TALAWEE แอบรักเรื่อยเปื่อย
คุณเคยแอบชอบใครอยู่ห่างๆบ้างไหม? ห่างขนาดที่ว่า...แม้แต่ชื่อของเรา เขาก็ไม่รู้จัก ห่างขนาดที่ว่า...ได้แค่แอบมองเขาอยู่กับแฟนจากที่ไกลๆ เพราะห่าง...เลยทำให้พยายามชะเง้อมองหาอยู่เสมอ
ผู้เข้าชมรวม
1,398
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เคยรู้สึกชอบใครสักคนมากๆจนอยากจะเข้าไปกอด จูบ แสดงความเป็นเจ้าของด้วยการป่าวประกาศว่าคนๆนี้คือของๆเราบ้างไหม
….ถ้าเคย
คุณก็เหมือนกับผม
แล้วเคยรู้สึกชอบใครสักคนมากๆ
แต่ไม่กล้าสบตาหรือเข้าไปคุยด้วยไหม...ถ้าเคย คุณก็เหมือนกับผม
และเคยรู้สึกอิจฉาคนรักของคนที่คุณแอบชอบไหม อิจฉาที่เค้าได้รักกัน ส่วนตัวเราทำได้แค่เพียงมอง
...ถ้าเคย
คุณก็เหมือนกับผมอีกนะแหละ
ผมแม่งโคตรอิจฉาคนๆนั้นของเค้าเหลือเกิน
อิจฉา ที่คนๆนั้นของเค้าไม่ใช่เรา
“ธารา...เย็นนี้ไปซ้อมว่ายน้ำใช่ไหมวะ”
ได้ยินชัดเจนว่าเพื่อนข้างตัวเป็นคนพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามเกือบแถวหน้าสุดของห้องเรียนรวม ที่มี เขา กับ เธอ
พูดคุยกันเรื่องอะไรสักอย่าง พร้อมรอยยิ้มที่ดูมีความสุข
อยากไปยืนอยู่ตรงนั้น อยากไปกระชากตัวเธอออกมาแล้วบอกกับคนอื่นว่า...ปฐวี
คือของๆเขา
แต่ทำไม่ได้...ธารารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ตัวอิจฉาตามละครที่รู้จัก
แม้ด้านมืดจะบอกอยู่เสมอให้ทำตามที่คิด
ใครมันจะไปกล้าทำแบบนั้นกันวะ....โดยต่อยตาแตกก็เหี้ยแล้ว
“ฟังกูไหมเนี่ยธารา” ศิลาจับหัวของธาราให้หันกลับมาก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆให้คนที่เสมองไปยังหน้าห้องเรียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความ
แปลกใจ
“เป็นไรวะศิ”
“มึงแม่ง...มัวแต่มองคนอื่น กูถามมึงหลายรอบแล้วว่าเย็นนี้ซ้อมว่ายน้ำใช่ไหม ถ้าซ้อม ตอนค่ำๆกูจะมารับมึงไปแดกหมูกะทะกัน” ธาราพนักหน้ายิ้มรับตอบตกลง แต่ก็ยังไม่วายหันไปมองโต๊ะตัวเดิมอีกครั้ง ศิลารู้ว่าเพื่อนของเขาชอบคนๆนั้นมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยพูดออกไปว่าเขารู้เรื่องที่ธาราชอบปฐวี เพราะเหมือนว่าตัวธาราเองก็ยังปิดบังเขาอยู่...เขาแค่ช่างสังเกต เลยมองเห็นจนเดาได้
ตกเย็นธาราแยกตัวกับเพื่อนสนิทอย่างศิลาที่มีซ้อมฟุตบอล
ส่วนเขาก็มีซ้อมว่ายน้ำ แม้สระว่ายน้ำกับสนามฟุตบอลจะอยู่ติดกัน
แต่ธาราก็ไม่เคยไปดูศิลาซ้อมฟุตบอลเลยสักครั้ง...ที่ไม่ไป
เพราะปฐวีก็อยู่ในทีมซ้อมกับศิลาด้วย ธาราคิดว่าเขาไม่อาจทนดูความหล่อ
เห่ห์ของปฐวีตอนอยู่ในสนามได้
ขอแค่มองห่างๆ แบบนี้ดีกว่า
“ธารา พี่ขอฟรีสไตล์ 100 เมตร เอาเวลาให้ดีกว่าเดิม
ไหวไหม” ธาราส่งยิ้มให้กับพี่เขต
ประธานชมรมกีฬาทางน้ำที่ยืนอยู่บนของสระ ในขณะที่ตัวเขาจุ่มน้ำดำผุดดำว่ายเพื่อวอร์มอัพปอด
“ปกติมึงถนัดกบไม่ใช่เหรอวะธารา...ฟรีสไตล์มันเหนื่อยนะ
ถ้าแค่ว่ายเล่นๆไม่จับเวลาก็โอเคอยู่”
“ผมไหวครับพี่มอส” ยิ้มให้คนที่อยู่ในสระลู่ข้างตัวก่อนจะใส่แว่นตา
เตรียมพร้อมออกตัว....พี่เขตเป่านกหวีดส่งสัญญาณให้เขาออกตัวรีบว่ายสุดกำลัง...50
เมตรแรกยังพอไหว ธาราบอกกับตัวเองตอนถีบตัวกลับ แต่พอใกล้จะถึงฝั่ง
เขารู้สึกหน้ามืด
เหี้ยแล้ว....ความดันต่ำ
เขาหยุดว่ายพร้อมกับชูมือขึ้นบอกเป็นสัญญาณ
ไม่นานนักพี่มอสก็มาลากตัวเขาขึ้นมานั่งบนขอบสระ
“เป็นไรวะมึง” พี่เขตจับแขนเขาพลางก้มถาม
ในขณะที่ธาราเองไม่อาจลืมตามองอะไรได้ เพราะถ้าลืมตาตอนนี้
โลกจะหมุนคว้าง
แล้วเขาอาจจะสลบไปเลยก็ได้
“ความดันพี่” พูดจบ
ก็ได้ยินเสียงพี่มอสตะโกนไปยังบนอัฒจรรย์ให้หยิบขวดน้ำหวานมาให้ทางนี้หน่อย
“มึงไม่ได้กินข้าวเที่ยงเหรอ”
“ครับ”
“ทำไมไม่บอกก่อนลงสระวะ”
น้ำเสียงดุที่ส่งมาทำให้ธาราพอจะเดาสีหน้าของพี่เขตได้ดี
ใบหน้าจริงจังคงขมวดคิ้วเป็นปม
“ขอโทษพี่” ธารายกมือไหว้ขอโทษ
ทำให้เขตลอบถอนหายใจเบาๆ...ดีนะ ที่น้องมันไม่จมน้ำ ผู้เป็นประธานชมรมคิดในใจ
“อะๆ กินน้ำหวานก่อนมึง”
มอสเอาน้ำหวานสีเหลืองใสจ่อปากคนที่ยังคงหลับตาอยู่
เจ้าตัวจับหลอดพร้อมดูดอย่างช้าๆ
“ดีขึ้นไหม”
ธาราพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขตกับพี่มอสอีกครั้ง
“วันนี้มึงไปพักแล้วกัน เดี๋ยวกูโทรเรียกเพื่อนมึงให้มารับ”
เขตลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องชมรมกีฬาทางน้ำ รื้อค้นเอกสารประจำตัวของธาราออกมา มองหาช่องที่ระบุถึง
เพื่อนสนิทที่ติดต่อได้ ก่อนจะกดโทรออกไป รอสายอยู่นานอีกฝ่ายก็กดรับ
“สวัสดีครับน้อง...พี่เป็นประธานชมรมกีฬาทางน้ำนะครับ
พอดีธาราเพื่อนของน้องไม่สบาย เลยจะโทรมาบอกน้องให้มารับเพื่อนหน่อย”
‘ อ่า....ครับ’ ปลายสายพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะกดวางสายไป
เขตเก็บโทรศัพท์ของตัวเองเข้าตู้ล๊อคเกอร์เหมือนเดิมก่อนหยิบเอกสารประจำตัวของธาราที่ยังอยู่ในมือมาอ่านให้ละเอียดอีกครั้ง
ช่องโรคประจำตัว....ไม่มี
อืม...คงต้องดูแลน้องมันให้ดีกว่านี้
นี่ตัวเต็งกีฬามหาลัยปีนี้เลยนะเนี่ย
“พี่เขตครับ ผมขอตัวนะครับ
ขอโทษพี่และขอบคุณพี่ที่ช่วยผมนะครับ” ธารายกมือไหว้ผู้เป็นประธานชมรมอีกครั้ง
เขตยิ้มรับก่อนจะดุอีกฝ่ายให้รักษาตัวเองหน่อย คนถูกดุยิ้มเล็กน้อยเพราะรู้ว่าประธานชมรมเป็นห่วงเขา
ธาราเดินออกมานั่งรอศิลาที่หน้าทางเข้าสระว่ายน้ำคนเดียว
พลางมองไปยังสนามฟุตบอลที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตรแต่มีเนินดินไม่สูงมากขวางกั้นไว้
ในสนามมีคนไม่ถึง 10 คนยังคงเตะบอลอยู่
“นาย...ธาราใช่ไหม”
คนถูกเรียกชื่อหันไปมองตามเสียง ก่อนที่จะนิ่งงัน
ปฐวี....ปฐวีมาได้ไง
“เรามารับธารา นายชื่อธาราใช่ไหม”
แม้จะได้ยินเสียงชัดเจน แต่ธารากลับทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องยิ้มออกไป
หรือทำตัวแบบไหน
....นี่คือครั้งแรกที่ปฐวีคุยกับเขา
ปฐวี เป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกัน
แต่คนละสาขา และยังเป็นเดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้วอีกด้วย
“อะ...เอ่อ ใช่ แล้วศิลามันไปไหนอะ”
ตะกุกตะกักตอบออกไปพลางลอบมองคนที่ยืนหมุนพวงกุญแจในมือด้วยท่าทางสบายๆในชุดบอลสีเหลืองดำ
“อยู่โรงบาล...เล่นลิงชิงบอลกันแล้วล้มแขนกระแทกพื้น
หมอใส่เฝือกอ่อนอยู่ มันเลยให้มารับมึง”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้อาการประหม่าลดลง
ธารารู้ว่าปฐวีเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
เพราะใครๆก็ต่างรายล้อมเดือนมหาลัยคนนี้ทั้งนั้น
“งั้นไปโรงบาลก่อนใช่ไหม จะไปดูไอ้ศิ”
“อืม”
พูดจบธาราก็เดินตามปฐวีไปยังรถกระบะสีบอนซ์เงิน รถคันนี้เป็นรถของปฐวีเอง
เขาจำมันได้
ระยะทางจากสระว่ายน้ำไปโรงพยาบาลในมหาลัยไม่ได้ไกลมาก
แต่ทำไมธารารู้สึกมันช่างยาวนานเหลือเกิน ในรถไม่มีใครพูดอะไรออกมา
มีเพียงเสียงเพลงที่เล่นกล่อมทำลายความเงียบ
“อยู่สาขาเดียวกับไอ้ศิเหรอ”
ปฐวีเอ่ยขึ้นเมื่อรถติดไฟแดง
“ใช่” อีกฝ่ายตอบเพลงสั้นๆ
“กูไม่เคยเห็นหน้ามึงเลย”
ปฐวีเอ่ยเพียงเบาๆ แต่นั่นทำเอาธารารู้สึกน้อยใจอยู่ลึกๆ
อยู่คณะเดียวกันมาตั้งปีกว่า
แต่จำกันไม่ได้ ทั้งๆที่เขาจำปฐวีได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
อืม...ไม่มีใครจำผู้ชายตัวควายๆแบบนี้ได้หรอก
ธาราเลือกจะเงียบแทนการพูดจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล
“ไงมึง แขนขวาใช้การไม่ได้แล้วนะ”
ธารารีบพุ่งตัวไปยังศิลาที่นั่งหน้างออยู่หน้าโรงพยาบาล คนถูกทักยิ้มแหยๆส่งมาให้
ก่อนจะหันไปขอบคุณปฐวีที่เป็นธุระไปรับธาราจากสระว่ายน้ำ
“รถมึงอยู่คณะใช่ไหมศิ”
“ใช่”
“อืม....งั้นเดี๋ยวกูแวะไปส่งไอ้ธาเอารถมึงที่คณะ
แล้วกูก็ไปส่งมึงที่หอ” ธาราหันขวับไปหาคนที่พูดชื่อเขาออกมา...จากธารา เหลือเพียง
ไอ้ธาเนี่ยนะ
“มึงว่าไงธารา”
“โอเคตามนั้น”
พูดจบปฐวีก็เดินนำไปยังรถของตัวเอง ปล่อยให้สองเพื่อนซี้พูดคุยหยอกล้อกัน
“ศิลา...ถ้ามึงว้อนช่วงนี้ก็อดเลยดิ...มือขวาข้างถนัดใช้งานไม่ได้จ้า
ฮ่าๆๆๆ”
“กูจะไปลากมึงมาช่วยกูไง ดีไหมวะ หึหึหึ”
“อี๋ๆๆๆ”
ปฐวีหัวเราะในใจเพลินๆ
ก็ต้องหยุดคิดเมื่อโทรศัพท์ส่งเสียงร้องอยู่ในกระเป๋าคาดเอวใบเล็ก....เขาดูรายชื่อคนโทรเข้าก่อนจะยิ้มออกมา
“ครับเบล....วีอยู่โรงบาลครับ
พอดีศิลาเกิดอุบัติเหตุ....ไม่เป็นไรครับ เบลไม่ต้องมา ทางนี้เสร็จแล้ว
เดี๋ยววีไปส่งศิลาที่หอก็จะไปหาเบลเลย...ครับไม่นาน สวัสดีครับ”
ปฐวีเก็บโทรศัพท์เข้าที่เดิมก่อนจะล้วงกุญแจรถเปิดประตูรถให้ศิลานั่งข้างหน้า
ส่วนธารานั่งอยู่แคปหลัง
ขากลับคราวนี้
ไม่เงียบเหมือนตอนที่เขานั่งมากับธารา เพราะศิลาชวนคุยเรื่องฟุตบอลไม่หยุด
เขาเองก็ไม่ชอบความเงียบอยู่แล้ว เลยคุยกันสนุก
ในขณะที่ธาราได้แต่ฟังเงียบๆ
พลางมองออกไปนอกกระจกรถที่แล่นผ่านป่าไม้ใหญ่ในมหาลัย ไม่นานนักก็มาถึงคณะ
ธารารับกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากศิลาก่อนจะโบกมือขอบคุณปฐวีที่ไปรับเขาแทนศิลา
“ขอบคุณนะ...วี” เขาเอ่ยเรียกชื่อปฐวีด้วยคำสั้นๆ
เหมือนที่ปฐวีเรียกเขาว่า ธา
“ไม่เป็นไรมึง...เจอกันที่คณะก็ทักกูได้นะ”
ปฐวีส่งยิ้มมาให้ก่อนจะออกรถไปส่งศิลาต่อ
ส่วนเขา....ทำได้เพียงยืนยิ้มกับตัวเองเงียบๆ
ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของคณะที่ค่อนข้างมืด
ไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับปฐวี
แม้จะรู้ว่าปฐวีมีคนรักอยู่แล้ว
แต่แค่ได้คุยก็โอเคใช่ไหม
โอเคก็เหี้ยแล้ว...ปีนต้นงิ้วเลยนะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผลงานอื่นๆ ของ รถจักร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รถจักร
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น