บล็อกนี้ My.iD นี้เหมือนทำไว้ Please เจ้าของคนเดียวเลยอะ 5555
เพราะคงไม่มีใครเข้ามาดูมาอ่าน
Happy ที่ได้เขียนได้แต่งไอดีอยู่คนเดียว 555
บ้าโคตร 5555
เอาเหอะ ! เข้าเรื่อง !
เร็วๆนี้เพิ่งจะมีโอกาสได้อ่านนิยายเรื่องนึงแบบจริงๆจังๆ
เรื่องดังกล่าวนั้นก็คือ คือ คือ...
"หัวขโมยแห่งบารามอส " โดย Rabbit นั่นเอง เอง เอง...
555555555
ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า
เชย!
อินี่แหล่ะ เชย นิยายออกมานานโข เพิ่งจะได้อ่านจริง ๆ จัง ๆ 555
พออ่านจบนี่ให้เรื่องนี้ขึ้นแท่นนิยายแสนรักเลยนะ
Favorite มาก ชอบบบ 555
นอกจากความสร้างสรรค์แปลกใหม่ที่เรื่องนี้มี ยังชอบสำนวนภาษาน่ารักๆที่ใช้ในเรื่องด้วย
ตัวละครก็ดูดี มีมิติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดี(ถึงจะอิงมาจากตัวละครดังบางตัวก็ตาม)
อีกอย่างที่ชอบมากคือเรื่องนี้แฝงข้อคิดที่น่าสนใจลงไปในเนื้อเรื่องได้ "เนียน" มาก
(คือเหมือนเนื้อเรื่องกำลังดำเนินๆอยู่เป็นเส้นตรงงี้ อยู่ดี ๆ ก็ แว๊บ! ข้อคิดโผล่มา)
ตั้งแต่ภาคมงกุฎแห่งใจ ที่กล่าวถึงสิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างเงินทองหรืออำนาจ
ที่ทำให้มนุษย์โง่เขลาเพราะถูกความโลภในสิ่งเหล่านั้นครอบงำ(ใจเป็นนาย)
ภาคคทาแห่งพลัง ที่กล่าวถึงหลายประเด็น(ที่ไม่ค่อยจะเน้นเรื่องคทาเท่าไหร่)
ที่พวกเฟรินไต้องเผชิญระหว่างเดินทางในเดมอส
ทั้งเรื่องด้านทดสอบการพฤติตน ทดสอบปัญญา ทดสอบมโนธรรมในใจ การกระทำและผลของการกระทำของเรา
ทดสอบการควบคุมสติและวาจา รวบไปถึงด้าน"ความคิด"ของเราอีกด้วย
ซึ่งคุณ Rabbit เขียนสอนได้ดีเลยล่ะ
ภาคแหวนแห่งปราชญ์ อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะสื่ออะไรแน่ (555)
ก็คงเป็นข้อเสียนิดหน่อยของเรื่องนี้ที่เนื้อความบางทีจะดูไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่
แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่จิตนาการเอาเองกันได้
ภาคนี้มีประเด็นว่า "มหาปราชญ์นั้นผู้ยิ่งใหญ่ ค้นพบได้ในตัวเราเอง"
คือ อตฺตาหิ อตฺตาโนนาโถ อยู่กลายๆนั่นเอง (ปะ? 555)
ถ้าสมมติเรามีปัญหาหรือเรื่องอะไรก็ตาม คนที่จะรู้เรื่องนั้นหรือปัญหานั้นดีที่สุดก็คือตัวเรา
คนที่จะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้ก็คือตัวเราอยู่ดี ขอเพียงอย่าบุ่มบ่ามและใคร่ครวญคิดให้ดีเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นน่าคิดเกี่ยวกับ หน้าที่ของกษัตริย์ หรือ ภาวะ(ภาระ?)ผู้นำ อีกด้วย
การเป็นผู้นำที่ดี สิ่งพึงมีไม่ได้มีเพียงความรับผิดชอบหรืความเสียสละเพียงเท่านั้น
เพราะยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกที่เราต้องนึกถึง (อยากรู้ว่าอะไรก็ไปอ่านเลย 55)
ส่วนภาคสุดท้าย ภาคดาบแห่งกษัตริย์
ภาคนี้พูดถึงเรื่องมิตรภาพที่เข้มข้นขึ้นยิ่งกว่าภาคก่อนๆ
ผนวกกับเรื่อง"มุมมองที่ต่างกัน"ของแต่ละคน(ชาวเดมอสและชาวเอเดน มนุษย์และปีศาจ)
ที่ถ้าหากเราเกิดขัดแย้งกัน ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้างซี๊ เผื่อเราจะมองเห็นปัญหาขัดแย้งนั้นได้กว้างขึ้นและชัดขึ้น
(ถ้าไม่โดนทิฐิหรือ Ego บังตาไปซะก่อนน่ะนะ)
ส่วนเรื่องตัวละคร (เน้น Romance อะนะ) Puppy Love; Kindergarden Love
ก็คงหนีไม่พ้น เฟริน เดอเบอโรว์ กะ คาโล วาเนบลี อะนะ (กรี๊ดในใจ)
เคมีเข้ากันสุดๆ ! ! !
.
.
.
//วี้ดว้าย แดดิ้น
ความชาเย็นของคาโล กะความกะล่อนของเฟริน แบบว่า..
' น่าร็อกอ่ะว์..'
ถึงบทมุ้งมิ้งกันจะมีน้อย แต่คุณภาพนะเธอ!
พวก เธอ จง ไป หา อ่าน โดย เร็ว (ซื่อเก็บเลยยิ่งดี 55)
โอ๊ย ทำไมเขียนเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ 5555
กลับมา ๆ
คือที่จะพูดคือ เรื่องนี้มันดีนะ ถึงตามหลักการเขียนนิยายที่ดีมันอาจจะบกพร่องไปบ้าง
ระดับภาษาบางที่ก็ Unstable การตัดฉากบางที่ก็งง แต่ก็ยังใช้จินตนาการอุดช่องว่างได้
แต่ก็นับว่าอ่านแล้วได้อะไรดี ๆ จากเรื่องนี้ไปเยอะเลย
ตอนเด็ก(กว่านี้)เคยอ่านไปรอบนึงแล้ว
แต่ตอนนั้นอ่านไม่คิดอะไรเลย อ่านเอามันส์ จิ้นดิ้นสนุกสนาน
พอกลับมาอ่านอีกทีรู้สึก อืมมม หนังสือเล่มนี้มันซีเรียสกว่าที่คิดนะ 5555
ไม่รู้จะ Review ทำไม เพราะค่อนข้างแน่ใจว่ามันดังพอและใคร ๆ ก็คงรู้จัก
แต่ก็เผื่อไว้สำหรับพวกตกสำรวจที่ยังไม่ได้อ่าน หรือยังไม่สนใจจะอ่านก็แล้วกัน
ไป อ่าน ซะ มัน ดี นะ เว่ยยยยยย
5555
[เพิ่มเติม 22 มี.ค. 58]
กำลังตามอ่านเรื่อง Th Book of Three โดย Lloyd Alexander อยู่
เพราะเห็นว่า Rabbit อาจได้แรงบันดาลใจมากจากเรื่องนี้
เดวอ่านจบแล้วจะมาโพสเพิ่มนะ 5555
เพราะคงไม่มีใครเข้ามาดูมาอ่าน
Happy ที่ได้เขียนได้แต่งไอดีอยู่คนเดียว 555
บ้าโคตร 5555
เอาเหอะ ! เข้าเรื่อง !
เร็วๆนี้เพิ่งจะมีโอกาสได้อ่านนิยายเรื่องนึงแบบจริงๆจังๆ
เรื่องดังกล่าวนั้นก็คือ คือ คือ...
"หัวขโมยแห่งบารามอส " โดย Rabbit นั่นเอง เอง เอง...
555555555
ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า
เชย!
อินี่แหล่ะ เชย นิยายออกมานานโข เพิ่งจะได้อ่านจริง ๆ จัง ๆ 555
พออ่านจบนี่ให้เรื่องนี้ขึ้นแท่นนิยายแสนรักเลยนะ
Favorite มาก ชอบบบ 555
นอกจากความสร้างสรรค์แปลกใหม่ที่เรื่องนี้มี ยังชอบสำนวนภาษาน่ารักๆที่ใช้ในเรื่องด้วย
ตัวละครก็ดูดี มีมิติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดี(ถึงจะอิงมาจากตัวละครดังบางตัวก็ตาม)
อีกอย่างที่ชอบมากคือเรื่องนี้แฝงข้อคิดที่น่าสนใจลงไปในเนื้อเรื่องได้ "เนียน" มาก
(คือเหมือนเนื้อเรื่องกำลังดำเนินๆอยู่เป็นเส้นตรงงี้ อยู่ดี ๆ ก็ แว๊บ! ข้อคิดโผล่มา)
ตั้งแต่ภาคมงกุฎแห่งใจ ที่กล่าวถึงสิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างเงินทองหรืออำนาจ
ที่ทำให้มนุษย์โง่เขลาเพราะถูกความโลภในสิ่งเหล่านั้นครอบงำ(ใจเป็นนาย)
ภาคคทาแห่งพลัง ที่กล่าวถึงหลายประเด็น(ที่ไม่ค่อยจะเน้นเรื่องคทาเท่าไหร่)
ที่พวกเฟรินไต้องเผชิญระหว่างเดินทางในเดมอส
ทั้งเรื่องด้านทดสอบการพฤติตน ทดสอบปัญญา ทดสอบมโนธรรมในใจ การกระทำและผลของการกระทำของเรา
ทดสอบการควบคุมสติและวาจา รวบไปถึงด้าน"ความคิด"ของเราอีกด้วย
ซึ่งคุณ Rabbit เขียนสอนได้ดีเลยล่ะ
ภาคแหวนแห่งปราชญ์ อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะสื่ออะไรแน่ (555)
ก็คงเป็นข้อเสียนิดหน่อยของเรื่องนี้ที่เนื้อความบางทีจะดูไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่
แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่จิตนาการเอาเองกันได้
ภาคนี้มีประเด็นว่า "มหาปราชญ์นั้นผู้ยิ่งใหญ่ ค้นพบได้ในตัวเราเอง"
คือ อตฺตาหิ อตฺตาโนนาโถ อยู่กลายๆนั่นเอง (ปะ? 555)
ถ้าสมมติเรามีปัญหาหรือเรื่องอะไรก็ตาม คนที่จะรู้เรื่องนั้นหรือปัญหานั้นดีที่สุดก็คือตัวเรา
คนที่จะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้ก็คือตัวเราอยู่ดี ขอเพียงอย่าบุ่มบ่ามและใคร่ครวญคิดให้ดีเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นน่าคิดเกี่ยวกับ หน้าที่ของกษัตริย์ หรือ ภาวะ(ภาระ?)ผู้นำ อีกด้วย
การเป็นผู้นำที่ดี สิ่งพึงมีไม่ได้มีเพียงความรับผิดชอบหรืความเสียสละเพียงเท่านั้น
เพราะยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกที่เราต้องนึกถึง (อยากรู้ว่าอะไรก็ไปอ่านเลย 55)
ส่วนภาคสุดท้าย ภาคดาบแห่งกษัตริย์
ภาคนี้พูดถึงเรื่องมิตรภาพที่เข้มข้นขึ้นยิ่งกว่าภาคก่อนๆ
ผนวกกับเรื่อง"มุมมองที่ต่างกัน"ของแต่ละคน(ชาวเดมอสและชาวเอเดน มนุษย์และปีศาจ)
ที่ถ้าหากเราเกิดขัดแย้งกัน ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้างซี๊ เผื่อเราจะมองเห็นปัญหาขัดแย้งนั้นได้กว้างขึ้นและชัดขึ้น
(ถ้าไม่โดนทิฐิหรือ Ego บังตาไปซะก่อนน่ะนะ)
ส่วนเรื่องตัวละคร (เน้น Romance อะนะ) Puppy Love; Kindergarden Love
ก็คงหนีไม่พ้น เฟริน เดอเบอโรว์ กะ คาโล วาเนบลี อะนะ (กรี๊ดในใจ)
เคมีเข้ากันสุดๆ ! ! !
.
.
.
//วี้ดว้าย แดดิ้น
ความชาเย็นของคาโล กะความกะล่อนของเฟริน แบบว่า..
' น่าร็อกอ่ะว์..'
ถึงบทมุ้งมิ้งกันจะมีน้อย แต่คุณภาพนะเธอ!
พวก เธอ จง ไป หา อ่าน โดย เร็ว (ซื่อเก็บเลยยิ่งดี 55)
โอ๊ย ทำไมเขียนเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ 5555
กลับมา ๆ
คือที่จะพูดคือ เรื่องนี้มันดีนะ ถึงตามหลักการเขียนนิยายที่ดีมันอาจจะบกพร่องไปบ้าง
ระดับภาษาบางที่ก็ Unstable การตัดฉากบางที่ก็งง แต่ก็ยังใช้จินตนาการอุดช่องว่างได้
แต่ก็นับว่าอ่านแล้วได้อะไรดี ๆ จากเรื่องนี้ไปเยอะเลย
ตอนเด็ก(กว่านี้)เคยอ่านไปรอบนึงแล้ว
แต่ตอนนั้นอ่านไม่คิดอะไรเลย อ่านเอามันส์ จิ้นดิ้นสนุกสนาน
พอกลับมาอ่านอีกทีรู้สึก อืมมม หนังสือเล่มนี้มันซีเรียสกว่าที่คิดนะ 5555
ไม่รู้จะ Review ทำไม เพราะค่อนข้างแน่ใจว่ามันดังพอและใคร ๆ ก็คงรู้จัก
แต่ก็เผื่อไว้สำหรับพวกตกสำรวจที่ยังไม่ได้อ่าน หรือยังไม่สนใจจะอ่านก็แล้วกัน
ไป อ่าน ซะ มัน ดี นะ เว่ยยยยยย
5555
[เพิ่มเติม 22 มี.ค. 58]
กำลังตามอ่านเรื่อง Th Book of Three โดย Lloyd Alexander อยู่
เพราะเห็นว่า Rabbit อาจได้แรงบันดาลใจมากจากเรื่องนี้
เดวอ่านจบแล้วจะมาโพสเพิ่มนะ 5555
bonustsu
ความคิดเห็น