ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หากจะรัก (นิยายชุดเพียงแสงส่องใจ)

    ลำดับตอนที่ #4 : พบหน้า 50% (รีไรท์)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.62K
      39
      4 ก.ค. 59

    พบหน้า

     

        ธนดลขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นมีใครยืนรออยู่ หารู้ไม่ว่าหญิงสาวที่จะมาสมัครงานยืนมองเขาอยู่ที่บ้านหลังเล็กชั้นบน เมื่อเห็นว่าเขามาถึงแล้ว จึงสูดหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนลมหายใจออกมา

    เธอยอมรับว่าตื่นเต้นเล็กน้อยราวกับตัวเองกำลังทำผิดอะไรบางอย่าง ทั้งที่การสมัครงานตำแหน่งแม่บ้านนั้น มันไม่ได้ผิดศีลธรรมอันดีตรงไหน แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำตัวเป็นนักสืบเข้าไปหาเบาะแสอะไรในบ้านหลังนั้น

    เอาเป็นว่าเจตนาของเธอ ไม่ได้อยากทำงานแม่บ้าน แต่อยากเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นและหาหนทางที่จะทำให้เขายังไม่ขายบ้านให้ใครต่อ เพราะเธอกลัวว่าเจ้าของใหม่จะทุบตึกทิ้งแล้วสร้างใหม่ ส่วนเขารับสมัครแม่บ้านก็หมายถึงว่าจะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้

    ถ้าเธอเข้าไปอยู่ที่นั่นและดูแลมันดี ๆ รอคอยให้ได้เงินจากพี่สาวมาขอซื้อคืน น่าจะดีกว่าให้คนอื่นเข้าไปดูแล คิดแล้วจึงคว้าเอกสารสมัครงานที่เขาบอกให้เตรียมไว้เดินออกมาหน้าบ้าน เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรั้ว

    เสียงดังที่อยู่บ้านฝั่งซ้ายมือ ทำให้สัตวแพทย์หนุ่มที่กำลังกดสมาร์ตโฟนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่หันมามอง เขาเห็นหญิงสาวใบหน้าหวานที่เจอเมื่อเช้า ตอนนี้เธออยู่ในเดรสสั้นผ้าชีฟองลายดอกไม้สีฟ้าสดใส แม้ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงบางเบาแต่ยังดูสวยสะดุดตา แถมเดินตรงมาที่เขาด้วยสิ เธอคงมาทักทายเขาในฐานะเพื่อนบ้านกระมัง ชายหนุ่มคิดพลางยิ้มให้และทักทายอย่างเป็นมิตร

    “สวัสดีครับ ผมมาดูบ้านครับ โชคดีจังได้เจอเพื่อนบ้าน ผมชื่อธนดลครับ” เขาเอ่ยฝากเนื้อฝากตัวเพราะคาดว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่อาจจะต้องพึ่งพาอาศัยกันบ้าง

    “เอ่อ คือ... ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณธนดล ดิฉันเบญจาค่ะ ที่โทร. หาคุณบอกว่าจะสมัครงานตำแหน่งแม่บ้านน่ะค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจบอกจุดประสงค์ของตัวเอง

    “มะ...มาสมัคร...แม่บ้าน” คนที่ได้ยินคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไป เพราะดูรูปร่างหน้าตาสะสวย ผิวพรรณผุดผ่องราวกับผู้ดี แถมเธอก็ยังมีบ้านติดกับเขา แม้บ้านหลังนั้นจะเล็ก แต่ตกแต่งบริเวณโดยรอบได้สวยงามน่าอยู่

    “ค่ะ คือ ดิฉันกำลังต้องการงานทำ เมื่อกี้เห็นคุณติดประกาศไว้ จึงสนใจเพราะถ้าได้ทำงานใกล้บ้านดิฉันจะประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่เหนื่อยเดินทางด้วยค่ะ” เธอให้เหตุผลด้วยเสียงนุ่มนวลจนคนที่ได้ยินฟังเพลิน

    “แต่...คุณรู้ใช่ไหมว่าผมต้องการคนอยู่ประจำ แล้ว...คุณจะสะดวกหรือครับ” เขาถามกระอึกกระอักเพราะเธอเป็นหญิงสาวสวย จนเขานึกกลัวว่าเธอจะไม่สะดวกอยู่ร่วมกับเขาสองต่อสอง

    “ที่จริงดิฉันก็อยู่บ้านติดกับคุณ ไปทำงานให้คุณได้สะดวกโดยไม่ต้องค้างที่นั่นอยู่แล้วค่ะ” เธอตอบเช่นนั้นเผื่อว่าบางทีเขาจะได้ไม่ต้องให้เธอค้างด้วยกัน

    “แต่ผม...เอ่อ ต้องการความสะดวก” เขาว่าอย่างนั้น มันไม่ใช่แค่ความสะดวก แต่เขาต้องการเพื่อนอยู่ด้วย ถ้าจะบอกว่ากลัวผีต่อหน้าสาวสวยก็ดูกระไรอยู่ จึงทำหน้าเข้มบ่งบอกความมาดมั่นของตัวเอง

    “งั้นดิฉันก็ยินดีมาพักที่นี่ค่ะ คุณจะได้เรียกใช้ได้สะดวก แต่ตอนกลางวันหากไม่มีงานอะไรค้าง ดิฉันต้องขอไปดูแลบ้านของตัวเองบ้างนะคะ”

    “โอเคเลยครับ ผมก็ไม่ได้คิดจะใช้งานคุณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกนะครับ เพียงแค่ถ้าผมอยู่บ้าน ก็อยากให้มีคนคอยช่วยงานโน่นนี่บ้างนิดหน่อย”

    “งั้น นี่ค่ะเอกสารสมัครงานของดิฉัน” เธอยื่นเอกสารในมือให้

    “เอ่อ ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเข้าไปในบ้านก่อนดีไหมครับ ไปนั่งกรอกเอกสารบนโต๊ะหินอ่อนนั่นน่าจะสะดวกกว่า” เขาชี้เข้าไปยังโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งไว้ใกล้กับรั้วบ้าน ซึ่งน่าจะพอนั่งกรอกเอกสารได้ แม้จะมีใบไม้แห้งกองอยู่บนโต๊ะ

    “ก็ดีค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ ชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วหยิบเครื่องมือทำความสะอาดรถออกมา ในเวลานี้เขามีเพียงผ้าเช็ดรถที่พอจะทำความสะอาดที่นั่งได้

    เขาเปิดประตูบ้านเสร็จก็เดินนำ หญิงสาวที่เดินตามไปข้างหลังน้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัว เธอรู้สึกราวกับว่าได้กลับบ้านที่รอคอยมานานเกือบยี่สิบปีเสียที

    “เชิญนั่งก่อนนะครับ ผมไม่ได้มานาน เลยไม่สะดวกเรื่องต้อนรับ” เขากล่าวเชิญให้เธอนั่งบนเก้าอี้ที่เช็ดฝุ่นให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วยื่นเอกสารให้

    หญิงสาวรับไปแล้วกรอกข้อมูลอยู่พักหนึ่งก่อนจะยื่นให้คนที่กำลังมองตาปรอย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกอบอุ่นในใจเช่นนี้เมื่อเห็นท่าทางละเมียดละไมที่ค่อย ๆ อ่านและจดปากกาลงเขียนบนกระดาษด้วยท่าทีนุ่มนวล

    “คุณธนดลคะ” หญิงสาวเอ่ยเรียกเมื่อส่งเอกสารให้แต่ชายหนุ่มยังนั่งมองเธอนิ่ง เขาสะดุ้งเล็กน้อย “อ้อ เสร็จแล้วหรือครับ ขอโทษที ผมคิดเรื่องงานเพลินไปหน่อย” ธนดลรับเอกสารมา พลางนึกชมตัวเองที่แก้ตัวได้ไม่ตะกุกตะกักสักนิด

    ชายหนุ่มเปิดเอกสารอ่านคร่าว ๆ

    “คุณชื่อเบญจา ราชวัฒโยธิน ชื่อเล่นว่า เบญ เรียนจบปริญญาตรีสาขาคหกรรมศาสตร์ อายุ... เอ่อ” เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้าเมื่อมองตัวเลขที่เธอกรอกไว้ในช่องอายุอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

    เป็นไปไม่ได้ เธอคงจะเขียนผิด! เขาคิดว่าเป็นอย่างนั้นแน่นอน

    “เอ่อ คุณเบญครับ คุณคงจะกรอกตัวเลขช่องอายุผิด” เขายื่นเอกสารคืนให้ หญิงสาวก้มมองก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองหน้าเขาพร้อมกับสายหน้า

    “ดิฉันกรอกไม่ผิดค่ะ” เธอยิ้มให้ ในใจก็นึกขำว่าอีกคนหนึ่งแล้ว ที่สับสนระหว่างใบหน้ากับอายุของเธอ ซึ่งไม่แน่ใจแล้วว่าการที่ใบหน้าอ่อนกว่าวัยมากเป็นสิบปีนี้มันเป็นความโชคดีของเธอจริง ๆ หรือเปล่า

    “คุณอายุ...” เขาจ้องหน้าเธอ

    “สามสิบเก้าค่ะ” เธอยืนยันหนักแน่น

    “อายุสามสิบเก้า!” เจ้าของบ้านหนุ่มเผลอทำเสียงตกใจ

    “มีอะไรผิดปกติหรือคะ” เอ่ยถามพลางยิ้มให้น้อย ๆ เขาเกลียดดวงตาของเธอที่มองเขาราวกับเป็นเด็กหนุ่มรุ่นน้องนั่นเสียจริง

    “เอ่อ คือ...เปล่าครับ ผมแค่..แค่คิดว่าคุณอายุเท่ากับผมเลย” ชายหนุ่มตอบแล้วถึงกับตกใจว่าตัวเองพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไง

    ใช่ เขาไม่อยากอายุน้อยกว่าเธอ ไม่อยากให้เธอมองเหมือนเขาเป็นหนุ่มรุ่นน้อง ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่รู้สึกว่าอยากอายุเท่าเธอหรือมากกว่าอย่างที่เคยคิดก่อนที่จะรู้อายุจริง

    บ้าชะมัด ทำไมฟ้าส่งเธอมาเกิดก่อนเร็วขนาดนี้ คิดแล้วก็อดตกใจตัวเองไม่ได้ ที่รู้สึกสับสนไปหมดเมื่อได้เจอแม่บ้านคนใหม่คนนี้ จนอดด่าตัวเองไม่ได้ว่า

    เขาแก่กว่าแล้วมันหนักส่วนไหนของนายกัน...ธนดล!’

    ก่อนจะตั้งสติหันมาหาคนตรงหน้าอีกครั้งเมื่อเธอเอ่ยถาม

    “คุณก็อายุเท่าดิฉันหรือคะ” เขามองเห็นความไม่เชื่อถือในสายตาคู่นั้น

    “เอ่อ...ครับ ผมว่าเราไปดูบริเวณบ้านก่อนดีกว่า ที่จริงงานภายนอกบ้านผมคิดว่าจะหาคนสวนมาช่วยคุณอีกสักคน เพราะมันคงเป็นงานหนักสำหรับผู้หญิง ตอนนี้แค่อยากให้คุณช่วยทำความสะอาดบ้านซักรีดเสื้อผ้าเท่าที่จะทำได้ตอนที่ผมไปทำงานก็เท่านั้นเอง ส่วนตอนเย็นก็ช่วยทำอาหาร” เขาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เธอสนใจเรื่องอายุเขามากนัก ส่วนเรื่องงานหนัก ๆ ที่จะให้ทำ พอเห็นร่างอ้อนแอ้นนั่นแล้วเขาก็ใช้งานเธอไม่ลงจริง ๆ

    รูปร่างผิวพรรณบอบบางแบบนี้แค่ให้ทำความสะอาดบ้านและดูแลเรื่องอาหารการกินเขาก็ยังกลัวว่าจะหนักไปสำหรับเธอ อยู่ ๆ ก็นึกห่วงใยคนเป็นแม่บ้านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    “ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ บ้านของดิฉันก็ทำความสะอาดและจัดสวนหน้าบ้านเอง งานแค่นี้ดิฉันทำได้ค่ะ ไม่อยากให้คุณต้องจ่ายค่าแรงแล้วได้ผลงานไม่คุ้ม” เธอว่าอย่างนั้น

    “เอาเป็นว่า คุณทำเท่าที่ทำได้ไปก่อนแล้วกัน ส่วนงานอื่น ๆ ผมค่อยคิดดูอีกทีว่าจะจ้างคนประจำหรือจ้างให้มาทำเป็นครั้งคราวดี เพราะผมก็ไม่อยากใช้แรงงานคุณหนักเกินไป ส่วนเงินเดือน...คุณยังไม่ได้กรอกข้อมูลให้ผมเลย” เขาว่าพลางพลิกดูเอกสาร

    “ดิฉันแล้วแต่คุณจะเห็นสมควรค่ะ”

    “งั้น...ผมให้คุณสัก...” ว่าแล้วก็เงยหน้ามองคนร่างอรชรที่กำลังนั่งด้วยท่าทีสง่างามเกินกว่าตำแหน่งแม่บ้านราวฟ้ากับเหว

    “สัก...สามหมื่นพอไหมครับ” เขารู้ดีว่าเงินเดือนมากกว่าตำแหน่งแม่บ้านอยู่มากโข แต่ด้วยระดับการศึกษาและรูปร่างหน้าตาของเธอแล้ว ทำให้เขาไม่กล้าเอ่ยปากจ่ายน้อยกว่านี้ แถมจะให้เขาหาคนที่ค่าจ้างถูกกว่านี้เขาก็ไม่อยากได้แล้ว เพราะตั้งแต่ได้พูดคุยกับเธอ ก็รู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก

    “สามหมื่นเชียวหรือคะ” เบญจาเลิกคิ้วประหลาดใจกับค่าจ้างแม่บ้านแสนแพง ซึ่งเธอคาดว่าเขาน่าจะจ่ายเธอมากสุดไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ

    “ครับ ก็ถือว่าให้คุณช่วยดูแลบ้านหลังนี้แทนผมทั้งหมดก็แล้วกัน เป็นที่ปรึกษาให้ผมด้วยว่าควรทำอย่างไรให้บ้านหลังนี้สดใสน่าอยู่ ผมไม่ค่อยมีเวลา ถ้าคุณตกลงจะทำจริง ๆ ผมให้คุณเริ่มต้นทำงานพรุ่งนี้ได้ไหม”

    “ได้ค่ะ ฉันพร้อมตั้งแต่วันนี้แล้วค่ะ จะให้ทำอะไรตรงไหนก็สั่งได้เลย” หญิงสาวว่า พลางกวาดตามองรอบบริเวณบ้าน

    “โอเค งั้นวันนี้เราเดินดูบริเวณรอบบ้านก่อนแล้วกันครับ แล้วค่อยเข้าไปในบ้าน ดูว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี” เขาว่าแล้วก็ลุกขึ้นเต็มความสูงกว่าร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงถนัดใจ

    “เชิญครับ” ว่าแล้วก็เดินออกไป โดยมีเบญจาเดินอยู่เคียงข้าง

    ธนดลชำเลืองมองคนบอบบางที่เดินรัวเท้าเร็ว ๆ มาข้าง ๆ เขาจึงชลอฝีเท้าตัวเองลงเพื่อให้เธอไม่ต้องเร่งเดินมากนัก น่าแปลกที่เมื่อมีเธอเดินอยู่ข้าง ๆ เขากลับลืมความหวาดกลัวบ้านหลังนี้โดยไม่รู้ตัว


    -------------------------------------------------------

    อ่ะ พี่หมอดลเห็นครั้งแรกก็ปิ๊งแล้ว คนเขียนค่อนข้างเกร็งนิดหน่อยสำหรับการเขียนเรื่องนี้ เพราะช่วงนี้มีแต่คนเขียนโคแก่กินหญ้าอ่อน ไรท์ลงบทแรกของหากจะรักเสร็จก็เพิ่งมาคิดว่า ตัวเองออกจะสวนกระแสไปสักหน่อย ดันให้โคอ่อนกินหญ้าแก่ซะนี่ แต่ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์แถมยังเกิดขึ้นผิดที่ผิดทางผิดเวลากันได้อยู่บ่อย ๆ ก็เลยโอเคเนอะ...ในเมื่อแก้ไขให้กลับไปตามกระแสไม่ทันแล้ว เราก็เลยตามเลยไปละกัน ขอให้นักอ่านทุกคนอ่านอย่างมีความสุขน และฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในลิสต์สำหรับการติดตามอ่านอีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณค่ะ...ทิพย์ทิวา 16/2/2016 20.36

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×