คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Lost Forever ✿ เวลาที่ 3 [100%]
LOST FOREVER
เวลาที่ 3
อดีตและความทรงจำ
ความรู้สึกที่ยังคงฝังรากลึกลงในจิตใจ
วันนี้เป็นวันที่ 1 มกราคม
ฤดูหนาวของประเทศเกาหลีใต้ที่ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบยังไม่ผ่านพ้นไป
ผลึกน้ำแข็งจากฟากฟ้าตกลงบนพื้นแผ่ไอเย็นเฉียบเข้ามาภายในตัวบ้าน ดอกบ๊วยที่ออกดอกสีชมพูสดตามแนวกิ่งถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะ
ดูงดงามแต่ทว่าเยือกเย็น
คล้ายกับผู้ชายตัวสูงคนนั้น
คนที่ยึดครองพื้นที่หัวใจของแบคฮยอนมาเนิ่นนาน
เขาสง่างามราวกับเจ้าชายในฝัน
และร้ายกาจไม่ต่างจากอสูรในเทพนิยาย
เจ้าของเรือนร่างน่าทะนุถนอมเดินไปหยุดตรงหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งมีผ้าม่านสีอ่อนถูกแหวกเป็นสองทาง
แก้วตาใสทอดมองไปรอบๆ สนามกว้างที่เคยวิ่งเล่นกับใครบางคน
ก่อนรอยยิ้มหวานล้ำจะแต้มบนใบหน้าอ่อนเยาว์เพียงบางเบาเพราะความคิดถึงบ้านกำลังถูกชะล้างเมื่อได้กลับมายืนท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ
ที่ถวิลหามานานอีกครั้ง
ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมายังที่นี่
บ้านที่เคยอบอวลไปด้วยความสุขและโอบล้อมด้วยความรัก
กาลเวลาที่หมุนเวียนไปเปลี่ยนหัวใจคนให้แปรผันไม่แน่นอน
คิดแล้วก็อดถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้
เมื่อไหร่แบคฮยอนจะยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้สักทีนะ
สายลมเอื่อยๆ
พัดโบกเชื่องช้านำพาความหนาวจับใจมายังเรือนกายบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้อง
ความเย็นจัดบาดทุกอณูของผิวเนื้อจนต้องลูบแขนที่เต็มไปด้วยรอยช้ำบรรเทาความปวดหนึบที่คอยเล่นงานอยู่ทุกเวลาทุกวินาที
คราใดที่ฤดูหนาวมาเยือนก็จะรู้สึกปวดร้าวไปทั้งกาย
ไม่มีใครรู้ว่ามันทรมานมากเพียงใดที่ตัวเขาเองเข้าใจดีว่าความรู้สึกเหล่านี้จะไม่มีทางหายไป
แต่แบคฮยอนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ในเมื่อคนบนฟ้ากำหนดเส้นทางและขีดเขียนชะตาชีวิตของทุกคนเอาไว้หมดแล้ว…
“อะ…”
ร่างบางร้องออกมาเมื่อเจ้าสุนัขตัวโตที่เดินตามเข้ามาในห้องใช้ใบหน้าคลอเคลียกับต้นขาเหมือนที่ชอบทำ
อามูร์ส่ายหางแล้วครางหงิงในลำคออย่างออดอ้อน
อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเรียวไปลูบหัวมันเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
สุนัขตัวโปรดน่ารักเช่นนี้
ทำไมเขาถึงตัดสินใจทำร้ายได้ลงคอ
ทั้งที่เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับอามูร์เลยสักนิด
คนที่ผิดคือแบคฮยอนเอง
ผิดที่เข้าไปมีตัวตนในโลกของชานยอล
ผิดที่ทำให้ชีวิตของเขาเลวร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย
เป็นสิ่งไร้ค่าที่สมควรถูกกำจัดทิ้งไปเสีย
หากแบคฮยอนไม่กลับมาเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้
“ว่าไงหืม คิดถึงเราหรือไงเจ้าอ้วน
เดินตามตลอดเลย” แบคฮยอนย่อตัวลงกอบกุมเท้าหน้าน้อยๆ
ทั้งสองข้างของอามูร์ไว้ในมือพลางเขย่าหยอกล้อไปมา
ร่างบางคิดว่าเจ้าอ้วนคงคิดถึงตัวเองมากแน่ๆ
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนอามูร์ก็จะเดินตามหลังต้อยๆ คอยเป็นองครักษ์ประจำกายไม่ห่าง
“หงิง…”
ดวงตากลมๆ
แฝงไปด้วยแววเศร้าสร้อยช้อนมองแบคฮยอนราวกับจะสื่อบางอย่าง หลังจากนั้นเจ้าสุนัขแสนรู้ก็ละความสนใจจากเจ้านายตัวเล็ก
ก่อนเดินเชี่ยงช้าไปตรงปลายเตียงแล้วนอนลงบนพรมนุ่มสีครีม
แค่เท่านั้น
คนตัวเล็กก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะเหตุใดอามูร์ถึงได้ดูเซื่องซึมผิดปกติ
“อ้วนเป็นอะไรครับ
ยังไม่หายเจ็บหรือไง”
รอยช้ำสีม่วงที่เด่นชัดบนร่างของลูกชายตัวโตยังไม่จางลง อีกไม่นานร่องรอยเหล่านี้ก็คงจะหายไป แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะฝังรากลึกภายในจิตใจ ต่อให้ใช้ยาราคาแพงมากแค่ไหนก็ไม่อาจรักษาให้หายดีและไม่สามารถลบเลือนรอยแผลเป็นที่มองไม่เห็นได้
“เดี๋ยวก็หายแล้วเนอะ ชานยอลไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนายหรอกนะ
เขาแค่เข้าใจผิดเท่านั้นเอง”
ชานยอลเพียงแค่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องทุกอย่างมันเป็นอย่างไร
ที่เอ่ยวาจาร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ นั่นเป็นเพราะเขาเข้าใจผิด
และแบคฮยอนยินดีที่จะให้มันเป็นเช่นนี้
เพราะถ้าหากเมื่อไหร่ที่เขาได้รับรู้เรื่องราวเมื่อครั้งก่อน
คนที่เสียใจที่สุดก็คงจะเป็นชานยอลเอง
ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนตัวเล็กต้องการ
แบคฮยอนทนเห็นคนที่ตัวเองรักหมดดวงใจเจ็บปวดไม่ได้หรอก
หากเขาเจ็บ แบคฮยอนคงเจ็บยิ่งกว่า…
“อย่าโกรธเขาเลยนะเจ้าอ้วน”
“หงิง”
อามูร์ก้มหน้าหลบหลีกสายตาของเจ้านายตัวเล็กที่มองมาพร้อมครางรับในลำคอราวกับเข้าใจถึงความหมายในถ้อยคำนั้น
“ดีมากเลยคนเก่งของแบคฮยอน”
ร่างบางฉีกยิ้มกว้าง
ดวงตาทอประกายแสงสดใสราวกับดวงตะวันในยามเช้าเมื่ออามูร์ยอมเชื่อฟังอย่างง่ายดาย
อยู่ด้วยกันมาหลายปีทั้งยังเลี้ยงเองกับมือ เหตุใดจึงจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวโตยอมให้อภัยพ่อของมันแล้ว
ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ก็ย่อมมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน
แตกต่างที่มนุษย์เราสามารถเอ่ยออกมาเป็นถ้อยคำได้
แต่สัตว์กลับทำได้เพียงสื่อสารผ่านเสียงร้องและท่าทางเท่านั้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เจ้าสุนัขแสนรู้คงรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้เจ้านายตัวสูงอีก
ที่ชานยอลทำร้ายอามูร์ไปเมื่อวาน
แม้จะไม่รุนแรงจนเลือดตกยางออก
แต่แบคฮยอนกลับรวดร้าวมากเสียจนปล่อยให้หยดน้ำตารินไหลออกมาอย่างง่ายดายเพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้สักครั้ง
ถึงจะเกลียดแบคฮยอนมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายสุนัขตัวโปรดของเรา
สุนัขที่เป็นตัวแทนของเราทั้งสองคน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหนูคะ ป้าเองค่ะ”
“เข้ามาเลยครับ”
เสียงเคาะประตูและน้ำเสียงหวานๆ
จากภายนอกเรียกสติคนที่เพิ่งจมอยู่ในห้วงความคิดให้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
แบคฮยอนชะงักไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยอนุญาตเสียงใส หลังจากนั้นป้าซังมีก็เข้ามาพร้อมถ้วยข้าวต้มกุ้งร้อนๆ
ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วห้อง
คุณหนูตัวเล็กของเธอไม่ยอมลงไปทานอาหารเช้า
ฉะนั้นคุณป้าแม่บ้านจึงต้องยกขึ้นมาให้เพราะเกรงว่าคุณหนูคนเก่งจะปวดท้องเข้าเสียก่อน
“ทานข้าวต้มก่อนนะคะ
ใกล้จะแปดโมงแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย คุณหนูของป้าจะปวดท้องเอาได้นะคะ” ป้าซังมีทำคิ้วขมวดที่ร่างน้อยยิ้มหวานเพราะกลัวว่าจะถูกดุ
ไหนจะยังพองแก้มกลมทั้งสองข้างให้น่าเอ็นดูมากขึ้นไปอีก
ช่างน่าจับมาหยิกแก้มให้ช้ำเสียจริงๆ
“แบคยังไม่หิวเลยครับ”
“ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ ไม่หิวก็ต้องทาน
คุณหนูอย่าลืมสิคะว่าข้าวเช้าสำคัญกับเรามาก
ป้าอยากให้คุณหนูดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ ทานสักหน่อยเถอะนะคะ”
คุณป้าแม่บ้านเอ่ยเสียงอ่อนแต่แฝงความจริงจังไว้ในทีคล้ายตะล่อมเด็กน้อยไม่รู้ความให้เชื่อฟัง
ซึ่งร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าก็ส่งสายตาอ้อนให้เธอใจอ่อนดังเช่นทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้คุณป้าแม่บ้านจะไม่ยอมแพ้ให้กับความน่ารักน่าชังของคุณหนูง่ายๆ
แน่
“งือ…”
“…”
“ก็ได้ครับ”
ทำหน้าหงอยทั้งกัดริมฝีปากจิ้มลิ้มเมื่อเหลือบไปเห็นของโปรดที่ในเวลานี้ไม่ต้องการวางอยู่บนโต๊ะ
ช่วงนี้แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับคนเบื่ออาหารไปเสียแล้ว ผลของการทานน้อยทำให้ร่างกายผ่ายผอมอย่างง่ายดาย
รู้เช่นนี้แต่กลับไม่สามารถบังคับให้ตัวเองทานเยอะๆ
ได้เลย
แล้วไหนจะความกังวลที่สะสมติดต่อกันมาตลอดหลายปีก็ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงมาก
อะไรๆ ก็ดูแย่ไปหมด
แบคฮยอนทำใจยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้นแล้วล่ะ
อะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด ชีวิตนี้ขอแค่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆ
คนตัวเล็กก็จะผ่านมันไปให้ได้
ไม่มีใครสามารถบงการชีวิตให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้แม้อยากมีชีวิตสวยหรูมากแค่ไหนก็ตาม
แบคฮยอนเข้าใจดี…
“วันนี้คุณชานยอลจะกลับมาอยู่ที่นี่นะคะ”
มือบอบบางที่กำลังตักข้าวต้มชะงักไปในทันที
ชื่อของชายผู้เป็นที่รักถูกเอ่ยขึ้นมาในประโยคส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจทำงานหนัก
แม้จะยังไม่ได้เห็นหน้านิ่งๆ ที่คอยบีบหัวใจให้แหลกคามือก็ปวดร้าวไปหมด
ถ้าหากได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง ร่างบางไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับเขาได้หรือไม่
ขอแค่เป็นเรื่องของชานยอลก็เอาชนะแบคฮยอนคนนี้ได้ทุกเมื่อ
เขาช่างเก่งกาจเหลือเกิน
“คุณป้าทราบไหมครับว่าเขาจะมาตอนไหน”
น้ำเสียงสดใสกับท่าทางตื่นเต้นของคุณหนูบยอนไม่เคยปิดบังสายตาคนอายุมากกว่าได้เลย
เอ่ยถึงเรื่องของผู้ชายตัวสูงคนนั้นยามใด ภายใต้ดวงตาเรียวรีคู่นี้ก็เต็มไปด้วยประกายของความรัก
ความคิดถึง ความห่วงใยและความหวังดี
เมื่อไหร่คุณชานยอลจะรับรู้ถึงหัวใจดวงน้อยแสนบอบบางนี้เสียทีนะ
แล้วคุณชายคนเล็กของตระกูลปาร์คจะได้เห็นว่าคุณหนูบยอนน่ารักน่าเอ็นดูมากแค่ไหน
“ป้าก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ คุณท่านเพียงแค่สั่งมาว่าให้ขนข้าวของทุกอย่างของคุณชานยอลมาไว้ที่ห้องคุณหนู”
“หะ…ห้องของแบคเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ”
คำถามที่ได้รับการยืนยันคำตอบอย่างชัดเจนกระตุกลมหายใจให้ขาดห้วง
แบคฮยอนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าคุณลุงสั่งให้ย้ายของใช้ของชานยอลมาไว้ที่ห้องตนทั้งที่ร่างสูงมีห้องเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
คุณลุงกำลังคิดอะไรอยู่
เหตุใดถึงไม่บอกกล่าวกันก่อน
ชานยอลต้องไม่พอใจแน่ๆ
ใช่…เขาคงไม่มีทางอยู่ร่วมห้องกับคนที่ตัวเองเกลียดได้หรอก
แล้วแบคฮยอนจะทำอย่างไรได้ แต่ถ้าให้บังคับฝืนใจอีกฝ่ายร่างบางก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ไม่อยากรู้เลยว่าถ้าได้เจอหน้ากันอีกครั้ง
เขาจะทำตัวร้ายกาจกับแบคฮยอนมากขนาดไหน
“แบคกลัวว่าเขาจะไม่พอใจแล้วพาลโกรธคุณลุงกับคุณป้า”
“…”
“แบคไม่อยากเห็นชานยอลทำตัวก้าวร้าวกับพ่อแม่ของตัวเองอีก
แค่ครั้งนั้นมันก็มากเกินพอแล้ว เพราะแบคคนเดียว…”
“…”
“แบคไม่สามารถพาคนที่เขารักกลับมาได้”
“คุณหนู…”
“อีกอย่าง เขาเกลียดแบคมากขนาดนี้
แค่หน้ายังไม่อยากมอง แล้วเราจะอยู่ร่วมห้องกันได้ยังไง”
“โธ่ คุณหนูอย่ากังวลไปเลยนะคะ
ป้าจะช่วยพูดกับคุณชานยอลเธอให้เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณป้าอย่าลำบากเลย”
“…”
“ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจเขาได้
ถึงต่อให้แบคจะจากไป ความเกลียดชังที่เขามีให้ก็ไม่สามารถเลือนหายไปได้หรอกครับ”
แม้ความตายก็ไม่อาจพรากความชิงชังให้ออกไปจากใจของเขาได้
แบคฮยอนมั่นใจ
มั่นใจดีว่าหัวใจของชานยอลช่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา
แตกต่างจากแบคฮยอนคนนี้ที่อ่อนแอและพร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
ไม่มีอะไรสู้เขาได้เลย
บ่ายวันนั้น
หลังจากที่คุณป้าแม่บ้านคะยั้นคะยอคุณหนูตัวเล็กให้ทานข้าวต้มจนหมดถ้วย
เธอจึงลงไปทำความสะอาดห้องครัวรอเวลาที่เจ้าของบ้านอีกคนกลับมา
ห้องกว้างชั้นบนจึงเหลือเพียงแค่แบคฮยอนและเจ้าสุนัขตัวโตเท่านั้น
เสียงเอะอะโวยวายจากชั้นล่างดังไปทั่วบ้านหลังกว้างเรียกให้เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
ร่างจ้อยๆ เดินลงไปดูสถานการณ์ข้างล่างพร้อมลูกสมุนตัวโตที่รีบวิ่งตามหลังมาติดๆ
เมื่อลงมาถึง
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือผู้ชายตัวสูงแสนคุ้นยืนเด่นสง่าบริเวณห้องโถงกว้าง
ข้างกันมีคุณป้าแม่บ้านคนสนิทที่ทำสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
จากที่ตรงนี้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นภายในบ้านของตัวเอง
“อย่าทำแบบนี้เลยนะคะคุณชานยอล
ป้าขอร้อง”
ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวหันไปสั่งคนงานสี่ห้าคนจากคฤหาสน์ตระกูลปาร์คที่ถูกเรียกมาใช้งานในวันนี้โดยไม่สนใจเสียงร้องขอจากแม่บ้านคนเก่งของที่นี่แม้แต่คำเดียว
“ผมต้องการให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในบ่ายวันนี้”
เขาสั่งเสียงห้วนและเด็ดเดี่ยวจนใจคนฟังวูบไหว
ชานยอลรู้ว่าใครบางคนคงลงมาเห็นทุกอย่างหมดแล้ว
และเขาตั้งใจที่จะทำมันต่อหน้าอย่างไม่คิดเกรงใจ
เพราะสิ่งที่กำลังทำ
มันคือความต้องการทั้งหมดของเขา
“คุยกันดีๆ ก่อนเถอะค่ะ
ยังไงคุณหนูแบคฮยอนก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้อีกคน
อย่าเพิ่งตัดสินใจวู่วามเลยนะคะคุณชานยอล”
ป้าซังมีร้อนรนรีบเข้าไปเกลี้ยกล่อมเจ้าของบ้านตัวสูงให้ฟังกันเสียก่อน
หากว่าเขาใช้ความใจร้ายทำลายทุกอย่างภายในบ้านหลังนี้
คนที่หัวใจสลายคงเป็นใครไปไม่ได้
นอกเสียจากคุณหนูคนดีของเธอ
ชานยอลก็ยังคงเป็นชายหนุ่มที่จิตใจมั่นคงแน่วแน่ต่อความรู้สึก
หากคิดตัดสินใจไปแล้วก็จะไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอนความพยายามได้ แม้กระทั่งตอนนี้ สิ่งที่กำลังกระทำลงไปนั้นช่างร้ายแรงต่อหัวใจดวงน้อยยิ่งนัก
หากแต่เขาไม่คิดจะสนใจสักนิดเดียว
เพราะเขานั้นแสนใจร้าย
ยิ่งกับคนที่เคยลั่นวาจาว่าเกลียดนักหนา
คำว่าเห็นใจก็อย่าหวังว่าจะได้รับมันจากคนอย่างปาร์คชานยอลเลย
“ทะ…ทำอะไรกันน่ะครับ”
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แบคฮยอนไม่สามารถประมวลเหตุการณ์ตรงหน้าได้เลย
รับรู้แค่ว่าตอนนี้ร่างกายสั่นไหวไปหมดทุกส่วน
ดวงตาที่เคยสดใสเมื่อนานมาแล้วจดจ้องทุกสิ่งที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อเพียงแค่กะพริบตา
ริมฝีปากบางเฉียบเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก
คล้ายมีก้อนของความหวั่นใจจุกอยู่ในลำคอ
มือทั้งสองข้างสั่นระริกยากเกินจะควบคุมเมื่อสายตาคมกริบจ้องกลับมาไม่ละไปไหน
“มาก็ดีแล้ว”
“…”
“ฉันจะได้เอาไอ้หมาน่ารังเกียจนี่ไปปล่อยสถานสงเคราะห์สุนัขจรจัด”
ในเวลานี้แบคฮยอนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกนอกเสียจากน้ำเสียง
แววตาและถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปที่หลงรักมาเนิ่นนาน
ใจร้ายเหลือเกิน
รู้ดีว่าเขานั้นเกลียดกันมากเพียงใด
แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ต้องการแม้กระทั่งเจ้าอามูร์
ลูกชายตัวโตของเราทั้งสองคน
หัวใจที่เราฟูมฟักเลี้ยงดูร่วมกันมาด้วยความรัก
“โฮ่ง!”
อามูร์เห่าขึ้นหลังจากที่ชานยอลพูดจบ
เจ้าตัวโตคงรู้แล้วว่าเจ้านายตัวสูงหมายความว่าอย่างไรถึงได้แสดงอาการก้าวร้าวเช่นนี้
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือหลังจากจบประโยคนั้นอามูร์ก็วิ่งเข้าไปใกล้ผู้ชายใจร้าย
ก่อนใช้กรงเล็บยาวๆ ข่วนกางเกงของร่างสูงจนมันขาดวิ่นเป็นรอยยาว
ชานยอลสบถอย่างหัวเสีย โชคดีที่มีผ้าเนื้อดีกั้นไว้
ไม่เช่นนั้นเขาคงได้แผลลึกจากเล็บของสุนัขตัวโตมาดูต่างหน้าเป็นแน่ ร่างสูงสะบัดขาออกจนเผลอไปเตะโดนปากของสัตว์เลี้ยงที่เขาเกลียดมันมากพอๆ
กับใครบางคน
“กล้าดียังไงถึงได้ปล่อยให้มันมาข่วนฉัน!” เขาชี้หน้าตวาดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวและพร้อมจะบันดาลโทสะได้ในตอนนี้
แบคฮยอนวิ่งเข้าไปดึงลูกชายตัวโตกลับมาไว้ในอ้อมกอดเพราะกลัวว่าชานยอลจะทำร้ายอามูร์เหมือนครั้งนั้น
แปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นกิริยาท่าทางของเจ้าอ้วนเมื่อสักครู่
ไม่มีเลยสักครั้งที่อามูร์จะทำตัวไม่น่ารักเช่นนี้ หรือที่เคยบอกว่าอามูร์ก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับแบคฮยอนจะเป็นเรื่องจริง
ไม่มีใครยอมรับกับความใจร้ายของเขาได้หรอก
“ระ…เราขอโทษแทนอามูร์ด้วย อามูร์คงไม่ได้ตั้งจะทำร้ายชานยอล เจ้าอ้วนแค่ตกใจที่เห็นชานยอลทำท่าทางแบบนี้”
แบคฮยอนมองหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยความร้าวรานในอกพลางละล่ำละลักเอ่ยขอโทษเขา
หากร่างสูงคิดจะเข้ามาฆ่ากันยังไม่เจ็บเท่าแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังคู่นั้นเลย
มันเจ็บ…เจ็บเกินใจจะทนไหว
แต่แบคฮยอนไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก
ก็เนื้อแท้เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่แสดงออก เมื่อก่อนชานยอลอบอุ่นและใจดี
ร่างบางเชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นคนเดิมได้ในสักวัน
ถึงแม้ตอนนั้นแบคฮยอนอาจจะไม่ได้เห็นมันก็ตาม
“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ หมามันก็เหมือนกับเจ้าของนั่นแหละ เลี้ยงไม่เชื่องก็อย่าหวังว่าฉันจะเก็บมันไว้ มานี่!”
“ชานยอล ไม่เอา ชานยอลปล่อยนะ!”
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งรับไม่ทัน
ชายหนุ่มเดินตรงปรี่เข้ามาใกล้แล้วออกแรงกระชากสุนัขแสนรู้ออกจากอกคนตัวเล็กที่กอดไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะมีใครมาพรากลูกชายตัวโปรดไป
แบคฮยอนพยายามรั้งอามูร์เอาไว้สุดแรงที่มี
นึกเกลียดตัวเองที่ในเวลานี้ไม่สามารถสู้แรงคนตัวโตกว่าได้เลย ทั้งร้องขอความเห็นใจเมื่อชานยอลกระชากปลอกคอเส้นเก่าแล้วลากอามูร์ไปยังบริเวณหน้าบ้านอย่างไม่คิดสงสาร
“คุณชาน ป้าขอร้อง
อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ”
“ปล่อยอามูร์นะ อย่าทำอะไรเค้าเลย
เราขอร้อง”
คุณหนูบยอนวิ่งตามร่างของลูกชายที่ร้องครางด้วยความเจ็บเพราะถูกเจ้านายตัวสูงดึงรั้งเต็มแรงอย่างไม่ผ่อนปรน
ทำราวกับอามูร์เจ็บปวดไม่เป็น ทำราวกับสัตว์เลี้ยงตัวโตไม่มีหัวใจ
ช่วงเวลานี้แบคฮยอนนึกเพียงอย่างเดียวคือผู้ชายที่แสนใจดีคนนั้นหายไปหนแห่งใด
หรือชานยอลในอดีตจะตายไปจากโลกใบนี้แล้วกันแน่
“หงิง…หงิง…”
“ชานยอลได้โปรด อย่าทำอามูร์เลย
เราขอนะ…” ยอมให้เขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจนับได้
แบคฮยอนรู้ดีว่าตนไม่ใช่คนเข้มแข็งสามารถทนมองภาพแสนโหดร้ายบีบคั้นหัวใจให้แหลกสลายได้อีกต่อไป
ร่างบางวิ่งเข้าไปขวางไว้ทั้งน้ำตาไหลอาบแก้ม
ไม่ได้หวังให้ใครคิดสงสาร เพียงแค่หวังให้ชานยอลเห็นใจกันสักนิด
เขาจะได้รู้ว่าลูกชายของเรากำลังหายใจไม่ออก
อามูร์กำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะถูกคนใจร้ายใช้ฝ่ามือรัดปลอกคอแน่นยิ่งกว่าโซ่ตรวน
ชานยอลทำเกินไปแล้ว
หากไม่คิดรักหรือไม่เคยรักก็อย่าทำเช่นนี้เลย
โกรธเกลียดกันนักจนอยากฆ่าให้ตายก็มาลงที่แบคฮยอนสิ
ร่างบางพร้อมโอนอ่อนยอมตกเป็นเบื้องล่างให้เขาอย่างไม่คิดลังเลอยู่แล้วไม่รู้หรืออย่างไร
“ขึ้นไป!” ชี้นิ้วสั่งสุนัขตัวโตทันทีที่เดินมาถึงรถยนต์คันใหญ่
อามูร์ออกแรงขัดขืน สะบัดหัวไปมาหวังหลุดพ้นจากแรงรัดหนาแน่น อยากวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กแต่ก็ไม่สามารถสู้พละกำลังของเจ้านายตัวสูงได้เลย
“เราขอร้อง อึก…จะให้เราทำอะไรก็ได้ อย่าพาอามูร์ไปเลยนะ เรายอมแล้ว ยอมทุกอย่างแล้ว…”
กลั้นก้อนสะอื้นในลำคออย่างยากลำบาก
ยิ่งได้เห็นท่าทางเกรี้ยวกราด น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ตะคอกข้างหู
หรือจะเป็นอารมณ์ขุ่นมัวที่เขากำลังแสดงออกนั้นล้วนทำให้ปวดดวงใจไปเสียหมด
ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ไม่คิดเหลียวแลกัน
เขายังคงกระชากอามูร์ให้ขึ้นรถอย่างไม่ออมแรง ไม่สังเกตหน่อยหรือว่าเจ้าตัวโตก็กำลังเสียใจที่ถูกกระทำเช่นนี้
อามูร์ไม่ได้ต้องการไปจากเรา ไม่ได้ต้องการไปจากบ้านหลังนี้
แม้มันจะไม่มีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่เลยก็ตาม
“บอกให้ขึ้นไปไงวะ! โอ๊ย!”
ดวงตาเรียวรีเบิกกว้างเมื่อเจ้าอามูร์ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน
น่าตกใจเสียยิ่งกว่าตอนที่มันข่วนกางเกงของชานยอลจนขาดวิ่นเสียด้วยซ้ำ
เพราะเพียงแค่ร่างสูงเอ่ยจบประโยค
สุนัขตัวโตก็ใช้ฟันซี่คมขบกัดลงบนต้นขาแกร่งเต็มแรงจนชานยอลเผลอร้องเสียงหลง
เลือดสีสดไหลตามรอยแผลเป็นทางยาวดูน่ากลัวไม่น้อย
เจ้าสุนัขแสนรู้อาศัยจังหวะนั้นวิ่งกลับมาหาคนตัวเล็กที่ยังคงยืนทำตัวไม่ถูก แบคฮยอนโอบอามูร์ไว้ในอ้อมแขนพลางทอดสายตามองผู้ชายใจร้ายด้วยความเป็นห่วงจับใจ
เขากำลังเจ็บ…
ชานยอลที่แบคฮยอนแสนรักกำลังกัดฟันสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้…
เพียงเท่านี้หัวใจดวงน้อยก็เต้นเร่าอยากเป็นคนเข้าไปปลอบประโลมให้เขาหายจากความรู้สึกนี้
แต่รู้ดีว่าร่างสูงคงไม่ต้องการให้แบคฮยอนเข้าใกล้แม้แต่ปลายเล็บ
ก็เขารังเกียจกันยิ่งกว่าอะไรดี
คนตัวสูงก้มลงกุมบาดแผลบนต้นขาที่เห็นอย่างเด่นชัด
ก่อนตวัดสายตาไปยังร่างของภรรยาตัวน้อยที่ข้างกายมีสุนัขตัวโตกับแม่บ้านคนเก่งไม่ห่างไปไหน
ยิ่งได้เห็นหน้าก็ยิ่งขยะแขยงมากจนทนไม่ไหว
เพลิงแค้นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังสุมอกแทบจะระเบิดออกมา
ชานยอลหันไปสั่งคนงานที่ยืนเรียงกันตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม่มีอีกแล้วคำว่าลังเล
ตลอดเวลาที่ผ่านมาในห้วงความคิดของเขาไม่เคยมีคำว่าเห็นใจแม้แต่ครั้งเดียว
และครั้งนี้ก็เช่นกัน
อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย เพราะชาตินี้คนอย่างปาร์คชานยอลจะไม่มีทางให้อภัยคนน่ารังเกียจอย่างบยอนแบคฮยอนแน่นอน!
“ที่สั่งไว้รีบจัดการให้เสร็จเรียบร้อยซะ
ผมให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!”
“เอ่อ…”
คนงานในกลุ่มนั้นมีท่าทีอึกอักเล็กน้อยแล้วเหลือบมองร่างบางที่ยืนห่างออกไปอย่างกล้าๆ
กลัวๆ คุณหนูแบคฮยอนมีสิทธิ์ภายในบ้านหลังนี้เช่นเดียวกับคุณชานยอล
พวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรลงไปโดยที่เจ้าของบ้านอีกคนยังไม่อนุญาต
แต่สายตาอีกคู่ที่มองจ้องมานี่สิน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรดี
รังสีอำมหิตนั่นแผ่มาราวกับจะขย้ำพวกเขาให้แหลกคามือก็มิปาน
“ผมสั่งไม่ได้ยินหรือไง! หรือต้องให้ไล่ออกกันให้หมด!” แม้แต่ลูกน้องของท่านประธานปาร์คคนปัจจุบันก็ยังถูกเขาตะคอกใส่เสียงดัง
ชานยอลชักจะเริ่มหัวเสียไปมากกว่าเดิมเสียแล้วสิ ทั้งที่สั่งเด็ดขาดแล้วแต่คนงานก็ยังอิดออดเพราะมัวเกรงใจใครอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่มีอำนาจภายในบ้านหลังนี้มากกว่ากัน
“มะ…ไม่ครับ
คุณชานยอลต้องการตัดแค่ครึ่งต้นหรือว่า…”
“โค่นมันออกทั้งต้นนั่นแหละ”
สวนกลับไปอย่างไม่คิดรีรอ
ไม่ต้องทบทวนให้เสียเวลา เพราะทุกวินาทีมีค่าสำหรับเขาเหลือเกิน
อะไรที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจอย่างถึงที่สุด นั่นก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะใจจนหาที่เปรียบไม่ได้
แบคฮยอนต้องเจ็บปวดมากกว่าที่เขาเคยได้รับ!
“คุณชานยอลแน่ใจแล้วเหรอครับ?”
ลูกน้องผิวคล้ำถามเสียงเบาด้วยความหวาดเกรงคนเป็นนาย
“จะเก็บไว้ให้รกหูรกตาทำไมล่ะ”
ต้นบ๊วยต้นนั้น…
ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ภายในบ้านหลังโตมาเป็นเวลานานหลายสิบปีกำลังจะถูกกำจัดทิ้งเมื่อเจ้าของบ้านตัวสูงไม่ต้องการ
ชายหนุ่มแววตาคมดุคล้ายคลึงกับผู้ชายในอดีตที่แสนใจดีคนนั้น
ผู้ชายที่แบคฮยอนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น
สถานที่เดิมๆ
ซึ่งเคยเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความสุขกำลังจะถูกทำลายลงในอีกไม่ช้า
ชิงช้าตัวนั้นที่เราเคยนั่งหยอกล้อกันคงจะหายไปจากสายตาถ้าร่างสูงตัดสินใจแน่วแน่แล้วจริงๆ
‘ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร’
‘…’
‘จำไว้ว่าเราจะอยู่ตรงนี้ ต่อให้ชานยอลไล่เราให้หายไปไกลสุดขอบฟ้า
เราก็จะอยู่ข้างๆ ชานยอลไม่ไปไหน’
แบคฮยอนทำอะไรได้บ้างงั้นหรือ หากคิดจะห้ามเขาก็คงไม่ฟังกัน
คำพูดของแบคฮยอนไม่เคยมีค่าสำหรับคนใจร้ายอยู่แล้ว
ไม่เคยเลย
ในตอนนี้แบคฮยอนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากแววตามุ่งมั่นไร้ความลังเลใจของเขา
มันชัดเจนดี…
ที่ว่าเขาต้องการทำลายสิ่งที่เต็มไปด้วยอดีตสวยงามของเรา
“คุณหนูคะ ไม่พูดอะไรสักนิดหรือคะ?”
คุณป้าแม่บ้านบีบฝ่ามือนุ่มเบาๆ ด้วยความสงสารสุดหัวใจ หยดน้ำใสๆ
ที่คลอล้นดวงตาแสนเศร้านั้นบีบความรู้สึกของเธอเหลือเกิน
ถ้าคุณหนูคนดีไม่คิดจะห้ามผู้ชายตัวสูง
สิ่งสำคัญที่คุณหนูแบคฮยอนแสนหวงแหนคงจะถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครทำใจมองดูความโหดร้ายของคนที่ตัวเองรักได้หากไม่มีความเข้มแข็งพอ
แล้วคนบอบบางเช่นนี้จะเอาอะไรไปสู้คนใจแกร่งอย่างเขาได้กัน
“แบคห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ”
“…”
“หากมันจะทำให้ชานยอลพอใจ
แบคยอมทุกอย่าง”
น้ำเสียงหวานเจือไปด้วยความปวดร้าวที่เคยได้รับมานับครั้งไม่ถ้วนเอ่ยอย่างจำนนต่อเขา
ต่อคนที่คอยทำร้ายจิตใจกันไม่เลิกรา แบคฮยอนหลับตาลงไล่หยาดน้ำตาแห่งความอ่อนแอนั้นให้ไหลลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ก้มหน้ายอมรับความจริงที่กำลังจะได้เผชิญมันอย่างเต็มรูปแบบ
ความรู้สึกแบบนี้สินะที่แบคฮยอนควรได้รับ
มันถูกต้องแล้วใช่ไหมที่ต้องยอมเขาเสียทุกเรื่องโดยไม่สนหัวใจที่กำลังเต้นแผ่วด้วยความเจ็บปวดตรงหน้าอกด้านซ้าย
เมื่อใคร่ครวญดีแล้วคำตอบทั้งหมดก็คือสิ่งเดียวที่ไม่เคยจางหายไปจากหัวใจดวงนี้สักครั้งเดียว
แบคฮยอนต้องการให้ชานยอลมีความสุขที่สุดแม้ร่างสูงจะต้องไร้คนรักอยู่ข้างกาย
เธอคนนั้นที่ร่างบางไม่มีทางเป็นให้ได้…
100%
รักคนที่ไม่เคยมีเราอยู่ในหัวใจนี่มันเจ็บปวดดีนะคะ
พูดไม่ออกเลย ฮือ น้ำตาจะไหล
คอมเม้นเงียบเหงามาก ไม่รู้ว่ายังมีคนอ่านอยู่ไหม T___T
หากยังมีข้อผิดพลาดตรงไหนแนะนำกันได้นะคะ ถ้าเจอคำผิดท้วงติงได้ค่า
(づ ̄ ³ ̄)づ
ใครต้องการระบายความอัดอั้นตันใจต้อง
แท็กนี้น้า #ฟิคเข็มนาฬิกา
มาหวีดกันหน่อยเร้ววว อยากรู้ว่าทุกคนอ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง ;---;
HmiwzP.
อัพเดต : 20.04.59
ความคิดเห็น