ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่โรมคลั่งรัก #พี่โรมเถื่อนมาก [แซ่บXดุ] มี E-Book + เล่ม

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1.2 - ภาพติดตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 665
      5
      20 ก.ค. 66






    ภาพติดตา



                เช้านี้ใบหน้าของพริ้งพลอยไม่แจ่มใสเท่าที่ควร เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงได้ใช้เวลาอยู่เกือบสองชั่วโมง ภาพและเสียงที่ไม่พึงประสงค์ตามหลอกหลอนแม้กระทั่งในความฝัน สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด ยิ่งพยายามจะลืมกลับยิ่งจดจำ ได้แต่ปลงตกว่าคงต้องอยู่กับมันไปจนกว่าสมองจะถูกแทนที่ด้วยเรื่องราวใหม่ ๆ แต่ตอนนี้เธอต้องผ่านสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าไปให้ได้เสียก่อน

                ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำเรียบหรูนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอยู่ที่โซฟาตัวยาวกลางห้องโถงใหญ่ บนตักของเขามีไอแพดขนาดกะทัดรัดวางอยู่ สายตาจดจ่อกับหน้าจอสี่เหลี่ยม ท่าทางสุขุมแตกต่างจากเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง แม้พริ้งพลอยจะคุ้นเคยกับมาดนักธุรกิจของโรมมาตั้งแต่เด็ก แต่ทุกครั้งที่เห็นเขาในลุคนี้ เธอจะรู้สึกประหม่าและตื่นเต้น

                ยิ่งเวลาที่นัยน์ตาคมดุจ้องมอง หัวใจของเธอบีบรัดราวกับถูกแช่แข็ง สองขาที่จะก้าวลงบันไดในแต่ละขั้นชะงักไปโดยปริยาย พริ้งพลอยสูดลมหายใจเข้าลึก จังหวะที่โรมวางแก้วกาแฟลงบนจานรองเซรามิกเรียบหรู เขาตวัดสายตาขึ้นมองสาวน้อยในชุดนักศึกษา เสื้อสีขาวกลัดกระดุมตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยเข้ารูป กระโปรงพลีทสีดำยาวคลุมข้อเท้า มัดผมรวบยาวอวดใบหน้าขาวกระจ่างใสที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์พอเป็นพิธี มองแล้วสบายตาสบายใจ ไม่ฉูดฉาดเหมือนนักศึกษาสาวบางคนที่แต่งหน้าหนักจนดูไม่เป็นธรรมชาติ

                “เสร็จแล้วใช่ไหม” โรมยื่นไอแพดส่งให้สาวใช้นำไปเก็บไว้บนห้องเหมือนทุกครั้ง เขาลุกขึ้นยืนเดินนำหน้าพริ้งพลอยไปที่ประตูไม้สัก สวมรองเท้าหนังคู่ใจ รถเปิดประทุนสุดหรูจอดรออยู่ตรงหน้า โรมนั่งประจำที่คนขับ หันมองพริ้งพลอยที่เอาแต่ยืนนิ่ง

                “ไม่ไปสอบเหรอ” มุมปากหยักกระตุกยิ้มเบา ๆ สองมือกำพวงมาลัยเตรียมพร้อม

                “พริ้งให้พี่ปั้นไปส่งเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ”

                ปั้นเป็นคนขับรถประจำตัวหญิงสาวตั้งแต่เด็ก พริ้งพลอยนับถือเขาเหมือนพี่ชายคนที่สอง

                “คุณพริ้งไปกับคุณโรมดีกว่าครับ”

                สีหน้าของบุคคลที่สามดูลำบากใจไม่น้อย พริ้งพลอยเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที เธอเลิกดื้อดึงที่จะให้ปั้นขับรถไปส่ง ยอมขึ้นรถหรูของโรมตามความต้องการของเขา

                โรมปิดประทุนรถทันทีที่ร่างบางขึ้นนั่ง ระหว่างขับรถเขามักเปิดเพลงสากลฟังไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงที่หมาย และเพลงที่เขาโปรดปรานก็มีอยู่ไม่กี่เพลง พริ้งพลอยมักได้ยินท่วงทำนองเหล่านี้ภายในบ้านเสมอ อย่างน้อย ๆ ก็ห้องทำงานของโรม ที่เธอรับหน้าที่คอยชงกาแฟและเตรียมของว่างไปเสิร์ฟให้เขาถึงโต๊ะ

                “คิดหรือยังว่าจะทำงานอะไรหลังเรียนจบ” โรมเป็นฝ่ายเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน หลังจากปล่อยให้ความเงียบปกคลุมอยู่หลายนาที

                “ก็มีคิด ๆ บ้างค่ะ” พริ้งพลอยตอบตามตรง สอดประสานนิ้วเรียวทั้งสองมือวางบนตัก ทอดสายตามองตรงไปยังท้องถนนเบื้องหน้า

                “พี่เตรียมตำแหน่งไว้ให้พริ้งแล้วนะ ทำงานที่บริษัทฯ ของเรานี่แหละ ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล” โรมแค่ถามพอเป็นพิธี แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาคิดแทนเธอมาแล้วทุกอย่าง

                เขาเป็นแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เธอจำความได้ พริ้งพลอยไม่เคยได้ตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองจริง ๆ จัง ๆ เลยสักครั้ง โรมใช้อำนาจของความเป็นผู้ปกครองกำหนดทิศทางให้เธอเดินไปตามเกมของเขา เธออยากเรียนทำอาหารเขาก็ไม่อนุญาต อยากเรียนเต้นเขาก็ขัดขวาง อยากเปิดร้านขายขนมเขาก็ไม่เห็นด้วย เขาอ้างว่าอาชีพเหล่านั้นไม่ยั่งยื่น เขาพูดเสมอว่าพวกเรามีบริษัทฯ ที่ต้องดูแล เธอรู้ รู้มาตลอดว่าครอบครัวของเขาร่ำรวยจากการทำธุรกิจรุ่นสู่รุ่น แต่เธอไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริงของตระกูลเขา เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่พี่สาวของเขาเมตตาเก็บมาเลี้ยง และพริ้งพลอยยังจำได้ไม่ลืมว่าเรนนี่เคยรับปากว่าจะให้เธอใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ ไม่ว่าเธออยากทำอะไรหล่อนก็จะไม่บังคับ

                แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครขัดคำสั่งของโรมได้อยู่ดี

                “พริ้งอยากหางานทำเองค่ะ”

                แต่วันนี้เธอขอยืนหยัดเพื่อตัวเองสักครั้ง

                โรมทำหูทวนลมไม่ฟังคำคัดค้านของพริ้งพลอย ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนอง มีเพียงสายตาคมนิ่งที่มองตรงไปยังท้องถนน รถหรูแล่นไปเรื่อย ๆ ไม่ต่างอะไรกับคนขับที่ดูใจเย็นผิดปกติ พริ้งพลอยรู้สึกว่าเขานิ่งเกินไป ซึ่งมันผิดวิสัยของผู้ชายเจ้าอารมณ์อย่างโรม ลองถ้าออกคำสั่งแล้วถูกต่อต้านมีหรือที่เขาจะไม่โกรธ

                “ได้ยินที่พริ้งพูดไหมคะ พริ้งอยากหางานทำเอง พริ้งจะไม่ไปทำงานที่บริษัทฯ ของพี่โรม”

                “บริษัทฯ ของเรา” หางตาตวัดมองร่างบางเล็กน้อย

                “นั่นแหละค่ะ พริ้งไม่ทำงานกับพี่” มองผิวเผินดูเธอใจกล้าต่อปากต่อคำกับเขา แต่เอาเข้าจริงหัวใจดวงน้อยเต้นรัวกระหน่ำ เหงื่อชื้นเต็มฝ่ามือยามเขาเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นอีกระดับ

                ดูเหมือนว่าความหัวรั้นของเธอจะกระตุ้นต่อมโทสะของโรมได้แล้ว แบบนี้ค่อยสมกับเป็นตัวเขาหน่อย โรมที่เธอคุ้นชินต้องหันมามองหน้าเธอด้วยสายตาดุดัน ไม่ใช่เพียงยิ้มมุมปากแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                เดี๋ยวนะ ยิ้มมุมปากเหรอ…?

                “ยิ้มอะไรคะ” เขายิ้มมุมปากขณะมองเธอพลางส่ายหัว พริ้งพลอยเอ่ยถามออกไปเพราะความอยากรู้

                “พี่เอ็นดูพริ้ง” ก็จะไม่ให้เขาเอ็นดูยังไงไหว ตั้งแต่ขึ้นรถได้แม่น้องสาวบุญธรรมของเขาก็เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง ทำตัวหวาดระแวงราวกับเขาจะกินหัว แต่พอพูดเรื่องงานเท่านั้นแหละ วิญญาณแม่ชีรักสงบออกจากร่างโผงผางไม่หยุด ทำเป็นเสียงแข็งต่อต้าน แต่แววตาสั่นระริกเหมือนแมวน้อยกลัวถูกดุ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลึก ๆ แล้วน้องกลัวเขามากแค่ไหน

                ขนาดพยายามลดความดุลงแล้วนะ แทนที่จะชื่นชมกลับสงสัยและหวาดระแวงเขาหนักกว่าเก่า สงสัยพี่โรมคนนี้คงต้องละทิ้งบทพี่ชายใจเย็นแล้วกลับมาสวมบทพี่ชายแสนโหดจอมเผด็จการเหมือนเดิมแล้วมั้ง

                “พริ้งอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ถึงเวลาที่พริ้งเรียนจบเมื่อไร ยังไงก็ต้องไปทำงานที่บริษัทฯ”

                “แต่พริ้ง

                “ห้ามมีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น” โรมชิงตัดบทก่อนที่เสียงหวานน่าฟังของน้องจะเอ่ยจบ ปรายหางตามองให้รู้ว่าถ้าขืนเธอยังพูดไม่รู้เรื่องได้เจอดีแน่ คนที่พยายามจะทำตัวดื้อรั้นกับเขาสักครั้งจำต้องเงียบ ได้แต่ถอนหายใจนั่งกอดอกมองออกไปยังนอกกระจกรถ อย่างน้อยวิวทัศน์ข้างทางก็ช่วยให้รู้สึกใจเย็นขึ้น กว่าจะถึงมหาวิทยาลัยใช้เวลาเดินทางนับชั่วโมง พริ้งพลอยได้แต่ภาวนาให้วันนี้รถไม่ติด เธออยากหลุดพ้นจากสถานการณ์น่าอึดอัดใจ ไม่อยากอยู่ใกล้โรมนานกว่านี้

                และแล้วแรงปรารถนาของหญิงสาวก็สัมฤทธิ์ผล วันนี้ถนนโล่งทำให้มาถึงมหาวิทยาลัยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ พริ้งพลอยหันไปสวัสดีโรมก่อนลงจากรถ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเดินห่างรัศมีรถหรู กระจกรถสีเข้มถูกเลื่อนลงโดยคนขับด้านใน

                “เรื่องเมื่อคืน”

                “

                “พี่ขอโทษ”

                คำขอโทษที่ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าขอโทษเรื่องอะไร โรมสบตากับพริ้งพลอยนิ่ง ทั้งสองมองหน้ากันผ่านกระจกกั้น เขาพยายามมองหาความรู้สึกบางอย่างผ่านแววตาใสซื่อของน้อง แต่ไม่ว่าจะเพ่งลึกแค่ไหนเขาก็ไม่เห็นความรู้สึกอื่นใดนอกจากความเย็นชา

                โรมยิ้มสมเพชตัวเอง ตลอดทั้งคืนเขาได้แต่คิดและกังวลไปต่างนานา กลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดหรือคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของเขา เขาซ้อมคำพูดมากมายหวังจะนำมาอธิบายให้เธอเข้าใจ ทว่าสุดท้ายกลับคิดได้ว่าไม่ควรมีคำแก้ตัวใด ๆ ในเมื่อคนผิดคือเขา แค่น้อมรับและเอ่ยคำขอโทษอย่างจริงใจก็เพียงพอแล้ว

                ด้านพริ้งพลอยเองไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก เธอกำลังอึ้งว่าเหตุใดโรมถึงต้องมาขอโทษในเมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดอะไร มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เธอต่างหากที่ไม่ควรไปล่วงรู้

                “ไม่” กว่าจะได้สติว่าควรตอบอะไรสักคำออกไปบ้าง รถหรูของโรมก็ออกตัวไปไกลแล้ว

                พริ้งพลอยสะบัดศีรษะขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน สาวเท้ามุ่งตรงไปยังตึกคณะ ระหว่างทางเจอรุ่นน้องที่สนิทก็แวะทักทายกันตามปกติ ภายใต้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ใครจะรู้ว่าหัวใจของเธอกำลังว้าวุ่นกับพฤติกรรมที่แปลกไปของโรม เสียงทุ้มของเขายังคงดังก้องอยู่ในหู  

                “เรื่องเมื่อคืน พี่ขอโทษ”

                ขอโทษ ขอโทษทำไมกัน

                เขาจะทำอะไรกับใครทำไมต้องมาขอโทษเธอด้วย




    แวะคุยกันหน่อยนะคะ ^_^

    คุณพี่ก็รู้สึกผิดที่แอบกินตับสาวในบ้านจนน้องมาเห็น ส่วนตัวน้องก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของพี่ เฮ้อ ><

    ฝากคอมเมนต์ให้ด้วยน้า ถ้าชอบหรือไม่ชอบ เพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนแพงจ้า



    ฝากแฟนเพจนิยายด้วยนะคะ




    ฝากนิยาย E-Book ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ รับประกันความแซ่บจ้า

    กดเข้าที่ภาพได้เลยจ้า



     

     

     

     

     

     

     

     








    E-Book พี่โรมคลั่งรัก

    ราคาโปรโมรชั่น 140 บาท

    ฝากความรักแซ่บๆ แบบฉบับพี่โรมด้วยจ้า

    ไปโหลดกันน้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×