ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [sf/os] smiles and tears ; Chanbaek

    ลำดับตอนที่ #10 : Smile

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.22K
      48
      4 พ.ค. 60

    Smile

     

    "น้องครับ ไหวมั้ย"

     

    ท่ามกลางความชุลมุน นักศึกษาปีหนึ่งวิ่งวุ่นเมื่อรุ่นพี่สั่งให้ไปหาพี่รหัสตามคำใบ้ แต่มันอาจจะชุลมุนเกินไป จึงทำให้เด็กผู้ชายตัวเล็กที่เงอะๆงะๆ ทำอะไรไม่ถูก โดนเพื่อนคนอื่นชนจนล้มไป เขานั่งอยู่แบบนั้นพักหนึ่ง จนมีคนเดินเข้ามาถาม

    เสียงทุ้มที่เอ่ย พร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้คนตัวเล็ก มันทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และมันก็ทำให้รู้ว่า

     

    บยอนแบคฮยอน นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะนิเทศศาสตร์ ตกหลุมรักรุ่นพี่ร่วมคณะเข้าให้แล้ว

     

     

    หลังจากพ้นช่วงรับน้อง แบคฮยอนที่คิดว่าจะได้เจอกับพี่คนนั้นน้อยลง ก็ผิดคาด เขาได้เจอพี่คนนั้นทุกวัน เรียกได้ว่าแทบจะเช้า กลางวัน และเย็นเลยทีเดียว

    ปาร์คชานยอล นักศึกษาชั้นปีที่3 คณะนิเทศศาสตร์ เป็นรุ่นพี่ที่แบคฮยอนตกหลุมรัก และมันก็แปลกอยู่อย่าง ในกรณีที่แบคฮยอนเป็นฝ่ายตกหลุมรัก ต้องเป็นแบคฮยอนเองไม่ใช่หรือ ที่ต้องคอยตามแบบนั้น

     

    "เลิกเร็วจังเลยนะครับ" ชานยอลฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรอเดินมา

     

    "อาจารย์มีประชุมน่ะครับ รอนานหรือยัง"

     

    "เพิ่งมาครับ เพิ่งเรียนเสร็จ" ชานยอลพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มจากแบคฮยอนมาถือ

     

    "วันนี้ไปกินเนื้อย่างกันนะ ผมอยากกิน" แบคฮยอนเอ่ยอย่างอ้อนๆ พร้อมกับสอดมือไปควงแขนคนตัวสูงอย่างที่ทำประจำ

     

    ก็ในเมื่อคนมันมีใจอยู่แล้ว การที่ถูกเข้าหามันก็ดีมากแล้วไม่ใช่เหรอ

     

    ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะไม่เคยได้ยินคำสารภาพจากชานยอล ว่ารู้สึกยังไง แต่เขาก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกหรอกนะว่าชานยอลกับแบคฮยอนน่ะ มีความรู้สึกที่เหมือนๆกัน

     

    ต่างคนต่างตกหลุมรักรอยยิ้มกันและกัน

     

    ไม่ต้องบอกออกมาเป็นคำพูดหรอก แค่การกระทำในแต่ละวัน มันก็มากพอแล้ว ใครๆเขาก็รู้ ว่าทั้งสองคนน่ะ รู้สึกยังไง พี่ก็คอยตามรับตามส่ง น้องก็คอยป้อนข้าวป้อนน้ำเวลาคนพี่ทำงาน ทุกการกระทำน่ะ มันอยู่ในสายตาคนทั้งคณะนั่นแหละ จะเว้นก็แต่บางคน ที่ไม่เคยจำสักที ว่าไม่ควรจะไปแทรกกลางสองคนนี้

     

    "แบคฮยอนคร้าบบ" เสียงที่ดังมาแต่ไกล ทำเอาชานยอลต้องมองบนเบะปาก

     

    คิมจงแด นักศึกษาชั้นปีที่2 คณะนิเทศศาสตร์ พ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนพี่รหัสของแบคฮยอน ที่เอาแต่ตามตื๊อแบคฮยอน เทียวไล้เทียวขื่อได้ทุกวี่ทุกวัน

     

    "หยุดเลยจงแด!" ตัวจงแดหยุดชะงัก เพราะถูกกระชากคอเสื้อโดยเพื่อนสนิท

     

    คิมมินซอก นักศึกษาชั้นปีที่2 คณะนิเทศศาสตร์ มีศักดิ์เป็นพี่รหัสของแบคฮยอน เดินเข้ามา หันมายิ้มแหยๆให้ชานยอลหนึ่งทีแล้วค่อยหันไปทักทายแบคฮยอน

     

    "ไม่มีเรียนแล้วเหรอ"

     

    "ครับ พี่มินซอกล่ะ"

     

    "กำลังจะไปเรียนนี่แหละคร้าบ แต่เจอน้องแบคฮยอนก่อน พี่รู้สึกกระชุ่มกระชวยหัวใจมากเลย ได้เห็นหน้าน้องก่อนเรียน" จงแดที่หลุดจากบ่วงของมินซอก ก็ปรี่เข้ามา หมายจะจับมือ แต่แบคฮยอนไหวตัวทัน รีบจับแขนชานยอลทันที จงแดเลยได้แต่คว้าอากาศไป

     

    "น้องถามฉัน ไม่ใช่นาย" มินซอกทำหน้าเบื่อโลก ก่อนจะหันมาบอกลาแบคฮยอนแล้วลากจงแดให้ขึ้นห้องเรียน แต่จงแดก็ไม่วายหันมาส่งจูบให้แบคฮยอนรัวๆ

     

    ชานยอลได้แต่กุมขมับ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไงเวลาเห็นจงแดเข้ามาเล่นกับแบคฮยอนแบบนี้ เอาจริงๆก็ไม่รู้หรอก ว่าชอบแบคฮยอนถึงขั้นจีบจริงจังหรือเปล่า แต่เวลาเจอหน้าก็ชอบเข้ามาหยอดคำหวานๆเลี่ยนๆใส่ทุกที

     

    "พี่จงแดนี่ตลกเนอะ" คนข้างๆชานยอลพูดขึ้น เขาจึงหันไปขมวดคิ้วใส่

     

    "หือ?"

     

    "ท่าทางตลกดี แต่บางทีก็น่ากลัว" คนตัวเล็กเอ่ยขำๆ ชานยอลจึงยื่นมือไปขยี้หัว จนแบคฮยอนโวยวายออกมา ว่าหัวยุ่งงู้นงี้ จะไม่หล่อนู่นนี่นั่น

     

    แบคฮยอนไม่รู้หรือไง ว่าในสายตาชานยอล ไม่ว่าจะเป็นยังไง แบคฮยอนก็ยังคงเป็นเด็กที่น่ารักเสมอ

     

     

     

    หลังจากพาเจ้าหมาน้อยแบคฮยอนไปทานข้าว ชานยอลก็มาส่งที่ห้อง ก่อนจะแยกย้าย เดินเข้าห้องข้างๆไป

     

    ถ้าแบคฮยอนไม่ได้มีใจให้ชานยอลล่ะก็ จะกลัวชานยอลแล้วนะ คนอะไรตามติดประหนึ่งเป็นสโตรกเกอร์ จริงๆชานยอลไม่ได้อยู่หอนี้หรอก แต่พอรู้ว่าแบคฮยอนอยู่หอนี้ ก็รีบย้ายมาอยู่ห้องว่างข้างห้องแบคฮยอน ที่ดูเหมือนจะบังเอิญเหลือเกินที่ดันมาว่างช่วงที่ปี1 กำลังหาหอพักกันให้วุ่น

     

    ห้องชานยอลก็เหมือนห้องแบคฮยอน ห้องแบคฮยอนก็เหมือนห้องชานยอล

     

    ต่างฝ่ายต่างมีหมอน 2 ใบบนเตียง มีแปรงฟัน 2 อันในห้องน้ำ มีแก้วน้ำ 2 ใบ ในห้องครัว ผ้าเช็ดตัว 2 ผืนในห้องแต่งตัว สลิปเปอร์ 2 คู่ ในตู้รองเท้า และในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้าของกันและกันอย่างละครึ่ง

     

    ทุกเช้า ไม่ใครก็ใครต้องตื่นก่อนเพื่อไปทำอาหารเช้ารออีกคน ทุกคืน ไม่ใครก็ใครนอนทีหลังเพื่อรอห่มผ้าให้อีกคน

     

    ทุกวัน ทั้งสองต่างบอกคิดถึง แต่ไม่เคยบอกรัก ไม่เคยบอกรักผ่านคำพูด แต่มักบอกผ่านการกระทำเสมอ

     

    ทุกครั้งที่ทั้งสองมีคนเข้าหา จะได้แต่ยิ้ม พร้อมกับบอกว่า มีคนรอผมกลับห้องอยู่ เพียงแค่นั้น

     

    ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่ความรู้สึกของทั้งคู่ที่มีต่อกัน ไม่ได้น้อยตามกาลเวลาที่รู้จักกัน คนจะคู่กัน ต่อให้รู้จักกันเพียงวันเดียว มันก็รักกันได้

     

    "แบคฮยอน" ชานยอลเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่นอนเล่นอยู่บนเตียง แบคฮยอนที่ถึงแม้จะตอบรับ แต่ความสนใจยังคงอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์

     

    ชานยอลมองแบคฮยอนนิ่งๆ ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆแบคฮยอน มือหนาขยี้หัวเจ้าตัวเล็ก ที่ตอนนี้ผมยังไม่แห้งดีนักหลังจากแบคฮยอนอาบน้ำเสร็จ

     

    "วันนี้จะนอนนี่หรือไปนอนห้องพี่ครับ"

     

    "งือ..อย่าขยี้หัวซี่" แบคฮยอนลุกขึ้นนั่งดีๆแล้วฉีกยิ้มให้ชานยอล ก่อนจะโผเข้ากอด ทำเอาชานยอลเซเล็กน้อย นี่ถ้าทรงตัวไม่อยู่คาดว่าจะได้ลงไปนอนกองที่พื้น

     

    "จะอ้อนเอาไรครับเนี่ย" ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่ตัวเองโดนกอด แต่ชานยอลก็กอดตอบ

     

    "นี่ๆ พี่เห็นกำไลนี่มั้ย สวยป่าว" แบคฮยอนเปลี่ยนอิริยาบถ จากกอดชานยอล เป็นนั่งเฉยๆ แต่เป็นการนั่งเฉยๆในอ้อมกอดชานยอล

     

    ชานยอลกอดแบคฮยอนเอาไว้ โดยนั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง เจ้าตัวเล็กที่เอาแต่เลื่อนจอโทรศัพท์ดูกำไลแบรนด์ดัง ไม่ได้รู้เลยว่า ตัวเองถูกมองด้วยสายตาอ่อนโยนแค่ไหน

     

    "อยากได้หรอ" ชานยอลจับโทรศัพท์ขึ้นมาดูใกล้ๆ แต่เป็นจับโทรศัพท์โดยผ่านการจับมือแบคฮยอน แค่นั้นไม่พอ ยังยื่นหน้าให้เข้าไปใกล้โทรศัพท์มากขึ้น และแน่นอน ใกล้กับหน้าแบคฮยอนมากขึ้นเช่นกัน

     

    แล้วใจแบคฮยอนก็เต้นแรงอีกแล้ว การที่ชานยอลทำเผลอทำอะไรแบบนี้ มันอันตรายต่อหัวใจแบคฮยอนทุกที ไม่เคยชิน ถึงแม้ผ่านมาหลายเดือนก็ไม่เคยชิน ให้กอดยังไม่เขินเท่านี้เลย

     

    "ฮื่อ..อยากได้สิ เราซื้อมาใส่ด้วยกันมั้ย" แบคฮยอนเขยิบตัวให้ห่างชานยอล เพื่อให้ใจมันสงบสักที แต่ก็เท่านั้น เพราะว่าถึงแม้จะพยายามห่างแค่ไหน แต่การที่แบคฮยอนยังอยู่ในอ้อมกอดชานยอลแบบนี้ มันก็ไปไหนไม่ได้ไกลหรอก สุดท้ายก็โดนชานยอลดึงกลับมาให้แผ่นหลังแบคฮยอน แนบกับแผ่นอกของชานยอลอยู่ดี

     

    "หมายถึง..พี่ใส่วันนึง แบคฮยอนใส่วันนึงงี้หรอ"

     

    "อย่ามากวนสิพี่ ผมหมายถึงซื้อมาใส่คู่กัน" แบคฮยอนหันไปเผชิญหน้ากับชานยอล แล้วฉีกยิ้มตาปิดให้ชานยอลเหมือนเคย

     

    และชานยอลก็ใจเต้นแรงเหมือนเคยเช่นกัน หากการกระทำของชานยอลทำให้แบคฮยอนใจเต้นแรง สำหรับชานยอลแล้ว ก็รอยยิ้มแบคฮยอนนี่แหละ ที่ทำให้ใจชานยอลเต้นแรงเหมือนกัน

     

    สุดท้าย วันรุ่งขึ้นชานยอลก็พาแบคฮยอนไปซื้อกำไลที่เจ้าตัวอยากได้ ในตอนแรกชานยอลจะเป็นฝ่ายซื้อให้ แต่ด้วยเรื่องราคาที่สูงพอสมควรแล้วนั้น ทำให้แบคฮยอนไม่ยอมรับมันจากชานยอล และมันก็จบด้วยการ ต่างฝ่ายต่างซื้อให้กัน วินๆทั้งคู่ และทำให้กำไลมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก

     

    หลังจากที่ใส่กำไลคู่แล้ว มันก็ตามมาด้วยเสียงแซว จากทั้งเพื่อนชานยอลและเพื่อนแบคฮยอน รวมไปถึงเพจของคู่นี้ ที่มีแฟนคลับแอบจิ้นกันตั้งแต่รับน้อง จนเกือบจะมาเป็นคู่จริงในวันนี้ แต่เพราะไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสถานะ  ถึงแม้ว่าจะเปิดเผยแค่ไหน แต่แฟนคลับคู่นี้ก็ได้แต่จิ้นต่อไปเหมือนที่เคยๆ

     

    ครั้งนี้เป็นรูปที่ทั้งสองใส่กำไลคู่กัน เดินด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน และคอมเม้นที่มีเยอะสุดคงจะเป็น 'เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกัน'

     

    "เมื่อไหร่มึงกับน้องจะเป็นแฟนกันสักทีวะ" โดคยองซู นักศึกษาชั้นปีที่3 คณะนิเทศศาสตร์ เพื่อนสนิทชานยอลที่เลื่อนอ่านคอมเม้นคู่ชานแบค ก็มีแต่คำถามเต็มหัวไปหมด

     

    เอาเข้าจริงๆ ความสัมพันธ์มันก็กำกวมมาตลอด ดูแลกันเหมือนคนรัก แต่ให้สถานะแค่พี่น้อง อยู่ด้วยกันเหมือนคู่ชีวิต แต่ก็ไม่คิดขยับความสัมพันธ์

     

    "อยู่กันแบบนี้ก็ดีแล้วหนิ" ชานยอลไม่ได้คิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะเขาก็ไม่ได้คิดว่า คำว่าแฟน มันจะสำคัญอะไรขนาดนั้น

     

    ในทุกๆวันที่เป็นอยู่ เขาดูแลแบคฮยอน แบคฮยอนดูแลเขา เขาอยู่กับแบคฮยอน และแบคฮยอนก็อยู่กับเขา เราไม่ได้ไปรู้สึกอะไรกับใคร ประหนึ่งไม่เหลือความรู้สึกใดๆให้ใครอีกแล้ว

     

    "แล้วมึงเคยถามแบคฮยอนหรือเปล่า หรือคิดเองเออเอง" คำถามของคยองซู ทำให้ชานยอลชะงักไปครู่หนึ่ง

     

    "ไม่ต้องถามก็รู้ น้องไม่เคยเรียกร้องอะไร"

     

    "แต่น้องมันชอบมึงก่อนไม่ใช่หรือไง อย่างน้อยๆมันก็ต้องอยากให้อะไรๆมันชัดเจน ยิ่งปีหน้ามึงเรียนปีสุดท้าย น้องมันก็ต้องอยากมีอะไรผูกมัดให้ได้มั่นใจ"

     

    "แค่นี้กูยังชัดเจนไม่พอเหรอ" ชานยอลเริ่มเครียด หันไปมองหน้าเพื่อนสนิท

     

    ก็จริงที่ว่าแบคฮยอนไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่เขาก็ไม่เคยถาม ไม่เคยพูดกับแบคฮยอนในเรื่องนี้ รู้ตัวอีกที  มันก็กลายเป็นแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ไปแล้ว

     

    "กูก็แค่เสนอความคิด ไม่ได้หมายถึงมึงไม่ชัดเจน เอาเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วโอเคทั้งสองฝ่ายมันก็โอเค"

     

     

     

     

     

    "แบคฮยอน ตอนนี้เป็นแฟนพี่ชานยอลยัง" คิมจงอิน นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะศิลปศาสตร์ เพื่อนสมัยเด็กของแบคฮยอน ถามขึ้น เมื่อเลื่อนเห็นรูปชานยอลกับแบคฮยอนในเพจ

     

    "หึ..ก็ยังเหมือนเดิมอ่ะ" แบคฮยอนส่ายหน้า เขาได้ยินประโยคคำถามนี้มาหลายครั้งแล้ว ทั้งจากเพื่อนสนิท จากเพื่อนในคลาส หรือแม้แต่แฟนคลับคู่เขากับชานยอล แต่ก็ยังคงคำตอบเดิม คือเหมือนเดิม สถานะพี่น้องเหมือนเดิม

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชานยอลทำให้แบคฮยอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชานยอลได้รับจากแบคฮยอน มันก็มากพอแล้ว มันเป็นคำตอบสำหรับในทุกๆเรื่อง แทนที่จะมานั่งตอบคำถามใครต่อใครว่าเป็นอะไรกัน เอาเวลานั้นมาทำให้ทุกวันของสองคนมีความสุขจะดีกว่า คนอื่นเป็นแค่ปัจจัยภายนอก เขาจะพูดอะไรก็ได้ สิ่งที่เราทำได้ก็มีแต่แค่รับฟัง แล้วดูแลคนข้างๆเราให้ดีแค่นั้นก็พอ

     

    เพราะแบบนั้น แบคฮยอนจึงไม่เคยคิดเรื่องสถานะอะไรแบบนั้นเลย ถึงแม้จะมีแอบคิดบ้างในช่วงแรก แต่การกระทำของชานยอลบอกหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ ความจริงใจของชานยอลมันบอกผ่านการกระทำ คำพูด และความรู้สึก ทุกสิ่งที่แบคฮยอนได้รับ มันทำให้แบคฮยอนมั่นใจ ว่าแบคฮยอนเลือกคนไม่ผิด แต่ถึงแม้จะเลือกผิดจริงๆ แต่ที่ผ่านมามันก็ทำให้แบคฮยอนได้มีช่วงเวลาแห่งความสุข ที่ถึงแม้วันนึงจะจบลง แต่อย่างน้อยมันก็เกิดขึ้นจริง

     

     

     

     

    "พี่ชานยอล..วันนี้ผมได้ยินคำถามเดิมๆอีกแล้ว" ระหว่างมื้ออาหาร มื้อสุดท้ายของวัน แบคฮยอนก็เปิดประเด็นที่ตนเจอมา

     

    "พี่ก็เหมือนกัน"

     

    "พี่เบื่อมั้ย" แบคฮยอนวางช้อนส้อมลง เอาศอกเท้าโต๊ะแล้วจ้องชานยอลเขม็ง

     

    "เบื่ออะไรครับ"

     

    "กับการเจอคำถามแบบนั้นบ่อยๆ"

     

    "ไม่นี่ครับ เราเบื่อเหรอ" ชานยอลวางช้อนส้อมลงบ้าง ส่งยิ้มให้แบคฮยอนบางๆ และเอ่ยถามเบาๆ

     

    "ไม่ครับ แต่บางที..ก็คิดว่าทำไมเราต้องเจอคำถามแบบนั้น ทำไมคนอื่นต้องใส่ใจเรื่องเราขนาดนั้น ความสัมพันธ์ของสองคน มันก็ควรเป็นเรื่องของคนสองคนไม่ใช่หรือไงครับ" แบคฮยอนพูดเสียงเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวด ทำเอาชานยอลขำเบาๆ

     

    "ครับ แต่ก็นะ ในเมื่อเราไม่มีสถานะที่ชัดเจนให้พวกเขาได้เห็น คำถามนี้ก็ไม่มีทางหมดไปหรอกครับ"

     

    "แล้วเราต้องเป็นแฟนกันหรอครับ คำถามนั้นถึงจะหายไป"

     

    "แล้วแบคฮยอนอยากเป็นแฟนพี่เพราะเรื่องแค่นั้นหรอ"

     

    "เปล่านะ!" จบประโยคคำถามของชานยอล แบคฮยอนก็ตอบปฏิเสธออกมาทันควัน "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย"

     

    "งั้นเป็นแฟนกันมั้ย.." ประโยคคำถามที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร เป็นประโยคที่ธรรมดา แต่มันก็ทำให้แบคฮยอนถึงกับตกใจ พร้อมกับอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นแรงขึ้น

     

    "พะ..พี่ชานยอล อยากเป็นแฟนกับผมเพราะจะได้ไม่เจอคำถามนั้นหรอครับ" มากกว่าการตื่นเต้นตกใจกับคำถามนั้น มันคือความรู้สึกไม่มั่นใจกับคนตรงหน้า

     

    เมื่อกี้เพิ่งถามเขาแท้ๆ ว่าอยากเป็นแฟนกันเพราะเหตุผลพวกนั้นหรือ แต่ทำไมกลายเป็นเจ้าตัวพูดมันออกมาเองซะงั้นล่ะ

     

    "เปล่า แต่พี่อยากให้แบคฮยอนมั่นใจ และกล้าที่จะบอกใครต่อใครว่าเป็นแฟนพี่"

     

    "แค่นี้ก็มั่นใจจะแย่แล้ว" แบคฮยอนก้มหน้างุดๆตอบ

     

    "ต่อไปนี้ ก็ตอบได้อย่างมั่นใจแล้วนะ ว่าเป็นอะไรกัน จะได้ไม่ต้องเจอกับคำถามอะไรแบบนั้นแล้ว"

     

    "แน่ใจนะ..ว่าพี่ไม่ได้อยากเป็นแฟนผมเพราะต้องการจะให้คำถามนั้นหายไป" ชานยอลหัวเราะกับคำพูดของแบคฮยอนที่ไม่มีความมั่นใจนั่น

     

    "ถ้าจะให้พูดจริงๆล่ะก็.." ชานยอลเว้นจังหวะ แล้วเลื่อนมือไปกุมมือแบคฮยอน "พี่จะได้ตอบคำถามแม่ได้ ถ้าครั้งหน้าแม่ถามอีกว่าจริงๆแล้วเป็นอะไรกัน"

     

    "..."

     

    "พี่จะได้ตอบแม่ได้อย่างมั่นใจ ว่าผมเป็นแฟนกับแบคฮยอนครับ" ชานยอลระบายยิ้มให้คนตรงหน้า ซึ่งนั่นมันทำให้แบคฮยอนอยากจะระเบิดตัวเอง ณ ตอนนี้

     

    "แม่พี่..ถามพี่หรอ ว่าเป็นอะไรกับผม" แบคฮยอนถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเขายังไม่เคยเจอแม่ของชานยอลเลย

     

    "เปล่าครับ" ชานยอลส่ายหน้า "แม่ของแบคฮยอนต่างหาก"

     

    "ห๊า?!" แบคฮยอนอุทานออกมา ตาโตอ้าปากค้าง นั่นเรียกเสียงหัวเราะจากชานยอลได้ดี

     

    "ตกใจอะไรขนาดนั้น..ก็เมื่ออาทิตย์ก่อนเราหลับ แล้วแม่เราโทรมา พี่เลยรับให้ คุยไปคุยมาดันถูกคอ แต่ก็ไปไม่ถูกเหมือนกันตอนเจอคำถามที่ว่าเป็นอะไรกับแบคฮยอน.."

     

    "แล้ว..พี่ตอบว่าไง"

     

    "พี่น้อง..แต่แม่แบคฮยอนพึมพำกับตัวเอง แล้วพี่ก็ได้ยินว่า ทำไมไม่เป็นแฟนแบคฮยอนกันนะ"

     

    "ฮื่อ.." แบคฮยอนดึงมือจากการเกาะกุมของชานยอล ขึ้นมาปิดหน้า

     

    "ครั้งหน้า ถ้าพี่ได้เจอกับแม่แบคฮยอน พี่ก็จะได้บอกท่านว่า ผมเป็นแฟนกับแบคฮยอนแล้วนะครับ" เสียงทุ้มของชานยอล มันยิ่งทำให้แบคฮยอนเขินยิ่งขึ้นไปอีก

     

    แบคฮยอนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถามบางอย่างกับชานยอล

     

    "แล้วถ้าผมเจอแม่พี่ ผมสามารถพูดได้หรือเปล่า ว่าผมเป็นแฟนพี่ชานยอลครับ" แบคฮยอนมองหน้าชานยอล และชานยอลก็มองเข้าไปในตาเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะเอ่ยออกมา

     

     

    "ไม่มีคำปฏิเสธสำหรับคำถามนี้ครับ"

     

     

     

     

     

     

    แง่ะ มาแบบงงๆ

    แต่งตอนนั่งอยู่บนรถ

    เราไปพรีเซ้นงานที่สงขลามา นั่งรถจนปวดก้นไปหมดเลย

    นี่เพิ่งถึงหอ (บอกทำไม) 55555555555

    อยู่ว่างๆไม่มีไรทำเลยแต่งฟิคให้อ่านกัน

    มันเป็นแนวที่เราไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่5555555555

    ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×