

     







    และแทบจะทันทีที่ยองแจคิดถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงลิฟท์ดัง กึ้ง!! วืดดด!! ลิฟท์ที่จอดอยู่เคลื่อนที่ลง

    เหมือนมีคนเรียกไป และไม่นานเท่าไหร่ รอก เฟืองก็ล๊อก แกร๊ก กริ๊ง
    !! และ หมุนย้อนกลับ เป็น

    เครื่องหมายว่ามีบางอย่างหรือบางคนกำลังขึ้นมาบนนี้ ... หัวใจของยองแจเต้นรัวหนักขึ้นไปอีก

    เมื่อคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมีคนมาโดดบันจี้จั๊มไหม แล้วมองไปรอบตัวก็ไม่มีอาวุธอะไรเลย

    นอกจากกล้องส่องทางไกลโง่ๆในมือที่บอบบาง แทบจะหักได้ด้วยสองนิ้วของมือเดียวได้  ซ้ำ

    เหตุการณ์บนเรือนั่นก็ไม่สามารถละสายตาไปได้ด้วย  เสียงลิฟท์ก็ดังขึ้นๆ บ่งบอกว่ามันขึ้นมา

    ใกล้ขึ้นเรื่อยๆๆ เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...







    "ครืนน!! ติ๊ง!!!" ลิฟซีทรูนั่นมาถึงชั้นบนสุดแล้ว เปิดออก แต่ตอนนี้ยองแจนั่งยองๆหันหลัง เอาตัว

    พิงกำแพงด้านที่มีลิฟท์ แล้วยื่นขาไปขัด ขวางคนที่กำลังจะออกมาจากลิฟท์โดยไม่ได้ดูว่าเป็น

    ใครอะไรแล้ว







    "ตุ๊บ!! โครมมม!!." คนที่เดินออกมาจากลิฟท์ก็ไม่ทันดู ไม่รู้ว่ามัวตื่นเต้นกับวิวด้านบนหรืออย่างไร

    จึงสะดุดกับขายองแจเข้าเต็มที่ หัวทิ่ม แล้วก็ของที่ถือมาในมือกระเด็นกลิ้งไปจนเกือบสุดแพลท์

    ฟอร์ม







    ยองแจจู่โจมคนที่ล้มคว่ำอยู่ด้วยการจับล๊อกแขนแล้วขึ้นคร่อมนั่งทับ ดัดหลังล๊อกคองัดขึ้นมา 

    แต่คนตรงหน้าดันตัวอ่อนกว่าที่คิด เจ้านั่นไม่ได้ฝืนแรงดัดหลัง กลับแอ่นตัวได้องศามากกว่าที่

    เขารั้ง แถมยังยกขาด้านหลังย้อนขึ้นมากระแทกศีรษะของเขาได้ จนยองแจต้องปล่อยมือแล้วกุม

    หัว จึงถูกสองแขนของคนที่อยู่ด้านล่างฟันเข้าซอกคอแล้ว กดร่างเขาลงกับพื้นแล้วเป็นฝ่ายโดน

    คร่อมแทน







    " เห้ย!!.....แบมแบม!!" ยองแจลืมตามองคนตรงหน้าชัดๆ ก่อนจะดันตัวเองลุกนั่งแล้วเปลี่ยนเป็น

    โอบกอดแบมแบมที่หอบตัวโยน อยู่บนร่างเขาแทน







    "...ยองแจ......ฮยอง..ทำไม.....ไม่..ฟัง.....ผม...ก่อน..ล่า..." แบมแบมหอบแฮกๆ จากการต่อสู้

    เล็กๆแล้วกอดตอบยองแจ ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน







    "กำลังเป็นห่วงอยู่เลย มาถึงนี่ได้ไง? นายกลัวความสูงไม่ใช่เหรอ? แล้วมาร์คหล่ะ!!?" พอยองแจ

    ทักเท่านั้นหล่ะ แบมแบมก็ตัวสั่นทันที 







    "เมื่อกี้มัวตื่นเต้น กับการต่อสู้จนลืมไปอ่า ฮยองไม่น่าทักเลย. แบมแบมเข่าอ่อนจนลุกไม่ขึ้นแล้ว"

    แบมแบมเลื่อนตัวลงจากตักยองแจ แล้วนั่งพับเพียบแต่ยังไม่ปล่อยมือที่กอดคนตรงหน้าออก







    "เมื่อกี้แบมแบมถืออะไรมาอ่ะ มันกลิ้งไปอยู่สุดขอบนู่น เกือบตกลงไปข้างล่างแล้ว" ยองแจตบ

    หลังปลอบน้องเบาๆ







    "อ่อใช่ ก่อนหน้านี้แบมเข้าไปที่ศูนย์ควบคุมกล้องของสวนน้ำ เพื่อหาดูภาพจากเหตุการณ์ตอน

    ระเบิด เลยเห็นฮยองเดินมาทางเครื่องเล่นบันจี้จั๊ม แบมก็คิดว่าฮยองต้องขึ้นมาบนนี้แน่ๆเลยตาม

    มา  แล้ว.....มาร์คฮยองหน่ะ....หายไปหลังจากมีระเบิดที่ซุ้มไอติมตรงสระที่แบมแบมอยู่ หายไป

    แบบไม่เหลือซาก ชิ้นส่วนหรือเงื่อนงำอะไรเลย หายไปเฉยๆแบบไร้ร่องลอย
    " เด็กน้อยทำหน้า

    เหมือนจะร้องไห้ แบมแบมดูเหมือนจะเป็นกังวลมาก  แต่ก็ยังควบคุมสติไว้ได้







    "แล้ว... แล้ว ตอนที่แบมติดอยู่ในห้องด้านในของศูนย์สื่อสาร แบมก็ไปเจอแท๊ปเลทที่มีคนลืมไว้

    เลยจัดการดาวโหลดข้อมูลของกล้องวงจรปิดทั้งหมดใส่มา แล้วทุบกระจกอีกข้าง หนีออกมา

    ทางหน้าต่าง  ว่าจะให้ยองแจฮยอง กับ แจ๊กสันฮยองช่วยดู แล้ววิเคราะห์เหตุการณ์ ช่วยกันตาม

    หาคนร้าย แล้วก็มาร์คฮยองด้วย
    " เด็กน้อยพูดต่อโดยที่ดวงตาจับจ้องไปทางแทปเล๊ทที่อยู่ปลาย

    แพลท์ฟอร์มว่ามันสำคัญมากอย่างไม่ปิดบัง
    ...ก่อนจะเอ๊ะใจ แล้วมองไปรอบๆ "แล้ว...แจ๊กสัน    

    ฮยองหล่ะครับ
    ?"







    ก่อนที่ยองแจจะตอบ ก็มีลมหมุนวูปใหญ่พัดใส่จนเครนสั่นไหว และแพลท์ฟอร์มก็เอียงแกว่งไป

    มา
       
    และ...แทปเล็ทตัวสำคัญก็ถไลเลื่อนเข้ามาเกือบเอื้อมถึง แบมแบมจึงปล่อยมือจากยองแจ

    แล้วลุกเอื้อมมือไปคว้า... แต่ลมเจ้ากรรมก็พัดซ้ำมาอีกรอบ แรงกว่ารอบแรกด้วยซ้ำ ทำให้แบม

    แบมที่มัวห่วงของ เซ เสียหลัก ลื่นไปด้านหน้า และในไม่กี่วินาทีก็จะต้องตกขอบลงไปด้านล่าง

    แน่ๆ







    ยองแจมองไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว เขาหยิบห่วงบันจี้จั๊มคล้องขาตัวเองแล้วรูดให้สุดอย่างไวก่อน

    จะสไลด์ตัวตามไปจับแบมแบมไว้อย่างรวดเร็ว







    เซพตงเซพตี้ไม่ต้องมี ยางรัดซัพพอทข้อเท้าและน่อง ก็ไม่มี รองเท้าโดดก็ไม่มี ถ้ามัวเตรียมของ

    พวกนี้คงคว้าน้องไว้ไม่ได้แน่ แล้วยองแจก็คว้าแขนแบมแบมได้ในที่สุด แต่แค่ข้างเดียวเท่านั้น

    เพราะน้องมัวแต่ถือเจ้าแท๊ปเลทนั่น







    "โยนมันทิ้งไป ชีวิตนายสำคัญกว่านะ" ยองแจสั่งขณะที่ร่างทั้งสองลอยออกมาอยู่ในอากาศ







    "แต่...ถ้าเรามีข้อมูลนี่ เราจะได้รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร แล้ว แล้ว มาร์คฮยอง.." แบมแบมดูลังเล

    ซึ่งตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญแล้วเถอะ การตกจากระยะ 100 เมตร ถึงจะมีพื้นน้ำรองรับแต่มันก็ไม่

    ต่างอะไรกับพื้นปูนแน่ๆเมื่อคำนวณน้ำหนัก แรงโน้มถ่วง ความเร่ง อะไรเข้าไปในตอนนี้มีแต่เละ

    กับเละ







    "ชั้นสั่งได้ยินไหม  จะกี่มาร์คก็จะหามาให้ ปล่อยมือจากมันซะ" ยองแจตะโกนเสียงดังใส่แบม

    แบมอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนแบมแบมตกใจรีบปล่อยแท๊ปเลททิ้ง แล้วเอื้อมเอาอีกมือไปจับ

    กับมือของยองแจที่รออยู่ (เหมือนท่าดิ่งพสุธา)







    พอจับได้ยองแจก็ใช้แรงจากข้อมือดึงตัวแบมแบมเข้าหาแล้วกอดไว้แน่น ให้ตัวแนบกัน แล้วหมุน

    มาอยู่ในท่าศีรษะโหม่งพื้น







    "แบมแบมฟังให้ดีแล้วเตรียมตัวไว้นะ  ฮยองก็ไม่แน่ใจว่าเราจะรอดกันไหม เมื่อสุดความสูงของ

    เชือกบันจี้ ถ้าโชคดีมันแน่นพอที่จะรั้ง ร่างเราไว้ เชือกจะกระตุกให้ลอยขึ้นลงอีกหลายทีจนกว่า

    จะหยุด แต่แบมไม่มีเชือกที่ขาดังนั้นต้องกอดฮยองไว้ให้แน่นที่สุดในชีวิต เข้าใจนะ ให้แน่นกว่า

    กอดมาร์คฮยอง ด้วย
    " ยองแจยังมีอารมณ์ใส่มุกระหว่างความเป็นความตาย และนาทีนี้เขาก็ต้อง

    กอดแบมแบมไว้ให้แน่นกว่าทุกอย่างในชีวิตที่เขาเคยกอดมาเหมือนกัน







    ทันทีที่ร่างของทั้งคู่พุ่งเกือบถึงผิวน้ำของทะเลสาบด้านล่าง เชือกก็กระตุกร่างของยองแจไว้ ด้วย

    แรงเหวียงน้ำหนักของสองคน ร่างบางที่หนักแค่ 50 กิโลกรัมของแบมแบม บวกแรง
    g และ

    ความเร่ง ทำให้มวลน้ำหนักเพิ่มขึ้นมหาศาล มันเหวี่ยงจนแบมแบมเกือบจะหลุดมือ จนยองแจ

    เผลอจิกหลังน้องแน่น และแบมแบมก็ทำเช่นเดียวกัน







    ทั้งสองแกว่งเป็นลูกตุ้มขึ้นลง เหวี่ยงไปมาจนเกือบนาที ตอนนี้แบมแบมหน้าแดง น้ำหูน้ำตาไหล

    ทั้ง กลัว ตกใจ เวียนหัว ปวดศีรษะ ผะอืดผะอม ทรมานยากจะบรรยาย ซึ่งยองแจก็ไม่ต่างกันเท่า

    ไหร่ แต่ก็ต้องแสดงความเข้มแข็งของพี่ให้เห็นไม่งั้นสองคนเราก็คงไปไหนได้ไม่ไกล







    "แบมแบม ๆ โอเคไหม?" ยองแจกระชับอ้อมกอดบีบร่างแบมแบมเป็นการกระตุ้น แบมแบม

    ตาแดงนิ่งค้างไปสักพักก่อนจะตอบว่า ไม่เป็นไรแล้ว







    "แบมแบมว่ายน้ำได้หรือยัง  ตรงนี้น้ำน่าจะลึกหน่อยนะ" พอยองแจพูดจบ แบมแบมก็หันหน้าไป

    มองด้านล่าง ซึ่งมีแต่น้ำ ใกล้ตัวที่สุดคือสะพานไม้ที่ยื่นเข้ามาในน้ำแล้วมีโป๊ะ ลอยน้ำอยู่ ห่าง

    ประมาณ 20 เมตร ในสภาพที่สองคนห้อยหัวเท้งเต้งกลางอากาศ ระยะแค่นี้ก็ทำให้แบมแบมรัด

    ยองแจแรงขึ้นอีกได้ด้วยความกลัวและหวาดเสียว







    "อย่างที่แบมแบมคิดแหละ เดี๋ยวแบมต้องปล่อยมือแล้วว่ายน้ำไปที่โป๊ะนั่น ส่งไม้ยาวๆที่อยู่ตรง

    นั้น มาให้ฮยองจับแล้วช่วยเอาตัวฮยองลงแล้วแกะเชือกผูกขา ตอนนี้มันรัดมากจนปลายนิ้วเท้า

    ไม่มีเลือดไปเลี้ยงไม่รู้สึกอะไรแล้ว







    แบมแบมสูดหายใจอัดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ พร้อมกับรวบรวมความกล้า ปล่อยมือจากยอง

    แจ ทิ้งตัวลงไปในน้ำ







    "ตูมม!!!" ร่างแบมแบมหายลงไปในน้ำพักหนึ่ง..... นาน...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยองแจใจร้อนหรือมัน

    นานจริงๆ หรือแบมแบมจะว่ายน้ำไม่ไหว ....ยองแจจ้องผิวน้ำตรงจุดที่แบมแบมลงไปเขม็ง ก็ไม่มี

    ความเคลื่อนไหว....เขารอจนเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว แต่กลับมีเสียง จ๋อม..แจ๋ม....มาจากทาง

    โป๊ะ







    "แฮกๆๆ " แบมแบม ดำน้ำไกลไปโผล่ตรงโป๊ะนั่น แล้วค่อยๆยักแย่ยักยันร่างบางที่อ่อนแรง ไต่ขึ้น

    โป๊ะอย่างทุกลักทุเล ก่อนจะจับไม้ยาว ส่งมาสอยยองแจลงไป







    ยองแจกลั้นหายใจลุ้นน้องด้วยความโล่งอก จับปลายไม้ยาวที่แบมแบมส่งให้แล้วค่อยๆไต่ลงไป

    พอถึงโป๊ะ แบมแบมก็ช่วยดึงตัวยองแจลงมาแล้วช่วยกันปลดเชือกบันจี้เส้นใหญ่ออก  โชคดีที่

    หยิบได้เส้นที่เป็นเงื่อนรูดแบบออริจินอล ถ้าเป็นแบบใหม่คงจะคล้องกับข้อเท้าเปล่าๆแบบนี้ไม่

    ได้แน่







    แบมแบมคุกเข่าก้มหน้า เข้ามาลูบข้อเท้าที่เป็นรอยแดงจากการถูกเชือก รัดกัดเข้าไปในเนื้อลึก

    ชัดเจน ของยองแจอย่างรู้สึกผิด  วันนี้อะไรหลายๆอย่างดูแย่ลงเพราะเขาหรือเปล่า ถ้ามาร์ค      

    ฮยองไม่ไปซื้อไอติมให้  ถ้าเขาไม่มาหายองแจฮยอง คงจะไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า...







    "ถ้ามัวก้มหน้า จะไม่ตามหามาร์คฮยองให้นะ" ยองแจทำท่ากอดอกมองไปบนท้องฟ้าแบบไม่รู้ไม่

    ชี้ แต่สิ่งที่เขาพูดทำให้แบมแบมเงยหน้าทำตาโตใส่อย่างไม่ปิดบัง







    ยองแจจึงเล่าเรื่องแจ๊กสันถูกชายชุดดำพาตัวไปและเรื่องที่เขาเห็นเรือโจรสลัดเคลื่อนไหว และ

    เรื่องสปีดโบทสองลำก่อนที่แบมแบมจะมาถึง ให้ฟัง







    "เดี๋ยวนะฮยอง... ถ้าบนเรือลำที่ 2 เป็นแจ๊กสันฮยองจริง บนเรือลำแรกก็เข้าเค้าเหมือนกัน ...จาก

    ที่แบมจำได้มีผู้หญิง2-3 คนยืนซื้อไอติมก่อนมาร์คฮยอง ช่วงบนใส่บิกินี่สีสด แล้วก็มาร์คฮยอง

    หน่ะใส่กางเกงขาสั้นถึงเข่าลายสีส้มด้วย คนพวกนี้น่าสงสัยและน่าจะเป็นพวกเดียวกันนะ"แบม

    แบมให้ความเห็น







    "เหรอ... มาร์คใส่กางเกงสีส้ม อืมมม เจ้าห่อนั่นมันไกลมากหน่ะ จะเป็นตัวคน ก็เป็นไปได้เหมือน

    กัน แล้วพวกมันจับสองคนนั่นไปทำไมหล่ะ คงไม่ใช่จับคนที่ขวางทางมั่วๆแล้วมั้ง" ยองแจตอบ







    "เรียกค่าไถ่หรือเปล่า? บ้านมาร์คฮยองรวยจะตาย ติดอันดับโลกด้วยนะ" แบมแบมตอบ






    "เหรอ แต่แจ๊กสันหล่ะ ...จริงๆแล้วก็ไม่รู้นะว่ารวยขนาดไหน  ถ้าจะน่าสงสัยก็ตรงงานเบื้องหลัง

    ก่อนที่เขาจะมาเป็นไอดอลนักฆ่ามากกว่า  แล้วการวางระเบิดพวกนั้นมันดูเป็นการสุ่มมากกว่า

    เจาะจงจัดการพวกเรานะ
    " ยองแจยังไม่ค่อยคล้อยตามกับข้อสรุปของแบมแบม







    "จริงด้วย แบมแบมได้ยินพวกเจ้าหน้าที่คุยกันว่าสวนน้ำแห่งนี้มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส เลยโดยคน

    บางกลุ่มก่อกวน แล้วฮยองสองคนนั้นบังเอิญไปรู้เห็นอะไรหรือป่าวเลยโดนจับไป ....หรืออาจจะ

    พาตัวเอาไปฆ๋าปิดปากทีหลัง
    !!?" แบมแบมเพิ่งนึกได้อย่างตื่นเต้น







    ".....อันนี้ค่อยฟังดูมีเหตุผล  งั้นเราจะช้าไม่ได้แล้วต้องรีบไปช่วยสองคนนั่นที่เรือโจรสลัดกลาง

    ทะเลสาบ ก่อนที่เรือนั่นจะแล่นออกทะเลใหญ่ไปไกลกว่านี้
     " ยองแจสรุป







    จากชายฝั่งไปถึงเรือนั่น ตอนนี้มันน่าจะออกไปไกลกว่า 1 โมล์ทะเล (1.8 กิโลเมตร) ได้มั้ง ยอง

    แจ กับแบมแบมจึงวิ่งหาเรือสปีดโบทที่จะใช้ตาม ไปทั่วชายหาด
    ( ทะเลสาบเส้นผ่านศูนย์กลาง

    5
    km. ก็มีเส้นรอบวง หรือความยาวของหาดรอบๆ 15.7 km ) ยองแจคำนวณระยะทางแล้ว ตอน

    สภาพพร้อม 15 กิโมเมตรต้องใช้เวลาวิ่งปรกติตั้ง 1 ชั่วโมงนิดๆ พวกเขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น

    แน่ จึงตัดสินใจเรียกแบมแบมกลับมาแล้วเดินไปดูเครื่องเล่นพวก สกูตเตอร์ เรือพาย หรือ

    จักรยานน้ำแทน







    ตอนนี้รอบชายหาดไม่มีคนเลย คงเพราะมีระเบิดส่วนของเรือที่โชว์ริมฝั่ง แต่โชคร้ายที่เรือพาย

    และพวกสกูตเตอร์ เจ็ทสกี เรือใบเล็ก ถูกยิงจนไม่ถังน้ำมันรั่ว ก็ พื้นเรือรั่ว ไม่สามารถใช้การได้

    ลอยปริ่มๆน้ำ มีน้ำเข้ากันหมด เหมือนกับจะรู้ว่ามีคนจะตามไปสินะ  ยองแจทรุดเข่าลงอย่างหมด

    แรง  แต่แบมแบมไม่หยุดกับที่ เขายังกึ่งเดินกึ่งวิ่งสำรวจ เครื่องเล่นต่ออย่างไม่ทิ้งความหวัง







    "ยองแจฮยอง มานี่เร็ว" แบมแบมร้องเรียกยองแจด้วยเสียงตื่นเต้น อยู่ตรงมุมศาลาที่มีกอ กก พุ่ม

    ใหญ่อยู่ ยองแจจึงฝืนดันตัวลุกขึ้นไปหา และพบว่าหลังกอ กก นั่นมีจักรยานน้ำรูปหงส์คู่รัก หัน

    หัวหากันเป็นรูปหัวใจสภาพดี ไม่มีรอยโดนยิง ลอยอยู่ และแบมแบมไม่รอช้ากระโดดลงไปแล้ว







    พวกเขาไม่มีเสื้อชูชีพและว่ายน้ำกันยังไม่แข็ง แต่ถ้าไม่ใช้เจ้านี่ก็ไม่มีอะไรจะพาพวกเขาไปยัง

    เรือใหญ่ที่กำลังแล่นไกลออกไปได้แล้วหล่ะนะ  ยองแจจำใจปีนลงไปนั่งข้างๆแบมแบม แล้วช่วย

    กันถีบปั่นจักรยานน้ำออกจากฝั่งไป







    แรกๆมันก็สนุกดีเหมือนกันนะ ช่วยกันปั่นก็ไปได้เร็วขึ้น ใครเหนื่อยก็ผลัดกัน เป็ดเอ้ย หงส์คู่รักก็

    ค่อยๆ เคลื่อนตัวห่างจากฝั่งมาเรื่อยๆ โดยมีพระอาทิตย์ที่คล้อยต่ำสาดแสงแดงส้มทาบขอบฟ้า

    บอกเวลาโพล้เพล้







    "จริงๆนี่ควรเป็นเวลาที่เราจะได้มาดินเนอร์ดูพระอาทิตย์ตกดิน แล้วรอดูดอกไม้ไฟกันนะเนี่ย"

    ยองแจรำพึงขึ้นเบาๆ







    "ตอนนี้ก็ดูได้นะพระอาทิตย์ตกหน่ะ  ฮยองก็ดูไปสิ  ดูกับแบมแบมมันเสียหายมากเหรอฮะ ใช่สินะ

    ผมมันไม่ใช่แจ๊กสันฮยองหนิเนาะ
    " แบมแบมเป็นฝ่ายล้อเลียนปรับอารมณ์ของยองแจบ้าง  มัน

    เป็นโชคดีกว่าอะไรทั้งหมดที่พวกเขาไม่ต้องเผชิญเหตุการณ์อะไรเหล่านี้โดยลำพังคนเดียว การ

    ทำให้คนรอบข้างอารมณ์ดีขึ้นสักนิดย่อมดีกว่าหดหู่กันทั้งคู่อยู่แล้ว และยองแจก็ยิ้มออกมาได้







    "แหมๆ เมื่อกี้ยังร้องไห้หามาร์คฮยองอยู่เลย ตอนนี้เก่งแล้วใช่ไหมๆๆ!!?" ยองเจหยุดปั่นแล้วใช้

    สองมือดึงแก้มนุ่มของแบมแบมแกล้งน้องแทนจนจักรยานน้ำโคลงเคลง







    แบมแบมก็เล่นด้วยหัวเราะคิกคัก ไม่รู้เวล่ำเวลา ก่อนที่อยู่ๆจะหยุดเล่นหน้าเสีย พอๆกับยองแจที่

    หยุดมือเหมือนกันเพราะรู้สึกบางอย่างได้







    เจ้าเรือหงส์คู่รักค่อยๆหนักขึ้นๆๆ ถีบเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยไปแล้ว  และ.............ใช่แล้วมันกำลังจะจม

     







    พวกนั้นเป็นมืออาชีพนี่นะ  คงไม่พลาดเหลือจักรยานน้ำลำนี้ไว้หรอก  น่าจะเป็นการจงใจวางแผน

    ไว้แล้ว  แต่ตอนนี้พวกเขาก็ออกมาไกลจากฝั่ง พอๆกับระยะที่จะไปถึงเรือใหญ่แล้วนะ







    "แบมแบมเพิ่งเข้าใจว่า ..กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" เด็กน้อยยิ้มสู้ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่าเขา

    ก็กลัวไม่น้อย







    เป็นพี่แล้วยังต้องให้น้องมาปลอบ ใช้ไม่ได้เลยแหะ  ยองแจแอบตำหนิตัวเองในใจ แล้วตัดสินใจ

    ทำบางอย่าง...

     







    /////////////////////////////////


    .

    .

    .


    เสียงนกนางนวลร้องดังระงมอยู่ใกล้ๆเหนือศีรษะ ถือเป็นเรื่องปรกติของส่วนบริเวณที่อยู่ใกล้

    ชายทะเล แจ๊กสันดำดิ่งสู่ความทรงจำครั้งอดีตที่เคยถูกทรมาณอยู่ในคุกบนเกาะร้างห่างไกล

    กลางทะเล ทุกวันมักจะได้ยินแต่เสียงคลื่นทะเล และเสียงนกนางนวลแบบนี้เสมอๆ  ก่อนจะถูก

    ดึงกลับมาด้วยการสาดน้ำทะเลใส่หน้าจนได้สติรู้สึกตัว







    "ฝันหวานไปถึงไหนแล้วหล่ะจ๊ะ" เสียงทุ้มกังวานใส ของสาวสวย กล่าวทักทายแจ๊กสันที่กำลัง

    สบัดศรีษะแล้วลืมตาขึ้น 
    หน้าของเขามุ่ยบูด บึ้งตึงบอกบุญไม่รับตาขวางมองกลับ แล้วก็ต้อง

    ตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น







    สาวสวย สาม เอ่ออ... สี่คน กับชายหนุ่ม ในชุดบอดี้สูทดำน้ำสีดำ สาม.... สี่..... ห้า ..คน กำลังนั่ง

    ยองๆบ้าง คุกเข่าบ้างล้อมรอบๆบางสิ่ง ที่เขาคุ้นๆ อยู่ไม่ไกลออกไปนัก







    ช่องไฟระหว่างบุคคลที่ล้อมบางอย่างกันอยู่นั้น มีระยะห่างเป็นช่องลอดให้เห็นว่านั่นคือผิวขาวๆ

    น่าจะเป็นคน  และแว๊ปหนึ่ง ก็เห็นเป็นสันจมูกและใบหน้าด้านข้างของคนที่นอนอยู่แล้วโดนล้อม

    ไว้ ทำให้แจ๊กสันจำได้ทันที







    "นั่นมาร์คหนิ เห้ย!!" เขาร้องเสียงหลง  มันดังมากจนทำให้คนทั้งหมดหันมาทางเขา!!!









    .............................





    100% แล้ว  เช็คคำผิดรอบที่ 2 จ้า



    มันเป็นอาถรรพ์แน่ๆ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆค่ะ บอกจะมาไวทีไร ทำไมช้าทุกทีน๊า


    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ตอนที่แล้วเรทติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ ถึงจะไม่ค่อยมีคอมเม้นต์ แต่แอบหื่นเงียบกันใช่ไหม

    ล่า  บางทีเค้าก็เหงาน๊า ถึงพล๊อทจะไปไกลแค่ไหน แต่ไรท์ก็พิรี้พิไรได้ตลอด 555 กะจบตอนนี้ก็ไม่จบซะงั้น ต้องตามต่อไป

    กันนะคะ   _/|\_ โปรดติดตามตอนต่อไปน๊าาาาาา plzzzzzzzzzzๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รัวๆ แบบยองแจ อิอิ












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×