ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ' Close ' :)

    ลำดับตอนที่ #90 : 10 วิธี เพื่อสุขภาพจิตดีเหมือน แมว!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 180
      0
      15 พ.ค. 52

    ความเครียดเล่นงานคุณจนหัวหมุนไปแล้วหรือยัง? มาลองฟังวิธีคลายเครียดจากสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม่เครียดอันได้แก่...เจ้าเหมียวของคุณ ฟังแล้วชวนงงใช่ไหมล่ะเพราะวันๆเห็นมันเอาแต่นอน พอตื่นมาก็กิน เลียขน นั่งชมนกชมไม้ แล้วก็กลับไปนอนใหม่ แต่ช้าก่อน...ลองมองใหม่ให้ดี เจ้าการ์ฟิลด์ของคุณอาจเป็นสุดยอดกรณีตัวอย่างให้คุณฝึกละลายความเครียดเลียนแบบมันได้ เรื่องนี้มีงานวิจัยมายืนยันว่าการเลี้ยงแมวสามารถผ่อนคลายจิตใจของคุณได้อย่างคาดไม่ถึง บางคนถึงกับเปรียบการดำรงชีวิตของแมวเหมือนกับ "วิถีแห่งเซน" เลยทีเดียว ถึงตอนนี้คุณพร้อมจะเรียนรู้ 10 วิธีเพื่อสุขภาพจิตดีเหมือนแมวหรือยัง เอาล่ะ ฟังนะ (เมี้ยว...)

    1. แมวเป็นครูสอนโยคะโดยธรรมชาติ เจ้าเหมียวของเรารู้ดีถึงประโยชน์ของการยืดตัว พอเช้าขึ้นเราจึงเห็นว่าก่อนมันจะลุกออกจากเตียงนอนของคุณ มันจะยืดตัวโชว์ซะหนึ่งรอบก่อน โดยเริ่มจากกดหัวให้ต่ำลง เหยียดขาหน้า แล้วยกก้นโด่ง มันจะอยู่ในท่านี้หลายวินาทีเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการยืดทั้งตัวอย่างเต็มที่ จากนั้นมันก็ขยับไปออกกำลังกล้ามเนื้อชุดอื่นต่อไปก่อนจะลุกออกจากเตียงไปได้ สำหรับแมวส่วนใหญ่แล้วจะฝึกความยืดหยุ่นของร่างกายมันตั้งแต่เป็นลูกแมวไปจนเป็นแมวใหญ่เลยทีเดียว

    บทเรียนที่ 1 พอนาฬิกาปลุกคุณดังขึ้น ก่อนจะลุกจากเตียงให้คุณยืดตัวให้เต็มเหยียด โดยนอนราบ เหยียดขา ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกช้าๆ ในขณะที่พยายามยืดตัวตั้งแต่ส่วนหัวลงสู่เท้า ในใจให้คิดแต่เรื่องยืดตัวและความรู้สึกดีๆที่ได้ปลุกกล้ามเนื้อให้ตื่นขึ้น


    2.
    แมวรู้ดีถึงอำนาจการบำบัดด้วยสัมผัส พวกมันรู้ว่าเมื่อไรที่มันต้องการให้คนกอด ที่สำคัญมันไม่อายที่จะร้องขอ แต่รูปแบบการกอดที่มันเรียกร้องอาจแสดงออกมาเดินมาเอาตัวเบียดขาคุณ กระโดดผลุงขึ้นมานอนบนตัก หรือเอาเท้ามาเขี่ยมือคุณเพื่อเรียกร้องความสนใจ

    บทเรียนที่ 2 หาเวลาว่างไปนวดตัวเพื่อสุขภาพบ่อยๆ คุณจะมีท่วงท่าที่ดีขึ้น ลดความเครียดของกล้ามเนื้อที่คอและหลังลง รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย


    3.
    แมวเข้าใจคุณค่าของการใช้เวลาส่วนตัว แมวไม่เหมือนหมาที่จะคอยมาคลอเคลียอยู่กับเจ้าของตลอดเวลา มันมักจะหาโอกาสปลีกวิเวกอยู่เสมอ การ์ตูนการ์ฟิลด์คงเป็นตัวอย่างที่ดีเพราะเราจะเห็นเจ้าการ์ฟิลด์เดินหนีเจ้าของมันอยู่เรื่อย

    บทเรียนที่ 3 คนเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัว ทั้งที่จริงแล้วมันแสนจะจำเป็นสำหรับการชาร์จแบตให้ตัวเรา หมอจึงแนะนำว่าเราควรหาเวลาพักตอนกลางวันอย่างน้อยห้านาที หามุมสงบที่ไม่มีอะไรมากวนใจ รวมทั้งอย่าลืมปิดโทรศัพท์มือถือด้วยล่ะ!


    4.
    แมวรู้ประโยชน์ของการนอนเพิ่มพลัง โดยทั่วไปแล้วแมวจะนอนวันละ 16 ชั่วโมง! จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณอ่านการ์ตูนการ์ฟิลด์ทีไรก็ต้องเห็นมันนอนอยู่ทุกที แต่พอมันตื่นปุ๊บ แววตามันจะสดใสและกระตือรือล้นไปหาอะไรสนุกๆทำทันที

    บทเรียนที่ 4 เวลาที่คุณนอนหลับ ร่างกายของคุณจะใช้เวลานี้เพื่อเติมพลังงานให้ความชุ่มชื่นกลับคืนมา ถึงแม้หมอจะแนะนำให้นอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่ดูเหมือนตารางประจำวันของเรานั้นไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้ แต่บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหลายคนก็เป็น "นักนอน" ผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน คุณอาจลองเอาอย่างโทมัส เอดิสันด้วยการหาเวลางีบสัก 10 นาทีหลังอาหารเที่ยง ตื่นขึ้นมาคุณจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นหลายปีเลยทีเดียว แต่ข้อควรระวังคือถ้าคุณงีบเกิน 20 นาที ก็มีความเสี่ยงที่คุณจะหลับลึกแล้วตื่นขึ้นมาในสภาพงัวเงียเชื่องช้าแทนที่จะกระฉับกระเฉงเหมือนคนงีบน้อยๆ


    5.
    แมวเข้าใจคุณค่าของการกินดี ในขณะที่หมาจะสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่แมวนั้นขึ้นชื่อลือชาในความช่างเลือกกินของมัน อย่างไรก็ดี อาหารสุดโปรด 2 ชนิดของเจ้าเหมียวสัญชาติฝรั่งคือปลาแซลมอนและปลาทูนานั้นเต็มไปด้วยสารโอเมกา 3 และ 6 ซึ่งช่วยบำรุงสมอง แม้จะไม่มีงานวิจัยในปลาทูของโปรดแมวไทย แต่เชื่อใจได้ว่าคุณค่าอาหารไม่แพ้กันแน่

    บทเรียนที่ 5 คุณควรรับประทานเนื้อปลาให้มากขึ้น และกินพวกอาหารขยะจานด่วนทั้งหลายให้น้อยลง คอเลสเตอรอลในเลือดของคุณจะต่ำลงและหัวใจจะแข็งแรงขึ้น


    6.
    เมื่ออยู่ในเหตุการณ์น่ารำคาญใจ แมวจะเดินหนี ถ้ามีเด็กกำลังแหกปากร้อง เครื่องดูดฝุ่นเสียงระคายหู หรือมีแขกผู้เอาแต่พูดพูดพูดมาใกล้ๆ รับรองได้ว่าแมวจะเลือกการเดินหนีไปหามุมสงบใหม่ในบ้าน ไม่ใช่ว่ามันแสดงกริยาหยาบคายหรอกนะ แต่เป็นเพราะมันเข้าใจตัวมันดีว่าไม่เห็นจำเป็นต้องทนเหตุการณ์แบบนี้เลย

    บทเรียนที่ 6 หมอพบว่าแมวมักจะเดินหนีจากสถานการณ์ที่กวนใจแทนที่จะเลือกการเผชิญหน้า มันจะไปหาที่ใหม่ซึ่งใช้พลังงานและก่อความเครียดน้อยกว่า แม้ว่าคนเราจะหลีกหนีเรื่องที่เราไม่ชอบได้ทุกครั้งไป แต่อย่างน้อยเราควรเรียนรู้จากแมวที่จะเดินหนีเรื่องบางเรื่องบ้าง ซึ่งคงดีกับร่างกายและจิตใจเรามากกว่า


    7.
    แมวมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แมวส่วนใหญ่มีสุขภาพจิตดี มันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไร้ความกังวล มองโลกอย่างสดใส ไม่มีวันที่เราจะได้ยินข่าวแมวขี้ระแวงที่ไหนมาบอกว่ามีคนประสงค์ร้ายจ้างคนมาด่ามันบนรถแท็กซี่!

    บทเรียนที่ 7 มนุษย์เราหมกมุ่นอยู่กับความคิดทำนองว่า "ถ้ามันเป็นอย่างนั้นแล้ว..." หรือ "เราน่าจะได้..." มากเกินไป การยึดติดกับอดีตหรือกังวลกับอนาคตเกินเหตุเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของเราอย่างยิ่ง หมอจึงแนะว่าเราควรอยู่กับปัจจุบันให้ได้และอะไรจะเกิดก็รับมือไปตามเหตุการณ์จะดีกว่า


    8.
    แมวจริงใจกับความรู้สึก มันอยากได้อะไรมันก็จะขอ (ขอปลาอีกตัวเถอะ...ขอร้อง) หรือถ้ามันชอบอะไร มันก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ เช่นเวลามันรอท่าหรือไล่ล่าเจ้าจิ้งจกโชคร้าย

    บทเรียนที่ 8 คนเราจะเครียดน้อยลงถ้ารู้จักสื่อถึงความต้องการของตัวเราเองได้มากขึ้น บ่อยครั้งที่เราลังเลไม่กล้าเรียกร้อง อาจเป็นเพราะเราไม่เห็นถึงคุณค่าในตัวเราเองเหมือนที่แมวเห็น เราอาจคิดว่าเราไม่คูควรกับสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือการที่เราขออาจรบกวนคนอื่น แมวไม่ใช่อย่างนั้น มีอะไรมันก็บอก ถ้าไม่ได้อย่างที่ต้องการ มันก็ไปทำอย่างอื่นต่อไป ง่าย ตรงไปตรงมา และน่าเอาอย่างเป็นที่สุด


    9.
    แมวมีสุขอนามัยที่ดี คุณเคยเห็นอะไรบ่อยกว่า? แมวขนกระเซอะหรือคนผมกระเซิง? แมวไม่มีวันเป็นแบบนั้นหรอกเพราะวันวันมันจะนั่งเลียทำความสะอาดขนของมันให้สะอาดเงางามอยู่เสมอ

    บทเรียนที่ 9 เวลาที่เราอาบน้ำหรือสระผม ความรู้สึกดีๆจะเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในร่างกายของเรา สารแห่งความสุขจะหลั่งออกมาให้เห็นเป็นรอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าเรา


    10.
    แมวไม่ใช่พวกวัตถุนิยม เวลาคุณช็อปของเล่นใหม่ที่ทั้งทันสมัยและแพงแสนแพงมาให้แมวของคุณ คน(หรือตัว)ที่ตื่นเต้นกับมันอาจไม่ใช่เจ้าเหมียวแต่เป็นตัวคุณซะมากกว่า เพราะมันอาจพอใจของถูกๆแต่เล่นสนุกกว่าเป็นไหนๆอย่างเช่นม้วนกระดาษทิชชูหรือมือของคุณที่เล่นซ่อนอยู่ใต้กระดาษหนังสือพิมพ์

    บทเรียนที่ 10 การตามแฟชั่นจะสร้างความเครียดทั้งต่อกระเป๋าเงินและจิตใจของคุณ ถ้าคุณมีชีวิตเพื่อแสวงหาสิ่งที่ "ใหม่สุด" หรือ "ดีสุด" อยู่ตลอดเวลา ก็เป็นการแสวงหาที่คุณจะไม่มีวันค้นพบมันอย่างแท้จริง คำแนะนำคือคุณควรซื้อหาสิ่งที่คุณคิดว่ามีคุณค่ากับคุณ มากกว่าซื้อเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นเป็นคนทันสมัยไม่ตกเทรนด์

    เห็นรึยังว่าเป็นแมวนั้นมัน ส บ า า า ย ขนาดไหน ลองทำตามวิถีของแมวข้างต้นดู แล้วคุณจะรู้ว่าทั้งกายและใจของคุณสบายขึ้น ที่สำคัญมันอาจช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้จนคนข้าง ๆ หลงรักก็ได้ ใครจะไปรู้!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×