MIDORAHAKI
ดู Blog ทั้งหมด

ชงโคบานลานอักษรฯ

เขียนโดย MIDORAHAKI

นาย พสิษฐ์ หาธะนี 574 XXXXX 22

ชงโคบานลานอักษรฯ

          หากจะเปรียบพวกเรานิสิตอักษรศาสตร์กับดอกชงโค ดอกไม้ประจำคณะอักษรศาสตร์ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ดอกชงโคนั้นจะแบ่งบานเป็นดอกชงโคที่งดงามโดยไม่ได้ผ่านการเจริญเติบโต การแตกราก ผลิใบอ่อน งอกเงยลำต้น ค่อย ๆ สูงใหญ่จนเป็นต้นชงโคที่โตเต็มวัย มีอะไรมากมายที่คอยทดสอบความแข็งแกร่งของต้นชงโค ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่อาจแปรปรวนที่อาจทำให้ต้นชงโคเ่ยวเฉาไป หรือจะเป็นวัชพืชและแมลงต่าง ๆ ที่คอยขัดขวางการเจริญเติบโต กว่าดอกชงโคจะบานได้นั้น ล้วนต้องผ่านอะไรมามากมาย

          ก่อนที่เราจะเข้ามาเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ เรายังคงไม่ใช่ต้นชงโค เพียงแต่เป็นเมล็ดเท่านั้น เมล็ดที่จะต้องผ่านการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ด้วยตัวเราเอง เราต้องเตรียมดินที่ดี เพื่อจะที่ปลูกเมล็ดชงโคนี้ให้งอกเงย เราจะต้องพยายามให้ดีที่สุด ให้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถเข้าศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีคะแนนสูงที่สุดตลอดกาล กว่าจะเข้ามาเป็นนิสิตอักษรนั้น เราต้องเตรียมตัวอย่างหนัก ต้องอ่านหนังสือมากมาย เรียนพิเศษจนค่ำมืดดึกดื่น ทำแบบฝึกหัด ทำข้อสอบเก่าย้อนหลังไปหลายปี ฝ่าฟันความเครียด ความกดดัน แบกรับความคาดหวังจากคนรอบข้าง จากคนในครอบครัว จนเมล็ดชงโคเมล็ดนี้สามารถแตกราก ผลิใบอ่อนในที่สุด

          ยามเมื่อเรากลายมาเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ เราได้กลายมาเป็นต้นกล้าชงโคแล้ว ต้นกล้าชงโคที่จะต้องค่อย ๆ เจริญเติบโต ผ่านการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เพื่อให้ต้นกล้าต้นนี้แข็งแรง ช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างน้อยสี่ปีของเรานิสิตอักษรศาสตร์ เราจะได้ร่ำเรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อตัวเรา และจะปลูกฝังให้เรามีความคิดแบบอักษรศาสตร์ มีความคิดที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นปัจเจกบุคคล และแตกต่างจากคนอื่น เราจะได้ฝึกฝนวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่เคยได้สั่งสมมา ได้ใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นต้นชงโคที่แข็งแกร่ง และแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปได้อย่างคงทน แต่การเจริญเติบโตของต้นกล้าชงโคนั้นก็อาจไม่ได้ราบรื่นไปเสียทุกอย่าง ในบางครั้ง ต้นกล้าชงโคก็อาจต้องเผชิญกับแมลงร้ายและวัชพืชที่คอยขัดขวางการเจริญเติบโต คะแนนเฉลี่ยที่สูงราวกับที่ราบสูงทิเบต การเปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่นซึ่งเหนือกว่าเรามาก ๆ ซึ่งมันจะค่อย ๆ กัดกินจิตใจของเราไปอย่างช้า ๆ และยังมีสภาพอากาศแห่งจิตใจของตัวเรา ที่อาจแปรปรวน ความสับสน ความลังเล ความกลัว ความหวั่นวิตก ความท้อแท้ ความเหนื่อยหน่าย ซึ่งอาจทำให้เราไม่อาจสู้ต่อ เ่ยวเฉา และตายในที่สุด กว่าต้นกล้าต้นนี้จะเจริญเติบโตสูงใหญ่ได้ ต้องผ่านเวลาแต่ละปี แต่ละปีที่เราจะค่อย ๆ เพิ่มความแข็งแรงทนทานของลำต้น ค่อย ๆ เพิ่มวงปีของลำต้น ค่อย ๆ ขยายลำต้นออกไปเรื่อย ๆ ในปีแรก ๆ ซึ่งเป็นปีแห่งความอันตราย เราอาจท้อแท้ สิ้นหวัง เราอาจหวาดกลัว พ่ายแพ้ เ่ยวเฉา จนอาจต้องเปลี่ยนที่เรียนในที่สุด แต่หากเราสามารถอดทนจนผ่านพ้นมันไปได้ เราจะแข็งแกร่ง เราจะแข็งแรง และสามารถรอดพ้นภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายเราได้ แล้วเราจะมีราก มีลำต้นที่แข็งแรง มีกิ่งก้านสาขาแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง แล้วเติบใหญ่ จนเป็นต้นชงโคที่โตเต็มวัยได้ในที่สุด

          เมื่อวันเวลาผันผ่าน ฤดูกาลหมุนเวียน ย่อมต้องมีวันที่ต้นชงโคนั้นผลิดอกแบ่งบานงดงามชูช่อล้อสายลม พวกเราชงโคที่แข็งแกร่งและรอดพ้นจากอุปสรรคภัยอันตรายต่าง ๆ มาได้ ก็ย่อมต้องมาถึงวันที่เราก้าวสู่การเป็นบัณฑิต บัณฑิตที่สง่างาม ออกไปประกอบอาชีพต่าง ๆ ตามที่ใจปรารถนา เป็นหนึ่งในฟันเฟืองให้ประเทศชาติพัฒนาและเจริญก้าวหน้าต่อไป ในช่วงวัยของการทำงาน เราจะได้ใช้ทักษะต่าง ๆ ที่ได้ร่ำเรียนและฝึกฝนมาอย่างหนักหน่วงตลอดช่วงเวลาที่เราเป็นนิสิตอักษรศาสตร์ และความคิดแบบอักษรศาสตร์ที่หยั่งรากลึกจนเรากลายเป็นนักอักษรศาสตร์เต็มตัวแล้ว ไม่ว่าเราจะไปทำงานในสาขาไหน จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งที่เรียน หรือจะเป็นการประยุกต์ปรับใช้ หรืออาจดูไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่พื้นฐานความคิดแบบอักษรศาสตร์นั้นก็จะเป็นรากฐานของทุกสิ่งและจะทำให้เราสามารถต่อยอดออกไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในวันหนึ่ง เราอาจได้กลายเป็นล่ามหรือนักแปลภาษาที่เก่งกาจ มีงานให้ทำตลอด ร่ำรวยเงินทอง เราอาจได้กลายเป็นนักเขียนแนวหน้าของประเทศ หรืออาจมีชื่อเสียงก้องโลก งานเขียนถูกแปลไปหลายภาษาและตีพิมพ์ทั่วโลก เราอาจได้กลายเป็นบรรณาธิการผู้ทรงคุณค่าที่อยู่เบื้องหลังการทำหนังสือชั้นยอดมากมาย เราอาจได้กลายเป็นนางฟ้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่สง่างามตามสายการบินชั้นนำของโลก เราอาจได้กลายเป็นนักการทูต หรืออาจได้เป็นครูอาจารย์ที่คอยผลิตนักเรียนหรือนักศึกษาที่มีคุณค่าและสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศในกาลต่อไป ไม่ว่าเราจะเลือกเป็นอะไรต่างก็ล้วนสร้างคุณงามความดี สร้างคุณประโยชน์ได้ทั้งนั้น และดอกชงโคดอกนั้นก็จะเป็นที่ตราตรึงอยู่ในใจ ในความทรงจำของผู้ที่เคยพบเห็น อาจเป็นแรงบันดาลใจ แรงผลักดันให้เขาดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีจุดหมาย เป็นแบบอย่างในชีวิตของผู้คนต่าง ๆ และดอกชงโคดอกนั้นก็จะยังคงบานอย่างงดงามอยู่ในห้วงความทรงจำตลอดกาล แม้จะร่วงโรยไปแล้วก็ตาม แต่ความงดงาม ความชื่นชมในใจของผู้พบเห็นจะยังคงอยู่ตลอดไป

          ตัวของผมตอนนี้ซึ่งกำลังเรียนในชั้นปีที่หนึ่งคณะอักษรศาสตร์ ก็เปรียบได้กับต้นกล้าชงโคพี่เพิ่งจะแตกรากและผลิใบอ่อนเท่านั้น ในหนทางข้างหน้าที่ตัวผมจะต้องก้าวเดินต่อไป ผมก็ไม่อาจทราบได้ว่าจะพบหนทางแบบไหน ลักษณะไหน อาจต้องพบกับแมลงที่ร้ายกาจ อาจต้องพบกับวัชพืช อาจต้องพบกับสภาพอากาศแปรปรวนแห่งจิตใจซึ่งอาจทำให้ผมท้อแท้สิ้นหวังเ่ยวเฉาไปในที่สุด แต่ผมยังคงเชื่อมั่น และหวังเอาไว้เสมอ ว่าวันหนึ่งต้นกล้าชงโคต้นน้อยต้นนี้ จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ชนะใจตนเอง ชนะความสิ้นหวังท้อแท้ และเติบโตต่อไปจนสามารถผลิดอกงดงาม ก้าวไปเป็นบัณฑิตที่ทรงคุณค่า สามารถก้าวสู่โลกกว้าง ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักและมีความสุข สร้างคุณประโยชน์แก่สังคม สร้างสรรค์ผลงานที่จะยังคงอยู่ ยังคงตราตรึงใจแก่ผู้ที่ได้สัมผัส และยังคงเป็นที่จดจำของผู้คน หรืออย่างมากที่สุดก็หวังว่าชงโคต้นนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ต้นกล้าชงโครุ่นต่อมา เป็นแบบอย่าง เป็นความประทับใจให้น้อง ๆ ต้นกล้าชงโค อยากจะเติบโต อยากจะต่อสู้ อยากจะฝ่าฟันสิ่งต่าง ๆ ไปจนกลายเป็นดอกชงโคที่แบ่งบานอย่างงดงามในที่สุด

          จากนิสิตอักษรศาสตร์รุ่น 82 ถึงรุ่นพี่ที่กำลังจะจบ; ผมเป็นน้องที่พี่เคยรับน้อง เข้ามาเป็นรุ่นน้อง ใช้ชีวิตร่วมอยู่ในคณะเดียวกันมา ก็ร่วมสามปี พี่ต้อนรับผมด้วยความอบอุ่น ทำให้ผมประทับใจ และมั่นใจว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีในคณะอักษรฯ ได้ แต่เก่าก่อน ผมมีรุ่นพี่คุ้มอยู่เสมอ เราสามารถที่จะแสดงความไม่รู้ด้วยการถามพี่ได้ แต่เดี๋ยวนี้ จะไม่มีรุ่นพี่คอยตอบเราตลอดเวลาแล้ว ขอให้พี่มีอนาคตการที่สดใส เจอช่องทางของตัวเอง และมีความสุขในชีวิตมาก ๆ นะครับ
ถึงน้อง 85 ที่เข้ามาแล้ว และกำลังจะเข้ามา; สำหรับน้องที่เข้ามาแล้ว พี่ขอแสดงความยินดีกับน้องทุกคนด้วย ในการที่เรามาถึงฝั่งฝันตรงนี้แล้ว เราผ่านคู่แข่งเรือนหมื่นเรือนแสนคนมาอยู่จุดนี้ได้ พี่นับถือในตัวน้องมาก ๆ สิ่งที่พี่อยากบอก ก็คือการสอบติดคณะอักษรศาสตร์ไม่ใช่ปลายทางของความฝัน แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ความจริงในคณะอักษรศาสตร์ อาจไม่ใช่สิ่งที่น่าพิศมัยอย่างที่เราคิดไว้ตอนแรก แต่ทุก ๆ บาดแผล จะสร้างความทรงจำที่งดงามให้กับเรา 

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ลาก่อน และพบกันโอกาสหน้า  ขอบคุณครับ

เอาภาพน้องปี 84 ที่กำลังจะขึ้นปีสองมาฝากด้วย เผื่อจะเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ได้

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น