★ To Aru Kagaku no Railgun | FanClub !

ลำดับตอนที่ #122 : มาดูอันดับ Top10 ตัวละครที่แข็งแกร่งที่สุดกัน ! (สปอยล์หนัก)

มาดูอันดับที่แฟนๆยุ่นเค้าจัดไว้กันครับ ว่าระดับเทพๆในเรื่องมีใครกันบ้าง
อนึ่ง อันดับนี้อิงตามเนื้อเรื่องจนถึงเล่มล่าสุดเท่านั้น
แล้วก็ไม่ได้รวมคนที่ดูน่าจะเทพแต่ยังไม่เคยแสดงพลังให้เห็นกันจริงๆเข้าไปด้วย เช่น อเลสเตอร์ โครวลีย์ ผู้นำของนครแห่งการศึกษา หรือ อาร์คบิช๊อป ลอร่า ผู้นำของเนเซสซาเรียส เป็นต้น
อนึ่ง เลขอันดับอาจจะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามมุมมองของแต่ละคน แต่รายชื่อที่ติดอันดับจะเป็นกลุ่ม 10ตัวละครนี้แน่นอน(บวกกับบางตัวที่หลุดโผไปด้วย)



อันดับ 10

ไนท์ลีดเดอร์ (หัวหน้าอัศวิน)
ผู้นำของ "คณะอัศวิน" ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ขั้วอำนาจแห่งสหราชอาณาจักร
มีอาวุธคู่กายคือ ฮรันติ้ง (Hrunting) ดาบของ Beowulf วีรบุรุษของชาวแองโกล-แซกซอน
ดาบมารซึ่งจะ"แข็งแกร่งขึ้นจากเลือดที่หลั่งโชลม"
ปกติจะอยู่ในสภาพดาบยาว ซึ่งมีความกว้าง 3cm และความยาว 80cm
แต่เมื่อได้รับเทเลสม่า(พลังแห่งเทวดา)ที่ส่งมาจากดาบเคอทานา(Curtana) จะเปลี่ยนเป็นสภาพที่แท้จริง เป็นดาบยาวสีดำแดงขนาด 3.7m ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล
โดย ไนท์ลีดเดอร์ ได้ใช้เทเลสม่า เป็นตัวแทนเลือดที่หลั่งโชลม เพื่อปลุกพลังที่แท้จริงของดาบนั่นเอง
อนึ่ง กฏฟิลิกส์ทั่วไปไม่สามารถใช้กับดาบเล่มนี้ได้ครับ

เมื่อบวกกับเวทระดับสูงอย่าง อาคมรูปแบบ(Pattern Magic) และอาคมแห่งโซโรล์ม แล้ว แม้แต่คันซากิ คาโอริ ผู้มีเหนือมนุษย์ของนักบุญก็ยังต้องพ่ายแพ้

ไนท์ลีดเดอร์ ที่อยู่อันดับ10 นี้ อิงจากสภาพพลังสุงสุด ตอนที่ได้การซัพพอร์ทพลังเทเลสม่า จากดาบเคอทานา=ออริจินัล
หากเป็นสภาพปกติจะอ่อนกว่าคาโอริอยู่หน่อยครับ







อาคมรูปแบบ(Pattern Magic)
เวทมนตร์ที่เพิ่มความสามารถของ"รูปแบบ"ต่างๆให้กับวิชาดาบ(หรือก็คือการ Buff อย่างนึงนั่นเอง)
เป็นวิชาประจำทัพอัศวิน ซึ่งแน่นอนว่าผู้นำอย่าง ไนท์ลีดเดอร์ นั้นสามารถใช้ทุกรูปแบบได้อย่างช่ำชอง
"รูปแบบ" ที่ปรากฎในเรื่องได้แก่
-"ชาเทเคียวริ"ยิงเศษดาบออกไป จู่โจมจากระยะที่ไกลจนไม่น่าเป็นไปได้
-"เซ็ตสึดันอิเรียวคุ(พลังสะบั้น)" ไม่ว่าอะไรก็ฟันขาด
-"บุกุจูวเรียว"เพิ่มพลังทำลาย
-"ไทคิวโควโด" ดาบไม่มีวันหัก
-"เท็กคาคุเซย์โด" อาวุธพุ่งเข้าจุดสำคัญได้เอง
-"เซ็นมงโยวโท" รูปแบบพิเศษเพื่อฆ่าอสูรกาย
-"อิโตวโซคุโด" การเคลื่อนไหวที่ไม่มีใครตามทัน



อาคมแห่งโซโรล์ม
เวทมนตร์ที่มีต้นกำเนิดมาจาก โซโรล์ม นักรบในตำนาน  Gunnlaugs saga
ผลของมันคือ การทำให้พลังโจมตีของศาสตราใดๆก็ตามที่ผู้ใช้ตระหนักรู้ "กลายเป็นศูนย์" โดยไม่เกี่ยงว่าจะมีที่มาจากเวทมนตร์หรือวิทยาศาสตร์
ระยะเวลาทำงานมีจะผลอยู่ราวๆ 10นาที
หากเป็นอาวุธปืนก็จะร่วงทันทีที่ยิง หากเป็นระเบิดก็จะไม่ระเบิด
โดยในเรื่องได้ใช้ป้องกันมาแล้วทั้งการโจมตีจากคุณสมบัติการฆ่ามังกรทั้ง 7 อย่าง ของดาบแอสคาลอนของอควอ, "ยุอิเซ็น" ท่าไม้ตายของคาโอริ และ ขีปนาวุธบังเกอคลัสเตอร์

อนึ่ง หากเป็นการโจมตี หรือเวทมนตร์ที่ไม่ได้มาจากอาวุธพลังก็จะไม่มีผล
และเนื่องจากต้องเป็น "ศาสตราที่ผู้ใช้ตระหนักรู้ "
กรณีที่เป็นอาวุธที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือวัตถุที่ไม่สามารถจำแนกเป็นอาวุธได้ก็จะไม่มีผลเช่นกัน




ภาพซ้าย : ดาบเคอทานา
ขวา : ฮรันติ้ง ในสภาพที่แท้จริง





อันดับ 8 (ร่วม)

อควอ แห่งเบื้องหลัง

หนึ่งในสมาชิกของ God's Right Seat ผู้สังกัดคุณสมบัติของอัครเทวดา "พลังของพระเจ้า"กาเบรียล ตัวแทนแห่งธาตุน้ำ
ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดอื่นคงต้องเท้าความเรื่องของ "นักบุญ" กับ "God's Right Seat" ซะก่อน

นักบุญ
คือมนุษย์ที่เกิดมาด้วยร่างกายที่มีคุณสมบัติเหมือนกับบุตรของพระเจ้า(พระคริสต์) โดยมี  "บาดแผลศักดิ์สิทธิ์"ตราเวทซึ่งเป็นหลักฐานของความเป็นนักบุญติดตัวมาแต่กำเนิด
นักบุญจะสามารถยืมพลังเทเลสม่า(พลังแห่งเทวดา)มาไว้ในร่างและสามารถควบคุมมันได้(แม้คนธรรมดาจะสามารถยืมพลังเทเลสม่าได้เช่นกัน แต่จะไม่อาจนำเข้าสู่ร่างกายโดยตรงได้ ต้องใช้
อาวุธตัวแทนธาตุที่เรียกว่าซิมโบลิคเวพอน เป็นสื่อกลาง) นำมาซึ่งพลังที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ชั่วขณะ(ถ้าให้เปรียบ ก็ราวๆซูเปอร์แมนเลยล่ะ)
ยามปกติแม้จะไม่ได้ใช้เวทมนตร์ใดๆนักบุญก็จะมีความโชคดีติดตัว เสมือนเป็นพรประจำตัว
นักบุญที่ปรากฏในเรื่องได้แก่ คันซากิ คาโอริ,อควอ แห่งเบื้องหลัง และซิลเวีย เมดองค์รักษ์

อนึ่งแม้นักบุญจะสามารถนำพลังเทพที่ยิ่งใหญ่มาใช้ได้ แต่การควบคุมพลังนั้นทำได้ยากมากที่สุด อีกทั้งที่สุดแล้วร่างกายของนักบุญก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี หากใช้พลังที่มากเกินพิกัดจนหลุดการควบ

คุมร่างเนื้อก็จะถูกทำลายถึงตาย จึงไม่อาจใช้พลังเต็ม 100％ได้ แต่ในนักบุญจำนวน 20คนทั่วโลก ก็มีคนที่เป็นกรณีพิเศษนั่นคืออควอแห่งเบื้องหลัง
นักบุญนั้นนอกจากผู้ที่มีคุณสมบัติของ "บุตรของพระเจ้า"แล้วยังมีคนที่มีคุณสมบัติของ "พระแม่ศักดิ์สิทธิ์"(พระแม่มารี)อยู่ด้วย ซึ่งก็มีพลังระดับเหนือมนุษย์เช่นเดียวกัน



God's Right Seat
คือผู้ที่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตัวตนที่ใกล้เคียงกับเทวดา โดยการลบล้างบาปต้นกำเนิด(Original Sin)ออกไป(ในเรื่องยังไม่มีวิธีที่สามารถลบล้างได้หมด เพียงแค่ทำให้เบาบางที่สุดเท่านั้น)
ทำให้ใช้พลังและเวทมนตร์ระดับเทพ-เทวดาที่เหนือขีดจำกัดของมนุษย์จะสามารถใช้ได้ แต่เนื่องจากการไม่มีบาปต้นกำเนิดซึ่งเกิดจากผลแห่งความรู้ในสวนอีเดน จึงทำให้ God's Right Seat ขาดคุณสมบัติและไม่สามารถใช้เวทมนตร์ของมนุษย์ธรรมดาได้เช่นกัน






ตัวอควอนั้นนับว่าเป็นกรณีพิเศษที่สุด เพราะเป็นนักบุญที่มีทั้งคุณสมบัติ  "บุตรของพระเจ้า" และ "พระแม่ศักดิ์สิทธิ์" อยู่ในตัวคนเดียว หรือเรียกอีกอย่างว่านักบุญสองคุณสมบัติ
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว เมื่อมาเป็น God's Right Seat จึงสามารถใช้เวท "ความกรุณาของพระแม่ศักดิ์สิทธิ์" เวทมนตร์ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ อัครเทวดา กาเบรียล ซึ่งตนสังกัดคุณสมบัติได้(กาเบรียล คือเทวดาที่มาแจ้งเรื่องการตั้งครรภ์พระคริสต์)
ผลของเวทนี้คือการหลีกเลี่ยง-ขจัด เงื่อนใข,ข้อผูกมัด และข้อจำกัดใดๆก็ตามออกไป
ทำให้อควอสามารถใช้พลังของนักบุญได้เต็ม 100％โดยไม่มีข้อจำกัดทางร่างกายอีกต่อไป
อีกทั้งอควอยังสามารถใช้เวทของมนุษย์ธรรมดาได้ด้วยการลบล้างข้อจำกัดเรื่องบาปต้นกำเนิดออกไป

อาวุธของอควอคือกระบองขนาดยักษ์ที่ยาวกว่า 5เมตร แต่หลังจากเสียกระบองไปในศึกปะทะกับคันซากิ คาโอริ และเหล่านักรบนิกายอามาคุสะ
ตอนที่กลับมายังอังกฤษเพื่อหยุดยั้งการก่อรัฐประหารก็ได้รับอาวุธใหม่คือ ดาบศักดิ์สิทธิ์อัสคาลอน อาร์ติแฟ๊คซึ่งสร้างโดยใช้อิงคอนเซ็ปจากดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่เซ็นต์จอร์จใช้สังหารมังกรชั่วร้าย(ตัวที่เป็นต้นกำเนิดเวทดราก้อนเบรธของอินเด็กส์นั่นแหละ) ซึ่งดาบยักษ์ขนาด 465.5cm เล่มนี้มีคุณสมบัติการโจมตีเพื่อสังหารมังกรถึงเจ็ดอย่าง

ด้านเวทมนตร์ เวทธาตุน้ำของอควอนับว่าอยู่ในระดับสุดยอด สามารถควบคุมน้ำให้รวมเป็นก้อนน้ำมหึมารัศมี 2กิโลเมตร ซึ่งมีน้ำหนักถึง 5000ตัน กลางอากาศแล้วใช้งานได้อย่างอิสระ
ทั้งการสร้างเป็นวงเวทกลางอากาศ การโจมตีในรูปแบบต่างๆทั้งค้อน,หอกน้ำขนาด20m และ 30m จำนวนมหาศาล ฯลฯ โจมตีไล่ต้อนศัตรูจากทุกทิศทุกทาง
เรียกได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่โทวมะไม่มีอาจต่อกรได้เลย

อนึ่ง แม้จะอยู่ในสภาพที่พลังลดลงเหลือเท่านักบุญปกติชั่วคราว จากการพ่ายแพ้ในศึกกับพวกคาโอริ แต่บุรุษเหล็กแห่งความยุติธรรมคนนี้ก็ยังคงความแข็งแกร่งเหนือชั้นอยู่ไม่สร่าง สามารถโค่นไนท์ลีดเดอร์ในสภาพเต็มร้อย ลงได้ในการต่อสู้เป็นตายที่ดุเดือด และมันสุดขั้ว(แถมยังยาวถึง 100หน้าอีกต่างหาก) เมื่อเทียบกับหงอกโหดตอนปกติอควอจะเหนือกว่า แต่ถ้าเป็นร่างปีกดำนี่ก็นับว่าสูสีกันทีเดียว จึงได้อันดับ 8 ร่วมไปครับ






อันดับ 8 (ร่วม)

แอคเซเลอเรเตอร์

ขานี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มาก กับผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของนครแห่งการศึกษา หงอกโหดผู้ทิ้งไว้เพียงซากศพและความวินาศในทุกสมรภูมิศึก ด้วยไหวพริบเป็นเลิศในการต่อสู้(อย่างเช่น วิธีการจัดการพวกเทเลพอร์ทแบบกินนิ่ม) และวิธีการฆ่าแบบสารพัด
แม้แต่ตอนอยู่ในสภาพที่สมองเสียหาย ต้องพึ่งพาสมองของมิซากะเน็ตเวิร์คในการคำนวนเพื่อใช้พลังพิเศษ ซึ่งมีข้อกว่าปกติทั้งระดับพลังและเวลา ความร้ายกาจก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด(ถึงเจ้าตัวจะบอกว่า ตนเหลือพลังเพียงครึ่งจากปกติก็เถอะ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าสมองแอคเซเลอเรเตอร์มันทรงพลังขนาดไหน เมื่อลองคิดดูว่าสมองจำนวนมหาศาลของเหล่าซิสเตอร์ยังทำการคำนวนได้เพียงครึ่งของสมองคนๆเดียวเนี่ย)
ยิ่งมี ปีกคู่ทมิฬ พลังปริศนาที่เกี่ยวกับ AIM ซึ่งร้ายกาจยิ่งกว่าพลังเดิม แม้แต่คู่ต่อสู้อย่างเลเวล 5อันดับ2 ผู้ทรงพลังเหนือเลเวล 5คนอื่นๆอย่าง คางิเนะ เทย์โทคุ ยังกลายเป็นฝ่ายถูกสังหารโหดข้างเดียว โดยยังไม่ทันใช้พลังที่แท้จริงของดาร์ค แม็ตเตอร์ ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาระหว่างการต่อสู้เลยสักนิด







อันดับ 7

ออซเรลุส

จอมเวทผู้มีพลังใกล้เคียงกับระดับ  "เทพมาร"ที่สุด จนตกเป็นเป้าหมายการไล่ล่าขององค์กรฝ่ายเวทจำนวนมาก แต่ก็พิชิตศัตรูทั้งมวลได้อย่างราบคาบ ด้วยเวท Hlidskjalf (บัลลังก์ยุโรปเหนือ)
เวทโจมตีปริศนาที่  "ไม่อาจแสดงออก ไม่อาจอธิบาย ไม่อาจทำความเข้าใจได้"
และยิ่งความที่ตัวเวทแต่เดิมไม่ได้มีไว้ใช้โจมตี ก็ยิ่งทำให้ความ "ไม่สามารถอธิบายได้" ของพลังนี้เด่นชัดขึ้นอีก
ระยะการจู่โจมและพลังทำลายล้วนคลุมเครือ เป็น "ปรากฏการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้" ซึ่งเป้าหมายการโจมตีที่โดนเข้าไป ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ตัวโซงิอิตะ กุนฮะ ที่โดนเข้าไปนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทั่วทุกส่วนในร่างกายจนพ่ายแพ้

อนึ่งแม้จะเรียกว่าเป็นเวทมนตร์แต่จุดร่วมที่เป็น "พลังที่ไม่สามารถอธิบายได้" นั้นใกล้เคียงกับพลังของเลเวล 5 อันดับ 7 มากทีเดียว






อันดับ 6

คาริสซ่า
เจ้าหญิงองค์ที่สองของ "ราชวงศ์" ผู้เปี่ยมพรสวรรค์ด้านการศึกสงคราม
หลังจากทำการค้นหาอย่างลับๆก็ได้พบและครอบครองพลังอันสะท้านฟ้าของดาบเคอทานาต้นแบบ


Curtana=Original
ดาบแห่งความกรุณา ซึ่งมีเพียงคนในราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ดาบที่มีพลังของอัครเทวดามิคาเอลเล่มนี้จะมอบพลัง(เทเลสม่า)ที่ยิ่งใหญ่ระดับเดียวกับผู้นำเทวดา(มิคาเอล)ซึ่งอยู่ภายในดินแดนของสหราชอาณาจักรให้กับผู้ใช้
นอกจากนี้ยังสามารถส่งเทเลสม่าไปเสริมพลังให้กับเหล่าอัศวินผู้รับใช้ราชวงศ์ได้ด้วย
มีข้อจำกัดตรงที่ว่าหากอยู่นอกอาณาเขตดิแดนของอังกฤษ,สก๊อตแลนด์,เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้
อีกทั้งตัวผู้ใช้ยังไงก็เป็นมนุษย์ ย่อมไม่อาจเทียบเท่าแสดงพลังเทวดาได้
แต่ทั้งนี้พลังที่แท้จริงของดาบที่น่ากลัวที่สุดคือพลังแห่งการสะบั้นมิติทั้งปวง


เซ็นจิเก็นเซ็ตสึดัน(สะบั้นมิติทั้งปวง)
พลังที่แท้จริงของ Curtana=Original
เวทมนตร์ซึ่งจะแยกอาณาเขตของแผ่นดินสหราชอาณาจักรออกเป็นเอกเทศจากดาวเคราะห์โลก แล้วทำการควบคุมเขตแดนภายในนั้น
ผลของมันคือพลังในการสะบั้นปวงมิติ
ระยะจู่โจมของการสะบั้นมิติอยู่ราวๆ 100เมตรจากตัวดาบ และเนื่องจากเป็นการตัดตัวมิติ นอกจากอิมมาจินเบรคเกอร์แล้ว ก็ไม่มีทางอื่นที่จะป้องกันได้เลย
เอฟเฟคท์รองอีกอย่างคือการทำการ Materialize ซากมวลสารที่หายไปจากการตัดมิติซึ่งจะถูกทิ้งกลับลงมายังโลก ให้ก่อร่างขึ้นใหม่
ซึ่งซากมวลสารขนาด 100เมตรนี้สามารถประยุกต์ใช้เป็นอาวุธยิง หรือเกราะป้องกันได้
ระยะเวลาการ Materialize จะเกิดขึ้นใน 1.25วินาทีหลังการสะบั้นมิติ โดยสสารที่ก่อร่างขึ้นมาเหล่านี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่เกิดจากการตัดมิติ อิมมาจินเบรคเกอร์จึงไม่สามารถลบล้างไปได้(แต่ถ้าสารถลบล้างการสะบั้นมิติได้ภายใน 1.25วินาทีจะสามารถหยุดการ Materializeได้ )

นอกจากนี้ยังมีวิธีใช้อีกแบบโดยการเปลี่ยนกระแสพลังเวทที่ใช้ในการตัดมิติกลายเป็นคลื่นช๊อคเวฟขนาดยักษ์กระจายออกไปทั่วทุกทิศ ซึ่งหากปักดาบลงกับกับพื้นแล้วแผ่พลังอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดเป็นการระเบิดรูปโดมซึ่งมีรัศมีถึง 500เมตร โดยการโจมตีนี้มีลักษณะเหมือนดราก้อนเบรธของอินเด็กส์ที่อิมมาจินเบรคเกอร์แพ้ทาง คือมีการส่งพลังมหาศาลมาจากแหล่งกำเนิดอย่างไม่สิ้นสุดจึงไม่สามารถลบล้างไปโดยสิ้นเชิงได้ อีกทั้งมือขวายังถูกโดนแรงดันจนบาดเจ็บ สุดท้ายก็ยืนต้านไม่ไหวถูกซัดลอยขึ้นไปกลางอากาศถึง 200เมตร






อันดับ 5

อินเด็กซ์

เด็กสาวผู้มีความสามารถความจำสมบูรณ์แบบ ผู้มีเนื้อหาของหนังสือเวทต้นฉบับทั้ง 103,000 เล่มอยู่ในหัว ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นผู้ครอบครองพลังระดับ"เทพมาร"(ซึ่งในที่นี้หมายถึงมนุษย์บรรลุศาสตร์แห่งมนตราถึงระดับที่ย่างกรายเข้าสู่ขอบเขตของพระเจ้า)
แม้เจ้าตัวจะบอกว่าตัวเองไม่มีพลังเวท แต่อันที่จริงนั่นเป็นเพราะอาคมที่ อาร์คบิช๊อป ลงไว้ในตัวกัดกินพลังเวทไปต่างหาก เมื่อสิ่งนั้นถูกโทวมะทำลายไปก็ความเป็นไปได้ว่าจะสามารถใช้

เวทมนตร์ได้ เพียงแต่ไม่มีบอกเธอเรื่องนั้น (แน่ล่ะพลังอันตรายระดับนี้ ต้องเซฟตี้ไว้โดยปล่อยให้เชื่อว่าตัวเองไม่มีพลังเวทต่อไปสิ)
ถ้าถามว่าเมื่อไหร่อินเด็กส์จะได้ใช้พลังโดยอิสระ ก็ต้องบอกว่าพลังระดับนี้มันต้องเก็บบทไว้ให้ใช้กับศัตรูระดับบอสใหญ่ล่ะครับ (ขืนให้ใช้ได้ตั้งแต่แรกๆ โทวมะมันก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ) ซึ่งตอนนี้ก็มีแนวโน้มมาแล้วล่ะ
แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคตน่ะนะ เอาเป็นว่าถ้าอยู่ในสภาพที่ใช้พลังได้เต็ม 100 ก็จะอยู่ในช่วงอันดับนี้นั่นแล

อนึ่ง มีคนอ่านตั้งข้อสงสัยว่าอินเด็กซ์อาจจะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดในทางใดทางหนึ่ง กับ(อดีต)จอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างอเลสเตอร์ โครวลีย์ ก็เป็นได้
ซึ่งก็นับว่าน่าคิดทีเดียวนอกจากทั้งคู่จะมีสีผมกับสีตาเหมือนกันแล้ว อินเด็กส์นี่ดูยังไงก็ไม่ได้มีดีที่ความสามารถความจำสมบูรณ์แบบอย่างเดียวๆแน่ เพราะคัมภีร์เวทฉบับดั้งเดิมทั้งหลายนั้นมันอันตรายกว่าที่คิดมากครับ ขนาดจอมเวทเก่งๆอย่างยามิซากะ โอวมะ ที่เข้าไปในหัวอินเด็กส์  ยังทนพลังของหนังสือต่างๆที่ผ่านตาไม่ได้ แค่ไม่กี่เล่มก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว จนเจ้าตัวยังสงสัยว่าแล้วเด็กสาวตัวเล็กๆคนเดียวที่แบกรับเนื้อหาหนังสือทั้ง 103,000 เล่มเอาไว้ได้คนนี้นี่ใช่มนุษย์แน่หรือ?
 




อันดับ 4

เฟียนม่า แห่งเบื้องขวา
ผู้นำของ God's Right Seat ผู้สังกัดคุณสมบัติของอัครเทวดา  มิคาเอล และเป็นผู้ครอบครองพลัง "มือขวาศักดิ์สิทธิ์" พลังของมิคาเอลที่ใช้พิชิตลูซิเฟอร์ และส่งไปจองจำในขุมนรก
เป็นอีกคนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของ "Imagine Breaker" โดยเจ้าตัวบอกว่าเป็นพลังเป็นพลังที่ใกล้เคียงกับพลัง "มือขวาศักดิ์สิทธิ์"ของตน
รายละเอียดที่แท้จริงของพลังยังไม่ปรากฏชัด แต่เท่าที่เห็นจะออกมาในรูปของแขนแสงขนาดใหญ่ที่ไหล่ขวาของ เฟียนม่า
เพียงแค่โจมตีครั้งเดียวก็ทำลายมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ซึ่งมีอาณาเขตป้องกันที่แข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง(ซึ่งอันที่จริงหากไม่ได้สมเด็จพระสันตปาปา ใช้พลังทั้งหมดรับการโจมตีไว้ที่ตัวเอง วาติกันรวมถึงเขตเมืองโรมในรัศมี 100เมตร จะราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว

แม้จะร้ายกาจขนาดนี้ แต่พลังของเฟียนม่าในตอนนี้ยังสมบูรณ์ อยู่ในสภาพที่ไม่เสถียรนัก ซ้ำเจ้าตัวยังบอกว่าอานุภาพยังเทียบไม่ได้กับของต้นตำรับด้วยซ้ำ
เฟียนม่าต้องการกุญแจ 3อย่าง ในการทำให้พลังนี้สมบูรณ์แบบ ซึ่งได้แก่
- Imagine Breaker
- อินเด็กซ์
- วัตถุดิบ-มีช่า ครอยเซฟ    
รายละเอียดอื่นๆยังไม่ปรากฏ แต่จากคำพูดของเฟียนม่า ที่บอกว่าอาติแฟ็คต์ ระดับดาบ Curtana=Original ยังไม่เพียงพอจะเป็นภาชนะรองรับพลังของตน และคงระเบิดเป็นชิ้นๆทันที ก็พอจะเห็นภาพได้เลยว่าพลังมันมหาศาลขนาดไหน







อันดับ 3

เทวดาประดิษฐ์ ฟิวส์=คาซาคิริ

เทวดาเทียมซึ่งใช้ AIM เป็นองค์ประกอบร่างแทน เทเลสม่า(พลังแห่งเทวดา) ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเป้าหมายในการดึงเอามิติเขตการศึกษาจำนวนจินตภาพมายังโลก
แม้จะยังไม่สามารถทำได้ในสภาพสมบูรณ์ ทำได้เพียงแค่การก่อให้เกิดการผิดปกติของวงจรเวทจนเกิดความเสียหายกับตัวจอมเวทที่พยายามร่ายเวท(เหมือนเวลาที่ผู้มีพลังพิเศษใช้เวทมนตร์)
และบั่นทอนอานุภาพของเวทมนตร์ลง ซ้ำยังมีระยะสั้น(ในขณะที่อานุภาพจริงๆของ เขตการศึกษาจำนวนจินตภาพจะทำให้การใช้จอมเวทที่ใช้เวทมนตร์ร่างระเบิดตาย) แต่ก็จัดว่าเป็นตัวอันตรายสำหรับจอมเวทอย่างยิ่งยวดทีเดียว  

ด้านการโจมตีจะใช้การปลดปล่อยพลังงานแสงที่คล้ายสายฟ้าจากปีกจำนวนหลายสิบ ซึ่งมีความยาวตั้งแต่ 10 ไปถึง 100m(ถึงจะดูเหมือนสายฟ้า แต่ตัวมิโคโตะที่เป็นผุ้ใช้สายฟ้ากลับบอกว่ามันไม่ใช่) อานุภาพจัดได้ว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดินทีเดียว อะไรที่สัมผัสกับปีกเข้าก็กลายเป็นจุลได้เลย นอกจากนี้ "Imagine Breaker" ยังทำได้แค่สลายปีกที่แตะทีละปีกเท่านั้น(ซึ่งจะงอกใหม่ในทันที) โดยไม่มีทางเข้าไปในระยะประชิดได้เลย งานนี้จึงคว้าอันดับ 3 ไปอย่างไร้ข้อกังขาครับ






ปีกของ ฟิวส์=คาซาคิริ






อันดับ 2

มีช่า ครอยเซฟ

ตัวตนที่แท้จริงคือ อัครเทวดา "พลังของพระเจ้า" กาเบรียล ตัวแทนแห่งธาตุน้ำ บอสประจำนิยายเล่ม 4
คว้าอันดับ 2ไปอย่างไร้ข้อกังขาครับ กับพลังระดับเทวดาที่สามารถล้างโลกได้ง่ายๆ แม้จะอยู่ในสภาพที่ใช้พลังได้ไม่สมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็น
- แอสโตร อิน แฮนด์
เวทที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของดวงดาวในจักรวาล ที่เห็นใช้ในเรื่องก็ตอนที่ใช้เปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืนเพื่อใช้พลังอีกอย่างนึง

- ชินริคุ (ทัณฑ์เทวะ)
มหาเวทเรียกศรเพลิงนับพันล้าน(ที่แต่ละดอกมีอานุภาพเทียบเท่าจรวดมิสไซล์) มาผลาญทำลายพื้นโลก ด้านพลังทำลายนั้นสามารถทำให้พื้นโลกครึ่งนึงกลายเป็นแผ่นดินแห่งความตายได้เลยทีเดียว เป็นเวทที่ใช้ได้เฉพาะตอนกลางคืน และต้องใช้เวลากว่า 30นาที ก่อนจะใช้ออกได้ นับว่าโชคดีที่ เวทแองเจิ้ล ฟอลล์ ซะก่อนที่เวทนี้จะได้ใช้ออกไป

- ซุยโยคุ (ปีกวารี)
ปีกผลึกนับสิบ ความยาว 50～70ｍ สร้างขึ้นจากน้ำในมหาสมุทร ซึ่งกาเบรียล ใช้โจมตีคันซากิ ระหว่างรอใช้ชินริคุ อานุภาพสูงสุด ดอกเดียวสามารถป่นภูเขาหายไปทั้งลูกได้เลย ขนาดคันซากิซึ่งมีพลังของนักบุญยังทำได้เพียงแค่ตั้งรับการโจมตีเพื่อถ่วงเวลาให้พวกโทวมะ แบบน้ำลายเหนียวคอเลยครับ






อันดับ 1

เอวัส

ตัวละครใหม่สดๆร้อนๆ ที่ปรากฏกายในเล่ม 19 เป็นตัวตนที่แท้จริงของ  "ดราก้อน" คีย์เวิร์ดปริศนา ซึ่งเป็นข้อมูลสุดท้ายที่หลุดมาจากเครือข่ายส่วนตัวของ อเลสเตอร์ในเล่ม 15
ตัวตนปริศนาที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเทวดาหรืออะไรกันแน่
ที่แน่ๆคือ เอวัส เป็น ความลับสุดยอดของนครแห่งการศึกษา(ลับขนาดที่คณะกรรมการบริหารสูงสุด พยายามกำจัดพวกแอคเซเลอเรเตอร์ ที่ไปเห็นคีย์เวิร์ดลับเข้า)
แถมยังปรากฏว่าเทวดาประดิษฐ์ ฟิวส์=คาซาคิริ นั่นแท้จริงแล้ว ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เอวัสปรากฏกายในโลกนี้ โดยใช้ฟิวส์มาสร้างร่าง AIM เพื่อให้เป็นที่ประทับ
พลังที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ เท่าที่เห็นก็มีตอนปรากฏตัวที่ทำให้พวกแอคเซเลอเรเตอร์หมดสติไป ยกเว้นตัวแอคเซเลอเรเตอรืที่เอวัสต้องการจะคุยด้วย ส่วนตอนที่จัดการสร้างปีกปริศนาขึ้นมาเฉาะพุงกะทิแอคเซเลอเรเตอร์โหมดปีกดำนั่น เป็นโปรแกรมป้องกันส่วนแกนกลางของร่าง AIM ที่อเลสเตอร์เป็นคนลงไว้

อนึ่งแม้ที่มาของเอวัสยังไม่แน่ชัด แต่ถ้าอิงจากเรื่องหนังสือเวท "หนังสือแห่งกฏ" (หรืออีกชื่อคือ Liber AL vel Legis หนังสือเวทที่เขียนโดยอเลสเตอร์ โครวลีย์  ซึ่งมีเนื้อหาและภาษาที่คนธรรมดาไม่สามารถแปลความหมายได้(แม้แต่อินเด็กส์ที่มีรายละเอียดหนังสือเล่มนี้ในหัว แต่ไม่สามารถเข้าใจได้) ว่ากันว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอาคมของเทวดาที่มนุษย์ใช้ไม่ได้ และเมื่อใดที่หนังสือเล่มนี้ถูกแปลความได้จะเป็นเวลาสิ้นสุดกาลสมัยของคริสต์ศาสนาเลยทีเดียว) ซึ่งอันที่จริงโครวลีย์บอกว่าตนนั้นเป็นเพียงสื่อกลาง เนื้อหาภายในได้รับการถ่ายทอดจาก เอวัส ตัวตนทรงภูมิปัญญาที่อยู่ในมิติชั้นสูง และถ้าเป็นไปตามนั้นก็เท่ากับว่าเอวัสเป็นอาจารย์ของ(อดีต)จอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างโครวลีย์กลายๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทวดาหรืออะไรก็ตามก็พอจะอนุมานได้เลยว่าพลังพี่แกไม่ธรรมดาแน่ๆ

และแม้จะยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด แต่จากที่เห็นตอนที่แอคเซเลอเรเตอร์ โดนเล่นงาน ดูเหมือนพลังใดๆที่ใช้ AIM(หรือก็คือพลังพิเศษทั้งหลายนั่นแหละ)จะไม่มีผลกับเอวัส และการที่ใช้ ฟิวส์=คาซาคิริมาสร้างร่าง ถ้าหากเจ้าตัวมีพลังการลบล้างเวทมนตร์ของเขตการศึกษาจำนวนจินตภาพเช่นเดียวกัน ก็แสดงว่า เอวัส เป็นตัวตนที่พลังพิเศษและเวทมนตร์ไม่มีผล???
จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่เอาอันดับ 1ไปครองไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดที่มากกว่านี้











ต่อไปเป็นกลุ่มที่เฉียดๆจะติดอันดับแต่หลุดโผไปครับ


ควีนเรกแนนต์ เอลิซาร์ด
ผู้นำของ "ราชวงศ์" ซึ่งเป็น 1ใน 3ขั้วอำนาจแห่งสหราชอาณาจักร
เป็นเจ้าของ Curtana=Second อาร์ติแฟ็คที่ใช้ในพิธีเถลิงบัลลังก์ซึ่งสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นในราชวงศ์
แม้ตัวดาบจะเป็นของจำลองซึ่งพลังด้อยกว่าต้นแบบที่สูญหายไป แต่ก็มีคุณสมบัติทุกอย่างเช่นเดียวกับต้นแบบ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงพลังสะบั้นมิติที่ร้ายกาจด้วย
นอกจากนี้ยังมี "ยูเนี่ยนแจ๊ค" มหาเวทระดับประเทศ ซึ่งจะทำการผ่องถ่ายพลังที่ได้รับจากดาบ Curtana  มอบให้แก่ประชาชนทั้ง 90 ล้านของสหราชอาณาจักรอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นไพ่ตายในการพลิกสถานการณ์ในศุกต่อต้านการรัฐประหารของคาริสซ่ามาแล้ว

อนึ่ง หากเป็นตามปกติ เอลิซาร์ด น่าจะอยู่อันดับไล่เลี่ยกับกับ คาริสซ่า แต่เนื่องจากในเรื่องเมื่อดาบเคอทานา=ออริจินัล ตื่นขึ้น พลังที่อยู่ในตัวจำลองอย่าง เซคันด์ จึงถูกดึงกลับคืนสู่ต้นฉบับถึง 8 ส่วน จึงไม่ทันได้แสดงพลังเต็มที่
เมื่อวัดจากสภาพที่พลังเหลือเพียง 2 ส่วน จึงหลุดโผไปด้วยประการฉะนี้(แต่ก็ยังโหดอยู่ดี)








คางิเนะ เทย์โทคุ

เลเวล 5อันดับ 2 เจ้าของพลัง "ดาร์คแม็ตเตอร์" พลังพิเศษอันทรงพลังที่เรียกสสารปริศนาที่ไม่มีอยู่บนโลกออกมาและนำมาใช้งานดังใจนึก
สสารดาร์คแม็ตเตอร์นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลงกฏฟิสิกส์ของวัตถุใดๆก้ตามที่มันสัมผัส  ซึ่งปกติคางิเนะจะทำให้มันอยู่ในรูปของปีกเทวดาสีขาวซึ่งใช้ได้ทั้งโจมตีด้วยการแทง-ฟัน-ทุบ และยังมีพลังป้องกันเป็นเลิศขนาดรับการโจมตีที่รุนแรงของ เลเวล 5 อันดับ 4 มุกิโนะ ชิซุริ ได้โดยไม่สะทกสะท้าน
นอกจากนี้ ดาร์คแม็ตเตอร์ยังมีพลังที่แท้จริงซึ่งซ่อนไว้เหมือนกับปีกดำของแอคเซเลอเรเตอร์ ซึ่งตื่นขึ้นตอนที่เจ้าตัวเห็นปีกดำของฝ่ายตรงข้าม แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ทันได้ใช้ ก็ถูกเชือดไปซะก่อน

อนึ่งพลังพิเศษของทั้ง แอคเซเลอเรเตอร์ กับคางิเนะนั้นนับว่าทรงพลังเหนือชั้นกว่าเลเวล 5คนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด(ยกเว้นอันดับ 7อย่างกุนฮะที่เป็นกรณีพิเศษไว้คน) แม้แต่อันดับ3-4 ซึ่งห่างกันไม่กี่ขั้น ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรเลยแม้แต่นิด(อันดับ4 อย่างชิสุริเองก็พ่ายแพ้คางิเนะหมดรูป อย่างง่ายดาย)
นอกจากนี้ยังมีความลับซ่อนอยู่อีกมาก ทั้งรูปแบบพลังที่มีลักษณะพิเศษระดับที่สามารถควบคุม-รีไรท์กฏฟิสิกส์ได้ ซึ่งไม่อาจจัดประเภทอยู่ในกลุ่มใดๆของพลังพิเศษที่มีในนครแห่งการศึกษา,พลังลับที่ซ่อนอยู่ และทั้งคู่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับแผนการของอเลสเตอร์โครวลีย์อีกด้วย







คันซากิ คาโอริ

สังฆราชหญิงแห่งนิกายอามาคุสะ ผู้ฟาดฟันศัตรูด้วยวิชาดาบ และด้ายเหล็ก ซึ่งเป็นวิชาต่อสู้มาตรฐานของนิกาย
เป็นอีกคนในเรื่องที่เกิดมาพร้อมคุณสมบัติของ"นักบุญ" จึงมีพลังต่อสู้เหนือกว่ามนุษย์มนาทั่วไปมาก  
เช่นเดียวกับ อควอ นอกจากการโจมตีทางกายภาพด้วยศาสตราวุธ แล้วด้านเวทมนตร์ก็ถือเป็นฉมังทีเดียว ทั้งเวทโจมตีสารพัดชนิดและการประยุกต์ใช้ด้ายเหล็กมาสร้างเป็นวงเวท 3มิติกลางอากาศ
เรียกว่าหาใครมาต่อกรได้ยาก
ทั้งๆที่น่าจะติดอันดับท๊อป 10 แต่เมื่อมาเทียบกับนักบุญสองคุณสมบัติอย่างอควอ,ผู้ที่ครองพลังระดับเทวดา และบรรดาตัวตนที่ไม่ใช่มนุษย์ทั้งหลายแหล่ กลับต้องหลุดอันดับไปอย่างน่าเสียดาย

ป.ล.คาโอริมีพลังสายตาสุดยอดระดับ 8.0 ด้วยครับ







โซงิอิตะ กุนฮะ

เลเวล 5อันดับ 7 ผู้มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 3 ในกลุ่ม และเป็นหนึ่งใน เก็นเซคิ(แปลว่า อัญมณี หมายถึง ผู้มีพลังเหนือมนุษย์โดยกำเนิด ไม่ต้องผ่านหลักสูตรปลุกพลังของนครแห่งการศึกษา มีอยู่แค่ราวๆ 50คนในโลก ตัวอย่างคนอื่นๆในกลุ่มนี้ก็เช่น โทวมะ กับไอสะ )
เจ้าของพลังปริศนาที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าเป็นพลังอะไรกันแน่ ซึ่งบางทีอาจจะเรียกว่าเป็นพลังพิเศษไม่ได้ด้วยซ้ำ(เพราะไม่มีลักษณะการแผ่ AIMเลย)
ท่าไม้ตายประจำตัวคือ "สุโค่ยพ๊าาานช์" การโจมตีระยะไกลที่ปล่อยพลังปริศนาออกจากหมัด ซึ่งเป็นพลังที่คล้ายกำแพงไซโคคิเนซิสที่ไม่เสถียร(แต่ผู้ใช้พลังไซโคคิเนซิสที่เห็นมันกลับบอกว่าไม่ใช่)อะไรที่มากระแทกถูกจะทำให้มันแตกแล้วเกิดแรงอัดกระแทกมหาศาลระเบิดออกมา

อื่นๆที่แสดงออกมาได้แก่
-ปล่อยควันหลากสี แดง-น้ำเงิน-เหลืองออกจากหลังแล้วทำให้เกิดการระเบิด
-สร้างการระเบิดแปลกๆโดยมีตัวเองเป็นศูนย์กลางทำให้คนที่อยู่รอบๆถูกอัดกระเด็น
-ถูกยิงที่หัวใจ,โดนที่เจาะน้ำแข็งกระซวกกลับ แต่กลับแค่รู้สึกเจ็บ ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร
-ตั้งท่าแล้วเคลื่อนที่ออกไปด้วยความเร็วสองเท่าของความเร็วเสียง
-ยกสองมือขึ้นทำให้คอนเทนเนอร์ที่ตกลงมาระเบิดเหมือนภูเขาไฟกลางอากาศแล้วปลิวไป
-ห่อหุ้มร่างกายตัวเองด้วยพลังที่ไม่ทราบแน่ชัด







ต่อด้วยสองหน่อนอกอันดับ ที่จัดลำดับร่วมกับชาวบ้านไม่ได้เพราะพลังที่โกงจนเข้าข่ายนอกกฏ



ออร์เรโอลุส อิซซาร์ด

เจ้าของพลัง Ars Magna สุดยอดวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ที่เปลี่ยนความคิดในหัวให้กลายเป็นความจริงได้(แม้ในเรื่องจะสามารถปลุกพลังออกมาใช้ได้แค่ราวๆครึ่งวันก็เถอะ)  
นอกจาก Ars Magna แล้ว เจ้าตัวก็ยังมีวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ร้ายกาจเป็นอาวุธ(ก็นักเล่นแร่แปรธาตุนี่นะ) ตั้งแต่ ออร์เรโอลุส ดัมมี่ ตุ๊กตาเวทที่เหมือนตัวจริงทุกกระเบียดนิ้วแต่มีพลังต่อสู้ทางกายภาพสูงมากๆ ซึ่งมาพร้อมอาวุธคือ Lumen Magma หัวธนูติดโซ่ทองคำ อาวุธเวทที่สามารถเปลี่ยนสิ่งใดๆที่มันสร้างบาดแผลให้ กลายเป็นทองคำหลอมเหลว







เวทย์ แห่งเบื้องหน้า

หนึ่งในสมาชิกของ God's Right Seat ผู้สังกัดคุณสมบัติของอัครเทวดา  อูริเอล "เพลิงของพระเจ้า"  ตัวแทนธาตุลม
ด้านพลังธาตุลมที่ใช้จัดได้ว่ามีพลังต่อสูงเอาการ(ขนาดโดนมิสไซล์ต่อต้านรถถังเข้าไปยังไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน) และการโจมตีเวท+กายภาพที่ไล่ต้อนตัวโจกเกอร์อย่างโทมะจนไปไม่เป็น

แต่ไพ่เด็ดจริงๆคือ เท็นบัตซึจุตซึชิคิ(อาคมทัณฑ์สวรรค์) เวทสุดโหดที่มีผลคือ ทำให้ผู้ใดก็ตามที่มีความคิดมุ่งร้าย,เป็นปฏิปักษ์กับผู้ใช้  สิ้นสติสมประดีโดยไม่เกี่ยงระยะทางหรือสถานที่
โดยมีหลักการที่ว่าเป็นโทษทัณฑ์แด่ผู้ที่บังอาจถ่มน้ำลายรดฟ้า(พระเจ้า) ซึ่งตัวผู้ใช้จะเปรียบเสมือนตัวแทนพระเจ้าโดยปริยาย
ขอบเขตอิทธิพลของพลังนั้นนับว่าน่ากลัวมาก เพียงแค่เห็นภาพเจ้าตัวลางๆจากรูปถ่าย หรือรายงานข่าว ก็ตกอยู่ใต้ขอบเขตการจู่โจมแล้ว หากมีจิตปฏิปักษ์ขึ้นก็จะโดนเล่นงานทันที(ไม่จำเป็นต้องคิดทันที ถึงเห็นไปนานแล้ว มาคิดทีหลังก็โดนเช่นกัน) ยิ่งเป็นยุคไฮเท็คที่เครือข่ายการติดต่อสื่อสารครอบคลุมไปทั่วในหลากวิธีการแล้ว ก็ยิ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อได้ง่ายขึ้น
จากการตรวจวินิจฉัยทางวิทยาศาสตร์เป้าหมายจะคงอยู่ในสภาพคล้ายกับ สภาพเสมือนตาย จากการขาดอ๊อกซิเจน เพียงแต่กรณีนี้เกิดจากพลีงลึกลับบางอย่าง

ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ได้แก่ การบุกเดี่ยวถล่มนครแห่งการศึกษา ทำให้เหล่าแอนตี้สกิล&จัดจ์เม้นท์ หมดสภาพปฎิบัติการไปแทบทั้งเมือง(โดยไม่มีใคร บาดเจ็บ-เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว)
พร้อมกับเชือดคณะกรรมการบริหารสูงสุด(ซึ่งเทียบได้กับค.ร.ม.ของเมือง)ไป 3ศพ(จากทั้งหมด 12คน)