ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำรวจรวมเล่ม [EXO] △ Lost Forever | ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #1 : Lost Forever ✿ จุดเริ่มต้นของเวลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.33K
      286
      22 ม.ค. 60




     


    INTRO

    จุดเริ่มต้นของเวลา




    บ้านหลังใหญ่สองชั้นที่ตั้งเด่นตรงหน้าคือจุดวางสายตาของเจ้าบ้านคนใหม่ ร่างบางกระชับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้ด้วยมือเรียวสวยที่บัดนี้กลับซีดเสียจนเห็นเส้นเลือดจางๆ บนผิวเนื้อขาว สองเท้าเล็กเดินย่ำไปตามสนามหญ้าสีเขียวสะอาดตา ก่อนที่เจ้าของร่างจะหยุดยืนเต็มความสูงเพื่อทอดมองบรรยากาศรอบตัวบ้าน



    บยอนแบคฮยอน ยิ้มกว้างเมื่อได้กลับมายืนบนสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง ที่ที่เรียกได้เต็มปากว่าบ้าน ที่ที่เป็นดั่งชีวิตทั้งหมดของเขา และเป็นที่ที่เปรียบเสมือนโลกของความทรงจำซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นกับตัวเอง




    ไม่ได้กลับมาที่นี่กี่ปีแล้วนะแบคฮยอน

    หนึ่งปี

    สองปี

    สามปี

    หรืออาจจะเป็นสี่ปี




    บรรยากาศของบ้านหลังเดิมโอบอุ้มหัวใจดวงน้อยให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ ภาพตรงหน้าที่เห็นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อสี่ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ที่เขาเคยซื้อมาเพื่อเริ่มปลูกดอกไม้และต้นไม้เล็กๆ ประดับบ้านที่แสนจะกว้างขวางในยามไร้ซึ่งสิ่งของตกแต่งต่างๆ เวลาผ่านไปรวดเร็วจนสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเติบโตผลิใบเป็นสีสันสดใสให้แก่เจ้าของบ้านเสียแล้ว



    ชิงช้าตัวเดิมใต้ต้นบ๊วยที่พวกเขามักจะนั่งเล่นรับลมเย็นและพูดคุยหยอกล้อกันในทุกวันยังคงผูกไว้ด้วยเชือกสีน้ำตาลเส้นเก่า เมื่อยามทอดสายตามองก็ทำให้ภาพวันวานหวนกลับมาฉายซ้ำภายในหัวอีกครั้งราวกับมีคนกดปุ่มสั่งการทำงาน



    ทั้งเสียงหัวเราะ คำพูดแสนหวาน การกระทำอ่อนโยนเช่นนั้นตราตรึงให้ร่างเล็กหลับตาลงซึมซับความสุขภายในความทรงจำ



    แต่แล้วเปลือกตาบางก็ต้องปรือขึ้นเมื่อความเจ็บปวดเข้าเล่นงานรุนแรง แบคฮยอนก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่เอาแต่จมอยู่กับอดีต สิ่งดีๆ ที่เคยได้รับมันไม่มีอยู่จริง ไม่มีอะไรเหลือเลยสักอย่าง



    เพราะแม้แต่คำว่าเพื่อน เขาคนนั้นก็คงให้แบคฮยอนไม่ได้อีกต่อไป




    โฮ่ง! โฮ่งๆ

    อามูร์!




    เจ้าสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ลุกขึ้นจากพื้นสนามหญ้า ก่อนจะส่งเสียงเห่าดังก้องไปทั่วบริเวณบ้านสีขาวหลังกว้าง เรียกให้แบคฮยอนระบายยิ้มอ่อนโยนพร้อมทั้งวิ่งตรงเข้าไปหาสุนัขตัวโปรดด้วยความคิดถึงพอๆ กับที่คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านหลังนี้



    เจ้าอามูร์ส่ายหางไปมาแสดงอาการดีใจเมื่อเห็นร่างเล็กคุ้นตากลับมายังบ้านอันแสนเงียบเหงาอีกครั้ง ไม่รอช้าสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ก็กระโจนใส่เต็มแรง ส่งผลให้เจ้านายตัวเล็กหงายหลังล้มลงนอนกับผืนหญ้าสีเขียวขจี



    ไม่ได้เจอกันนานคิดถึงเราบ้างหรือเปล่า เราคิดถึงอามูร์มากเลยรู้ไหมเจ้าอ้วน คิก~ ใจเย็นๆ ซี่ อย่าดีใจขนาดนั้น”



    ร่างเล็กเอ่ยถามน้ำเสียงหวานเจือไปด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ เจ้าสุนัขตัวใหญ่แสดงอาการดีใจมากเสียจนแบคฮยอนรับมือไม่ไหว ลิ้นสีแดงของเจ้าอามูร์เลียทั่วใบหน้าสวยที่เบี่ยงหลบไปมาพร้อมทั้งหัวเราะเพราะรู้สึกชอบใจไม่น้อย



    แบคฮยอนวางมือเรียวลงบนกลุ่มขนสีเหลืองอ่อนที่ครั้งหนึ่งมันเคยนุ่มลื่นมือ แต่ทว่าในตอนนี้ขนของอามูร์กลับหยาบกระด้างราวกับไม่ได้ทำความสะอาดหลายเดือน



    ไม่สิ อาจจะมากกว่านั้นก็ได้



    คงเป็นเพราะ เขาเกลียดแบคฮยอนมากเสียจนพาลให้รังเกียจเจ้าอามูร์ไปด้วย




    ทำไมกัน

    ทำไมเขาคนนั้นถึงได้ใจร้ายมากขนาดนี้ แม้แต่สุนัขที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ยังถูกเมินเฉยอย่างนั้นหรือ?




    อามูร์สบายดีหรือเปล่า รู้ไหมว่าตอนนี้นายผอมลงมากเลยนะ



    ดวงตาเรียวรีทอดมองร่างกายซูบผอมของสัตว์เลี้ยงแสนรู้ตรงหน้าด้วยความสงสารจับใจ เมื่อก่อนเจ้าอามูร์อ้วนท้วมสมบูรณ์เพราะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี



    แบคฮยอนและผู้ชายคนนั้นช่วยกันทำความสะอาดให้สุนัขตัวโปรดอาทิตย์ละครั้ง คอยให้อาหาร ใส่ใจในทุกๆ เรื่องเพราะอามูร์เปรียบเสมือนตัวแทนของพวกเขาทั้งสองคน



    เพียงแค่มองก็รู้ได้ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว อามูร์คงถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังภายในบ้านแสนกว้างขวางแต่กลับไร้ซึ่งความอบอุ่น



    สิ่งแทนใจที่ครั้งหนึ่งเคยสำคัญมากสำหรับเขาคนนั้นอย่างเจ้าอามูร์ยังถูกปล่อยทิ้งไว้ราวกับสุนัขจรจัดข้างถนน แล้วนับประสาอะไรกับมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ มีความรู้สึกและเจ็บได้ร้องไห้เป็นอย่างแบคฮยอนคนนี้ล่ะ





    คงไม่ต่างกันเลยสินะ

    ในสายตาของเขา แบคฮยอนก็คงมีค่าแค่เพียงเท่านี้







    เขากลับมาที่นี่บ่อยหรือเปล่า



    เจ้าสุนัขตัวใหญ่ครางหงิงในลำคอราวกับรับรู้ถึงคำถามของเจ้านายตัวเล็ก อามูร์ใช้ใบหน้าถูไถกับหน้าอกของแบคฮยอนเพื่อต้องการบอกความรู้สึกข้างใน ถึงพูดไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีหัวใจ เพราะต่อให้เจ้าอามูร์จะเสียใจมากแค่ไหนก็คงอธิบายให้มนุษย์ฟังเป็นคำพูดไม่ได้ ไม่สามารถบอกเล่าเป็นน้ำเสียงที่ทำให้เราสื่อสารกันรู้เรื่อง นอกเสียจากแสดงท่าทางและแววตาแสนเศร้าเหมือนในตอนนี้




    แบคฮยอนสงสารลูกชายของเขาเหลือเกิน

    อามูร์ไม่สมควรถูกเกลียด เพราะถ้าจะเกลียดก็ขอให้เกลียดแบคฮยอนคนเดียวเท่านั้น




    ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ ถึงเขาจะกลับบ้านไม่บ่อย แต่เขาก็ยังรักนายเหมือนเดิมนั่นแหละ เลี้ยงมากับมือนี่เนอะ จะทิ้งได้ลงคอเชียวหรือ



    แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนความจุกแน่นที่เริ่มตีตื้นขึ้นมาบริเวณหน้าอก รู้ทั้งรู้ว่าความรู้สึกที่เขามีให้กันมันคืออะไรกันแน่ แต่แบคฮยอนก็ยังเลือกที่จะเชื่อมั่นว่าสักวันเขาจะเลิกเกลียดและกลับมาเป็นเหมือนเดิม




    ต่อให้ต้องอยู่ในฐานะเพื่อน ไม่ใช่คนรักเหมือนที่อยากให้เป็นมาโดยตลอดก็ตาม

    แบคฮยอนยอม




    กลุ่มขนสีเหลืองของเจ้าอามูร์พลิ้วไหวไปตามแรงลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านเข้ามายังรั้วบ้าน คนตัวเล็กกอดคอลูกชายสุดที่รักแล้ววางปลายคางลงบนศีรษะของสุนัขตัวโปรดด้วยความคิดถึง



    แบคฮยอนเลี้ยงอามูร์มาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ จนกระทั่งตอนนี้อามูร์เติบโตเต็มวัยมีรูปร่างสมบูรณ์ตามสายพันธุ์ เว้นแต่ความซูบผอมและแววตาแสนเศร้าเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ความเด่นสง่าของเจ้าสุนัขแสนรู้ลดลงมากเป็นเท่าตัว



    เวลาที่ได้มองเจ้าอามูร์ ความทรงจำที่เคยสร้างร่วมกับผู้ชายใจร้ายก็ย้อนกลับมาเล่นงานแบคฮยอนอีกครั้ง






    นี่ แบคฉันขอตั้งชื่อให้มันได้ไหม


    ได้สิ ชานยอลอยากให้เค้าชื่ออะไรล่ะ


    อืมอามูร์! อามูร์ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ความรักยังไงล่ะ นายว่าเข้าท่าไหม?’


    เราชอบชื่อนี้มาก ชานยอลคิดได้ยังไงเนี่ย คิก~ ว่าแต่ทำไมต้องเลือกความหมายที่แปลว่าความรักด้วยล่ะ?’


    เพราะฉันกับนายเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมาก แล้วเราสองคนก็ต้องช่วยกันเลี้ยงด้วยรู้ไหม สามคนพ่อแม่ลูกไง เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เพราะฉะนั้นคำว่าความรักนี่แหละเหมาะที่สุด เหตุผลแค่นี้พอหรือเปล่า?’


    ใช่ที่ไหนเล่า ใครเขาเป็นครอบครัวเดียวกันกับชานยอล มั่วแล้ว คำว่ารักมันเอาไว้ใช้กับคนรักต่างหาก


    ความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันก็เป็นความรักเหมือนกันนั่นแหละ ห้ามเถียงดิเจ้าลูกหมา


    ก็ได้ เราไม่เถียงชานยอลก็ได้ ต่อให้ชานยอลไม่บอก เราก็จะเลี้ยงเจ้าอามูร์ให้ตัวโตเท่าชานยอลเชียวล่ะ!


    นายนี่มันเหมาะเป็นแม่ของเจ้าอามูร์จริงๆ นิสัยเหมือนลูกหมาชะมัด


    ชานยอล!







    สัมผัสอบอุ่นของปลายนิ้วที่ละเลงบนกลุ่มผมในครั้งนั้นยังคงติดตรึงภายในใจไม่จางหาย แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก แก้วตาเรียวรีทอดมองชิงช้าตัวเดิมใต้ต้นบ๊วยที่ออกใบแตกแขนงเป็นสีชมพูสด



    ไม่มีการเคลื่อนย้ายสิ่งของใดๆ เกิดขึ้นแม้แต่ชิ้นเดียว ภายในบ้านหลังนี้นอกจากจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังหวนให้นึกถึงทุกการกระทำเหล่านั้นเสมอ



    ท้องฟ้าแสนสว่าง ต้นไม้แสนร่มรื่น สนามหญ้าแสนสบายตา ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิมเช่นเดียวกับหัวใจของเขาคนนั้น




    ไม่ว่าจะเกลียดแบคฮยอนยังไง วันนี้ก็ยังคงเกลียดอยู่อย่างนั้น

    ไม่มีทางเปลี่ยนไปเลย




    ในจังหวะที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสดใสราวกับรับรู้ว่าแบคฮยอนพึงต้องการให้บรรยากาศรอบข้างเป็นใจในยามที่หัวใจถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีครึ้ม ช่วงขายาวภายใต้กางเกงยีนของใครสักคนที่พอจะเดาได้ว่าเขาคงตัวสูงไม่น้อยก้าวมาหยุดตรงหน้าในระยะที่ไม่ไกลมากนัก



    เพียงแต่เว้นช่องว่างตรงกลางมากพอที่จะไม่ทำให้เราต้องอึดอัดใจดังที่เคยเป็น



    รองเท้าผ้าใบสีหม่นคู่นั้น กางเกงยีนสีซีดตัวเก่า เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ไล่ขึ้นมาจนถึงคางสากได้รูปและริมฝีปากอิ่มในระดับพอดีสายตา จมูกโด่งเป็นสันสะดุดลมหายใจ ก่อนจะสบเข้ากับดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว โดยเฉพาะความชิงชังที่ฉายชัดเสียจนร่างเล็กต้องเม้มปากแน่น



    คุ้นเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน อยากพบ อยากพูดคุย



    แต่ไม่อยากเห็นแววตาเกลียดชังที่มองมายังตัวเองเลยสักนิด



    กลับมาทำไม



    น้ำเสียงแข็งกระด้างของคนตัวสูงดังเข้ามาภายในโสตประสาทการรับรู้ ส่งผลให้ร่างทั้งร่างอ่อนแรงเจียนจะล้มลงกับพื้น



    ชานยอล



    แบคฮยอนรีบก้มหน้างุดไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าเผชิญกับเจ้าของคำพูดเพียงเพราะหัวใจที่เต้นโครมครามแทบจะทะลุออกมานอกอกกำลังบ่งบอกถึงความประหม่าไม่น้อย น้ำเสียงที่แสนคุ้นเคย น้ำเสียงที่สะกดทุกลมหายใจ



    ไม่มีครั้งไหนที่ร่างบางจะลืมได้เลย เพราะคนตรงหน้าเป็นคนเดียวที่ครอบครองหัวใจของแบคฮยอนมาโดยตลอด



    ฉันถามว่ากลับมาทำไม!



    ดวงตาสีดำขลับทรงเสน่ห์ที่กำลังมองมายังตนเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน คนที่เคยมองกันด้วยความเอ็นดู น้ำเสียงแสนอ่อนโยนชวนให้ใจเต้นแรงทุกครั้งที่ร่างสูงเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูด หรือแม้แต่การกระทำแสนดีที่มอบให้กันกำลังกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำดีๆ เท่านั้น



    แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แบคฮยอนก็ยังคงเป็นแบคฮยอนคนเดิม



    เจ็บแล้วไม่เคยจำใส่ใจ เสียงเรียกร้องเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ร่างเล็กยอมกลับมาที่นี่อีกครั้งเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากผู้ชายตัวสูงตรงหน้า



    คิดถึงแทบขาดใจ คิดถึงผู้ชายที่เคยใจดีคนนี้ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายของบยอนแบคฮยอนทุกประการ



    ไม่ได้เจอกันนานเลย ชานยอลสบายดีใช่ไหม



    จะรู้หรือเปล่าว่าแบคฮยอนคนนี้คิดถึงเขามากแค่ไหน



    ไม่สิแบคฮยอนน่ะไม่เคยเลิกคิดถึงชานยอลได้เลยสักครั้ง หัวใจที่เคยมอบให้ไม่เคยแปรเปลี่ยนไปจากเดิม



    แล้วมีเศษเสี้ยวหนึ่งที่คนใจร้ายจะรับรู้บ้างหรือเปล่าว่าสายตาคมดุทำให้แบคฮยอนอ่อนแอลงทุกครั้งที่ได้สบตากับเขา




    คิดถึง

    คิดถึงทุกลมหายใจ





    หูแตกหรือไง! ฉันถามว่ากลับมาที่นี่ทำไม!

    ชานยอล…”




    แบคฮยอนครางเสียงแผ่วในลำคอ ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มรื้นไปด้วยหยาดน้ำสีใสเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังแสดงท่าทางไม่พอใจที่เห็นตนปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานถึงสี่ปี



    ไม่มีคำว่าคิดถึงออกจากปากของเขา ไม่มีท่าทางที่แสดงถึงความดีใจเมื่อได้พบเจอแบคฮยอนอีกครั้ง



    มีแต่ความเกลียดชังที่ฉายแววชัดเจนภายใต้ดวงตากลมโตคู่นี้ แสดงออกว่าเกลียดแบคฮยอนมากแค่ไหน เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้า เกลียดจนอยากไล่ให้คนตัวเล็กหายไปให้ไกลจากชีวิต




    ระ...เราแค่คิดถึงที่นี่ แล้วก็คิดถึงชานยอลมาก เราอยากเจอชานยอล แต่…”

    เหอะ งั้นเหรอ?”

    “…”

    แล้วรู้อะไรไหมฉันไม่เคยคิดอยากให้นายกลับมาสักนิด

    “...”




    คนตัวเล็กคิดว่าเขาไม่สามารถกักเก็บน้ำตาที่เอ่อคลอบริเวณรอบดวงตาของตัวเองได้อีกต่อไป ทรมานเหมือนอย่างที่เคยได้รับเมื่อสี่ปีก่อน น้ำเสียงกระแทกกระทั้น คำพูดร้ายกาจเชือดเฉือนหัวใจให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ หรือจะเป็นแววตาเกลียดชังที่คนตัวสูงใช้มองกันอย่างในตอนนี้



    ทุกอย่างที่เขามอบให้เปรียบเสมือนมีดเล่มคมที่คอยทิ่มแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่าตรงหัวใจของแบคฮยอนจนเหวอะหวะไม่มีชิ้นดี ไม่ว่าจะขอร้องอ้อนวอนให้ตายยังไง ซาตานร้ายก็ไม่เคยคิดที่จะปรานีกัน



    เพราะการได้เห็นคนอย่างแบคฮยอนเจ็บเจียนตาย มันก็สาสมดีแล้ว



    คงเข้าใจนะว่าเกลียดมันเป็นยังไง ถ้าคิดจะไป ก็ช่วยหายไปจากชีวิตของฉันด้วย แค่อยู่ร่วมโลกกับนาย ฉันยังขยะแขยงจนจะขาดใจตายเต็มทน!



    ฮึกชานยอล ฟังเราก่อน ฟังเราก่อนได้ไหม



    ฉันเกลียดนาย ไสหัวไปให้พ้น!!!

     

     

     

     















     






     


    สวัสดีค่า :D

    คิดว่าทุกคนที่หลงเข้ามาน่าจะเป็นคอดราม่ากัน

    หวังว่าอ่านแล้วคงไม่อวยพระเอกกันทั้งเรื่องนะคะ

    เดี๋ยวพี่เขาเขิน อิอิ

    555555555555555555555555

     

    สกรีมได้ที่นี่เลยฮับ
     #
    ฟิคเข็มนาฬิกา 


    วันที่ลง : 14/06/2558

    แก้ไขล่าสุด : 27/03/2559


    © themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×