ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำรวจรวมเล่ม [EXO] △ Lost Forever | ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #4 : Lost Forever ✿ เวลาที่ 3 [100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.28K
      155
      20 เม.ย. 59


    © themy  butter




    LOST FOREVER

    เวลาที่ 3


    อดีตและความทรงจำ

    ความรู้สึกที่ยังคงฝังรากลึกลงในจิตใจ




    วันนี้เป็นวันที่ 1 มกราคม



    ฤดูหนาวของประเทศเกาหลีใต้ที่ใครหลายคนต่างก็ชื่นชอบยังไม่ผ่านพ้นไป ผลึกน้ำแข็งจากฟากฟ้าตกลงบนพื้นแผ่ไอเย็นเฉียบเข้ามาภายในตัวบ้าน ดอกบ๊วยที่ออกดอกสีชมพูสดตามแนวกิ่งถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะ



    ดูงดงามแต่ทว่าเยือกเย็น



    คล้ายกับผู้ชายตัวสูงคนนั้น



    คนที่ยึดครองพื้นที่หัวใจของแบคฮยอนมาเนิ่นนาน



    เขาสง่างามราวกับเจ้าชายในฝัน และร้ายกาจไม่ต่างจากอสูรในเทพนิยาย



    เจ้าของเรือนร่างน่าทะนุถนอมเดินไปหยุดตรงหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งมีผ้าม่านสีอ่อนถูกแหวกเป็นสองทาง แก้วตาใสทอดมองไปรอบๆ สนามกว้างที่เคยวิ่งเล่นกับใครบางคน ก่อนรอยยิ้มหวานล้ำจะแต้มบนใบหน้าอ่อนเยาว์เพียงบางเบาเพราะความคิดถึงบ้านกำลังถูกชะล้างเมื่อได้กลับมายืนท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ ที่ถวิลหามานานอีกครั้ง



    ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมายังที่นี่



    บ้านที่เคยอบอวลไปด้วยความสุขและโอบล้อมด้วยความรัก



    กาลเวลาที่หมุนเวียนไปเปลี่ยนหัวใจคนให้แปรผันไม่แน่นอน



    คิดแล้วก็อดถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ เมื่อไหร่แบคฮยอนจะยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้สักทีนะ



    สายลมเอื่อยๆ พัดโบกเชื่องช้านำพาความหนาวจับใจมายังเรือนกายบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้อง ความเย็นจัดบาดทุกอณูของผิวเนื้อจนต้องลูบแขนที่เต็มไปด้วยรอยช้ำบรรเทาความปวดหนึบที่คอยเล่นงานอยู่ทุกเวลาทุกวินาที



    คราใดที่ฤดูหนาวมาเยือนก็จะรู้สึกปวดร้าวไปทั้งกาย ไม่มีใครรู้ว่ามันทรมานมากเพียงใดที่ตัวเขาเองเข้าใจดีว่าความรู้สึกเหล่านี้จะไม่มีทางหายไป



    แต่แบคฮยอนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้



    ในเมื่อคนบนฟ้ากำหนดเส้นทางและขีดเขียนชะตาชีวิตของทุกคนเอาไว้หมดแล้ว



    อะ…”



    ร่างบางร้องออกมาเมื่อเจ้าสุนัขตัวโตที่เดินตามเข้ามาในห้องใช้ใบหน้าคลอเคลียกับต้นขาเหมือนที่ชอบทำ อามูร์ส่ายหางแล้วครางหงิงในลำคออย่างออดอ้อน อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเรียวไปลูบหัวมันเบาๆ ด้วยความเอ็นดู



    สุนัขตัวโปรดน่ารักเช่นนี้ ทำไมเขาถึงตัดสินใจทำร้ายได้ลงคอ



    ทั้งที่เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับอามูร์เลยสักนิด



    คนที่ผิดคือแบคฮยอนเอง ผิดที่เข้าไปมีตัวตนในโลกของชานยอล ผิดที่ทำให้ชีวิตของเขาเลวร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย



    เป็นสิ่งไร้ค่าที่สมควรถูกกำจัดทิ้งไปเสีย หากแบคฮยอนไม่กลับมาเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้



    ว่าไงหืม คิดถึงเราหรือไงเจ้าอ้วน เดินตามตลอดเลย แบคฮยอนย่อตัวลงกอบกุมเท้าหน้าน้อยๆ ทั้งสองข้างของอามูร์ไว้ในมือพลางเขย่าหยอกล้อไปมา



    ร่างบางคิดว่าเจ้าอ้วนคงคิดถึงตัวเองมากแน่ๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนอามูร์ก็จะเดินตามหลังต้อยๆ คอยเป็นองครักษ์ประจำกายไม่ห่าง



    หงิง…”



    ดวงตากลมๆ แฝงไปด้วยแววเศร้าสร้อยช้อนมองแบคฮยอนราวกับจะสื่อบางอย่าง หลังจากนั้นเจ้าสุนัขแสนรู้ก็ละความสนใจจากเจ้านายตัวเล็ก ก่อนเดินเชี่ยงช้าไปตรงปลายเตียงแล้วนอนลงบนพรมนุ่มสีครีม



    แค่เท่านั้น คนตัวเล็กก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะเหตุใดอามูร์ถึงได้ดูเซื่องซึมผิดปกติ



    อ้วนเป็นอะไรครับ ยังไม่หายเจ็บหรือไง



    รอยช้ำสีม่วงที่เด่นชัดบนร่างของลูกชายตัวโตยังไม่จางลง อีกไม่นานร่องรอยเหล่านี้ก็คงจะหายไป แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะฝังรากลึกภายในจิตใจ ต่อให้ใช้ยาราคาแพงมากแค่ไหนก็ไม่อาจรักษาให้หายดีและไม่สามารถลบเลือนรอยแผลเป็นที่มองไม่เห็นได้



    เดี๋ยวก็หายแล้วเนอะ ชานยอลไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนายหรอกนะ เขาแค่เข้าใจผิดเท่านั้นเอง



    ชานยอลเพียงแค่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องทุกอย่างมันเป็นอย่างไร ที่เอ่ยวาจาร้ายๆ ทำตัวร้ายๆ นั่นเป็นเพราะเขาเข้าใจผิด



    และแบคฮยอนยินดีที่จะให้มันเป็นเช่นนี้ เพราะถ้าหากเมื่อไหร่ที่เขาได้รับรู้เรื่องราวเมื่อครั้งก่อน คนที่เสียใจที่สุดก็คงจะเป็นชานยอลเอง



    ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนตัวเล็กต้องการ แบคฮยอนทนเห็นคนที่ตัวเองรักหมดดวงใจเจ็บปวดไม่ได้หรอก



    หากเขาเจ็บ แบคฮยอนคงเจ็บยิ่งกว่า



    อย่าโกรธเขาเลยนะเจ้าอ้วน



    หงิง



    อามูร์ก้มหน้าหลบหลีกสายตาของเจ้านายตัวเล็กที่มองมาพร้อมครางรับในลำคอราวกับเข้าใจถึงความหมายในถ้อยคำนั้น



    ดีมากเลยคนเก่งของแบคฮยอน



    ร่างบางฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาทอประกายแสงสดใสราวกับดวงตะวันในยามเช้าเมื่ออามูร์ยอมเชื่อฟังอย่างง่ายดาย อยู่ด้วยกันมาหลายปีทั้งยังเลี้ยงเองกับมือ เหตุใดจึงจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวโตยอมให้อภัยพ่อของมันแล้ว



    ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ก็ย่อมมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน แตกต่างที่มนุษย์เราสามารถเอ่ยออกมาเป็นถ้อยคำได้ แต่สัตว์กลับทำได้เพียงสื่อสารผ่านเสียงร้องและท่าทางเท่านั้น



    เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เจ้าสุนัขแสนรู้คงรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้เจ้านายตัวสูงอีก



    ที่ชานยอลทำร้ายอามูร์ไปเมื่อวาน แม้จะไม่รุนแรงจนเลือดตกยางออก แต่แบคฮยอนกลับรวดร้าวมากเสียจนปล่อยให้หยดน้ำตารินไหลออกมาอย่างง่ายดายเพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้สักครั้ง ถึงจะเกลียดแบคฮยอนมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายสุนัขตัวโปรดของเรา



    สุนัขที่เป็นตัวแทนของเราทั้งสองคน






    ก๊อก ก๊อก ก๊อก



    คุณหนูคะ ป้าเองค่ะ



    เข้ามาเลยครับ



    เสียงเคาะประตูและน้ำเสียงหวานๆ จากภายนอกเรียกสติคนที่เพิ่งจมอยู่ในห้วงความคิดให้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง แบคฮยอนชะงักไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยอนุญาตเสียงใส หลังจากนั้นป้าซังมีก็เข้ามาพร้อมถ้วยข้าวต้มกุ้งร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วห้อง



    คุณหนูตัวเล็กของเธอไม่ยอมลงไปทานอาหารเช้า ฉะนั้นคุณป้าแม่บ้านจึงต้องยกขึ้นมาให้เพราะเกรงว่าคุณหนูคนเก่งจะปวดท้องเข้าเสียก่อน



    ทานข้าวต้มก่อนนะคะ ใกล้จะแปดโมงแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย คุณหนูของป้าจะปวดท้องเอาได้นะคะ ป้าซังมีทำคิ้วขมวดที่ร่างน้อยยิ้มหวานเพราะกลัวว่าจะถูกดุ ไหนจะยังพองแก้มกลมทั้งสองข้างให้น่าเอ็นดูมากขึ้นไปอีก



    ช่างน่าจับมาหยิกแก้มให้ช้ำเสียจริงๆ



    แบคยังไม่หิวเลยครับ



    ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ ไม่หิวก็ต้องทาน คุณหนูอย่าลืมสิคะว่าข้าวเช้าสำคัญกับเรามาก ป้าอยากให้คุณหนูดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ ทานสักหน่อยเถอะนะคะ



    คุณป้าแม่บ้านเอ่ยเสียงอ่อนแต่แฝงความจริงจังไว้ในทีคล้ายตะล่อมเด็กน้อยไม่รู้ความให้เชื่อฟัง ซึ่งร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าก็ส่งสายตาอ้อนให้เธอใจอ่อนดังเช่นทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้คุณป้าแม่บ้านจะไม่ยอมแพ้ให้กับความน่ารักน่าชังของคุณหนูง่ายๆ แน่



    งือ…”



    “…”



    ก็ได้ครับ



    ทำหน้าหงอยทั้งกัดริมฝีปากจิ้มลิ้มเมื่อเหลือบไปเห็นของโปรดที่ในเวลานี้ไม่ต้องการวางอยู่บนโต๊ะ ช่วงนี้แบคฮยอนรู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับคนเบื่ออาหารไปเสียแล้ว ผลของการทานน้อยทำให้ร่างกายผ่ายผอมอย่างง่ายดาย



    รู้เช่นนี้แต่กลับไม่สามารถบังคับให้ตัวเองทานเยอะๆ ได้เลย แล้วไหนจะความกังวลที่สะสมติดต่อกันมาตลอดหลายปีก็ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงมาก



    อะไรๆ ก็ดูแย่ไปหมด



    แบคฮยอนทำใจยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้นแล้วล่ะ อะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด ชีวิตนี้ขอแค่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเจอปัญหาใดๆ คนตัวเล็กก็จะผ่านมันไปให้ได้



    ไม่มีใครสามารถบงการชีวิตให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้แม้อยากมีชีวิตสวยหรูมากแค่ไหนก็ตาม



    แบคฮยอนเข้าใจดี



    วันนี้คุณชานยอลจะกลับมาอยู่ที่นี่นะคะ



    มือบอบบางที่กำลังตักข้าวต้มชะงักไปในทันที ชื่อของชายผู้เป็นที่รักถูกเอ่ยขึ้นมาในประโยคส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจทำงานหนัก แม้จะยังไม่ได้เห็นหน้านิ่งๆ ที่คอยบีบหัวใจให้แหลกคามือก็ปวดร้าวไปหมด ถ้าหากได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง ร่างบางไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับเขาได้หรือไม่



    ขอแค่เป็นเรื่องของชานยอลก็เอาชนะแบคฮยอนคนนี้ได้ทุกเมื่อ



    เขาช่างเก่งกาจเหลือเกิน



    คุณป้าทราบไหมครับว่าเขาจะมาตอนไหน



    น้ำเสียงสดใสกับท่าทางตื่นเต้นของคุณหนูบยอนไม่เคยปิดบังสายตาคนอายุมากกว่าได้เลย เอ่ยถึงเรื่องของผู้ชายตัวสูงคนนั้นยามใด ภายใต้ดวงตาเรียวรีคู่นี้ก็เต็มไปด้วยประกายของความรัก ความคิดถึง ความห่วงใยและความหวังดี



    เมื่อไหร่คุณชานยอลจะรับรู้ถึงหัวใจดวงน้อยแสนบอบบางนี้เสียทีนะ แล้วคุณชายคนเล็กของตระกูลปาร์คจะได้เห็นว่าคุณหนูบยอนน่ารักน่าเอ็นดูมากแค่ไหน



    ป้าก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ คุณท่านเพียงแค่สั่งมาว่าให้ขนข้าวของทุกอย่างของคุณชานยอลมาไว้ที่ห้องคุณหนู



    หะห้องของแบคเหรอครับ?”



    ใช่ค่ะ



    คำถามที่ได้รับการยืนยันคำตอบอย่างชัดเจนกระตุกลมหายใจให้ขาดห้วง แบคฮยอนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าคุณลุงสั่งให้ย้ายของใช้ของชานยอลมาไว้ที่ห้องตนทั้งที่ร่างสูงมีห้องเป็นของตัวเองอยู่แล้ว



    คุณลุงกำลังคิดอะไรอยู่ เหตุใดถึงไม่บอกกล่าวกันก่อน



    ชานยอลต้องไม่พอใจแน่ๆ



    ใช่เขาคงไม่มีทางอยู่ร่วมห้องกับคนที่ตัวเองเกลียดได้หรอก แล้วแบคฮยอนจะทำอย่างไรได้ แต่ถ้าให้บังคับฝืนใจอีกฝ่ายร่างบางก็ทำไม่ได้เช่นกัน



    ไม่อยากรู้เลยว่าถ้าได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เขาจะทำตัวร้ายกาจกับแบคฮยอนมากขนาดไหน



    แบคกลัวว่าเขาจะไม่พอใจแล้วพาลโกรธคุณลุงกับคุณป้า



    “…”



    แบคไม่อยากเห็นชานยอลทำตัวก้าวร้าวกับพ่อแม่ของตัวเองอีก แค่ครั้งนั้นมันก็มากเกินพอแล้ว เพราะแบคคนเดียว…”



    “…”



    แบคไม่สามารถพาคนที่เขารักกลับมาได้



    คุณหนู…”



    อีกอย่าง เขาเกลียดแบคมากขนาดนี้ แค่หน้ายังไม่อยากมอง แล้วเราจะอยู่ร่วมห้องกันได้ยังไง



    โธ่ คุณหนูอย่ากังวลไปเลยนะคะ ป้าจะช่วยพูดกับคุณชานยอลเธอให้เองค่ะ



    ไม่เป็นไรครับ คุณป้าอย่าลำบากเลย



    “…”



    ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจเขาได้ ถึงต่อให้แบคจะจากไป ความเกลียดชังที่เขามีให้ก็ไม่สามารถเลือนหายไปได้หรอกครับ



    แม้ความตายก็ไม่อาจพรากความชิงชังให้ออกไปจากใจของเขาได้



    แบคฮยอนมั่นใจ



    มั่นใจดีว่าหัวใจของชานยอลช่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา แตกต่างจากแบคฮยอนคนนี้ที่อ่อนแอและพร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ



    ไม่มีอะไรสู้เขาได้เลย












     

     

     

     

    บ่ายวันนั้น หลังจากที่คุณป้าแม่บ้านคะยั้นคะยอคุณหนูตัวเล็กให้ทานข้าวต้มจนหมดถ้วย เธอจึงลงไปทำความสะอาดห้องครัวรอเวลาที่เจ้าของบ้านอีกคนกลับมา ห้องกว้างชั้นบนจึงเหลือเพียงแค่แบคฮยอนและเจ้าสุนัขตัวโตเท่านั้น



    เสียงเอะอะโวยวายจากชั้นล่างดังไปทั่วบ้านหลังกว้างเรียกให้เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ร่างจ้อยๆ เดินลงไปดูสถานการณ์ข้างล่างพร้อมลูกสมุนตัวโตที่รีบวิ่งตามหลังมาติดๆ



    เมื่อลงมาถึง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือผู้ชายตัวสูงแสนคุ้นยืนเด่นสง่าบริเวณห้องโถงกว้าง ข้างกันมีคุณป้าแม่บ้านคนสนิทที่ทำสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จากที่ตรงนี้สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นภายในบ้านของตัวเอง



    อย่าทำแบบนี้เลยนะคะคุณชานยอล ป้าขอร้อง



    ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวหันไปสั่งคนงานสี่ห้าคนจากคฤหาสน์ตระกูลปาร์คที่ถูกเรียกมาใช้งานในวันนี้โดยไม่สนใจเสียงร้องขอจากแม่บ้านคนเก่งของที่นี่แม้แต่คำเดียว



    ผมต้องการให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในบ่ายวันนี้



    เขาสั่งเสียงห้วนและเด็ดเดี่ยวจนใจคนฟังวูบไหว ชานยอลรู้ว่าใครบางคนคงลงมาเห็นทุกอย่างหมดแล้ว และเขาตั้งใจที่จะทำมันต่อหน้าอย่างไม่คิดเกรงใจ



    เพราะสิ่งที่กำลังทำ มันคือความต้องการทั้งหมดของเขา



    คุยกันดีๆ ก่อนเถอะค่ะ ยังไงคุณหนูแบคฮยอนก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้อีกคน อย่าเพิ่งตัดสินใจวู่วามเลยนะคะคุณชานยอล ป้าซังมีร้อนรนรีบเข้าไปเกลี้ยกล่อมเจ้าของบ้านตัวสูงให้ฟังกันเสียก่อน



    หากว่าเขาใช้ความใจร้ายทำลายทุกอย่างภายในบ้านหลังนี้ คนที่หัวใจสลายคงเป็นใครไปไม่ได้



    นอกเสียจากคุณหนูคนดีของเธอ



    ชานยอลก็ยังคงเป็นชายหนุ่มที่จิตใจมั่นคงแน่วแน่ต่อความรู้สึก หากคิดตัดสินใจไปแล้วก็จะไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอนความพยายามได้ แม้กระทั่งตอนนี้ สิ่งที่กำลังกระทำลงไปนั้นช่างร้ายแรงต่อหัวใจดวงน้อยยิ่งนัก หากแต่เขาไม่คิดจะสนใจสักนิดเดียว



    เพราะเขานั้นแสนใจร้าย



    ยิ่งกับคนที่เคยลั่นวาจาว่าเกลียดนักหนา คำว่าเห็นใจก็อย่าหวังว่าจะได้รับมันจากคนอย่างปาร์คชานยอลเลย



    ทะทำอะไรกันน่ะครับ



    ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แบคฮยอนไม่สามารถประมวลเหตุการณ์ตรงหน้าได้เลย รับรู้แค่ว่าตอนนี้ร่างกายสั่นไหวไปหมดทุกส่วน ดวงตาที่เคยสดใสเมื่อนานมาแล้วจดจ้องทุกสิ่งที่พร้อมจะหายไปได้ทุกเมื่อเพียงแค่กะพริบตา



    ริมฝีปากบางเฉียบเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก คล้ายมีก้อนของความหวั่นใจจุกอยู่ในลำคอ มือทั้งสองข้างสั่นระริกยากเกินจะควบคุมเมื่อสายตาคมกริบจ้องกลับมาไม่ละไปไหน



    มาก็ดีแล้ว



    “…”



    ฉันจะได้เอาไอ้หมาน่ารังเกียจนี่ไปปล่อยสถานสงเคราะห์สุนัขจรจัด



    ในเวลานี้แบคฮยอนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกนอกเสียจากน้ำเสียง แววตาและถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปที่หลงรักมาเนิ่นนาน



    ใจร้ายเหลือเกิน



    รู้ดีว่าเขานั้นเกลียดกันมากเพียงใด แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ต้องการแม้กระทั่งเจ้าอามูร์



    ลูกชายตัวโตของเราทั้งสองคน



    หัวใจที่เราฟูมฟักเลี้ยงดูร่วมกันมาด้วยความรัก



    โฮ่ง! อามูร์เห่าขึ้นหลังจากที่ชานยอลพูดจบ เจ้าตัวโตคงรู้แล้วว่าเจ้านายตัวสูงหมายความว่าอย่างไรถึงได้แสดงอาการก้าวร้าวเช่นนี้



    ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือหลังจากจบประโยคนั้นอามูร์ก็วิ่งเข้าไปใกล้ผู้ชายใจร้าย ก่อนใช้กรงเล็บยาวๆ ข่วนกางเกงของร่างสูงจนมันขาดวิ่นเป็นรอยยาว



    ชานยอลสบถอย่างหัวเสีย โชคดีที่มีผ้าเนื้อดีกั้นไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงได้แผลลึกจากเล็บของสุนัขตัวโตมาดูต่างหน้าเป็นแน่ ร่างสูงสะบัดขาออกจนเผลอไปเตะโดนปากของสัตว์เลี้ยงที่เขาเกลียดมันมากพอๆ กับใครบางคน



    กล้าดียังไงถึงได้ปล่อยให้มันมาข่วนฉัน! เขาชี้หน้าตวาดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวและพร้อมจะบันดาลโทสะได้ในตอนนี้



    แบคฮยอนวิ่งเข้าไปดึงลูกชายตัวโตกลับมาไว้ในอ้อมกอดเพราะกลัวว่าชานยอลจะทำร้ายอามูร์เหมือนครั้งนั้น แปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นกิริยาท่าทางของเจ้าอ้วนเมื่อสักครู่ ไม่มีเลยสักครั้งที่อามูร์จะทำตัวไม่น่ารักเช่นนี้ หรือที่เคยบอกว่าอามูร์ก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับแบคฮยอนจะเป็นเรื่องจริง



    ไม่มีใครยอมรับกับความใจร้ายของเขาได้หรอก



    ระเราขอโทษแทนอามูร์ด้วย อามูร์คงไม่ได้ตั้งจะทำร้ายชานยอล เจ้าอ้วนแค่ตกใจที่เห็นชานยอลทำท่าทางแบบนี้



    แบคฮยอนมองหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยความร้าวรานในอกพลางละล่ำละลักเอ่ยขอโทษเขา หากร่างสูงคิดจะเข้ามาฆ่ากันยังไม่เจ็บเท่าแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังคู่นั้นเลย



    มันเจ็บเจ็บเกินใจจะทนไหว



    แต่แบคฮยอนไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก ก็เนื้อแท้เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่แสดงออก เมื่อก่อนชานยอลอบอุ่นและใจดี ร่างบางเชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นคนเดิมได้ในสักวัน



    ถึงแม้ตอนนั้นแบคฮยอนอาจจะไม่ได้เห็นมันก็ตาม



    ไม่ได้ตั้งใจเหรอ หมามันก็เหมือนกับเจ้าของนั่นแหละ เลี้ยงไม่เชื่องก็อย่าหวังว่าฉันจะเก็บมันไว้ มานี่!



    ชานยอล ไม่เอา ชานยอลปล่อยนะ!”



    ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งรับไม่ทัน ชายหนุ่มเดินตรงปรี่เข้ามาใกล้แล้วออกแรงกระชากสุนัขแสนรู้ออกจากอกคนตัวเล็กที่กอดไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะมีใครมาพรากลูกชายตัวโปรดไป



    แบคฮยอนพยายามรั้งอามูร์เอาไว้สุดแรงที่มี นึกเกลียดตัวเองที่ในเวลานี้ไม่สามารถสู้แรงคนตัวโตกว่าได้เลย ทั้งร้องขอความเห็นใจเมื่อชานยอลกระชากปลอกคอเส้นเก่าแล้วลากอามูร์ไปยังบริเวณหน้าบ้านอย่างไม่คิดสงสาร



    คุณชาน ป้าขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ



    ปล่อยอามูร์นะ อย่าทำอะไรเค้าเลย เราขอร้อง



    คุณหนูบยอนวิ่งตามร่างของลูกชายที่ร้องครางด้วยความเจ็บเพราะถูกเจ้านายตัวสูงดึงรั้งเต็มแรงอย่างไม่ผ่อนปรน ทำราวกับอามูร์เจ็บปวดไม่เป็น ทำราวกับสัตว์เลี้ยงตัวโตไม่มีหัวใจ ช่วงเวลานี้แบคฮยอนนึกเพียงอย่างเดียวคือผู้ชายที่แสนใจดีคนนั้นหายไปหนแห่งใด



    หรือชานยอลในอดีตจะตายไปจากโลกใบนี้แล้วกันแน่



    หงิงหงิง…”



    ชานยอลได้โปรด อย่าทำอามูร์เลย เราขอนะ…” ยอมให้เขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจนับได้ แบคฮยอนรู้ดีว่าตนไม่ใช่คนเข้มแข็งสามารถทนมองภาพแสนโหดร้ายบีบคั้นหัวใจให้แหลกสลายได้อีกต่อไป



    ร่างบางวิ่งเข้าไปขวางไว้ทั้งน้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่ได้หวังให้ใครคิดสงสาร เพียงแค่หวังให้ชานยอลเห็นใจกันสักนิด เขาจะได้รู้ว่าลูกชายของเรากำลังหายใจไม่ออก อามูร์กำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะถูกคนใจร้ายใช้ฝ่ามือรัดปลอกคอแน่นยิ่งกว่าโซ่ตรวน



    ชานยอลทำเกินไปแล้ว



    หากไม่คิดรักหรือไม่เคยรักก็อย่าทำเช่นนี้เลย โกรธเกลียดกันนักจนอยากฆ่าให้ตายก็มาลงที่แบคฮยอนสิ



    ร่างบางพร้อมโอนอ่อนยอมตกเป็นเบื้องล่างให้เขาอย่างไม่คิดลังเลอยู่แล้วไม่รู้หรืออย่างไร



    ขึ้นไป! ชี้นิ้วสั่งสุนัขตัวโตทันทีที่เดินมาถึงรถยนต์คันใหญ่ อามูร์ออกแรงขัดขืน สะบัดหัวไปมาหวังหลุดพ้นจากแรงรัดหนาแน่น อยากวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กแต่ก็ไม่สามารถสู้พละกำลังของเจ้านายตัวสูงได้เลย



    เราขอร้อง อึกจะให้เราทำอะไรก็ได้ อย่าพาอามูร์ไปเลยนะ เรายอมแล้ว ยอมทุกอย่างแล้ว…”



    กลั้นก้อนสะอื้นในลำคออย่างยากลำบาก ยิ่งได้เห็นท่าทางเกรี้ยวกราด น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ตะคอกข้างหู หรือจะเป็นอารมณ์ขุ่นมัวที่เขากำลังแสดงออกนั้นล้วนทำให้ปวดดวงใจไปเสียหมด



    ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ไม่คิดเหลียวแลกัน เขายังคงกระชากอามูร์ให้ขึ้นรถอย่างไม่ออมแรง ไม่สังเกตหน่อยหรือว่าเจ้าตัวโตก็กำลังเสียใจที่ถูกกระทำเช่นนี้ อามูร์ไม่ได้ต้องการไปจากเรา ไม่ได้ต้องการไปจากบ้านหลังนี้



    แม้มันจะไม่มีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่เลยก็ตาม



    บอกให้ขึ้นไปไงวะ! โอ๊ย!



    ดวงตาเรียวรีเบิกกว้างเมื่อเจ้าอามูร์ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน น่าตกใจเสียยิ่งกว่าตอนที่มันข่วนกางเกงของชานยอลจนขาดวิ่นเสียด้วยซ้ำ เพราะเพียงแค่ร่างสูงเอ่ยจบประโยค สุนัขตัวโตก็ใช้ฟันซี่คมขบกัดลงบนต้นขาแกร่งเต็มแรงจนชานยอลเผลอร้องเสียงหลง



    เลือดสีสดไหลตามรอยแผลเป็นทางยาวดูน่ากลัวไม่น้อย เจ้าสุนัขแสนรู้อาศัยจังหวะนั้นวิ่งกลับมาหาคนตัวเล็กที่ยังคงยืนทำตัวไม่ถูก แบคฮยอนโอบอามูร์ไว้ในอ้อมแขนพลางทอดสายตามองผู้ชายใจร้ายด้วยความเป็นห่วงจับใจ



    เขากำลังเจ็บ



    ชานยอลที่แบคฮยอนแสนรักกำลังกัดฟันสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้



    เพียงเท่านี้หัวใจดวงน้อยก็เต้นเร่าอยากเป็นคนเข้าไปปลอบประโลมให้เขาหายจากความรู้สึกนี้



    แต่รู้ดีว่าร่างสูงคงไม่ต้องการให้แบคฮยอนเข้าใกล้แม้แต่ปลายเล็บ



    ก็เขารังเกียจกันยิ่งกว่าอะไรดี



    คนตัวสูงก้มลงกุมบาดแผลบนต้นขาที่เห็นอย่างเด่นชัด ก่อนตวัดสายตาไปยังร่างของภรรยาตัวน้อยที่ข้างกายมีสุนัขตัวโตกับแม่บ้านคนเก่งไม่ห่างไปไหน ยิ่งได้เห็นหน้าก็ยิ่งขยะแขยงมากจนทนไม่ไหว



    เพลิงแค้นที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังสุมอกแทบจะระเบิดออกมา ชานยอลหันไปสั่งคนงานที่ยืนเรียงกันตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีอีกแล้วคำว่าลังเล ตลอดเวลาที่ผ่านมาในห้วงความคิดของเขาไม่เคยมีคำว่าเห็นใจแม้แต่ครั้งเดียว



    และครั้งนี้ก็เช่นกัน



    อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย เพราะชาตินี้คนอย่างปาร์คชานยอลจะไม่มีทางให้อภัยคนน่ารังเกียจอย่างบยอนแบคฮยอนแน่นอน!



    ที่สั่งไว้รีบจัดการให้เสร็จเรียบร้อยซะ ผมให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!”



    เอ่อ…”



    คนงานในกลุ่มนั้นมีท่าทีอึกอักเล็กน้อยแล้วเหลือบมองร่างบางที่ยืนห่างออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ คุณหนูแบคฮยอนมีสิทธิ์ภายในบ้านหลังนี้เช่นเดียวกับคุณชานยอล พวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรลงไปโดยที่เจ้าของบ้านอีกคนยังไม่อนุญาต แต่สายตาอีกคู่ที่มองจ้องมานี่สิน่ากลัวยิ่งกว่าอะไรดี รังสีอำมหิตนั่นแผ่มาราวกับจะขย้ำพวกเขาให้แหลกคามือก็มิปาน



    ผมสั่งไม่ได้ยินหรือไง! หรือต้องให้ไล่ออกกันให้หมด!” แม้แต่ลูกน้องของท่านประธานปาร์คคนปัจจุบันก็ยังถูกเขาตะคอกใส่เสียงดัง ชานยอลชักจะเริ่มหัวเสียไปมากกว่าเดิมเสียแล้วสิ ทั้งที่สั่งเด็ดขาดแล้วแต่คนงานก็ยังอิดออดเพราะมัวเกรงใจใครอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ



    อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่มีอำนาจภายในบ้านหลังนี้มากกว่ากัน



    มะไม่ครับ คุณชานยอลต้องการตัดแค่ครึ่งต้นหรือว่า…”



    โค่นมันออกทั้งต้นนั่นแหละ



    สวนกลับไปอย่างไม่คิดรีรอ ไม่ต้องทบทวนให้เสียเวลา เพราะทุกวินาทีมีค่าสำหรับเขาเหลือเกิน อะไรที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจอย่างถึงที่สุด นั่นก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสะใจจนหาที่เปรียบไม่ได้



    แบคฮยอนต้องเจ็บปวดมากกว่าที่เขาเคยได้รับ!



    คุณชานยอลแน่ใจแล้วเหรอครับ?” ลูกน้องผิวคล้ำถามเสียงเบาด้วยความหวาดเกรงคนเป็นนาย



    จะเก็บไว้ให้รกหูรกตาทำไมล่ะ



    ต้นบ๊วยต้นนั้น



    ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ภายในบ้านหลังโตมาเป็นเวลานานหลายสิบปีกำลังจะถูกกำจัดทิ้งเมื่อเจ้าของบ้านตัวสูงไม่ต้องการ ชายหนุ่มแววตาคมดุคล้ายคลึงกับผู้ชายในอดีตที่แสนใจดีคนนั้น ผู้ชายที่แบคฮยอนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น



    สถานที่เดิมๆ ซึ่งเคยเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความสุขกำลังจะถูกทำลายลงในอีกไม่ช้า ชิงช้าตัวนั้นที่เราเคยนั่งหยอกล้อกันคงจะหายไปจากสายตาถ้าร่างสูงตัดสินใจแน่วแน่แล้วจริงๆ









    ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร



    ‘…’



    จำไว้ว่าเราจะอยู่ตรงนี้ ต่อให้ชานยอลไล่เราให้หายไปไกลสุดขอบฟ้า เราก็จะอยู่ข้างๆ ชานยอลไม่ไปไหน









    แบคฮยอนทำอะไรได้บ้างงั้นหรือ หากคิดจะห้ามเขาก็คงไม่ฟังกัน คำพูดของแบคฮยอนไม่เคยมีค่าสำหรับคนใจร้ายอยู่แล้ว



    ไม่เคยเลย



    ในตอนนี้แบคฮยอนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากแววตามุ่งมั่นไร้ความลังเลใจของเขา



    มันชัดเจนดี



    ที่ว่าเขาต้องการทำลายสิ่งที่เต็มไปด้วยอดีตสวยงามของเรา



    คุณหนูคะ ไม่พูดอะไรสักนิดหรือคะ?” คุณป้าแม่บ้านบีบฝ่ามือนุ่มเบาๆ ด้วยความสงสารสุดหัวใจ หยดน้ำใสๆ ที่คลอล้นดวงตาแสนเศร้านั้นบีบความรู้สึกของเธอเหลือเกิน



    ถ้าคุณหนูคนดีไม่คิดจะห้ามผู้ชายตัวสูง สิ่งสำคัญที่คุณหนูแบคฮยอนแสนหวงแหนคงจะถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครทำใจมองดูความโหดร้ายของคนที่ตัวเองรักได้หากไม่มีความเข้มแข็งพอ



    แล้วคนบอบบางเช่นนี้จะเอาอะไรไปสู้คนใจแกร่งอย่างเขาได้กัน



    แบคห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ



    “…”



    หากมันจะทำให้ชานยอลพอใจ แบคยอมทุกอย่าง



    น้ำเสียงหวานเจือไปด้วยความปวดร้าวที่เคยได้รับมานับครั้งไม่ถ้วนเอ่ยอย่างจำนนต่อเขา ต่อคนที่คอยทำร้ายจิตใจกันไม่เลิกรา แบคฮยอนหลับตาลงไล่หยาดน้ำตาแห่งความอ่อนแอนั้นให้ไหลลงสู่พื้นเบื้องล่าง ก้มหน้ายอมรับความจริงที่กำลังจะได้เผชิญมันอย่างเต็มรูปแบบ



    ความรู้สึกแบบนี้สินะที่แบคฮยอนควรได้รับ



    มันถูกต้องแล้วใช่ไหมที่ต้องยอมเขาเสียทุกเรื่องโดยไม่สนหัวใจที่กำลังเต้นแผ่วด้วยความเจ็บปวดตรงหน้าอกด้านซ้าย



    เมื่อใคร่ครวญดีแล้วคำตอบทั้งหมดก็คือสิ่งเดียวที่ไม่เคยจางหายไปจากหัวใจดวงนี้สักครั้งเดียว แบคฮยอนต้องการให้ชานยอลมีความสุขที่สุดแม้ร่างสูงจะต้องไร้คนรักอยู่ข้างกาย



    เธอคนนั้นที่ร่างบางไม่มีทางเป็นให้ได้

     





























    100%








    รักคนที่ไม่เคยมีเราอยู่ในหัวใจนี่มันเจ็บปวดดีนะคะ

    พูดไม่ออกเลย ฮือ น้ำตาจะไหล

    คอมเม้นเงียบเหงามาก ไม่รู้ว่ายังมีคนอ่านอยู่ไหม T___T

    หากยังมีข้อผิดพลาดตรงไหนแนะนำกันได้นะคะ ถ้าเจอคำผิดท้วงติงได้ค่า

    (づ ̄ ³ ̄)づ

    ใครต้องการระบายความอัดอั้นตันใจต้อง

    แท็กนี้น้า #ฟิคเข็มนาฬิกา

    มาหวีดกันหน่อยเร้ววว อยากรู้ว่าทุกคนอ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง  ;---;



    HmiwzP.


    อัพเดต : 20.04.59

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×